คำสาปขังรัก
คุณจะทำอย่างไร...ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องคำสาป ไม่สามารถจะมีรักที่ดีได้
ถ้ารู้ว่าทางเดินของรักโรยด้วยหนามและคราบน้ำตา
เราควรจะหยุด...หรือเดินต่อแม้จะกลัวจนใจสั่น
Tags: คำสาป ความรัก พยากรณ์

ตอน: The Temperance

The Temperance
หากจะหาสิ่งที่มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงที่สุด...คงเป็น การเปลี่ยนแปลง...
หากจะหาสิ่งที่ยึดมั่น ถือมั่นไว้ได้นานที่สุด...คงเป็น การปล่อยวาง...

ชนิศาถอนใจอย่างอ่อนล้า ขดตัวกอดมารดาแน่นราวจะหาหลักยึดที่บอกว่าเธอยังมีตัวตน ร่างบอบบางนั้นที่ซุกแนบอกบอกให้ณัฐกานต์รู้ว่าบุตรสาวกำลังอ่อนแอเหลือเกิน

"เป็นอะไร"

เธอคลี่ยิ้มบาง ดึงตัวห่างเล็กน้อยเพื่อเงยหน้ามองมารดา "เปล่าค่ะ...เชรีรักแม่นะคะ" การบอกรักเป็นเรื่องปกติของคนในบ้านนี้ แต่ทุกครั้งที่ชนิศาพูด เธอต้องการเตือนตัวเองว่าเธอยังรักและเป็นที่รัก

"แม่ก็รักเชรี" มารดาเอ่ยตอบ ชนิศาจึงยื่นหน้าไปจูบแก้มท่านเบา ๆ ก่อนขดตัวลงมานอนนิ่งตามเดิม

"มีอะไรไม่ยอมบอกแม่"

"ไม่มีหรอกค่ะ เชรีแค่เบื่อ ๆ มันเนือย ๆ " เธอตอบเสียงเรียบ ปิดตาลงพักอย่างอ่อนล้า

ชนิศารู้ว่ามารดาย่อมรู้จักเธอละเอียดกว่าลายมือตัวเอง

มีหรือณัฐกานต์จะไม่รู้ว่าเธอกำลังอ่อนแอ แต่ชนิศาไม่เคยปริปากเล่าถึงความเจ็บปวดใด ๆ

เธอไม่ได้ต้องการระบาย ไม่ได้ต้องการคำปรึกษา แค่อ้อมกอดที่บอกว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว ชนิศาต้องการเพียงซุกตัวนอนนิ่ง ๆ เมื่อเข้มแข็งพอเธอจะลุกขึ้นมาเอง

"อย่าทำอะไรให้ตัวเองเจ็บ... จำไว้นะว่าชีวิตมีค่า"

ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ เธอรู้ว่าพื้นดวงเธอมีแนวโน้มที่จะทำร้ายตัวเองสูง แต่น่าแปลกที่หญิงสาวไม่เคยมีแม้เสี้ยวความคิดที่จะทำให้ตัวเองตกต่ำหรือเจ็บปวด

"อย่าห่วงเลยค่ะ หนูไม่เคยคิดทำให้ตัวเองตกต่ำเพื่อใคร" เธอคลี่ยิ้มบาง "มีแต่...ยิ่งใครทำให้หนูเจ็บ ทำให้หนูรู้สึกแย่กับชีวิตมากเท่าไร หนูยิ่งต้องพยายามเป็นให้ดีและสูงกว่าที่เขาจะคาดหวังว่าหนูจะเป็นได้ มีแต่ความดีงามในตัวเราเท่านั้นที่จะลบความเจ็บปวดของเราได้ หนูไม่คิด...ทำลายอนาคตของตัวเองเพื่อใครหรอกค่ะ"

หญิงสาวเอ่ยคำอย่างชัดเจน มั่นคง ในตาเปี่ยมด้วยความมั่นใจที่ปนด้วยแววดื้อรั้นและทระนง

