In a day รอรักหลังวิวาห์
Tags: อาลี โมนา
ตอน: Chapter 15: Spouse I (สามีภรรยา I)
Chapter 15: Spouse I (สามีภรรยา I)
KL, Malaysia,
22:30 pm
“เข้าห้องเถอะ น้ำค้างเริ่มลงแล้ว”
“น้องยังไม่ง่วง”
“ไม่ง่วง เพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่ล่ะ”
“คิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา”
“คิดมาก”
“ไม่ได้คิดมากสักหน่อย”
“เลิกคิดแล้วเข้ามานอน มา”
เขาที่ยืนพิงอยู่ที่ขอบประตูยื่นมือมาที่ฉัน ที่กำลังยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ฉันยื่นมือไปจับมือเขา แต่เขากลับกระตุกมันอย่างแรงจนฉันเซเข้าประทะกับอกแกร่ง ตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมอกเขาโดยมีมือของเขาโอบเอวฉันอยู่
“อร้ายยย เล่นอะไรของพี่เนี้ย”
“เหอะ ไม่ได้เล่น แต่ตั้งใจต่างหาก”
“อ้อนี่แกล้งกันหรอ”
“ไม่ได้แกล้ง บอกแล้วตั้งใจ”
“ตั้งใจแกล้งใช่ไหม ปล่อยได้แล้ว”
“ไม่ปล่อย และไม่ได้ตั้งใจแกล้ง แต่ตั้งใจกอด”
“กะ ก็บอกดีๆก็ได้ ไม่ได้ห้ามให้กอดสักหน่อย”
ฉันรีบก้มหน้าลง กรี๊ดดด ฉันพูดอะไรเนี้ย เขินเป็นบ้า เกิดมาไม่เคยพูดคำพวกนี้มาก่อนเลย
“บอกดีๆก็ไม่ตื่นเต้นสิ ไหนมองหน้าพี่สิ”
“อะไรเล่า”
“เลิกเขินได้แล้ว”
เขายื่นมือมาจับที่ปลายคางของฉันให้เงยหน้ามองเขา
“ยิ้มอะไร”
“ยิ้ม ไม่ได้???”
“แล้วยิ้มอะไรเล่า”
“ยิ้มให้เมียตัวเองไม่ได้หรือไง”
“นี่”
“ชู่ว อย่าเสียงดังสิ ดึกแล้ว”
“ก็หยุดยิ้มสิ ห้ามขำด้วย หน้าเนี้ย”
ฉันยื่นมือไปบีบแก้มเขาทั้งสองข้างไปมา ผู้ชายอะไรหน้าเนียนใสอย่างกับผู้หญิง นี่ถ้าไม่มีไรหนวดที่มุมปากทั้งสองข้างคงดุไม่ออกว่าอายุจะยี่สิบเจ็ดแล้ว
“มองหน้าพี่นานๆพี่ปรับนะ”
“คะ ค่ะ ปรับอะไร”
“ปรับอย่างนี้ไง”
ฟอดดด
“ชื่นใจ”
“พี่ลี นี่ๆ”
“ถ้าไม่หยุดดึงแก้มพี่ พี่จะทำโทษเรา”
“คิดว่ากลัวหรอ นี่ๆๆๆ”
“ไม่หยุดใช่ไหม ฮึ่บ”
“อร้ายยย พี่ลีปล่อยน้องลงนะ เดี่ยวตก”
เขาอุ้มฉันในท่าเจ้าสาว โดยที่มือฉันโอบรอบคอเขาอยู่เพราะกลัวตก
“ไม่ปล่อย จะทำโทษเด็กดื้อ”
“ใครเด็กไม่ทราบ นี่ปล่อยลงนะ ไหนบอกจะเข้านอนไง”
“ก็นี่ไง กำลังส่งเด็กเข้านอน”
“ไม่ได้เด็กสักหน่อย เรียนจบแล้ว”
“ใครบอกไม่เด็ก”
“น้องนี่แหล่ะบอก”
“หรอ แต่พี่ว่าเด็กนะ เด็กพี่ไง ฮ่ะฮะฮ่า”
“………………..”
