คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 5 [1]



..........ในที่สุด ยุติได้โอกาสพาเพชรน้ำหนึ่งไปซื้อเสื้อผ้าชุดทำงาน

“ถ้าเลือกชุดถูกใจได้แล้วเอาไปลองในห้องลองเสื้อ เดินออกมาให้พี่ดูด้วยนะ” ชายหนุ่มบอก เพราะอยากเห็นเธอในชุดเสื้อผ้าสวยงาม

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ แล้วเข้าไปลองชุด จากนั้นจึงเดินออกมาให้ดู ตะแคงซ้ายทีขวาที

“ชุดนี้เข้าท่าเรียบร้อยดูเป็นผู้ดี งั้นไปลองดูชุดอื่นอีก”

“พอแล้ว”

“อะไรกันลองอีกสักสามสี่ชุดสิ ถ้าหนึ่งถูกใจกี่ชุด พี่ซื้อให้หมด”

“ยังไม่รู้จะได้งานนี้หรือเปล่า พอเถอะ”

“ภาษาคล่อง แถมสวยน่ารักอย่างหนึ่งคงได้งานนี้แหงไม่ต้องคิดมากหรอก”

“ชุดเดียวพอแล้ว” หญิงสาวยืนยันคำเดิม

“อย่างนั้นตามใจ เดี๋ยวหนึ่งจะใส่ชุดเดิมกลับเหรอ” ชายหนุ่มถาม เห็นสาวสวยพยักหน้ารับ “เลือกชุดอีกสักชุดเถอะไว้ใส่เวลาไปไหนมาไหนแบบที่มันดูไม่เซ็กซี่มากนัก พี่จะให้หนึ่งใส่กลับบ้าน” ชายหนุ่มบอกอย่างใส่ใจในรายละเอียด เพราะไม่อยากให้เธอเป็นสาวสวยเซ็กซี่ยั่วตายั่วใจชายอื่นอันไม่ส่งผลดีต่อเขาที่ชักจะชอบเธอ

สาวสวยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง...

“เดี๋ยวพี่เลือกให้ดีกว่า รู้ไหมผู้ชายที่หวงแฟนเขาไม่ยอมให้แฟนเขาใส่ชุดล่อแหลมไปให้ผู้ชายอื่นดูหรอก ชุดโป๊ต้องเก็บไว้ใส่ดูเล่นกันสองต่อสอง” ชายหนุ่มพูดพลางเลือกดูชุดไป

ไม่ทันสังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วมีปัญหา... ด้วยขัดใจกับคำพูดบางคำของเขา

“หนึ่งไม่ใช่แฟนพี่ยุติ”

“นั่นสิแฟนใครไม่รู้” ชายหนุ่มอมยิ้ม... รู้ทันว่าเธอระแวงระวังตัวกลัวเขาจะเหมาทึกทักเอาเธอเป็นแฟน ชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง “เอ้า... พี่เลือกได้แล้วไปลองชุดให้พี่ดู” ชายหนุ่มยื่นเสื้อผ้าที่เขาเลือกส่งให้เธอรับไป

“หนึ่งไม่ชอบสายตาแบบนั้น ...เจ้าเล่ห์” เธอว่า แล้วรีบหันหลังเดินหนีไปพร้อมกับชุดที่เขาเลือกให้

“ว่าอะไรพี่อีกละ ผู้หญิงแบบหนึ่งนี่ไร้เหตุผลซะจริง” เขาบ่นอยู่คนเดียว

ไม่นานหญิงสาวใส่ชุดแล้วเดินออกมาให้เขาดู

“โอเคใช้ได้ ใส่ชุดนี้กลับบ้านเลย พี่จะไปจ่ายเงินก่อนนะ ให้พนักงานเก็บชุดเก่าที่หนึ่งใส่มาเอาใส่ถุงกลับบ้านด้วย”



