สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน

ตอน: ตอนที่ 7 >>> 100%

ตอนที่ 7 (ต่อ)

“เป็นไง” คูเปอร์ถามทันทีที่แซคก้าวขึ้นมานั่งบนรถ

“เหมือนจะเจ็บใจและเสียหน้ามากที่คนที่มาซื้อตลาดคือคุณ” แซคว่าพลางหัวเราะในลำคออย่างรู้สึกเวทนา

“แม่ผมเคยบอกว่าชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน รวยแล้วจน จนแล้วรวย ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ...และที่เป็นอยู่ตอนนี้คุณนายรงรองก็สมควรได้รับมัน” ตอนท้ายประโยคชายหนุ่มบอกเสียงกร้าวพลางยิ้มเย็นอย่างรู้สึกพอใจ

“แล้วคนลูกล่ะครับ”

คูเปอร์นิ่งเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับไปมองบ้านที่ตนเพิ่งนั่งรถพ้นออกมา “จอดก่อน” แซคหยุดรถทันทีที่ได้รับคำสั่ง “ถอยกลับไปอีกนิดได้ไหม” อีกฝ่ายยังทำหน้าที่ของตนโดยไม่คิดจะเอ่ยปากถามว่าถอยกลับไปทำไม

คูเปอร์จ้องรถที่วิ่งสวนไปและจอดหน้าบ้านของมินรญา ครู่หนึ่งหญิงสาวก็วิ่งมาเปิดประตู โดยคนที่อยู่ภายในรถนั่นลดกระจกลงโผล่หน้าออกมาคุยกัน และไม่รู้ทั้งคู่คุยกันเรื่องอะไรถึงได้หันมามองที่รถของเขา นั้นทำให้คูเปอร์ได้เห็นเจ้าของรถที่เพิ่งมาว่าเป็นชายหนุ่ม

“ออกรถ...” คูเปอร์นั่งนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทิ้งตัวพิงเบาะรถแล้วพึมพำ “ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว”



ด้วยหัวใจที่รุ่มร้อน แม้เธอจะพยายามห้ามและเตือนตัวเองแล้ว แต่เหมือนมันจะไร้ผล มินรญานั่งมองนามบัตรสีทองที่ยับยู่ยี่ที่วางอยู่กลางเตียงและข้างๆ มันก็คือโทรศัพท์มือถือที่เจ้าของกำลังชั่งใจว่าจะโทร.หาคนในนามบัตรนี้ดีหรือไม่

“โอ๊ยยย...อยากจะบ้าตาย” มินรญาทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับขยี้ศีรษะตัวเอง คิดถึง อยากพูดอยากคุย แต่ก็ไม่กล้า “โทร.ไปทักทายตามประสาคนเคยรู้จักคงไม่เป็นไรมั้ง” ว่าแล้วก็รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะโทร.ออกไปที่หมายเลขที่เธอกดค้างทิ้งเอาไว้ “แล้วจะพูดอะไรดี แล้วถ้าเมียเขารับล่ะ” พูดเองก็หงอยเอง หล่อรวยขนาดนี้คงไม่โสดหรอก แม้แต่เธอเองยังแต่งงานจนเป็นหม้ายแล้ว คิดแล้วก็กด...กด...กด...มินรญาดูหน้าจอโทรศัพท์แล้วถึงกับเบิกตากว้าง

“เฮ้ย! จะกดทิ้งทำไมเป็นกดโทร.ออกได้ละเนี่ย” หญิงสาวลนลานกดวางสาย แล้วรีบโยนมันไปไว้บนที่นอนราวกลับกลัวจะมีอะไรโผล่มา

เมื่อครู่หน้าจอแสดงว่ามีคนรับสายไปแล้ว มินรญานั่งมองโทรศัพท์ที่นอนนิ่งอยู่บนที่นอนด้วยใจที่เต้นโครมคราม และมันยิ่งเต้นหนักจนแทบหายใจไม่ทัน มือไม้สั่นไปหมดเมื่อมีสายเข้า และเบอร์นั้นก็คือเบอร์ที่เธอเพิ่งโทร.ออกไปเมื่อครู่นี้เอง

มินรญาฉกโทรศัพท์ขึ้นมามองพลางเม้มปากอย่างชั่งใจ โอกาสมันคือโอกาส...แค่ทักทายกันเหมือนคนรู้จักเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็ไม่รอช้ารับสายให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย

“สะ...สวัสดีค่ะ” ถึงจะเตรียมใจมาเล็กน้อยแต่พอเอาเข้าจริงก็พานสั่นจนพูดไม่ค่อยจะออก

“ไม่ทราบว่าใครโทร.มาครับ”

“มิสเตอร์อิวานอฟใช่ไหมคะ”

“ครับ”

“ฉันมินรญาค่ะ” บอกไปแล้วสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ แต่ก็ไม่ได้วางสายเธอจึงถามต่อไปอย่างประหม่าว่า “รบกวนเวลาหรือเปล่าคะ”

“ไม่นี่ครับ และอีกอย่างผมเป็นคนโทร.ไปเองด้วย” ชายหนุ่มตอบกลับแค่นั้น แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ ซึ่งมินรญาไม่รู้หรอกว่าทางนั้นรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าปลายสายนั้นเป็นเธอ จึงตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดออกไป เพราะบางทีครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้คุยโทรศัพท์กับเขา

“เอ่อ...ดีใจนะคะที่ได้พบกันอีก...เหมือนฝันเลย”

“ครับ”

คำตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบเริ่มทำให้มินรญาใจแป้ว คนที่ดีใจคงมีแค่เธอสินะ และอีกอย่างบางทีคูเปอร์อาจจะกำลังลำบากใจอยู่ก็ได้ “เอ่อ...เอาเป็นว่าฉันไม่กวนแล้วนะคะ เดี๋ยวภรรยาคุณจะว่าเอา”

“ผมอยู่คนเดียว”

“เอะ!” มินรญาอุทานอย่างแปลกใจ เมื่อเธอพูดถึงภรรยาเขาก็รีบปฏิเสธทันที เพราะอะไรกันนะ

“ผมยังไม่มีใคร...”

