อัมฮารา...สุดปลายทางที่ความรัก (สนพ.ที่รัก)
เพราะคู่หมั้นหายตัวลึกลับในระหว่างปฏิบัติหน้าที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ธารวารีจึงต้องออกตามหา โดยไม่รู้ว่านายพีคนจรที่คอยตามติด คือน้องชายของคู่หมั้นที่จากกันไปนานกว่าสิบปี สองหนุ่มสาวกับการเดินทางในดินแดนอารยธรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก...อัมฮารา
Tags: ตามรักสุดแดนตะวัน อัมฮารา รักดราม่า ผจญภัย

ตอน: บทที่ 2/2 เฉียด



ธารวารีสำรวจตรวจตราความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกแผงยาวในห้องน้ำ ซองเอกสารและกระเป๋าถือวางไว้อยู่ข้าง ๆ กัน ดวงตาสีสนิมสดใสขึ้นหลังจากถอดคอนแทกเลนส์คู่ใหม่ออก แล้วเปลี่ยนมาใส่แว่นสายตาสั้นกรอบเล็กตามเดิม หล่อนมองตัวเองแล้วก็ได้แต่นึกปลง

หรือว่าควรไปทำเลสิกก่อนไปจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวล ธารวารีลูบไล้ดวงหน้าชุ่มน้ำ แล้วทำหน้าเหยเก ไม่ดีแน่ถ้าเกิดหายไม่ทันจะแย่ ร่างบอบบางมองตัวเองแล้วก็ได้แต่หน้าเครียด

“เดือนหน้ารีก็จะสามสิบแล้วนะพี่รุจ อีกไม่นานตีนกาก็จะมาเยือนแล้ว ไหนสัญญาว่าจะกลับมาตั้งแต่ปีที่แล้วไง ทำไมถึงผิดสัญญา อีกสิบกว่าวันรีจะไปหาแล้วนะ พี่รุจยังจำสัญญาของเราได้ใช่ไหม”

ช่างภาพสาวพึมพำกับตัวเอง มองกระจกแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเดินออกจากห้องน้ำ แล้วก็เจอเข้ากับเจ้าหน้าที่สองคนเดินสวนเข้าไป หญิงสาวหยุดยืนหน้าประตูห้องน้ำ ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแต่คำพูดที่ได้ยินพาดพิงคุณหมอสาวที่เพิ่งฉีดยาให้หล่อนเมื่อครู่นั่นเรียกความสนใจได้ชะงัด

“นี่เธอเห็นรึเปล่า หมอวาเจ้าระเบียบหน้าแดงตาแดงกลับมาที่ห้องเมื่อกี้นี้”

“เห็น ๆ ใครไปทำอะไรให้ล่ะ ปกติชอบทำเข้มจะตาย” เสียงแหลมของอีกคนพูดกลั้วหัวเราะ

ธารวารีนึกถึงเมื่อครู่ที่เดินสวนกับชายหนุ่มมาดเซอร์หน้าประตูห้องนภัทร แล้วนึกประมวลภาพตาม

“เห็นเขาว่ากันว่าผู้ชายที่มาถามหาหมอวาเมื่อกี้น่ะ เป็นหมอเหมือนกัน รู้สึกจะเป็นเพื่อนเรียนกันมาจากออสเตรเลีย ฉันเห็นนะผู้ชายคนนั้นวิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องพักหมอนภัทร แล้วหมอวาตามออกมาหน้าเศร้าเชียว เห็นแล้วก็สงสาร ท่าทางจะแฟนกันทะเลาะกัน”

“ห๊า! คนนั้นน่ะนะ ได้ข่าวว่าเป็นน้องคุณหมอรุจิภพด้วยนะ”

“จริงหรือ โอย! บ้านนี้หล่อทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ ถึงว่าหมอวาทำตัวดุไม่คบกับใครเพราะคนนี้นี่เอง”

“จริงสิ แล้วแบบนี้จะดุแฟนตัวเองไหมนะ”

“เรื่องแบบนี้ก็ต้องอ่อนหวานสิยะ ขืนทำตัวน่าเบื่อผู้ชายหายหนีกันหมดแน่ ใครเขาก็รู้กันหมด พวกที่มาจากออสเตรเลียเล่าว่าหมอวาตัวติดกับผู้ชายคนนี้อย่างกับตังเม ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่เห็นว่าโดนปฏิเสธก็เลยกลับมาอยู่เมืองไทยนะสิ”

“อย่างนี้ก็แห้วเข่งใหญ่น่ะสิ”

“ก็ไม่รู้สินะ ของแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ”

