แรงรักบุษบา (รอก่อนนะคะ)
การพบกันอย่างมีปริศนา
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง

"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!

แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน

นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
Tags: ปิ่นนลิน ลึกลับ ปริศนา

ตอน: ตอนที่ 8-50%

ตอนที่ 8-50%



เช้าวันนี้มีข่าวที่เหล่าแฟน ๆ วงการบันเทิงต่างให้ความสนใจ ข่าวในกรอบหนังสือพิมพ์ค่อนข้างใหญ่ รวมถึงข่าวตามเวบไซต์ดาราต่าง ๆ

‘พระเอกดังที่โกอินเตอร์ไปเป็นนายแบบแบรนด์ระดับโลก ล่าสุดหอบอาการจิตหลอนว่าโดนผีหลอกกลับไทย ซวยซ้ำซ้อนเพิ่งขับรถคว่ำ เจ็บหนักทั้งผู้จัดการและตัวเอง’

ปราชญ์ดาวางแท็บเล็ตลงทันทีที่เห็นข่าว เขาเพิ่งมาถึงบริษัทได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แล้วรู้สึกไม่ปกติกับบรรยากาศภายในออฟฟิศ พนักงานต่างมองหน้าเขาอย่างแปลก ๆ จนปราชญ์ดาต้องเรียกเลขานุการสาวมาถามให้รู้เรื่อง

“ใครปล่อยข่าวเรื่องธรรศ” รองผู้บริหารหนุ่มขมวดคิ้ว เป็นจังหวะเดียวที่ปราณนท์เคาะประตูก่อนเข้ามาเพราะข่าวธรรศเช่นกัน

“พี่ปั้น พี่เห็นข่าวพี่ธรรศหรือยังครับ” น้องชายคนเล็กถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ข่าวไม่ได้ลงชื่อว่าเป็นพี่ธรรศก็จริง แต่เนื้อหาทุกอย่างบอกชัดว่าเป็นพี่ธรรศ นี่ฝ่ายโอเปอเรเตอร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากทางนักข่าวเพียบเลยครับ”

“นายว่าธรรศจะรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง” ปราชญ์ดาสนใจความรู้สึกธรรศมากกว่าเรื่องอื่น ปกติธรรศจะไม่ตามข่าวบันทิง ไม่เสพย์โซเชียลเน็ตเวิร์ค แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าธรรศจะเกิดเบื่อ แล้วเข้าพวกโซเชียลเนตเวิร์คขึ้นมา ก็อาจจะเห็นข่าวนี้ก็ได้

“ผมถามต้าหลิงแล้วเมื่อกี้ พี่ธรรศยังไม่ทราบครับ ยังไม่ให้พี่ธรรศดูอะไรทั้งนั้น”

ปราชญ์ดาโล่งใจเมื่อฟังคำตอบ ธรรศยังไม่รู้เรื่องนี้จะดีกว่า แม้ธรรศไม่ใช่คนจิตใจอ่อนแอ แต่เป็นคนเข้มแข็งจนน่าเป็นห่วงด้วยซ้ำ ปมเรื่องผีติดตัว ไม่รวมถูกย่าเกลียดตั้งแต่จำความได้ทำให้ธรรศมีจิตใจเข้มแข็งมาก หากเรื่องเดียวที่ธรรศจะอ่อนไหวเป็นพิเศษก็คือเรื่องผีบ้าอะไรนั่น

“พี่จะไปดูนายธรรศหน่อย นายจะไปกับพี่ด้วยไหม” พี่ชายเอ่ยถาม น้องชายพยักหน้าโดยไว สองพี่น้องจึงเลื่อนงานออกไปก่อนแล้วรีบไปดูอีกคนที่โรงพยาบาลจะดีกว่า



“พรุ่งนี้กลับบ้านได้แล้วนะครับคุณธรรศ” นายแพทย์ประจำตัวบอกพร้อมรอยยิ้ม ธรรศได้ยินก็ดีใจ การอยู่นิ่ง ๆ แบบนี้ทำให้เขาเบื่อมากถึงมากที่สุด

