คำสาปขังรัก
คุณจะทำอย่างไร...ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องคำสาป ไม่สามารถจะมีรักที่ดีได้
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
Tags: คำสาป ความรัก พยากรณ์
ตอน: บทที่ 6 The Hermit
The Hermit
บางครั้งเราก็ต้องการเวลา...ปล่อยหัวใจให้พัก...
เรียนรู้กับอิสระภาพ ที่ไม่ถูกฉุดรั้งด้วยความสัมพันธ์ใด ๆ
ชนิศาหยิบขนมปังที่มารดาเตรียมไว้ให้ใส่ปาก สายตายังจ้องมองจอโทรศัพท์ที่ปรากฏข้อความจากการันต์ หลังจากเมื่อคืนที่เธอทิ้งเขาไว้กับบทสนทนา
Karunt : แปลกดี
Karunt : ชอบการถูกครอบครอง แต่ไม่อยากครอบครองใคร
Karunt : มันจะเหมือนการโดนกอดจากข้างหลังไหม เรารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย โดยไม่ต้องกอดกลับ
ในหัวหญิงสาวชาวาบ หัวใจเต้นผิดจังหวะไปครู่เมื่อเธออ่านทวนข้อความนั้นซ้ำ ๆ
การันต์กำลังทำให้เธอหลงใหลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ง่ายเลยที่จะหาผู้รู้สำเนียงที่สามารถพูดคุยเรื่องราวความคิดในใจได้อย่างเปิดเผย ยิ่งยากที่จะมีคนเข้าใจได้สักคน
ใช่...ชนิศารักการถูกสวมกอดจากข้างหลัง เธอชอบที่จะเอนตัวพิงไหล่กว้างของใครคนหนึ่ง ให้เขาสวมกอดเธอไว้อย่างหวงแหน
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เมื่อพิมพ์ข้อความตอบ
Che'rie : คงอย่างนั้นมั้งคะ
Che'rie : เชรีเห็นแก่ตัว เกินกว่าจะปล่อยให้หัวใจต้องแบกรับความรู้สึกเป็นเจ้าของ
เธอเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เพื่อมาพบหน้าเขาในห้องเรียน หญิงสาวเดินไปวางกระเป๋าที่ข้างที่นั่งของชายหนุ่ม เมื่อเขาเงยหน้ามองเธอก็คลี่ยิ้มให้
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ"
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ" เขาคลี่ยิ้มทัก
"นั่งข้างพี่กานต์ได้ไหมคะ" เธอเอียงคอเอ่ยคำถาม "กลัวใคร...เข้าใจผิดหรือเปล่า"
เขาคลี่ยิ้ม ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ "เชรีล่ะคะ กลัวใครเข้าใจผิดหรือเปล่า"
"กลัวคนเข้าใจถูกมากกว่าค่ะ..." เธอนิ่งลง หันมามองตาเขาอย่างจริงจัง "ว่าเชรีสนใจพี่กานต์จริง ๆ แล้ว...อยู่ข้างกันไปนาน ๆ นะคะ"
เสียงหวานปนร่องรอยวิงวอน กึ่งเศร้า ชนิศาเป็นเด็กนิสัยเสีย เธอไม่ได้ต้องการคนที่จะกอดเธอไว้ตลอดกาล แต่เมื่อเธอเจอคนที่ถูกใจ หญิงสาวก็ไม่คิดอยากให้เขาปล่อยมือและหายไป
"ห้าบาทสิบบาทก็ยังหยอดนะคะ เชรี" เธอหยอดคำหวานบ่อยจนเขาชินเสียแล้ว
ชนิศาอมยิ้ม "นี่หยอดไปตั้งห้าร้อย เห็นแค่ห้าบาทสิบบาทเหรอคะ"
"ก็อยากเห็นมากกว่านี้ แต่กลัวมีใครมาสอยพี่เสียก่อน"
"หวงเหรอคะ...ถ้าพี่กานต์หวง เชรีมีพี่กานต์คนเดียวก็ได้ค่ะ"
ชายหนุ่มหลุดหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับดวงตาหวานใสของหญิงสาวที่มองเขาราวลูกแมวขี้อ้อน
"สมเป็นเชรี ต่อล้อต่อเถียงได้ตลอด"
"ใครกล้าเถียงพี่กานต์คะ ไม่น่ารักเลย"
ชายหนุ่มมองเธออย่างเอ็นดู ท่าทางของสาวน้อยที่ออดอ้อนนั้นทำให้เขานึกถึงน้องสาวที่บ้าน "ดีแล้ว ๆ เชรีจะได้รู้ว่าผู้ชายแบบไหนไหวพริบเทียบเคียงหนูได้"
หญิงสาวเอียงคอมองชายหนุ่มนิ่ง คลี่ยิ้มหวานอย่างเจ้าเล่ห์ "ประโยคนี้ ถ้าหนูคิดให้ไกลหน่อยจะคิดว่าพี่กานต์เสนอตัวให้หนูจีบนะคะ"
แล้วเธอก็หัวเราะเสียงใส "โชคดีนะคะ ที่เป็นเชรี"
"พี่ก็โชคดีนะคะ ที่เจอแต่ผู้หญิงเข้าใจ"
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ กัดริมฝีปากบางเพียงครู่ก็บอก "ที่จริงแล้ว...กฎข้อที่ 1 ของผู้หญิงคือการแกล้งโง่ให้เป็นนะคะ"
"แล้วก็ต้องฉลาดบ้าง" ชายหนุ่มยักคิ้วให้เธอ "ฉลาดให้ถูกสถานการณ์"
ชนิศาไหวไหล่เบา ๆ อย่างไม่ใยดี "บางเรื่อง...ก็อยากโง่บ้างนะคะ"
การันต์หัวเราะอย่างรู้ทัน "แต่เชรีก็อดไม่ได้ใช่ไหมคะ"
"รู้ทันกันมากไปแล้วค่ะ" หญิงสาวย่นจมูกใส่ชายหนุ่มอย่างหมันไส้ "แบบนี้มาเป็นคนรู้ใจกันเลยดีกว่าค่ะ"
ชายหนุ่มยิ้มบาง "หนูฉลาดไป สุดท้ายพี่ตามไม่ทันแน่"
"ถ้าหาวิธีปฏิเสธหนูได้ตลอดแบบนี้...คงตามไม่ทันยากนะคะ" เธอตอบกลั้วเสียงหัวเราะในคอ
