แรงรักบุษบา (รอก่อนนะคะ)
การพบกันอย่างมีปริศนา
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง
"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!
แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน
นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง
"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!
แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน
นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
Tags: ปิ่นนลิน ลึกลับ ปริศนา
ตอน: ตอนที่ 10 - 50%
ตอนที่ 10 - 50%
รวินท์รดาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นคนซุ่มซ่ามมาก่อน แต่ตอนนี้เธอคงกลายเป็นคนแบบนั้นในสายตาธรรศไปแล้ว เพราะการเตะขาเก้าอี้จนล้มลงไปกองกับพื้นทำให้โดนธรรศส่งสายตาตลกขบขันใส่เธอ
“ปล่อยได้แล้วคุณธรรศ” รวินท์รดามองหน้าเจ้าของวงแขนที่โอบรัดเอวเธอเอาไว้ ก็จริงอยู่ธรรศช่วยพยุงเธอยืนขึ้น แต่พอช่วยแล้วก็ควรจะปล่อยเธอได้แล้ว ไม่ใช่มายืนกอดพร้อมส่งสายตาระยิบระยับมองเธออยู่แบบนี้ รวินท์รดารู้สึกเขินจนหน้าร้อนไปหมด
นึกแล้วก็เคืองเจ้านายหนุ่มสุดหล่อเธอนิด ๆ ดันอนุญาตให้เธออยู่เป็น ‘กำลังใจ’ ให้ธรรศ รวินท์รดาไม่ทราบจริง ๆ ว่านายแบบนักแสดงหนุ่มสุดหล่อไปพูดอะไรทำไมเจ้านายเธอถึงอนุญาตง่าย ๆ รวินท์รดามีสิทธิ์ขัดคำสั่งหากดนุวัศก็ขอร้องเธอเป็นการส่วนตัว
‘บัวช่วยหน่อยนะ เราต้องเอาใจพรีเซนเตอร์แถมยังเป็นน้องชายลูกค้าอีก ช่วยหน่อยนะบัว’ ดนุวัศขอร้องมาแบบนี้เธอจะปฏิเสธได้อย่างไร
แถมพอปราชญ์ดารู้ว่าเธอจะอยู่ต่อจนถึงงานแถลงข่าวก็มีสีหน้ายินดี กระซิบบอกเธอว่าธรรศดูสบายใจกว่าตอนเช้าเยอะเลย
ตอนแถลงข่าว ห้องใหญ่เต็มไปด้วยนักข่าว แต่รวินท์รดาถูกจัดให้อยู่รวมกลุ่มกับคนภายใน ครั้นการแถลงข่าวจบ เธอก็ควรจะได้กลับไปทำงานที่แท้จริงของเธอสักที ขณะที่ต้าหลิงดันออกไปคุยกับนักข่าว รวินท์รดาก็ขอจะออกไปด้วยเลย แต่ดันสะดุดขาเก้าอี้เสียก่อน
“ปล่อยบัวได้แล้วค่ะ” รวินท์รดานิ่วหน้าพลางใช้ท่อนแขนดันอกกว้างให้ขยับออก
ธรรศยิ้มพลางหัวเราะเบา ๆ หลังจากถูกเธอทำตาวาวโกรธใส่
ระหว่างโต้เถียงกัน ธรรศยังคงโอบรั้งเอวบางไว้ เสียงเปิดประตูก็ดึงความสนใจของทั้งเขาและหญิงสาวไปจนหมด
“เอ่อ … เหมือนจะมาขัดจังหวะนะ เราไปรอข้างนอกกันก่อนดีกว่านะช่อแก้ว” ปราชญ์ดาแกลังล้อน้องชายด้วยนัยน์ตาแพรวพราว หันไปชักชวนร่างเล็กข้าง ๆ โดยทำเป็นมองผ่านสายตาตกตะลึงของช่อแก้ว
“คุณปราชญ์ดา คุณเข้าใจผิดนะคะ” รวินท์รดารีบชี้แจง “คุณปล่อยฉันสิคุณธรรศ” แล้วหันไปกระซิบบอกเจ้าของแขนที่รัดเธอแน่นกว่าเดิม
ริมฝีปากของธรรศเม้มเป็นเส้นตรงก็จริง แต่แววตาของธรรศคล้ายจะพอใจกับความเข้าใจผิดเรื่องนี้ เขาไม่ปฏิเสธอะไรสักอย่าง มีแต่คนตัวเล็กกว่าที่พยายามจะแก้ข่าว
“คุณธรรศอย่าเงียบสิคะ”
