คำสาปขังรัก
คุณจะทำอย่างไร...ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องคำสาป ไม่สามารถจะมีรักที่ดีได้
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
Tags: คำสาป ความรัก พยากรณ์
ตอน: บทที่ 11 High Priestess
The High Priestess
แม้ในความเดียวดายจะแสนเหงา
แต่มันอาจดีกว่า...การยืนอยู่ท่ามกลางคนรู้จักที่ไม่คุ้นเคย
ชนิศาอ้าปากค้างเมื่อมองหน้าจอภาพกราฟสีแดงที่ดิ่งหัวลงนอนเรียบอยู่ใต้เส้นมาตรฐานอย่างสงบ ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้ร่วงกราวราวใครมาขโมยเงิน พาให้บรรดาหุ้นในพอร์ดหลายตัวเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ง่ายดาย
"คุณพระ...ถ้าปู่เซทจะใจร้ายแบบนี้" หญิงสาวบ่นพึมพำพลางถอนใจหนัก ๆ เผลอคิดถึงผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เธอเคยได้สนทนาในงานสังสรรค์
ผู้อาวุโสรั้งตำแหน่งประธานกรรมการบริหารเครือบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ ท่านยิ้มแล้วตอบคำภามของเธอถึงการลงทุนในหุ้นในเครือที่ท่านบริหาร
'เลือกหุ้นก็เหมือนเลือกคนรัก อย่าเลือกหุ้นที่หนูไม่รู้จักพื้นฐาน อย่ารักคนที่หนูรู้จักไม่หมดทุกมุมของชีวิต'
ตอนนั้นชนิศาอมยิ้ม มองท่านกึ่งล้อ 'เลือกหุ้นยังมีงบการเงินให้ดู เลือกคนรักจะดูอะไรดีล่ะคะ'
ท่านหัวเราะ 'มีใครเคยบอกไหมว่าหนูเป็นพวกดื้อตาใส'
'เชรีเปล่าดื้อนะคะ เชรีสงสัยก็เลยต้องถามไงคะ'
'ดี ๆ เด็กสมัยนี้ต้องกล้าคิด กล้าทำ'
'แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของกาลเทศะ เชรีว่าเชรียังไม่หลุดกรอบนะคะ' หญิงสาวคลี่ยิ้มประจบ
'นี่ไง...งบการเงินของคน' ท่านเอ่ยเสียงนุ่ม 'นิสัยใจคอ ความคิดอ่าน พื้นฐานครอบครัว หนูต้องเรียนรู้ให้รอบ'
ชนิศาเอียงคอ พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย 'แล้วถ้า...เผลอช้อนหุ้นผิดล่ะคะ' เธอถามเล่นเพียงเพื่อต่อบทสนทนามากกว่าจะสนใจจริงจัง
'เคยไหม'
'บ่อยไปค่ะ...เชรีเป็นเด็กดอยค่ะ' เธอทำหน้ายู่ ถอนใจหนัก ๆ 'เชรีหักใจขายไม่ลง'
'พอร์ตแดงไม่ได้แปลว่าขาดทุน แต่แปลว่าเธอต้องประเมินความคุ้มค่าของหุ้นในมือ มองอนาคตของหุ้นอีกครั้ง' ท่านเหยียดริมฝีปากอย่างเฉียบขาด 'ถ้ามองไม่เห็นอนาคต ก็ปล่อยมันไปเสีย'
'ทรัพย์สินที่ไม่ก่อกำไรถือว่าขาดทุน ยิ่งเธอถือหุ้นไร้อนาคตไว้นานเท่าไร เธอก็ขาดทุนนานเท่านั้น หักใจคัทลอสไปหาตัวที่มีอนาคตดีกว่า'
วิสัยนักลงทุนจะไม่ยอมรับความเสี่ยงที่ไม่ก่อให้เกิดผลตอบแทนเป็นอันขาด ท่านจึงมองการณ์ไกล และเฉียบขาดในทุกการตัดสินใจ
ชนิศาถอนใจหนัก ๆ เมื่อคิดถึงผู้อาวุโสที่เธอเคารพรัก ท่านเป็นตัวอย่างของนักลงทุนที่เธอฝันอยากเดินตาม หญิงสาวปิดหน้าจอกราฟตรงหน้า นิ่งคิดอยู่นานเมื่อเลื่อนนิ้วไปเปิดดูหน้าจอการสนทนาที่เงียบงันมาเกือบ 3 วัน
เมื่อเธอนิ่ง ไม่วิ่งตาม การันต์ก็ไม่ได้ใส่ใจหรือคิดจะทักทาย
นี่คงเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้ว ว่าเธอไม่สามารถเป็นได้แม้ผู้หญิงที่เขาจะยอมให้เดินข้าง ๆ
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นอย่างครุ่นคิด เธอไม่รู้ว่าการันต์คิดอย่างไรกับเหตุการณ์ในคืนนั้น แต่การเงียบเฉยเป็นเรื่องน่าเศร้าเกินไป คล้าย ๆ จะเป็นการลาจากที่เธอเกลียดชัง
เมื่อความสัมพันธ์หนึ่งเดินมาถึงจุดที่ชัดเจนว่าไม่ใช่รัก ใครหลายคนอาจมองว่านี่คือจุดจบ แต่ชนิศาคิดว่าเธอไม่ใช่เด็กน้อยแบบนั้น
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจส่งภาพกราฟสีแดงในตลาดหุ้นไปให้การันต์ คล้ายจะบอกเขาเบา ๆ ว่าเธอยังคงอยู่ตรงนี้ ไม่ได้เดินหายไปไหน
Che'rie : เชรีขอ cutloss ก่อนนะคะ
หญิงสาวเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ลุกจากโต๊ะกินข้าวแล้วเดินกลับมาที่ห้องผ่าตัด พยาบาลพาผู้ป่วยเข้ามาเตรียมไว้พร้อมแล้ว วิสัญญีแพทย์กำลังเตรียมผู้ป่วยสำหรับการดมยาสลบ
ชนิศาเดินเข้าไปข้างเตียง ช่วยเตรียมผู้ป่วยจนดมยาสลบเรียบร้อยจึงเดินไปล้างมือ แต่งตัวเพื่อเข้าช่วยอาจารย์ในการผ่าตัด
การผ่าตัดกินเวลาเกือบห้าชั่วโมง กว่าชนิศาจะส่งคนไข้เรียบร้อยก็เป็นเวลาเย็นมากจนตลาดหุ้นปิดไปด้วยตัวเลขติดลบแล้ว
ชนิศาเปิดหน้าจอมาดูราคาหุ้นในพอร์ตแล้วถอนใจเบา ๆ ก่อนเปลี่ยนไปเปิดอ่านข้อความที่การันต์ตอบกลับมา
Karunt : พี่โดนเทขายแล้วเหรอ
หญิงสาวแค่นหัวเราะเบา ๆ เธอไม่เคยช้อนหุ้นเขาได้อยู่แล้ว