..........เมื่อมาอยู่ในรถของเขาแล้วยุติยังไม่วายถามเรื่องหน้าตาเขาอีก

“นี่... หนึ่งยังไม่ได้ดูหน้าพี่ให้ถนัดเลย ผมทรงนี้เป็นไง แล้วไว้เคราแบบนี้พี่ดูดีไหมในสายตาของหนึ่ง” เขาถามอย่างตั้งใจรอคำตอบจริงจัง

ถ้าเพชรน้ำหนึ่งจะตอบแบบขอไปทีอีก เขาคงไม่เลิกตื้อจะยังคงเฝ้าถามย้ำอีก

“ทรงผมแสกกลาง ผมเสยแบบนี้ทำให้หน้าตาพี่ยุติดูชัดเจนเด่นขึ้นมาไม่มีอะไรปิดบังเหมาะกันดีเข้ากับรูปหน้าผาก อนาคตพี่ยุติคงไม่หัวล้านหรอกมั้ง”

“แน่นอนอยู่แล้ว กรรมพันธุ์คนทางบ้านพี่ไม่มีใครหัวล้านสักคน มีแต่หล่อไม่สร่างไปยันแก่เฒ่า” เขาคุยอวด

“ส่วนเครา... แล้วแต่คนชอบ สาวหลายคนอาจชอบว่าดูเป็นแมนดี เซ็กซี่อะไรทำนองนี้กระมัง แต่สำหรับเด็กและสตรีที่ผิวพรรณอ่อนใสบอบบางแพ้ง่ายถ้าพี่ยุติไปหอมแก้มเขา เขาอาจแพ้เป็นผื่นแดงระคายเคืองผิวบริเวณที่โดนหนวดเคราตำ สรุปว่าแล้วแต่พี่ยุติชอบ” เป็นครั้งแรกที่เธอพูดอธิบายยืดยาว

“แล้วหนึ่งชอบเคราของพี่หรือเปล่า”

“ไม่ชอบ”

“ถ้าอย่างนั้นพี่โกนทิ้งดีกว่า เพื่อหนึ่งจะได้ชอบหน้าพี่”

“ไม่เห็นเกี่ยวกับหนึ่ง เรื่องส่วนตัวของพี่ยุติไม่ต้องมาคอยตามใจหนึ่งหรอก”

“พี่ชอบเอาใจหนึ่ง เพราะพี่สนใจหนึ่ง เออ... ว่าแต่... ถ้าพี่โกนเคราแล้วอย่างนี้คงหอมแก้มเด็กและสตรีที่ผิวบอบบางอ่อนใสได้ละสิ ไว้พี่จะมาหอมนะ ยอมหรือเปล่าหนึ่ง ให้พี่หอมแก้ม” ยุติอมยิ้มกรุ้มกริ่มพลางแสร้งพูดหยอกเย้าสาวสวย

“ไม่ใช่เพื่อนเล่น” เพชรน้ำหนึ่งว่าอย่างนั้นพร้อมค้อนขวับให้

“ว้า... เสียดาย หนึ่งรังเกียจพี่ไม่ชอบพี่”

“ชอบ...” เธอพูดสั้นห้วน ไม่ได้มองหน้าเขา เล่นเอาชายหนุ่ม ...งง! เกือบไปไม่เป็น

“จริงเหรอ... ล้อเล่นน่า! หนึ่งนะเหรอชอบพี่? ดีใจนะนี่ถ้าที่พูดเป็นความจริง”

“หนึ่งเหมือนผู้หญิงทั่วไปชอบผู้ชายหล่อนั่นแหละ ชอบมองดูแบบมนุษย์โลกทั่วไป เหมือนเห็นนกที่มีขนสีสดสวยหนึ่งย่อมชอบมองดูเป็นธรรมดา”

“โธ่... เปรียบเทียบอย่างนั้นเหมือนหนึ่งไม่ชอบพี่เลย”