ธรรศก้มหน้ากระซิบใกล้ ๆ แก้มคนในอ้อมแขน
“คุณช่วยอยู่นิ่ง ๆ สักนิดนึงนะบัว แล้วผมจะพาบัวไปเลี้ยงไอศกรีม” ดวงตาคนตัวสูงสุกใสเมื่อยื่นเงื่อนไขด้วยรอยยิ้มยียวน
“ฉันไม่ใช่เด็กนะคุณธรรศ!” รวินท์รดาหันไปแหวใส่
การโต้เถียงของทั้งคู่ กลับเรียกเสียงหัวเราะจากปราชญ์ดาได้ชุดใหญ่
“พี่ว่าพี่ไม่กวนแล้วดีกว่า ถ้านายอยากจะกลับเมื่อไหร่ก็โทรบอกพี่ละกันนะ ธรรศ” ก่อนปราชญ์ดาจะหันไปทางช่อแก้ว “ช่อแก้วล่ะมายังไง จะกลับยังไง ให้พี่เรียกรถให้ไหม”
“ช่อขับรถมาค่ะ … ช่อขอตัวกลับก่อนก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะพี่ปั้น พี่ธรรศ”
ช่อแก้วหมุนตัวเดินจากไปทันทีที่ร่ำลาชายหนุ่มทั้งสอง ปราชญ์ดาทันเห็นดวงตาแดงก่ำของช่อแก้ว เขาครุ่นคิดเพียงนิดก็บอกกับคนที่เหลืออยู่ในห้องทั้งสอง
“พี่มีงานต้องทำ ขอตัวก่อนนะ” แล้วรีบเดินออกจากห้องไปบ้าง
“ทำไมคุณชอบทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคะคุณธรรศ” รวินท์รดาถามธรรศตรง ๆ เมื่อเหลือเพียงเธอกับธรรศ “ฉันไม่โอเคที่จะเล่นเกมไปกับคุณนะ”
“ผมไม่ได้ล้อคุณเล่นนะบัว” ธรรศตอบเสียงนิ่ง ๆ ผิดกับอีกฝ่ายที่หน้าตาบูดบึ้ง “ผมชอบคุณจริง ๆ”
รวินท์รดาอ้าปากค้าง หัวใจของเธอสั่นไหวกับคำสารภาพ ก่อนที่เธอจะได้สติแล้วหัวเราะผ่านจมูกดังหึ
“ตลกแล้วคุณ คุณชอบฉัน? นี่เรารู้จักกันมากพอหรือคะ” รวินท์รดาทำหน้าเหม็นเบื่อผู้ชายเจ้าชู้ ก่อนจะรีบถอยหลังหนีร่างสูงที่เดินมาใกล้ รวินท์รดาถอยจนเท้าชนขาเก้าอี้ เกือบได้ล้มไปอีกครั้งถ้าไม่ถูกวงแขนแกร่งตวัดเอวเธอไปโอบรัดเอาไว้
คนรูปหล่อระดับนายแบบพระเอกละครก้มหน้าลงมาใกล้ ดวงตาคู่คมวิบวับจนเธอตาพร่ามัว หัวตื้อหูอื้อไปหมด แต่เธอก็ยังได้ยินคำพูดชายหนุ่ม
“ก็เริ่มทำความรู้จักกันตอนนี้เลยเป็นไง”
หญิงสาวมองรอยยิ้มชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้ เผลอกำมือแน่นขณะมองรอยยิ้มของคนตัวสูงอย่างหวั่นใจ
“พอเถอะค่ะคุณธรรศ! ฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะคะว่าคุณจะเล่นสนุกอะไรของคุณ ฉันไม่สนุกด้วย และฉันก็ไม่ชอบเป็นของเล่นของใคร ช่วยแก้ความเข้าใจผิดสักที!” ก่อนจะผลักอกของเขาออกห่าง ธรรศทำหน้าเศร้าเมื่อคนตัวเล็กเสียงแข็งใส่
“ผมขอโทษถ้าทำให้คุณไม่พอใจและคิดแบบนั้น ผมแค่ …” ธรรศพยายามอธิบาย และยอมปล่อยมือจากเอวบาง เขาระวังจนแน่ใจว่าเธอจะไม่ล้มไปอีกครั้งถึงขยับเท้าห่างไปหนึ่งก้าว
“แค่ตั้งใจใช้ฉันทำร้ายคุณช่อแก้ว” รวินท์รดาเห็นเขานิ่งไปกับความจริงก็ถอนหายใจ พูดกับธรรศด้วยน้ำเสียงเย็นลง“ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน แต่การโกหกไม่ใช่ทางออกที่ดีนะคะ คุณควรหาวิธีอื่นดูนะคะคุณธรรศ”
“ถ้าทำให้ไม่ใช่เรื่องโกหกล่ะ” ธรรศถามเสียงจริงจัง “ผมไม่ได้ใช้คุณทำร้ายใคร แต่ผมจริงจังกับคุณล่ะบัว”
รวินท์รดามองหน้าคนพูดคล้ายจะจับพิรุธว่าโดนอำเล่นอยู่หรือเปล่า แต่สีหน้าธรรศจริงจังเกินไป
