คิวปิด...ตัวกวนป่วนรัก
เมื่อเทพคิวปิดถูกลดหน้าที่ให้เป็นแค่ ‘เทพเบ๊’ คิวปิดสาวจึงเร่งปฎิบัติกอบกู้ศักดิ์ศรี แต่ดันแผลงศรพลาด ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวตกหลุมรัก ‘พี่ชาย’ ของสาวคนรัก เรื่องป่วนๆ จึงเริ่มขึ้น !
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอน 16
“คุณพี่ร้าก... คุณพี่ร้าก... ทำไมไม่พูดล่ะค้า...” เซเลน่าตะโกนใส่โทรศัพท์ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เสียงดังลั่น ทำเอาพนักงานทุกคนในบริเวณนั้นหันมามองกันเป็นตาเดียว แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่รู้ตัว “คุณพี่รัก คุณพี่รักมีอะไรคะ โอ๊ย !” เซเลน่าสะดุ้งเพราะเสียงในโทรศัพท์ส่งเสียงวี๊ดหนวกหู
“ขอฉันดูหน่อยค่ะ” พนักงานสาวยื่นมือจับโทรศัพท์มาฟังเสียง แล้วบอก “เขาวางหูไปแล้วค่ะ และคงจะวางนานแล้วด้วย”
“อ้าว...” เซเลน่าเกาหัวแกรกๆ งง ตามประสาคนไม่เคยใช้โทรศัพท์เลยนี่
“มาทำอะไรตรงนี้เอแคร์” รักษิตทักทันทีที่เปิดประตูกระจกใสกลับมาภายในแล้วเห็นผู้ช่วยยืนอยู่
“มารับโทรศัพท์ มีคนโทรมาหาฉัน ฉันคิดว่าเป็นคุณพี่รักโทรมาซะอีก”
“เปล่า ผมไม่ได้โทร”
“อ้าว...คุณพี่รักไม่ได้โทร แล้วใครโทร”
หากความสงสัยยังไม่กระจ่าง พลอยชมพูหรือชื่อใหม่ว่าริษาก็ก้าวฉับๆ จากหน้าห้องประชุมใหญ่เข้ามาหารักษิต “คุณรักขา ขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีบอสของริษาต้องประชุมอนุมัติละครหลายเรื่องเลยค่ะ เอ๊ะ ! มาด้วยเหรอ” พลอยชมพูทักเมื่อหันไปเห็นเพื่อนบ้านใหม่ยืนอยู่ด้วย ดวงตาคมกริบจากการกรีดอายลายเนอร์มองหุ่นเพรียวในชุดเดรสสีฟ้าเข้ากับผิวขาวผ่องของอีกฝ่าย
‘หุ่นดีผิวขาวไม่ได้หมายความว่าสวยเสมอไปหรอกนะยะ !’ พลอยชมพูนึกในใจด้วยความหมั่นไส้ หากซ่อนเอาไว้ด้วยใบหน้าอาบยิ้ม
“ผมให้เอแคร์มาเป็นผู้ช่วยน่ะครับ” รักษิตบอก
“อ๋อ...เหรอคะ” ความหมั่นไส้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ถ้าไม่เห็นแก่ความก้าวหน้าของคู่ชีวิตในอนาคตล่ะก็ หล่อนจะกระซิบบอกผู้บริหารว่ารักษิตมีผู้ช่วยเป็นสาวเอ๋อ !?
พลอยชมพูเดินนำรักษิตและ ‘ยายผู้ช่วย’ กลับมานั่งที่ห้องประชุม ไม่นานท่านผอ.พร้อมคณะผู้บริหารฝ่ายรายการโทรทัศน์สามท่านก็เข้ามานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผู้นำเสนองาน หลังจากแนะนำตัวกันตามมารยาทแล้ว รักษิตก็เริ่มนำเสนองาน โดยเริ่ม
จากแนะนำภาพรวมของเรื่อง ตัวละครหลัก และแก่นสารที่ต้องการนำเสนอผ่านการ์ตูนของเขาประกอบกับเสียงปรบมือ หัวเราะคิกคักหรือทำหน้าเสียงตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้าของพลอยชมพูได้อย่างฉะฉานน่าฟัง
เซเลน่ามองท่าทางของชายหนุ่มอย่างเพลิดเพลิน ครั้นสังเกตปฏิกิริยาของเหล่าผู้บริหาร ทุกคนดูสนใจสิ่งที่รักษิตนำเสนอ
‘ท่าทางจะมีข่าวดี’ เซเลน่ามั่นใจ แต่ไม่กล้าเผยยิ้มออกมามากนักเพราะรักษิตห้ามเอาไว้
“ผมมาคิดๆ ดูแล้วนะ ผมว่าตอนนี้อีกช่องเขาก็ชอบทำการ์ตูนแนวไทยๆ ออกมาเยอะเลย ผมว่าคงจะน่าสนใจดีถ้าเราฉีกแนวเป็นการ์ตูนฝรั่งไปเลยอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน” ท่านผอ.ออกความเห็นหลังจากฟังชายหนุ่มนำเสนอเสร็จ
รักษิตหันไปสบตากับผู้ช่วยสาว อีกฝ่ายก็ยิ้มกลับอย่างรู้เท่าทันความคิดของเขาพร้อมกับแอบชูนิ้วโป้งให้กำลังใจโดยระวังไม่ให้คนอื่นเห็น
“แล้วเรื่องของคุณรักมีให้ตัวละครพูดคำคมสอนผู้ชมบ้างหรือเปล่า”
“คำสอนหรือแก่นของตอน ผมจะนำเสนอผ่านเรื่องราวให้ผู้ชมได้คิดเองเสียมากกว่าครับ”
“แต่ถ้ามีคำพูดคมๆ ปิดท้ายตอน ผู้ชมโดยเฉพาะเด็กๆ จะได้เข้าใจแก่นสารที่เรานำเสนออย่างชัดเจนไปเลยก็ดีนะ”
“ครับ” ชายหนุ่มรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย
“งั้นผมขอดูตัวอย่างเลยแล้วกัน” ท่านผอ.บอก
