สามีรีเทิร์น
เขาต้องจากกับคนรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของเธอที่ชอบคนรวย และเมื่อวันที่เขามีพร้อมเขาก็กลับมาเอาคืน เอาคืนทุกอย่างรวมทั้งเมียของเขาที่ถูกใสตะกร้าล้างน้ำยกให้ผู้ชายอื่นด้วย
Tags: สามี, นิยายรัก, ลมหวน, อดีต, กลับมารักกัน

ตอน: ตอนที่ 10 >>> 100%

ตอนที่ 10 (ต่อ)

กันไว้ดีกว่าแก้นางรงรองคิดเอาไว้อย่างนั้นทำให้วันนี้นางยอมละจากวงไพ่ แล้วโทร.หาภูมินบอกจุดประสงค์ว่าต้องการซื้อเครื่องเพชรแต่นัยยะสำคัญอยู่ที่การคุยเรื่องมินรญา ที่แม้ช่วงนี้ชายหนุ่มจะห่างๆ มินรญาไปบ้างแต่นางเชื่อว่าอีกฝ่ายคงยังไม่ตัดใจ

“ป้ารบกวนหรือเปล่าจ๊ะ” นางรงรองถามคล้ายกับเกรงใจ “แต่เรื่องเพชรเรื่องพลอยป้าก็ไม่คิดจะไว้ใจใครเท่าคุณเคนจริงๆ นะคะ”

“ไม่หรอกครับผมเต็มใจ ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่คุณป้าวางใจ” ภูมินหันมายิ้มน้อยๆ ให้หญิงสูงวัย ก่อนจะหันไปใช้สมาธิในการขับรถต่อ เพราะวันนี้สภาพจราจรค่อนข้างติดขัด

“กับยัยมิ้นเป็นยังไงบ้าง พักนี้หายหน้าหายตาไปเลยนะ” นางรงรองนั่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มพูดเข้าประเด็นที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้

“คราวก่อนโดยเบรกซะหัวทิ่ม ผมเลยถอยออกมาตั้งตัวนะครับ เดี๋ยวพร้อมเมื่อไหร่ผมจะลุยต่อ” ภูมินบอกอย่างหนักแน่นแข็งขัน นั่นทำให้นางรงรองแอบอมยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะปรับสีหน้าให้ปกติแล้วพูดต่อไปว่า

“ป้านึกว่าคุณเคนถอดใจไปเสียแล้ว คนที่คอยเชียร์คุณเคนอย่างป้ายังแอบเสียดาย แต่พอรู้ยังไม่หมดหวังป้าก็ดีใจค่ะ”

“ขอบคุณครับ” ภูมินหันมาบอกพร้อมกับรอยยิ้มกว้างรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากโข แต่พอนึกถึงความเป็นจริงสีหน้าที่เริ่งร่าเมื่อครู่ก็หม่นลง “แต่มิ้นบอกว่าเธอรักมิสเตอร์อิวานอฟ”

“แต่หมอนั่นไม่ได้คิดจะรักยัยมิ้นเลยสักนิด ป้าเห็นลูกสาวทุกข์มามากแล้วอยากจะให้มีความสุขเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ บ้าง ถ้าได้คนดีๆ อย่างคุณเคนเป็นคนดูแล ป้าคงหมดห่วง” นางรงรองพูดพลางทำสีหน้าเศร้า

“คุณป้ารู้ได้ไงครับว่ามิสเตอร์อิวานอฟไม่ได้รักมิ้น”

“ก็ธรรมดาคนเป็นแม่นั่นแหละ เห็นออกไปไหนมาไหนกับยัยมิ้นบ่อยๆ ป้าเลยเลียบๆ เคียงๆ ถามแล้วคำตอบที่ได้รับก็ทำให้ป้าถึงกับอึ้ง” พูดจบนางก็ถอนหายใจ เหมือนคนคิดหนักปลงไม่ตกกับเรื่องที่กำลังเอ่ย

“เขาว่าไงครับ” ภูมินถามอย่างสนใจใคร่รู้

“เขาบอกยัยมิ้นก็แค่คนรู้จัก ไม่ได้สลักสำคัญไปกว่านั้น ตอนแรกป้าว่าจะไม่ยุ่ง ลูกรักใครก็รักด้วยแต่นี้ป้ารับไม่ได้จริงๆ” นางรงรองส่ายศีรษะทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้เสียใจ จนภูมินปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาตบที่หลังมือเหี่ยวย่นอย่างให้กำลังใจ

