เทพบุตรกิเลนไฟ
เพราะหนี้ก้อนโตที่มีอยู่ทำให้ ดรัญญา คุณหมอสาวสวยที่คนในวงการอาชญากรรมแห่งชลบุรีรู้จักในนามหมอเถื่อน ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับข้อเสนอเป็นหมอประจำแก๊งให้กับนักเลงอย่าง ศาเวธน์ มาเฟียหนุ่มหล่อผู้ได้ฉายาว่ากิเลนไฟ ที่มาพร้อมมาดเงียบขรึมน่าหมั่นไส้เกินใคร


มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากว่าเขากับเธอจะไม่ได้เริ่มใกล้ชิดกัน และยิ่งกว่านั้น ...


ถ้าเขาจะไม่ได้มีคู่หมั้นผู้สุดแสนเพอร์เฟ็กต์อย่าง 'บุศลินทร์' อยู่ก่อนแล้ว!


เอาละสิ หลายคนพากันแซวนี่เธอกำลังจะแย่งแฟนชาวบ้านหรือไง แต่สาวมั่นอย่างเธอจะให้ยอมรับว่าชอบเขาจริงก็ฝันไปเถอะ ขี้เก๊กขนาดนั้น ใจร้อนเป็นที่หนึ่ง มุทะลุไม่มีใครเกิน ... เหอะ รอไว้ชาติหน้าละกัน


แต่ท่ามกลางปัญหาหัวใจที่ก่อเกิด ใครจะรู้ เงามืดก็เคลื่อนมาครอบทับพัทยาถิ่นของเขาจากฝีมือของอาชญากรนาม 'ฟีนิกซ์'


ขณะรักษาชีวิตให้ผู้คนทั้งในและนอกเงามืด ดรัญญาพบว่าตนเองตกอยู่ในวังวนการแย่งชิงอำนาจที่ดุเดือดระหว่างแก๊งมาเฟียนานาชาติ อีกทั้งโชคชะตายังได้นำพาให้เธอค้นพบปมอดีตของครอบครัวตนเอง ที่โยงใยไปถึงปมอดีตของศาเวธน์อีกด้วย


อะไรกัน ทำไมเรื่องราวมันวุ่นวายขึ้นทุกทีแบบนี้!


ขอเชิญลุ้นระทึกไปกับการผจญภัยของคุณหมอสาวสวยสุดห้าว ในดงเพชณฆาตปืนไว และการหักเหลี่ยมเฉือนคมที่ซ่อนกระสุนมรณะในรอยยิ้ม รวมถึงการเรียนรู้ความหมายของคำว่าความรัก ในแบบฉบับเคล้าควันปืน กับ เทพบุตรกิเลนไฟ นวนิยายโรแมนซ์แอ็คชั่น - ดราม่า ที่จะพาทุกหัวใจสั่นไหวไปพร้อมกัน!


------------------------------------------------------------------------------------------------------


Tags: โรแมนซ์ แอ็คชั่น ดราม่า หมอ นักเลง อันธพาล

ตอน: บทที่ 2 - Baby Blue 1/3

บทที่ 2

Baby Blue 1/3



ในห้องพักคนไข้ชั้นยี่สิบสอง ซึ่งเป็นชั้นระดับซูเปอร์วีไอพีของโรงพยาบาลหรัญกานต์ หม่าหยงเล่อหรือลุงหม่าของศาเวธน์ กำลังนอนหลับด้วยฤทธิ์ยาและความอ่อนล้าของร่างกาย มีสายห้อยระโยงระยางอยู่บนเตียงจนศาเวธน์ไม่กล้าเข้าไปใกล้เสียเท่าไหร่

แม้หมอจะบอกว่าอาการของลุงหม่าพ้นขีดอันตรายแล้วก็ตาม ทว่าใบหน้าที่แดงก่ำ ผื่นที่จางลงไปแต่ก็ยังพอสังเกตเห็นอยู่ทั่วตัว ก็ทำให้ชายหนุ่มไม่อยากเชื่อว่าร่างที่อ่อนแอตรงหน้านี้ คือคนๆ เดียวกับเสือเฒ่าแห่งเกาลูนจากแดนฮ่องกง ที่แม้อายุจะย่างปลายเลขหก แต่ยังแข็งแรงและมีความน่าเกรงขามชนิดที่ลูกหลานแดนมังกรยังให้ความเคารพเปี่ยมล้น