อึ้งสิ ถึงกับไปไม่เป็น นี่ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาก็มีมุมนี้กับเขาเหมือนกัน เห็นนิ่งๆแต่ถ้าลองได้รู้จักกันจริงๆ นี่ไม่เป็นอย่างที่คิดเลย ก็จริงอย่างที่เขาว่า อย่าตัดสินคนเพียงเพราะภายนอกของเขา
“ทำไมเงียบล่ะ”
“พี่ลีก็มีมุมนี้กับเขาด้วย”
“มุมไหน พี่ก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”
“จริงอ่ะ”
“จริงสิ เดี่ยวอยู่กันไปก็จะรู้เองว่าพี่เป็นแบบไหนได้อีก เราต้องเรียนรู้กันไปนานๆ”
“คะ น้องว่าปล่อยได้แล้วนะ ถึงเตียงแล้ว”
“หึ”
เขาปล่อยฉันนั่งลงบนปลายเตียง แต่มือเขากลับเท้าอยู่ที่เตียงทั้งสองข้าง ไม่ไปไหน เขาค่อยๆโน้มหน้าลงมาเรื่อยๆ
“เอ่อ ลุกออกไปสิ ไหนบอกว่าจะนอนแล้วไง”
“ก็จะนอนนี่ไง”
“จะนอนแล้วทำไมไม่”
อื้อ
ทุกคำพูดถูกกลืนหายไปพร้อมๆกับที่เขาโน้มตัวลงมา เราสองเปรียบดั่งเทียนหอมกับเปลวไฟ ที่จุติดกัน มันทั้งหอมหวานและร้อนแรง กลิ่นหอมของเทียนและเปลวไฟอันร้อนแรง ได้ส่องแสงอันอบอุ่นและหอมหวานคลุ้งตลบไปทั่วทั้งห้องในยามวิกาล และไม่มีใครทราบได้ว่าเมื่อไหร่มันจะมอดดับลง
07:00 am.
“เอ่ สงสัยวันนี้ฝนท่าจะตก หลานปู่ลงมือเข้าครัวเอง”
“อ้าวปู่จะมาทำไมไม่บอกผมจะได้ไปรับ แล้วนี่มากับใครครับ”
“มากับผมไงครับพี่”
“อ้อ ให้อลันไปรับนี่เอง”
“พี่โมนาละครับพี่ลี”
“อยู่ข้างบนเห็นบ่นว่าปวดหัว”
“อ้าวหรอ ไหนอลันพาปู่ไปหาพี่สะใภ้เราหน่อย”
“ไม่ต้องเลยไอ้ลัน ปู่ก็ นั่นเมียผมนะเดี่ยวผมพาปู่ไปเอง ส่วนแกไอ้ลันมาดูข้าวต้มนี่มาใกล้เดือดแล้ว”
“กับน้องก็ไม่เว้นนะพี่ลี”
“ไว้แกมีเมียแล้วแกจะรู้ ไปครับปู่”
“ฮ่ะฮะฮ่า เจ้าลีกับเจ้าลันนี่จริงๆเลย”
เคร่งงง
“เสียงเหมือนแก้วตกแตก”
“โมนา! ปู่อยู่นี่ก่อนนะครับเดี่ยวผมขึ้นไปดูก่อน”
“เออๆรีบไปๆ”
“โมนา”
“พี่ลี แก้วแตก”
“พี่เห็นแล้ว หยุดอยู่ตรงนั้นแหล่ะ เดี่ยวพี่กวาดเศษแก้วก่อน ปวดหัวทำไมไม่พักผ่อนลุกขึ้นมาทำไม”
“น้องแค่จะเอาแก้วไปเก็บ”
“แล้วทำไมไม่เรียกพี่”
“…………………….”