Che'rie : หนูไม่ลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงค่ะ
Che'rie : ยิ่งหุ้นที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในอนาคต ยิ่งไม่ควรถือใหญ่เลย
หน้าจอนิ่งไปเพียงไม่นานก็ปรากฏข้อความตอบ
Karunt : ขอโทษนะคะเชรี หุ้นบริษัทพี่พื้นฐานไม่ดี
Karunt : จะล้มละลายเมื่อไรก็ไม่รู้
ชนิศากลอกตามองฟ้าอย่างอ่อนใจ เขากล้าดีอย่างไรจึงเอ่ยเหมือนตัวเองน่าสงสารแบบนี้ คนอกหักคือเธอต่างหาก เขาจะขอโทษที่ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเธอเพื่ออะไร
หญิงสาวกัดริมฝีปากอย่างไม่ชอบใจ แค่นหัวเราะในคอเบา ๆ
Che'rie : นั้นล่ะค่ะ เชรีถึงต้องรีบขายไงคะ
เธอเกือบเลิกสนใจแล้ว หากเขาจะไม่พิมพ์ตอบกลับมา
Karunt : ขอบคุณมากนะ
Che'rie : เรื่องอะไรคะ
Karunt : ที่เคยช้อนหุ้นไง
ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ อย่างมึนงงเหมือนใครเอาค้อนมาทุบหัว การันต์ช่างเป็นผู้ชายใจดีที่น่าสาปให้ไร้คู่อย่างน่าหมันไส้
มีใครเคยบอกเขาไหมว่าอย่าอ่อนโยนกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก
เพราะความอ่อนโยนของเขาทำให้เธอมีความหวังไม่รู้จบ
หากไม่ใช่เพราะชนิศาคิดแต่จะอ่อยเอาสนุก เธอคงตกหลุมความรู้สึกอีกครั้ง แต่เพราะนี่คือชนิศา ยิ่งเขาใจดีเท่าไร เธอยิ่งหมันไส้และอยากแกล้งมากเท่านั้น
ปลายนิ้วเรียวแตะหน้าจอพิมพ์ข้อความถามอย่างรวดเร็ว
Che'rie : พี่กานต์ชอบไหมคะ ตอนเชรีช้อนหุ้นน่ะ
Che'rie : โดปามีนไม่หลั่งบ้างเลยเหรอคะ
Karunt : คงบอกไม่ได้
Karunt : เป็นความลับของบริษัท
เท่านั้นชนิศาก็หลุดหัวเราะอย่างร้ายกาจ เธอเคยบอกแล้วว่าการไม่ตอบคือคำตอบที่ดีที่สุด และการันต์ก็ยังคงตอบคำถามที่เขาไม่กล้าตอบเธอด้วยวิธีเดิม ๆ
Che'rie : เชรีรู้ว่าพี่กานต์คงหวั่นไหวบ้างล่ะ
Che'rie : สกิลการอ่อยของเชรีไม่ได้ต่ำติดดินเสียหน่อย
Karunt : ก็พี่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา
ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ ในที่สุดเขาก็ยอมรับ
นิสัยมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เสมอ แม้จะบอกว่ารักมั่นกับใครสักเพียงไหน แต่น้ำมันใกล้ไฟ อย่างไรก็คงต้องมีประกายเพลิงบ้าง
ความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความหวั่นไหว ถ้าเมื่อใดที่ตามมาด้วยความผูกพัน การจะเปลี่ยนเป็นรักที่ต้องการครอบครองหรือผูกมัดไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเพียงแต่...ใครคนนั้นจะใจอ่อนสักหน่อย คล้อยตามง่ายอีกสักนิด
Che'rie : จริงๆ ก็อยากเดินต่อนะคะ แต่หนูไม่ใช่ผู้หญิงที่จะวิ่งตามใคร
Che'rie : ถึงจะเคยบอกว่า เวลาหนูรักใคร ไม่ต้องวิ่งตามเพราะหนูจะเดินไปหาเอง แต่มันมีระยะไง
Che'rie : กับคนที่อยากอยู่ข้าง ๆ ถ้าหนูยื่นมือไปจับมือเขาแล้วยังต้องลากเขาเดินไปด้วย มันคงเหนื่อยไป แถมเสี่ยงกับการที่เขาจะสะบัดมือหนูเดินออกไปอีก มันคงไม่ดี
Che'rie : หนูอยากเป็นน้องน้อยที่เดินกะพี่ไปได้นานๆ มากกว่าจะกระชากคอเสื้อพี่ลงมาจูบแล้วมองหน้ากันไม่ติด
หญิงสาวเลือกแล้วที่จะเป็นน้องสาวตัวน้อย ซ่อนตัวอยู่ใต้หน้ากากลูกแมวที่น่ารักและบอบบางให้เขาหันมาเกาคางบ้างเป็นบางเวลา
การันต์ส่งภาพตัวการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ที่ยกนิ้วโป้งอย่างพอใจมาให้ กลับกระตุ้นให้ชนิศาอยากแปลงร่างเป็นนางมารร้ายอีกครั้ง
เธอแกล้งจรดปลายนิ้วพิมพ์ข้อความต่อ
Che'rie : ถึงพี่กานต์จะน่าจูบก็เถอะ
เธออยากรู้ว่าเขาจะตอบอย่างไร หากเขารู้ว่าเธออยากกระโดดเข้าไปให้เขากอดแค่ไหน ผู้ชายคนนี้คงตกใจแน่
บางครั้งชนิศาก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ผิดทวีปหรือเธอเป็นผู้หญิงนิสัยเสียกันแน่ แต่เธอรักการกอดและการสัมผัสเพื่อแสดงความรู้สึก ปลอบโยน หรือกระทั่งแทนความรัก
ในการสัมผัสของเธอคือความพอใจ ไม่ใช่พิศวาส
การันต์กลับส่งภาพตัวการ์ตูนส่งจูบมาให้ เธอได้แต่หัวเราะเบา ๆ
Che'rie : เดี๋ยวก็ลากมาจูบจริงๆหรอกค่ะ
ถ้าเธอทำอย่างนั้น การันต์คงวิ่งหนีไปไม่กล้าคุยกับเธออีกเลย
Karunt : อย่าเด็ดดอกไม้ริมทางกลับบ้านเลย
Karunt : อยู่ไม่นานมันก็เหี่ยว
เขาปฏิเสธเธอได้อย่างชาญฉลาดอีกครั้ง
อาจเพราะเหตุผลนี้ ทำให้เธอไม่สามารถจะปล่อยมือจากเขาได้เสียที
คนที่สามารถพูดคุย หลอกล่อ และโต้ตอบให้เธอยอมรับได้มีอยู่ไม่มากเลย เมื่อพบแล้วเธอจึงอดจะพุ่งตัวเข้าไปหาไม่ได้
