คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,
ตอน: ตอน 3 [1]
ด้วยความเป็นห่วงเรื่องงานที่สมัครไว้ให้เพชรน้ำหนึ่ง ยุติเลยมาหาเธอตั้งแต่ยังไม่ฟ้าสางซึ่งยังไม่สว่างดี เดินเข้าบ้านทางประตูรั้วหลังบ้าน ด้านนี้อยู่ห่างจากตึกใหญ่ แต่พอมองเห็นทางด้านห้องนอนของเพชรน้ำหนึ่ง แล้วชายหนุ่มเดินอ้อมมาทางด้านหน้าบ้าน ก็สะดุดตากับทางเดินห้องกระจกที่ทอดผ่านระหว่างคลอง เห็นเธอนั่งกับพื้นวางชามโคมใบใหญ่ไว้ข้างกาย แล้วก้มลงกำลังให้อาหารปลา ใช้ช้อนตักข้าวสุกโปรยลงไปในน้ำ ยุตินึกในใจ...
‘หนึ่งในชุดนอนบางหวิวคอกว้างกว้านลึก พอก้มลงแต่ละทีเห็นไปถึงไหนถึงไหน...’ เขาจ้องมองตะลึง! เห็นอย่างนั้นให้เกิดอาการคอแห้งผากขึ้นมาทันที
“เอื๊อก!...” ยุติกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หยุดยืนจ้องมองจนอีกฝ่ายรู้สึกตัว
“มองอะไรพี่ยุติ” เสียงตวาดจากเพชรน้ำหนึ่ง เพราะเธอตกใจที่เห็นว่าถูกจ้องมอง
“เปล่า” บอกแล้วยุติทำเฉไฉหลบตาเมื่อถูกจับผิด
“มาทำไมตั้งแต่มืด ตากับยายยังไม่เปิดบ้าน”
“พี่มาหาหนึ่งนั่นแหละจะถามเรื่องงานจะเอายังไง ออกมาคุยกับพี่หน่อยสิ”
“ไม่มีอารมณ์ ไว้วันหลังละกัน” เธอตอบง่ายดาย ยังคงให้อาหารปลาต่อ แต่เวลาก้มระมัดระวังมากขึ้น ป้องกันตัวกลัวคนเห็นส่วนสงวนที่ควรอำพรางด้วยการใช้มือปิดทาบที่หน้าอกของตัวเอง และสายตาพลางชำเลืองมองมาทางเขา เห็นว่าเขายังคงชะเง้อ มองจ้องอยู่ไม่วางตา “พี่ยุตินี่... มองอะไรนักหนา ...สายตาลามก” เธอเริ่มขุ่นเคืองเลยตะโกนต่อว่าออกไป แล้วรีบลุกหนีเดินเข้าตึกใหญ่ไปเลย
ยุติถึงได้รู้สึกเสียหน้านิดหน่อยที่โดนหญิงสาวต่อว่าแล้วเชิดใส่ ชายหนุ่มกลับเข้าบ้านของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์จนต้องมาระบายให้แม่ของตัวฟัง
“แม่ดูหนึ่งทำกับผมสิ ผมอุตส่าห์ไปหาจะถามเรื่องงานสักหน่อย แต่ดันไม่ยอมออกมาพูดกับผม แถมยังมาด่าผมอีก ผู้หญิงอะไรไม่น่ารักเลย”
“แล้วไปทำไมตั้งแต่ยังไม่สว่างล่ะ” มารดาถามหาเหตุผล ใจไม่นึกเข้าข้างลูกชายที่เลี้ยงดูมารู้นิสัยดีอยู่แล้ว
“ถ้าไปตอนสว่างหนึ่งมักจะเข้านอนไปแล้ว ไม่ได้เจอกันอีกสิแม่”
“งั้น รอเจอกันตอนเย็นสิ แล้วไปทำยังไงเข้าล่ะ ถึงโดนหนูหนึ่งด่ามา”
“เพราะหนึ่ง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ใส่ชุดนอนบางจ๋อย นี่ถ้าไม่ได้ใส่ยกทรงไว้ข้างใน มีหวังผมคงช็อก หัวใจวายตายทันที หนึ่งมัวแต่ให้อาหารปลา ช่างไม่ระวังตัวเลย เวลาก้มทำนมหก ผมละตกใจหมดเลย เอ่อ...” ยุติเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า เขาไม่น่าพูดโพล่งบอกแม่ไปอย่างนั้น
