โซ่รักสีรุ้ง
"เด็กคนนั้น...เป็นลูกใคร" ห้าปีผ่านมา เธอคิดว่าชินชากับความเจ็บปวดแล้ว แต่ความจริงความรู้สึกนั้นเพียงแต่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งหัวใจรอเวลาที่ใครสักคนจะกวนตะกอนนั้นขึ้นมา ให้เจ็บรวดร้าวยอกแสลงไปทั้งหัวใจ
Tags: ศศิภา,อรุณฉาย,ท้อง,หย่า,หนี,แต่งงาน,ศศิอักษร

ตอน: บทที่ ๙ - รอยรัก คำหวาน จารใจ ๑


สวัสดีค่ะ หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน ตอนนี้กลับมาอัปนิยายเหมือนเดิมแล้วค่ะ

ขอโทษด้วยที่ให้รอเรื่องนี้นานมากกกก บางคนรอจนเลิกรอไปแล้ว 555

ตอนนี้ก็เร่งปั่นสุดชีวิตค่ะ แต่เวลาไม่ค่อยมี ต้องเลี้ยงลูกน้อย เพิ่งจะ 1 เดือนเองค่ะ

ไม่ค่อยได้นอนเลยช่วงนี้ >_< ยังไงก็รอกันหน่อยน้า ใกล้ได้อ่านรูปเล่มกันแล้วค่ะ

น่าจะจัดส่งได้ปลายธันวา-ต้นมกรานะคะ



ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจเสมอมา

ศศิภา / อรุณฉาย





###############################################



กลิ่นน้ำหอมจางๆ ผสานกับกลิ่นสบู่อ่อนๆ อวลอยู่ตรงปลายจมูกของหล่อน

กลิ่นของเขา...คนที่ตระกองกอดหล่อนไว้ในอ้อมกอด และคอยประพรมจุมพิตลงบนหน้าผาก เปลือกตา พวงแก้ม ปลายคาง และริมฝีปากของหล่อนอย่างไม่รู้เบื่อ บางครั้ง...ริมฝีปากหยักสวยก็เลื่อนลงต่ำ จูบหนักสลับเบา และขบเม้ม สร้าง ‘รอยรัก’ บนลาดไหล่เปลือย อีกบางครา...ต่ำลงกว่านั้น บนเนินทรวงที่ไม่เคยถูกชายใดสัมผัส ผิวกายอันนวลเนียน ปรากฏรอยแดงระเรื่อ

ร่องรอยของค่ำคืนที่ผ่านมา

ค่ำคืนแห่งความทรงจำ ค่ำคืนแห่งความวาบหวามรัญจวนใจ และเป็นค่ำคืนแห่งความเจ็บปวด

ประสบการณ์ครั้งแรก ทำให้สายรุ้งกรีดร้องและเสียน้ำตา

แต่ละหยาดหยด แม้จะถูกจูบซับปลอบประโลม หากก็ยังหลงเหลือร่องรอย...คราบน้ำตาบนปลายหางตาและแก้มนุ่มยังเห็นชัดเจน พนมกรแตะปลายนิ้วเช็ดให้อย่างเบามือ ปลอบประโลมซ้ำด้วยจุมพิตอ่อนหวาน

ใบหน้าของหล่อน ไหล่เปลือย และเนินทรวงถูกเขาจุมพิตไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

เขาเฝ้าวนเวียนทำเช่นนี้...ครั้งแล้วครั้งเล่า และในทุกครั้ง...จุมพิตเหล่านั้นทำให้หล่อนสะท้าน หัวใจวิบไหวรุนแรง ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสแตะต้องยอดทรวง ครอบครอง เคล้าคลึง หล่อนถึงกับหยัดกาย เสียงครางผะแผ่วเล็ดลอดออกจากริมฝีปากฉ่ำชื้น ดวงตาหรี่ปรือปิดลงพร้อมลมหายใจขาดห้วง