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันคงทำให้คุณไม่ได้ …”
เธอพูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไป ธรรศทรุดนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ต้าหลิงผลักประตูมาเห็นเข้าก็ถามธรรศอย่างสงสัย
“พี่ธรรศเป็นอะไรไปครับ เหนื่อยหรือครับ”
คนนั่งไหล่ตกบนเก้าอี้ส่ายหน้าเซ็ง ๆ แล้วตอบเสียงอ่อย
“อกหักมั้ง”
“อกหัก? พี่ธรรศนี่นะอกหัก” ต้าหลิงถลามานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ มองธรรศอย่างไม่เชื่อสายตา เขาได้ยินไม่ผิดไปใช่ไหม ธรรศที่ปฏิเสธผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาพูดว่าอกหักงั้นหรือ
ต้าหลิงหัวเราะพรืด แล้วรีบกลั้นขำเมื่อถูกธรรศตวัดสายตาดุใส่
“ผมแค่ไม่คิดว่าพี่จะบ่นว่าอกหัก ที่ผ่านมามีแต่พี่ไปหักอกเขานี่ครับ”
“ช่างเถอะ” ธรรศผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ผ่านเรื่องข่าวไปได้ ธรรศพยายามไม่สนใจแม้เรื่องผีเรื่องที่เขาเป็นตัวโชคร้ายจะกัดกร่อนความสุขของเขาก็ตาม ส่วนเรื่องหัวใจคงต้องหาทางจัดการอีกที
ขณะนั้นเองเสียงกรีดร้องของรวินท์รดาก็ดังลั่น ธรรศหันมองต้าหลิงก่อนจะรีบผลักประตูห้องออกไปดู รวินท์รดานั่งอยู่กับพื้น ข้าง ๆ หญิงสาวมีรถเข็นพร้อมกล่องกระดาษบรรจุใบปลิวโฆษณาล้มตะแคงข้างอยู่ ธรรศพร้อมต้าหลิงรีบปรี่เข้าไปหาหญิงสาวทันที
“บัว! คุณเป็นอะไรไหม” ธรรศถาม เพียงแตะกายบางก็สัมผัสได้ว่าตัวเธอสั่นเทาคล้ายหวาดกลัวบางอย่าง
“ผีตัวนั้นคุณธรรศ ผีตัวดำ ๆ ที่คอนโด ที่มันทำร้ายคุณ มันผลักรถใส่บัว!!” ความกลัวทำให้รวินท์รดาเล่าพร้อมกอดแขนชายหนุ่มแน่น แทนชื่อตัวเองอย่างใกล้ชิด
เมื่อครู่เธอเกือบจะแย่แล้ว อยู่ดี ๆ ก็มีรถเข็นของหนัก ๆ พุ่งเข้าหาเธออย่างเร็ว รวินท์รดาเห็นผีตัวดำทะมึนหัวเราะใส่ขณะรถพุ่งตรงมา ดีนะที่รถเข็นมันล้มก่อนถึงเธอ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะเจ็บตัวก็ได้
“บัวกลัวคุณธรรศ บัวกลัว”
ธรรศลูบไหล่เล็กปลอบโยน พลางมองตามไปทางที่รวินท์รดาชี้ ซึ่งเป็นทางเดินลึกไปอีกด้านของตึก ตอนนี้เขามองไม่เห็นใครสักคนนอกจากไฟติด ๆ ดับ ๆ ความว่างเปล่าชวนธรรศให้คิดถึงสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้ … ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ต้าหลิงพูดออกมาด้วยหน้าตาตื่นกลัว
“ผีตัวดำ ๆ หรือครับ … นี่ผมไม่ได้ฝันไปงั้นหรือ พี่ธรรศ ผมก็เห็นผีตัวนั้นนะ ผีที่ตัดหน้ารถเราจนรถคว่ำไงครับ”
อีกด้านหนึ่ง
ธรรศ ต้าหลิง และรวินท์รดาต่างไม่รู้สึกว่าช่อแก้วยืนหลบอยู่ตรงมุมทางเดินด้านหลังเขา ช่อแก้วมองเหตุการณ์อย่างตกใจ เธอยกมือขึ้นปิดปากคิดจะรีบหนีไปจากตรงนั้น แต่ทันทีที่หันหลังก็สะดุ้งโหยง ปราชญ์ดามายืนด้านหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่!?