ชายหนุ่มเปิดแฟ้มเอกสารที่เขาสอดซีดีตัวอย่างตอนหนึ่งที่ทำเสร็จเมื่อเช้ารวมกับเอกสารอื่นๆ แต่มันไม่มี
“หาอะไรคะ” เซเลน่าถาม
“ซีดีที่ผมบันทึกตัวอย่างงานที่เราทำกันเมื่อเช้าน่ะ คุณเห็นไหม”
“แผ่นกลมๆ สีขาวเหรอคะ มันก็อยู่ในแฟ้มไงคะ”
“ไม่มี” รักษิตยืนยัน
“มีสิคะ ก่อนออกไปรับโทรศัพท์ฉันยังเห็นอยู่เลย” หญิงสาวคว้าแฟ้มมาเปิดดู ภายในแฟ้มตอนนี้เหลือกระดาษอยู่แค่สองสามแผ่น ส่วนพวกรูปภาพตัวการ์ตูน บทต่างๆ ที่อัดแน่นมาเต็มแฟ้มไปอยู่ที่เหล่าผู้บริหารที่กำลังดูกันอย่างสนใจ
“ไม่มีซีดีจริงๆ ด้วย เป็นไปได้ยังไง” คิ้วเรียวยาวขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด ชักแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สัญญาณกันขโมยของรถรักษิตอยู่ดีๆ ก็ร้อง แล้วยังโทรศัพท์ลึกลับอีก ทั้งสองอย่างเกิดขึ้นราวกับมีใครจงใจสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้หล่อนกับเขาออกห่างกองเอกสาร “คุณพี่รักคะ ฉันว่าแปลกๆ แล้วล่ะค่ะ”
รักษิตพยักหน้า เขาเองก็คิดไม่ต่างจากหญิงสาว และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นฝีมือของใครไปไม่ได้นอกจากผู้ที่ไม่ต้องการให้เขาได้เสนองาน
“ฉันว่าต้องเป็นฝีมือของนายเก่งฉกาจแน่ๆ” เซเลน่าพูดแทนความคิดของชายหนุ่ม
“ไหนล่ะครับคุณรัก ตัวอย่าง” หนึ่งในคณะผู้บริหารถาม ก่อนสำทับอย่างตื่นเต้น “ผมชักอยากดูตอนมันเคลื่อนไหวได้แล้วสิ”
“แหม...คิดดูสิคะ ถ้าคุณประจักษ์ยังอยากดู แล้วเด็กๆ ที่บ้านจะไม่อยากดูเหรอคะ” พลอยชมพูเสริม แล้วเดินอ้อมโต๊ะมาหาชายหนุ่ม “ไหนคะคุณรัก เดี๋ยวพลอยเอาไปเปิดให้”
“คุณพลอยครับ ผมไม่ได้เอาแผ่นซีดีตัวอย่างงานมา สงสัยผมคงลืมเอาไว้ที่บ้าน”
“คุณพี่รักไม่ได้ลืม แต่...” เซเลน่าจะประท้วงแทน หากถูกมือใหญ่หนาคว้ามือเล็กที่อยู่ใต้โต๊ะหมับ เขาห้ามไม่ให้หล่อนพูด แต่หล่อนก็ทนเห็นคนนิสัยไม่ดีอย่างนายเก่งฉกาจมาทำลายโอกาสดีๆ ของคุณพี่รักไม่ได้
ถ้าเขาเป็นซีอุส หล่อนก็จะเป็นคิวปิดน้อยคอยช่วยเหลือเขาเอง
“แต่อะไรคะ” พลอยชมพูถาม
“แต่คุณพี่รักลืมเอาไว้ในรถค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะคะ” เซเลน่าบอกชายหนุ่มที่มองมาด้วยสายตาไม่เข้าใจแล้วขยิบตาสั่งสัญญาณให้เขารู้ว่าหล่อนมีแผน แล้วหันไปบอกเหล่าผู้บริหาร “ขอเวลาสักครู่นะคะ”
เมื่อเหล่าผู้บริหารยิ้มรับ จึงก้าวออกจากห้อง ปล่อยให้รักษิตยังงงไม่หาย เขาจะลุกตามหญิงสาวไป แต่ถูกห้ามด้วยคำถามของท่านผอ.
“ถ้าคุณรักได้งานนี้ คุณรักจะทำคนเดียวไหวเหรอครับ”
“ผมมีน้องๆ ที่ทำงานด้วยกันอยู่หลายคนครับ” รักษิตจะเรียกน้องๆ หรือเพื่อนๆ ที่เคยทำงานกับเขามาตั้งแต่เขารับจ้างวาดการ์ตูนประกอบให้บริษัทต่างๆ มาใช้งานเมื่อต้องทำงานที่ต้องใช้การระดมสมอง
“ดีๆ งั้นระหว่างรอ คุณพลอยช่วยเอางานของคุณรักไปถ่ายเอกสารให้หน่อยสิ จะได้ดูกันทั่วถึง” ท่านผอ.หน้าตาใจดีสั่งเลขาฯ
“ค่ะบอส” พลอยชมพูรับปึกกระดาษข้อมูลที่รักษิตเตรียมมาแล้วเดินออกไปจากห้อง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พลอยชมพูเดินไปตามทางยาว ขาทั้งสองบนรองเท้าสูงปรี๊ดสีแดงสดไขว่กันเป็นเส้นตรงได้ประหนึ่งเป็นนางแบบมืออาชีพ จุดมุ่งหมายคือโต๊ะทำงานของนักศึกษาฝึกงาน แค่งานถ่ายเอกสารไม่มีความจำเป็นที่หล่อนจะต้องลงมือเองให้รังสียูวีจากเครื่องถ่ายเอกสารทำลายผิวหน้า
ครั้นเดินผ่านห้องประชุมเล็ก สายตาหันไปเห็นสิ่งผิดปกติอยู่ในห้องผ่านช่องกระจกเหนือประตู
‘ยายเอ๋อนี่’ ด้วยส่วนสูงไม่ถึงร้อยหกสิบเซนติเมตร เลยเห็นแค่หัวที่กำลังถอดสร้อยออกของผู้ที่ยืนอยู่ในห้อง พลอยชมพูเดินเข้าไปใกล้ประตู แล้วภาพควันสีขาวเป็นประกายระยิบระยับวนรอบร่างเพรียว ยังผลให้ชุดแดรสสีฟ้ากลายเป็นชุดสีขาว ซ้ำยังมีสิ่งประหลาดลักษณะเหมือนปีกกำลังงอกจากแผ่นหลังอีกด้วย !
