เล่ห์บุพเพ
พันธนาการที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรัก ทำให้มนต์พระจันทร์ต้องการอิสรภาพคืน ทว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อการพบกันอีกครั้งระหว่างเธอและเขามีกฏเกณฑ์ทางหน้าที่กำหนดไว้ว่าระหว่างคอนซัลและวิศวกรห้ามมีความสัมพันธ์กันนอกเหนือจากเพื่อนร่วมงานธรรมดา มนต์พระจันทร์จึงไม่อาจทวงถามถึงอิสรภาพที่รอคอยได้เสียที ในขณะที่วิณรุจน์เองก็ทำราวกับไม่รู้จักเธอ..ซ้ำยังกลายมาเป็นชู้ เรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้น
ตัวอย่างจ้า
"อยากหย่านักใช่มั้ย" วิณรุจน์เอ่ยถามหลังจากมีโอกาสอยู่กันตามลำพัง
"ค่ะ ทะเบียนสมรสมันทำให้พระจันทร์ลำบาก"เธอเอ่ยราบเรียบ
ตัวอย่างจ้า
"อยากหย่านักใช่มั้ย" วิณรุจน์เอ่ยถามหลังจากมีโอกาสอยู่กันตามลำพัง
"ค่ะ ทะเบียนสมรสมันทำให้พระจันทร์ลำบาก"เธอเอ่ยราบเรียบ
Tags: มนต์พระจันทร์/วิณรุจน์/คอนซัล/โปรเจ็คแมนเนเจอร์
ตอน: บทที่7----------เล่ห์บุพเพ--------70%
ต่อจ้าจากตอนที่แล้วค่ะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนะคะ..รจนาไฉน
------------------------------------------------------------------------
เสียงรองเท้าส้นแหลมกระทบพื้นชั่วคราวเป็นจังหวะสม่ำเสมอขณะที่ก้าวเข้ามาในแผนกบัญชี ดวงตางามกวาดสายตามองหาคนที่ต้องการพบนิดก่อนจะยิ้มเยือนให้คนใกล้ตัวที่มองเธอตาไม่กระดิก
“คุณเดือนฉายอยู่รึเปล่าคะ” เธอถามพร้อมทั้งนึกขันสาวแผนกบัญชีนางนี้ที่มองเธอจนแทบจะเป็นจ้อง เพราะอะไรน่ะเหรอ ดูจากการแต่งตัวและท่าทางทะมัดทะแมง ไว้ผมรองทรงเหนือหูเล็กน้อยแล้ว เธอคนนี้กระเดียดไปทางผู้ชายมากกว่าจะเป็นสาวน้อยน่ารัก
“อยู่...ค่ะ ทางโน้น” เธอตอบตะกุกตะกัก พร้อมทั้งชึ้นิ้วไปยังมุมกาแฟประจำแผนกซึ่งมีร่างเพรียวของคนที่เธอตามหานั่งจิบกาแฟอยู่อย่างสบายใจ
“ขอบคุณนะคะ” มนต์พระจันทร์ส่งยิ้มสวยๆเป็นการตอบแทนก่อนจะก้าวฉับๆไปที่มุมกาแฟ
“ฉันมาขอเอกสารสรุปรายจ่ายงบเดือนนี้ค่ะ คุณเดือนฉาย” เธอเอ่ยถึงจุดประสงค์ทันทีที่เหยียบเท้าเข้ามุมกาแฟ เดือนฉายปรายหางตามองเธอนิดก่อนจะเชิดหน้าขึ้นแล้วจิบกาแฟต่อราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่มนต์พระจันทร์พูด
“ฉันยังไม่ว่าง ถ้าอยากได้...ก็รอก่อน” เดือนฉายตอบด้วยท่าทีหยิ่งๆพร้อมยักไหล่แบบไม่แยแสเธอ
เธอไม่ชอบที่ปรึกษาคนใหม่เอาซะเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะมนต์พระจันทร์สวยกว่าเธอน่ะสิ แล้วที่สำคัญมนต์พระจันทร์ก็สามารถดึงสายตาของวิณรุจน์ได้บ่อยครั้ง ซ้ำยังทำให้สิงห์ยิ้มยากอย่างวิณรุจน์ปล่อยรอยยิ้มที่หาดูได้ยากนักออกมา จะไม่ให้เธอชังน้ำหน้าได้อย่างไร
มนต์พระจันทร์ถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้ ผู้หญิงคนนี้ถึงไม่ชอบขี้หน้าเธอ มือบางยกขึ้นดูนาฬิกาที่
ข้อมือก่อนจะเอ่ยราบเรียบแต่กลับทำให้เดือนฉายเดือนดาล