"โอเค...พี่จะค่อย ๆ เดินตามไปนะ" เขายอมลงให้เธอในที่สุด
ชนิศาเงียบไปครู่ เธอมองอาจารย์ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ก่อนเอ่ยกับชายหนุ่มเสียงเบา "อย่าเลยค่ะ...ปล่อยให้เชรีเดินคนเดียวน่ะดีแล้ว"
เสียงหวานเงียบลงเมื่ออาจารย์เริ่มจับไมโครโฟน ไร้คำพูดระหว่างคนสองคนอีกต่อไป
ชนิศาสะพายกระเป๋ากลับเมื่อคาบเช้าจบลง เมื่อเช้ามารดาชวนเธอไปทำบุญตามฤกษ์ที่คำนวนไว้ลดหย่อนเคราะห์จากดาวเสาร์ ถึงแม้แพทย์สาวจะเป็นผู้หญิงของวิทยาศาสตร์เต็มตัว แต่เธอก็เติบโตมากับโหราศาสตร์และการทำนายจนไม่สามารถปฏิเสธได้
การันต์รับปากว่าจะเซ็นชื่อเข้าเรียนคาบบ่ายให้เธอ แม้ชนิศาจะไม่ได้ร้องขอ เมื่อเสร็จธุระแล้วเธอจึงตัดสินใจส่งข้อความหาชายหนุ่ม
Che'rie : เลิกเรียนหรือยังคะ
Karunt : เพิ่งเลิกเลย
Che'rie : แย่เลย...พี่กานต์คงต้องสอนเชรีย้อนหลังแล้วล่ะค่ะ
Che'rie : ฐานที่ส่งเสริมยอมเซ็นชื่อให้เชรีโดดเรียน
เธอโยนบาปให้เขาได้หน้าตาเฉย
Karunt : 555 ได้เลย
Che'rie : พี่กานต์น่ารักจัง
Karunt : ขี้อ้อนจังนะ
หญิงสาวอมยิ้ม หยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะมาสูดกลิ่นหอมกรุ่นของคาเฟอีนที่ปนกลิ่นหอมหวานของคาราเมล เมื่อแตะนิ้วพิมพ์
Che'rie : อ้อนกับบางคนเท่านั้นล่ะค่ะ
และคนที่เธออ้อน มักน่าสงสาร เพราะเธอจะเผลอยึดมั่นถือมั่น ดึงเอาเขามาเป็นคนของเธออย่างเด็กเอาแต่ใจ
ชนิศาถอนใจเบา ๆ มองหน้าจอโทรศัพท์ที่ร้าวไปอย่างเบื่อหน่าย ก่อนพิมพ์ข้อความฟ้อง
Che'rie : เชรีทำหน้าจอโทรศัพท์แตกอีกแล้วค่ะ
เมื่อต้นเดือนเธอเพิ่งบอกเขาว่าทำโทรศัพท์ตกจนหน้าจอแตก ชายหนุ่มยังขำกับจอสีดำที่ตัดกับปุ่มสีขาวที่เธอตัดใจเปลี่ยนมาเพราะที่ร้านไม่มีหน้าจอสีขาว
Karunt : เปลี่ยนจอใหม่เป็นสีขาวเหมือนเดิมสิ
Che'rie : จุดนี้อยากเปลี่ยนเครื่องแล้วค่ะ
Che'rie : แต่แม่ไม่ให้ใช้ iphone 7 บอกถ้าจะเอาให้รอ 9
หญิงสาวแอบกลอกตามองมารดาที่นั่งเล่นละเลียดแพนเค้กอยู่ฝั่งตรงข้าม การมีมารดาเป็นผู้ศึกษาศาสตร์พยากรณ์ทำให้เธอระมัดระวังเรื่องโชคลางเป็นพิเศษ
Karunt : 9 เลยเหรอ ไกลไปไหม
Che'rie : เชรีใช้ 7 ไม่ได้ค่ะ ปีนี้ดาวเสาร์เสีย
Karunt : ทะเบียนรถพี่ 77 เชรีจะกล้านั่งไหมนี่
ชนิศาเบิกตากว้าง อดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้จนมารดาเหลือบมอง
Che'rie : ถ้าพี่กานต์อยากให้เชรีเป็นตุ๊กตาหน้ารถ เชรีก็ยินดีค่ะ
Karunt : เป็นตุ๊กตาได้แต่นั่งนิ่ง ๆ เป็นน้องสาวที่เถียงพี่แบบนี้ดีกว่า
Che'rie : แหม เชรีนึกว่าหยอดไป 15 บาท พี่กานต์ตัดราคาเหลือไม่ถึงสลึงเลยค่ะ
Karunt : ทีละห้าบาทสิบบาทก็พอ เก็บไว้ซื้อขนมกินบ้างสิคะ
หญิงสาวคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อพิมพ์ข้อความตอบ
Che'rie : จริง ๆ อยากเทให้ทั้งใจเลยนะคะ
Che'rie : แต่หัวใจหนูดันอยู่ในกรง
สถานะข้อความขึ้นเตือนว่าอ่านแล้วอยู่ครู่ใหญ่ กว่าอีกฝ่ายจะตอบ
Karunt : อยู่ในนั้นให้เข้มแข็งก่อนค่อยออกมาก็ได้
Karunt : ลมข้างนอกมันแรง
กลับเป็นชนิศาที่นิ่งไปนาน เธอถอนใจเบา ๆ กัดริมฝีปากอย่างสะกดใจ ผู้ชายคนนี้ทำให้โดปามีนเธอหลั่งด้วยความยินดีที่ได้พบคนเข้าใจอยู่เสมอ
Che'rie : กลัวแต่มันจะสลายเป็นเม็ดทรายเพื่อออกมาจากกรงเสียก่อนน่ะค่ะ
Che'rie : ปล่อยให้ปลิวไปกับสายลมก็ดี
Karunt : ถึงขั้นใจสลายเลยเหรอ
Karunt : ทำไมเขาใจร้ายกับเชรีนัก
ชนิศาอมยิ้ม โชคดีเหลือเกินที่เขายังไม่รู้จักทุกมุมของเธอ ที่ร้ายคือเธอกำลังล่อลวงเขาด้วยบางมุมที่เธอไม่ยอมให้ใครเห็น
ความอ่อนโยนของผู้ชายบางคนกระตุ้นภาคนางมารร้ายในตัวผู้หญิงได้อย่างน่ากลัว
Che'rie : เชรีใจดีกับตัวเองมากไปต่างหากล่ะคะ
Che'rie : เพราะหัวใจบรรจุความรัก อัตตา และความเป็นเจ้าของ
Che'rie : หนูใจร้ายไม่พอจะเก็บมันไว้
Che'rie : มีแค่สลายตัวตน วางความรักและอดีต สุดท้ายใยเดียวที่เหลือก็แค่คำสัญญา
ความคิดประหลาดของเธออาจทำให้ใครหลายคนเบะปาก กลอกตามองบนแล้ววิ่งหนีไปให้ไกล แต่ชนิศายังยืนกรานในตรรกะฉบับของเธออย่างห้าวหาญ
