คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,
ตอน: ตอน 4 [2]
..........ในห้องนอนของยุติขณะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเล่นดนตรีที่ผับ เขาถอดเสื้อยืดตัวนอกออกเหลือแต่ตัวในเป็นเสื้อกล้ามสีดำ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูงโปร่ง ส่วนน้องชายของเขามีรูปร่างหน้าตาและส่วนสูงเหมือนกันมากราวกับเป็นพี่น้องฝาแฝด ลิลิตเข้ามาหาพี่ชายที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อเชิ้ตลายสก็อตแล้วหยิบมาใส่
“มานี่สิลิต ติดกระดุมเชิ้ตให้หน่อย” ยุติเอ่ยวานผู้เป็นน้อง แล้วคว้านาฬิกามาใส่ข้อมือขวา น้องชายเข้ามาติดกระดุมให้ อีกมือยุติกำลังใส่สร้อยข้อมือที่ทำจากหนังเส้นค่อนข้างบางพันทับกันหลายรอบ
“พี่ยุติคิดจะไว้หนวดไว้เคราเหรอ มันขึ้นมาเขียวครึ้มทำให้หน้าแก่ไปเลย ไม่ใช่หน้าเกลี้ยงเกลาสไตล์เกาหลี จะเปลี่ยนลุกส์หรือไง ผมแสกกลางเสยขึ้นไปอีก ทำให้หน้าเปลี่ยนไปเลยนะพี่ยุติ”
“ต้องเปลี่ยนกันบ้างสิ พอมีสาวมามองหน้าจะได้ไม่เบื่อหน้าพี่” เขาตอบน้องชาย ไม่อยากบอกว่าเป็นเพราะคำพูดของเพชรน้ำหนึ่งที่ว่าเขาไว้ผมทรงเด็กเกินไป แล้วเธอไม่ชอบมองหน้าเขา “แล้วนี่แกเข้ามาหาฉันถึงในห้องคงต้องมีความลับอะไรอยากจะมาปรึกษาฉันใช่ไหม” เหมือนเขาจะรู้ใจน้องชาย จึงถามไปอย่างนั้น
“ที่พี่ว่าหนึ่งไม่ใช่สาวบริสุทธิ์เป็นเรื่องจริงเหรอ พี่ยุติรู้ได้ยังไง”
“อ๋อ... เรื่องนี้เอง” ยุติอมยิ้มเมื่อขึ้นมาได้ แสดงว่าคำพูดของตนเองเริ่มทำงานได้ผล น้องชายเริ่มหวั่นใจ คลางแคลงในตัวของเพชรน้ำหนึ่ง ต่อไป... เขาจะต้องพูดให้น้องชายไม่ชอบเพชรน้ำหนึ่ง!
“แกรู้ใช่ไหมว่าตอนอายุสิบหกหนึ่งเคยมีรักครั้งแรก นั่นแหละหนึ่งเสร็จผู้ชายคนนั้นไปแล้ว ถ้าไม่มีอะไรลึกซึ้งถึงขั้นเสียเนื้อเสียตัวแล้วหนึ่งจะหลงรักหัวปักหัวปำเหรอ คิดดูสิจริงไหม”
“พี่ยุติคิดเดาไปเองมากกว่า เรียบร้อยอย่างหนึ่ง ไม่น่าเป็นคนปล่อยตัว เสียเนื้อเสียตัวให้ผู้ชายได้ง่าย”
“เมื่อก่อนพี่ชอบไปที่บ้านนั้นบ่อยเหมือนกับตอนนี้นั่นแหละ เรื่องแบบนี้พี่ไม่อยากบอกใคร ไม่อยากพูดให้ผู้หญิงเขาเสียหาย หนึ่งไม่ใช่ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวอย่างที่แกวาดฝันไว้หรอก พี่เห็นมากับสองตา”
“ยังไง? พี่ยุติเห็นอะไร โอ๊ย!! พี่ยุติจะทำอะไรผม” ผู้เป็นน้องร้องอุทานด้วยความตกใจที่จู่ ๆ โดนที่ชายกอดปล้ำทำให้ล้มลงไปนอนหงายบนเตียง มีร่างของพี่ชายทาบทับคร่อมอยู่ข้างบน “ปล่อยผม! เล่นพิเรนทร์อะไรอย่างนี้เล่า อึ๋ย! จะทำอะไรเนี่ย ...หยุดนะ” น้องชายโวยวายเสียงดังลั่น ดิ้นรนกระเสือกกระสนปนท่าทางขยะแขยง