“เป็นอะไรปวดหัวอีกหรือเปล่า”
ฉันสายหัวไปมา ไม่รู้ทำไมอยู่ๆฉันก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“ไหนดูสิมีไข้หรือเปล่า”
เขายื่นมือมาอังที่หน้าผากฉันเพื่อวัดความร้อน ฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันสามารถวัดไข้ได้จริงหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆตอนนี้จากเมื่อกี้ที่รู้สึกน้อยใจเขา ฉันเปลี่ยนเป็นอยากอ้อนเขาอยากให้เขาเอาใจฉันบ่อยๆ
จุ๊บบ
“อืม ขอโทษคะพี่ลี”
จุ๊บบ
“น้องจะไม่ดื้อแล้ว”
“ตรงนี้ด้วย”
เขาชี้ไปที่หน้าผากตัวเองเพื่อให้ฉันจูบเหมือนที่ฉันจูบแก้มทั้งสองข้างของเขา
“ไม่ทำหรอก”
“งั้นพี่ทำเอง”
จุ๊บบ
กลายเป็นเขาที่จูบหน้าผากฉันแทน เขินชะมัด
“ลงกันเถอะคุณปู่รออยู่ข้างล่าง”
“ค่ะ คุณปู่มาหรอ”
“ใช่ เดินไหวไหม ยังปวดหัวอีกหรือเปล่า”
“โอเคแล้วคะ”
“แน่นะ”
“คะ รีบลงเถอะคะเดี่ยวคุณปู่จะรอนาน”
“ไปสิ”
เขาเดินนำฉันลงไป แต่ทำไมฉันรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกแล้ว
พรึ่บบ
ฉันยื่นมือไปจับไหล่เขาระหว่างลงบันได
“เป็นอะไร ไหวไหม”
“น้องปวดหัวนิดหน่อย”
“มานี่ มา”
เขายื่นมือมาโอบไหล่ฉันให้ฉันเดินลงไปพร้อมเขา ฉันมองเสี้ยวหน้าเขา
“ขอบคุณคะ”
“................."
KL, Malaysia,
22:30 pm
“เข้าห้องเถอะ น้ำค้างเริ่มลงแล้ว”
“น้องยังไม่ง่วง”
“ไม่ง่วง เพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่ล่ะ”
“คิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา”
“คิดมาก”
“ไม่ได้คิดมากสักหน่อย”
“เลิกคิดแล้วเข้ามานอน มา”
เขาที่ยืนพิงอยู่ที่ขอบประตูยื่นมือมาที่ฉัน ที่กำลังยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ฉันยื่นมือไปจับมือเขา แต่เขากลับกระตุกมันอย่างแรงจนฉันเซเข้าประทะกับอกแกร่ง ตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมอกเขาโดยมีมือของเขาโอบเอวฉันอยู่
“อร้ายยย เล่นอะไรของพี่เนี้ย”
“เหอะ ไม่ได้เล่น แต่ตั้งใจต่างหาก”
“อ้อนี่แกล้งกันหรอ”
“ไม่ได้แกล้ง บอกแล้วตั้งใจ”
“ตั้งใจแกล้งใช่ไหม ปล่อยได้แล้ว”
“ไม่ปล่อย และไม่ได้ตั้งใจแกล้ง แต่ตั้งใจกอด”
“กะ ก็บอกดีๆก็ได้ ไม่ได้ห้ามให้กอดสักหน่อย”
ฉันรีบก้มหน้าลง กรี๊ดดด ฉันพูดอะไรเนี้ย เขินเป็นบ้า เกิดมาไม่เคยพูดคำพวกนี้มาก่อนเลย
“บอกดีๆก็ไม่ตื่นเต้นสิ ไหนมองหน้าพี่สิ”
“อะไรเล่า”
“เลิกเขินได้แล้ว”
เขายื่นมือมาจับที่ปลายคางของฉันให้เงยหน้ามองเขา
“ยิ้มอะไร”
“ยิ้ม ไม่ได้???”