“ชอบสิ พี่ยุติดีกับหนึ่งเคยช่วยชีวิตหนึ่งไว้ หนึ่งถึงได้ยอมรับไงล่ะว่าพี่ยุติเป็นผู้มีพระคุณสำหรับหนึ่ง”

“ทุกคนเขาทั้งรักและเป็นห่วงหนึ่งมากนะ เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตายายรวมทั้งคนรักด้วย”

“ไม่มีหรอก... คนรักคนนั้นไม่มีแล้ว” น้ำเสียงพูดเครือเจือปนเศร้า

“หนึ่งไม่มีคนรักแล้ว? ไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนพี่เคยเห็นเขารักหนึ่งมาก”

“เขารัก... แต่เขาก็ทิ้งทั้งที่ยังรักกันอยู่” เพชรน้ำหนึ่งถึงกับน้ำตาคลอ หยุดพูดไปครู่หนึ่งเมื่อก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกแน่นในลำคอ อารมณ์คนอกหักมักจะพาลขวางหูขวางตาไปทุกเรื่อง ไม่ว่าใครจะพูดดีด้วยเท่าไรไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น

“เล่าเรื่องของหนึ่งกับเขาให้พี่ฟังมากกว่านี้ได้นะ พี่พร้อมจะรับฟัง หนึ่งจะได้ระบายความทุกข์ใจ”

“ช่างเถอะ” เพียงพูดสั้นแค่นั้น แล้วเงียบเหม่อไม่พูดต่ออีก

ยุติพอจะเข้าใจเธอคงกำลังเสียใจเลยไม่อยากเอ่ยถึง เขาเอื้อมไปข้างตัวเธอหยิบเข็มขัดนิรภัยดึงสายพาดทับเรือนร่างเธอและกดล็อคให้ ใบหน้าของเขาจึงอยู่ใกล้ชิดไม่ถึงคืบ

“ว้าย! พี่ยุติทำอะไรไม่บอก หนึ่งคาดเข็มขัดเองได้” สาวเจ้าอุทานตกใจ โดนประชิดตัวโดยเธอไม่ได้ตั้งใจอยากใกล้ชิดกับเขา

“พี่คาดเข็มขัดให้ก็เหมือนกัน” เขาพูดขณะกำลังทำให้อย่างเชื่องช้า ตามองตากันในระยะกระชั้นชิด

“อย่าเข้ามาใกล้หนึ่ง หนึ่งกลัวพี่ยุติ”

“ตลกจริงหนึ่งกลัวอะไรพี่ ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน เอ๋... หรือกลัวความใกล้ชิดเผลอใจรักพี่” เขายิ้มเล็กน้อย พูดเย้าหยอก

“ยังไงก็กลัว กลัว... หนึ่งฝันถึงพี่...”

“พูดแบบนี้ชัดเลยหนึ่งกำลังจะจีบพี่ พูดว่าฝันถึงพี่ โฮ้ย!... ดีใจจังถูกสารภาพรักจากน้องหนึ่งคนสวย” เขายังคงพูดเล่นต่ออีก

“ฝันร้ายมากฝันว่าถูกข่มขืน! ยังกลัวไม่หาย ขยะแขยงความฝันนั่นด้วย แล้วยังฝันซ้ำติดกันอีกทั้งสองคืนทำให้หนึ่งนอนไม่หลับ ภาพหลอนนั่นทำให้หนึ่งไม่อยากเจอผู้คน” แล้วเรื่องเล่าความฝันที่โหดร้ายนั้นจึงได้หลุดออกมาจากปากของเธอให้เขารับรู้จนได้

“ฝันแบบนั้น? แน่ใจนะหนึ่งว่าไม่ใช่เพราะจิตใต้สำนึกลึกลงไปในใจแล้วต้องการพี่แบบอยากมีอะไรด้วย” แต่เขายังลองพูดเล่นต่อไปอีกหน่อย