“ผมก็รับไม่ได้เหมือนกันครับ ผมจะทำให้มิ้นมาเป็นของผมให้ได้” ชายหนุ่มให้คำมั่น ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงใจจริงจังจนนางรงรองใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง แม้จะชวดจากคูเปอร์ แต่อย่างน้อยกับภูมินก็ไม่น่าจะพลาด เรื่องเอาคืนคนอวดดีอย่งคูเปอร์เอาไว้ค่อยคิดวิธีที่หลังก็ได้

“ป้าเชื่อว่าคุณเคนทำได้ พยายามอีกนิดนะคะ”

“ครับ คราวนี้ผมทุ่มสุดตัว ใครหน้าไหนก็ขวางผมไม่ได้”



เป็นอีกครั้งที่สองหนุ่มมาเจอกันโดยไม่ได้นัดหมายที่บริษัทที่มินรญาทำงานอยู่ คูเปอร์ยืนมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเงียบ อย่างเชื่อว่าสุดท้ายอย่างไรมินรญาก็ต้องเลือกไปกับตน

ทว่าเมื่อหญิงสาวพักเบรกเที่ยงวันทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คาด มินรญาเดินยิ้มตรงดิ่งไปหาภูมินแทนที่จะเป็นคูเปอร์

“มิ้น” คูเปอร์เรียกพร้อมกับเดินเข้าไปดึงต้นแขนเรียวเล็กเอาไว้ อย่างไม่พอใจ มินรญาหันขวับมองมือใหญ่ก่อนจะเงยมองหน้าเจ้าของมือแล้วบิดต้นแขนของตนออกจากการเกาะกุม

“มิ้นบอกพี่คู้ปแล้วนี่คะว่าไม่ว่าง”

ใช่แล้วก่อนเที่ยงประมาณชั่วโมงหนึ่งคูเปอร์โทร.มาชวนไปกินข้าว แต่เรื่องราวที่เธอได้ยินเมื่อวานมันยังก้องอยู่ในหัวความน้อยใจเสียใจทำให้เธอปฏิเสธชายหนุ่มแบบไม่ต้องคิด

“ที่มิ้นปฏิเสธนัดพี่ เพราะนัดกับไอ้หมอนี่เหรอ”

“ค่ะ มิ้นนัดกับคุณเคนแล้ว ขอตัวนะคะ ไปเถอะค่ะ” เธอหันไปเรียกภูมินแล้วเดินนำ แต่ไปยังไม่ถึงไหน คูเปอร์ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะเจอกับเรื่องแบบนี้เดินไปดักหน้า

“เดี๋ยวสิ ก็พี่บอกมิ้นแล้วไงว่าจะมารับ แล้วทำไมต้องรับนัดคนอื่นด้วย” คูเปอร์ถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะถ้าเป็นมินรญาคนเดิมอย่างไรเขาก็ต้องมาเป็นที่หนึ่ง แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น

“มันเป็นสิทธิ์ของมิ้น มิ้นรับหรือไม่รับนัดใครก็ได้ พี่คู้ปควรเคารพการตัดสินใจของคนอื่นด้วยนะคะ” พูดจบมินณญาก็เดินหน้าแบบไม่เหลียวหลัง คูเปอร์เองก็คงรู้ว่าเซ้าซี้ไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้แต่ขบกรามตีอกชกลมอย่างหงุดหงิด และความหงุดหงิดนั้นก็ยิ่งทบทวีเมื่อโดนภูมินเยาะเย้ย

“เสียใจนะพวก อย่างนี้ละน้าที่เขาว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า” ภูมินตบไหล่กว้างของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มเยาะ

“วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกนะเว้ย!” คูเปอร์ตะโกนตามหลัง ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเมื่อรู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่มองมาตนอย่างสนใจ แล้วรีบกลับไปที่รถอย่างหัวเสีย ไม่กงไม่กินมันแล้วข้าว คูเปอร์คิดก่อนจะบึ่งรถกลับบริษัท



ชายหนุ่มไม่มีสมาธิในการทำงานทั้งวัน ทั้งที่บอกตัวเองว่าอย่าไปคิดมากก็แค่ผู้หญิงงอน และงอนเรื่องอะไรเขาก็ไม่รู้ แต่ประชดด้วยการไปกินข้าวกับผู้ชายอีกคน งี่เง่าสิ้นดี แต่ที่สุดก็อดเคืองไม่ได้ ทำให้วันนี้คูเปอร์ที่ไม่ค่อยชอบดื่ม นั่งซดเบียร์คนเดียว ตอนแรกว่าจะแวะเข้าผับที่ไหนสักแห่ง แต่เมื่อนึกถึงความวุ่นวายเขาเลยเปลี่ยนใจ เพราะตอนนี้ในหัวก็วุ่นวายมากพอแล้ว การมานั่งดื่มเงียบในห้องคนเดียวน่าจะดีกว่า คิดแบบนั้นแต่พอเอาเข้าจริงๆ มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชายหนุ่มจึงต่อสายหาแซค