“พี่จะสาธิตให้ดู... การจูบไง” ยุติพูดไปยิ้มไปอย่างเล่นสนุกกับน้องชาย ขณะที่อุ้งมือของเขากดทับข้อมือของน้องชายตรึงให้อยู่กับที่ จนผู้เป็นน้องไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ นับว่าพละกำลังในอุ้งมือของเขาแข็งแรงใช่ย่อย ขนาดสามารถจับกดน้องชายซึ่งร่างกายเท่ากันได้
“ไม่ต้องมาจูบผม พี่ยุติวิปริตไปแล้ว ผมไม่เล่นแบบนี้ไม่เอา” น้องชายโวยวายไม่เลิก ขณะพี่ชายก้มหน้าก้มตาลงมาทำท่าจะจูบเข้าอย่างจริงจัง
“จะดิ้นทำไม”
“พี่ยุติเล่นบ้าบอแบบนี้ใครจะยอมเล่า”
“แต่แกรู้ไหมว่าหนึ่งยอมโดยดี ไม่มีดิ้นรนขัดขืน แถมให้จูบ... แล้วโดนจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก” พี่ชายบอกกับน้องชาย
“พี่ยุติ... พี่ยุติจูบกับหนึ่งแล้ว?” น้องชายหยุดดิ้น ถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“เฮ้ย! ไม่ใช่จูบกับพี่นะไอ้น้องบ้า ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมา พี่ยังไม่เคยจูบกับหนึ่ง” ยุติรีบพูดแก้ความเข้าใจผิดของน้องชาย
“อ้าว... แล้วพี่ยุติบอกว่าหนึ่งยอมให้จูบไม่ขัดขืน”
“โน่น... แฟนคนแรกของหนึ่งเขาจูบกัน หนึ่งยอมให้แฟนจูบในท่านอนแบบนี้ โดนจูบแล้วจูบอีก พี่แอบดูอยู่โดยสองคนนั่นไม่รู้ แหม... แต่เห็นอย่างนั้นแล้วพลอยเกิดอารมณ์ปั่นป่วนไปด้วยเลย” พี่ชายบอก พร้อมกับพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
น้องชายจึงลุกขึ้นมายืนออกห่างจากเตียงเลียบเคียงซักถามต่ออีก
“พี่ยุติเห็นที่ไหน”
“เห็นในห้องนอนของหนึ่งนะสิ แล้วอย่าให้เล่าเลยว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง หนุ่มสาวร้อนแรงอยู่บนเตียงนุ่มนอนฟัดกันไปฟัดกันมา เมามันเหลือจะบรรยาย คงไม่ต้องให้พี่เล่าต่อ มัน... อ๊าาาา ไม่-อยาก-จะ-เล่า มันเป็นภาพหวาดเสียววว... โอ๊วววว...” พี่ชายขี้เล่นลากเสียงยาว ทำเสียงกระเส่าประกอบไปด้วย
“พอแล้วไม่ต้องเล่า” น้องชายหน้าเสีย ก้มหน้าก้มตาพูด
พี่ชายปรายตามอง หันกลับมาแอบยิ้มมุมปาก ยิ้มให้กับตัวเองอย่างพึงพอใจในการเป่าหูน้องชายได้ผลดีตามความคาดหมาย เรื่องใส่ร้ายป้ายสีเพชรน้ำหนึ่งซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เรื่องราวด้วยกลายเป็นงานถนัดของยุติ!
“แบบนี้แหละ... ให้แกเก็บไปคิดดูเองว่าเขาไปถึงขั้นไหนกันแล้ว” ยุติพอเดาใจน้องชายได้ว่ารู้สึกไม่ดีกับเพชรน้ำหนึ่งแน่นอน ทันได้เห็นท่าทางของน้องชายที่เข่าอ่อนทรุดลงนั่งบนเตียง “ล็อคประตูห้องให้พี่ด้วย พี่ไปเล่นดนตรีก่อนละ” เขาเดินออกจากห้องอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ตั้งใจว่าจะพูดกรอกหูน้องชายโดยหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเพชรน้ำหนึ่งทุกวัน!
