สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน

ตอน: ตอนที่ 9 >>> 100%

ตอนที่ 9 (ต่อ)

“ใครมาละเนี่ย อย่าบอกนะว่าพวกเซลส์มาหาขายของแม่จะด่าตะเพิดให้ เงินกินข้าวแต่ละวันยังจะไม่มีอยู่แล้ว” ป้าจาบบ่นงึมงำขณะลุกขึ้นอย่างยากลำบากไปเปิดประตูห้องพัก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

“สวัสดีค่ะป้าจาบ”

“คุณหนูมิ้น” ป้าจาบรับไหว้ ทักอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ หลังจากนางยกแผงผักให้หลานสะใภ้ทำต่อ และตึกเช่าเปลี่ยนเจ้าของนางก็ไม่ได้เจอมินรญาอีกเลย และก่อนที่นางจะได้ถามเพื่อคลายความสงสัย หญิงสาวก็ลากชายหนุ่มร่างสูงมาให้ดู

“ดูซิว่ามิ้นพาใครมาเอ่ย”

“สวัสดีครับ” คูเปอร์ยกมือไหว้หญิงสูงวัยพร้อมกับค้อมศีรษะด้วยท่าทางนอบน้อม จากนั้นก็เข้าไปกอดร่างอ้วนท้วมอย่างคิดถึง ผิดกับคนโดนกอดที่ทำหน้างงงวย

“คะ...ใครละเนี่ย” นางถามพลางดันร่างสูงใหญ่นั้นออกแล้วกวาดสายตามองชายหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งตรงหน้าอย่างพิจารณา แล้วนางก็เบิกตากว้างอุทานเรียกคนที่นางไม่ได้เจอมานานหลายปี “ไอ้คู้ป! เอ้ย! คุณคู้ป” นางรีบเปลี่ยนสรรพนามเมื่อตระหนักในฐานะว่าชายหนุ่มไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว คือได้ข่าวล่าสุดก่อนไปอยู่เมืองนอกคือนางจินตนาได้แต่งงานใหม่กับนักธุรกิจชาวรัสเซีย

“ครับผม” คูเปอร์ทำท่าตะเบะเลียนแบบทหาร แล้วยกสิ่งที่เขาแวะซื้อก่อนมาที่นี้ให้หญิงสูงวัยดู “นี่...ผมมีข้าวเหนียวหมูปิ้งมาฝากป้าด้วยนะ และขอร้องนะครับว่าให้เรียกผมไอ้คู้ปเหมือนเดิมนะดีแล้ว เรียกคุณมันจั๊กจี้” นางพยักหน้ารับไวๆ

“โอ้ย! ตายแล้วป้าดีใจจัง ชาตินี้คิดว่าจะไม่ได้เจอเอ็งแล้วนะเนี่ย” คราวนี้เป็นป้าจาบบ้างที่ดึงร่างสูงนั้นมากอด ปากก็พร่ำพูดอย่างดีอกดีใจ

“เจอสิครับผมยังไม่ตายเสียหน่อย ต่อไปเราก็คงได้เจอกันบ่อยๆ เพราะผมย้ายมาประจำที่เมืองไทยแล้ว”

“จริงเหรอ...อุ๊ย! มัวแต่ดีใจ เข้ามาข้างในก่อน คับแคบหน่อยนะ” นางเดินนำหนุ่มสาวทั้งคู่เข้าไปข้างใน เก็บหมอนที่นางไว้นอนกลางวันเข้าที่ แล้วเดินไปเอาน้ำดื่มมาเสิร์ฟแขกที่ไม่คาดฝันว่าจะมาเยี่ยม

“ดื่มน้ำก่อนนะ” ป้าจาบวางขวดน้ำเย็นๆ และแก้วลงตรงหน้าคนทั้งคู่ ส่วนตัวเองก็มานั่งข้างคูเปอร์และมองพินิจชายหนุ่มอีกครั้ง

“ยิ้มอะไรครับป้า” ชายหนุ่มที่เพิ่งดื่มน้ำเสร็จหันมาถามเสียงกลั้วหัวเราะ

“ก็เอ็งดูหล่อขึ้นจมเลยนะ แถมราศีจับสมกับเป็นคนมีเงิน” นางว่าพลางเอามือไปจับใบหน้าหล่อเหล่าคมเข้มตามกาลเวลา เสื้อผ้าที่สวมใส่ที่ดูเนื้อดีมีราคาตามฐานะที่ดีขึ้นของชายหนุ่ม

“แต่ข้างในผมก็ไอ้คู้ปลูกแม่จินคนเดิมแหละป้า”

“พูดถึงแม่จิน ตอนนี้อยู่ไหนล่ะ ได้มาเมืองไทยด้วยกันไหม”