ขณะนี้หนุ่มกิเลนไฟยืนอยู่เคียงข้างร่างใหญ่กำยำของจางซือเป่า ผู้เป็นบิดาของเขา หรือ ‘เจ้าหก’ ของหม่าหยงเล่อ บรรยากาศในห้องเงียบสงบจนน่าอึดอัด ได้ยินเพียงเสียงการทำงานของเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจมาพักใหญ่แล้ว

“ป๊าไว้ใจให้แกดูแลลุงใหญ่ แต่แกมัวแต่เที่ยวเล่นสนุก จนเกิดเรื่องจนได้” น้ำเสียงของจางซือเป่ายากแยกแยะว่าเหนื่อยใจกับใครมากกว่ากัน ระหว่างพี่ชายร่วมสาบานที่นอนหน้าบวมฉุ กับลูกชายที่ยืนเงียบขรึมด้านข้าง ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ

“ผมขอโทษครับป๊า” ศาเวธน์เปิดปากเป็นครั้งแรก ตั้งแต่อยู่ในห้องกับบิดาเพียงลำพัง “ผมผิดเองที่ส่งเด็กฝีมืออ่อนหัดไปประกบลุงหม่า แต่ผมไม่ได้เล่นสนุกนะครับ พักนี้ร้านอาหลินถูกกวนบ่อยมาก ผมเลยจับตัวป่วนมาสั่งสอน คิดว่าคงเป็นพวกของนักเลงหน้าใหม่อยากอวดบารมี - ”

“ป๊ารู้ จะว่าไปป๊าก็บ่นไปอย่างนั้น เสือเฒ่าอย่างลุงแกใครจะไปจับอยู่” ซือเป่าโบกมือไล่ความวุ่นวายในสมอง ก่อนหันมา “อ่อ ว่าแต่แกรู้หรือยังว่าหมอคนนั้นเป็นใคร”

ศาเวธน์ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ หยิบสมาร์ทโฟนของตนเองออกมากดเปิดรูปภาพให้บิดาดู

“เธอชื่อดรัญญา เนตรธาวี เป็นหมอผ่าตัดอยู่โรงพยาบาลเอื้อกล้าครับ”

ซือเป่าชำเลืองมองรูปหญิงสาวบนหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือบุตรชาย พลางผงกศีรษะ “ไปหาเธอซะ อย่าลืมนำของขอบคุณไปฝากด้วย แกรู้ธรรมเนียมของพวกเราดี ทานข้าวอย่าลืมความอดทนของควายม้า สนเข็มเย็บปักถักร้อยอย่าลืมคนเลี้ยงตัวไหม ในบรรดาคุณธรรมทั้งหลาย ความกตัญญูมาเป็นข้อแรก เมื่อผู้อื่นมีบุญคุณต่อเราก็อย่าได้ลืมเลือน ยังไม่ต้องพูดถึงว่าลุงใหญ่แกเป็นคนสำคัญขนาดไหน...”

“ครับ” ศาเวธน์ค้อมศีรษะ สีหน้าไม่แสดงออกถึงความเบื่อหน่ายจากคำสอนของบิดา ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์เบื่อได้ ร่างของลุงหม่าที่นอนเบื้องหน้า ย้ำชัดถึงความอ่อนด้อยของเขาเอง ถ้าเขาไม่ประมาทปล่อยให้เสือเฒ่าแอบหนีออกไปท่องราตรีเพียงลำพังกับคนขับรถที่ทำอะไรไม่เป็นนอกจากจับพวงมาลัย เหตุการณ์เช่นนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

พลัน ชายหนุ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “จริงสิ ป๊าพอรู้ไหมว่าใครเอาขนมมาให้ลุงหม่า?”