“แม่ว่านั่นมันบ้านเขา เลยทำตัวตามสบาย คงไม่ทันนึกว่าลูกจะไปตอนนั้น แล้วลูกบอกหนูหนึ่งเขาหรือเปล่าว่า ให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยออกมาคุยกับลูก”
“เอ่อ... เปล่า ลืมบอก มัวแต่ตกตะลึงตาค้างอยู่”
“มัวแต่จ้องมอง จนเขาโมโหล่ะสิ เขาถึงว่าเข้าให้”
“เขาด่าผมว่าสายตาลามก... น่าเกลียดจริงเลย หนึ่งด่าผมอย่างนี้ได้ยังไง”
“อืม... แม่ว่าน่าเกลียดจริงด้วยแหละ ยุติไม่น่าไปจ้องมองนมหนูหนึ่งเขาอย่างนั้น”
“อ้าว... แม่ไม่เข้าข้างผมเลย โฮ้ย!... หงุดหงิด ผมไปนอนดีกว่า”
แม้จะโดนว่าให้เสียหน้าไปแล้ว แต่กิจการยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนข้างบ้านถือเป็นงานประจำของยุติ โดยเฉพาะคนข้างบ้านที่เป็นสาวสวยแล้วอดจะยุ่งด้วยไม่ได้
“อ้าว... ไม่ทันเห็นพี่ยุติ” เพชรน้ำหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อน
“หือ? ถ้าเห็นพี่แล้วจะทำไมรึ”
“จะได้ไม่รีบออกจากบ้านไง คุณตาอยู่กับคุณยายอยู่ในครัวกำลังกินขนมกันอยู่ พี่ยุติไปร่วมวงด้วยสิ” เธอรีบพูด เตรียมผละหนี
“พี่มาเจอหนึ่งมีธุระจะถามเรื่องงานที่พี่สมัครไว้ให้ บริษัทเขาเรียกสัมภาษณ์หรือยัง”
“เรียกแล้ว อีกสามวันตอนเก้าโมงเช้า”
“เรียกตัวไวดีแฮะ บริษัทไหน”
“ประชาสัมพันธ์โรงแรม แต่หนึ่งไม่ชอบงานที่ต้องเจอคน”
“ลองไปสัมภาษณ์งานดู พี่จะแนะนำวิธีการเตรียมตัว เดี๋ยวไปดูรายละเอียดกัน มาทางนี้สิ” ยุติไม่ฟังเสียงปฏิเสธของอีกฝ่ายสักนิด ยกโน้ตบุ๊กขึ้นมาและกวักมือให้ตามไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาวโคนต้นมะม่วงข้างฝั่งกระท่อมตายายด้วยความที่ยังเกรงใจอยู่บ้างเธอจึงยอมตามไปนั่งด้วย
“โรงแรมนี้หรูหราดีมีระดับไม่ใช่กระจอก ถ้าหนึ่งได้งานนี้ล่ะสุดยอด นี่ดูสถานที่ของเขาซะก่อน” ยุติเปิดให้ดูระบบการทำงานของโรงแรมจากอินเตอร์เน็ต
“และหนึ่งต้องเตรียมเสื้อผ้าหน้าผม ให้เลิศหรูเข้าไว้ ถ้าหนึ่งไม่มีเสื้อผ้าหรูเดี๋ยวพี่พาไปซื้อ รูปร่างหน้าตาสวยสมส่วนอย่างหนึ่งมีเสื้อผ้าที่เข้ากับหนึ่งได้เยอะแยะ พี่ออกเงินซื้อให้ละกัน พี่อยากให้หนึ่งได้งานนี้นะ” ยุติพูดออกตัวด้วยความหวังดี แต่เพราะเขาจ้องมองใบหน้าของเธอไม่วางตา พอดีกับที่เธอหันมามองจ้องตาในระยะกระชั้นชิด เธอเลยต้องหลบสายตา ก้มลงมองที่หน้าจอโน้ตบุ๊ก ก่อนจะพูดคำบางคำที่ทำให้เขาใจแป้วไป