“แล้วยิ้มอะไรเล่า”
“ยิ้มให้เมียตัวเองไม่ได้หรือไง”
“นี่”
“ชู่ว อย่าเสียงดังสิ ดึกแล้ว”
“ก็หยุดยิ้มสิ ห้ามขำด้วย หน้าเนี้ย”
ฉันยื่นมือไปบีบแก้มเขาทั้งสองข้างไปมา ผู้ชายอะไรหน้าเนียนใสอย่างกับผู้หญิง นี่ถ้าไม่มีไรหนวดที่มุมปากทั้งสองข้างคงดุไม่ออกว่าอายุจะยี่สิบเจ็ดแล้ว
“มองหน้าพี่นานๆพี่ปรับนะ”
“คะ ค่ะ ปรับอะไร”
“ปรับอย่างนี้ไง”
ฟอดดด
“ชื่นใจ”
“พี่ลี นี่ๆ”
“ถ้าไม่หยุดดึงแก้มพี่ พี่จะทำโทษเรา”
“คิดว่ากลัวหรอ นี่ๆๆๆ”
“ไม่หยุดใช่ไหม ฮึ่บ”
“อร้ายยย พี่ลีปล่อยน้องลงนะ เดี่ยวตก”
เขาอุ้มฉันในท่าเจ้าสาว โดยที่มือฉันโอบรอบคอเขาอยู่เพราะกลัวตก
“ไม่ปล่อย จะทำโทษเด็กดื้อ”
“ใครเด็กไม่ทราบ นี่ปล่อยลงนะ ไหนบอกจะเข้านอนไง”
“ก็นี่ไง กำลังส่งเด็กเข้านอน”
“ไม่ได้เด็กสักหน่อย เรียนจบแล้ว”
“ใครบอกไม่เด็ก”
“น้องนี่แหล่ะบอก”
“หรอ แต่พี่ว่าเด็กนะ เด็กพี่ไง ฮ่ะฮะฮ่า”
“………………..”
อึ้งสิ ถึงกับไปไม่เป็น นี่ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาก็มีมุมนี้กับเขาเหมือนกัน เห็นนิ่งๆแต่ถ้าลองได้รู้จักกันจริงๆ นี่ไม่เป็นอย่างที่คิดเลย ก็จริงอย่างที่เขาว่า อย่าตัดสินคนเพียงเพราะภายนอกของเขา
“ทำไมเงียบล่ะ”
“พี่ลีก็มีมุมนี้กับเขาด้วย”
“มุมไหน พี่ก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”
“จริงอ่ะ”
“จริงสิ เดี่ยวอยู่กันไปก็จะรู้เองว่าพี่เป็นแบบไหนได้อีก เราต้องเรียนรู้กันไปนานๆ”
“คะ น้องว่าปล่อยได้แล้วนะ ถึงเตียงแล้ว”
“หึ”
เขาปล่อยฉันนั่งลงบนปลายเตียง แต่มือเขากลับเท้าอยู่ที่เตียงทั้งสองข้าง ไม่ไปไหน เขาค่อยๆโน้มหน้าลงมาเรื่อยๆ
“เอ่อ ลุกออกไปสิ ไหนบอกว่าจะนอนแล้วไง”
“ก็จะนอนนี่ไง”
“จะนอนแล้วทำไมไม่”
อื้อ
ทุกคำพูดถูกกลืนหายไปพร้อมๆกับที่เขาโน้มตัวลงมา เราสองเปรียบดั่งเทียนหอมกับเปลวไฟ ที่จุติดกัน มันทั้งหอมหวานและร้อนแรง กลิ่นหอมของเทียนและเปลวไฟอันร้อนแรง ได้ส่องแสงอันอบอุ่นและหอมหวานคลุ้งตลบไปทั่วทั้งห้องในยามวิกาล และไม่มีใครทราบได้ว่าเมื่อไหร่มันจะมอดดับลง
07:00 am.