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เมื่อนึกถึงแหวนในกล่องที่หัวเตียง พันธสัญญาเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหนี่ยวรั้งเธอไว้ในกรง
Karunt : นี่ใจดีแล้วเหรอ
Karunt : คิดมากไปก็ไม่เป็นสุขนะ ต้องพอดี ๆ
หญิงสาวคลี่ยิ้มบางกับหน้าจอ เธอนึกภาพเขาเอ่ยคำนี้ได้ชัดเจน ผู้ชายที่ดูเหมือนเอาการเอางานและไม่คิดอะไรมาก จริง ๆ แล้วมีแง่มุมบางอย่างที่ต้องเรียกว่า 'ติสท์' อยู่พอตัว
การพาเขาเข้ามาในโลกของเธอทำให้หัวใจเธออุ่น จนบางเวลาหญิงสาวก็อยากเดินเข้าไปในโลกของเขาให้มากกว่านี้
Che'rie : พี่กานต์เป็นห่วงเชรีเหรอคะ
Karunt : อ้าว ก็ต้องห่วงสิคะ
Karunt : เชรีอุตส่าห์ช่วนเตือนสติพี่
Che'rie : ที่จริงแล้วเชรีหวังผลน่ะค่ะ
เธอยอมรับหน้าตาเฉย เชื่อว่าถ้าอยู่ต่อหน้าเขาเธอคงลอยหน้าลอยตาบอกอย่างชัดเจน
Che'rie : เชรีจะได้มาเป็นลูกแมวอยู่ข้าง ๆ พี่กานต์แบบนี้ไงคะ
บทสนทนาเงียบหายไปนาน จนชนิศาพามารดาออกจากร้านกาแฟกลับมาที่บ้านจึงได้เห็นข้อความจากชายหนุ่ม
Karunt : เชรีดูดวงเป็นป่ะ
Che'rie : ไม่เป็นค่ะ
Che'rie : หนูเรียน ๆ เลิก ๆ มาเป็นสิบปีแล้ว ยังไปไม่ถึงไหนเลย
เธอไม่เรียกการอ่านไพ่และตีความดวงดาวของตนเองว่าการดูดวง หญิงสาวจดจำแค่หน้าไพ่ของตนเอง ดวงดาวของตนและครอบครัว เธอจึงไม่ใช่คนที่จะดูดวงให้ใครอื่น
หากไม่ใช่คนที่มีความสำคัญจนเธออยากรู้เรื่องราวของเขา ชนิศาไม่คิดจะเปิดหน้าไพ่แม้สักใบเดียว
Karunt : แต่พอรู้
Che'rie : เชรีเป็นเป็ดค่ะ
Che'rie : เรียนทุกอย่างที่อยากรู้ แต่ไม่รู้สีกอย่าง
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ ก่อนหย่อนเบ็ดดึงเขาเข้ามาใกล้กว่าเดิม
Che'rie : จริง ๆ ที่พอรู้บ้างก็ดีอยู่ เวลาเจ็บจะได้ไม่ต้องเจ็บมาก เพราะเตรียมใจไว้บ้างแล้วว่าหนูต้องคำสาปเรื่องความรัก
Karunt : ขงเบ้งก็มีความรู้หลายด้านนะ รู้หลากหลายก็ปรับใช้ได้หลายแบบ
Karunt : มีคนที่ต้องคำสาปเรื่องความรักด้วยเหรอ
ชนิศากัดริมฝีปากเบา ๆ ตัดสินใจพิมพ์ตอบ
Che'rie : คนที่มี 7 คือดาวเสาร์อยู่ในเรือนคู่ครองอย่างหนูนี่ไงคะ
Karunt : แล้วคนเลขอะไรถึงแก้คำสาปหนูได้
Che'rie : จะหาให้หนูเหรอคะ
Che'rie : เชรีว่ามันแล้วแต่โชคชะตา
Che'rie : ถ้าหนูเลือกรักคนที่อยากให้หนูมีความสุข เขาก็จะไม่ทำให้หนูเจ็บ
Karunt : อาจารย์ภานพเคยบอกว่าที่เราผิดหวังเพราะเราหวังในสิ่งที่ผิด
Karunt : จริง ๆ เราอาจไม่ได้ต้องคำสาป แต่เราต้องการในสิ่งที่ผิดไง
ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ เธอไม่แน่ใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร หรืออาจต้องการบอกว่าเธอจะผิดหวังเพราะคาดหวังกับความรักของเขา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชนิศาเพียงไหวไหล่เบา ๆ แล้วพิมพ์ตอบอย่างปลงตก
Che'rie : คงอย่างนั้น แม่บอกว่าเชรีไม่ได้เกิดมาเพื่อมีชีวิต มีครอบครัวแบบคนอื่น ๆ เขา
Che'rie : แต่เกิดมาเพื่อาทำงาน ใช้หนี้กรรม ฝึกเมตตา และปฏิบัติธรรมให้เข้าใจทุกข์จนไม่ทุกข์
Che'rie : ดังนั้นก็ไม่ต้องไปหวังเรื่องคู่ เพราะมันจะผิดหวัง
Che'rie : จงมั่นคงและแก่ไปอย่างสง่างามบนคานเพชรอันแข็งแกร่ง ดีงาม
เธอพิมพ์ไปหัวเราะไป เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งสติ๊กเกอร์หน้าหมีน้ำแข็งทำตาโตมองอย่างตกใจมาให้
Karunt : แม่หนูโหดมาก
Karunt : ดูช้างให้ดูหางจริง ๆ
Karunt : ถ้าแม่พี่พูดกับพี่แบบนี้พี่คงกระโดดกัดคอแล้วตัดแม่ตัดลูกไปแล้ว
ชนิศาทิ้งตัวลงไปขำกลิ้งบนโซฟาอย่างอดไม่ได้จนมารดาที่นั่งอ่างหนังสืออยู่ไม่ไกลเงยหน้ามามอง
"มีคนบอกว่าแม่โหดน่ะค่ะ ที่ทำนายว่าหนูจะแก่ตายอยู่บนคานเพชร" เธอตะโกนบอกมารดาหน้าตาเฉย
ณัฐกานต์หรี่ตามอง หัวเราะเบา ๆ "ไปเล่าอะไรให้ใครฟังอีกล่ะ"
"เพื่อนน่ะค่ะ...ตลกดี"
Che'rie : พี่กานต์รู้ไหมคะว่าแม่น่ะเก่งเรื่องพยากรณ์มาก เลยรู้ว่าหนูเป็นพวกช่างฝัน
Che'rie : ถ้าไม่รีบดับฝันด้วยการเอาความจริงมาดึงสติ อาจจะเพ้อไปไกลและเจ็บหนัก
Karunt : สมเปนแม่ลูก
Karunt : ถามยายดู ตามบทละคร คำสาปของนางเอกมักมาจากรุ่นยาย
Karunt : ยกเว้นหนูจะเปนนางร้าย เพราะคำสาปจะมาเองเพราะความซวย