“หนึ่งไม่ชอบให้พี่ยุติมองหน้า”
“อ้าว... ถ้าไม่ให้มองหน้า แล้วจะให้มองส่วนไหนของหนึ่ง เมื่อเช้า... เพิ่งด่าพี่ว่าสายตาลามก”
“ไม่ต้องมองเลยจะดีที่สุด หนึ่งยังไม่เห็นชอบมองหน้าพี่ยุติเลย”
“กลัวพี่ ไม่กล้าจ้องตากันหรือ เป็นกระสือรึไง” ยุติตั้งใจจะล้อเล่น
“เปล่า” เธอตอบน้ำเสียงธรรมดา แบบไม่เล่นด้วย
“อะไรกันพี่ออกจะหน้าตาหล่อเหลาเอาการ สาวแฟนคลับชอบหน้าพี่ทั้งนั้น มีแต่หนึ่งนี่ล่ะไม่เหมือนชาวบ้าน” ยุติพูดอย่างรู้ตัวเอง ปนหลงตัวเองนิดหน่อย เธอจึงเงยหน้ามอง
“ใช่... หน้าตาพี่ยุติหล่อจริงนั่นแหละ แต่ผมทรงเด็กไม่เข้ากับใบหน้าเลยดูขัดหูขัดตาพิกล”
“พี่ดูเด็กเหรอ แหม... เป็นคำชมที่ดีเหมือนกันนะ” ขบวนการคิดบวกเข้าข้างอย่างหลงตัวเองต้องยกให้ชายหนุ่มคนนี้ไม่มีใครเกิน ยิ้มแล้วยิ้มอีกเป็นปลื้มรับกับคำชม
“ไม่ได้ชม หนึ่งไม่ชอบหน้าพี่ยุติ อ้อ... เย็นนี้หนึ่งมีธุระกับแม่พี่ยุติ ขอตัวก่อนค่ะ” หญิงสาวนึกหมั่นไส้ไม่ไหวจะทน จึงรีบลุกเดินหนีไปให้ห่างไกลคนหลงตัวเอง
ถัดจากบ้านอมตนคราไปไม่ไกล ก่อนจะถึงปากซอยมีที่ดินปล่อยร้างรกไปด้วยต้นกระถินริมรั้ว มีต้นมะขามกำลังแตกยอดอ่อน เพชรน้ำหนึ่งเห็นแล้วเปรี้ยวปากอยากกินมากแต่ไม่เคยได้กิน เพราะในสวนของบ้านอนัญชนาไม่มี เนื่องจากคุณตาคุณยายลืมปลูกต้นกระถิน
“อ้าว... เมื่อกี้หนึ่งบอกจะมาหาแม่ แล้วนี่หายไปไหน” ยุติถาม เขายื่นหน้าเข้ามาในห้องครัวเหลียวมองซ้ายมองขวา
“เห็นบ่นอยากกินยอดกระถินเลยเดินออกไปเก็บเอง แถวที่ร้างใกล้ปากซอยโน่น” แม่ตอบเท่านั้น ยุติรีบนำโน้ตบุ๊กเข้าไปเก็บในห้อง แล้วตรงดิ่งออกไปตามเพชรน้ำหนึ่ง
“แหม... ยอดกระถินนี่สูงจัง แต่อวบน่ากิน อึ้บ...” เธอเอื้อมยังไม่ถึงยอดนั้น ดันถูกมือใครไม่รู้ มาจากทางด้านหลัง ฉุดมือของเธอไว้ อาศัยส่วนสูงที่ได้เปรียบกว่า แล้วเอื้อมเด็ดยอดกระถินนั้นให้
“พี่ยุติมาเงียบจัง” เธอรับยอดกระถินมา แหงนมองชายหนุ่มที่เรือนร่างสูงใหญ่กว่ามาก
“ไม่ยักรู้นะนี่ว่าหนึ่งชอบกินของแบบนี้อย่างกะคนจนไม่มีจะกินเลย”
“หนึ่งชอบกิน รสชาติมันมันดี จิ้มกินกับน้ำพริกปลาทูอร่อยเชียวล่ะ คนรวยหรือจนก็กินได้ฟรี แต่ต้องมาเด็ดเอง เพราะไม่มีขายตามท้องตลาดที่สำคัญหนึ่งต้องการประหยัดเงิน เพราะจะจ้างคนขับรถ”