ณัฐกานต์ถอนใจเบา ๆ แล้วกอดบุตรสาวไว้ ปล่อยให้เธอนอนหลับไปจนนาฬิกาดังปลุกในตอนเช้า


ชนิศายังไม่ได้ฟื้นตัวดี เธอแค่เดินคลี่ยิ้มหวานราวไม่มีเรื่องทุกข์ร้อน ปล่อยหัวใจให้ชาและให้เวลาค่อย ๆ เยียวยาความรู้สึกด้วยตัวเอง

หญิงสาวยืนกอดอกมองรุ่นพี่ราวน์วอร์ดร่วมกับรุ่นน้อง เดินตามกลุ่มไปช้า ๆ จนเสร็จสิ้นการราวน์เช้า เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอที่การันต์ส่งข้อความอรุณสวัสดิ์มาตอบหลังเธอส่งข้อความไปหาเขาเมื่อเช้า

Karunt : อรุณสวัสดิ์ค่ะ
Che'rie : เย็นนี้ว่างไหมคะ
Che'rie : ไปเดทกัน

เธอรอไม่นาน เขาก็พิมพ์ตอบกลับมา

Karunt : อารมณ์ไหนหนู

ชนิศาถอนใจเบา ๆ นึกถึงไพ่สำรับใหม่ที่เพื่อนส่งมาบอกว่านำเข้ามาในประเทศแล้ว ตัดสินใจใช้เป็นข้ออ้าง

Che'rie : อยากได้ไพ่สำรับใหม่น่ะค่ะ

เธอไม่ได้รอคำตอบ เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อกาวน์แล้วเดินไปที่ห้องผ่าตัด เปลี่ยนชุดเตรียมผู้ป่วยเข้าห้องเรียบร้อย เมื่อหยิบโทรศัพท์มาส่งข้อความแจ้งรุ่นพี่ว่าผู้ป่วยพร้อมแล้ว จึงได้เห็นข้อความตอบจากชายหนุ่ม

Karunt : ได้ค่ะ
Karunt : ที่ไหนดี

ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ ไม่คาดคิดว่าเขาจะตอบรับ

ผู้ชายอย่างการันต์มีร้อยพันวิธีที่จะปฏิเสธเธอ ความใจดีของเขาในครั้งนี้ทำให้เธอได้แต่กัดริมฝีปากยอมรับไว้ด้วยอารมณ์อ่อนแอ

"ถ้าน่ารักและใจดีแบบนี้...เชรีอาจจะเผลอรักจริง ๆ เข้าสักวันก็ได้นะคะ" หญิงสาวบอกกับตัวเองเบา ๆ ก่อนคลี่ยิ้มบาง ถอนใจอย่างรู้ทัน

"น่าเสียดายที่พี่ไม่ได้น่ารักแบบนี้ เฉพาะกับเชรี"

หญิงสาวเดินไปที่รถเข็นเตรียมสายสวนปัสสาวะให้ผู้ป่วย เริ่มทำงานอย่างคุ้นเคยและสงบนิ่ง

โชคดีที่หญิงสาวถูกฝึกมาให้ปิดสวิชต์เรื่องส่วนตัวได้อย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่มือเริ่มขยับทำงาน สมองเธอจะตัดขาดจากหัวใจ ทุกครั้งที่อยู่ในห้องผ่าตัด ชนิศาจึงรู้สึกถึงการพักผ่อนที่ปลอดโปร่งอย่างแท้จริง

เธอลืมโลกไปจนเสร็จงาน หญิงสาวเดินไปส่งผู้ป่วยเข้าห้องพักฟื้น เมื่อเดินออกมาจึงพบกับชายหนุ่มที่ยืนถือเอกสารมองตารางห้องผ่าตัดบนจอภาพสี่เหลี่ยม

"อ้าว...พี่กานต์ โพสเวรไม่พักเหรอคะ" เธอจำได้ว่าเขาเข้าเวรเมื่อคืน และในแผนกของเขา แพทย์ที่เข้าเวรในคืนก่อนจะได้พักหลังลงเวร