ไม่ถึงสิบนาทีคนที่เขาโทร.เรียกก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า แบบรวดเร็วทันใจเหมือนเคย

“มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ” แซคถามแล้วยืนสงบนิ่งรอรับคำสั่งเช่นเดิม

“นั่งก่อนสิครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่มารับคำสั่ง”

“นี่แหละคำสั่ง” คูเปอร์เงยหน้ามองหน้างงๆ ของแซคแล้วหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดต่อ “งานครั้งนี้ก็คือ ช่วยดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหมครับ” แม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกน้องแต่ด้วยวัยวุฒิที่สูงกว่าอยู่มาก เวลาพูดคุยทำให้คูเปอร์ที่ถูกเลี้ยงมาแบบวัฒนธรรมไทยจะมีหางเสียงและออกจะนอบน้อมกับแซคตลอด

แซคพยักหน้ารับแล้วนั่งลงที่โซฟาอย่างไม่ปฏิเสธ เพราะมันเสมือนหน้าที่ แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ “มีอะไรหรือเปล่าครับ ปกติไม่ค่อยเห็นดื่มเท่าไหร่”

“เซ็งๆ น่ะ” คูเปอร์พลางเลื่อนกระป๋องเบียร์ยี่ห้อดังให้อีกฝ่าย แล้วต่างคนต่างดื่มและนั่งเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเป็นคูเปอร์ที่เป็นฝ่ายชวนคุย

“แซค”

“ครับ”

“คุณไม่มีครอบครัวหรือครับ เห็นโทรปุ๊บคุณก็มาปั๊บทุกครั้ง” เรื่องนี้เขาสงสัยมานานละแต่ไม่ได้มีโอกาสถามสักที

“ถ้าหมายถึงลูกเมียละก็ไม่มีครับ”

“ไม่น่าเชื่อ” คูเปอร์ครางพลางหรี่ตามองอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ เพราะรูปร่างหน้าตาแซคนั้นถือว่าเขาขั้นหน้าตาดีเลยละ แม้อายุอานามจะเข้าเลขสี่แล้วก็ตาม “คนรักก็ไม่มีเลยหรือครับ”

“ไม่มีครับ ผู้หญิง ความรัก มันคืออุปสรรคในการทำงานทั้งนั้น” แซคตอบแทบจะทันทีอย่างไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย

ได้ยินอย่างนั้นคูเปอร์ได้แต่ถอนหายใจ ทิ้งตัวพาดต้นคอที่พนักโซฟา ขณะที่มือนั้นหมุนกระป๋องเบียร์ไปมา พร้อมกับพูดลอยๆ ขึ้นว่า “ผมอยากเป็นแบบคุณบ้างจังเลย”

“มีปัญหากับคุณมิ้นหรือครับ” เดาอย่างรู้จักคนเป็นนายอย่างดี น้อยเรื่องนักที่จะทำให้คนอย่างคูเปอร์กลุ้มใจ

“ไม่รู้สิ”

“เธอเป็นคนดีนะครับ ถึงจะมีแม่แบบนั้นก็เถอะ”

“คุณคิดอย่างนั้นเหรอ” คูเปอร์ยืดตัวนั่งพร้อมกับถามเสียงกลั้วหัวเราะ

“ครับ อย่างน้อยเธอก็มั่นคงในความรัก”

“คุณรู้ได้ไง” คูเปอร์เลิกคิ้วมองคนอายุมากกว่าอย่างแปลกใจ

“ก็เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ผมมาตามหาคุณกับแม่เจอเธอมายืนร้องไห้ที่ตลาด พอผมบอกว่าผมมาตามหาคุณเธอก็เอาเบอร์ให้ผม แล้วบอกว่าถ้าเจอคุณให้โทร.หาเธอ เสียเงินเท่าไหร่ก็ยอมขอแค่รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน” เรื่องนี้เขาไม่เคยพูดให้คูเปอร์ฟัง เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญและไม่เกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย แต่เมื่อได้พบมินรญาอีกครั้ง ภาพหญิงสาวนัยน์ตาเศร้าเมื่อวันนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