“ขอบคุณนะครับคุณหมอ”

พอคุณหมอออกไปแล้ว นายแบบหนุ่มดีกรีพระเอกดังก็กดรีโมทเปิดโทรทัศน์ เขาเลือกช่องภาพยนตร์ต่างประเทศเอาไว้ก่อนแล้ว และโปรแกรมฉายก็คือภาพยนตร์รางวัลระดับโลกพอดี ทำให้ธรรศไม่เปลี่ยนช่องไปไหน

ขณะกำลังเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ ธรรศก็เกิดใจว่อกแว่ก นึกเรี่องขัดใจขึ้นมาเสียได้ จนเสียทั้งอรรถรสและสมาธิการชมหนังกวาดรางวัลในจอโทรทัศน์เลย

… ทำไมเมื่อคืนไม่ไปหาบัว?

ธรรศนอนหลับแต่หัวค่ำ ไม่ใช่ง่วงเพราะฤทธิ์ยาอย่างเดียว แต่เขาอยากจะเดินทางผ่านความฝันไปเจอรวินท์รดา หากก็ไม่เป็นอย่างใจคิด เมื่อลืมตารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว

“ทำไม หรือเพราะเกือบเห็นบัวถอดเสื้อ” ธรรศถึงกับกอดอก ขมวดคิ้วคิดหาคำตอบอย่างจริงจัง แม้จะรู้ดีว่าคิดจนหัวแตกก็ไม่รู้คำตอบหรอก

ส่วนที่ตอบได้นั้นยืนอมยิ้มขำอยู่ข้างเตียง ซึ่งนายแบบหนุ่มไม่มีโอกาสได้เห็นร่างทิพย์ของเทวดาเจ้าของกลิ่นหอมดอกแก้วหรอก

“แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวคนอื่นไม่ดีนะ” ศตายุเห็นว่าการใช้สิ่งลี้ลับของใครบางคนช่วยให้ธรรศสนอกสนใจรวินท์รดาถึงจุดที่ควรหยุดได้แล้ว ยิ่งเหตุการณ์ล่าสุด หนูบัวของเขาเกือบโป๊ต่อหน้าดาราหนุ่มคนนี้ ศตายุยังใจหายใจคว่ำอยู่เลย ถ้าเกิดคลาดสายตามีหวังหนูบัวคงได้อายแน่ ๆ

ธรรศเลิกคิด เลิกเสียดายวนไปวนมา

“ไม่เจอในความฝัน ก็ไปหาตัวจริงก็ได้นี่นา” งานนี้ต้องให้เพื่อนซี้ช่วยเปิดทางจีบสาวสักหน่อย

แต่เมื่อธรรศหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือ กลับเพิ่งสังเกตว่าโทรศัพท์มือถือเขาหายไปจากโต๊ะข้างเตียง ธรรศนั่งระลึกอยู่นานว่าเขาเอาไปลืมวางไว้ตรงไหนหรือเปล่า เขาเดินตามหาทั้งในห้องน้ำ โต๊ะ ตู้ โซฟารอบห้องก็ไม่เจอเลย

“หรือจะอยู่ที่ต้าหลิง” ธรรศคาดเดา ไม่ได้นึกไม่พอใจอะไร ต้าหลิงอาจจะยืมโทรศัพท์เขาไปติดต่องานก็ได้ อีกอย่างธรรศไม่มีความลับอะไรในโทรศัพท์มือถือที่ต้าหลิงรู้ไม่ได้

ขณะนั้นเองมีเสียงเคาะประตูห้องจากด้านนอกดังขึ้นสามครั้ง ธรรศขานรับแต่ประตูก็ไม่ถูกเปิดออกเสียทีทว่ากลับได้ยินเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง ความสงสัยทำให้เขาเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูห้องเอง และพบแต่ความว่างเปล่า ธรรศกลอกตาซ้ายขวา ด้านซ้ายคือหน้าต่าง เพราะห้องพักของเขาคือห้องด้านในสุดซึ่งง่ายต่อการดูแลความปลอดภัย ด้านขวาเป็นทางออกไปยังเคาน์เตอร์พยาบาล บรรยากาศเงียบกริบผิดปกติ ไม่ได้ยินแม้เสียงของพยาบาล