“หัดขับรถเองไม่ดีกว่าเหรอ อุตส่าห์มีรถรุ่นใหม่หรูหราคันละหลายล้านที่พ่อแม่แท้จริงซื้อให้ทั้งที เผื่อเอาไว้ให้ขับตอนมีงานทำจะได้ดูเป็นผู้หญิงมั่นใจ”
“หนึ่งไม่ชอบขับรถเอง ไม่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว”
“ไม่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว?อย่างนั้นไปกับพี่สิ ให้พี่ขับรถให้ไหมล่ะ รถหนึ่งสวยดี พี่ชอบนะ” ชายหนุ่มรับอาสา พูดจาด้วยยิ้มแย้ม เผื่อว่าจะช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้น ...แต่เปล่า
“แบบนั้น... หนึ่งเหมือนตุ๊กตาหน้ารถนะสิ หนึ่งไม่ใช่แบบพวกผู้หญิงที่เป็นแฟนคลับของพี่ยุติหรอกนะ”
“พวกเขาเป็นแฟนคลับของพี่ ไม่ใช่ตุ๊กตาหน้ารถ พวกเขาชอบพี่ดีกับพี่ พี่ต้องคอยเทคแคร์ ดูแลเอาใจใส่ พวกเขาไม่เหมือนหนึ่งหรอก ไม่เห็นจะเคยดีกับพี่เลย ทั้งที่พี่พยายามทำดีด้วยทุกอย่าง” ยุติว่ากระทบกระเทียบ เริ่มหงุดหงิดบ้าง หากมีใครมาพูดถึงแฟนคลับของเขา ในทางไม่ยกย่องให้เกียรติ์ เขาจะเกิดอาการปกป้องขึ้นมาทันที แต่อารมณ์ของเขาไม่ได้ต่อเนื่องไป เมื่อเธอได้แสดงความเป็นห่วงเขา
“พี่ยุติ หลบรถหน่อย อย่ายืนกลางถนน” เพชรน้ำหนึ่งเรียกเขา ให้เข้ามาข้างทาง แต่เขาเหลียวไปดูรถนิดเดียว
“เดี๋ยว เขาขับหลีกเราไปเองแหละ”
“ยืนเข้ามาข้างในให้ห่างริมถนนหน่อยดีกว่า” เธอบอกเขา เหลือบเห็นมีมอเตอร์ไซค์อีกคัน แล่นเข้าซอยมาพอดี จึงตกใจรีบจับมือเขา ดึงเข้าข้างทาง เพื่อให้พ้นการถูกเฉี่ยวชน
“มันจะรีบไปไหนของมัน นี่ถ้าไม่หลบมีหวัง... เกือบไปแล้วไหมล่ะ” เขาบ่นนิดหน่อย ก่อนจะหันมาพูดพร้อมยิ้มกับเธอ “เป็นห่วงพี่เหรอ จับมือพี่ให้หลบรถ” เขาถาม แล้วได้รับการพยักหน้ารับ แทนคำตอบ “นึกถึงสมัยก่อนนะ ตอนนั้นหนึ่งยังอยู่เมืองไทย เวลาข้ามถนน พี่บังเอิญเจอหนึ่งเป็นประจำ ลังเลกว่าจะข้ามถนนได้ พี่ต้องเดินจูงมือ พาหนึ่งข้ามถนนบ่อยเลย”
“อืม... ใช่” เธอพยักหน้ารับ จำได้ถึงเรื่องวันเก่าก่อนที่ผ่านมาเช่นกัน เผลอเหม่อมองทั่วทั้งใบหน้าที่ระบายยิ้มอ่อนหวาน
“มองพี่แบบนั้นทำไมเหรอ”
“ความจริงพี่ยุตินี่เป็นคนรูปร่างสูงโปร่งอย่างกับนายแบบ ตาสวย ยิ้มสวย หน้าตาดี” เธอพูดความจริงตามตรงตามที่ตาเห็น ไม่มีเจตนาแอบแฝง
“ขอบคุณที่ชมพี่ พี่มันคนหล่ออยู่แล้ว” เขายิ้มกว้างอย่างเป็นปลื้ม ส่งสายตาเจ้าชู้ มองจ้องอยู่แต่ใบหน้าเธอ
“เปล่า ไม่ได้ชม พูดไปตามความเป็นจริง ไม่ต้องมาทำเป็นเหวี่ยงแห”
“เอ๋... หมายความว่าอะไร ‘เหวี่ยงแห’ ” หนุ่มหล่อถาม ทำหน้าฉงน?