แววตารองผู้บริหารหนุ่มโกรธจัด ทำให้ช่อแก้วใจหล่นวูบ รีบส่ายหน้าไปมา เธอยืนยันเสียงละล่ำละลักกับสายตาดุดันของปราชญ์ดา
“ช่อเปล่านะพี่ปั้น”
ปราชญ์ดากัดฟันฮึ่ม ๆ คว้าข้อมือช่อแก้วให้ตามหลังเขาไปโดยไม่ถามความสมัครใจของเธอแม้แต่น้อย ปราชญ์ดาไม่สนใจสายตาพนักงานขณะจูงข้อมือช่อแก้วเดินผ่านส่วนต่าง ๆ ของบริษัท กระทั่งถึงห้องทำงานส่วนตัว เขาก็ปล่อยมืออย่างแรงจนช่อแก้วเกือบล้ม
“พี่ปั้นคะ ช่อไม่ได้ทำร้ายคุณบัวนะคะ” ช่อแก้วส่ายหน้าไปมา “พี่ปั้นก็เห็นว่าช่อยืนด้านหลัง อยู่ดี ๆ รถเข็นนั่นก็พุ่งมา ช่อเปล่า” เธอแค่คิดอยากส่งสัญญาณเตือนให้รวินท์รดาอยู่ห่าง ๆ ธรรศแค่นั้น อยู่ ๆ รถเข็นคันนั้นก็พุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้
“แต่เรื่องข่าวลือเป็นฝีมือของช่อใช่ไหม!” ปราชญ์ดากระชากเสียงถาม ทำเอาอีกฝ่ายยืนนิ่งงัน หน้าถอดสีซีดเผือด ช่อแก้วขยับเท้าถอยไปด้านหลังเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับเข้าหาเพื่อกดดันคำตอบจากเธอ ช่อแก้วตาเหลือกมองเห็นหน้าของปราชญ์ดาที่แดงเข้มเพราะความโกรธจัด เธอรู้ว่าคนตรงหน้าเวลาโกรธนั้นน่ากลัวขนาดไหน
ความคิดของช่อแก้วกระจายหายวับไป เธอสะดุ้งเฮือก น้ำตาเม็ดโตร่วงกับเสียงคำรามของปราชญ์ดา
“ตอบมา!”