ธรรศมั่นใจว่าไม่น่าใช่ต้าหลิงมาแกล้ง ประตูห้องของต้าหลิงอยู่ถัดไปก็จริง แต่ไม่ได้ใกล้ขนาดวิ่งไปหลบได้ทันทีที่ธรรศเปิดประตู ส่วนห้องประตูห้องตรงข้ามก็ปิดสนิท ธรรศจำไม่ผิดปราชญ์ดาสงวนชั้นวีไอพีฝั่งนี้ไว้ จากห้องสี่ห้องในฝั่งนี้ นอกจากเขากับต้าหลิงก็ไม่มีคนไข้คนอื่นอยู่เลย

นายแบบหนุ่มสังหรณ์ใจไม่ดีชอบกล เขาเดินออกจากห้อง ไปยืนกลางทางเดิน มองรอบกายอีกครั้ง ก่อนดวงตาของเขาจะไปสะดุดกับหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่งซึ่งวางบนพื้นอยู่กลางทางเดิน ธรรศเดินตรงไปหยิบขึ้นมาอ่าน จุดแรกบนหนังสือพิมพ์บันเทิงนั้นดึงดูดสายตาของธรรศทันที

‘พระเอกดังที่โกอินเตอร์ไปเป็นนายแบบแบรนด์ระดับโลก ล่าสุดหอบอาการจิตหลอนว่าโดนผีหลอก ซวยซ้ำเพิ่งขับรถคว่ำ เจ็บหนักทั้งผู้จัดการและตัวเอง’

ราวกับไอเย็นจับเส้นเลือดในตัวเขา ดั่งความมืดมนครอบงำโลกทั้งใบของธรรศ โลกที่สว่างไสว เป็นโลกอีกใบที่ธรรศจะร่าเริงมีความสุข เป็นตัวของเขาเองโดยไม่มีใครรู้หรือพูดกับเขาเรื่องผีเลย เขาไม่ใช่ตัวซวย แต่เป็นที่ต้องการของคนมากมาย เป็นที่รักของใครหลาย ๆ คน หากสิ่งที่ธรรศได้เห็นตอนนี้ทำให้โลกใบเดียวที่เขาเหลืออยู่นั้นพังทลายลงจนได้

“ธรรศ” เสียงของพี่ชายคนโตทำให้ธรรศรู้สึกตัว สบแววตาตกตะลึงของพี่ชายด้วยความรู้สึกชาไปหมด

“ใครเอาหนังสือพิมพ์ให้พี่อ่าน!” ปราณนท์ตวาดไปทางเคาน์เตอร์พยาบาล พยาบาลต่างส่ายหน้าว่าไม่รู้เรื่องด้วยเลย ต้าหลิงตาลีตาเหลือกออกมาจากห้องพักเพราะเสียงดังฟ้าฝ่าของปราณนท์ พลันเห็นธรรศยืนถือหนังสือพิมพ์ หน้าของต้าหลิงก็ถอดสีด้วยเช่นกัน

“ผมสั่งไว้แล้ว!” ปราณนท์เดือดจนหน้าแดง

“อย่าเสียงดังสิปิง นี่โรงพยาบาลนะ” ปราชญ์ดาปรามน้องคนเล็ก ก่อนจะเดินไปโอบไหล่น้องอีกคนซึ่งยืนหน้านิ่งจนคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ “เข้าห้องเถอะ แล้วค่อยคิดแก้ปัญหากัน”

ธรรศยอมให้พี่ชายโอบไหล่ พาเดินไปยังห้องพักฟื้นอย่างว่าง่าย ด้านสองหนุ่มที่คนหนึ่งยังฟึดฟัดไม่หาย ส่วนอีกคนก็ทำอะไรไม่ถูก แม้จะเคยมีประสบการณ์การตามแก้ข่าวดารามา หากเรื่องนี้ต้าหลิงก็ถึงกับคิดอะไรไม่ออก ทั้งสองเดินตามปราชญ์ดาเข้าไปเช่นกัน