"คนไม่พอน่ะ"
"อ๋อ...เลยต้องมาเซทเคสเอง" เธออมยิ้มมอง "ทำอะไรคะ"

"แอลซี" เขาหมายถึงการผ่าตัดส่องกล้องตัดถุงน้ำดี

ชนิศาพยักหน้ารับ ก่อนเตรียมจะเดินจากไป ชายหนุ่มกลับรั้งเธอไว้ด้วยคำถาม

"แล้วตกลงเชรีอยากไปไหน"

เธอนิ่งไปครู่ ก่อนเอ่ยชื่อห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลที่สุด เขาฟังแล้วพยักหน้ารับเบา ๆ "ก็ได้ค่ะ"

"หรือพี่กานต์อยากไปที่อื่นหรือเปล่าคะ"

"ไม่ ๆ แล้วแต่เชรีเลย"



ชนิศาตรวจผู้ป่วยช่วงเย็นเสร็จช้ากว่าที่เธอนัดกับการันต์ไว้เกือบชั่วโมง หญิงสาวส่งข้อความไปข้อโทษเขา ก่อนจะเดินกลับไปที่หอพัก เปลี่ยนเสื้อกาวน์ตัวสั้นเป็นเสื้อยืดคอเต่าตัวโปรด ล้างหน้าแล้วเติมแป้งบาง ๆ ทาลิปกลอสแค่พอไม่ซีดเซียวแล้วมานอนอืดอยู่บนเตียง

Karunt : โอเค พี่ก็เพิ่งเสร็จโออาร์
Che'rie : อ้าว...นี่พี่กานต์ต้องเข้าโออาร์ด้วยเหรอคะ

Karunt : รอแปปนะ เดี๋ยวพี่ไปเอารถก่อน

ชนิศารออยู่ไม่นาน เขาก็โทรศัพท์เข้ามา

"ค่ะ..."
"หนูออกมารอที่หน้าหอเลยก็ได้"

ชนิศาเอ่ยรับแล้วเดินลงจากห้องพักไปรอเขา จนเมื่อรถยนต์สีขาวแล่นเข้ามาใกล้ หญิงสาวเพ่งมองผ่านกระจกที่ติดฟิล์มเข้าไปภายใน เมื่อเห็นคนที่คุ้นเคยเธอจึงเดินไปเปิดประตูนั่งข้างคนขับ

สายตาคมตวัดผ่านสำรวจภายในรถอย่างรวดเร็ว ที่นั่งด้านหลังว่างโล่ง สะอาดเรียบร้อยเข้ากับนิสัยใจเย็นเป็นระเบียบของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของรถ ชนิศาอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มบาง ๆ เอ่ยกลั้วหัวเราะ

"รถเรียบร้อยดีนะคะ"

"เพิ่งจัดน่ะ กลัวเชรีขึ้นมาแล้วจะว่าเป็นรังหนู"

ชนิศาหัวเราะเสียงใส "ถ้าเป็นรังหนูจริง ๆ ก็ดีสิคะ" เธอหันมาคลี่ยิ้มหวาน มองหน้าชายหนุ่มอย่างออดอ้อน "พี่กานต์ยอมให้เป็นไหมล่ะคะ"

"ขอให้เป็นรังพี่ต่อไปดีกว่า คันนี้กว่าจะเก็บเงินดาวน์มาได้" เขาตอบอย่างรู้ทันนัยยะที่เธอพูดถึง

"เฮ้อ...พี่กานต์นี่น้า ไม่คิดจะตกหลุมที่เชรีขุดบ้างเลยเหรอคะ" เธอแสร้งถอนใจเบา ๆ

"ตกหลุมไปมันเจ็บนะคะ"

"สัญญาว่าจะปูผ้าให้นุ่ม ไม่ปล่อยให้พี่กานต์เจ็บหรอกค่ะ"