ชนิศาหัวเราะชอบใจ พิมพ์ข้อความตอบอย่างภาคภูมิใจ เพราะทั้งคุณยายและมารดาต่างหาคำตอบให้เธอไว้แล้ว
Che'rie : อ๋อ แม่กะยายหาคำตอบให้เรียบร้อยค่ะ
Che'rie : แม่กะยายหนูเป็นสาวฮอตนะ หนุ่มๆตามจีบแบบหัวกระไดบ้านไม่เคยแห้ง
Che'rie : เขาก็มีทำร้ายจิตใจใครบ้าง เขาบอกกรรมเลยมาตกที่หนู ดีงามมาก
Karunt : นางเอกตัวจริง
Che'rie : ถ้านางเอกก็ต้องมีพระเอก พระรองโหมกันมาดูแลสิคะ
Che'rie : อย่างหนูน่ะนางร้ายขนานแท้ ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย
Karunt : maleficent ก็เริ่มจากนางร้ายนะ
ชนิศาอมยิ้มไม่คิดว่าเขาจะเปรียบเทียบเธอกับนางฟ้าปีกหักที่น่าสงสาร ผู้ถูกกลืนกินความสนใสด้วยความรักและการหลอกลวง
Che'rie : เลยโดนหลอกเอาปีกไปไงคะ
Che'rie : แถมตอนจบยังไปดูแลลูกสาวศัตรูอีก น่าสงสาร
Karunt : แต่ได้กลับเป็นนางฟ้าตอนจบนะ
ความคิดหัวดื้อแล่นเข้ามาในหัวชนิศาอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วเรียวจึงแตะหน้าจอพิมพ์คำถามอย่างไม่ใยดีต่อโลก
Che'rie : นางฟ้ากะนางมารต่างกันตรงไหนคะ
Che'rie : ก็แค่ใจสงบมากกว่า ไม่มีความโกรธแค้นเท่านั้นเอง
Karunt : แค่ใจสงบ ไม่มีความโกรธแค้น ชีวิตก็เปนสุขระดับนึงนะ
Che'rie : ถ้าชีวิตมีความสุขที่ใจ หนูก็ไม่ได้แคร์หรอกว่าจะเป็นนางฟ้าหรือต้องเป็นนางมารบ้างในบางครั้ง
Karunt : อีกนิดก็บวชได้ละ
Che'rie : ก็อยากบวชนะคะ
Karunt : แต่ยังละกิเลสไม่ได้ใช่มะ
Che'rie : ถ้าบวชแล้วอ่อยพี่กานต์ไม่ได้ ไม่บวชดีกว่า
Karunt : จะบอกว่าเดี๋ยวพี่จะไปทำวัดด้วยทุกวันก็บาปอีก
Karunt : เปน surgeon นี่แหละ คิดถึงก็ consult มา เดี๋ยวรีบไปหาเลย
ชนิศาอมยิ้มบาง การันต์จะรู้ตัวไหมว่าการที่เขาพิมพ์มาบอกเธออย่างใจดีเช่นนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการอ่อยที่ชวนให้ผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหวคิดไปไกลกว่าดาวอังคาร
Che'rie : ไม่ดีมั้งคะ เดี๋ยวพี่กานต์เหนื่อย
Che'rie : เปลี่ยนเป็น ถ้าพี่คิดถึงหนูก็เดินมาลากหนูไปกินข้าวดีกว่า
Che'rie : ขี้เกียจเคี้ยวจนไม่ค่อยกินข้าว ผอมไปเดี๋ยวจะกอดไม่อุ่น
เธอหยอดคำกึ่งอ้อน วูบหนึ่งที่ปลายนิ้วที่พิมพ์ข้อความชะงักไปกับความรู้สึกที่ผ่านเข้ามาในใจ
ตั้งแต่เมื่อไร...ที่เธออยากอยู่ในอ้อมกอดของการันต์
เธอนิ่งรอการตอบสนองกับคำหยอดที่ออกจะเกินเลยอยู่ไม่นานเลย แล้วข้อความตอบก็ปรากฏขึ้นบนจอ
Karunt : ชอบบรรยากาศริมน้ำใช่ไหม
Che'rie : ค่ะ
Karunt : ถ้ามีโอกาสจะลากไปละกัน
ชนิศายกมือแตะหน้าอก รับรู้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นไหวราวมีผีเสื้อร่ายรำอยู่ภายใน โดปามีนกำลังเล่นงานเธอให้เสพติด
ความใจดีของการันต์กำลังทำให้เธอมืนเมา และโง่เขลา
"อย่าหวั่นไหวเชียวนะ...เชรี" เสียงหวานย้ำคำเตือนตัวเอง เธอกัดริมฝีปากแน่นแล้วรีบวางโทรศัพท์ลงอย่างไม่ใยดี
ร่างบางลุกไปกอดคอมารดาอย่างออดอ้อน ณัฐกานต์เลิกคิ้วมองอย่างค้นหา ขณะที่บุตรสาวคลี่ยิ้มหวานประจบ
"หิวหรือยัง"
"หิวแล้วค่ะ...อยากกินอาหารญี่ปุ่น" เธอวางคางลงบนไหล่มารดา "แต่ขี้เกียจออกจากบ้าน สั่งมากินดีไหมคะ"
"เอาสิ..."
-----
คุณคิมหันตุ์ : จริง ๆ แล้วมีคนบอกไอซ์ว่า บางทีอะไรที่มันไม่ชัดเจน มัว ๆ มันก็สวยไปอีกแบบล่ะค่ะ
คุณ sai : ใช่ค่ะ ไอซ์ว่าเป็นความรู้สึกแบบ...เป็นที่ต้องการ มันทำให้ใจฟูได้ง่ายนะคะ
คุณ SaranyaW : นางเป็นพวก...ไม่ชัดเจนในตัวเองแบบหนึ่งเหมือนกันนะคะ อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล แต่ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้
โปรย The Hermit
"ก็แค่คนรัก"
"ที่ตรงนั้นน่ะ...ไม่ใช่ว่านึกอยากจะเข้าไปก็เดินเข้าไปง่าย ๆ นะคะ" เธอบอกกลั้วหัวเราะ เอียงคอมองหน้าชายหนุ่ม "เขาคล้าย ๆ เฮียนะคะ ใจดีแล้วก็ใจเย็นกับเขรีมาก จนบางที...เชรีก็อยากเดินเข้าไปกอด"
"ก็ไม่แปลก เวลาเรารักใครก็อยากกอด อยากจูบ..." เขานิ่งไปครู่ เมื่อมองหน้าเธอด้วยดวงตาวาวกึ่งขัน "อยากมีเซ็กส์"
บางครั้งเราก็ต้องการเวลา...ปล่อยหัวใจให้พัก...
