แหวนปฏิพัทธ์ (ขาย E-book ที่ meb และ ookbee ในชื่อว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" แล้วนะคะ)
ปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ธราต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต

เพื่อพบกับทินกร ชายผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอจากการโดนทำร้าย

เขาเป็นดาราดังที่ทำตัวแย่ๆ จนในปัจจุบันชีวิตตกอับ ไร้งานละคร

เธอจึงพยายามที่จะช่วยเหลือเขาเป็นการตอบแทน

แม้ความหวังดีของเธอจะสร้างความหงุดหงิดน่ารำคาญสำหรับเขาแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามที่จะทำให้สำเร็จ แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

จนทุกอย่างมาถึงทางเลือก ระหว่างหัวใจกับเป้าหมาย อะไรสำคัญกว่า....
Tags: รักโรแมนติก,ดารา,นักเขียน

ตอน: ตอนที่ 25 ...นิทรรศการในห้องของเรา

ทำไมทินกรถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ นั่นเป็นคำถามที่เธอยังหาคำตอบไม่ได้ตลอดมา ยิ่งอาการโกรธเกรี้ยวที่เขามักแสดงออก หรือกระทั่งอาการที่ดูน่ากลัวจนทำให้เธอใจสั่นนั่นก็ด้วย ทั้งที่ผ่านมาเธอไม่เคยแม้จะแตะตัวเขาได้ ก็เขาเล่นหวงตัวซะขนาดนั้น

“ชล ชุดนี้ดีหรือเปล่า”

จากที่คิดไว้ว่าเขาอาจจะงอนอะไรบางอย่างกับอัจฉรา แต่เท่าที่ผ่านมาหลายวันเขาก็ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น

“ชล ยังฟังพี่อยู่ไหมเนี่ย” เสียงที่เรียกนั้นดังขึ้นมาอีกจนธราสะดุ้งเฮือก หันกลับมามองเขาอย่างอึ้งๆ

“เอ่อ...ขอโทษนะคะพี่ปุ่น พอดีชลเหม่อๆ เมื่อกี้พี่ว่าไงนะคะ”

“ไหนชลเหม่อคิดเรื่องไรอยู่เหรอ บอกพี่ได้ไหม” หญิงสาวก้มหน้างุดอย่างคนทำความผิด จนชายหนุ่มต้องเอ่ย “ไม่บอกก็ไม่เป็นไรครับ นี่มาดูชุดนี้ดีกว่า ชลว่าดีไหม”

ชุดที่ว่านั่นคือเกาะอกซีทรูบางเบา เผยส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน “ไม่ค่ะ ชลว่ามันโป๊ไป ชลเป็นทีมงานนะคะ ไม่ใช่ดารา ขืนใส่แบบนี้ต้องโดนนินทาแน่ๆ”

ปารวัตรพยักหน้า พร้อมทั้งหยิบอีกชุดขึ้นมา ชุดนี้ยาวคลุมแขนและกระโปรงคลุมขาไปจนเกือบถึงตาตุ่ม “โหย พี่ปุ่นคะ ไปงานเลี้ยงนะคะ ไม่ได้ไปบวชชี นี่ชลว่าชุดนี้ก็พอแล้วค่ะ”

หญิงสาวหยิบชุดเดรสแขนกุดสีฟ้าความยาวพอดีเข่าขึ้นมาทาบกับตัวแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ปารวัตรพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยทันที

“ก็ดีเหมือนกัน ตัวเล็กๆ ใส่อะไรก็สวยเนอะ”

“คนมันสวยก็งี้แหละค่ะ” ธรายักคิ้วอย่างมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน เรียกเสียงหัวเราะจากผู้กำกับหนุ่มได้เป็นอย่างดี



ธรามองชุดในมือยิ้มๆ ขณะเดินกลับคอนโด ชุดเดรสสีฟ้าเมื่อครู่นี้ปารวัตรเป็นคนซื้อให้ คงไม่แปลกเลยถ้าเขาจะขอเธอเต้นรำในคืนนั้น แต่ไม่นานนัก ดวงหน้าหวานก็หุบยิ้มทันทีที่ภาพคนหน้าบึ้งตึงดูโกรธเกรี้ยวแล่นเข้ามาในหัวสมอง