Che'rie : แหม่ เห็นตัวเองเป็นดอกไม้ริมทางเหรอคะ
Che'rie : อยู่เป็นต้นโพธิ์ให้หนูซบดีกว่าค่ะ
การันต์ไม่รู้ ชนิศากำลังขอร้องเขาอีกครั้ง
ช่วยยืนข้าง ๆ กัน อยู่เคียงข้างและรับหนูไว้ดูแลได้ไหม
Karunt : ต้นโพธิ์ก็ใหญ่ไป
Karunt : เป็นแค่ลั่นทมเล็กๆแล้วกัน
ชนิศามองหน้าจอแล้วเผลอกัดริมฝีปาก ถอนใจหนัก ๆ อย่างนึกเศร้าในใจ การันต์ไม่รู้แน่ ๆ ว่าชื่อลั่นทมมีความหมายอย่างไร
Che'rie : สรัณทมแปลว่าความรักนะคะ
Karunt :อ่าวเหรอ พึ่งรู้นะเนี่ย
Che'rie : ลั่นทม หรือจำปาลาว เขมรเรียกสรัลทมค่ะ
Che'rie : แปลว่าความรักอันยิ่งใหญ่
Che'rie : ยังจะเป็นอยู่ไหมคะ
Karunt : ขอเปลี่ยนชื่อเป็น ลีลาวดี แทนละกัน
Karunt : แต่ยังเปนต้นเดิมอยู่
ชนิศากลอกตาอย่างอ่อนใจ แบบการันต์นี่ควรเป็นลีลาดีเกินเสียมากกว่า จึงสามารถหลอกล่อและปฏิเสธเธอได้อย่างดีอยู่ทุกครั้ง
Che'rie : เอาที่สบายใจเลยฮะ
Che'rie : เก็บหนูไปปลูกเป็นคุณนายตื่นสายละกันนะคะ
เขาส่งภาพตัวการ์ตูนฉีกยิ้มกว้าง ชูป้ายว่าโอเค
คนรับได้แต่มองพลางถอนใจ
Che'rie : ไม่รู้เลยสินะคะว่าคุณนายตื่นสายน่ะ ขยายตัวเร็วมาก รู้ตัวอีกทีอาจจะแผ่ตัวไปไกลแล้วก็ได้
Che'rie : เห็นดอกสวยๆ จริงๆ ก็มีนิสัยวัชพืชกาฝาก
Karunt : ที่จริงพี่ก็นิสัยแบบตีนตุ๊กแกนะ
Karunt : วางใกล้เสาใกล้กำแพงก็เลื้อยๆไป
คำตอบอย่างตามทันกันทำให้หญิงสาวเผลออมยิ้มบาง ๆ นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ดีของผู้ชายใจอ่อนที่พร้อมจะหวั่นไหวไปกับใครที่เข้าใกล้
น่าเศร้าที่เขาเพียงหวั่นไหว ไม่เคยคิดพัฒนาให้ไกลไปกว่านี้
หรือเป็นเธอเองที่ไร้ความสามารถ จนปัญญาจะเดินไปข้างหัวใจชายหนุ่ม
Che'rie : ถ้าจะทำแบบนี้ เดี๋ยวพี่กานต์จะได้เป็นกิ๊กคนแรกของหนูนะคะ
Karunt : เปนพี่ชายนี่แหละดีแล้ว
Karunt : ไม่มีเลิกกัน
ไม่ว่าเขาจะรู้หรือไม่ แต่ประโยคเดียวนั้นหยุดทุกความคิดของชนิศา
สิ่งที่หญิงสาวเกลียดชังที่สุด คือความเหินห่างจนคนรู้จักกลายเป็นคนแปลกหน้า เธอจึงรักที่จะถือความสัมพันธ์ไว้หลวม ๆ ด้วยหัวใจที่ศรัทธาต่อกันมากกว่า
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เธอชอบเขามาก มากจนกลัวว่าวันหนึ่งหากกลับไปเป็นแค่คนรู้จัก หรือคนเคยรู้จัก เธอคงอดใจหายไม่ได้
เป็นพี่ชาย น่าจะดีที่สุดแล้ว แต่เขาเข้าใจคำว่าพี่ชายในความรู้สึกเธอสักเท่าไรเชียว
Che'rie : นั่นสิคะ
Che'rie : แต่เวลาพี่กานต์อ่อยก็น่ารักดีนะคะ หนูชอบ
Karunt : ขอโทษ ๆ ทำไปไม่รู้ตัว
ชนิศาอมยิ้ม เธออยากบอกว่าผู้ชายทั้งโลกก็อ่อยโดยไม่รู้ตัวกันทั้งนั้น เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่เสี่ยงต่อการคิดไปไกล และมีความไวต่อการเข้าใจภาษาสูง ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงตีความเรื่องราวและการกระทำด้วยนัยยะมากกว่าจะเข้าใจความจริง
Che'rie : ไม่เป็นไรค่ะ หนูเริ่มชินแล้ว
Che'rie : เริ่มมี Dopamine resistant
Che'rie : Switch to oxytocin ดีกว่า
Karunt : ที่หลั่งเวลา breast feeding น่ะเหรอ
ออกซีโทซินเป็นฮอร์โมนเด่นในการให้นมบุตร หลายคนจึงรู้จักในด้านนั้นมากกว่าความโดดเด่นด้านความสัมพันธ์
Che'rie : ใช่ค่ะ
Che'rie : ถ้าโดปามีนคือความรักที่วูบวาบชวนให้เสพติด
Che'rie : ออกซีโทซินคือความผูกพัน ไว้ใจ และศรัทธา
ชนิศารักความรู้สึกแบบนี้ ร่างกายเธอคงผลิตออกซีโทซินมากกว่าปกติ เพราะนี่เป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ทำให้มนุษย์ต้องการการสัมผัส การกอด และการอยู่เคียงข้าง
Karunt : ดีๆ ชอบผูกพัน แต่ไว้ใจพี่ไม่ได้หรอกนะ
คำตอบของเขาทำให้ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ
Che'rie : คิดไม่ซื่อบ้างก็ดีค่ะ เวลาโดพามีนทำงานก็สนุกดี
Karunt : ชอบเล่นกับไฟก็ไม่บอก
ถ้าเขานิยามตัวเองเป็นไฟ ชนิศาคิดว่าการันต์คงเป็นไฟเย็นที่น่าเล่นไม่น้อยเลย
Che'rie : อ้าว นึกว่าพี่กานต์รู้นานแล้วนะคะนี่
Che'rie : ต้องหัดรู้ใจน้องสาวให้มากกว่านี้นะคะ พี่ชาย
Karunt : ก็เห็นเปนลูกแมวไร้เดียงสา
ชนิศาหรี่ตาอย่างเด็กเกเร แค่นหัวเราะในคอกึ่งหยัน ผู้หญิงที่กล้าเอ่ยถึงความคิดและความรู้สึกของตนอย่างตรงไปตรงมาอย่างเธอ ยังสามารถเป็นลูกแมวไร้เดียงสาได้หรือ
Che'rie : หนูเป็นลูกแมวกับคนรักเท่านั้นค่ะ
Che'rie : กะเฮียๆ เขาเมมชื่อหนูในโทรศัพท์ว่า my witch
Karunt : จะโดนเสกเปนหนูมั้ยอะ
Che'rie : ไม่หรอกค่ะ ที่ของปลาไหลอยู่ในถัง