โปรดติดตามตอนต่อไป
นำนิยายมาส่งค่ะ หายไปนาน งานปินเยอะมากเลยอะค่ะ TwT
ถ้ามีพิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยนะคะ อาจจะหลุดหูหลุดตาตอนก่อนนำลงเว็บอะค่า
อ่านแล้วมีคอมเมนท์ บอกได้นะค้า
ปริศนาค่อย ๆ เผยออกมาเนอะ ^^
รวินท์รดาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นคนซุ่มซ่ามมาก่อน แต่ตอนนี้เธอคงกลายเป็นคนแบบนั้นในสายตาธรรศไปแล้ว เพราะการเตะขาเก้าอี้จนล้มลงไปกองกับพื้นทำให้โดนธรรศส่งสายตาตลกขบขันใส่เธอ
“ปล่อยได้แล้วคุณธรรศ” รวินท์รดามองหน้าเจ้าของวงแขนที่โอบรัดเอวเธอเอาไว้ ก็จริงอยู่ธรรศช่วยพยุงเธอยืนขึ้น แต่พอช่วยแล้วก็ควรจะปล่อยเธอได้แล้ว ไม่ใช่มายืนกอดพร้อมส่งสายตาระยิบระยับมองเธออยู่แบบนี้ รวินท์รดารู้สึกเขินจนหน้าร้อนไปหมด
นึกแล้วก็เคืองเจ้านายหนุ่มสุดหล่อเธอนิด ๆ ดันอนุญาตให้เธออยู่เป็น ‘กำลังใจ’ ให้ธรรศ รวินท์รดาไม่ทราบจริง ๆ ว่านายแบบนักแสดงหนุ่มสุดหล่อไปพูดอะไรทำไมเจ้านายเธอถึงอนุญาตง่าย ๆ รวินท์รดามีสิทธิ์ขัดคำสั่งหากดนุวัศก็ขอร้องเธอเป็นการส่วนตัว
‘บัวช่วยหน่อยนะ เราต้องเอาใจพรีเซนเตอร์แถมยังเป็นน้องชายลูกค้าอีก ช่วยหน่อยนะบัว’ ดนุวัศขอร้องมาแบบนี้เธอจะปฏิเสธได้อย่างไร
แถมพอปราชญ์ดารู้ว่าเธอจะอยู่ต่อจนถึงงานแถลงข่าวก็มีสีหน้ายินดี กระซิบบอกเธอว่าธรรศดูสบายใจกว่าตอนเช้าเยอะเลย
ตอนแถลงข่าว ห้องใหญ่เต็มไปด้วยนักข่าว แต่รวินท์รดาถูกจัดให้อยู่รวมกลุ่มกับคนภายใน ครั้นการแถลงข่าวจบ เธอก็ควรจะได้กลับไปทำงานที่แท้จริงของเธอสักที ขณะที่ต้าหลิงดันออกไปคุยกับนักข่าว รวินท์รดาก็ขอจะออกไปด้วยเลย แต่ดันสะดุดขาเก้าอี้เสียก่อน
“ปล่อยบัวได้แล้วค่ะ” รวินท์รดานิ่วหน้าพลางใช้ท่อนแขนดันอกกว้างให้ขยับออก
ธรรศยิ้มพลางหัวเราะเบา ๆ หลังจากถูกเธอทำตาวาวโกรธใส่
ระหว่างโต้เถียงกัน ธรรศยังคงโอบรั้งเอวบางไว้ เสียงเปิดประตูก็ดึงความสนใจของทั้งเขาและหญิงสาวไปจนหมด
“เอ่อ … เหมือนจะมาขัดจังหวะนะ เราไปรอข้างนอกกันก่อนดีกว่านะช่อแก้ว” ปราชญ์ดาแกลังล้อน้องชายด้วยนัยน์ตาแพรวพราว หันไปชักชวนร่างเล็กข้าง ๆ โดยทำเป็นมองผ่านสายตาตกตะลึงของช่อแก้ว
“คุณปราชญ์ดา คุณเข้าใจผิดนะคะ” รวินท์รดารีบชี้แจง “คุณปล่อยฉันสิคุณธรรศ” แล้วหันไปกระซิบบอกเจ้าของแขนที่รัดเธอแน่นกว่าเดิม
ริมฝีปากของธรรศเม้มเป็นเส้นตรงก็จริง แต่แววตาของธรรศคล้ายจะพอใจกับความเข้าใจผิดเรื่องนี้ เขาไม่ปฏิเสธอะไรสักอย่าง มีแต่คนตัวเล็กกว่าที่พยายามจะแก้ข่าว
“คุณธรรศอย่าเงียบสิคะ”
ธรรศก้มหน้ากระซิบใกล้ ๆ แก้มคนในอ้อมแขน
“คุณช่วยอยู่นิ่ง ๆ สักนิดนึงนะบัว แล้วผมจะพาบัวไปเลี้ยงไอศกรีม” ดวงตาคนตัวสูงสุกใสเมื่อยื่นเงื่อนไขด้วยรอยยิ้มยียวน
“ฉันไม่ใช่เด็กนะคุณธรรศ!” รวินท์รดาหันไปแหวใส่