...ไม่หรอก! ตานั่นจะมาโกรธเราทำไม แค่เราเต้นรำกับคนอื่น

แต่ความคิดทุกอย่างก็จบลง เมื่อเปิดประตูห้องตัวเองมาเพื่อพบกับอะไรบางอย่างที่ช่างเหมือนกับสิ่งที่นึกคิดเมื่อครู่นัก

“นี่คุณเพลิง! เข้ามาได้ยังไงฮะ” หญิงสาวแผดเสียงลั่นเมื่อพบบุคคลไม่พึงประสงค์นั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องเธอ เขามองมานิ่งๆ พร้อมทั้งลุกเดินไปขยับนู่นขยับนี่ให้หุ่นโชว์ตัวสวย

ไม่เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่ในห้องนี้ยังมีหุ่นโชว์อีกเป็นสิบตัว!

หุ่นทุกตัวถูกสวมใส่ด้วยชุดเดรส และชุดราตรีหลากหลายรูปแบบ ที่คอหุ่นมีสร้อยเพชรประดับไข่มุกคล้องไว้อย่างเหมาะเจาะ บรรยากาศของห้องสีฟ้าครามในยามนี้ราวกับเป็นการจัดนิทรรศการเสื้อผ้าชั้นเยี่ยม แสงเพชรวาววับต้องตาจนต้องเบือนมองทางอื่น

...ให้ตายเถอะ! นี่ห้องนอนนะ ไม่ใช่ร้านเสื้อผ้า

“คุณเพลิง ฉันถาม ไม่ได้ยินเหรอ”

“ได้ยิน” เขาตอบเรียบๆ ในขณะที่มือยังคงจับขยับเสื้อผ้าของหุ่นตัวหนึ่ง ไม่หันมามองเธอด้วยซ้ำ

หญิงสาวกอดอกมองอย่างหงุดหงิดใจนัก ร่างบางก้าวเข้าไปแทรกกางแขนกั้นอยู่หน้าหุ่น “ได้ยินแล้วก็ตอบสิคะ คุณเข้ามาจัดนิทรรศการอะไรในห้องฉัน”

ทินกรเลิกคิ้วสูง ส่งเสียงฮึในลำคอ “คุณอยู่ ผมจ่าย ต้องเรียกว่าห้องของเราสิถึงจะถูก”

“ค่ะ ห้องของเรา งั้นคุณเข้ามาทำอะไรในห้องของเราล่ะคะ” พูดไปแล้วธราก็นึกอยากจะตะปบคำพูดนั้นกลับมาไว้ในปากนัก เมื่อเห็นดวงตาแพรวพราวเจ้าเล่ห์ของคนที่เคยเป็นโรคกลัวผู้หญิง

“ก็ ห้อง-ของ-เรา แล้วทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้ เข้ามาทำอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ยังได้เลย คุณจะถามต่อไหมว่าผมหมายถึงอะไร” ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้ กลัวคนตัวเล็กจะไม่ได้ยินกระมัง

“มะ...ไม่ล่ะค่ะ พูดไกลๆ ก็ได้ ฉันไม่ได้หูหนวก” หญิงสาวเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเร็วรี่ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียงด้วยใบหน้าเรียบเฉยที่สุด แม้มันจะทำยากลำบากจนต้องกัดปากตัวเองแน่นก็ตาม

“ผมเอาชุดมาให้คุณเลือก และในงานก่อตั้งช่อง คุณต้องใส่ชุดของผม...เท่านั้น” เพียงแค่เอาชุดมาให้เลือก แต่ไม่มีทางอื่นให้เธอเลือกเลยในประโยคคำสั่งเมื่อครู่

“แต่พี่ปุ่นเพิ่งซื้อชุดให้ฉันวันนี้เองนะ”

“ก็เอาไปคืนเขาสิ จะยากอะไรล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงหงุดหงิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อคนตรงหน้ากล้าเอ่ยชื่อคนอื่นต่อหน้าเขา และทำท่าทางเหมือนจะปฏิเสธเขาอีกด้วย