“ฉันให้เวลาคุณห้านาทีเพื่อหยิบเอกสาร”
“นี่เธอ! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาสั่งฉัน แล้วเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย” เดือนฉายโต้กลับเดือดปุดๆขึ้นมาทันควัน
“คุณเข้าใจความหมายของคำว่า..ทีมเวิร์ครึเปล่า” เธอกอดอกมองเดือนฉายนิดก่อนจะพูดต่อเมื่ออีกฝ่ายมองเธอตาวาวโรจน์
“เราทำงานกันเป็นทีม เมื่อเพื่อนในทีมเจอปัญหา ฉันก็ต้องช่วย” เธออธิบายให้ฟังใบหน้าเรียบนิ่ง
เดือนฉายเต้นเร่าขึ้นมาทันควัน วางแก้วกาแฟกระแทกกับโต๊ะเสียงดังปังเพราะถูกเหน็บหาว่าเธอโง่เง่า
ทั้งแผนกหันมามองทั้งสองเป็นจุดเดียว บางคนก็สมน้ำหน้าเดือนฉาย บางรายก็อยากรู้ว่าใครกันที่กล้าวัดฝีปากกับเดือนฉาย
“ถ้าอยากได้ก็ไปหาเอาเอง! อยากรู้นัก ถ้าฉันไม่ให้แล้วเธอจะทำไม” เดือนฉายลอยหน้าลอยตาตอบไม่ยอมเช่นกัน พร้อมทั้งเหยียดยิ้มอย่างผู้มีชัยเมื่อเห็นมนต์พระจันทร์เงียบไปไม่ตอบโต้กลับก่อนจะหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“คุณรู้มั้ยว่าขอบเขตในหน้าที่ของฉันไม่ได้จำกัดเฉพาะส่วน บางทีรายงานประจำเดือนนี้ฉันคงจะต้องเพิ่มจุดอ่อนที่ทำให้การประสานงานล่าช้าเข้าไปบ้าง ทั้งที่มันไร้สาระ...คุณว่ามั้ย” มนต์พระจันทร์พูดขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงราบเรียบอีกทั้งยังส่งยิ้มหวานให้คนฟังอีกด้วย
“เธอขู่ฉันเหรอ!” เดือนฉายพูดด้วยความกราดเกรี้ยว ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาไม่เคยมีใครกล้าต่อกรกับเธอซักคน
แม้จะรู้ดีว่าตัวเองเป็นพนักงานของบริษัทออลอินวัน คอนสตรัคชั่น แต่งานนี้เป็นโครงการของทางรัฐบาลซึ่งทางรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะขอเปลี่ยนตัวพนักงานใหม่ได้ทุกแผนกถ้าประสบปัญหา ซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นแน่ เพราะนั่นหมายความว่าเธอจะถูกส่งให้กลับไปที่บริษัทแม่หรือไม่ก็ย้ายไปประจำไซต์อื่นแล้วเธอก็จะเสียโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับวิณรุจน์ไปหนึ่งปี
“เปล่าค่ะ ฉันพูดจริง เหลือเวลาอีกหนึ่งนาที” เธอตอบหน้าตาเฉย เดือนฉายจำต้องรีบลุกไปหยิบเอกสารฉบับนั้นมาให้มนต์พระจันทร์แม้จะไม่เต็มใจก็ตามทีพร้อมทั้งวางแบบกระแทกกระทั้นใส่มือบาง
“ขอบคุณ” มนต์พระจันทร์กล่าวพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เธอตั้งท่าจะหมุนกลับทางเดิมทว่าคล้ายกับเพิ่งนึกบางอย่างได้จึงหันมาพูดต่อ “หวังว่าครั้งหน้า ฉันคงไม่ต้องมาตามงานถึงที่แผนก” พอพูดจบร่างบางก็ก้าวฉับๆจากมาทันที
เดือนฉายถึงกับกัดฟันกรอดกำมือแน่น ทั้งเจ็บใจทั้งแค้นที่มนต์พระจันทร์ทำให้เธอต้องอับอายขายขี้หน้าพนักงานคนอื่นๆ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน”
ภายนอกดูเรียบร้อยอ่อนหวาน ทว่าความจริงแล้วมนต์พระจันทร์ไม่ได้หวานอย่างที่ตาเห็น เขี้ยวเล็บคมใช่ย่อย ต่อไปถ้าเธอจะเล่นงานแม่นี่คงต้องวางแผนให้ดีและรัดกุมกว่านี้ ไม่งั้น..ไม่มีทางชนะง่ายๆแน่