..........มื้อเย็นที่บ้านอมตนครา ในห้องครัว
“สวัสดีค่ะน้าเพ็ญพิศ” หญิงสาวเอ่ยทักทาย ทำเป็นมองไม่เห็นยุติ เลี่ยงไปหามารดาของเขาแทน “วันนี้แกงอะไรคะ หนึ่งมาช่วยค่ะ”
“แกงเขียวหวานไก่จ้า ช่วยล้างผักให้น้าก่อน” คุณเพ็ญพิศไม่ได้ให้ความสนใจในบุตรชายของตนที่เข้ามานั่งท้าวคางทำตัวเกะกะในห้องครัว แทนที่จะออกไปนั่งรอในห้องรับประทานอาหาร
ชายหนุ่มได้แต่มองทั้งสองคนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร พอถึงช่วงจังหวะที่หญิงสาวลงนั่งที่โต๊ะเพื่อเด็ดผักจึงชวนคุยทันที
“นี่หนึ่ง... พี่เปลี่ยนผมทรงใหม่แล้วนะ หน้าตาเข้มขึ้นด้วย แบบนี้พี่หล่อไหม” นี่เป็นอีกจุดมุ่งหมายหนึ่ง คือตั้งใจจะอวดรูปโฉมใหม่ของเขา แถมมือชี้ที่ตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางเรียกร้องความสนใจจากสาวเจ้า
“...ดีค่ะ” หญิงสาวตอบแบบขอไปที ไม่แม้แต่จะหันเหลียวมองดูสักหน่อย
“อ้าว... ไม่สนใจมองพี่เลย อย่าเพิ่งรีบตอบอย่างนี้ซี่ ยังไม่ทันจะเงยหน้ามองพี่เลย ดูสิ...” ชายหนุ่มรบเร้า
“พอดูได้ค่ะ” เธอตอบ แค่เงยหน้ามองดูเพียงแวบเดียว
“ไว้หนวดไว้เคราเขียวครึ้ม คนบ้านเราหน้าตาสะอาดสะอ้านกันทุกคนทั้งพ่อทั้งน้อง มีแต่ลูกคนนี้ผ่าเหล่าอยู่คนเดียว” มารดาว่ากล่าว หาได้เอ่ยชื่นชมบุตรชายไม่
ส่วนบุตรชายนั้นทำเป็นไม่สนใจคำพูดของมารดา
“เอ่อ... พี่จำได้ว่าหนึ่งมีนัดสัมภาษณ์งานเก้าโมงเช้าพรุ่งนี้ เตรียมตัวอะไรหรือยัง”
“ไม่ล่ะค่ะ”
“อะไรคือไม่ นี่... ถ้าหนึ่งยังไม่มีชุดใส่เดี๋ยวเย็นนี้พี่พาไปหาซื้อชุดใหม่ ชุดทำงานสุดสวยเดี๋ยวพี่ยุติคนนี้เป็นสปอนเซอร์ออกตังค์ให้เอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” สาวสวยตอบสั้นเท่านั้น จนอีกฝ่ายเดาไม่ออกว่าเธอต้องการหรือไม่
“น้าว่าถ้าพี่เขาจะออกเงินซื้อชุดให้ หนึ่งรีบรับไปเถอะ พี่ยุติเขามีงานทำแล้วมีปัญญาจ่ายค่าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าให้หนึ่งได้ ...แค่ไม่กี่หมื่นบาท ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก” ผู้เป็นมารดาแสร้งพูด เหมือนหยอกเล่นแกล้งล้มทับบุตรชายตน
“กระเป๋าด้วยเหรอ! ท่าทางจะแพง” ชายหนุ่มแอบบ่นเสียงเบาแผ่ว เพราะรู้ว่าถ้ารวมกระเป๋าเข้าไปด้วยแล้วกระเป๋าของเขาอาจจะฉีกเสียเองก็เป็นได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นกระเป๋าหรูหราราคาแพงถึงขั้นตัวเลขหกหลัก!