การันต์ได้แต่หัวเราะเบา ๆ ยอมแพ้กับความสามารถในการใช้คำของหญิงสาว เมื่อเขาเงียบ ชนิศาก็ยอมพัก เธอเอนตัวพิงพนักนิ่ง ฮัมเพลงจากคลื่นวิทยุเบา ๆ อย่างเหม่อลอย

นานแล้วที่เธอไม่ได้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถใคร ความรู้สึกไม่คุ้นเคยบาง ๆ นำเอาความทรงจำให้กลับมาเผลอเปรียบเทียบ

รถของการันต์โล่งและเป็นระเบียบ แต่กลับให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนเจ้าของรถที่นั่งข้าง ๆ ขณะที่รถซีอาร์วีคันใหญ่ของใครบางคนเต็มไปด้วยข้าวของและเสื้อผ้าแขวนราวจะเป็นบ้านอีกหลัง ทุกครั้งที่ขึ้นไปนั่งกลับทำให้อึดอัดราวตัวเธอถูกบีบให้เล็กลง
ว่ากันว่ารถก็บอกนิสัยเจ้าของได้ ชนิศาเชื่อแล้วว่าเป็นความจริง

"กินอะไรมาหรือยังคะ" การันต์เอ่ยถามขึ้นเมื่อใกล้ถึงห้างสรรพสินค้าที่หมาย

"ยังเลยค่ะ"

"อยากกินอะไรก่อนไหม"

หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ หันมามองหน้าชายหนุ่ม "เชรีรอคำนี้ล่ะค่ะ...แต่ไม่นับเป็นมื้อที่พี่กานต์ติดเชรีนะคะ เชรียังไม่อยากเสียโควต้าเจ้าหนี้" เธอหมายถึงมื้อที่เธอชวนเขาออกมาหน้าโรงพยาบาล

การันต์โคลงศีรษะเบา ๆ คล้ายจะอ่อนใจกึ่งเอ็นดู

"อย่างนั้นเชรีเลือกแล้วกัน อยากทานอะไร"

"จริง ๆ เชรีไม่ชอบเป็นผู้หญิงอะไรก็ได้นะคะ แต่ต้องยอมรับว่าเชรีคิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะ" เธอถอนใจเบา ๆ "เชรีไม่ได้เดินที่นี่มาเป็นปีแล้ว"

"อย่างนั้นมีไอเดียว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม อาหารแบบไหน"

"อาหารญี่ปุ่นก็ดีนะคะ...พี่กานต์ทานปลาดิบไหมคะ"

"ได้ค่ะ"
"โอเค...อย่างนั้นเป็นอาหารญี่ปุ่นนะคะ" การันต์พยักหน้ารับ เลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็ว

"จริง ๆ นึกว่าเชรีอยากไปไกลกว่านี้ ไม่อย่างนั้นพี่จะพาไปกินพวกรูฟทอป"

ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ ตวัดสายตามองค้อนชายหนุ่ม "แล้วทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้คะ เชรีก็กลัวพี่กานต์เหนื่อยเลยเลือกมาใกล้ ๆ"

"อ้าว...พี่ก็นึกว่าเชรีต้องมาซื้อไพ่ที่นี่"

"ห้างที่ไหนก็มีร้านหนังสือค่ะ เชรีไปหาซื้อได้ทั้งนั้นล่ะค่ะ" เธอทำปากยื่นอย่างเง้างอน "เฮ้อ...อดสวีทกับพี่กานต์เลย"

หญิงสาวก้าวลงจากรถ เดินมาข้าง ๆ ชายหนุ่ม วูบหนึ่งที่เธอเกือบยื่นมือไปให้เขาจับจูงไว้ เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ อย่างห้ามใจ คงคุ้นกับการสัมผัสและเคียงข้างมากไปจนลืมว่าบางคนเธอก็ไม่ได้ยื่นมือมาให้เธอจับ หรือบางคน...ที่เคยจับมือกันก็ปล่อยได้ง่ายดาย