ผลการตรวจสอบหม่าหยงเล่อออกมาตั้งแต่ก่อนย้ายตัวจากโรงพยาบาลบางละมุง ปรากฏว่าอาการแพ้ที่เกิดขึ้นขั้นรุนแรง มาจากการกินคุกกี้ที่มีส่วนผสมของถั่วลูกไก่ ซึ่งเป็นขนมขบเคี้ยวระหว่างรอรถติดไฟแดงที่เสือเฒ่าแห่งเกาลูน ผู้มีกำหนดการมาพักร้อนที่ประเทศไทยเป็นเวลาสามเดือน ซื้อมันมาจากเด็กเร่ขายขนมที่เตร็ดเตร่อยู่ในลานจอดรถขณะเดินออกมาจากบาร์เปลื้องผ้า

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทราบว่า ลุงหม่าแพ้ถั่วชนิดนี้ และมันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะคุกกี้ที่เร่ขายให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้ถั่วลิสงที่สะดวกกว่าในการผลิต และอีกอย่าง ถั่วลูกไก่ในประเทศไทยยังไม่ได้รับความนิยมถึงขั้นนั้น บางคนแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาซื้อมันได้จากที่ไหน ...

“ยังไม่รู้ แต่แกไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ป๊ากับอารองจะจัดการกันเอง แกทำหน้าที่ของแกให้ดีก็พอแล้ว” ผู้เป็นบิดาเอื้อมมือมาตบไหล่ศาเวธน์และแค่นยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าไล่บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ให้ออกมาทำงานตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย

หน้าที่ของเขา?

ศาเวธน์งับประตูปิดตามหลังเมื่อออกมาจากห้องพักผู้ป่วย พ่อของเขายังอยู่ในห้องกับลุงหม่าต่อไป อาจจะนึกถึงอดีตครั้งร่วมหัวจมท้ายก่อร่างสร้างอำนาจมาด้วยกันหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยในหน้าที่ของตนเอง เขาไม่ใช่เด็กๆ แล้ว แต่ในสายตาของพ่อ หน้าที่ของเขาก็คือการใช้ชีวิตให้มีความสุข ผลาญเงินตระกูลไปวันๆ โดยอย่าก่อเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพอ

พ่อไม่เคยมอบหมายงานที่สำคัญอะไรให้เขาทำเลยสักครั้ง

ขบวนบอดีการ์ดที่เฝ้าหน้าห้องตั้งแถวสองฝากฝั่งค้อมศีรษะนอบน้อมเมื่อเทพบุตรกิเลนไฟเดินผ่าน เขายกสมาร์ทโฟนในมือขึ้นดูอีกครั้ง ใบหน้าของคุณหมอสาวซึ่งอยู่ในรูปที่ถูกดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ SNS ของเธอจ้องตอบกลับมา หน้าที่ของเขาตอนนี้คือหาตัวเธอ นำนามบัตรไปให้ แจ้งว่าหากมีเรื่องเดือดร้อนหรือต้องการอะไรให้ติดต่อมา เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตลุงใหญ่ของเขาเอาไว้

แพทย์หญิงดรัญญาที่ศาเวธน์เห็นในรูป เป็นหญิงสาวอายุยี่สิบกลางๆ คงเพิ่งจบหมอได้แค่ปีสองปี น่าจะรุ่นเดียวกับอาหลิน จุดเด่นบนโครงหน้าเรียวเข้ารูปคือดวงตากลมโตกับจมูกที่ไม่โด่งมากนัก แต่กลับช่วยให้ถ่ายภาพมุมไหนก็ดูดี เขาไล่ดูรูปเธอที่เปิดสาธารณะอยู่สี่ห้ารูปมาก่อนหน้านี้ ก็อดประหลาดใจไม่ได้ที่ตาแก่หยวนคนขับรถจะรายงานมาว่า เธอเป็นคุณหมอคนเดียวกับที่ปรากฏตัวยามหมดหวังคนนั้นจริงๆ