“พี่รักรุ้ง” เขาผละจากยอดทรวง เลื่อนริมฝีปากไปที่ใบหู กระซิบเสียงพร่า มือข้างหนึ่งเลื่อนลงต่ำ ลูบไล้ข้างลำตัวของหล่อน ต่ำลงไปยังสะโพก ลากไล้อย่างอ้อยอิ่ง ทะนุถนอมแต่ก็แฝงไว้ด้วยอันตราย

...อันตรายที่จะฉุดดึงหล่อนสู่หุบเหวแห่งความลุ่มหลง

“พี่จะไม่มีวันลืมวันนี้ ขอบคุณที่ไว้ใจและเชื่อใจพี่ พี่จะไม่มีวันทิ้งรุ้ง ไม่มีวันทำให้รุ้งเสียใจ”

หล่อนมองสบตาเขา...ดวงตาที่หล่อนคุ้นเคยดูผิดแผกไป

ความรื่นรมย์ที่เคยมี แทนที่ด้วยบางสิ่ง...ความสมใจ ภูมิใจ และ...ความลิงโลดของผู้กำชัยชนะ

เขาชนะในสิ่งใดเล่า... เพราะหล่อนยอมมอบกายให้เขาเป็นคนแรกงั้นหรือ

ยังไม่ทันได้ตอบข้อสงสัยของตน พนมกรก็ทำให้หล่อนเพริดไปกับแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ

เขาขยับสะโพก บดเบียดเข้าหา ทำให้หล่อนหลงลืมทุกสิ่ง ฉุดดึงหล่อนสู่ห้วงพิศวาสยากต้านทาน

“พี่กร” หล่อนร้องเรียกเขาเสียงหวานกึ่งทรมาน “พอ...พอก่อนค่ะ”

“อีกครั้งเดียว...ครั้งเดียวนะรุ้ง”

“รุ้งต้องรีบกลับ...”

“กลับสิ...ได้กลับแน่” เขาหยุดเคลื่อนไหว จูบปลอบหล่อนหนักๆ บนเรียวปากบวมช้ำ “สัญญาว่าครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ให้พี่ได้รักรุ้งอีกครั้ง แล้วเราจะกลับบ้านกัน”

ไม่ใช่คำร้องขอ เพราะทันทีที่พูดจบ เขาก็ขยับสะโพก เคลื่อนไหวเหนือกายหล่อนอย่างดุดัน หนักหน่วง นานเท่านาน...ในห้วงความทรมาน เขาก็ผลักหล่อนลงสู่หุบเหวแห่งความสุขสมได้ในที่สุด



สายรุ้งมองตัวเองในกระจก ภาพสะท้อนให้เห็น...เรือนกายเปลือยเปล่าที่มีรอยแดงประปรายทั่วทั้งตัว

พนมกรฝาก ‘รอยรัก’ ไว้แทบทุกตารางนิ้วบนกายหล่อน

ลำคอ ลาดไหล่ เนินทรวง ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา ปลีน่อง หรือแม้แต่แผ่นหลัง เขาก็ยังประทับจุมพิตและขบเม้มครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับรสชาติของหล่อนหอมหวานเสียจนเขาห้ามใจไม่ไหว

สายรุ้งระบายลมหายใจยาว เมื่อเลื่อนสายตากลับมามองใบหน้าของตนเอง

แก้มของหล่อนแดงก่ำ ลมหายใจยังถี่กระชั้นจากความสุขสมเมื่อครู่ และ...ดวงตาของหล่อนช่างวับหวานและเปี่ยมไปด้วยความสุข กระนั้น...ลึกลงไป คือความเสียใจและเป็นกังวล

ครั้งนี้...เป็นการออกนอกลู่นอกทางที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของหล่อน หากผู้เป็นบิดาทราบ คงโกรธหล่อนจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง และผิดหวังในตัวหล่อนมาก