“ไม่ได้หรอก ทำอย่างงั้นพี่ปุ่นก็เสียใจแย่สิ” ประโยคนี้ทำให้ทินกรหงุดหงิดยิ่งกว่าประโยคเมื่อครู่เสียอีก เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนย่างเท้าเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มือหนาทั้งสองข้างยันไว้กับขอบเตียงใกล้ร่างบาง ใบหน้าหล่อคมเข้มอยู่ใกล้เธอเพียงคืบ

หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาคู่นั้นบอกชัดว่าเขาไม่อาจทำกับเธออย่างในคืนนั้นได้อีกแล้ว และแม้ปากเก่งๆ ของเธอจะเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ แต่เสียงอู้อี้ๆ ก็ยังร้องห้าม

“อื่อ อือ อื๊อ” ...ออกไปนะ

เหมือนว่าพระเอกหนุ่มจะไม่เข้าใจ “ฮะ อยากจะอื่ออืออื๊อกับผมเหรอ”

สิ้นคำ ชายหนุ่มก็ฝังจมูกลงแก้มนุ่มของหญิงสาวเต็มรัก อย่าว่าแต่จะเบือนหน้าหลบเลย สติสตังของธรายังไม่อยู่กับตัวเลยด้วยซ้ำ เจ้าของรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำท่าจะฝังจูบลงที่ข้างแก้มนวลอีกครั้งหากไม่โดนมือบางดันออกเสียก่อน

ไวอย่างกับลิง คนตัวเล็กกระโดดขึ้นไปนั่งอยู่กลางเตียง โดยมีผ้าห่มพันไว้โดยรอบ โผล่ออกมาเพียงหัว กะพริบตาปริบๆ มองเขาแล้วไม่พูดไรออกมาเลยสักคำ

“อ้าว ไม่อื่ออืออื๊อแล้วเหรอ” ทินกรเลิกคิ้วสูงยิ่งกว่าทุกครั้ง สายตาที่มองมาอย่างปรารถนานั้นเสียดายสุดซึ้ง

หญิงสาวหน้าแดงก่ำ เธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาไม่เข้าใจ เขาเข้าใจทั้งหมด แต่เขาแกล้งซื่อบื้อ!

“อื่ออืออื๊อบ้าบอไรเล่า ฉันบอกให้ออกไปต่างหากล่ะ” มือบางกระชับผ้าห่มแน่นกว่าเดิม ค่อยๆ ขยับไปที่อีกด้านของเตียง หากชายหนุ่มกระโดดตามขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอต้องมีทางหนีทีไล่แน่นอน

“ผมว่าคุณแกะผ้าห่มออกดีกว่า มันกำลังขัดขวางความสุขของเราอยู่นะ”

“ความสุขบ้าอะไร ฉันไม่สนุกกับคำพูดหื่นกามของคุณหรอก ออกไป๊” ธรากัดริมฝีปากแน่น อยากจะหาของเขวี้ยงไปให้หน้าเละ จะได้เลิกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เธอสักที

...ไอ้คนโรคจิต หลายบุคลิก

ชายหนุ่มพยักหน้ารัวๆ “ได้สิ แต่ก่อนออก...”

ทินกรไม่พูดอะไรต่อ แต่การกระทำของเขานั้นทำให้ธราตั้งสติไม่ทัน ชายหนุ่มพุ่งพรวดขึ้นมาบนเตียงอย่างอุกอาจ ก่อนจะยกร่างบางรวมทั้งผ้าห่มผืนหนาพาดเอาไว้ที่บ่ากว้าง และยืนหมุนตัวอยู่กลางห้องรัวเร็วจนธราหัวสั่นหัวคลอน ผมเผ้ายาวกรุยกรายสะบัดตีกันยุ่งเหยิง