เพชรน้ำหนึ่งผลักยุติให้ออกห่าง ทำหน้างอง้ำไม่พูดจาต่อปากต่อคำอีกเลย

“พี่พูดเล่น พี่เข้าใจแล้ว อย่าเก็บเอามาคิดมากเลย ยังไงก็เป็นเพียงความฝัน บางทีฝันร้ายอาจจะกลับกลายเป็นดีอย่างที่คนโบราณเคยว่าไว้นะรู้ไหม”



..........เจ็ดโมงเช้าที่บ้านอนัญชนา วันนี้ได้ฤกษ์นำเอารถหรูป้ายแดงออกมาจากโรงรถ

“พี่กรทำงานล่วงเวลาหน่อยนะคะ วันนี้ช่วยขับรถไปส่งหนึ่งมีสัมภาษณ์งานตอนเก้าโมงเช้า เดี๋ยวหนึ่งขึ้นไปแต่งตัวก่อน พี่กรเข้าไปในครัวทานอาหารเช้ากินกาแฟระหว่างรอหนึ่งละกันนะคะ” เพชรน้ำหนึ่งบอกกล่าว

“ได้ครับ ขอบคุณครับคุณหนึ่ง” ภาสกรปกติจะกลับบ้านตอนตีห้าอันเป็นเวลาเลิกงานประจำ วันนี้ต้องอยู่รอเจ้านายผู้หญิง

ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเพชรน้ำหนึ่งลงมาจากชั้นบน โดยมีรถบีเอ็มดับบลิวสีขาวคันหรูป้ายแดงเปิดแอร์จอดรออยู่แล้ว พร้อมคนขับซึ่งเดินมาเปิดประตูรถให้เธอได้เข้าไปนั่งทางด้านหลัง

แต่จู่ ๆ พร้อมกันนั้นประตูรถอีกด้านได้เปิดออก ชายหนุ่มก้าวเข้ามานั่งข้างเธอทันที

“เอ่อ... คุณหนึ่งครับ พี่ยุติบอกจะไปด้วย”

“เพิ่งมาบอกตอนนี้” เธอว่า “พี่ยุติไม่ต้องไปด้วยหรอก นี่มันเวลานอนของพี่ยุติ กลับไปเถอะ”

“พี่ไม่รบกวนหนึ่งหรอก จะรอในรถตอนหนึ่งสัมภาษณ์งาน พี่อยากไปให้เห็นกับตาจะได้รู้ผลด้วยตัวเอง”

“เฮ้อ... ไปเถอะ พี่กร” เธอบอกคนขับรถ แล้วไม่มีอะไรจะเถียงยุติ เสียงถอนหายใจยาวนั้นพอให้เดาใจได้ว่าเธอหาได้เต็มใจให้เขาตามไปด้วยไม่



..........รถออกตัวไปถึงถนนใหญ่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต้องเจอเข้ากับการจราจรติดขัด รถต้องจอดติดไฟแดง

ในทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของคนขับรถดังขึ้น เขาจึงรับสาย “มะเฟืองเหรอมีอะไร... หา! มอเตอร์ไซค์ล้ม? แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า หา! ศอกแตก แขนเจ็บมาก? หัวฟาดพื้นหรือเปล่า ...ตอนนี้อยู่บ้าน? ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล หา! ไม่มีเงิน?” เสียงคนขับรถพูดคุยถามตอบอย่างต่อเนื่อง

“คุณหนึ่งแฟนผมรถล้ม ผมเป็นห่วงเขา”

“แล้วจะเอายังไงดีล่ะ” เจ้านายผู้หญิงเอ่ยถาม พลอยให้ลังเลไปกับอุบัติเหตุนั้นด้วย

“ผมขอลางานตอนนี้เลยได้ไหมครับ คุณหนึ่งคงต้องนั่งแท็กซี่ไปสัมภาษณ์งาน เดี๋ยวผมเอารถคุณหนึ่งไปเก็บให้ที่บ้าน แล้วผมจะรีบไปหาแฟนผมเลย อยากรีบพาไปโรงพยาบาล กลัวเขาจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้”