การโต้เถียงของทั้งคู่ กลับเรียกเสียงหัวเราะจากปราชญ์ดาได้ชุดใหญ่
“พี่ว่าพี่ไม่กวนแล้วดีกว่า ถ้านายอยากจะกลับเมื่อไหร่ก็โทรบอกพี่ละกันนะ ธรรศ” ก่อนปราชญ์ดาจะหันไปทางช่อแก้ว “ช่อแก้วล่ะมายังไง จะกลับยังไง ให้พี่เรียกรถให้ไหม”
“ช่อขับรถมาค่ะ … ช่อขอตัวกลับก่อนก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะพี่ปั้น พี่ธรรศ”
ช่อแก้วหมุนตัวเดินจากไปทันทีที่ร่ำลาชายหนุ่มทั้งสอง ปราชญ์ดาทันเห็นดวงตาแดงก่ำของช่อแก้ว เขาครุ่นคิดเพียงนิดก็บอกกับคนที่เหลืออยู่ในห้องทั้งสอง
“พี่มีงานต้องทำ ขอตัวก่อนนะ” แล้วรีบเดินออกจากห้องไปบ้าง
“ทำไมคุณชอบทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคะคุณธรรศ” รวินท์รดาถามธรรศตรง ๆ เมื่อเหลือเพียงเธอกับธรรศ “ฉันไม่โอเคที่จะเล่นเกมไปกับคุณนะ”
“ผมไม่ได้ล้อคุณเล่นนะบัว” ธรรศตอบเสียงนิ่ง ๆ ผิดกับอีกฝ่ายที่หน้าตาบูดบึ้ง “ผมชอบคุณจริง ๆ”
รวินท์รดาอ้าปากค้าง หัวใจของเธอสั่นไหวกับคำสารภาพ ก่อนที่เธอจะได้สติแล้วหัวเราะผ่านจมูกดังหึ
“ตลกแล้วคุณ คุณชอบฉัน? นี่เรารู้จักกันมากพอหรือคะ” รวินท์รดาทำหน้าเหม็นเบื่อผู้ชายเจ้าชู้ ก่อนจะรีบถอยหลังหนีร่างสูงที่เดินมาใกล้ รวินท์รดาถอยจนเท้าชนขาเก้าอี้ เกือบได้ล้มไปอีกครั้งถ้าไม่ถูกวงแขนแกร่งตวัดเอวเธอไปโอบรัดเอาไว้
คนรูปหล่อระดับนายแบบพระเอกละครก้มหน้าลงมาใกล้ ดวงตาคู่คมวิบวับจนเธอตาพร่ามัว หัวตื้อหูอื้อไปหมด แต่เธอก็ยังได้ยินคำพูดชายหนุ่ม
“ก็เริ่มทำความรู้จักกันตอนนี้เลยเป็นไง”
หญิงสาวมองรอยยิ้มชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้ เผลอกำมือแน่นขณะมองรอยยิ้มของคนตัวสูงอย่างหวั่นใจ
“พอเถอะค่ะคุณธรรศ! ฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะคะว่าคุณจะเล่นสนุกอะไรของคุณ ฉันไม่สนุกด้วย และฉันก็ไม่ชอบเป็นของเล่นของใคร ช่วยแก้ความเข้าใจผิดสักที!” ก่อนจะผลักอกของเขาออกห่าง ธรรศทำหน้าเศร้าเมื่อคนตัวเล็กเสียงแข็งใส่
“ผมขอโทษถ้าทำให้คุณไม่พอใจและคิดแบบนั้น ผมแค่ …” ธรรศพยายามอธิบาย และยอมปล่อยมือจากเอวบาง เขาระวังจนแน่ใจว่าเธอจะไม่ล้มไปอีกครั้งถึงขยับเท้าห่างไปหนึ่งก้าว
“แค่ตั้งใจใช้ฉันทำร้ายคุณช่อแก้ว” รวินท์รดาเห็นเขานิ่งไปกับความจริงก็ถอนหายใจ พูดกับธรรศด้วยน้ำเสียงเย็นลง“ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน แต่การโกหกไม่ใช่ทางออกที่ดีนะคะ คุณควรหาวิธีอื่นดูนะคะคุณธรรศ”
“ถ้าทำให้ไม่ใช่เรื่องโกหกล่ะ” ธรรศถามเสียงจริงจัง “ผมไม่ได้ใช้คุณทำร้ายใคร แต่ผมจริงจังกับคุณล่ะบัว”
รวินท์รดามองหน้าคนพูดคล้ายจะจับพิรุธว่าโดนอำเล่นอยู่หรือเปล่า แต่สีหน้าธรรศจริงจังเกินไป
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันคงทำให้คุณไม่ได้ …”
เธอพูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไป ธรรศทรุดนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ต้าหลิงผลักประตูมาเห็นเข้าก็ถามธรรศอย่างสงสัย
“พี่ธรรศเป็นอะไรไปครับ เหนื่อยหรือครับ”
คนนั่งไหล่ตกบนเก้าอี้ส่ายหน้าเซ็ง ๆ แล้วตอบเสียงอ่อย
“อกหักมั้ง”
“อกหัก? พี่ธรรศนี่นะอกหัก” ต้าหลิงถลามานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ มองธรรศอย่างไม่เชื่อสายตา เขาได้ยินไม่ผิดไปใช่ไหม ธรรศที่ปฏิเสธผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาพูดว่าอกหักงั้นหรือ
ต้าหลิงหัวเราะพรืด แล้วรีบกลั้นขำเมื่อถูกธรรศตวัดสายตาดุใส่
“ผมแค่ไม่คิดว่าพี่จะบ่นว่าอกหัก ที่ผ่านมามีแต่พี่ไปหักอกเขานี่ครับ”
“ช่างเถอะ” ธรรศผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ผ่านเรื่องข่าวไปได้ ธรรศพยายามไม่สนใจแม้เรื่องผีเรื่องที่เขาเป็นตัวโชคร้ายจะกัดกร่อนความสุขของเขาก็ตาม ส่วนเรื่องหัวใจคงต้องหาทางจัดการอีกที
ขณะนั้นเองเสียงกรีดร้องของรวินท์รดาก็ดังลั่น ธรรศหันมองต้าหลิงก่อนจะรีบผลักประตูห้องออกไปดู รวินท์รดานั่งอยู่กับพื้น ข้าง ๆ หญิงสาวมีรถเข็นพร้อมกล่องกระดาษบรรจุใบปลิวโฆษณาล้มตะแคงข้างอยู่ ธรรศพร้อมต้าหลิงรีบปรี่เข้าไปหาหญิงสาวทันที
“บัว! คุณเป็นอะไรไหม” ธรรศถาม เพียงแตะกายบางก็สัมผัสได้ว่าตัวเธอสั่นเทาคล้ายหวาดกลัวบางอย่าง
“ผีตัวนั้นคุณธรรศ ผีตัวดำ ๆ ที่คอนโด ที่มันทำร้ายคุณ มันผลักรถใส่บัว!!” ความกลัวทำให้รวินท์รดาเล่าพร้อมกอดแขนชายหนุ่มแน่น แทนชื่อตัวเองอย่างใกล้ชิด
เมื่อครู่เธอเกือบจะแย่แล้ว อยู่ดี ๆ ก็มีรถเข็นของหนัก ๆ พุ่งเข้าหาเธออย่างเร็ว รวินท์รดาเห็นผีตัวดำทะมึนหัวเราะใส่ขณะรถพุ่งตรงมา ดีนะที่รถเข็นมันล้มก่อนถึงเธอ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะเจ็บตัวก็ได้
“บัวกลัวคุณธรรศ บัวกลัว”
ธรรศลูบไหล่เล็กปลอบโยน พลางมองตามไปทางที่รวินท์รดาชี้ ซึ่งเป็นทางเดินลึกไปอีกด้านของตึก ตอนนี้เขามองไม่เห็นใครสักคนนอกจากไฟติด ๆ ดับ ๆ ความว่างเปล่าชวนธรรศให้คิดถึงสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้ … ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ต้าหลิงพูดออกมาด้วยหน้าตาตื่นกลัว
“ผีตัวดำ ๆ หรือครับ … นี่ผมไม่ได้ฝันไปงั้นหรือ พี่ธรรศ ผมก็เห็นผีตัวนั้นนะ ผีที่ตัดหน้ารถเราจนรถคว่ำไงครับ”
อีกด้านหนึ่ง
ธรรศ ต้าหลิง และรวินท์รดาต่างไม่รู้สึกว่าช่อแก้วยืนหลบอยู่ตรงมุมทางเดินด้านหลังเขา ช่อแก้วมองเหตุการณ์อย่างตกใจ เธอยกมือขึ้นปิดปากคิดจะรีบหนีไปจากตรงนั้น แต่ทันทีที่หันหลังก็สะดุ้งโหยง ปราชญ์ดามายืนด้านหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่!?
