ม่านนทีปรารถนา
เมื่อโพไซดอนเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ก่อเรื่องวิวาทกับอพอลโลจนถูกอัปเปหิลงมาอยู่ในร่างมนุษย์ในดินแดนที่เขาแสนเกลียดชัง พร้อมกับโดนริบพลังไปเสียกว่าครึ่ง ทางเดียวที่จะกลับคืนสู่โอลิมปัสและได้พลังทั้งหมดกลับมา เขาจะต้องร่วมมือกับอพอลโลทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ

เรื่องคงไม่ยากนักถ้ารู้ว่าภารกิจนั้นคืออะไร แต่นี่เขาไม่รู้อะไรสักอย่างต้องคำตอบด้วยตัวเอง เปรียบไปก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร ซ้ำอพอลโลยังไม่ตั้งใจคิดจะช่วยเสียอีก งานนี้ราชันแห่งท้องทะเลจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะจู่ๆ ก็มีตัวแปรหน้าใสผู้มีลมหายใจแห่งท้องทะเลติดกาย มาปรากฏในภารกิจครั้งนี้ด้วย

มาร่วมติดตามลุ้นกันได้ใน "ม่านนทีปรารถนา" ค่ะ
Tags: โพไซดอน เทพเจ้ากรีก รักหวาน ฟิน

ตอน: 25 เหล่าเทพเจ้า

“รายนี้ก็ไม่แพ้น้องชายอย่างซูสหรอกค่ะ ในตำนานเล่ากันว่าพระองค์ขืนใจนางเมดูซ่าที่เป็นนางรับใช้ในวิหารเทพีอธีน่าเสียด้วย เพราะนางไม่รับรักพระองค์ แทนที่เทพีอธีน่าจะโกรธเทพโพไซดอนที่มาก่อเรื่องบัดสีในวิหารของนาง แต่นางกลับลงโทษนางเมดูซ่าเสียอย่างนั้น ดูไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”

ได้ฟังมาถึงตรงนี้เทพผู้เป็นใหญ่เหนือน่านน้ำทั้งปวงก็รู้สึกขัดใจนัก หญิงสาวที่มีอายุเพียงน้อยนิดเทียบไม่ได้เลยกับชีวิตอันเป็นนิรันดร์แสนยาวนานของเขา แต่กันธิชากลับปากกล้าวิจารณ์เรื่องราวของเทพเจ้า โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเทพที่เธอวิจารณ์นั้นกำลังยืนต่อหน้านี่เอง แล้วเรื่องที่เธอยกมากล่าวนั้นก็ใช่ว่าจะจริงเสียทั้งหมด นั่นทำให้เขารู้สึกขัดใจ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดประโยคต่อมาของเธอก็ทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปจนหมดสิ้น

“แต่ฉันก็คิดนะคะว่าบางทีที่เรื่องราวในตำนานเป็นแบบนั้น คงเป็นเพราะอยากให้มนุษย์มีความรู้สึกว่าตนเองกับเทพเจ้าไม่ได้ห่างไกลกันเลย มีความรู้สึกนึกคิดคล้ายๆ กัน มีทั้งทำถูกและทำผิดพลาดได้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าจะสูงส่งดีงามเสียจนจับต้องไม่ได้ หรือดูห่างไกลจนไม่อาจเอื้อมถึง บางทีให้เรื่องราวในตำนานเป็นแบบนี้ก็คงจะดีแล้ว”

หญิงสาวเอื้อนเอ่ยประโยคยาวๆ นี้พร้อมกับส่งรอยยิ้มละมุนละไมมาให้ เหมือนกับว่าเธอเข้าใจในความผิดพลาดที่เขาเคยก่อ หรือแม้แต่ความผิดที่เขาไม่ได้ทำแต่กลับถูกเล่าขานมาเหมือนกับว่าเขานั้นคือผู้ร้าย เป็นเทพที่ปรวนแปรเจ้าอารมณ์ ยามหงุดหงิดโมโหก็เอาแต่บงการให้เกิดพายุหมุนบ้าคลั่งทั้งในท้องทะเลและบนผืนแผ่นดิน แต่บางครั้งก็ทำให้ฝนไม่หยาดหยดลงมาสักนิดจนทำให้ผืนแผ่นดินแห้งแล้งชั่วนาตาปี

รอยยิ้มของกันธิชา เป็นรอยยิ้มที่ส่งผลกระทบบางอย่างขึ้นในใจ เหมือนจะฉุดความทรงจำเมื่อครั้งอดีตที่ไกลแสนไกลให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าความทรงจำนั้นยังถูกปิดกั้นด้วยอะไรบางอย่าง ถึงทำให้เขานึกไม่ออกว่าเคยเห็นรอยยิ้มละมุนละไมนี้จากที่ไหน และรอยยิ้มนี้เคยสร้างความอบอุ่นให้กับหัวใจมากเพียงใด