เรียนรู้กับอิสระภาพ ที่ไม่ถูกฉุดรั้งด้วยความสัมพันธ์ใด ๆ
ชนิศาหยิบขนมปังที่มารดาเตรียมไว้ให้ใส่ปาก สายตายังจ้องมองจอโทรศัพท์ที่ปรากฏข้อความจากการันต์ หลังจากเมื่อคืนที่เธอทิ้งเขาไว้กับบทสนทนา
Karunt : แปลกดี
Karunt : ชอบการถูกครอบครอง แต่ไม่อยากครอบครองใคร
Karunt : มันจะเหมือนการโดนกอดจากข้างหลังไหม เรารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย โดยไม่ต้องกอดกลับ
ในหัวหญิงสาวชาวาบ หัวใจเต้นผิดจังหวะไปครู่เมื่อเธออ่านทวนข้อความนั้นซ้ำ ๆ
การันต์กำลังทำให้เธอหลงใหลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ง่ายเลยที่จะหาผู้รู้สำเนียงที่สามารถพูดคุยเรื่องราวความคิดในใจได้อย่างเปิดเผย ยิ่งยากที่จะมีคนเข้าใจได้สักคน
ใช่...ชนิศารักการถูกสวมกอดจากข้างหลัง เธอชอบที่จะเอนตัวพิงไหล่กว้างของใครคนหนึ่ง ให้เขาสวมกอดเธอไว้อย่างหวงแหน
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เมื่อพิมพ์ข้อความตอบ
Che'rie : คงอย่างนั้นมั้งคะ
Che'rie : เชรีเห็นแก่ตัว เกินกว่าจะปล่อยให้หัวใจต้องแบกรับความรู้สึกเป็นเจ้าของ
เธอเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เพื่อมาพบหน้าเขาในห้องเรียน หญิงสาวเดินไปวางกระเป๋าที่ข้างที่นั่งของชายหนุ่ม เมื่อเขาเงยหน้ามองเธอก็คลี่ยิ้มให้
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ"
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ" เขาคลี่ยิ้มทัก
"นั่งข้างพี่กานต์ได้ไหมคะ" เธอเอียงคอเอ่ยคำถาม "กลัวใคร...เข้าใจผิดหรือเปล่า"
เขาคลี่ยิ้ม ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ "เชรีล่ะคะ กลัวใครเข้าใจผิดหรือเปล่า"
"กลัวคนเข้าใจถูกมากกว่าค่ะ..." เธอนิ่งลง หันมามองตาเขาอย่างจริงจัง "ว่าเชรีสนใจพี่กานต์จริง ๆ แล้ว...อยู่ข้างกันไปนาน ๆ นะคะ"
เสียงหวานปนร่องรอยวิงวอน กึ่งเศร้า ชนิศาเป็นเด็กนิสัยเสีย เธอไม่ได้ต้องการคนที่จะกอดเธอไว้ตลอดกาล แต่เมื่อเธอเจอคนที่ถูกใจ หญิงสาวก็ไม่คิดอยากให้เขาปล่อยมือและหายไป
"ห้าบาทสิบบาทก็ยังหยอดนะคะ เชรี" เธอหยอดคำหวานบ่อยจนเขาชินเสียแล้ว
ชนิศาอมยิ้ม "นี่หยอดไปตั้งห้าร้อย เห็นแค่ห้าบาทสิบบาทเหรอคะ"
"ก็อยากเห็นมากกว่านี้ แต่กลัวมีใครมาสอยพี่เสียก่อน"
"หวงเหรอคะ...ถ้าพี่กานต์หวง เชรีมีพี่กานต์คนเดียวก็ได้ค่ะ"
ชายหนุ่มหลุดหัวเราะอย่างอดไม่อยู่ ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับดวงตาหวานใสของหญิงสาวที่มองเขาราวลูกแมวขี้อ้อน
"สมเป็นเชรี ต่อล้อต่อเถียงได้ตลอด"
"ใครกล้าเถียงพี่กานต์คะ ไม่น่ารักเลย"
ชายหนุ่มมองเธออย่างเอ็นดู ท่าทางของสาวน้อยที่ออดอ้อนนั้นทำให้เขานึกถึงน้องสาวที่บ้าน "ดีแล้ว ๆ เชรีจะได้รู้ว่าผู้ชายแบบไหนไหวพริบเทียบเคียงหนูได้"
หญิงสาวเอียงคอมองชายหนุ่มนิ่ง คลี่ยิ้มหวานอย่างเจ้าเล่ห์ "ประโยคนี้ ถ้าหนูคิดให้ไกลหน่อยจะคิดว่าพี่กานต์เสนอตัวให้หนูจีบนะคะ"
แล้วเธอก็หัวเราะเสียงใส "โชคดีนะคะ ที่เป็นเชรี"
"พี่ก็โชคดีนะคะ ที่เจอแต่ผู้หญิงเข้าใจ"
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ กัดริมฝีปากบางเพียงครู่ก็บอก "ที่จริงแล้ว...กฎข้อที่ 1 ของผู้หญิงคือการแกล้งโง่ให้เป็นนะคะ"
"แล้วก็ต้องฉลาดบ้าง" ชายหนุ่มยักคิ้วให้เธอ "ฉลาดให้ถูกสถานการณ์"
ชนิศาไหวไหล่เบา ๆ อย่างไม่ใยดี "บางเรื่อง...ก็อยากโง่บ้างนะคะ"
การันต์หัวเราะอย่างรู้ทัน "แต่เชรีก็อดไม่ได้ใช่ไหมคะ"
"รู้ทันกันมากไปแล้วค่ะ" หญิงสาวย่นจมูกใส่ชายหนุ่มอย่างหมันไส้ "แบบนี้มาเป็นคนรู้ใจกันเลยดีกว่าค่ะ"
ชายหนุ่มยิ้มบาง "หนูฉลาดไป สุดท้ายพี่ตามไม่ทันแน่"
"ถ้าหาวิธีปฏิเสธหนูได้ตลอดแบบนี้...คงตามไม่ทันยากนะคะ" เธอตอบกลั้วเสียงหัวเราะในคอ
"โอเค...พี่จะค่อย ๆ เดินตามไปนะ" เขายอมลงให้เธอในที่สุด
ชนิศาเงียบไปครู่ เธอมองอาจารย์ที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ก่อนเอ่ยกับชายหนุ่มเสียงเบา "อย่าเลยค่ะ...ปล่อยให้เชรีเดินคนเดียวน่ะดีแล้ว"
เสียงหวานเงียบลงเมื่ออาจารย์เริ่มจับไมโครโฟน ไร้คำพูดระหว่างคนสองคนอีกต่อไป
ชนิศาสะพายกระเป๋ากลับเมื่อคาบเช้าจบลง เมื่อเช้ามารดาชวนเธอไปทำบุญตามฤกษ์ที่คำนวนไว้ลดหย่อนเคราะห์จากดาวเสาร์ ถึงแม้แพทย์สาวจะเป็นผู้หญิงของวิทยาศาสตร์เต็มตัว แต่เธอก็เติบโตมากับโหราศาสตร์และการทำนายจนไม่สามารถปฏิเสธได้
การันต์รับปากว่าจะเซ็นชื่อเข้าเรียนคาบบ่ายให้เธอ แม้ชนิศาจะไม่ได้ร้องขอ เมื่อเสร็จธุระแล้วเธอจึงตัดสินใจส่งข้อความหาชายหนุ่ม