--------------------------------------------------------------------------ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ----------------------------
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนะคะ..รจนาไฉน
------------------------------------------------------------------------
เสียงรองเท้าส้นแหลมกระทบพื้นชั่วคราวเป็นจังหวะสม่ำเสมอขณะที่ก้าวเข้ามาในแผนกบัญชี ดวงตางามกวาดสายตามองหาคนที่ต้องการพบนิดก่อนจะยิ้มเยือนให้คนใกล้ตัวที่มองเธอตาไม่กระดิก
“คุณเดือนฉายอยู่รึเปล่าคะ” เธอถามพร้อมทั้งนึกขันสาวแผนกบัญชีนางนี้ที่มองเธอจนแทบจะเป็นจ้อง เพราะอะไรน่ะเหรอ ดูจากการแต่งตัวและท่าทางทะมัดทะแมง ไว้ผมรองทรงเหนือหูเล็กน้อยแล้ว เธอคนนี้กระเดียดไปทางผู้ชายมากกว่าจะเป็นสาวน้อยน่ารัก
“อยู่...ค่ะ ทางโน้น” เธอตอบตะกุกตะกัก พร้อมทั้งชึ้นิ้วไปยังมุมกาแฟประจำแผนกซึ่งมีร่างเพรียวของคนที่เธอตามหานั่งจิบกาแฟอยู่อย่างสบายใจ
“ขอบคุณนะคะ” มนต์พระจันทร์ส่งยิ้มสวยๆเป็นการตอบแทนก่อนจะก้าวฉับๆไปที่มุมกาแฟ
“ฉันมาขอเอกสารสรุปรายจ่ายงบเดือนนี้ค่ะ คุณเดือนฉาย” เธอเอ่ยถึงจุดประสงค์ทันทีที่เหยียบเท้าเข้ามุมกาแฟ เดือนฉายปรายหางตามองเธอนิดก่อนจะเชิดหน้าขึ้นแล้วจิบกาแฟต่อราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่มนต์พระจันทร์พูด
“ฉันยังไม่ว่าง ถ้าอยากได้...ก็รอก่อน” เดือนฉายตอบด้วยท่าทีหยิ่งๆพร้อมยักไหล่แบบไม่แยแสเธอ
เธอไม่ชอบที่ปรึกษาคนใหม่เอาซะเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะมนต์พระจันทร์สวยกว่าเธอน่ะสิ แล้วที่สำคัญมนต์พระจันทร์ก็สามารถดึงสายตาของวิณรุจน์ได้บ่อยครั้ง ซ้ำยังทำให้สิงห์ยิ้มยากอย่างวิณรุจน์ปล่อยรอยยิ้มที่หาดูได้ยากนักออกมา จะไม่ให้เธอชังน้ำหน้าได้อย่างไร
มนต์พระจันทร์ถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้ ผู้หญิงคนนี้ถึงไม่ชอบขี้หน้าเธอ มือบางยกขึ้นดูนาฬิกาที่
ข้อมือก่อนจะเอ่ยราบเรียบแต่กลับทำให้เดือนฉายเดือนดาล
“ฉันให้เวลาคุณห้านาทีเพื่อหยิบเอกสาร”
“นี่เธอ! คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาสั่งฉัน แล้วเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย” เดือนฉายโต้กลับเดือดปุดๆขึ้นมาทันควัน
“คุณเข้าใจความหมายของคำว่า..ทีมเวิร์ครึเปล่า” เธอกอดอกมองเดือนฉายนิดก่อนจะพูดต่อเมื่ออีกฝ่ายมองเธอตาวาวโรจน์
“เราทำงานกันเป็นทีม เมื่อเพื่อนในทีมเจอปัญหา ฉันก็ต้องช่วย” เธออธิบายให้ฟังใบหน้าเรียบนิ่ง
เดือนฉายเต้นเร่าขึ้นมาทันควัน วางแก้วกาแฟกระแทกกับโต๊ะเสียงดังปังเพราะถูกเหน็บหาว่าเธอโง่เง่า
ทั้งแผนกหันมามองทั้งสองเป็นจุดเดียว บางคนก็สมน้ำหน้าเดือนฉาย บางรายก็อยากรู้ว่าใครกันที่กล้าวัดฝีปากกับเดือนฉาย