หญิงสาวสูดลมหายใจยาว เหลียวมองรอบตัวที่เต็มไปด้วยผู้คนอย่างไม่คุ้นเคย เธอกระพริบตาปริบ ๆ มองหาร้านอาหารสักแห่ง ก่อนตัดสินใจ

"พี่กานต์หิวหรือยังคะ"

"ไม่มาก...เชรียังไม่หิวเหรอ"

เธอนิ่งคิดเพียงครู่ก็ตอบ "นิดหน่อยค่ะ แต่เชรีอยากไปซื้อไพ่ก่อน ได้ไหมคะ" เธอหรี่ตาลงกึ่งอ้อนกึ่งขอร้อง

ชนิศาไม่ชอบความรู้สึกของการมีภาระอยู่ข้างหลัง เมื่อจุดหมายคือการมาหาไพ่ทาโรต์สำรับใหม่ เธออยากให้ได้ดังเป้าหมายก่อน แล้วค่อยใช้เวลาที่เหลืออยู่กับมื้ออาหารให้เต็มที่

"ได้สิ...ไป..." เขาพาเธอขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ร้านหนังสือ เมื่อชนิศาเลือกหาไพ่ที่พอใจได้จึงลงมาที่ชั้นล่างซึ่งเป็นโซนของร้านอาหารอีกครั้ง ไม่คิดว่าขณะก้าวลงจากบันไดเลื่อน เธอกลับต้องชะงักไปเพราะเสียงเรียก

"เชรี..."

หญิงสาวหันไปมองเพื่อจะพบกับเพื่อนสาวร่างบาง เจ้าของรอยยิ้มหวานกับดวงตาสดใสที่อยู่ในใจของการันต์

"มีนา..." เธอเอ่ยทัก เดินเข้าไปหาเพื่อนก่อนหันมองการันต์ที่ทำหน้านิ่งอยู่ข้าง ๆ

"อ้าว...กานต์..." ผู้มาใหม่เอ่ยทักชายหนุ่ม ก่อนมองสองหนุ่มสาวคล้ายจะล้อ "มากันสองคนเหรอ"

"อื้อ...เราบีบคอพี่กานต์ให้พามาซื้อของน่ะ" เธอเอ่ยกลั้วหัวเราะ "มีนากินข้าวยัง"

"เรียบร้อยแล้ว เรามากินกับเพื่อน" หญิงสาวผายมือไปทางเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยกัน "นี่กำลังจะกลับแล้วล่ะ"

ชนิศาพยักหน้ารับ เหลือบมองการันต์ไม่เห็นอีกฝ่ายพูดอะไรเธอก็เอ่ยลา "โอเค...เจอกันนะ"

"อื้อ...เจอกัน" มีนาโบกมือลาด้วยรอยยิ้มที่ชวนให้ชนิศาเผลอถอนใจเบา ๆ

"น่ารักจริง ๆ เลยนะคะ" เธอเปรยเบา ๆ กับชายหนุ่ม

"หืม..."

"มีนาน่ะค่ะ"

"ก็...น่าจะเป็นผู้หญิงแบบที่ผู้ชาย 70% เห็นแล้วจะชอบนะ" เขาตอบด้วยรอยยิ้มที่ชนิศาเดาไม่ออก

"แย่แล้ว...ถ้ามีนาเข้าใจผิดล่ะแย่เลย" เธอเอ่ยเสียงอ่อนราวเสียใจ แต่หรี่ตามองชายหนุ่มอย่างสังเกตอาการ
ดูเหมือนการันต์จะรู้ว่าอยู่ในสายตาของเธอ เขาเพียงหัวเราะเบา ๆ "นั่นสิ..."