“เอ่ สงสัยวันนี้ฝนท่าจะตก หลานปู่ลงมือเข้าครัวเอง”
“อ้าวปู่จะมาทำไมไม่บอกผมจะได้ไปรับ แล้วนี่มากับใครครับ”
“มากับผมไงครับพี่”
“อ้อ ให้อลันไปรับนี่เอง”
“พี่โมนาละครับพี่ลี”
“อยู่ข้างบนเห็นบ่นว่าปวดหัว”
“อ้าวหรอ ไหนอลันพาปู่ไปหาพี่สะใภ้เราหน่อย”
“ไม่ต้องเลยไอ้ลัน ปู่ก็ นั่นเมียผมนะเดี่ยวผมพาปู่ไปเอง ส่วนแกไอ้ลันมาดูข้าวต้มนี่มาใกล้เดือดแล้ว”
“กับน้องก็ไม่เว้นนะพี่ลี”
“ไว้แกมีเมียแล้วแกจะรู้ ไปครับปู่”
“ฮ่ะฮะฮ่า เจ้าลีกับเจ้าลันนี่จริงๆเลย”
เคร่งงง
“เสียงเหมือนแก้วตกแตก”
“โมนา! ปู่อยู่นี่ก่อนนะครับเดี่ยวผมขึ้นไปดูก่อน”
“เออๆรีบไปๆ”
“โมนา”
“พี่ลี แก้วแตก”
“พี่เห็นแล้ว หยุดอยู่ตรงนั้นแหล่ะ เดี่ยวพี่กวาดเศษแก้วก่อน ปวดหัวทำไมไม่พักผ่อนลุกขึ้นมาทำไม”
“น้องแค่จะเอาแก้วไปเก็บ”
“แล้วทำไมไม่เรียกพี่”
“…………………….”
“เป็นอะไรปวดหัวอีกหรือเปล่า”
ฉันสายหัวไปมา ไม่รู้ทำไมอยู่ๆฉันก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“ไหนดูสิมีไข้หรือเปล่า”
เขายื่นมือมาอังที่หน้าผากฉันเพื่อวัดความร้อน ฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันสามารถวัดไข้ได้จริงหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆตอนนี้จากเมื่อกี้ที่รู้สึกน้อยใจเขา ฉันเปลี่ยนเป็นอยากอ้อนเขาอยากให้เขาเอาใจฉันบ่อยๆ
จุ๊บบ
“อืม ขอโทษคะพี่ลี”
จุ๊บบ
“น้องจะไม่ดื้อแล้ว”
“ตรงนี้ด้วย”
เขาชี้ไปที่หน้าผากตัวเองเพื่อให้ฉันจูบเหมือนที่ฉันจูบแก้มทั้งสองข้างของเขา
“ไม่ทำหรอก”
“งั้นพี่ทำเอง”
จุ๊บบ
กลายเป็นเขาที่จูบหน้าผากฉันแทน เขินชะมัด
“ลงกันเถอะคุณปู่รออยู่ข้างล่าง”
“ค่ะ คุณปู่มาหรอ”
“ใช่ เดินไหวไหม ยังปวดหัวอีกหรือเปล่า”
“โอเคแล้วคะ”
“แน่นะ”
“คะ รีบลงเถอะคะเดี่ยวคุณปู่จะรอนาน”
“ไปสิ”
เขาเดินนำฉันลงไป แต่ทำไมฉันรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกแล้ว
พรึ่บบ
ฉันยื่นมือไปจับไหล่เขาระหว่างลงบันได
“เป็นอะไร ไหวไหม”
“น้องปวดหัวนิดหน่อย”
“มานี่ มา”
เขายื่นมือมาโอบไหล่ฉันให้ฉันเดินลงไปพร้อมเขา ฉันมองเสี้ยวหน้าเขา
“ขอบคุณคะ”
“................."
TheW
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ย. 2559, 20:57:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2560, 19:42:46 น.
จำนวนการเข้าชม : 1048
<< Chapter: 14 Reconcile (ปรับความเข้าใจ) | Chapter 16: Spouse II (สามีภรรยา II) >> |