เพราะสะดุดตาเช่นนี้เองสินะ จึงไม่แปลกที่จะได้รับฉายา ‘คุณหมอนางฟ้า’ ในโลกอินเตอร์เน็ตไปเรียบร้อยแล้ว คลิปวิดีโอการปฐมพยาบาลและรักษาชีวิตลุงหม่าของเขาแบบฉับไวและมาดมั่นนั้นแพร่กระจายกลายเป็นไวรัลคลิปตัวใหม่ ที่รายการข่าวชื่อดังยามเช้า ยังหยิบยกไปพูดถึงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาด้วยซ้ำ

ศาเวธน์ยังจำคำที่หมอจากโรงพยาบาลบางละมุงบอกกับเขาเมื่อคืนได้ดีว่า

“อาการปัจจุบันคนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ ต้องขอบคุณหมอคนที่ช่วยรักษาเบื้องต้นในที่เกิดเหตุก่อนรถแอมบูแลนซ์จะไปถึง การเจาะเยื่อไครโคไทรอยด์ทำได้อย่างไร้ที่ติจริงๆ ถ้าช้ากว่านั้นอีกแค่นิดเดียว คนไข้จะขาดอากาศหายใจ และคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น”

สมาร์ทโฟนของเขาถูกเก็บในอกเสื้อเมื่อร่างสูงก้าวเท้าเข้าลิฟต์

ให้ตายสิ เขาไม่อยากทำหน้าที่นี้เลย ต้องไปยิงฟันยิ้มเป็นมิตรกับคนแปลกหน้า นี่มันหน้าที่ของพวกลูกกระจ๊อกปลายแถวชัดๆ ศาเวธน์คิดพลางเอื้อมมือกดลิฟต์ ก่อนที่อีกใจหนึ่งจะส่งเสียงแย้งว่า ช่างเถอะ ถือเสียว่าเธอช่วยชีวิตญาติผู้ใหญ่ของเขา จะให้พวกลูกน้องไปขอบคุณก็ยังไงอยู่นี่นะ ดีไม่ดีลุงหม่าตื่นมาจะโวยวายหาว่าดูถูกแกอีก รายนี้ยิ่งขึ้นชื่อเรื่องบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระมากกว่าพ่อเป็นสิบเท่า เขาไปเจอเธอเองน่ะดีแล้ว

เสียงติ๊งดังฉุดภวังค์ ประตูลิฟต์เลื่อนเปิดออก ศาเวธน์สลัดความหงุดหงิดและก้าวเท้าออกไป

โดยไม่รู้ว่าชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อได้พบเธอ





อังค์จิก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ย. 2559, 17:11:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ย. 2559, 17:11:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 901





<< บทที่ 1 - Anaphylaxis 3/3   บทที่ 2 - Baby Blue 2/3 >>
ปริยาธร 1 ต.ค. 2559, 19:47:18 น.
รอลุ้นให้พระนางเจอกันจ้ะ


อังค์จิก 1 ต.ค. 2559, 22:41:44 น.
ขอบคุณครับพี่นุ้ย
เจอกันแบบตื่นเต้นแน่ๆ 555


tiger 2 ต.ค. 2559, 17:28:14 น.
ถ้ายังมีสายระโยงระยางมากขนาดนั้น หมอไม่น่าจะบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้วนะ


อังค์จิก 2 ต.ค. 2559, 21:09:50 น.
#คุณไทเกอร์
สายที่ห้อยหมายถึงสายน้ำเกลือกับสายจากเครื่องวัดคลื่นการเต้นของหัวใจและชีพจรครับ
ถ้าไม่พ้นขีดอันตรายต้องมีเครื่องช่วยหายใจด้วยและคงไม่ได้ออกมาอยู่ในห้องพักแบบนี้แน่ๆ
ตอนนี้อาการแพ้ของลุงหม่าเริ่มบรรเทาลงจนหายใจเองได้
เพราะในฉากนี้ห่างจากตอนเกิดเหตุเมื่อบทแรกเกือบสิบสองชั่วโมงแล้วละครับ
และส่วนที่อันตรายที่สุดของลุงหม่าก็คือตอนที่อาการแพ้กำเริบจนนางเอกเราต้องสวมวิญญาณหมออาซาดะนั่นเองครับ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account