"ถ้าพี่กานต์กินแห้ว...เชรีจะรับผิดชอบเองค่ะ" เธอยืดอกบอกเสียงใส เรียกเสียงหัวเราะอย่างรู้ทันจากการันต์

"เชรีจะรับผิดชอบยังไงคะ"

"ก็...ถ้าพี่กานต์พลาดโอกาสที่จะจีบมีนา" เธอค่อย ๆ อธิบายด้วยท่าทางจริงจัง "เชรีก็จะยอมให้พี่กานต์จีบเองไงคะ"

ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองหญิงสาวที่คลี่ยิ้มอย่างใจกว้าง ก่อนเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
"อยากกินอะไรคะ"

"ร้านนั้นก็ได้ค่ะ...ดูง่ายดี" เธอหมายถึงร้านซูชิแบบสายพานแห่งหนึ่ง

การันต์เดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้าน เขาเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอทำให้ชนิศาอมยิ้มบาง ๆ

"นั่งฝั่งตรงข้าม อยากเห็นหน้าเชรีทั้งมื้อเลยใช่ไหมคะ"

"ถ้าพี่เลือกนั่งข้าง ๆ เชรีจะบอกว่าพี่อยากใกล้ชิดใช่ไหมคะ" เขาอมยิ้ม เอ่ยตอบอย่างรู้ทัน

ชนิศากลอกตา เบะปากอย่างเด็กน้อยที่ถูกขัดใจ "เฮ้อ...เบื่อจัง ผู้ชายรู้ทัน"

เธอหันไปรับรายการอาหารมาเปิดดู เพียงครู่ก็เอ่ยสั่งอาหารและชาเขียวร้อน ขณะที่ชายหนุ่มเลือกชาเขียวเย็น
"เชรีกินร้อนเหรอ"

"ค่ะ...เชรีไม่ชอบของเย็น" เธอไม่บอกหรอกว่าเธอชอบไอเย็นจากคน

"อืม...เลยใส่คอเต่าสินะ" เขามองเธออย่างพิจารณา "ไม่ร้อนเหรอ"

ชนิศาส่ายหน้าเร็ว ๆ "ไม่ค่ะ...เชรีเป็นพวกขี้หนาว ถ้าไม่ใส่แขนยาวและไม่มีคนให้กอด เชรีต้องเสื้อคลุมกลับบ้านแน่ ๆ ค่ะ"

"คนใส่คอเต่าแล้วดูดีนี่...หายากนะ" ชายหนุ่มเริ่มวิจารณ์ ในเรื่องที่ชนิศาไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยถึง เธอไม่ค่อยแน่ใจว่าผู้ชายสนใจการแต่งตัวของผู้หญิงเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า แต่เมื่อคิดดี ๆ ก็มีบางครั้งที่ผู้ชายคนนั้นก็ถามไถ่เรื่องเสื้อคลุมของเธอบ้างเหมือนกัน "ต้องคอยาวนิดนึง"

ชนิศากระพริบตาปริบ ๆ ก่อนเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจในตัวเอง "เชรีว่าคอเชรีใส่ได้นะคะ และใส่ขึ้นด้วย"

การันต์หัวเราะกับท่าทางไร้อาการถ่อมตนของหญิงสาว แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชนิศาใส่เสื้อคอเต่าได้น่ามองจริง ๆ

"พี่ก็จะบอกว่าเชรีใส่ขึ้นไง"

"แน่นอนค่ะ เชรีชอบคอเต่ามาก"

"ใส่มาราวน์ไหม"

"จริง ๆ ก็ใส่มาบ้างเหมือนกันนะคะ ช่วงเสาร์อาทิตย์" ชนิศาไม่ใช่ผู้หญิงที่ตามแฟชั่น หากไม่ใช่วันทำงานที่ต้องสวมเครื่องแบบ หญิงสาวพร้อมที่จะแต่งกายตามสไตล์ของตนเองโดยไม่สนใจสายตาใคร

"บางทีก็โดนแซวเหมือนกันว่าไม่ร้อนเหรอ" เธอยิ้มหวาน "แหม...เวลาหน้าร้อนเชรีก็เลือกแขนสั้นสิคะ"

อาการไหวไหล่อย่างไม่แยแสต่อคำคนทำให้ชายหนุ่มที่นั่งเท้าคางมองอยู่ฝั่งตรงข้ามอดขำไม่ได้