แววตารองผู้บริหารหนุ่มโกรธจัด ทำให้ช่อแก้วใจหล่นวูบ รีบส่ายหน้าไปมา เธอยืนยันเสียงละล่ำละลักกับสายตาดุดันของปราชญ์ดา
“ช่อเปล่านะพี่ปั้น”
ปราชญ์ดากัดฟันฮึ่ม ๆ คว้าข้อมือช่อแก้วให้ตามหลังเขาไปโดยไม่ถามความสมัครใจของเธอแม้แต่น้อย ปราชญ์ดาไม่สนใจสายตาพนักงานขณะจูงข้อมือช่อแก้วเดินผ่านส่วนต่าง ๆ ของบริษัท กระทั่งถึงห้องทำงานส่วนตัว เขาก็ปล่อยมืออย่างแรงจนช่อแก้วเกือบล้ม
“พี่ปั้นคะ ช่อไม่ได้ทำร้ายคุณบัวนะคะ” ช่อแก้วส่ายหน้าไปมา “พี่ปั้นก็เห็นว่าช่อยืนด้านหลัง อยู่ดี ๆ รถเข็นนั่นก็พุ่งมา ช่อเปล่า” เธอแค่คิดอยากส่งสัญญาณเตือนให้รวินท์รดาอยู่ห่าง ๆ ธรรศแค่นั้น อยู่ ๆ รถเข็นคันนั้นก็พุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้
“แต่เรื่องข่าวลือเป็นฝีมือของช่อใช่ไหม!” ปราชญ์ดากระชากเสียงถาม ทำเอาอีกฝ่ายยืนนิ่งงัน หน้าถอดสีซีดเผือด ช่อแก้วขยับเท้าถอยไปด้านหลังเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับเข้าหาเพื่อกดดันคำตอบจากเธอ ช่อแก้วตาเหลือกมองเห็นหน้าของปราชญ์ดาที่แดงเข้มเพราะความโกรธจัด เธอรู้ว่าคนตรงหน้าเวลาโกรธนั้นน่ากลัวขนาดไหน
ความคิดของช่อแก้วกระจายหายวับไป เธอสะดุ้งเฮือก น้ำตาเม็ดโตร่วงกับเสียงคำรามของปราชญ์ดา
“ตอบมา!”
โปรดติดตามตอนต่อไป
นำนิยายมาส่งค่ะ หายไปนาน งานปินเยอะมากเลยอะค่ะ TwT
ถ้ามีพิมพ์ผิดบ้าง ขออภัยนะคะ อาจจะหลุดหูหลุดตาตอนก่อนนำลงเว็บอะค่า
อ่านแล้วมีคอมเมนท์ บอกได้นะค้า
ปริศนาค่อย ๆ เผยออกมาเนอะ ^^
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ย. 2559, 02:44:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ย. 2559, 02:53:33 น.
จำนวนการเข้าชม : 1006
<< ตอนที่ 9 -100% | ตอนที่ 10 - 100% >> |
ปิ่นนลิน 28 พ.ย. 2559, 02:47:25 น.
ตอบคอมเมนท์ค่า
คุณ kaelek - นางเอกซุ่มซ่ามค่า เลยโดนเข้าใจผิดเลย แฮะๆ
คุณ แว่นใส - ตัวการจะยอมรับไหมน้า
คุณ พอใจ - พี่ปั้นโกรธมากเลยค่ะ จะเป็นอย่างไรต่อไปน้าาา
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ และนักอ่านทุกท่านค่า
ตอบคอมเมนท์ค่า
คุณ kaelek - นางเอกซุ่มซ่ามค่า เลยโดนเข้าใจผิดเลย แฮะๆ
คุณ แว่นใส - ตัวการจะยอมรับไหมน้า
คุณ พอใจ - พี่ปั้นโกรธมากเลยค่ะ จะเป็นอย่างไรต่อไปน้าาา
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ และนักอ่านทุกท่านค่า
แว่นใส 28 พ.ย. 2559, 07:14:48 น.
ผีสร้างเรื่องตลอดเลย
ผีสร้างเรื่องตลอดเลย
kaelek 28 พ.ย. 2559, 07:26:06 น.
ผีกับพี่ปั้นนี่ใครน่ากลัวกว่ากันหว่าาาา
ผีกับพี่ปั้นนี่ใครน่ากลัวกว่ากันหว่าาาา