“หนึ่งไม่อยากเจอใคร อาจจะไม่ไปสัมภาษณ์งานนี้”
“งานโก้หรูอย่างประชาสัมพันธ์โรงแรม น้าว่ามันน่าสนใจนะ หนูหนึ่งน่าจะลองดู ไปดูแล้วอาจจะชอบ”
“อืม... ลองดูก็ได้ค่ะ แต่หนึ่งจะไปหาซื้อชุดเองดีกว่า”
“ไม่ต้องเกรงใจพี่เขาหรอก เดี๋ยวน้าให้เงินพี่เขาเพิ่ม... ให้ใช้จ่ายได้ไม่อั้น เพื่อหนูหนึ่งน้ายอมทุ่มด้วยความเต็มใจจ้า”
“ไม่ต้องหรอกแม่ เรื่องเงินจิ๊บจ๊อยผมมีปัญญาจ่าย” ชายหนุ่มออกตัวเพื่อรักษาฟอร์ม ไม่อยากเอาเงินแม่ไปจ่ายให้สาว ดูออกจะเสียหน้าไม่สมศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย
“หนึ่งไม่กล้าไปกับพี่ยุติค่ะ”
“กลัวอะไรพี่ อ้อ... กลัวพี่จีบเหรอ” เขาอมยิ้มพูดหยอกเล่น
“เปล่าค่ะ”
“ไปกับพี่เขาเถอะไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก พี่ยุติเขาสุภาพบุรุษนะหนูหนึ่งไม่ต้องกลัวเลย อีกอย่างเป็นลูกชายน้า ถ้าทำไม่งามเดี๋ยวน้าจัดการกำราบเอง ถ้าไม่เชื่อฟังน้าจะจัดการขั้นเด็ดขาด ไปกับพี่เขาเถอะหนูหนึ่ง” คุณเพ็ญพิศส่งเสริมสนับสนุนอย่างแข็งขัน
.
__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__
อีบุ๊กออกวันนี้เล่ม 1 ค่ะ เล่ม 2 เล่มจบจะออกตามมาอีก 7 วัน อุดหนุนดาวน์โหลดกันนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
.
“มานี่สิลิต ติดกระดุมเชิ้ตให้หน่อย” ยุติเอ่ยวานผู้เป็นน้อง แล้วคว้านาฬิกามาใส่ข้อมือขวา น้องชายเข้ามาติดกระดุมให้ อีกมือยุติกำลังใส่สร้อยข้อมือที่ทำจากหนังเส้นค่อนข้างบางพันทับกันหลายรอบ
“พี่ยุติคิดจะไว้หนวดไว้เคราเหรอ มันขึ้นมาเขียวครึ้มทำให้หน้าแก่ไปเลย ไม่ใช่หน้าเกลี้ยงเกลาสไตล์เกาหลี จะเปลี่ยนลุกส์หรือไง ผมแสกกลางเสยขึ้นไปอีก ทำให้หน้าเปลี่ยนไปเลยนะพี่ยุติ”
“ต้องเปลี่ยนกันบ้างสิ พอมีสาวมามองหน้าจะได้ไม่เบื่อหน้าพี่” เขาตอบน้องชาย ไม่อยากบอกว่าเป็นเพราะคำพูดของเพชรน้ำหนึ่งที่ว่าเขาไว้ผมทรงเด็กเกินไป แล้วเธอไม่ชอบมองหน้าเขา “แล้วนี่แกเข้ามาหาฉันถึงในห้องคงต้องมีความลับอะไรอยากจะมาปรึกษาฉันใช่ไหม” เหมือนเขาจะรู้ใจน้องชาย จึงถามไปอย่างนั้น
“ที่พี่ว่าหนึ่งไม่ใช่สาวบริสุทธิ์เป็นเรื่องจริงเหรอ พี่ยุติรู้ได้ยังไง”
“อ๋อ... เรื่องนี้เอง” ยุติอมยิ้มเมื่อขึ้นมาได้ แสดงว่าคำพูดของตนเองเริ่มทำงานได้ผล น้องชายเริ่มหวั่นใจ คลางแคลงในตัวของเพชรน้ำหนึ่ง ต่อไป... เขาจะต้องพูดให้น้องชายไม่ชอบเพชรน้ำหนึ่ง!