ความรักที่มีให้หล่อนหล่อนเพียงน้อยนิดคงมอบให้ผู้เป็นพี่สาวไปจนหมดสิ้น

หญิงสาวทอดถอนใจเป็นคำรบสอง ก่อนจะสลัดศีรษะ ทิ้งความโศกเศร้านั้นไปเสีย ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่ตากจนแห้งแล้วมาสวม

เมื่อก้าวออกมาจากห้องน้ำ พนมกรก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย นั่งรออยู่ตรงปลายเตียง

สภาพเตียงอันยับย่นเรียกรอยแดงบนแก้มของหล่อนได้อีกครั้ง ยิ่งเมื่อเขามองหล่อนแทบจะกลืนกินเช่นนั้นด้วยแล้ว สายรุ้งถึงกับวางตัวไม่ถูก มือไม้เกะกะไม้รู้ว่าจะวางไว้ที่ไหน

ท่ามกลางความประหม่าและอึดอัด พนมกรก็ก้าวเข้ามา สวมกอดหล่อนไว้ จับศีรษะของหล่อนซุกซบลงบนอกเขา

“ทำใจให้ชินได้เลยนะรุ้ง หลังแต่งงาน พี่จะทำมากกว่านี้”

“คะ?” หล่อนอุทานอย่างตกใจจริงจัง

‘ทำมากกว่านี้’ คืออะไร...คืนที่ผ่านมา และเมื่อครู่นี้ยังไม่มากพออีกหรือ

แค่เท่านี้ร่างของหล่อนก็แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว

“เจ็บมากไหม” เขาเชยปลายคางหล่อน ถามอย่างเป็นห่วง “เดินไหวหรือเปล่า...”

เขาอึกอัก แสดงสีหน้าลำบากใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“พี่รุนแรงเกินไปไหม”

สายรุ้งแทบไม่กล้าสบตาเขา หล่อนได้แต่ก้มหน้างุดและส่ายหน้าปฏิเสธ

“ส่ายหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง พี่ทำไม่รุนแรง หรือรุ้งเจ็บมากจนเดินไม่ไหว”

คำท้ายๆ มีเสียงหัวเราะแทรกเข้ามาบางเบา

“เอาเถอะ...จะเดินไหวหรือเดินไม่ไหว พี่ก็จะอุ้ม...”

พร้อมกับพูด เขาก็ช้อนร่างของหล่อนไว้ในอ้อมแขน

“อุ๊ย! พี่กรคะ รุ้งเดินเองได้ค่ะ”

“แต่พี่อยากอุ้มนี่”

“ไม่เอาค่ะ รุ้งไม่อยากให้คนอื่นมอง”

“มองแล้วทำไม ไม่เห็นจะเป็นไร สามีอุ้มภรรยาไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อย”

“ฮื่อ! ไม่เอาค่ะ รุ้งจะเดินเอง”

“พี่จะอุ้ม”

ครั้นเห็นหล่อนจะค้าน เขาก็รีบปิดปากหล่อนด้วยจูบหนักๆ

“ถ้ายังดื้ออีก พี่จะจูบรุ้งไปตลอดทางเลยนะ”

พนมกรทำอย่างที่พูดเสมอ สายรุ้งรู้ดี หล่อนไม่กล้าเสี่ยงจึงปิดปากเงียบยอมให้เขาอุ้มออกไปจากห้องแต่โดยดี



ช่องทางการสั่งจอง

1. FB fanpage : ศศิภา

2. FB fanpage : สำนักพิมพ์ศศิอักษร

3. www.sasiaksornbook.com



ศศิภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ย. 2559, 11:23:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2559, 11:23:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1098





<< บทที่ ๘.๒ - ล่อลวง   บทที่ ๙ - รอยรัก คำหวาน จารใจ ๒ >>
Zephyr 18 ธ.ค. 2559, 21:58:14 น.
มันหวานไปแล้ว กำลังจะเข้าโหมดขมแล้ว ม่ายๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account