พลอยชมพูหน้าเหวอ ยกมือจะขยี้ตาดูให้แน่ใจอีกครั้ง แต่ก็ชะงัก ไม่กล้ากลัวมาสคาร่าเปื้อน จึงแค่กระพริบตาถี่ๆ
“ให้ป้ายกของว่างเข้าไปเสิร์ฟให้ผอ.เลยไหมคะคุณพลอย” เสียงแม่บ้านวัยกลางคนถามขึ้น
พลอยชมพูหันไปหาแม่บ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ “ยกเข้าไปเลยค่ะป้า อ่อ แล้วต่อไปนี้ก็ห้ามเรียกฉันว่าพลอยอีกแล้วนะคะ ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นริษาแล้วค่ะ”
“ค่ะคุณพลอย...เอ่อ...คุณริษา” รับคำแล้วหันหลังเดินออกไป
พลอยชมพูหันกลับไปมองในห้องอีกครั้ง ถึงเห็นว่าไม่มีใครหรือสิ่งผิดปกติอะไรอยู่ในห้องแล้ว
“สงสัยอินเรื่องของคุณรักมากไปหน่อยเลยตาฝาด” พลอยชมพูสรุปกับตัวเองพร้อมกับยกภาพปกการ์ตูน ‘ซีอุส-คิวปิดคู่หูป่วนเมือง’ ในมือขึ้นดู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขณะที่พลอยชมพูนำข้อมูลไปให้น้องนักศึกษาฝึกงานถ่ายเอกสารอยู่นั้น มือของรักษิตที่วางอยู่บนตักก็ปรากฏแผ่นซีดีขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้งแล้วมองแผ่นซีดีในมืออย่างไม่เชื่อสายตา
“เฮ้ย !” เขาเผลอร้อง จนเหล่าผู้บริหารที่กำลังดูสตอรี่บอร์ดหันมามองเป็นตาเดียว พลันเสียงผู้ช่วยของเขาก็ดังขึ้นข้างหู
“คุณพี่รักไม่ต้องตกใจค่ะ ฉันเอง”
สัญชาตญาณทำให้ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียง ทว่าไม่เห็นใครเลย
“อย่าทำตัวมีพิรุธสิคะ ฉันยืนอยู่ข้างคุณนี่แหละ แต่พวกคุณไม่เห็นฉันหรอก”
ดังนั้นรักษิตจึงยิ้มกลบเกลื่อนกับเหล่าผู้บริหาร “ขอโทษครับ” แล้วแสร้งก้มหน้า เอามือปิดปากถามเสียงเบา “คุณคิดจะทำอะไรของคุณ”
“ฉันจะช่วยคุณน่ะสิ ฉันแน่ใจว่านายเก่งฉกาจต้องขโมยซีดีไปแน่ แต่จะไม่ยอมให้นายเก่งฉกาจแกล้งคุณได้อีก”
“คุณจะช่วยยังไง”
“คุณก็เอาซีดีในมือของคุณไปให้คุณพลอยดำเปิด แล้วที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”
“จะดีเหรอคุณ ผมว่าอย่าเลย เดี๋ยวผมส่งซีดีมาให้พวกเขาดูวันหลังก็ได้”
“ไม่ดี ! เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอย่างนายเก่งฉกาจจะเล่นงานอะไรคุณอีก คุณต้องเสนอให้จบภายในวันนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย ส่วนผลจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากัน โอเคนะคะ”
รักษิตพยักหน้ารับอย่างจำใจ แล้วแสร้งพบแผ่นซีดีในแฟ้ม “ผมเจอซีดีแล้วครับ มันหลงอยู่ในแฟ้ม”
“งั้นก็เปิดดูเลยเถอะครับ ผมต้องไปแล้ว” ท่านผอ.เสนอ
รักษิตรับคำ แล้วลุกขึ้นใส่แผ่นซีดีที่มีอะไรบรรจุอยู่ก็ไม่รู้ลงในโน้ตบุ๊คซึ่งตั้งอยู่กลางโต๊ะ เหงื่อผุดตามไรผม เขาไม่รู้เลยว่าคิวปิดสาวจะทำอะไร
“ภาพจะต้องขึ้นบนจอคอมเล็กนี่หรือเปล่า” เสียงเซเลน่าถามลอยกระทบหู
“ไม่ มันต้องขึ้นบนจอใหญ่” ชายหนุ่มบอกเสียงเบาลอดผ่านไรฟันพลางบุ้ยหน้าไปทางจอขนาดใหญ่ที่อยู่บนกำแพงด้านหนึ่ง
“จัดไป !”
สิ้นคำ หน้าจอใหญ่ก็ปรากฏภาพการ์ตูนเรื่อง ‘ซีอุส-คิวปิดคู่หูป่วนเมือง’ ขึ้นทั้งที่รักษิตยังไม่ทันได้คลิกกดปุ่มเล่นเลยด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มมองภาพบนหน้าจออย่างอึ้งๆ ทุกอย่างเหมือนตัวอย่างที่ทำกันเมื่อเช้าทุกประการ แต่มีสิ่งที่เพิ่มมาจากเดิมคือคำคมตบท้ายที่ซีอุสพูดกับเจ้ายักษ์ไซคลอปส์ที่สำนึกผิดแล้ว
“เจ้าไซคลอปส์ เจ้าจงใช้ชีวิตอย่างมีสติ รู้จักหักห้ามใจ อย่าเอาใจตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าจะได้ไม่ต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครเขาอีก”
รักษิตรู้ว่าคิวปิดสาวเพิ่มบทตอนท้ายเอาเองเพื่อตอบสนองความต้องการของท่านผอ. และคำพูดนั้นก็ฟังดูคล้ายตัวเจ้าหล่อนเลย ทว่าไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ สิ่งที่ผู้ช่วยสาวเพิ่มขึ้นมาก็สร้างความพอใจให้ท่านผอ.และเหล่าผู้บริหาร ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่เอ่ยออกมาว่า
“ผมชอบมากเลย ดูตื่นตาตื่นใจดี ท่าทางจะเรียกเรทติ้งได้ดี”
“พลอยเห็นด้วยค่ะ ภาพการ์ตูนก็แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครดี” พลอยชมพูเสริมแล้วหันมาขยิบตาให้รักษิต
“เอาเป็นว่าผมสนใจเรื่องของคุณมาก แต่ผมอยากดูเพิ่มอีกสักสองสามตอนได้ไหม ผมจะได้ให้ฝ่ายการตลาดไปขายโฆษณาเลย”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เย้ ! ในที่สุดคุณพี่รักก็ชนะ” เซเลน่าตะโกนเสียงดังลั่นลานจอดรถขณะเดินเคียงข้างรักษิตไปที่รถ
“เบาๆ หน่อยสิคุณ อายคนอื่นเขา” รักษิตเตือน แม้ว่าในบริเวณนั้นแทบจะไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมาเลยก็ตาม
“ไม่อาย ฉันนะอยากจะประกาศให้คนทั้งโลกแล้วก็เทพทั้งโอลิมปัสรู้ไปเลยด้วยซ้ำว่าคุณพี่รักเอาชนะนายเก่งฉกาจได้” คิวปิดสาวยิ้มกว้าง
“ผมยังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์สักหน่อย ต้องทำเพิ่มมาให้เขาดูอีกสองสามตอนก่อน”
“แหม...แต่ท่าทางหัวหน้าของคุณพลอยชอบมากขนาดนั้น ฉันว่ายังไงๆ ก็ต้องได้อยู่แล้ว” เซเลน่าบอกอย่างมั่นใจ แล้วหันไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังลงจากรถที่เพิ่งเข้ามาจอดใหม่ๆ ก็คว้าสตอรี่บอร์ดจากมือรักษิต ปราดเข้าไปอวดว่า “คุณคะๆ คุณพี่รักขายงานผ่านแล้ว อย่าลืมดูเรื่อง ‘ซีอุส-คิวปิดคู่หูป่วนเมือง’ นะคะ”
ชาย-หญิงคู่นั้นยิ้มรับอย่างงุนงง รักษิตดึงมือเซเลน่ากลับมาพร้อมปรามเสียงขุ่น “เอแคร์..”