เขาไม่ใช่ปลาไหลตัวพ่อแบบเตชิต แต่ผู้ชายอย่างการันต์ก็ควรจัดอยู่ในกลุ่มปลาไหลที่ใจดีไปทั่วจนทำร้ายใครหลายคนเข้าโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
Karunt : ปล่อยปลาไหล เงินทองไหลมาเทมานะ
ชนิศาชะงักงันจนแทบลืมหายใจ เธอกัดริมฝีปากนานก่อนถอนใจเบา ๆ เมื่อตัดสินใจพิมพ์คำถาม
Che'rie : จะให้ปล่อยใช่ไหมคะ
Che'rie : พี่กานต์เลือกได้เลยค่ะ
Karunt : 555
เขาไม่ตอบ ทั้งที่เธอเคยบอกแล้วว่าการไม่ตอบของเขาเท่ากับคำตอบที่เธอต้องคาดเดาเอง
เมื่อเขาเงียบหายไปนาน เธอจึงพิมพ์ต่ออย่างเกเร
Che'rie : นี่ล่ะค่ะพี่กานต์
Che'rie : ถ้าลำบากใจ หรือไม่อยากตอบ ก็จะทำนิ่งๆ แล้วปล่อยให้ผ่านเลยไป
Che'rie : ตัวอย่างการทรีทพี่ชายของเชรี นี่ฉบับเบามากนะคะ
ชนิศาเป็นเช่นนี้ล่ะ ยิ่งคนที่เธออยากอยู่ใกล้มากเท่าไร เธอยิ่งเปิดเผยตัวตนที่ร้ายกาจและเอาแต่ใจมากเท่านั้น
ประโยชน์อะไรถ้าเธอจะศรัทธาในคนที่ไม่ยอมรับความร้ายกาจของเธอ
ชายหนุ่มหายไปนานจนเธอเลิกใส่ใจ จนเมื่อตื่นมาในตอนเช้าและได้อ่านข้อความในโทรศัพท์อีกครั้ง หญิงสาวจึงได้แต่ถอนใจหนัก ๆ
Karunt : พึ่งเสร็จ OR ค่ะหนู
Karunt : ไม่ได้โดนว่าแบบนี้มานานแล้ว
Karunt : ทุกคนที่ว่าคำนี้คือแฟนเก่าหมดเลย 555
Karunt : ได้เชรีช่วยเตือนอีกแล้วสินะคะ
ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เธอที่ไม่ชอบใจกับนิสัยหลบเลี่ยงของเขา ชนิศาแค่นหัวเราะเบา ๆ ยังคงไม่หยุดทำตัวร้ายกาจด้วยการพิมพ์ข้อความอีกครั้ง
Che'rie : งั้นหนูถามอีกครั้ง ถือว่าสอบค่ะ
Che'rie : อยากให้หนูปล่อยมือป่ะคะ
Che'rie : ไม่ต้องคิดถึงมุมของหนู เอาแค่ความรู้สึกพี่
Che'rie: ความรู้สึกของหนูเป็นหน้าที่ของหนู
เธอไม่ต้องการความใจดีหรือการสงสาร หากเธออยากให้เขาเคียงข้างเธอ เขาจะต้องยืนด้วยศรัทธาในตัวเธอที่เท่าเทียมกัน
นานจนเธอแต่งตัวออกไปราวน์วอร์ดช่วงเช้าเสร็จ จึงได้เห็นข้อความจากเขาอีกครั้ง
Karunt : ปล่อยเลย เป็นเพื่อนพี่น้องกันล่ะดีแล้ว
ชนิศายืนนิ่งมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างเงียบงัน ก่อนตัดสินใจหย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อกาวน์ตัวสั้น เดินไปล้างมืออย่างใจเย็น
การันต์คงไม่รู้ว่าเธอนิยามคำว่าพี่ชายหรือเฮียไว้สูงกว่าที่ใครคาดคิดมาก
ผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอ ไม่เคยใส่ใจกับใครที่เธอไม่ยอมรับและให้ราคา แต่เมื่อเธอใส่ใจจนกลายเป็นวางใจ และศรัทธา หญิงสาวจะเลือกเดินข้าง ๆ เขาด้วยเงื่อนไขประการเดียว คือศรัทธาที่เสมอกัน
พื้นที่ที่เธอยอมให้เขาเข้ามา ต้องเกิดจากการแชร์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่ใครคนหนึ่งจะลากใครเข้าไปได้
กล่าวกันว่า The High Priestess คือไพ่อาภัพรักที่ไม่มีใครอยากได้ แต่ชนิศารู้ว่านี่เป็นหนึ่งในไพ่ที่มารดาใช้แทนตัวเธอ
High Priestess คือเปอร์ซีโฟเน่ เทพธิดาผู้ถูกลักพาตัวลงไปเป็นชายาแห่งฮาเดส เป็นราชินีแห่งยมโลก ถึงเธอจะทุกข์กับความรัก แต่เธอคือเทพธิดา คือราชินีแห่งยมโลก เธอไม่มีวันลงจากบัลลังก์มาวิ่งตามหรือร้องขอความสงสารจากใคร
-----
ชัดเจนชนิด 4D ยังอายนะคะ จริง ๆ ไอซ์ยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกเขรี รู้สึกไหมคะบางทีนางก็แอบหื่น นี่คิดจะแต๊ะอั๋งพี่กานต์ไปกี่รอบแล้วนี่เธอ
คุณคิมหันตุ์ ไอซ์ว่านางไม่ได้ตั้งใจหยอดหรอกค่ะ นางไม่รู้ตัว
คุณ goszy บทหน้านางจะมาละค่ะ มาเร็วเคลมเร็ว หึ ๆ
คุณ SaranyaW ถ้าถามตรง ๆ นางก็ตอบตรง ๆ นี่ล่ะค่ะ ข้อดีของพี่กานต์
ชายหนุ่มถอนใจหนัก ๆ ก่อนมองหน้าเธออย่างเย็นชา
'หยุดพูดให้ดูดีเถอะเชรี พี่เหนื่อยจะคุยกับเธอแล้ว'
เธอและเขาเมินเฉยต่อกันนานจนชนิศามาเรียนต่อ แล้ววันหนึ่งคำว่าคนรักที่ไม่ใช่คนรักก็ทำให้เธอหมดความอดทน
หญิงสาวนัดพบเขาในเย็นวันหนึ่ง เพื่อจะส่งแหวนคืนให้พร้อมคำพูดสั้น ๆ
'เชรีว่า...เราจบกันเท่านี้เถอะค่ะ'
เขานิ่งมองเพียงครู่ ก็เลื่อนแหวนบนโต๊ะมาตรงหน้าเธอ คลี่ยิ้มเย็นชามองแล้วบอกเสียงเรียบ
แม้ในความเดียวดายจะแสนเหงา
แต่มันอาจดีกว่า...การยืนอยู่ท่ามกลางคนรู้จักที่ไม่คุ้นเคย
ชนิศาอ้าปากค้างเมื่อมองหน้าจอภาพกราฟสีแดงที่ดิ่งหัวลงนอนเรียบอยู่ใต้เส้นมาตรฐานอย่างสงบ ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้ร่วงกราวราวใครมาขโมยเงิน พาให้บรรดาหุ้นในพอร์ดหลายตัวเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ง่ายดาย