Che'rie : เลิกเรียนหรือยังคะ
Karunt : เพิ่งเลิกเลย
Che'rie : แย่เลย...พี่กานต์คงต้องสอนเชรีย้อนหลังแล้วล่ะค่ะ
Che'rie : ฐานที่ส่งเสริมยอมเซ็นชื่อให้เชรีโดดเรียน
เธอโยนบาปให้เขาได้หน้าตาเฉย
Karunt : 555 ได้เลย
Che'rie : พี่กานต์น่ารักจัง
Karunt : ขี้อ้อนจังนะ
หญิงสาวอมยิ้ม หยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะมาสูดกลิ่นหอมกรุ่นของคาเฟอีนที่ปนกลิ่นหอมหวานของคาราเมล เมื่อแตะนิ้วพิมพ์
Che'rie : อ้อนกับบางคนเท่านั้นล่ะค่ะ
และคนที่เธออ้อน มักน่าสงสาร เพราะเธอจะเผลอยึดมั่นถือมั่น ดึงเอาเขามาเป็นคนของเธออย่างเด็กเอาแต่ใจ
ชนิศาถอนใจเบา ๆ มองหน้าจอโทรศัพท์ที่ร้าวไปอย่างเบื่อหน่าย ก่อนพิมพ์ข้อความฟ้อง
Che'rie : เชรีทำหน้าจอโทรศัพท์แตกอีกแล้วค่ะ
เมื่อต้นเดือนเธอเพิ่งบอกเขาว่าทำโทรศัพท์ตกจนหน้าจอแตก ชายหนุ่มยังขำกับจอสีดำที่ตัดกับปุ่มสีขาวที่เธอตัดใจเปลี่ยนมาเพราะที่ร้านไม่มีหน้าจอสีขาว
Karunt : เปลี่ยนจอใหม่เป็นสีขาวเหมือนเดิมสิ
Che'rie : จุดนี้อยากเปลี่ยนเครื่องแล้วค่ะ
Che'rie : แต่แม่ไม่ให้ใช้ iphone 7 บอกถ้าจะเอาให้รอ 9
หญิงสาวแอบกลอกตามองมารดาที่นั่งเล่นละเลียดแพนเค้กอยู่ฝั่งตรงข้าม การมีมารดาเป็นผู้ศึกษาศาสตร์พยากรณ์ทำให้เธอระมัดระวังเรื่องโชคลางเป็นพิเศษ
Karunt : 9 เลยเหรอ ไกลไปไหม
Che'rie : เชรีใช้ 7 ไม่ได้ค่ะ ปีนี้ดาวเสาร์เสีย
Karunt : ทะเบียนรถพี่ 77 เชรีจะกล้านั่งไหมนี่
ชนิศาเบิกตากว้าง อดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้จนมารดาเหลือบมอง
Che'rie : ถ้าพี่กานต์อยากให้เชรีเป็นตุ๊กตาหน้ารถ เชรีก็ยินดีค่ะ
Karunt : เป็นตุ๊กตาได้แต่นั่งนิ่ง ๆ เป็นน้องสาวที่เถียงพี่แบบนี้ดีกว่า
Che'rie : แหม เชรีนึกว่าหยอดไป 15 บาท พี่กานต์ตัดราคาเหลือไม่ถึงสลึงเลยค่ะ
Karunt : ทีละห้าบาทสิบบาทก็พอ เก็บไว้ซื้อขนมกินบ้างสิคะ
หญิงสาวคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อพิมพ์ข้อความตอบ
Che'rie : จริง ๆ อยากเทให้ทั้งใจเลยนะคะ
Che'rie : แต่หัวใจหนูดันอยู่ในกรง
สถานะข้อความขึ้นเตือนว่าอ่านแล้วอยู่ครู่ใหญ่ กว่าอีกฝ่ายจะตอบ
Karunt : อยู่ในนั้นให้เข้มแข็งก่อนค่อยออกมาก็ได้
Karunt : ลมข้างนอกมันแรง
กลับเป็นชนิศาที่นิ่งไปนาน เธอถอนใจเบา ๆ กัดริมฝีปากอย่างสะกดใจ ผู้ชายคนนี้ทำให้โดปามีนเธอหลั่งด้วยความยินดีที่ได้พบคนเข้าใจอยู่เสมอ
Che'rie : กลัวแต่มันจะสลายเป็นเม็ดทรายเพื่อออกมาจากกรงเสียก่อนน่ะค่ะ
Che'rie : ปล่อยให้ปลิวไปกับสายลมก็ดี
Karunt : ถึงขั้นใจสลายเลยเหรอ
Karunt : ทำไมเขาใจร้ายกับเชรีนัก
ชนิศาอมยิ้ม โชคดีเหลือเกินที่เขายังไม่รู้จักทุกมุมของเธอ ที่ร้ายคือเธอกำลังล่อลวงเขาด้วยบางมุมที่เธอไม่ยอมให้ใครเห็น
ความอ่อนโยนของผู้ชายบางคนกระตุ้นภาคนางมารร้ายในตัวผู้หญิงได้อย่างน่ากลัว
Che'rie : เชรีใจดีกับตัวเองมากไปต่างหากล่ะคะ
Che'rie : เพราะหัวใจบรรจุความรัก อัตตา และความเป็นเจ้าของ
Che'rie : หนูใจร้ายไม่พอจะเก็บมันไว้
Che'rie : มีแค่สลายตัวตน วางความรักและอดีต สุดท้ายใยเดียวที่เหลือก็แค่คำสัญญา
ความคิดประหลาดของเธออาจทำให้ใครหลายคนเบะปาก กลอกตามองบนแล้ววิ่งหนีไปให้ไกล แต่ชนิศายังยืนกรานในตรรกะฉบับของเธออย่างห้าวหาญ
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เมื่อนึกถึงแหวนในกล่องที่หัวเตียง พันธสัญญาเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหนี่ยวรั้งเธอไว้ในกรง
Karunt : นี่ใจดีแล้วเหรอ
Karunt : คิดมากไปก็ไม่เป็นสุขนะ ต้องพอดี ๆ
หญิงสาวคลี่ยิ้มบางกับหน้าจอ เธอนึกภาพเขาเอ่ยคำนี้ได้ชัดเจน ผู้ชายที่ดูเหมือนเอาการเอางานและไม่คิดอะไรมาก จริง ๆ แล้วมีแง่มุมบางอย่างที่ต้องเรียกว่า 'ติสท์' อยู่พอตัว
การพาเขาเข้ามาในโลกของเธอทำให้หัวใจเธออุ่น จนบางเวลาหญิงสาวก็อยากเดินเข้าไปในโลกของเขาให้มากกว่านี้
Che'rie : พี่กานต์เป็นห่วงเชรีเหรอคะ
Karunt : อ้าว ก็ต้องห่วงสิคะ
Karunt : เชรีอุตส่าห์ช่วนเตือนสติพี่
Che'rie : ที่จริงแล้วเชรีหวังผลน่ะค่ะ
เธอยอมรับหน้าตาเฉย เชื่อว่าถ้าอยู่ต่อหน้าเขาเธอคงลอยหน้าลอยตาบอกอย่างชัดเจน
Che'rie : เชรีจะได้มาเป็นลูกแมวอยู่ข้าง ๆ พี่กานต์แบบนี้ไงคะ
บทสนทนาเงียบหายไปนาน จนชนิศาพามารดาออกจากร้านกาแฟกลับมาที่บ้านจึงได้เห็นข้อความจากชายหนุ่ม
Karunt : เชรีดูดวงเป็นป่ะ