โดยมีสายตาคู่วาววับจากมุมทางเดินที่ไม่มีใครสังเกตจ้องมองตามสี่หนุ่มไปอย่างไม่วางตา ริมฝีปากเจ้าของดวงตาคู่วาววับไม่ยิ้มและไม่บึ้ง จนมองไม่ออกว่ากำลังพอใจ สะใจ หรือแค้นเคืองมากกันแน่

หากเสียงดังจากความคิดที่คอยเตือนให้ยอมรอคอยเวลาเป็นใจอีกสักหน่อยนั้น ก็จุดรอยยิ้มขึ้นบนริมฝีปากได้ในที่สุด

‘มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามแผนที่วางไว้’



ด้านวธิดารู้ข่าวก็เกิดความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าอ้ายอีที่ไหนปล่อยข่าวความลับที่สุดของบ้านอัศวชยภัทรจนกลายเป็นข่าวจนได้ ในสายตาเธอ ธรรศคือจุดด่างพร้อยจนไม่อยากจะนับร่วมสายเลือดกันเลยด้วยซ้ำ

เมื่อครู่เธอไปหาพี่ชายกับพี่สะใภ้ ก็ทันเห็นว่าสองคนคุยเรื่องธรรศอยู่ตรงโต๊ะอาหารเช้าพอดี

“พี่ดลทราบเรื่องข่าวตาธรรศแล้วแบบนี้ พี่ดลจะทำยังไงคะ” วธิดาถามกับท่าทีไม่เดือดร้อนอะไรของพี่ชายคนโต ผิดกับพี่สะใภ้หงุดหงิดจนเห็นได้ชัด

“ก่อเรื่องจนได้นะคะ” ทิพวรรณเองก็เหนื่อยหน่ายใจกับปัญหาที่หลานสามีสร้างเหลือเกิน

“ใครเอาข่าวไปปล่อย นั่นคือคนก่อเรื่องนะคุณทิพ ไม่เกี่ยวกับตาธรรศเลย” ธราดลแย้งเสียงขุ่น

“คุณก็เอาแต่ปกป้องหลาน ถ้าคราวนี้ตาธรรศเกิดกู้ชื่อเสียงกลับมาไม่ได้ จนต้องซมซานมาของานที่สยาม อาร์ทีที ทำ คุณก็คงจะสมใจใช่ไหมคะ เอ๊ะ หรือว่าคุณคือคนปล่อยข่าว” ทิพวรรณก็เดาไปเรื่อย ส่วนคนฟังใม่เรื่อย ๆ ด้วย ถึงกับแสดงออกว่าไม่พอใจ ปิดหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะอาหาร

“ผมไม่ได้เจ้าแผนการแบบนั้นหรอกน่ะ! แล้วผมก็ไม่รู้สึกอะไรกับข่าวด้วยนะ ผมรู้จักหลานดี จะไปร้อนอะไรกับข่าววงการบันเทิง” ก่อนจะโมโหลุกหนีไป

เมื่อพี่ชายไม่ทำอะไร เอาแต่ลำเอียงรักหลานอยู่นั่น วธิดาจึงจะมาจัดการให้เอง ตาธรรศจะต้องรีบแก้ข่าวอย่างด่วนเลย!

“คุณแม่ คุณแม่ใจเย็น ๆ นะคะ” เชรีกอดแขนมารดาหลังจากลงจากรถยนต์ด้านหน้าโรงพยาบาล นักข่าวบันเทิงดักรอทำข่าวธรรศบางคนจำวธิดาได้ก็ปรี่ตรงมาเพื่อจะสัมภาษณ์ แต่ก็ถูกการ์ดกันไว้จนวธิดากับลูกสาวเข้าลิฟท์ได้สำเร็จ

“ถึงได้ไม่อยากให้มันไปทำงานโดดเด่นอะไรมากแบบนี้ไง” วธิดาบ่นอย่างหัวเสีย กลัวจะกระทบกับภาพลักษณ์บริษัท นี่ดีนะที่คุณย่ายังไม่ทราบเรื่อง