"คุณพระ...ถ้าปู่เซทจะใจร้ายแบบนี้" หญิงสาวบ่นพึมพำพลางถอนใจหนัก ๆ เผลอคิดถึงผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เธอเคยได้สนทนาในงานสังสรรค์
ผู้อาวุโสรั้งตำแหน่งประธานกรรมการบริหารเครือบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ ท่านยิ้มแล้วตอบคำภามของเธอถึงการลงทุนในหุ้นในเครือที่ท่านบริหาร
'เลือกหุ้นก็เหมือนเลือกคนรัก อย่าเลือกหุ้นที่หนูไม่รู้จักพื้นฐาน อย่ารักคนที่หนูรู้จักไม่หมดทุกมุมของชีวิต'
ตอนนั้นชนิศาอมยิ้ม มองท่านกึ่งล้อ 'เลือกหุ้นยังมีงบการเงินให้ดู เลือกคนรักจะดูอะไรดีล่ะคะ'
ท่านหัวเราะ 'มีใครเคยบอกไหมว่าหนูเป็นพวกดื้อตาใส'
'เชรีเปล่าดื้อนะคะ เชรีสงสัยก็เลยต้องถามไงคะ'
'ดี ๆ เด็กสมัยนี้ต้องกล้าคิด กล้าทำ'
'แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของกาลเทศะ เชรีว่าเชรียังไม่หลุดกรอบนะคะ' หญิงสาวคลี่ยิ้มประจบ
'นี่ไง...งบการเงินของคน' ท่านเอ่ยเสียงนุ่ม 'นิสัยใจคอ ความคิดอ่าน พื้นฐานครอบครัว หนูต้องเรียนรู้ให้รอบ'
ชนิศาเอียงคอ พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย 'แล้วถ้า...เผลอช้อนหุ้นผิดล่ะคะ' เธอถามเล่นเพียงเพื่อต่อบทสนทนามากกว่าจะสนใจจริงจัง
'เคยไหม'
'บ่อยไปค่ะ...เชรีเป็นเด็กดอยค่ะ' เธอทำหน้ายู่ ถอนใจหนัก ๆ 'เชรีหักใจขายไม่ลง'
'พอร์ตแดงไม่ได้แปลว่าขาดทุน แต่แปลว่าเธอต้องประเมินความคุ้มค่าของหุ้นในมือ มองอนาคตของหุ้นอีกครั้ง' ท่านเหยียดริมฝีปากอย่างเฉียบขาด 'ถ้ามองไม่เห็นอนาคต ก็ปล่อยมันไปเสีย'
'ทรัพย์สินที่ไม่ก่อกำไรถือว่าขาดทุน ยิ่งเธอถือหุ้นไร้อนาคตไว้นานเท่าไร เธอก็ขาดทุนนานเท่านั้น หักใจคัทลอสไปหาตัวที่มีอนาคตดีกว่า'
วิสัยนักลงทุนจะไม่ยอมรับความเสี่ยงที่ไม่ก่อให้เกิดผลตอบแทนเป็นอันขาด ท่านจึงมองการณ์ไกล และเฉียบขาดในทุกการตัดสินใจ
ชนิศาถอนใจหนัก ๆ เมื่อคิดถึงผู้อาวุโสที่เธอเคารพรัก ท่านเป็นตัวอย่างของนักลงทุนที่เธอฝันอยากเดินตาม หญิงสาวปิดหน้าจอกราฟตรงหน้า นิ่งคิดอยู่นานเมื่อเลื่อนนิ้วไปเปิดดูหน้าจอการสนทนาที่เงียบงันมาเกือบ 3 วัน
เมื่อเธอนิ่ง ไม่วิ่งตาม การันต์ก็ไม่ได้ใส่ใจหรือคิดจะทักทาย
นี่คงเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้ว ว่าเธอไม่สามารถเป็นได้แม้ผู้หญิงที่เขาจะยอมให้เดินข้าง ๆ
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นอย่างครุ่นคิด เธอไม่รู้ว่าการันต์คิดอย่างไรกับเหตุการณ์ในคืนนั้น แต่การเงียบเฉยเป็นเรื่องน่าเศร้าเกินไป คล้าย ๆ จะเป็นการลาจากที่เธอเกลียดชัง
เมื่อความสัมพันธ์หนึ่งเดินมาถึงจุดที่ชัดเจนว่าไม่ใช่รัก ใครหลายคนอาจมองว่านี่คือจุดจบ แต่ชนิศาคิดว่าเธอไม่ใช่เด็กน้อยแบบนั้น
ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจส่งภาพกราฟสีแดงในตลาดหุ้นไปให้การันต์ คล้ายจะบอกเขาเบา ๆ ว่าเธอยังคงอยู่ตรงนี้ ไม่ได้เดินหายไปไหน
Che'rie : เชรีขอ cutloss ก่อนนะคะ
หญิงสาวเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ลุกจากโต๊ะกินข้าวแล้วเดินกลับมาที่ห้องผ่าตัด พยาบาลพาผู้ป่วยเข้ามาเตรียมไว้พร้อมแล้ว วิสัญญีแพทย์กำลังเตรียมผู้ป่วยสำหรับการดมยาสลบ
ชนิศาเดินเข้าไปข้างเตียง ช่วยเตรียมผู้ป่วยจนดมยาสลบเรียบร้อยจึงเดินไปล้างมือ แต่งตัวเพื่อเข้าช่วยอาจารย์ในการผ่าตัด
การผ่าตัดกินเวลาเกือบห้าชั่วโมง กว่าชนิศาจะส่งคนไข้เรียบร้อยก็เป็นเวลาเย็นมากจนตลาดหุ้นปิดไปด้วยตัวเลขติดลบแล้ว
ชนิศาเปิดหน้าจอมาดูราคาหุ้นในพอร์ตแล้วถอนใจเบา ๆ ก่อนเปลี่ยนไปเปิดอ่านข้อความที่การันต์ตอบกลับมา
Karunt : พี่โดนเทขายแล้วเหรอ
หญิงสาวแค่นหัวเราะเบา ๆ เธอไม่เคยช้อนหุ้นเขาได้อยู่แล้ว
Che'rie : หนูไม่ลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงค่ะ
Che'rie : ยิ่งหุ้นที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในอนาคต ยิ่งไม่ควรถือใหญ่เลย
หน้าจอนิ่งไปเพียงไม่นานก็ปรากฏข้อความตอบ
Karunt : ขอโทษนะคะเชรี หุ้นบริษัทพี่พื้นฐานไม่ดี
Karunt : จะล้มละลายเมื่อไรก็ไม่รู้
ชนิศากลอกตามองฟ้าอย่างอ่อนใจ เขากล้าดีอย่างไรจึงเอ่ยเหมือนตัวเองน่าสงสารแบบนี้ คนอกหักคือเธอต่างหาก เขาจะขอโทษที่ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเธอเพื่ออะไร
หญิงสาวกัดริมฝีปากอย่างไม่ชอบใจ แค่นหัวเราะในคอเบา ๆ
Che'rie : นั้นล่ะค่ะ เชรีถึงต้องรีบขายไงคะ