เสียงห้าวของพนักงานหญิงจีบปากจีบคอ ตามด้วยเสียงหัวเราะเล็กแหลมของอีกคน ธารวารีถอนหายใจอย่างนึกปลง ไม่ว่าจะที่ไหนเรื่องนินทากาเลก็ไม่พ้นเรื่องชอบกลของคนในที่ทำงาน

มีปากสักแต่ว่านินทา ไม่รู้สนุกตรงไหนหรือเพราะไม่ใช่เรื่องของตัว ธารวารีส่ายหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะเดินย้อนไปยังอีกทางที่ชายหนุ่มในบทสนทนาเมื่อครู่เพิ่งสวนไปพอดี



ภูบดีออกตามหาคู่หมั้นพี่ชายอย่างร้อนใจ ทั้งจุดรอหนังสือรับรองก็ไม่พบ ทั่วโรงพยาบาลก็ไม่เห็นแม้แต่เงาผู้หญิงตาสีสนิมแต่งกายสไตล์อินดี้คนนั้น

น่าจะจำหล่อนได้ตั้งแต่เห็นกันเมื่อครู่ แต่เขาเองที่ไม่เฉลียวใจสักนิด!

หล่อนโตแล้วไม่เหมือนก่อน ผมยาวตรงผูกรวบเป็นหางม้ามวยสูงทัดปิ่นผมไม้ รูปร่างอรชรสูงกว่ามาตรฐานหญิงไทย กางเกงยีนส์ซีดขาเล็กกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว กับรองเท้าผ้าใบสีขาวแลดูทะมัดทะแมงจนเขาอดยิ้มไม่ได้ยามนึกถึงหล่อนในอดีต
ขนาดเจอกันแค่เสี้ยววินาที เขายังจดจำรายละเอียดของหล่อนได้มากถึงเพียงนี้ ภูบดีถึงกับกุมขมับ หากไม่มีเสียงแทรกเข้ามาทำให้ความคิดคำนึงต้องยุติ

“ที่จริงก็ไม่เห็นยาก อยากเจอก็ไปหาที่บ้านสิ”

เป็นทิวาที่ยืนรออยู่ หญิงสาวร่างเล็กในชุดกาวน์สีขาวขยับแว่นสายตาดูเหมือนประหม่าเวลาพูด ภูบดีเดินเข้าไปหาหล่อน

“ขอโทษนะวา ที่เมื่อกี้เราพูดไม่ดี”

“ภูก็เป็นแบบนี้ประจำ เราชินแล้ว” ทิวาต่อให้ “ไม่ต้องคิดมาก ถ้ายังไม่อยากกลับบ้านไปพักที่คอนโดเราก่อนก็ได้ มีห้องว่างหนึ่งห้อง”

“ไม่ละ ไม่อยากรบกวน คนอื่นจะมองวาไม่ดี เราค่อยเช่าโรงแรมได้”

ภูบดียักไหล่ เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่ลงเครื่องมาเมื่อเช้ามืดก็เช็คอินโรงแรมใกล้ ๆ โรงพยาบาล ตั้งใจว่าจะมาหาหล่อนและนภัทร เพื่อนรุ่นพี่สมัยเด็กและมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของคู่หมั้นพี่ชาย

“แล้วนึกยังไงมาหา หรือว่าตัดสินใจได้แล้วว่าจะเริ่มงานที่ไหน”

“ยังหรอกขอว่างสักเดือน เอ้า... นี่ เราซื้อมาฝาก”

ล้วงหยิบบางสิ่งในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตยื่นส่งให้ ทิวารับไปเปิดดูท่าทางตื่นเต้น ชายหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกงสองข้างรอดูปฏิกิริยาหล่อนจะว่าอย่างไรเมื่อเห็นของที่อยู่ด้านใน คุณหมอสาวแสนเข้มในสายตาใครต่อใครก็กระโดดเข้ากอดคอเขาแน่น

“ว้าว! ดาร์กช็อกโกไดวาของชอบเรา ขอบคุณนะภู รู้ใจเราตลอดเลย”

“เฮ้ย! ไม่เป็นไรๆ ปล่อยก่อนอายคน”

ภูบดีเหลียวซ้ายแลขวาหน้าไม่สู้ดีเมื่อเห็นสายตาคนผ่านไปมาเริ่มมอง รีบดึงมือหล่อนออกจากการกอดรัด

“ก็เราดีใจ” หล่อนตอบอ้อมแอ้ม

“พอดีนึกได้ตอนรอเครื่องที่ซิดนีย์ ทีแรกว่าจะซื้อน้ำหอมมาฝาก แต่ไม่แน่ใจว่าวาชอบกลิ่นไหน เลยเอาของกินนี่แหละ ง่ายที่สุด”