“ยังครับ แต่เร็วๆ นี้ละ ครับ แม่บ่นคิดถึงป้าจาบบ่อยๆ ว่าแล้วก็ลืมนี่ครับของฝาก” ชายหนุ่มรับถุงกระดาษใบใหญ่มาวางตรงหน้าป้าจาบ

“โอ้ย ซื้ออะไรมาเยอะแยะ แค่ข้าวเหนียวหมูปิ้งป้าก็ดีใจแล้ว” ป้าจาบบอกอย่างเกรงใจ แต่ก็เปิดดูของในถุง “โห้...สวยขนาดนี้ป้าจะกล้าใส่ไหมเนี่ย”

“ลองดูนะคะป้า ถ้าใส่ไม่ได้ก็บอกมิ้นจะเอาไปเปลี่ยนให้” มินรญาที่นั่งฟังคนที่ไม่ได้เจอกันนานมากคุยกันเงียบๆ อยู่นานเอ่ยขึ้น

“ลองตอนนี้เลยใช่ไหม” ว่าแล้วป้าจาบก็จะพยุงรูปร่างอันอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นอย่างยากเย็นไปลองชุด ดูท่าจะลำบากทำให้มินรญารีบเข้าไปประคองให้แกลงไปนั่งตามเดิม

“ยังไม่ต้องก็ได้ค่ะ เอาไว้ตอนเย็นๆ ก็ได้ ถ้าใส่ไม่ได้โทร.บอกมิ้นหรือไม่ก็ฝากหลานสะใภ้ของป้าไปก็ได้ มิ้นแวะไปซื้อผักที่แผงประจำ”

“พูดถึงตลาด ป้าได้ข่าวว่าขายแล้วเหรอคะ”

“ค่ะ” มินรญาก้มหน้าตอบเสียงแผ่ว

“เห็นนังแก้วมันบอกว่าเจ้าของตลาดคนใหม่หล่อวัวตายควายล้ม แถมมันยังบอกว่าเป็นคนเดียวกันกับที่มาถามหาป้าด้วย ป้ายังนึกไม่ออกเลยว่าจะไปรู้จักคนที่หล่อและรวยขนาดนั้นตอนไหน มันบอกว่าชื่อมิสเตอร์อะไรนอบๆๆ คนบ้าอะไรชื่อนอบ” พูดจบนางก็หัวเราะชอบใจ ทำให้มินรญาและเจ้าของชื่อที่ถูกจำไปแบบผิดเพี้ยนอดที่จะหัวเราตามไม่ได้

“ป้าคะคนที่ป้าพูดถึงก็นั่งอยู่ข้างๆ ป้านั่นแหละค่ะ” มินรญาบอกเสียงกลั้วหัวเราะพร้อมกับชี้ไปที่คูเปอร์ ป้าจาบถึงกับหันขวับ

“ไอ้คู้ป!”

“ครับ ผมนี่แหละมิสเตอร์นอบๆๆๆ” เจ้าของชื่อเอ่ยล้อเสียงกลั้วหัวเราะ

“แล้วเอ็งไปเปลี่ยนชื่อตอนไหนวะ ชื่อคู้ปมันก็ดีอยู่แล้ว”

“มันเป็นนามสกุลพ่อเลี้ยงผมนะครับ อิวานอฟ คนเลยเรียกมิสเตอร์อิวานอฟ”

“นามสกุลแปลกๆ แถมเรียกนามสกุลแทนชื่อป้าจะรู้ไหมเนี่ย” คนแก่ที่ไม่สันทัดเรื่องการเรียกขานแบบชาวต่างชาติบ่นเขินๆ ก่อนจะหันไปพูดกับมินรญาอย่างเห็นใจ

“เพราะการพนันแท้ๆ นะคะคุณหนูมิ้น แกไม่เคยเล่นคิดยังไงไปเล่นจนติดงอมถอนตัวไม่ขึ้น ตอนนี้เป็นไงบ้างคะ”

“น่าจะคิดได้แล้วละคะ ไม่เห็นแกไปจะเป็นเดือนแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ ป้าเอาใจช่วยนะคะ”

“ค่ะ ยังดีนะคะที่พี่คู้ปเป็นคนซื้อ ถ้าเป็นคนอื่นมิ้นคงเสียดายมากกว่านี้” เธอคิดอย่างนั้นจริง เพราะเชื่อว่าคูเปอร์ที่คุ้นเคยและรู้จักตลาดแห่งนี้เป็นอย่างดีจะต้องดูแลรักษาและพัฒนาให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไป ที่สำคัญชายหนุ่มบอกเป็นหมั่นเหมาะจะไม่เปลี่ยนชื่อของตลาดแน่นอน