Che'rie : ไม่เป็นค่ะ
Che'rie : หนูเรียน ๆ เลิก ๆ มาเป็นสิบปีแล้ว ยังไปไม่ถึงไหนเลย
เธอไม่เรียกการอ่านไพ่และตีความดวงดาวของตนเองว่าการดูดวง หญิงสาวจดจำแค่หน้าไพ่ของตนเอง ดวงดาวของตนและครอบครัว เธอจึงไม่ใช่คนที่จะดูดวงให้ใครอื่น
หากไม่ใช่คนที่มีความสำคัญจนเธออยากรู้เรื่องราวของเขา ชนิศาไม่คิดจะเปิดหน้าไพ่แม้สักใบเดียว
Karunt : แต่พอรู้
Che'rie : เชรีเป็นเป็ดค่ะ
Che'rie : เรียนทุกอย่างที่อยากรู้ แต่ไม่รู้สีกอย่าง
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ ก่อนหย่อนเบ็ดดึงเขาเข้ามาใกล้กว่าเดิม
Che'rie : จริง ๆ ที่พอรู้บ้างก็ดีอยู่ เวลาเจ็บจะได้ไม่ต้องเจ็บมาก เพราะเตรียมใจไว้บ้างแล้วว่าหนูต้องคำสาปเรื่องความรัก
Karunt : ขงเบ้งก็มีความรู้หลายด้านนะ รู้หลากหลายก็ปรับใช้ได้หลายแบบ
Karunt : มีคนที่ต้องคำสาปเรื่องความรักด้วยเหรอ
ชนิศากัดริมฝีปากเบา ๆ ตัดสินใจพิมพ์ตอบ
Che'rie : คนที่มี 7 คือดาวเสาร์อยู่ในเรือนคู่ครองอย่างหนูนี่ไงคะ
Karunt : แล้วคนเลขอะไรถึงแก้คำสาปหนูได้
Che'rie : จะหาให้หนูเหรอคะ
Che'rie : เชรีว่ามันแล้วแต่โชคชะตา
Che'rie : ถ้าหนูเลือกรักคนที่อยากให้หนูมีความสุข เขาก็จะไม่ทำให้หนูเจ็บ
Karunt : อาจารย์ภานพเคยบอกว่าที่เราผิดหวังเพราะเราหวังในสิ่งที่ผิด
Karunt : จริง ๆ เราอาจไม่ได้ต้องคำสาป แต่เราต้องการในสิ่งที่ผิดไง
ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ เธอไม่แน่ใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร หรืออาจต้องการบอกว่าเธอจะผิดหวังเพราะคาดหวังกับความรักของเขา
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชนิศาเพียงไหวไหล่เบา ๆ แล้วพิมพ์ตอบอย่างปลงตก
Che'rie : คงอย่างนั้น แม่บอกว่าเชรีไม่ได้เกิดมาเพื่อมีชีวิต มีครอบครัวแบบคนอื่น ๆ เขา
Che'rie : แต่เกิดมาเพื่อาทำงาน ใช้หนี้กรรม ฝึกเมตตา และปฏิบัติธรรมให้เข้าใจทุกข์จนไม่ทุกข์
Che'rie : ดังนั้นก็ไม่ต้องไปหวังเรื่องคู่ เพราะมันจะผิดหวัง
Che'rie : จงมั่นคงและแก่ไปอย่างสง่างามบนคานเพชรอันแข็งแกร่ง ดีงาม
เธอพิมพ์ไปหัวเราะไป เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งสติ๊กเกอร์หน้าหมีน้ำแข็งทำตาโตมองอย่างตกใจมาให้
Karunt : แม่หนูโหดมาก
Karunt : ดูช้างให้ดูหางจริง ๆ
Karunt : ถ้าแม่พี่พูดกับพี่แบบนี้พี่คงกระโดดกัดคอแล้วตัดแม่ตัดลูกไปแล้ว
ชนิศาทิ้งตัวลงไปขำกลิ้งบนโซฟาอย่างอดไม่ได้จนมารดาที่นั่งอ่างหนังสืออยู่ไม่ไกลเงยหน้ามามอง
"มีคนบอกว่าแม่โหดน่ะค่ะ ที่ทำนายว่าหนูจะแก่ตายอยู่บนคานเพชร" เธอตะโกนบอกมารดาหน้าตาเฉย
ณัฐกานต์หรี่ตามอง หัวเราะเบา ๆ "ไปเล่าอะไรให้ใครฟังอีกล่ะ"
"เพื่อนน่ะค่ะ...ตลกดี"
Che'rie : พี่กานต์รู้ไหมคะว่าแม่น่ะเก่งเรื่องพยากรณ์มาก เลยรู้ว่าหนูเป็นพวกช่างฝัน
Che'rie : ถ้าไม่รีบดับฝันด้วยการเอาความจริงมาดึงสติ อาจจะเพ้อไปไกลและเจ็บหนัก
Karunt : สมเปนแม่ลูก
Karunt : ถามยายดู ตามบทละคร คำสาปของนางเอกมักมาจากรุ่นยาย
Karunt : ยกเว้นหนูจะเปนนางร้าย เพราะคำสาปจะมาเองเพราะความซวย
ชนิศาหัวเราะชอบใจ พิมพ์ข้อความตอบอย่างภาคภูมิใจ เพราะทั้งคุณยายและมารดาต่างหาคำตอบให้เธอไว้แล้ว
Che'rie : อ๋อ แม่กะยายหาคำตอบให้เรียบร้อยค่ะ
Che'rie : แม่กะยายหนูเป็นสาวฮอตนะ หนุ่มๆตามจีบแบบหัวกระไดบ้านไม่เคยแห้ง
Che'rie : เขาก็มีทำร้ายจิตใจใครบ้าง เขาบอกกรรมเลยมาตกที่หนู ดีงามมาก
Karunt : นางเอกตัวจริง
Che'rie : ถ้านางเอกก็ต้องมีพระเอก พระรองโหมกันมาดูแลสิคะ
Che'rie : อย่างหนูน่ะนางร้ายขนานแท้ ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย
Karunt : maleficent ก็เริ่มจากนางร้ายนะ
ชนิศาอมยิ้มไม่คิดว่าเขาจะเปรียบเทียบเธอกับนางฟ้าปีกหักที่น่าสงสาร ผู้ถูกกลืนกินความสนใสด้วยความรักและการหลอกลวง
Che'rie : เลยโดนหลอกเอาปีกไปไงคะ
Che'rie : แถมตอนจบยังไปดูแลลูกสาวศัตรูอีก น่าสงสาร
Karunt : แต่ได้กลับเป็นนางฟ้าตอนจบนะ
ความคิดหัวดื้อแล่นเข้ามาในหัวชนิศาอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วเรียวจึงแตะหน้าจอพิมพ์คำถามอย่างไม่ใยดีต่อโลก
Che'rie : นางฟ้ากะนางมารต่างกันตรงไหนคะ
Che'rie : ก็แค่ใจสงบมากกว่า ไม่มีความโกรธแค้นเท่านั้นเอง
Karunt : แค่ใจสงบ ไม่มีความโกรธแค้น ชีวิตก็เปนสุขระดับนึงนะ
Che'rie : ถ้าชีวิตมีความสุขที่ใจ หนูก็ไม่ได้แคร์หรอกว่าจะเป็นนางฟ้าหรือต้องเป็นนางมารบ้างในบางครั้ง