“ขอบใจนะ ภูรู้ใจเราที่สุด เย็นนี้ไปกินข้าวกัน เราเลี้ยงเองแต่ว่าคงต้องรอหน่อย มีงานอีกเยอะเหมือนกัน แล้วเราค่อยโทรหา ภูอย่าไปไกลแถวนี้เป็นพอ”

“ไม่รู้จะไปไหน ไม่มีรถ ไม่อยากขึ้นแท็กซี่”

“งั้นเอารถเราไปสิ สักสามสี่ชั่วโมงค่อยมารับนะ… จะรอ”

“อย่าเลยเราเกรงใจ”

“เอาไปเถอะน่า”

ทิวายื่นกุญแจรถให้ ภูบดีลังเล แต่หล่อนคะยั้นคะยอยัดใส่มือให้แล้วยิ้มกว้างก่อนผละไป ชายหนุ่มมองตามร่างเล็กที่ดูกระตือรือร้นแล้วครุ่นคิด หล่อนยังคงเหมือนเดิมมีแต่เขาที่เปลี่ยนไป



ประตูรถญี่ปุ่นสีทองรุ่นเก่าถูกเปิดค้างเอาไว้ครู่ใหญ่ก่อนที่ธารวารีจะเข้านั่งประจำที่คนขับ อากาศร้อนอบอ้าวจากภายนอกทำให้หล่อนเหงื่อตก มือเรียวบางหมุนกระจกรถลงจนสุดเพื่อขับไล่ไอร้อนจัดนั้นออกไป แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้อย่างใจเท่าใดนัก หญิงสาวพรูลมหายใจก่อนจะโยนกระเป๋าสะพายไว้ข้างที่นั่งคนขับ สตาร์ทเครื่องแล้วเร่งแอร์เบอร์แรงสุด

“ที่รัก... กลับมาฉันจะติดฟิล์มทึบ ๆ ให้แกนะ จะได้ไม่ร้อนดีไหม ทั้งฉันทั้งแกร้อนพอกันเลย ดูสิหน้ามันแทบจะทอดไข่ได้แล้ว”

ธารวารีส่องกระจกมองหน้าซีด ๆ แล้วล้วงหยิบกระดาษซับมันแปะถูไถไปมาบนใบหน้า ได้แต่พึมพำกับตัวเอง เสียงเครื่องยนต์กระหึ่ม ตามด้วยควันดำฟุ้งหล่อนถึงกับหน้ามุ่ย

“เครื่องแกก็เก่าจัง หรือว่าฉันจะขายแกดี... ที่รัก แต่อย่าเลย ถึงจะเก่าฉันก็รักนะ รู้รึเปล่า ยังไงก็อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ห้ามเกเรก็แล้วกันนะ”

ธารวารีเร่งเครื่องรถออกจากช่องจอดอย่างระมัดระวัง รถเคลื่อนที่ออกไปอย่างช้า ๆ ทันทีที่แล่นผ่านหน้าประตูหล่อนก็เห็นใครบางคน

ตาสบตา... รู้สึกสะดุดสายตาชายหนุ่มมาดเซอร์ที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล จวบจนถึงประตูรั้วหล่อนก็ยังมองผ่านกระจกหลัง ผู้ชายที่ดูคุ้นตา แต่ไม่รู้ว่าคือใคร และทำไมรู้สึกคุ้นเคยสายตาเขาอย่างประหลาด



ภูบดีกลับเข้ามาภายในตัวตึกด้วยท่าทางเซื่องซึม ความรู้สึกผิดหวังลึก ๆ แล่นเข้าจู่โจม ทั้งที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำให้จิตใจห่อเหี่ยวนั้นคืออะไร

เสียดายหรือ... ก็ไม่น่าใช่ เขาอาจจะแค่หวังว่าหล่อนจะจำได้

แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะธารวารีมองเขาราวกับเป็นอากาศธาตุไร้ตัวตน ชายหนุ่มสะบัดหน้าไล่ความคิดประหลาดที่นับวันจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นไม่ได้เลือนหายไปกับกาลเวลา

ความรู้สึกอิจฉาที่พี่ชายของตัวเอง...