ทว่าคิวปิดสาวยังไม่หยุด นำเสนอความภาคภูมิใจต่อ “เรื่องนี้คุณพี่รักคิดเองเลยนะคะ เป็นเรื่องของเทพซีอุสกับคิวปิดออกปราบศัตรู อย่าลืมรอดูนะคะ”
รักษิตจึงโอบร่างเล็กดึงออกมาให้ห่างจากชาย-หญิงคู่นั้น “ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชื่อการ์ตูนน่ารักมากแล้วดิฉันจะคอยติดตามผลงานนะคะ แล้วก็ยินดีด้วยกับงานใหม่นะคะ” หญิงสาวเป็นฝ่ายบอกก่อนจะเดินกันออกไป
รักษิตยิ้มรับ ปฎิเสธไม่ได้ว่าหัวใจเขาพองโตไม่น้อย ที่ผ่านมาเขาทำงานทุกชิ้นด้วยความตั้งใจ จึงก้าวเข้าไปยืนอยู่แถวหน้าของวงการนักวาดการ์ตูนประกอบได้ในเวลาอันรวดเร็ว พอหันมาลองชิมลางผลิตงานการ์ตูนอนิเมชั่น เขาก็ยังคงทุ่มเทความตั้งใจใส่ลงในงานเหมือนเดิมด้วยความเชื่อที่ว่าคนเราถ้ามีความตั้งใจอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ความสำเร็จครั้งนี้จะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีหญิงสาวที่ยังตะโกนไล่หลังบอกชาย-หญิงคู่นั้น
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
พอหญิงสาวหยุดตะโกน รักษิตจึงกระชับวงแขนที่ยังโอบร่างบางเอาไว้ พร้อมเอ่ย “ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณอะไรคะ” เซเลน่าถามเสียงอ่อน
“ขอบคุณคุณไง ถ้าไม่มีคุณ ผมก็คงไม่ได้งานนี้”
“แต่ถ้างานคุณพี่รักไม่เก่งจริง ต่อให้ฉันหรือเทพองค์ไหนช่วยก็คงไม่สำเร็จหรอกค่ะ” เซเลน่าเอ่ยจากใจ
และรักษิตก็สามารถสัมผัสได้จากดวงตากลมโตสว่างสุกใสดั่งดวงดาวบนท้องฟ้า...ดาวดวงที่เขาเคยเห็นเพียงในจินตนาการ หากยามนี้ดวงดาวนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“งั้นเอาเป็นว่างานนี้เป็นความสำเร็จของเราสองคน ตกลงไหม” ชายหนุ่มกระชับมือที่โอบร่างเล็กอย่างห้ามใจไม่อยู่ ยังผลให้แก้มนวลแดงปลั่ง
“ค่ะ” ตอบเสียงอ้อมแอ้ม นึกแปลกใจตัวเองที่ไม่ได้รู้สึกอยากจะต่อต้านจากวงแขนอบอุ่นนั้นเลย “ไปกันได้หรือยัง ฉันหิวแล้ว”
หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมง รักษิตและเซเลน่าก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารใกล้สถานี พอพนักงานรับออเอร์จากชายหนุ่มเสร็จแล้วเดินคล้อยหลังไป เซเลน่าก็ถาม
“คุณยังไม่โทรไปบอกคุณน้องยาเลยนี่คะ”
“ผมจะรอเอาไว้บอกพร้อมหน้าพร้อมตากัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เจ้าพงษ์ก็กลับบ้านแล้ว” ดวงตาคมกริบเป็นประกายเมื่อเอ่ยว่า “พงษ์คงดีใจน่าดูที่จะได้ไปเรียนต่อเมืองนอก”
“เมืองนอก ?”
“ประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทยน่ะ”
คิวปิดสาวพยักหน้าเข้าใจ รู้อยู่แล้วว่าโลกมนุษย์ประกอบด้วยประเทศต่างๆ เป็นจำนวนมาก หากยังไม่เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มพูด “คุณสนองานชนะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณพงษ์ได้ไปเรียนเมืองนอกล่ะคะ”
“ก็ผมตั้งใจว่าจะเอาเงินที่ได้จากงานนี้เก็บไว้ส่งให้พงษ์ไปเรียนเมืองนอกโดยเฉพาะเลย เพราะค่าตอบแทนน่าพอใจ และอีกอย่างมันก็เป็นงานระยะยาวและค่อนข้างแน่นอน ผมจะได้มั่นใจว่าจะมีเงินส่งพงษ์จนเรียนจบเลย”
เซเลน่ามองชายหนุ่มอย่างชื่นชม เขาทำทุกอย่างเพื่อน้องชาย โดยไม่เคยนึกถึงตัวเอง แต่จากสีหน้าและท่าทางสบายใจของชายหนุ่ม ทำให้เซเลน่ารู้ว่าการได้ทำเพื่อน้องๆ มันคือความสุขของเขา
และหล่อนก็ต้องการให้เขามีความสุขเช่นกัน
“ถ้าฉันได้กลับขึ้นไปบนเทือกเขาโอลิมปัส ฉันจะไปขอให้เทวีไทคีให้คุณโชคดี สมหวังในทุกอย่างที่คุณปรารถนานะคะ”
“ไม่เห็นจำเป็นเลย เพราะผมมีคุณเป็นเทวีแห่งโชคอยู่แล้ว”
เซเลน่ายิ้มเขิน แก้เก้อว่า
“คุณพูดอย่างนี้ คุณลืมไปหรือเปล่าคะ ว่าฉันทำอะไรไว้กับคุณยา คุณภูมิ”
“ผมลืมไม่ลงหรอก แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นดีเสมอ และผมก็พอจะรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่เกิดจากเรื่องวุ่นๆ นี้”