Karunt : อีกนิดก็บวชได้ละ
Che'rie : ก็อยากบวชนะคะ
Karunt : แต่ยังละกิเลสไม่ได้ใช่มะ
Che'rie : ถ้าบวชแล้วอ่อยพี่กานต์ไม่ได้ ไม่บวชดีกว่า
Karunt : จะบอกว่าเดี๋ยวพี่จะไปทำวัดด้วยทุกวันก็บาปอีก
Karunt : เปน surgeon นี่แหละ คิดถึงก็ consult มา เดี๋ยวรีบไปหาเลย
ชนิศาอมยิ้มบาง การันต์จะรู้ตัวไหมว่าการที่เขาพิมพ์มาบอกเธออย่างใจดีเช่นนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการอ่อยที่ชวนให้ผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหวคิดไปไกลกว่าดาวอังคาร
Che'rie : ไม่ดีมั้งคะ เดี๋ยวพี่กานต์เหนื่อย
Che'rie : เปลี่ยนเป็น ถ้าพี่คิดถึงหนูก็เดินมาลากหนูไปกินข้าวดีกว่า
Che'rie : ขี้เกียจเคี้ยวจนไม่ค่อยกินข้าว ผอมไปเดี๋ยวจะกอดไม่อุ่น
เธอหยอดคำกึ่งอ้อน วูบหนึ่งที่ปลายนิ้วที่พิมพ์ข้อความชะงักไปกับความรู้สึกที่ผ่านเข้ามาในใจ
ตั้งแต่เมื่อไร...ที่เธออยากอยู่ในอ้อมกอดของการันต์
เธอนิ่งรอการตอบสนองกับคำหยอดที่ออกจะเกินเลยอยู่ไม่นานเลย แล้วข้อความตอบก็ปรากฏขึ้นบนจอ
Karunt : ชอบบรรยากาศริมน้ำใช่ไหม
Che'rie : ค่ะ
Karunt : ถ้ามีโอกาสจะลากไปละกัน
ชนิศายกมือแตะหน้าอก รับรู้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นไหวราวมีผีเสื้อร่ายรำอยู่ภายใน โดปามีนกำลังเล่นงานเธอให้เสพติด
ความใจดีของการันต์กำลังทำให้เธอมืนเมา และโง่เขลา
"อย่าหวั่นไหวเชียวนะ...เชรี" เสียงหวานย้ำคำเตือนตัวเอง เธอกัดริมฝีปากแน่นแล้วรีบวางโทรศัพท์ลงอย่างไม่ใยดี
ร่างบางลุกไปกอดคอมารดาอย่างออดอ้อน ณัฐกานต์เลิกคิ้วมองอย่างค้นหา ขณะที่บุตรสาวคลี่ยิ้มหวานประจบ
"หิวหรือยัง"
"หิวแล้วค่ะ...อยากกินอาหารญี่ปุ่น" เธอวางคางลงบนไหล่มารดา "แต่ขี้เกียจออกจากบ้าน สั่งมากินดีไหมคะ"
"เอาสิ..."
-----
คุณคิมหันตุ์ : จริง ๆ แล้วมีคนบอกไอซ์ว่า บางทีอะไรที่มันไม่ชัดเจน มัว ๆ มันก็สวยไปอีกแบบล่ะค่ะ
คุณ sai : ใช่ค่ะ ไอซ์ว่าเป็นความรู้สึกแบบ...เป็นที่ต้องการ มันทำให้ใจฟูได้ง่ายนะคะ
คุณ SaranyaW : นางเป็นพวก...ไม่ชัดเจนในตัวเองแบบหนึ่งเหมือนกันนะคะ อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล แต่ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้
โปรย The Hermit
"ก็แค่คนรัก"
"ที่ตรงนั้นน่ะ...ไม่ใช่ว่านึกอยากจะเข้าไปก็เดินเข้าไปง่าย ๆ นะคะ" เธอบอกกลั้วหัวเราะ เอียงคอมองหน้าชายหนุ่ม "เขาคล้าย ๆ เฮียนะคะ ใจดีแล้วก็ใจเย็นกับเขรีมาก จนบางที...เชรีก็อยากเดินเข้าไปกอด"
"ก็ไม่แปลก เวลาเรารักใครก็อยากกอด อยากจูบ..." เขานิ่งไปครู่ เมื่อมองหน้าเธอด้วยดวงตาวาวกึ่งขัน "อยากมีเซ็กส์"
ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2559, 15:33:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2559, 15:39:44 น.
จำนวนการเข้าชม : 1064
<< บทที่ 5 The world | บทที่ 7 The Lovers >> |
คิมหันตุ์ 23 ก.ย. 2559, 17:38:58 น.
มันมัวๆ แปปเดียว มีรอยยิ้มแปปเดียว พอตอนชัดเจนนี่ โอ่โห 3D IMAX ยังอายค่ะ เหมือนฉาก ตอน team Iron man สู้กับ team Captain America เละเทะใช้ได้เลยค่ะ อิอิ ปล. ทำไมรู้สึกยิ้มกับมุกของหมอกอรอ !! ตอนแรกนึกว่านางจะขรึมๆ หลังๆ ประโยคหยอดของนางมีดาเมจ รุนแรงเหมือนกันนะคะ ทั้งหยอดทั้งตัดมุก เจ็บแปล๊บมากๆค่ะ
มันมัวๆ แปปเดียว มีรอยยิ้มแปปเดียว พอตอนชัดเจนนี่ โอ่โห 3D IMAX ยังอายค่ะ เหมือนฉาก ตอน team Iron man สู้กับ team Captain America เละเทะใช้ได้เลยค่ะ อิอิ ปล. ทำไมรู้สึกยิ้มกับมุกของหมอกอรอ !! ตอนแรกนึกว่านางจะขรึมๆ หลังๆ ประโยคหยอดของนางมีดาเมจ รุนแรงเหมือนกันนะคะ ทั้งหยอดทั้งตัดมุก เจ็บแปล๊บมากๆค่ะ
sai 24 ก.ย. 2559, 08:06:26 น.
ถ้าเราเป็นเชรีคงหลงมัวเมากะคำหยอดของหมอ กอรอ ดึงตัวเองกลับมาไม่ทัน หึหึ นางหยอด นางอ่อย แบบสุดๆ
ถ้าเราเป็นเชรีคงหลงมัวเมากะคำหยอดของหมอ กอรอ ดึงตัวเองกลับมาไม่ทัน หึหึ นางหยอด นางอ่อย แบบสุดๆ
sai 24 ก.ย. 2559, 08:06:48 น.
แต่เชรีก็ใช่จะน้อยหน้านะนั้นนนน 555
แต่เชรีก็ใช่จะน้อยหน้านะนั้นนนน 555
goszy 25 ก.ย. 2559, 23:41:55 น.
ใครคนนั้นที่ขังเชรีไว้นี่ใบ้สักนิดสิคะว่าใคร
ใครคนนั้นที่ขังเชรีไว้นี่ใบ้สักนิดสิคะว่าใคร
Zephyr 22 ต.ค. 2559, 08:48:41 น.
อ่านละรู้สึกฟีลพี่น้อง ระหว่างพี่กานต์กับเชรี
อิอิ หรือจะเปลี่ยนแปลงทีหลังนะ
อ่านละรู้สึกฟีลพี่น้อง ระหว่างพี่กานต์กับเชรี
อิอิ หรือจะเปลี่ยนแปลงทีหลังนะ