เพียงไม่นาน อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ไม่คิดว่าระหว่างที่ชนิศากำลังจัดการกับแซลมอลดิบอยู่นั้น การันต์ก็เอ่ยคำถามที่ทำให้เธอประหลาดใจ

"เชรีชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ"

หญิงสาวเงยหน้าจากจานข้าว กระพริบตาปริบ ๆ มองเขาอย่างงุนงง เพียงครู่ก็คลี่ยิ้มบาง

"แบบพี่กานต์...ได้ไหมคะ"

"เอาจริง ๆ สิ...พี่อยากรู้"

หญิงสาวนิ่งไปครู่ วูบหนึ่งที่ภาพของชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มลอยเข้ามาในความคิด หากเอ่ยถึงผู้ชายแบบที่เธอชอบสักสิบข้อ เขาคนนั้นคงพลาดไปมากกว่าเจ็ด

"บางที...เชรีก็ไม่แน่ใจค่ะ" เธอตอบกลั้วหัวเราะ "แฟนเก่าเชรี...แทบไม่มีอะไรตรงกับแบบที่เชรีจะชอบเลย"

"อาจจะเป็น...คนที่คุยด้วยได้ แล้วทำให้สบายใจ" เธอถอนใจเบา ๆ เมื่อมองสบตาเขาด้วยรอยยิ้ม "คนที่ทำให้เชรีอบอุ่น และยอมสงบลงได้แค่เขาจับมือเชรีไว้ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่มีสเปคอะไรชัดเจน...แต่เป็นความรู้สึกมั้งคะ เชรีชอบผู้ชายที่ทำให้เชรีรักตัวเองมากขึ้นเมื่ออยู่กับเขา"

แล้วเธอก็หัวเราะเบา ๆ "แปลกหรือเปล่าคะ...มีคนบอกว่าเชรีเป็นพวกประหลาด เข้าใจยาก"

การันต์เพียงยิ้มบาง ๆ "ไม่แปลกหรอก พี่ว่าพี่เข้าใจนะ"

ชนิศาเพียงอมยิ้มตอบ เธอไม่อยากรุกเขาให้เสียบรรยากาศ เพราะความเข้าใจของเขาไม่ได้หมายความว่าเขาพร้อมจะเข้ามาในใจเธออย่างที่เธอต้องการ

เสียงหวานเอ่ยชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งนานชนิศายิ่งหลงรักการได้อยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่ม
เมื่อถึงเวลาที่สมควร หญิงสาวเอ่ยชวนเขากลับอย่างว่าง่าย เมื่อนั่งมาในรถอีกครั้ง เธอกลับนิ่งงันไปนาน

"ขอบคุณมากนะคะ...ที่อุตส่าห์พาเชรีมา" เธอเอ่ยเบา ๆ เมื่อรถแล่นมาใกล้ถึงโรงพยาบาล "พี่กานต์นี่...ใจดีจังเลยนะคะ"

"ก็เชรีเป็นน้องสาวที่น่ารักนี่" เขาเอ่ยกลั้วหัวเราะคล้ายจะล้อเลียน

หญิงสาวทำหน้างอ แกล้งตวัดสายตามองค้อนใส่ชายหนุ่มวงใหญ่ "แหม...ย้ำอีกแล้ว แค่น้องสาวสินะคะ"

"เดี๋ยวพี่กานต์ไปที่ลานจอดรถเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเชรีเดินกลับมาเป็นเพื่อน" เธอรีบบอกเมื่อเห็นว่าเขาจะเลี้ยวรถเข้าบริเวณหอพักเพื่อส่งเธอก่อน

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กลับเอง"

หญิงสาวนิ่งไปครู่ คร้านที่จะเถียง เมื่อเขาจอดรถลงที่หน้าทางเดินหอพัก เธอจึงทำเพียงหันกลับมาคลี่ยิ้มล้อ

"ต้องมี goodnight kiss ไหมคะ"

ชายหนุ่มนิ่งงันไปอึดใจใหญ่ก็ยิ้มให้ "กระจกมันใส..."