แค่นั่นสายก็ถูกตัดไป มินรญากำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ก่อนจะนำมันมามองด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ‘ผมยังไม่มีใคร’ คำคำนี้ยังก้องอยู่ในหัวแม้กระทั่งหลับก็ยังเอาไปฝัน

และมันเป็นฝันที่สามารถทำให้เธอยิ้มอย่างสดใสได้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา



มินรญาที่นั่งตัวเกร็งกุมมือตัวเองแน่นตลอดเวลา ขณะที่สายตานั้นหลุบต่ำแต่บางครั้งก็แอบลอบมองเจ้าของร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่อย่างไม่อยากจะเชื่อ

ก็ก่อนเลิกงานครึ่งชั่วโมงจู่ๆ คูเปอร์ก็โทร.มาบอกว่าจะมารับ แล้ววางสาย ตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงล้อเล่น เพราะเธอมั่นใจว่ายังไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าทำงานที่ไหน แต่ไม่น่าเชื่อเมื่อเลิกงานออกมาเธอก็เจอเขายืนเด่นรออยู่

และเมื่อเดินไปทักเขาก็บอกว่ามารับแล้วเดินนำไปที่รถ เธอเองก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย ส่วนรถตัวเองก็ขอจอดทิ้งไว้ที่บริษัทสักวันก็แล้วกัน

“พี่...เอ่อ...คุณรู้ที่ทำงานฉันได้ยังไงคะ” มินรญาที่นั่งนิ่งเงียบมานาน รวบรวมความกล้าถามออกไป แล้วก็กลั้นใจรอคำตอบ

“ผมรู้ทุกอย่างที่อยากจะรู้”

“ค่ะ” มินรญาตอบรับพลางพยักหน้า แล้วเงียบไปอย่างไม่รู้จะชวนชายหนุ่มคุยอะไรดี เขาเปลี่ยนไปมากถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้นั่งคุยกันไปหยอกล้อกันไป แต่ตอนนี้เขานิ่งและเงียบติดจะเย็นชาจนเธอไปไม่เป็น

“แวะไปหาอะไรกินก่อนไหม”

“คะ” มินรญาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูว่าอีกฝ่ายจะชวน แต่เมื่อเห็นเขาหันมามองด้วยสายตาที่เย็นชา เธอก็รีบตอบ “ค่ะ”

“อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”

“ที่ไหนก็ได้ค่ะ” เพราะที่ไหนก็พิเศษถ้ามีเขาอยู่ด้วย มินรญาต่อประโยคนี้ในใจ แล้วก้มหน้าแอบอมยิ้มอย่างดีใจ

ร้านไอศครีมภายในห้างแห่งหนึ่งคือสถานที่ที่คูเปอร์พาเธอมา “ที่นี่ได้ไหมหรือต้องเป็นร้านหรูๆ ผมจะได้เปลี่ยนสถานที่”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็ดีแล้วละคะ” ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้าแล้วเดินไปสั่งไอศกรีม ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมไอศครีมสองถ้วย

“ขอบคุณค่ะ” มินรญาบอกพร้อมกับเปิดยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นไอศครีมรสสตอเบอรี่ที่มีทอปปิ้งหลากหลายโรยอยู่บนหน้า นั่นหมายความว่าคนสั่งได้สั่งเป็นพิเศษ เพราะปกติรสนี้ทางร้านจะมีทอปปิ้งให้แค่อย่างเดียว ถ้าอยากได้เพิ่งก็คือต้องเพิ่มเงิน และด้วยความที่ชอบกินทอปปิ้งตัดสินใจไม่ถูก ทุกครั้งที่มากินเธอจะเลือกเอาทุกอย่างและเรื่องนั้นคูเปอร์จะรู้ดี มาจนถึงตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะยังจำมันได้

“ยังชอบชอคโกแลตไม่เปลี่ยนเลยนะคะ” หญิงสาวที่ตักไอศกรีมใส่ปากกินอย่างเอร็ดอร่อยทักเมื่อเห็นไอศกรีมของคนตรงหน้า แต่แล้วเธอก็ต้องรีบหลบสายตาเมื่อคูเปอร์เงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตานิ่งเรียบ “ขะ...ขอโทษค่ะ”

“ขอโทษทำไม ก็ผมชอบจริงๆ...คุณเองก็ยังชอบเหมือนเดิมนะเห็นกินไปยิ้มไป”

“ชอบที่สุดเลยค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงดังฟังชัดพร้อมกับเปิดยิ้มจนตาหยี๋

“ดีใจที่คุณชอบ” คูเปอร์พึมพำเสียงแผ่วเบา

“อะไรนะคะ”

“เปล่า...กินเสร็จแล้วไปดูหนังกันไหม...พอดีผมว่างๆ น่ะ คุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มร่ายยาวถามเองตอบเอง ปฏิเสธเองเสร็จสรรพ และก่อนที่เขาจะทึกทักเองมากไปกว่านี้มินรญาก็รีบตอบ

“ว่างค่ะ”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ย. 2559, 16:33:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ย. 2559, 16:33:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 999





<< ตอนที่ 7 >>> 50%   ตอนที่ 8 >>> 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account