เธอเกือบเลิกสนใจแล้ว หากเขาจะไม่พิมพ์ตอบกลับมา
Karunt : ขอบคุณมากนะ
Che'rie : เรื่องอะไรคะ
Karunt : ที่เคยช้อนหุ้นไง
ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ อย่างมึนงงเหมือนใครเอาค้อนมาทุบหัว การันต์ช่างเป็นผู้ชายใจดีที่น่าสาปให้ไร้คู่อย่างน่าหมันไส้
มีใครเคยบอกเขาไหมว่าอย่าอ่อนโยนกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก
เพราะความอ่อนโยนของเขาทำให้เธอมีความหวังไม่รู้จบ
หากไม่ใช่เพราะชนิศาคิดแต่จะอ่อยเอาสนุก เธอคงตกหลุมความรู้สึกอีกครั้ง แต่เพราะนี่คือชนิศา ยิ่งเขาใจดีเท่าไร เธอยิ่งหมันไส้และอยากแกล้งมากเท่านั้น
ปลายนิ้วเรียวแตะหน้าจอพิมพ์ข้อความถามอย่างรวดเร็ว
Che'rie : พี่กานต์ชอบไหมคะ ตอนเชรีช้อนหุ้นน่ะ
Che'rie : โดปามีนไม่หลั่งบ้างเลยเหรอคะ
Karunt : คงบอกไม่ได้
Karunt : เป็นความลับของบริษัท
เท่านั้นชนิศาก็หลุดหัวเราะอย่างร้ายกาจ เธอเคยบอกแล้วว่าการไม่ตอบคือคำตอบที่ดีที่สุด และการันต์ก็ยังคงตอบคำถามที่เขาไม่กล้าตอบเธอด้วยวิธีเดิม ๆ
Che'rie : เชรีรู้ว่าพี่กานต์คงหวั่นไหวบ้างล่ะ
Che'rie : สกิลการอ่อยของเชรีไม่ได้ต่ำติดดินเสียหน่อย
Karunt : ก็พี่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา
ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ ในที่สุดเขาก็ยอมรับ
นิสัยมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เสมอ แม้จะบอกว่ารักมั่นกับใครสักเพียงไหน แต่น้ำมันใกล้ไฟ อย่างไรก็คงต้องมีประกายเพลิงบ้าง
ความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความหวั่นไหว ถ้าเมื่อใดที่ตามมาด้วยความผูกพัน การจะเปลี่ยนเป็นรักที่ต้องการครอบครองหรือผูกมัดไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเพียงแต่...ใครคนนั้นจะใจอ่อนสักหน่อย คล้อยตามง่ายอีกสักนิด
Che'rie : จริงๆ ก็อยากเดินต่อนะคะ แต่หนูไม่ใช่ผู้หญิงที่จะวิ่งตามใคร
Che'rie : ถึงจะเคยบอกว่า เวลาหนูรักใคร ไม่ต้องวิ่งตามเพราะหนูจะเดินไปหาเอง แต่มันมีระยะไง
Che'rie : กับคนที่อยากอยู่ข้าง ๆ ถ้าหนูยื่นมือไปจับมือเขาแล้วยังต้องลากเขาเดินไปด้วย มันคงเหนื่อยไป แถมเสี่ยงกับการที่เขาจะสะบัดมือหนูเดินออกไปอีก มันคงไม่ดี
Che'rie : หนูอยากเป็นน้องน้อยที่เดินกะพี่ไปได้นานๆ มากกว่าจะกระชากคอเสื้อพี่ลงมาจูบแล้วมองหน้ากันไม่ติด
หญิงสาวเลือกแล้วที่จะเป็นน้องสาวตัวน้อย ซ่อนตัวอยู่ใต้หน้ากากลูกแมวที่น่ารักและบอบบางให้เขาหันมาเกาคางบ้างเป็นบางเวลา
การันต์ส่งภาพตัวการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ที่ยกนิ้วโป้งอย่างพอใจมาให้ กลับกระตุ้นให้ชนิศาอยากแปลงร่างเป็นนางมารร้ายอีกครั้ง
เธอแกล้งจรดปลายนิ้วพิมพ์ข้อความต่อ
Che'rie : ถึงพี่กานต์จะน่าจูบก็เถอะ
เธออยากรู้ว่าเขาจะตอบอย่างไร หากเขารู้ว่าเธออยากกระโดดเข้าไปให้เขากอดแค่ไหน ผู้ชายคนนี้คงตกใจแน่
บางครั้งชนิศาก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ผิดทวีปหรือเธอเป็นผู้หญิงนิสัยเสียกันแน่ แต่เธอรักการกอดและการสัมผัสเพื่อแสดงความรู้สึก ปลอบโยน หรือกระทั่งแทนความรัก
ในการสัมผัสของเธอคือความพอใจ ไม่ใช่พิศวาส
การันต์กลับส่งภาพตัวการ์ตูนส่งจูบมาให้ เธอได้แต่หัวเราะเบา ๆ
Che'rie : เดี๋ยวก็ลากมาจูบจริงๆหรอกค่ะ
ถ้าเธอทำอย่างนั้น การันต์คงวิ่งหนีไปไม่กล้าคุยกับเธออีกเลย
Karunt : อย่าเด็ดดอกไม้ริมทางกลับบ้านเลย
Karunt : อยู่ไม่นานมันก็เหี่ยว
เขาปฏิเสธเธอได้อย่างชาญฉลาดอีกครั้ง
อาจเพราะเหตุผลนี้ ทำให้เธอไม่สามารถจะปล่อยมือจากเขาได้เสียที
คนที่สามารถพูดคุย หลอกล่อ และโต้ตอบให้เธอยอมรับได้มีอยู่ไม่มากเลย เมื่อพบแล้วเธอจึงอดจะพุ่งตัวเข้าไปหาไม่ได้
Che'rie : แหม่ เห็นตัวเองเป็นดอกไม้ริมทางเหรอคะ
Che'rie : อยู่เป็นต้นโพธิ์ให้หนูซบดีกว่าค่ะ
การันต์ไม่รู้ ชนิศากำลังขอร้องเขาอีกครั้ง
ช่วยยืนข้าง ๆ กัน อยู่เคียงข้างและรับหนูไว้ดูแลได้ไหม
Karunt : ต้นโพธิ์ก็ใหญ่ไป
Karunt : เป็นแค่ลั่นทมเล็กๆแล้วกัน
ชนิศามองหน้าจอแล้วเผลอกัดริมฝีปาก ถอนใจหนัก ๆ อย่างนึกเศร้าในใจ การันต์ไม่รู้แน่ ๆ ว่าชื่อลั่นทมมีความหมายอย่างไร
Che'rie : สรัณทมแปลว่าความรักนะคะ
Karunt :อ่าวเหรอ พึ่งรู้นะเนี่ย
Che'rie : ลั่นทม หรือจำปาลาว เขมรเรียกสรัลทมค่ะ
Che'rie : แปลว่าความรักอันยิ่งใหญ่
Che'rie : ยังจะเป็นอยู่ไหมคะ
Karunt : ขอเปลี่ยนชื่อเป็น ลีลาวดี แทนละกัน