“แกรู้ใช่ไหมว่าตอนอายุสิบหกหนึ่งเคยมีรักครั้งแรก นั่นแหละหนึ่งเสร็จผู้ชายคนนั้นไปแล้ว ถ้าไม่มีอะไรลึกซึ้งถึงขั้นเสียเนื้อเสียตัวแล้วหนึ่งจะหลงรักหัวปักหัวปำเหรอ คิดดูสิจริงไหม”
“พี่ยุติคิดเดาไปเองมากกว่า เรียบร้อยอย่างหนึ่ง ไม่น่าเป็นคนปล่อยตัว เสียเนื้อเสียตัวให้ผู้ชายได้ง่าย”
“เมื่อก่อนพี่ชอบไปที่บ้านนั้นบ่อยเหมือนกับตอนนี้นั่นแหละ เรื่องแบบนี้พี่ไม่อยากบอกใคร ไม่อยากพูดให้ผู้หญิงเขาเสียหาย หนึ่งไม่ใช่ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวอย่างที่แกวาดฝันไว้หรอก พี่เห็นมากับสองตา”
“ยังไง? พี่ยุติเห็นอะไร โอ๊ย!! พี่ยุติจะทำอะไรผม” ผู้เป็นน้องร้องอุทานด้วยความตกใจที่จู่ ๆ โดนที่ชายกอดปล้ำทำให้ล้มลงไปนอนหงายบนเตียง มีร่างของพี่ชายทาบทับคร่อมอยู่ข้างบน “ปล่อยผม! เล่นพิเรนทร์อะไรอย่างนี้เล่า อึ๋ย! จะทำอะไรเนี่ย ...หยุดนะ” น้องชายโวยวายเสียงดังลั่น ดิ้นรนกระเสือกกระสนปนท่าทางขยะแขยง
“พี่จะสาธิตให้ดู... การจูบไง” ยุติพูดไปยิ้มไปอย่างเล่นสนุกกับน้องชาย ขณะที่อุ้งมือของเขากดทับข้อมือของน้องชายตรึงให้อยู่กับที่ จนผู้เป็นน้องไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ นับว่าพละกำลังในอุ้งมือของเขาแข็งแรงใช่ย่อย ขนาดสามารถจับกดน้องชายซึ่งร่างกายเท่ากันได้
“ไม่ต้องมาจูบผม พี่ยุติวิปริตไปแล้ว ผมไม่เล่นแบบนี้ไม่เอา” น้องชายโวยวายไม่เลิก ขณะพี่ชายก้มหน้าก้มตาลงมาทำท่าจะจูบเข้าอย่างจริงจัง
“จะดิ้นทำไม”
“พี่ยุติเล่นบ้าบอแบบนี้ใครจะยอมเล่า”
“แต่แกรู้ไหมว่าหนึ่งยอมโดยดี ไม่มีดิ้นรนขัดขืน แถมให้จูบ... แล้วโดนจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก” พี่ชายบอกกับน้องชาย
“พี่ยุติ... พี่ยุติจูบกับหนึ่งแล้ว?” น้องชายหยุดดิ้น ถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“เฮ้ย! ไม่ใช่จูบกับพี่นะไอ้น้องบ้า ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมา พี่ยังไม่เคยจูบกับหนึ่ง” ยุติรีบพูดแก้ความเข้าใจผิดของน้องชาย
“อ้าว... แล้วพี่ยุติบอกว่าหนึ่งยอมให้จูบไม่ขัดขืน”
“โน่น... แฟนคนแรกของหนึ่งเขาจูบกัน หนึ่งยอมให้แฟนจูบในท่านอนแบบนี้ โดนจูบแล้วจูบอีก พี่แอบดูอยู่โดยสองคนนั่นไม่รู้ แหม... แต่เห็นอย่างนั้นแล้วพลอยเกิดอารมณ์ปั่นป่วนไปด้วยเลย” พี่ชายบอก พร้อมกับพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
น้องชายจึงลุกขึ้นมายืนออกห่างจากเตียงเลียบเคียงซักถามต่ออีก
“พี่ยุติเห็นที่ไหน”
“เห็นในห้องนอนของหนึ่งนะสิ แล้วอย่าให้เล่าเลยว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง หนุ่มสาวร้อนแรงอยู่บนเตียงนุ่มนอนฟัดกันไปฟัดกันมา เมามันเหลือจะบรรยาย คงไม่ต้องให้พี่เล่าต่อ มัน... อ๊าาาา ไม่-อยาก-จะ-เล่า มันเป็นภาพหวาดเสียววว... โอ๊วววว...” พี่ชายขี้เล่นลากเสียงยาว ทำเสียงกระเส่าประกอบไปด้วย
“พอแล้วไม่ต้องเล่า” น้องชายหน้าเสีย ก้มหน้าก้มตาพูด
พี่ชายปรายตามอง หันกลับมาแอบยิ้มมุมปาก ยิ้มให้กับตัวเองอย่างพึงพอใจในการเป่าหูน้องชายได้ผลดีตามความคาดหมาย เรื่องใส่ร้ายป้ายสีเพชรน้ำหนึ่งซึ่งเจ้าตัวไม่รู้เรื่องราวด้วยกลายเป็นงานถนัดของยุติ!