เขาไม่เคยพูดอย่างนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการเขินอาย อยากจะลุกเดินหนีออกไปจากตรงนี้ หากก้อนเนื้อใต้หน้าอกข้างซ้ายมันกลับสั่งให้เขานั่งอยู่กับที่และมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายเพื่อตอกย้ำให้หญิงสาวรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นมันมาจากหัวใจ
หัวใจของคิวปิดสาวเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่ก็ต้องหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองรู้สึกดีกับคำพูดของเขามากเกินไป เนื่องจากรู้อยู่แก่ใจ ว่าถ้าเขารู้ความจริงทั้งหมดว่าเรื่องที่หล่อนทำจะส่งผลให้รักษิยาเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เขาคงไม่พูดเช่นนี้
************************************************
“ขอฉันดูหน่อยค่ะ” พนักงานสาวยื่นมือจับโทรศัพท์มาฟังเสียง แล้วบอก “เขาวางหูไปแล้วค่ะ และคงจะวางนานแล้วด้วย”
“อ้าว...” เซเลน่าเกาหัวแกรกๆ งง ตามประสาคนไม่เคยใช้โทรศัพท์เลยนี่
“มาทำอะไรตรงนี้เอแคร์” รักษิตทักทันทีที่เปิดประตูกระจกใสกลับมาภายในแล้วเห็นผู้ช่วยยืนอยู่
“มารับโทรศัพท์ มีคนโทรมาหาฉัน ฉันคิดว่าเป็นคุณพี่รักโทรมาซะอีก”
“เปล่า ผมไม่ได้โทร”
“อ้าว...คุณพี่รักไม่ได้โทร แล้วใครโทร”
หากความสงสัยยังไม่กระจ่าง พลอยชมพูหรือชื่อใหม่ว่าริษาก็ก้าวฉับๆ จากหน้าห้องประชุมใหญ่เข้ามาหารักษิต “คุณรักขา ขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีบอสของริษาต้องประชุมอนุมัติละครหลายเรื่องเลยค่ะ เอ๊ะ ! มาด้วยเหรอ” พลอยชมพูทักเมื่อหันไปเห็นเพื่อนบ้านใหม่ยืนอยู่ด้วย ดวงตาคมกริบจากการกรีดอายลายเนอร์มองหุ่นเพรียวในชุดเดรสสีฟ้าเข้ากับผิวขาวผ่องของอีกฝ่าย
‘หุ่นดีผิวขาวไม่ได้หมายความว่าสวยเสมอไปหรอกนะยะ !’ พลอยชมพูนึกในใจด้วยความหมั่นไส้ หากซ่อนเอาไว้ด้วยใบหน้าอาบยิ้ม
“ผมให้เอแคร์มาเป็นผู้ช่วยน่ะครับ” รักษิตบอก
“อ๋อ...เหรอคะ” ความหมั่นไส้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ถ้าไม่เห็นแก่ความก้าวหน้าของคู่ชีวิตในอนาคตล่ะก็ หล่อนจะกระซิบบอกผู้บริหารว่ารักษิตมีผู้ช่วยเป็นสาวเอ๋อ !?
พลอยชมพูเดินนำรักษิตและ ‘ยายผู้ช่วย’ กลับมานั่งที่ห้องประชุม ไม่นานท่านผอ.พร้อมคณะผู้บริหารฝ่ายรายการโทรทัศน์สามท่านก็เข้ามานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผู้นำเสนองาน หลังจากแนะนำตัวกันตามมารยาทแล้ว รักษิตก็เริ่มนำเสนองาน โดยเริ่ม
จากแนะนำภาพรวมของเรื่อง ตัวละครหลัก และแก่นสารที่ต้องการนำเสนอผ่านการ์ตูนของเขาประกอบกับเสียงปรบมือ หัวเราะคิกคักหรือทำหน้าเสียงตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้าของพลอยชมพูได้อย่างฉะฉานน่าฟัง
เซเลน่ามองท่าทางของชายหนุ่มอย่างเพลิดเพลิน ครั้นสังเกตปฏิกิริยาของเหล่าผู้บริหาร ทุกคนดูสนใจสิ่งที่รักษิตนำเสนอ
‘ท่าทางจะมีข่าวดี’ เซเลน่ามั่นใจ แต่ไม่กล้าเผยยิ้มออกมามากนักเพราะรักษิตห้ามเอาไว้
“ผมมาคิดๆ ดูแล้วนะ ผมว่าตอนนี้อีกช่องเขาก็ชอบทำการ์ตูนแนวไทยๆ ออกมาเยอะเลย ผมว่าคงจะน่าสนใจดีถ้าเราฉีกแนวเป็นการ์ตูนฝรั่งไปเลยอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน” ท่านผอ.ออกความเห็นหลังจากฟังชายหนุ่มนำเสนอเสร็จ
รักษิตหันไปสบตากับผู้ช่วยสาว อีกฝ่ายก็ยิ้มกลับอย่างรู้เท่าทันความคิดของเขาพร้อมกับแอบชูนิ้วโป้งให้กำลังใจโดยระวังไม่ให้คนอื่นเห็น
“แล้วเรื่องของคุณรักมีให้ตัวละครพูดคำคมสอนผู้ชมบ้างหรือเปล่า”
“คำสอนหรือแก่นของตอน ผมจะนำเสนอผ่านเรื่องราวให้ผู้ชมได้คิดเองเสียมากกว่าครับ”
“แต่ถ้ามีคำพูดคมๆ ปิดท้ายตอน ผู้ชมโดยเฉพาะเด็กๆ จะได้เข้าใจแก่นสารที่เรานำเสนออย่างชัดเจนไปเลยก็ดีนะ”
“ครับ” ชายหนุ่มรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย
“งั้นผมขอดูตัวอย่างเลยแล้วกัน” ท่านผอ.บอก
ชายหนุ่มเปิดแฟ้มเอกสารที่เขาสอดซีดีตัวอย่างตอนหนึ่งที่ทำเสร็จเมื่อเช้ารวมกับเอกสารอื่นๆ แต่มันไม่มี
“หาอะไรคะ” เซเลน่าถาม
“ซีดีที่ผมบันทึกตัวอย่างงานที่เราทำกันเมื่อเช้าน่ะ คุณเห็นไหม”
“แผ่นกลมๆ สีขาวเหรอคะ มันก็อยู่ในแฟ้มไงคะ”
“ไม่มี” รักษิตยืนยัน
“มีสิคะ ก่อนออกไปรับโทรศัพท์ฉันยังเห็นอยู่เลย” หญิงสาวคว้าแฟ้มมาเปิดดู ภายในแฟ้มตอนนี้เหลือกระดาษอยู่แค่สองสามแผ่น ส่วนพวกรูปภาพตัวการ์ตูน บทต่างๆ ที่อัดแน่นมาเต็มแฟ้มไปอยู่ที่เหล่าผู้บริหารที่กำลังดูกันอย่างสนใจ
“ไม่มีซีดีจริงๆ ด้วย เป็นไปได้ยังไง” คิ้วเรียวยาวขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด ชักแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สัญญาณกันขโมยของรถรักษิตอยู่ดีๆ ก็ร้อง แล้วยังโทรศัพท์ลึกลับอีก ทั้งสองอย่างเกิดขึ้นราวกับมีใครจงใจสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้หล่อนกับเขาออกห่างกองเอกสาร “คุณพี่รักคะ ฉันว่าแปลกๆ แล้วล่ะค่ะ”
รักษิตพยักหน้า เขาเองก็คิดไม่ต่างจากหญิงสาว และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นฝีมือของใครไปไม่ได้นอกจากผู้ที่ไม่ต้องการให้เขาได้เสนองาน
“ฉันว่าต้องเป็นฝีมือของนายเก่งฉกาจแน่ๆ” เซเลน่าพูดแทนความคิดของชายหนุ่ม
“ไหนล่ะครับคุณรัก ตัวอย่าง” หนึ่งในคณะผู้บริหารถาม ก่อนสำทับอย่างตื่นเต้น “ผมชักอยากดูตอนมันเคลื่อนไหวได้แล้วสิ”
“แหม...คิดดูสิคะ ถ้าคุณประจักษ์ยังอยากดู แล้วเด็กๆ ที่บ้านจะไม่อยากดูเหรอคะ” พลอยชมพูเสริม แล้วเดินอ้อมโต๊ะมาหาชายหนุ่ม “ไหนคะคุณรัก เดี๋ยวพลอยเอาไปเปิดให้”
“คุณพลอยครับ ผมไม่ได้เอาแผ่นซีดีตัวอย่างงานมา สงสัยผมคงลืมเอาไว้ที่บ้าน”
“คุณพี่รักไม่ได้ลืม แต่...” เซเลน่าจะประท้วงแทน หากถูกมือใหญ่หนาคว้ามือเล็กที่อยู่ใต้โต๊ะหมับ เขาห้ามไม่ให้หล่อนพูด แต่หล่อนก็ทนเห็นคนนิสัยไม่ดีอย่างนายเก่งฉกาจมาทำลายโอกาสดีๆ ของคุณพี่รักไม่ได้
ถ้าเขาเป็นซีอุส หล่อนก็จะเป็นคิวปิดน้อยคอยช่วยเหลือเขาเอง
“แต่อะไรคะ” พลอยชมพูถาม
“แต่คุณพี่รักลืมเอาไว้ในรถค่ะ เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะคะ” เซเลน่าบอกชายหนุ่มที่มองมาด้วยสายตาไม่เข้าใจแล้วขยิบตาสั่งสัญญาณให้เขารู้ว่าหล่อนมีแผน แล้วหันไปบอกเหล่าผู้บริหาร “ขอเวลาสักครู่นะคะ”
เมื่อเหล่าผู้บริหารยิ้มรับ จึงก้าวออกจากห้อง ปล่อยให้รักษิตยังงงไม่หาย เขาจะลุกตามหญิงสาวไป แต่ถูกห้ามด้วยคำถามของท่านผอ.
“ถ้าคุณรักได้งานนี้ คุณรักจะทำคนเดียวไหวเหรอครับ”
“ผมมีน้องๆ ที่ทำงานด้วยกันอยู่หลายคนครับ” รักษิตจะเรียกน้องๆ หรือเพื่อนๆ ที่เคยทำงานกับเขามาตั้งแต่เขารับจ้างวาดการ์ตูนประกอบให้บริษัทต่างๆ มาใช้งานเมื่อต้องทำงานที่ต้องใช้การระดมสมอง
“ดีๆ งั้นระหว่างรอ คุณพลอยช่วยเอางานของคุณรักไปถ่ายเอกสารให้หน่อยสิ จะได้ดูกันทั่วถึง” ท่านผอ.หน้าตาใจดีสั่งเลขาฯ
“ค่ะบอส” พลอยชมพูรับปึกกระดาษข้อมูลที่รักษิตเตรียมมาแล้วเดินออกไปจากห้อง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พลอยชมพูเดินไปตามทางยาว ขาทั้งสองบนรองเท้าสูงปรี๊ดสีแดงสดไขว่กันเป็นเส้นตรงได้ประหนึ่งเป็นนางแบบมืออาชีพ จุดมุ่งหมายคือโต๊ะทำงานของนักศึกษาฝึกงาน แค่งานถ่ายเอกสารไม่มีความจำเป็นที่หล่อนจะต้องลงมือเองให้รังสียูวีจากเครื่องถ่ายเอกสารทำลายผิวหน้า
ครั้นเดินผ่านห้องประชุมเล็ก สายตาหันไปเห็นสิ่งผิดปกติอยู่ในห้องผ่านช่องกระจกเหนือประตู
‘ยายเอ๋อนี่’ ด้วยส่วนสูงไม่ถึงร้อยหกสิบเซนติเมตร เลยเห็นแค่หัวที่กำลังถอดสร้อยออกของผู้ที่ยืนอยู่ในห้อง พลอยชมพูเดินเข้าไปใกล้ประตู แล้วภาพควันสีขาวเป็นประกายระยิบระยับวนรอบร่างเพรียว ยังผลให้ชุดแดรสสีฟ้ากลายเป็นชุดสีขาว ซ้ำยังมีสิ่งประหลาดลักษณะเหมือนปีกกำลังงอกจากแผ่นหลังอีกด้วย !