ทำไมกันธิชาถึงได้มีแต่ปริศนาให้เขาอยากค้นคว้ามากมายถึงเพียงนี้ นับตั้งแต่เรื่องลมหายใจแห่งท้องทะเลที่ติดกายของเธอ และรอยยิ้มที่เหมือนจะติดอยู่ในหัวใจของเขาเมื่อครั้งจำเนียรกาลนานมาแล้ว

ด้านกันธิชาไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้เทพแห่งท้องทะเลครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวเธอมากเพียงไหน หญิงสาวยังคงเพลิดเพลินกับการเดินชมวังเก่าพร้อมกับถ่ายรูปไปด้วย จนกระทั่งเธอเจอแมวน่ารักตัวหนึ่ง จึงหยุดเดินแล้วทรุดกายนั่งลงเพื่อหยอกล้อมันเล่น

“อ้าว เจ้าแมวเหมียวแกนี่มีอภิสิทธิ์ชนนะ ดูสิยืนอยู่หลังเขตที่เขาห้ามเข้าเสียด้วย” หญิงสาวเอ่ยอย่างเห็นขันเพราะเห็นเส้นที่แบ่งเอาไว้พร้อมกับป้ายที่บอกว่าห้ามรุกล้ำเข้าไป แต่แมวตัวนี้กลับนั่งมองเธออยู่หลังเส้นนั้น

“มามะ เมี้ยวๆ มานี่หน่อย หน้าตาน่ารักเสียด้วย แกฟังภาษาไทยรู้เรื่องไหมนี่ ถ้าฟังออก มาให้ฉันถ่ายรูปใกล้ๆ หน่อยนะ” กันธิชาพูดกับแมวราวกับว่าเจ้าแมวเหมียวจะฟังเธอรู้เรื่อง ในขณะเดียวกันก็ยกกล้องขึ้นเตรียมกดชัตเตอร์ เธอเคยได้ยินมาว่ามีแมวที่ซานโตรินีเยอะมาก คนที่ไปเที่ยวที่นั่นก็มักจะถ่ายรูปแมวน่ารักๆ ไปลงในสังคมออนไลน์ให้เห็นอยู่บ่อยๆ ไม่คิดว่ามาที่เกาะครีตเธอก็จะได้เจอแมวน่ารักหลายตัวเหมือนกัน

หญิงสาวพยายามหลอกล่อให้แมวตัวงามเดินเข้ามาหา ด้วยการส่งเสียงร้องเมี้ยวๆ เลียนเสียงร้องของมัน แมวตัวดังกล่าวนั่งมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้ามาหาในที่สุเ เห็นแบบนั้นหญิงสาวเลยยิ้มกว้างกดชัตเตอร์ไปหลายครั้ง จนกระทั่งมันเดินเข้ามาใกล้ กันธิชาจึงเลิกถ่ายรูปแล้วเอื้อมมือไปหมายจะจับมันมาอุ้มเล่น แต่แค่เธอยื่นมือไปตรงหน้ามัน หญิงสาวก็ต้องรีบชักมือกลับพร้อมกับร้องอุทานออกมาทันที

“อุ๊ย” แมวสีสวยตัวนั้นตะปบเธออย่างว่องไวเข้าที่หลังมือ เกิดรอยแผลถลอกเป็นทางยาวเลือดไหลออกมาซิบๆ “โอ๊ยทำไมแกโหดกับนักท่องเที่ยวแบบนี้ล่ะ แกเป็นเจ้าบ้านสมควรจะทำตัวดีๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวรู้ไหม” หญิงสาวต่อว่าเจ้าแมวน้อย
คีรีลได้เห็นอาการของเธอก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง ส่วนเจ้าตัวก่อเหตุมองกันธิชาเหมือนจะสมน้ำหน้าที่เธอกล้าไปล้อเล่นกับมันทั้งที่ไม่ได้สนิทกัน มันมองอยู่ครู่หนึ่งก็เดินจากไป

“เป็นอะไรมากไหม” คีรีลรีบเข้ามาทรุดกายนั่งข้างๆ เธอ แล้วเอ่ยขออนุญาตดูมือ “ขอผมดูมือหน่อยนะ”

กันธิชายื่นมือให้เขาไปดูอย่างว่าง่าย คีรีลจับมือเธอมาพลิกดู “ไปล้างแผลที่รถเถอะครับ ผมมีกล่องยาสามัญติดมาด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แผลถลอกนิดเดียวเอง ขอฉันถ่ายรูปกับเดินดูวังให้ทั่วๆ ก่อนได้ไหมคะ แล้วค่อยกลับไปทำแผลที่รถ”

“ไม่ดีหรอกครับ เกิดแผลติดเชื้อขึ้นมาจะแย่ แมวนี่เป็นแมวจรจัดหรือแมวมีเจ้าของก็ไม่รู้ หากมันเป็นแมวจรคงไม่ได้ฉีดวัคซีน ถ้าเป็นอย่างนั้นจะยุ่งนะครับ”