Karunt : แต่ยังเปนต้นเดิมอยู่
ชนิศากลอกตาอย่างอ่อนใจ แบบการันต์นี่ควรเป็นลีลาดีเกินเสียมากกว่า จึงสามารถหลอกล่อและปฏิเสธเธอได้อย่างดีอยู่ทุกครั้ง
Che'rie : เอาที่สบายใจเลยฮะ
Che'rie : เก็บหนูไปปลูกเป็นคุณนายตื่นสายละกันนะคะ
เขาส่งภาพตัวการ์ตูนฉีกยิ้มกว้าง ชูป้ายว่าโอเค
คนรับได้แต่มองพลางถอนใจ
Che'rie : ไม่รู้เลยสินะคะว่าคุณนายตื่นสายน่ะ ขยายตัวเร็วมาก รู้ตัวอีกทีอาจจะแผ่ตัวไปไกลแล้วก็ได้
Che'rie : เห็นดอกสวยๆ จริงๆ ก็มีนิสัยวัชพืชกาฝาก
Karunt : ที่จริงพี่ก็นิสัยแบบตีนตุ๊กแกนะ
Karunt : วางใกล้เสาใกล้กำแพงก็เลื้อยๆไป
คำตอบอย่างตามทันกันทำให้หญิงสาวเผลออมยิ้มบาง ๆ นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ดีของผู้ชายใจอ่อนที่พร้อมจะหวั่นไหวไปกับใครที่เข้าใกล้
น่าเศร้าที่เขาเพียงหวั่นไหว ไม่เคยคิดพัฒนาให้ไกลไปกว่านี้
หรือเป็นเธอเองที่ไร้ความสามารถ จนปัญญาจะเดินไปข้างหัวใจชายหนุ่ม
Che'rie : ถ้าจะทำแบบนี้ เดี๋ยวพี่กานต์จะได้เป็นกิ๊กคนแรกของหนูนะคะ
Karunt : เปนพี่ชายนี่แหละดีแล้ว
Karunt : ไม่มีเลิกกัน
ไม่ว่าเขาจะรู้หรือไม่ แต่ประโยคเดียวนั้นหยุดทุกความคิดของชนิศา
สิ่งที่หญิงสาวเกลียดชังที่สุด คือความเหินห่างจนคนรู้จักกลายเป็นคนแปลกหน้า เธอจึงรักที่จะถือความสัมพันธ์ไว้หลวม ๆ ด้วยหัวใจที่ศรัทธาต่อกันมากกว่า
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เธอชอบเขามาก มากจนกลัวว่าวันหนึ่งหากกลับไปเป็นแค่คนรู้จัก หรือคนเคยรู้จัก เธอคงอดใจหายไม่ได้
เป็นพี่ชาย น่าจะดีที่สุดแล้ว แต่เขาเข้าใจคำว่าพี่ชายในความรู้สึกเธอสักเท่าไรเชียว
Che'rie : นั่นสิคะ
Che'rie : แต่เวลาพี่กานต์อ่อยก็น่ารักดีนะคะ หนูชอบ
Karunt : ขอโทษ ๆ ทำไปไม่รู้ตัว
ชนิศาอมยิ้ม เธออยากบอกว่าผู้ชายทั้งโลกก็อ่อยโดยไม่รู้ตัวกันทั้งนั้น เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่เสี่ยงต่อการคิดไปไกล และมีความไวต่อการเข้าใจภาษาสูง ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงตีความเรื่องราวและการกระทำด้วยนัยยะมากกว่าจะเข้าใจความจริง
Che'rie : ไม่เป็นไรค่ะ หนูเริ่มชินแล้ว
Che'rie : เริ่มมี Dopamine resistant
Che'rie : Switch to oxytocin ดีกว่า
Karunt : ที่หลั่งเวลา breast feeding น่ะเหรอ
ออกซีโทซินเป็นฮอร์โมนเด่นในการให้นมบุตร หลายคนจึงรู้จักในด้านนั้นมากกว่าความโดดเด่นด้านความสัมพันธ์
Che'rie : ใช่ค่ะ
Che'rie : ถ้าโดปามีนคือความรักที่วูบวาบชวนให้เสพติด
Che'rie : ออกซีโทซินคือความผูกพัน ไว้ใจ และศรัทธา
ชนิศารักความรู้สึกแบบนี้ ร่างกายเธอคงผลิตออกซีโทซินมากกว่าปกติ เพราะนี่เป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ทำให้มนุษย์ต้องการการสัมผัส การกอด และการอยู่เคียงข้าง
Karunt : ดีๆ ชอบผูกพัน แต่ไว้ใจพี่ไม่ได้หรอกนะ
คำตอบของเขาทำให้ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ
Che'rie : คิดไม่ซื่อบ้างก็ดีค่ะ เวลาโดพามีนทำงานก็สนุกดี
Karunt : ชอบเล่นกับไฟก็ไม่บอก
ถ้าเขานิยามตัวเองเป็นไฟ ชนิศาคิดว่าการันต์คงเป็นไฟเย็นที่น่าเล่นไม่น้อยเลย
Che'rie : อ้าว นึกว่าพี่กานต์รู้นานแล้วนะคะนี่
Che'rie : ต้องหัดรู้ใจน้องสาวให้มากกว่านี้นะคะ พี่ชาย
Karunt : ก็เห็นเปนลูกแมวไร้เดียงสา
ชนิศาหรี่ตาอย่างเด็กเกเร แค่นหัวเราะในคอกึ่งหยัน ผู้หญิงที่กล้าเอ่ยถึงความคิดและความรู้สึกของตนอย่างตรงไปตรงมาอย่างเธอ ยังสามารถเป็นลูกแมวไร้เดียงสาได้หรือ
Che'rie : หนูเป็นลูกแมวกับคนรักเท่านั้นค่ะ
Che'rie : กะเฮียๆ เขาเมมชื่อหนูในโทรศัพท์ว่า my witch
Karunt : จะโดนเสกเปนหนูมั้ยอะ
Che'rie : ไม่หรอกค่ะ ที่ของปลาไหลอยู่ในถัง
เขาไม่ใช่ปลาไหลตัวพ่อแบบเตชิต แต่ผู้ชายอย่างการันต์ก็ควรจัดอยู่ในกลุ่มปลาไหลที่ใจดีไปทั่วจนทำร้ายใครหลายคนเข้าโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
Karunt : ปล่อยปลาไหล เงินทองไหลมาเทมานะ
ชนิศาชะงักงันจนแทบลืมหายใจ เธอกัดริมฝีปากนานก่อนถอนใจเบา ๆ เมื่อตัดสินใจพิมพ์คำถาม
Che'rie : จะให้ปล่อยใช่ไหมคะ
Che'rie : พี่กานต์เลือกได้เลยค่ะ
Karunt : 555
เขาไม่ตอบ ทั้งที่เธอเคยบอกแล้วว่าการไม่ตอบของเขาเท่ากับคำตอบที่เธอต้องคาดเดาเอง
เมื่อเขาเงียบหายไปนาน เธอจึงพิมพ์ต่ออย่างเกเร
Che'rie : นี่ล่ะค่ะพี่กานต์
Che'rie : ถ้าลำบากใจ หรือไม่อยากตอบ ก็จะทำนิ่งๆ แล้วปล่อยให้ผ่านเลยไป
Che'rie : ตัวอย่างการทรีทพี่ชายของเชรี นี่ฉบับเบามากนะคะ
ชนิศาเป็นเช่นนี้ล่ะ ยิ่งคนที่เธออยากอยู่ใกล้มากเท่าไร เธอยิ่งเปิดเผยตัวตนที่ร้ายกาจและเอาแต่ใจมากเท่านั้น
ประโยชน์อะไรถ้าเธอจะศรัทธาในคนที่ไม่ยอมรับความร้ายกาจของเธอ
ชายหนุ่มหายไปนานจนเธอเลิกใส่ใจ จนเมื่อตื่นมาในตอนเช้าและได้อ่านข้อความในโทรศัพท์อีกครั้ง หญิงสาวจึงได้แต่ถอนใจหนัก ๆ
Karunt : พึ่งเสร็จ OR ค่ะหนู
Karunt : ไม่ได้โดนว่าแบบนี้มานานแล้ว
Karunt : ทุกคนที่ว่าคำนี้คือแฟนเก่าหมดเลย 555
Karunt : ได้เชรีช่วยเตือนอีกแล้วสินะคะ
ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เธอที่ไม่ชอบใจกับนิสัยหลบเลี่ยงของเขา ชนิศาแค่นหัวเราะเบา ๆ ยังคงไม่หยุดทำตัวร้ายกาจด้วยการพิมพ์ข้อความอีกครั้ง
Che'rie : งั้นหนูถามอีกครั้ง ถือว่าสอบค่ะ
Che'rie : อยากให้หนูปล่อยมือป่ะคะ
Che'rie : ไม่ต้องคิดถึงมุมของหนู เอาแค่ความรู้สึกพี่
Che'rie: ความรู้สึกของหนูเป็นหน้าที่ของหนู
เธอไม่ต้องการความใจดีหรือการสงสาร หากเธออยากให้เขาเคียงข้างเธอ เขาจะต้องยืนด้วยศรัทธาในตัวเธอที่เท่าเทียมกัน
นานจนเธอแต่งตัวออกไปราวน์วอร์ดช่วงเช้าเสร็จ จึงได้เห็นข้อความจากเขาอีกครั้ง
Karunt : ปล่อยเลย เป็นเพื่อนพี่น้องกันล่ะดีแล้ว
ชนิศายืนนิ่งมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างเงียบงัน ก่อนตัดสินใจหย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อกาวน์ตัวสั้น เดินไปล้างมืออย่างใจเย็น
การันต์คงไม่รู้ว่าเธอนิยามคำว่าพี่ชายหรือเฮียไว้สูงกว่าที่ใครคาดคิดมาก
ผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอ ไม่เคยใส่ใจกับใครที่เธอไม่ยอมรับและให้ราคา แต่เมื่อเธอใส่ใจจนกลายเป็นวางใจ และศรัทธา หญิงสาวจะเลือกเดินข้าง ๆ เขาด้วยเงื่อนไขประการเดียว คือศรัทธาที่เสมอกัน
พื้นที่ที่เธอยอมให้เขาเข้ามา ต้องเกิดจากการแชร์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่ใครคนหนึ่งจะลากใครเข้าไปได้
กล่าวกันว่า The High Priestess คือไพ่อาภัพรักที่ไม่มีใครอยากได้ แต่ชนิศารู้ว่านี่เป็นหนึ่งในไพ่ที่มารดาใช้แทนตัวเธอ
High Priestess คือเปอร์ซีโฟเน่ เทพธิดาผู้ถูกลักพาตัวลงไปเป็นชายาแห่งฮาเดส เป็นราชินีแห่งยมโลก ถึงเธอจะทุกข์กับความรัก แต่เธอคือเทพธิดา คือราชินีแห่งยมโลก เธอไม่มีวันลงจากบัลลังก์มาวิ่งตามหรือร้องขอความสงสารจากใคร
-----
ชัดเจนชนิด 4D ยังอายนะคะ จริง ๆ ไอซ์ยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกเขรี รู้สึกไหมคะบางทีนางก็แอบหื่น นี่คิดจะแต๊ะอั๋งพี่กานต์ไปกี่รอบแล้วนี่เธอ
คุณคิมหันตุ์ ไอซ์ว่านางไม่ได้ตั้งใจหยอดหรอกค่ะ นางไม่รู้ตัว
คุณ goszy บทหน้านางจะมาละค่ะ มาเร็วเคลมเร็ว หึ ๆ
คุณ SaranyaW ถ้าถามตรง ๆ นางก็ตอบตรง ๆ นี่ล่ะค่ะ ข้อดีของพี่กานต์
ชายหนุ่มถอนใจหนัก ๆ ก่อนมองหน้าเธออย่างเย็นชา
'หยุดพูดให้ดูดีเถอะเชรี พี่เหนื่อยจะคุยกับเธอแล้ว'
เธอและเขาเมินเฉยต่อกันนานจนชนิศามาเรียนต่อ แล้ววันหนึ่งคำว่าคนรักที่ไม่ใช่คนรักก็ทำให้เธอหมดความอดทน
หญิงสาวนัดพบเขาในเย็นวันหนึ่ง เพื่อจะส่งแหวนคืนให้พร้อมคำพูดสั้น ๆ
'เชรีว่า...เราจบกันเท่านี้เถอะค่ะ'
เขานิ่งมองเพียงครู่ ก็เลื่อนแหวนบนโต๊ะมาตรงหน้าเธอ คลี่ยิ้มเย็นชามองแล้วบอกเสียงเรียบ
ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ต.ค. 2559, 16:27:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ต.ค. 2559, 16:27:55 น.
จำนวนการเข้าชม : 1100
<< บทที่ 10 The Tower | บทที่ 12 The Chariot >> |
คิมหันตุ์ 13 ต.ค. 2559, 20:51:06 น.
ก็ดีนะคะ ที่ชัดเจน อย่างที่เชรีพูด. นางไม่ตั้งใจหยอดหรอก แต่ผู้หญิงเป็นเพศที่คิดเข้าข้างตัวเองไปไกล ตัดใจตอนนี้ เปิดตัวความร้ายกาจใส่กันไปเลย อิอิ
ก็ดีนะคะ ที่ชัดเจน อย่างที่เชรีพูด. นางไม่ตั้งใจหยอดหรอก แต่ผู้หญิงเป็นเพศที่คิดเข้าข้างตัวเองไปไกล ตัดใจตอนนี้ เปิดตัวความร้ายกาจใส่กันไปเลย อิอิ
sai 14 ต.ค. 2559, 13:22:01 น.
พี่ชายยั่งยืนจริงหรือเชรี แต่เราเห็นด้วยกับเชรีนะ เรื่องศรัทธาที่เท่าเทียมกัน เมื่อเป็นศรัทธาของคนใดคนหนึ่งนั้น ต้องมีสักฝ่ายที่ปล่อยมือ เพราะมนุษย์มีความคาดหวัง
พี่ชายยั่งยืนจริงหรือเชรี แต่เราเห็นด้วยกับเชรีนะ เรื่องศรัทธาที่เท่าเทียมกัน เมื่อเป็นศรัทธาของคนใดคนหนึ่งนั้น ต้องมีสักฝ่ายที่ปล่อยมือ เพราะมนุษย์มีความคาดหวัง