พลอยชมพูหน้าเหวอ ยกมือจะขยี้ตาดูให้แน่ใจอีกครั้ง แต่ก็ชะงัก ไม่กล้ากลัวมาสคาร่าเปื้อน จึงแค่กระพริบตาถี่ๆ
“ให้ป้ายกของว่างเข้าไปเสิร์ฟให้ผอ.เลยไหมคะคุณพลอย” เสียงแม่บ้านวัยกลางคนถามขึ้น
พลอยชมพูหันไปหาแม่บ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ “ยกเข้าไปเลยค่ะป้า อ่อ แล้วต่อไปนี้ก็ห้ามเรียกฉันว่าพลอยอีกแล้วนะคะ ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นริษาแล้วค่ะ”
“ค่ะคุณพลอย...เอ่อ...คุณริษา” รับคำแล้วหันหลังเดินออกไป
พลอยชมพูหันกลับไปมองในห้องอีกครั้ง ถึงเห็นว่าไม่มีใครหรือสิ่งผิดปกติอะไรอยู่ในห้องแล้ว
“สงสัยอินเรื่องของคุณรักมากไปหน่อยเลยตาฝาด” พลอยชมพูสรุปกับตัวเองพร้อมกับยกภาพปกการ์ตูน ‘ซีอุส-คิวปิดคู่หูป่วนเมือง’ ในมือขึ้นดู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขณะที่พลอยชมพูนำข้อมูลไปให้น้องนักศึกษาฝึกงานถ่ายเอกสารอยู่นั้น มือของรักษิตที่วางอยู่บนตักก็ปรากฏแผ่นซีดีขึ้น ชายหนุ่มสะดุ้งแล้วมองแผ่นซีดีในมืออย่างไม่เชื่อสายตา
“เฮ้ย !” เขาเผลอร้อง จนเหล่าผู้บริหารที่กำลังดูสตอรี่บอร์ดหันมามองเป็นตาเดียว พลันเสียงผู้ช่วยของเขาก็ดังขึ้นข้างหู
“คุณพี่รักไม่ต้องตกใจค่ะ ฉันเอง”
สัญชาตญาณทำให้ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียง ทว่าไม่เห็นใครเลย
“อย่าทำตัวมีพิรุธสิคะ ฉันยืนอยู่ข้างคุณนี่แหละ แต่พวกคุณไม่เห็นฉันหรอก”
ดังนั้นรักษิตจึงยิ้มกลบเกลื่อนกับเหล่าผู้บริหาร “ขอโทษครับ” แล้วแสร้งก้มหน้า เอามือปิดปากถามเสียงเบา “คุณคิดจะทำอะไรของคุณ”
“ฉันจะช่วยคุณน่ะสิ ฉันแน่ใจว่านายเก่งฉกาจต้องขโมยซีดีไปแน่ แต่จะไม่ยอมให้นายเก่งฉกาจแกล้งคุณได้อีก”
“คุณจะช่วยยังไง”
“คุณก็เอาซีดีในมือของคุณไปให้คุณพลอยดำเปิด แล้วที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”
“จะดีเหรอคุณ ผมว่าอย่าเลย เดี๋ยวผมส่งซีดีมาให้พวกเขาดูวันหลังก็ได้”
“ไม่ดี ! เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอย่างนายเก่งฉกาจจะเล่นงานอะไรคุณอีก คุณต้องเสนอให้จบภายในวันนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย ส่วนผลจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากัน โอเคนะคะ”
รักษิตพยักหน้ารับอย่างจำใจ แล้วแสร้งพบแผ่นซีดีในแฟ้ม “ผมเจอซีดีแล้วครับ มันหลงอยู่ในแฟ้ม”
“งั้นก็เปิดดูเลยเถอะครับ ผมต้องไปแล้ว” ท่านผอ.เสนอ
รักษิตรับคำ แล้วลุกขึ้นใส่แผ่นซีดีที่มีอะไรบรรจุอยู่ก็ไม่รู้ลงในโน้ตบุ๊คซึ่งตั้งอยู่กลางโต๊ะ เหงื่อผุดตามไรผม เขาไม่รู้เลยว่าคิวปิดสาวจะทำอะไร
“ภาพจะต้องขึ้นบนจอคอมเล็กนี่หรือเปล่า” เสียงเซเลน่าถามลอยกระทบหู
“ไม่ มันต้องขึ้นบนจอใหญ่” ชายหนุ่มบอกเสียงเบาลอดผ่านไรฟันพลางบุ้ยหน้าไปทางจอขนาดใหญ่ที่อยู่บนกำแพงด้านหนึ่ง
“จัดไป !”
สิ้นคำ หน้าจอใหญ่ก็ปรากฏภาพการ์ตูนเรื่อง ‘ซีอุส-คิวปิดคู่หูป่วนเมือง’ ขึ้นทั้งที่รักษิตยังไม่ทันได้คลิกกดปุ่มเล่นเลยด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มมองภาพบนหน้าจออย่างอึ้งๆ ทุกอย่างเหมือนตัวอย่างที่ทำกันเมื่อเช้าทุกประการ แต่มีสิ่งที่เพิ่มมาจากเดิมคือคำคมตบท้ายที่ซีอุสพูดกับเจ้ายักษ์ไซคลอปส์ที่สำนึกผิดแล้ว
“เจ้าไซคลอปส์ เจ้าจงใช้ชีวิตอย่างมีสติ รู้จักหักห้ามใจ อย่าเอาใจตัวเองเป็นใหญ่ เจ้าจะได้ไม่ต้องไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครเขาอีก”
รักษิตรู้ว่าคิวปิดสาวเพิ่มบทตอนท้ายเอาเองเพื่อตอบสนองความต้องการของท่านผอ. และคำพูดนั้นก็ฟังดูคล้ายตัวเจ้าหล่อนเลย ทว่าไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ สิ่งที่ผู้ช่วยสาวเพิ่มขึ้นมาก็สร้างความพอใจให้ท่านผอ.และเหล่าผู้บริหาร ไม่เช่นนั้นท่านคงไม่เอ่ยออกมาว่า
“ผมชอบมากเลย ดูตื่นตาตื่นใจดี ท่าทางจะเรียกเรทติ้งได้ดี”
“พลอยเห็นด้วยค่ะ ภาพการ์ตูนก็แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครดี” พลอยชมพูเสริมแล้วหันมาขยิบตาให้รักษิต
“เอาเป็นว่าผมสนใจเรื่องของคุณมาก แต่ผมอยากดูเพิ่มอีกสักสองสามตอนได้ไหม ผมจะได้ให้ฝ่ายการตลาดไปขายโฆษณาเลย”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เย้ ! ในที่สุดคุณพี่รักก็ชนะ” เซเลน่าตะโกนเสียงดังลั่นลานจอดรถขณะเดินเคียงข้างรักษิตไปที่รถ
“เบาๆ หน่อยสิคุณ อายคนอื่นเขา” รักษิตเตือน แม้ว่าในบริเวณนั้นแทบจะไม่มีผู้คนเดินผ่านไปมาเลยก็ตาม
“ไม่อาย ฉันนะอยากจะประกาศให้คนทั้งโลกแล้วก็เทพทั้งโอลิมปัสรู้ไปเลยด้วยซ้ำว่าคุณพี่รักเอาชนะนายเก่งฉกาจได้” คิวปิดสาวยิ้มกว้าง
“ผมยังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์สักหน่อย ต้องทำเพิ่มมาให้เขาดูอีกสองสามตอนก่อน”
“แหม...แต่ท่าทางหัวหน้าของคุณพลอยชอบมากขนาดนั้น ฉันว่ายังไงๆ ก็ต้องได้อยู่แล้ว” เซเลน่าบอกอย่างมั่นใจ แล้วหันไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังลงจากรถที่เพิ่งเข้ามาจอดใหม่ๆ ก็คว้าสตอรี่บอร์ดจากมือรักษิต ปราดเข้าไปอวดว่า “คุณคะๆ คุณพี่รักขายงานผ่านแล้ว อย่าลืมดูเรื่อง ‘ซีอุส-คิวปิดคู่หูป่วนเมือง’ นะคะ”
ชาย-หญิงคู่นั้นยิ้มรับอย่างงุนงง รักษิตดึงมือเซเลน่ากลับมาพร้อมปรามเสียงขุ่น “เอแคร์..”