“แล้วนี่มาด้วยกัน กลับมาคบกันอีกเหรอ” ป้าจาบทัก มองคนทั้งคู่อย่างล้อเลียน

“คบได้ไงครับ มิ้นเขามีคนของเขาอยู่แล้ว”

“ใครคะ” มินรญาที่นั่งบิดมือก้มหน้าแก้เขินรีบเงยหน้าขึ้นมาถามคนที่กล่าวหาว่าเธอมีคนคบแล้วเสียงห้วน

“ก็ไอ้คุณเคนอะไรนั่นไง ตามจีบนานแล้วไม่ใช่เหรอ” คูเปอร์บอกอย่างมั่นใจในข้อมูลของแซค

“มิ้นบอกแล้วไงคะว่าไม่ใช่ เขาจีบก็เรื่องของเขาสิคะ มิ้นไม่ได้ชอบเขาเสี่ยหน่อย” มินรญาเริ่มขึ้นเสียง จำได้ว่าเรื่องนี้เธอเคยอธิบายให้เขาฟังตั้งแต่วันนั้นแล้ว เขาก็พยักหน้ารับและก็บอกว่า ‘ไม่ได้คิดอะไรนี่’ แต่พอมาวันนี้มันคืออะไร

“ใช่เหรอ...” คูเปอร์ลากเสียงยาว ปรายตามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ถ้ามิ้นชอบเขาคงไม่อยู่นานจนป่านนี้หรอก” มินรญาตอบเสียงกระแทก มองค้อนชายหนุ่มแล้วสะบัดหน้าหนี เดือดร้อนคนกลางอย่างป้าจาบต้องรีบปราม

“พอทั้งสองคนนั่นแหละ งอนกันเป็นเด็กๆ ไปได้ ชีวิตคนเรามันสั้นนัก อะไรจะมีความสุขก็ทำๆ ไปเถอะค่ะ อย่าหลอกใจตัวเองอีกเลย...เอะ! หรือว่าเอ็งมีเมียแล้ว” ป้าจาบหันไปถามคูเปอร์หน้าตาตื่น

“ใช่ที่ไหนกันครับ” คูเปอร์ปฏิเสธเสียงแข็ง แม้ที่ผ่านมาจะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาสวยระดับนางงามก็มี แต่ก็ไม่คิดจะรู้สึกพิเศษกับใครสักคน คงเพราะเขาลืมคนทางนี้ไม่ได้...

ว่าแล้วชายหนุ่มแอบปรายตามองมินณญาที่นั่งงอนแก้มป่องอยู่แล้วเผลออมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“อ้าวก็เห็นรูปหล่อพ่อรวยไม่น่ารอด”

“ว่าไงดีละครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ไม่มีทางหรอกที่เขาจะไม่รู้ แม้จะเกลียดคุณนายรงรองเข้ากระดูก แต่กับมินรญาความรู้สึกยังคงเดิม เว้นแต่ว่าหญิงสาวจะตัดขาดเขาแล้วไปหาคนใหม่

“นั่นก็โสด” ป้าจาบชี้ไปที่มินรญาใช้นิ้วชี้อีกข้างชี้ไปที่คูเปอร์ “ นี่ก็โสด...ลงตัวนะป้าว่า” สุดท้ายก็ดึงนิ้วชี้สองข้างมากชิดกัน

“ป้าพูดอะไรก็ไม่รู้ พี่คู้ปเขาจะมาสนใจแม่หม้ายอย่างมิ้นได้ยังไงคะ” มินรญาบอกพลางยิ้มแห้งๆ แอบมองผู้ชายที่เธอรักไม่เปลี่ยนด้วยหัวใจที่แป้ว เธอไม่แน่ใจว่าคูเปอร์จะยังรู้สึกกับเธอเหมือนเดิมหรือเปล่า หรือเห็นเธอเป็นแค่กระดังงาลนไฟ ของมีตำหนิที่เอาไว้แก้เหงาก็เท่านั้น

“แม่หม้ายที่แต่งงานได้สามวันผัวก็โดนจับเข้าคุกนะเหรอ” ป้าจาบส่ายศีรษะ นางไม่อยากเรียกมินรญาว่าแม่หม้ายให้เสียของด้วยซ้ำ ถ้าเกิดมีเหตุให้จัดงานแต่งช้ากว่านั้นสักหน่อยน่าจะดีไม่น้อย

“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ” มินณญาท้วงก่อนจะชวนคนทั้งคู่คุยเรื่องอื่น ต่อหน้าคูเปอร์เธอไม่อยากคุยเรื่องนี้ เรื่องที่ทำให้เธอและเขาต้องเจ็บปวด

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ย. 2559, 16:33:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ย. 2559, 16:33:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 979





<< ตอนที่ 9 >>> 50%   ตอนที่ 10 >>> 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account