“ว้าย! นี่ทำบ้าอะไรของคุณ คุณเพลิง กรี๊ด!” หญิงสาวโอดครวญไม่เป็นภาษา เมื่อความมึนงงเข้าครอบคลุมสมอง ห้องสีฟ้าที่ถูกจัดนิทรรศการอยู่ในห้องเมื่อครู่กลายเป็นเหมือนภาพยนตร์ที่ถูกเร่งสปีดความเร็วไว้ให้เร็วที่สุด มือเล็กอยู่ใต้ผ้าห่มนั้นขยับดุกดิกไปมา คงต้องโทษตัวเองกระมังที่รัดไว้เสียแน่นจนขยับไม่ได้

พระเอกหนุ่มยังยืนหมุนตัวไม่หยุด ในความรู้สึกที่แสนเลือนราง ธราได้ยินเสียงตัวเองร้องห้ามเขาเสียงแผ่ว “ปล่อยนะ...”

จนเขาพอใจนั่นแหละ ถึงได้เหวี่ยงร่างบางลงกระแทกกับเตียงนุ่ม โดยไม่สนเรื่องความรุนแรง ใบหน้าคมเข้มโน้มลงไปฝังจูบไว้เต็มรักทั้งแก้มนุ่มและซอกคอนวลเนียนของคนที่ยังมึนงง ตีตราประทับความเป็นเจ้าของไว้ทั่วทั้งใบหน้าอย่างเอาแต่ใจ เว้นไว้เสียแต่ที่ริมฝีปากของคนเก่งซึ่งเขามั่นใจว่าสักวันเธอต้องเต็มใจให้เขามากกว่านี้

“ผมให้เวลาคุณเลือกชุด ในวันงานห้ามคุณใส่ชุดของหมอนั่นเด็ดขาด อย่าทำให้ผมรู้สึกด้อยกว่าใครอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่งั้นครั้งหน้าโดนหนักกว่านี้แน่” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงดุ ก่อนหอมแก้มเธออีกฟอดใหญ่ในขณะที่คนตัวเล็กเริ่มตั้งสติได้แล้ว แต่ไม่สามารถขยับเขยื้อนปัดป้องใดๆ ได้เลย

...โธ่เว้ย! เสียเปรียบ

ทินกรเดินกลับมาที่ห้องแล้ว เสียงทักทายจากเจ้าตูบดังขึ้นเมื่อเจ้านายคนสำคัญเข้าห้องมาด้วยใบหน้ามีความสุขเหลือล้น
เขาปล่อยยิ้มอย่างเต็มที่ขณะโอบอุ้มสุนัขตัวน้อยขึ้นมาจ้องตา “เจ้าตูบ แกจะดีใจไหมถ้าผู้หญิงคนนั้นมาเป็นเจ้านายอีกคนของแก”

“บ๊อกๆ” ...ตูบรอเวลานี้มาตั้งนานแล้วเจ้านายจ๋า

รอยยิ้มของชายหนุ่มค่อยๆ จางลงเมื่อนึกถึงอุปสรรคทั้งหลายที่ยังคงขัดขวางไว้ ทั้งอัจฉรา ทั้งปารวัตร

...หึ! ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ต่อให้ใครจะตราหน้าว่าเห็นแก่ตัวก็เถอะ

_____________________________________________________________________________________

ฝากนิยายด้วยน้าาาา ชื่อเรื่องว่า "หนึ่งใจในรอยกาล" วางขายที่ www.mebmarket.com และ www.ookbee.com แล้วค่าาา

ฝากเพจด้วยค้าบบ ชื่อเพจว่า "เอวาลิน - นักเขียน"

ปล.ในนี้เอาลงไม่จบเรื่องเด้อ



เอวาลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 พ.ย. 2559, 12:51:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 พ.ย. 2559, 12:51:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 833





<< ตอนที่ 24 ...ของเล่น   ตอนที่ 26 ...หักหน้า >>
Zephyr 6 พ.ย. 2559, 09:51:12 น.
Wowwwwww
พี่เพลิง รุก
พี่เพลิง หวง
พีเพลิง เริ่มทำตัวฟิน
กรี้ดๆๆๆๆ แต่ลงไม่จบ
แง้ เราวิ่งไปตามหาด่วนๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account