“อ้าว... ถ้าอย่างนั้นพี่ขับรถให้หนึ่งเอง กรไม่ต้องเอารถไปเก็บหรอก รีบไปดูแลแฟนเถอะ” ยุติอาสา

“หนึ่งเปลี่ยนใจไม่ไปสัมภาษณ์งาน ชีวิตและความปลอดภัยของคนที่เรารักสำคัญกว่า กลับรถเถอะพี่กรแล้วขับไปบ้านแฟนพี่กรเดี๋ยวนี้เลย เราช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลเถอะ เรื่องเงินค่ารักษาเดี๋ยวหนึ่งออกให้ก่อน” เธอออกคำสั่งด้วยการตัดสินใจเร็ว

“แล้วเรื่องสัมภาษณ์งานล่ะจะทิ้งไปเหรอหนึ่ง” ยุติทักท้วง

“หนึ่งไม่อยากได้งานนี้สักเท่าไร ช่างเถอะ... พี่กรพาหนึ่งไปดูอาการแฟนพี่กรเดี๋ยวนี้เลย” นี่เป็นการตัดสินใจเด็ดขาดของเธอ

ยุติจึงไม่อยากเซ้าซี้เธออีกต่อไป



..........บ้านของมะเฟืองอยู่ในย่านชุมชนแออัด ทางเข้าเป็นทางเดินปูด้วยแผ่นไม้ไม่กี่แผ่นพอเดินหลีกสวนกันได้ บ้านนั้นอยู่ค่อนข้างต้นซอย เป็นบ้านไม้เก่าผุชั้นเดียวหลังคามุงสังกะสี ภาสกรรีบเดินเข้าไปหาแฟนตน

“มะเฟืองพี่มาแล้ว เป็นไงมั่ง” เขานั่งลงข้างเธอ ดูอาการอย่างใจคอไม่ดี สีหน้าบ่งบอกว่าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

“เจ็บแขน... เลือดออกเยอะเลยพี่”

“พาไปโรงพยาบาลเลย ไม่ต้องรออะไรหรอกพี่กร” “เดินไหวไหมเธอ” เพชรน้ำหนึ่งเอ่ยถามมะเฟือง ซึ่งยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ฝ่ายนั้นจึงทำหน้าเหรอหรา

“อ๋อ... มะเฟืองยังไม่เคยเจอเจ้านายพี่คนนี้แหละที่พี่เคยเล่าให้ฟัง ...คุณหนึ่ง” ภาสกรแนะนำให้รู้จักกัน

“สวัสดีค่ะคุณหนึ่ง” มะเฟืองกล่าวอย่างนอบน้อม

“สวัสดีจ้า เดินไหวไหมมะเฟือง” เธอถามย้ำอีก อีกฝ่ายพยักหน้ารับ พยายามลุกขึ้นโดยแฟนของเธอช่วยพยุงเดิน

“พี่ว่าท่าทางจะเดินไม่ถนัด ขี่หลังพี่ไปดีกว่า”

“ฉันตัวหนักนะ พี่กรจะไหวหรือเปล่า”

“ไม่หนักหรอก มะเฟืองตัวเล็กแค่นี้เอง ขึ้นหลังพี่เถอะเร็วจะได้รีบไปโรงพยาบาล” เขาคะยั้นคะยอแฟน เธอจึงยอมตามเขา

__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__



ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ย. 2559, 19:01:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ย. 2559, 19:01:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 947





<< ตอน 4 [2]   ตอน 5 [2] >>
ไตรติมา 27 พ.ย. 2559, 19:03:11 น.
อีบุ๊กออกเล่ม 1 ช่วยอุดหนุนดาวน์โหลดนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >> https://www.facebook.com/oranamarinlove


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account