“ก็... เหวี่ยงแหหว่านเสน่ห์ไง ไม่ได้กินหรอก เพราะแถวนี้ไม่มีปลาหวั่นไหวใจอ่อน ไม่มีสาวซื่อใสไร้เดียงสา แบบนั้นไม่ใช่หนึ่ง” เธอเชิดใส่ เขากลับเห็นเป็นขำ
“หนึ่งเห็นพี่เป็นอย่างนั้นเหรอ แล้ว... พี่หว่านเสน่ห์ยังไง” เขาถาม ยังคงยิ้มละไมให้เธอ
“เล่นหูเล่นตาชม้อยชม้ายชายตา ถ้าไม่เรียกเจ้าชู้ไม่รู้จะเรียกอะไร นิสัยผู้ชายเจ้าชู้ก็งี้ล่ะชอบมองสาวแบบเล้าโลม”
“โอ้โฮ... ถ้าพี่เล้าโลมได้โดยใช้สายตา สาวคนนั้นคงไม่ธรรมดา แค่มองตาก็รู้ใจคงจะไวไฟมองปุ๊บช็อตปั๊บไฟราคะลุกโชน พี่ชอบนะสาวแบบหนึ่งว่า เอ... หนึ่งเป็นแบบนั้นหรือเปล่า”
“หือ? เอ๊ย! หนึ่งพูดผิด ไม่อยู่เมืองไทยนาน ภาษาไทยไม่แข็งแรงเสียแล้ว หนึ่งตั้งใจจะว่าพี่ยุติชอบมองสาวแบบแทะโลมต่างหาก นี่กำลังว่าอยู่นะไม่ได้ชม ยังจะทำหน้าแป้นแล้นอีก” จากคำต่อว่าของสาวเจ้าเท่านั้นเขาถึงกับหัวเราะชอบใจ
“แป้นแล้น? จะว่ายิ้มแป้นใช่ไหมล่ะ พี่ชอบให้หนึ่งว่า ถึงด่า... คงด่าได้ไพเราะน่าฟังยิ่งจริงเชียว ฮะ ฮะ ฮะ... ” เล่นคำพูดสำบัดสำนวน และยังไม่วายหัวเราะไม่เลิกอีก
“คนอะไรว่าเท่าไหร่ไม่ยักเจ็บ ...เครียดละ” หญิงสาวค้อนขวับ เริ่มหน้ามู่ทู่ปากตูมแก้มป่อง ...ชักไม่สบอารมณ์ผสมเขินอายด้วยไม่กล้ามองตาเวลาเขาหัวเราะโดยเฉพาะเขาชอบจ้องมองมาอย่างไม่วางตา
‘ไม่ได้เจ้าชู้... ฯลฯ’ ...แว่วเสียงเพลงมาจากร้านขายซีดี แถวหน้าปากซอยไม่ไกลกัน
“เอ๊ะ! นั่น... ร้านขายซีดีเปิดเพลงที่พี่ชอบพอดี แวะไปดูหน่อยนะ” เขาไม่พูดเปล่าฉวยโอกาสดึงมือเธอให้เดินตามไป
‘ใครอนุญาตให้พี่ยุติ มาจับมือถือแขนกันนี่... ไม่รู้รึไง กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่’
หญิงสาวนึกตำหนิเขาอยู่ในใจ กว่าจะเดินไปถึงร้านเพลงก็จบ เริ่มเพลงอื่นต่อไป...
“ขอดูแผ่นเพลงที่เพิ่งเปิดจบไปตะกี้นี่... มีไหม” เขาเข้าไปถาม
คนขายรีบส่งแผ่นซีดีเพลงนั้นให้ดูทันทีในอารมณ์อยากขายมาก
“มีครับแผ่นนี้เพิ่งมาใหม่ล่าสุด ขายดีนะครับ”
“งั้นเอาแผ่นนี้ละกัน” เขาตัดสินใจซื้อทันทีไม่ช้ารีรอ
“รู้ไหมเพลงนี้พี่ชอบเพราะมันโดนใจพี่ยังไงไม่รู้ ไม่ใช่คนเจ้าชู้ หนึ่งไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ใช่ไหม” เขาพูดชื่อเพลงและเอ่ยถามความคิดเห็นของเธอ
“ไม่ชอบ... พี่ยุติเสร็จธุระแล้วหนึ่งขอตัว ฝากขอโทษน้าเพ็ญพิศด้วย เย็นนี้หนึ่งไม่เข้าครัวแล้วจะกลับบ้าน”
“อ้าว... ทำไมล่ะ”
“โป้งพี่ยุติ ไม่อยากเจอหน้า” เธอตอบ สายตาชำเลืองค้อนทำงอนให้เห็น แต่เขากลับเอ็นดู
“ทำเป็นเด็กไปได้” เขาว่ายิ้มให้ดูน่ารัก เห็นเธอหันหลังกลับ ข้างเอวกระเดียดกระจาดที่ใส่ยอดกระถิน เดินจ้ำอ้าวเร่งรีบหนีไป เขามองตามเธอจนสุดสายตา “น่ารักมาก อยากได้... ชะมัด” ยุติพูดคนเดียว ไม่รู้คิดอยากได้อะไรกับเธอ
.
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 พ.ย. 2559, 19:13:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 พ.ย. 2559, 19:13:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 1016
<< ตอน 2 [2] | ตอน 3 [2] >> |