ชนิศาหัวเราะเสียงใส เหลือบมองกระจกหน้ารถแล้วไหวไหล่เบา ๆ อย่างอ่อนใจ ก่อนจะก้าวลงมาจากรถ

"ถ้ากระจกไม่ใส...จะยอมให้จูบหรือไงคะ" เธอถอนใจเบา ๆ กับตัวเองเมื่อเขาขับรถออกไป

ร่างบางสูดลมหายใจยาว เงยหน้ามองแผ่นฟ้าสีดำกว้างที่มีจันทร์เกือบเต็มดวงกลมโตลอยเด่นอยู่เกือบกลางฟ้า

เงาดำบาง ๆ ที่ลอยอยู่ในดวงจันทร์ บางคราวมองคล้ายกระต่ายตัวน้อย บางคนว่าเป็นตากับยายตำข้าว แต่ชนิศามองเป็นตาเฒ่านิสัยเสีย

ตำนานจีนกล่าวถึงเฒ่าจันทราผู้ผูกด้ายแดงแก่คู่รัก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะแหงนมองฟ้าและตัดพ้อเสียงเบา

"นี่...ตาเฒ่าใจร้าย" เสียงหวานกระซิบเบา ๆ กับสายลม "ท่านซ่อนปลายด้ายแดงของเราไว้ในมือใครหรือ"

"หรือท่านรำคาญ...จนตัดทิ้งไปเสียแล้ว"

----

มีใคร...เคยงอแงใส่เฒ่าจันทราแบบเชรีไหมคะ

คุณ sunflower : ไอซ์ก็ไม่เข้าใจนางค่ะ ผู้ชายเข้าใจยากค่ะ

คุณ Zephyr : เชรีนางก็ซาดิสม์ มีคนบอกว่าไม่รับคือก็โยนแหวนทิ้งสิ ไอซ์ก็นั่งบ่นนางทุกวันเก็บไว้ทำไมลูกกกกก

คุณ คิมหันตุ์ : งานนี้เชรีก่อเรื่องให้พี่กานต์เสียแล้วค่ะ เจอกันเต็ม ๆ

คุณ sai : มีคนบอกว่า..ผิดที่ไม่ใช่ค่ะ ฮ่าๆ

คุณ SaranyaW : ไอซ์ว่าความเข้าใจต้องเกิดจากการสะสม ใช้เวลาเรียนรู้กันนะคะ

คุณ goszy : เขาคงไม่มีเวลามาทำคะแนนนำพี่กานต์แน่นอนค่ะ มีแต่พี่กานต์นี่ล่ะค่ะจะทำคะแนนตัวเองให้ติดลบ



ลิขิตรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ย. 2559, 12:00:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ย. 2559, 12:00:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1049





<< บทที่ 12 The Chariot   ไพ่ใบสุดท้าย The Strength >>
ปรางขวัญ 20 พ.ย. 2559, 23:16:39 น.
ตั้งแต่อ่านเรื่องนี้แหละคะ เพ้อกับพระจันทร์อยากมีด้ายแดงที่ผูกโยงเราไว้กับใครสักคน


คิมหันตุ์ 23 พ.ย. 2559, 23:43:33 น.
เฮ่ออออทำไมยิ่งอ่านแล้วรู้สึกเหมือนพี่กานต์เป็นพระเอก แต่เชรีเป็นแค่ตัวช่วยพระเอกให้สมหวังกับ หมอมีนา??

ฝากบอกตาเฒ่าว่าให้เอาด้ายแดงมามัดพี่กานต์กับเชรีบัดเดี๋ยวนี้ XDXD


goszy 25 พ.ย. 2559, 23:39:23 น.
พี่กานต์คะถ้าจะใจดี มีความฉลาดทันเชรีขนาดนี้ก็เอาตำแหน่งพระเอกไปเถอะค่ะ แต่ชอบทำคะแนนตัวเองติดลบตามที่ไรท์ว่าเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account