“คุณบอกเธอ” คูเปอร์ถามอย่างไม่แน่ใจ

“เปล่า ผมเอาเบอร์เธอทิ้งลงขยะตั้งแต่หน้าตลาดแล้วละ”

“อ้าว แล้วคุณจะมาบอกผมเพื่อ...” คูเปอร์ถามเสียงกลั้วหัวเราะ อย่างไม่ได้คิดจะตำหนิอีกฝ่าย

“ไม่รู้สิครับ คงเพื่อให้คุณรู้ว่าเธอดีใจมากแค่ไหนเมื่อได้เจอคุณ หลังจากที่รอคอยด้วยความทรมานมานานหลายปี ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ” เขาจำได้แววตาในวันนั้นเมื่อหลายปีก่อนมันดูเศร้าเจ็บปวด หากแววตาในวันที่เธอเจอคูเปอร์อีกครั้งมันเปล่งประกายแห่งความดีใจ แม้อีกฝ่ายจะทำเป็นไม่แยแส แต่เขาก็ยังไม่เห็นหญิงสาวแอบมองคนที่เธอรักอย่างตื้นตัน แอบยิ้มเกือบจะตลอดเวลา

“บอกว่าไม่เคยมีความรัก ผมควรเชื่อคุณดีไหมเนี่ย”

แซมลดกระป๋องเบียร์ที่เพิ่งยกขึ้นดื่มลงแล้วยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเตือนเจ้านายหนุ่มโดยไม่คิดจะตอบเรื่องของตัวเอง

“ผมว่ามีปัญหาอะไรก็รีบเคลียร์กันดีกว่านะครับ คราวนี้คุณอาจจะไม่โชคดีเหมือนคราวที่แล้วก็ได้”

“ผมไม่มีอะไรต้องเคลียร์” คูเปอร์บอกพลางยักไหล่ แม้ตัวเองจะคิดมากจนกลุ้ม เรื่องอยู่ดีๆ มินรญาก็งอน แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่

“แล้วแต่คุณแล้วกันครับ” คนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นเท่าไหร่ ตอบรับสั้นๆ แล้วนั่งดื่มเงียบๆ ไปจนกระทั่งได้ยินเสียงครางอ้ำๆ อึ้งๆ ของคนเป็นนายนั่นแหละเขาถึงหันมาเลิกคิ้วมอง

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“คือ...ผมอยากรู้ประวัติของผู้ชายที่ชื่อเคน”

“เคน” แซคทวนชื่อ แล้วกรอกตาขึ้นทำท่านึก แล้วถามต่ออย่างนึกไม่ออกว่าเขาจะรู้จักคนคนนี้

“เคนไหนครับ”

“นึกว่าจะรู้เสียอีก” คูเปอร์ล้อเสียงกลั้วหัวเราะ

“ต้องขอโทษด้วยครับ” หากแต่อีกฝ่ายกลับขอโทษอย่างเป็นจริงเป็นจัง

“ล้อเล่นน่า ผมหมายถึงเอ่อ...ผู้ชายที่มายุ่งกับมิ้นน่ะครับ” คูเปอร์อ้อมแอ้มบอกในท้ายประโยค พร้อมกับยกมือลูบท้ายทอย

“ได้ครับ...งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ว่าแล้วคนที่เคร่งครัดต่อหน้าที่ก็วางกระป๋องเบียร์ผลุนผลันลุก จนคนสั่งงานต้องรีบห้าม

“เดี๋ยวครับเดียว” คูเปอร์ลุกขึ้นกดไหล่ให้ร่างสูงไม่ต่างจากตนกลับไปนั่งลงที่เดิม “เรื่องงานเอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่าครับ ส่วนตอนนี้อยู่ดื่มเป็นเพื่อนผมก่อน”

“รับคำสั่งครับ”

ได้ยินการรับคำอย่างแข็งขันหนักแน่นแล้วคูเปอร์ได้แต่ส่ายศีรษะ เขาไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนคนนี้ถึงบอกว่าผู้หญิง คนรักคืออุปสรรคในการทำงาน ก็เล่นหายใจเข้าออกมีแต่งานกับงาน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ย้ำอีกครั้งนะคะ ตอนหน้า ตอนที่ 11 (แบ่งอัพเป็น 2 ครั้ง คือครึ่งแรกกับครึ่งหลัง) อัพให้อ่านเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ ^_^



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ย. 2559, 15:21:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ย. 2559, 15:21:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 950





<< ตอนที่ 10 >>> 50%   ตอนที่ 11 >>> 50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account