“อีกนิดเดียวก็จะเดินทั่วแล้ว เชื้อโรคคงยังไม่ทันเข้าร่างกายฉันหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะเดี๋ยวเดินดูกับถ่ายรูปเสร็จฉันจะรีบไปทำแผลเลย” กันธิชาว่าอย่างนั้นแล้วก็เดินหนีเขาหน้าตาเฉย ไม่สนใจเลยว่าตนเองอาจจะได้รับอันตรายจากแผลที่หลังมือนั่น

เทพแห่งท้องทะเลเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่ากันธิชาเป็นหญิงสาวที่ดื้อรั้นเอาการ เธอไม่ยอมล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจทำจนกว่ามันจะสำเร็จ สุดท้ายเขาจึงทำได้แค่เดินตามเธอไปจนทั่ว จากนั้นจึงกลับมาที่รถพร้อมกับและนั่งมองเธอทำแผลให้ตัวเอง โดยไม่ยอมให้เขาช่วย หญิงสาวอ้างว่าแผลนิดเดียวเธอทำเองได้ไม่ต้องรบกวนเขา

เสร็จจากทำแผลกันธิชาก็บอกให้คีรีลพาไปกินอาหารแบบคนครีต ซึ่งจะเน้นผักสด ไม่ปรุงแต่งรสมากมายนัก และที่ขาดไม่ได้เลยก็คืออาหารทะเลอย่างปลาหมึก ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เพราะในขณะที่เดินจากรถเพื่อไปร้านอาหารนั้น เธอจะเห็นชาวบ้านตากหนวดปลาหมึกเอาไว้หน้าบ้าน เหมือนคนไทยที่เอาปลามาใส่เกลือแล้วก็ตากแดดทำปลาเค็มถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง





ช่วงบ่ายกันธิชาเลือกไปดูไร่ไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดของครีต คีรีลใช้เวลาขับรถไม่นานนักก็มาถึงไร่ไวน์อยู่บนเขาแห่งนึ่ง จากทางเข้าไร่จะสามารถมองเห็นไร่องุ่นกว้างไกลสุดสายตา ท่ามกลางไร่องุ่นนั้นมีอาคารหลังใหญ่ชั้นเดียวปลูกอยู่ตรงกลางระหว่างแปลงองุ่นทางฝั่งทิศตะวันตกกับทิศตะวันออก ซึ่งตัวอาคารนั้นจัดสรรพื้นอย่างลงตัว เป็นทั้งที่ทำการของบริษัท ห้องโถงรองรับนักท่องเที่ยว โรงเก็บหมักบ่มไวน์ และยังเป็นร้านอาหารวิวสวยอีกด้วย
คีรีลพากันธิชาเดินตามคณะทัวร์กลุ่มหนึ่งเขาไปดูวิดิโอแนะนำตัวของไร่แห่งนี้ โดยที่ทุกคนจะมีโอกาสได้ชิมไวน์รสเลิศที่ผลิตจากที่นี่ไปด้วยระหว่างชมวิดิโอนั้น ก่อนจะออกเดินตามป้ายบอกทางไปที่แปลงองุ่นที่กำลังติดผลระย้า

“เขาเข้าใจทำนะคะ มีผูกเรื่องราวไวน์กับเทพเจ้ากรีกเสียด้วย” กันธิชาเอ่ยชมอย่างจริงใจในตอนที่เดินลัดเลาะไปตามแถวต้นองุ่น

“ไดโอนีซุส หรือแบคคัส คุณบอกว่าเคยอ่านตำนานเทพเจ้ากรีกมาพอสมควรก็น่าจะรู้จักเรื่องราวของเทพเจ้าองค์นี้ เขาคือผู้ครอบครององุ่น คือเทพแห่งเมรัย”

“และเป็นลูกชู้รักของซูสที่เกิดกับนางมนุษย์เพียงไม่กี่คนที่พระนางเฮรายอมรับ แต่ก็หลังจากที่เขาได้ช่วยเหลือพระนางจากการโดนลูกชายแกล้งให้นั่งบนเก้าอี้กลไกทำให้พระนางลุกไปไหนไม่ได้” กันธิชาต่อเรื่องราวของเทพแห่งเหล้าองุ่น





namon
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ย. 2559, 14:42:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ย. 2559, 14:42:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1097





<< 24 ความคิดเห็น   26 รักนิรันดร์หรือมีวันหมดอายุ >>
namon 22 ก.ย. 2559, 14:42:48 น.
เซฟเฟอร์...โดนไปเต็มๆ เพราะไม่รู้ว่าเป็นใครอิอิ


Zephyr 22 ก.ย. 2559, 21:37:21 น.
ไม่สนใจแผลขนาดนี้ แช่งให้ติดเชื้อเลยนี่
แม่สาวจอมดื้อ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account