ทว่าคิวปิดสาวยังไม่หยุด นำเสนอความภาคภูมิใจต่อ “เรื่องนี้คุณพี่รักคิดเองเลยนะคะ เป็นเรื่องของเทพซีอุสกับคิวปิดออกปราบศัตรู อย่าลืมรอดูนะคะ”
รักษิตจึงโอบร่างเล็กดึงออกมาให้ห่างจากชาย-หญิงคู่นั้น “ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชื่อการ์ตูนน่ารักมากแล้วดิฉันจะคอยติดตามผลงานนะคะ แล้วก็ยินดีด้วยกับงานใหม่นะคะ” หญิงสาวเป็นฝ่ายบอกก่อนจะเดินกันออกไป
รักษิตยิ้มรับ ปฎิเสธไม่ได้ว่าหัวใจเขาพองโตไม่น้อย ที่ผ่านมาเขาทำงานทุกชิ้นด้วยความตั้งใจ จึงก้าวเข้าไปยืนอยู่แถวหน้าของวงการนักวาดการ์ตูนประกอบได้ในเวลาอันรวดเร็ว พอหันมาลองชิมลางผลิตงานการ์ตูนอนิเมชั่น เขาก็ยังคงทุ่มเทความตั้งใจใส่ลงในงานเหมือนเดิมด้วยความเชื่อที่ว่าคนเราถ้ามีความตั้งใจอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ความสำเร็จครั้งนี้จะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีหญิงสาวที่ยังตะโกนไล่หลังบอกชาย-หญิงคู่นั้น
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
พอหญิงสาวหยุดตะโกน รักษิตจึงกระชับวงแขนที่ยังโอบร่างบางเอาไว้ พร้อมเอ่ย “ขอบคุณนะ”
“ขอบคุณอะไรคะ” เซเลน่าถามเสียงอ่อน
“ขอบคุณคุณไง ถ้าไม่มีคุณ ผมก็คงไม่ได้งานนี้”
“แต่ถ้างานคุณพี่รักไม่เก่งจริง ต่อให้ฉันหรือเทพองค์ไหนช่วยก็คงไม่สำเร็จหรอกค่ะ” เซเลน่าเอ่ยจากใจ
และรักษิตก็สามารถสัมผัสได้จากดวงตากลมโตสว่างสุกใสดั่งดวงดาวบนท้องฟ้า...ดาวดวงที่เขาเคยเห็นเพียงในจินตนาการ หากยามนี้ดวงดาวนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“งั้นเอาเป็นว่างานนี้เป็นความสำเร็จของเราสองคน ตกลงไหม” ชายหนุ่มกระชับมือที่โอบร่างเล็กอย่างห้ามใจไม่อยู่ ยังผลให้แก้มนวลแดงปลั่ง
“ค่ะ” ตอบเสียงอ้อมแอ้ม นึกแปลกใจตัวเองที่ไม่ได้รู้สึกอยากจะต่อต้านจากวงแขนอบอุ่นนั้นเลย “ไปกันได้หรือยัง ฉันหิวแล้ว”
หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมง รักษิตและเซเลน่าก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารใกล้สถานี พอพนักงานรับออเอร์จากชายหนุ่มเสร็จแล้วเดินคล้อยหลังไป เซเลน่าก็ถาม
“คุณยังไม่โทรไปบอกคุณน้องยาเลยนี่คะ”
“ผมจะรอเอาไว้บอกพร้อมหน้าพร้อมตากัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เจ้าพงษ์ก็กลับบ้านแล้ว” ดวงตาคมกริบเป็นประกายเมื่อเอ่ยว่า “พงษ์คงดีใจน่าดูที่จะได้ไปเรียนต่อเมืองนอก”
“เมืองนอก ?”
“ประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทยน่ะ”
คิวปิดสาวพยักหน้าเข้าใจ รู้อยู่แล้วว่าโลกมนุษย์ประกอบด้วยประเทศต่างๆ เป็นจำนวนมาก หากยังไม่เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มพูด “คุณสนองานชนะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณพงษ์ได้ไปเรียนเมืองนอกล่ะคะ”
“ก็ผมตั้งใจว่าจะเอาเงินที่ได้จากงานนี้เก็บไว้ส่งให้พงษ์ไปเรียนเมืองนอกโดยเฉพาะเลย เพราะค่าตอบแทนน่าพอใจ และอีกอย่างมันก็เป็นงานระยะยาวและค่อนข้างแน่นอน ผมจะได้มั่นใจว่าจะมีเงินส่งพงษ์จนเรียนจบเลย”
เซเลน่ามองชายหนุ่มอย่างชื่นชม เขาทำทุกอย่างเพื่อน้องชาย โดยไม่เคยนึกถึงตัวเอง แต่จากสีหน้าและท่าทางสบายใจของชายหนุ่ม ทำให้เซเลน่ารู้ว่าการได้ทำเพื่อน้องๆ มันคือความสุขของเขา
และหล่อนก็ต้องการให้เขามีความสุขเช่นกัน
“ถ้าฉันได้กลับขึ้นไปบนเทือกเขาโอลิมปัส ฉันจะไปขอให้เทวีไทคีให้คุณโชคดี สมหวังในทุกอย่างที่คุณปรารถนานะคะ”
“ไม่เห็นจำเป็นเลย เพราะผมมีคุณเป็นเทวีแห่งโชคอยู่แล้ว”
เซเลน่ายิ้มเขิน แก้เก้อว่า
“คุณพูดอย่างนี้ คุณลืมไปหรือเปล่าคะ ว่าฉันทำอะไรไว้กับคุณยา คุณภูมิ”
“ผมลืมไม่ลงหรอก แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นดีเสมอ และผมก็พอจะรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่เกิดจากเรื่องวุ่นๆ นี้”
เขาไม่เคยพูดอย่างนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการเขินอาย อยากจะลุกเดินหนีออกไปจากตรงนี้ หากก้อนเนื้อใต้หน้าอกข้างซ้ายมันกลับสั่งให้เขานั่งอยู่กับที่และมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายเพื่อตอกย้ำให้หญิงสาวรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นมันมาจากหัวใจ
หัวใจของคิวปิดสาวเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่ก็ต้องหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองรู้สึกดีกับคำพูดของเขามากเกินไป เนื่องจากรู้อยู่แก่ใจ ว่าถ้าเขารู้ความจริงทั้งหมดว่าเรื่องที่หล่อนทำจะส่งผลให้รักษิยาเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เขาคงไม่พูดเช่นนี้
************************************************
สาธิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ส.ค. 2554, 01:35:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ส.ค. 2554, 01:35:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 1291
<< ตอน 15 | ตอน 17 >> |