“คุณแม่ดีใจไม่ใช่หรือคะที่พี่ธรรศไปทำงานไกล ๆ” เชรีจำที่มารดาพูดไว้ได้

“แต่แม่ก็ไม่ชอบนะเชรี ข่าวแบบนี้มันดีที่ไหน อาชีพอื่นก็มีเยอะแยะไม่ไปทำ ต้องไปอยู่กลางสปอตไลท์แบบนี้ พอมีคนเจอความลับมันเข้า มันก็กระเทือนมาถึงเรา”

“เชรีไม่รู้สึกอะไรนะคะ พี่ธรรศไมได้บ้านะคะ” เชรีกอดอก เริ่มหงุดหงิดแม่บ้างแล้ว พอถึงชั้นที่หมาย ประตูลิฟท์เปิดออก วธิดาก็สะดุดตากับหญิงสาวอายุราวยี่สิบกลาง ๆ ผมยาว สวมแว่นกันแดด อยู่ในเดรสสีดำที่ยืนรอลิฟท์

พอหญิงสาวในชุดดำลงลิฟท์ไปแล้ว วธิดาก็เพิ่งนึกออก

“นั่นมันเดหลีใช่ไหม”

“เดหลี แม่หมายถึงผู้หญิงที่คุณยายอยากจับคู่ให้พี่ปั้นน่ะหรือคะ”

เชรีรู้มากกว่าแค่ที่พูดออกไปด้วย เดหลี ลูกสาวท่านประธานใหญ่บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่ดัง คุณยายของเชรี หรือเป็นย่าของปราชญ์ดานั้นรู้จักกับปู่ของเดหลี เลยอยากผูกดองกับหลานชายคนโตเอาไว้

สามปีก่อนคุณยายพยายามนัดจับคู่แต่ไม่สำเร็จ เชรีได้ยินช่อแก้วเล่าว่าเดหลีไม่ได้ชอบปราชญ์ดาสักนิด กลับชอบธรรศมากกว่า แต่ธรรศก็หักอกนางจนนางหายหน้าไปจากครอบครัวเธอเลย นี่เป็นอีกเหตุผลที่ธรรศหาทางไปทำงานต่างประเทศอยู่นานถึงสามปี

เดหลีคงรู้ข่าวว่าธรรศกลับมาไทยแล้ว นี่ไม่ใช่ว่าแอบมาเยี่ยมธรรศหรอกนะ

“เอ๊ะ พี่ช่อแก้วมาถึงหรือยังนะ” เชรีเพิ่งนึกออกว่าให้ช่อแก้วมาเตือนต้าหลิงเรื่องแม่ของเธอจะมาหาธรรศ ด้วยกลัวว่าจะรับมือกันไม่ถูก

แน่นอนเรื่องนี้ วธิดา ไม่รู้เรื่องด้วยเลย พอได้ยินจึงถามอย่างสงสัย

“ยัยช่อมาด้วยหรือ มาทำไม”

“ได้ยินว่าจะมาเยี่ยมพี่ธรรศนะคะ เชรีก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เธอจึงตอบปัด ๆ ไป ก่อนจะเบี่ยงความสนใจมารดาไปที่ประตูห้องพักฟื้นของธรรศแทน





จบตอน 50%


เดียวมาตอบคอมเมนท์นะค้า



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 พ.ย. 2559, 20:31:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 พ.ย. 2559, 20:31:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1033





<< ตอนที 7 - 100%   ตอนที่ 8 - 100% >>
แว่นใส 7 พ.ย. 2559, 21:17:18 น.
ใครแอบเอาหนังสือมาวางนะ เดหลีเหรอ


พอใจ 9 พ.ย. 2559, 22:28:28 น.
สงสารพี่ธรรศเกิดเรื่องเป็นข่าวจนได้ แถมมีใครบางคนไม่ให้พี่ธรรศไปหาหนูบัวตอนหลับอีก น่าเอ็นดู อิอิ


Zephyr 20 พ.ย. 2559, 16:04:51 น.
ตามมากรี้ดพี่ยุแทน แอ่ๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account