“แบบนี้แหละ... ให้แกเก็บไปคิดดูเองว่าเขาไปถึงขั้นไหนกันแล้ว” ยุติพอเดาใจน้องชายได้ว่ารู้สึกไม่ดีกับเพชรน้ำหนึ่งแน่นอน ทันได้เห็นท่าทางของน้องชายที่เข่าอ่อนทรุดลงนั่งบนเตียง “ล็อคประตูห้องให้พี่ด้วย พี่ไปเล่นดนตรีก่อนละ” เขาเดินออกจากห้องอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ตั้งใจว่าจะพูดกรอกหูน้องชายโดยหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเพชรน้ำหนึ่งทุกวัน!
..........มื้อเย็นที่บ้านอมตนครา ในห้องครัว
“สวัสดีค่ะน้าเพ็ญพิศ” หญิงสาวเอ่ยทักทาย ทำเป็นมองไม่เห็นยุติ เลี่ยงไปหามารดาของเขาแทน “วันนี้แกงอะไรคะ หนึ่งมาช่วยค่ะ”
“แกงเขียวหวานไก่จ้า ช่วยล้างผักให้น้าก่อน” คุณเพ็ญพิศไม่ได้ให้ความสนใจในบุตรชายของตนที่เข้ามานั่งท้าวคางทำตัวเกะกะในห้องครัว แทนที่จะออกไปนั่งรอในห้องรับประทานอาหาร
ชายหนุ่มได้แต่มองทั้งสองคนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร พอถึงช่วงจังหวะที่หญิงสาวลงนั่งที่โต๊ะเพื่อเด็ดผักจึงชวนคุยทันที
“นี่หนึ่ง... พี่เปลี่ยนผมทรงใหม่แล้วนะ หน้าตาเข้มขึ้นด้วย แบบนี้พี่หล่อไหม” นี่เป็นอีกจุดมุ่งหมายหนึ่ง คือตั้งใจจะอวดรูปโฉมใหม่ของเขา แถมมือชี้ที่ตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางเรียกร้องความสนใจจากสาวเจ้า
“...ดีค่ะ” หญิงสาวตอบแบบขอไปที ไม่แม้แต่จะหันเหลียวมองดูสักหน่อย
“อ้าว... ไม่สนใจมองพี่เลย อย่าเพิ่งรีบตอบอย่างนี้ซี่ ยังไม่ทันจะเงยหน้ามองพี่เลย ดูสิ...” ชายหนุ่มรบเร้า
“พอดูได้ค่ะ” เธอตอบ แค่เงยหน้ามองดูเพียงแวบเดียว
“ไว้หนวดไว้เคราเขียวครึ้ม คนบ้านเราหน้าตาสะอาดสะอ้านกันทุกคนทั้งพ่อทั้งน้อง มีแต่ลูกคนนี้ผ่าเหล่าอยู่คนเดียว” มารดาว่ากล่าว หาได้เอ่ยชื่นชมบุตรชายไม่
ส่วนบุตรชายนั้นทำเป็นไม่สนใจคำพูดของมารดา
“เอ่อ... พี่จำได้ว่าหนึ่งมีนัดสัมภาษณ์งานเก้าโมงเช้าพรุ่งนี้ เตรียมตัวอะไรหรือยัง”
“ไม่ล่ะค่ะ”
“อะไรคือไม่ นี่... ถ้าหนึ่งยังไม่มีชุดใส่เดี๋ยวเย็นนี้พี่พาไปหาซื้อชุดใหม่ ชุดทำงานสุดสวยเดี๋ยวพี่ยุติคนนี้เป็นสปอนเซอร์ออกตังค์ให้เอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” สาวสวยตอบสั้นเท่านั้น จนอีกฝ่ายเดาไม่ออกว่าเธอต้องการหรือไม่