หมอหนุ่มมาดเซอร์ถอนหายใจก่อนจะเดินต่อหมายจะเข้าไปหาทิวาตามที่นัดไว้ แต่เผอิญสวนกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังวิ่งออกมาท่าทางลุกลี้ลุกลน ในมือมีซองเอกสารบางอย่างทำให้สงสัย คำถามห้วนของเขาทำให้เจ้าหน้าที่สาวหยุดชะงัก

“ซองอะไรน่ะ”

“เอกสารของคนไข้ เธอลืมเอาไว้ในห้องน้ำ แม่บ้านเพิ่งเอามาให้เมื่อกี้ค่ะ... คุณหมอ”

หล่อนรู้ว่าเขาเป็นใคร! ภูบดีไม่รอช้าอาสาช่วยทันทีเพราะเห็นชื่อจากเอกสารหน้าซองว่าเป็นของคนที่เพิ่งคลาดกันกับเขาเมื่อครู่

“งั้นเอามานี่ดีกว่า ผมกำลังจะไปหาหมอทิวาพอดี”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“เอามาเถอะน่า” ภูบดีแบมือขอเอกสารหน้าตาเฉย เจ้าหน้าที่สาวเลยจำเป็นต้องส่งให้อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“ค่ะ ค่ะ... แต่ว่า นี่เป็นเอกสารของคนไข้ ดิฉันเกรงว่า”

“คุณไปทำงานเถอะ ทางนี้ผมจะจัดการเอง รับรองไม่ให้คุณมีปัญหา อ้อ! ไม่ต้องตกใจผมยินดีช่วย ดูคุณหอบเอกสารก็หนักพอดูแล้ว ผมจะผ่านไปทางนั้นพอดี”

“จะดีหรือคะ”

“ดีสิ รับรองว่าผมจะส่งให้ถึงมือโดยไม่บุบสลายแน่นอน”

เขาไม่ได้โกหก! เพียงแค่ไม่บอกว่าจะส่งให้ถึงมือใคร

เมื่อคล้อยหลังเจ้าหน้าที่สาว ภูบดีถือวิสาสะเปิดซองเอกสารดูสิ่งที่บรรจุอยู่ภายใน เป็นหนังสือเดินทาง นามบัตรเอธิโอเปียเลิฟไลค์ทัวร์ และสมุดรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง

“หึ... นึกแล้วว่าอย่างเธอต้องเป็นแบบนี้อีกตามเคย” ภูบดีพึมพำหน้าเครียด

ธารวารีกำลังจะเดินทางไปที่ที่พี่ชายเขาอยู่ แต่กลับเผอเรอลืมของสำคัญเสียได้ ประเทศที่สุ่มเสี่ยงและอันตรายไม่น้อยสำหรับการเดินทางคนเดียว หล่อนช่างห้าวหาญนักเพียงเพื่อจะไปพบคู่หมั้นที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แม้แต่เขาเองยังไม่เคยคิดจะไปตามหานอกจากคอยถามข่าวคราวจากเพื่อนพี่ชายเป็นระยะ

ส่วนหล่อน... ท่าทางอ่อนต่อโลกปานนั้น คิดจะไปที่นั่น ไม่โง่ก็บ้ากระมัง!

ภูบดีส่ายหน้า นึกเป็นห่วงอยู่ลึก ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะได้เข้าใกล้หล่อน นอกจากต้องนำเอกสารที่อยู่ในมือไปคืน แต่มันอาจจะเป็นข้ออ้างที่ดูอ่อนไปสักหน่อย ชายหนุ่มคิดไม่ตกแต่ก็อยากเจอหล่อนเหลือเกิน...


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตั้งแต่ตอนสามขออนุญาตลงวันเว้นวันหรือสองวันนะคะ

เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้วค่ะ ไม่จบสักที
มาเขียนจบในคลาสเรียนเขียนนิยายออนไลน์จนได้

ตอนนี้กำลังรอผลพิจารณาจากสนพ.แห่งหนึ่งอยู่
จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไม่รู้ ขอลงให้เพื่อนๆ ช่วยอ่านก่อนดีกว่าค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ^___^






lovereason2
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ต.ค. 2559, 10:57:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ต.ค. 2559, 10:57:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 1176





<< บทที่ 2/1 เฉียด   บทที่ 3/1 ความคิดถึงที่มาไม่ถึง >>
อังค์จิก 30 ต.ค. 2559, 08:39:18 น.
เชียร์ทั้งตัวละครในเรื่อง และเชียร์ทั้งผลพิจารณาครับ


lovereason2 31 ต.ค. 2559, 08:53:06 น.
คุณอังค์จิก -- ลุ้นผลอยู่ๆ ขอบคุณมากๆ ค่า ^^


ปริยาธร 6 พ.ย. 2559, 07:40:30 น.
น่าสงสารภูเหมือนกันน้า กลายเป็นคนที่ถูกลืมไปซะแล้ว


lovereason2 6 พ.ย. 2559, 19:50:55 น.
พี่นุ้ย - ภูน่าสงสารเนาะ แต่มันก็นานจนน่าลืมเลยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account