“ถ้าอยากได้ก็ไปหาเอาเอง! อยากรู้นัก ถ้าฉันไม่ให้แล้วเธอจะทำไม” เดือนฉายลอยหน้าลอยตาตอบไม่ยอมเช่นกัน พร้อมทั้งเหยียดยิ้มอย่างผู้มีชัยเมื่อเห็นมนต์พระจันทร์เงียบไปไม่ตอบโต้กลับก่อนจะหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“คุณรู้มั้ยว่าขอบเขตในหน้าที่ของฉันไม่ได้จำกัดเฉพาะส่วน บางทีรายงานประจำเดือนนี้ฉันคงจะต้องเพิ่มจุดอ่อนที่ทำให้การประสานงานล่าช้าเข้าไปบ้าง ทั้งที่มันไร้สาระ...คุณว่ามั้ย” มนต์พระจันทร์พูดขึ้นบ้างด้วยน้ำเสียงราบเรียบอีกทั้งยังส่งยิ้มหวานให้คนฟังอีกด้วย
“เธอขู่ฉันเหรอ!” เดือนฉายพูดด้วยความกราดเกรี้ยว ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาไม่เคยมีใครกล้าต่อกรกับเธอซักคน
แม้จะรู้ดีว่าตัวเองเป็นพนักงานของบริษัทออลอินวัน คอนสตรัคชั่น แต่งานนี้เป็นโครงการของทางรัฐบาลซึ่งทางรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะขอเปลี่ยนตัวพนักงานใหม่ได้ทุกแผนกถ้าประสบปัญหา ซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นแน่ เพราะนั่นหมายความว่าเธอจะถูกส่งให้กลับไปที่บริษัทแม่หรือไม่ก็ย้ายไปประจำไซต์อื่นแล้วเธอก็จะเสียโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับวิณรุจน์ไปหนึ่งปี
“เปล่าค่ะ ฉันพูดจริง เหลือเวลาอีกหนึ่งนาที” เธอตอบหน้าตาเฉย เดือนฉายจำต้องรีบลุกไปหยิบเอกสารฉบับนั้นมาให้มนต์พระจันทร์แม้จะไม่เต็มใจก็ตามทีพร้อมทั้งวางแบบกระแทกกระทั้นใส่มือบาง
“ขอบคุณ” มนต์พระจันทร์กล่าวพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เธอตั้งท่าจะหมุนกลับทางเดิมทว่าคล้ายกับเพิ่งนึกบางอย่างได้จึงหันมาพูดต่อ “หวังว่าครั้งหน้า ฉันคงไม่ต้องมาตามงานถึงที่แผนก” พอพูดจบร่างบางก็ก้าวฉับๆจากมาทันที
เดือนฉายถึงกับกัดฟันกรอดกำมือแน่น ทั้งเจ็บใจทั้งแค้นที่มนต์พระจันทร์ทำให้เธอต้องอับอายขายขี้หน้าพนักงานคนอื่นๆ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน”
ภายนอกดูเรียบร้อยอ่อนหวาน ทว่าความจริงแล้วมนต์พระจันทร์ไม่ได้หวานอย่างที่ตาเห็น เขี้ยวเล็บคมใช่ย่อย ต่อไปถ้าเธอจะเล่นงานแม่นี่คงต้องวางแผนให้ดีและรัดกุมกว่านี้ ไม่งั้น..ไม่มีทางชนะง่ายๆแน่
--------------------------------------------------------------------------ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ----------------------------

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ต.ค. 2559, 20:56:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ต.ค. 2559, 20:57:08 น.
จำนวนการเข้าชม : 1226
<< บทที่7----------เล่ห์บุพเพ--------30% | บทที่7----------เล่ห์บุพเพ--------100% >> |

Kim 15 ต.ค. 2559, 02:47:45 น.
รับมือกับคนที่จ้องจะหาเรื่องบางทีมันก็ไม่ง่าย ครั้งนี้จบไปแต่ก็ต้องระวังครั้งต่อไปด้วยนะมนต์พระจันทร์
รับมือกับคนที่จ้องจะหาเรื่องบางทีมันก็ไม่ง่าย ครั้งนี้จบไปแต่ก็ต้องระวังครั้งต่อไปด้วยนะมนต์พระจันทร์