“น้าว่าถ้าพี่เขาจะออกเงินซื้อชุดให้ หนึ่งรีบรับไปเถอะ พี่ยุติเขามีงานทำแล้วมีปัญญาจ่ายค่าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าให้หนึ่งได้ ...แค่ไม่กี่หมื่นบาท ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก” ผู้เป็นมารดาแสร้งพูด เหมือนหยอกเล่นแกล้งล้มทับบุตรชายตน
“กระเป๋าด้วยเหรอ! ท่าทางจะแพง” ชายหนุ่มแอบบ่นเสียงเบาแผ่ว เพราะรู้ว่าถ้ารวมกระเป๋าเข้าไปด้วยแล้วกระเป๋าของเขาอาจจะฉีกเสียเองก็เป็นได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นกระเป๋าหรูหราราคาแพงถึงขั้นตัวเลขหกหลัก!
“หนึ่งไม่อยากเจอใคร อาจจะไม่ไปสัมภาษณ์งานนี้”
“งานโก้หรูอย่างประชาสัมพันธ์โรงแรม น้าว่ามันน่าสนใจนะ หนูหนึ่งน่าจะลองดู ไปดูแล้วอาจจะชอบ”
“อืม... ลองดูก็ได้ค่ะ แต่หนึ่งจะไปหาซื้อชุดเองดีกว่า”
“ไม่ต้องเกรงใจพี่เขาหรอก เดี๋ยวน้าให้เงินพี่เขาเพิ่ม... ให้ใช้จ่ายได้ไม่อั้น เพื่อหนูหนึ่งน้ายอมทุ่มด้วยความเต็มใจจ้า”
“ไม่ต้องหรอกแม่ เรื่องเงินจิ๊บจ๊อยผมมีปัญญาจ่าย” ชายหนุ่มออกตัวเพื่อรักษาฟอร์ม ไม่อยากเอาเงินแม่ไปจ่ายให้สาว ดูออกจะเสียหน้าไม่สมศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย
“หนึ่งไม่กล้าไปกับพี่ยุติค่ะ”
“กลัวอะไรพี่ อ้อ... กลัวพี่จีบเหรอ” เขาอมยิ้มพูดหยอกเล่น
“เปล่าค่ะ”
“ไปกับพี่เขาเถอะไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก พี่ยุติเขาสุภาพบุรุษนะหนูหนึ่งไม่ต้องกลัวเลย อีกอย่างเป็นลูกชายน้า ถ้าทำไม่งามเดี๋ยวน้าจัดการกำราบเอง ถ้าไม่เชื่อฟังน้าจะจัดการขั้นเด็ดขาด ไปกับพี่เขาเถอะหนูหนึ่ง” คุณเพ็ญพิศส่งเสริมสนับสนุนอย่างแข็งขัน
.
__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__
อีบุ๊กออกวันนี้เล่ม 1 ค่ะ เล่ม 2 เล่มจบจะออกตามมาอีก 7 วัน อุดหนุนดาวน์โหลดกันนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
.
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 พ.ย. 2559, 22:17:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 พ.ย. 2559, 22:17:33 น.
จำนวนการเข้าชม : 942
<< ตอน 4 [1] | ตอน 5 [1] >> |
ไตรติมา 25 พ.ย. 2559, 22:18:49 น.
อีบุ๊กออกวันนี้เล่ม 1 ค่ะ เล่ม 2 เล่มจบจะออกตามมาอีก 7 วัน อุดหนุนดาวน์โหลดกันนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
อีบุ๊กออกวันนี้เล่ม 1 ค่ะ เล่ม 2 เล่มจบจะออกตามมาอีก 7 วัน อุดหนุนดาวน์โหลดกันนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove