แรงรักบุษบา (รอก่อนนะคะ)
การพบกันอย่างมีปริศนา
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง
"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!
แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน
นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง
"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!
แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน
นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
Tags: ปิ่นนลิน ลึกลับ ปริศนา
ตอน: ตอนที่ 11 - 50%
ตอนที่ 11 - 50%
ห้องศิลป์ชวนรวินท์รดากับกีรณาออกมากินมื้อเย็นที่ร้านส้มตำติดแอร์ในวันทำงานวันหนึ่ง ทั้งสามเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย กีรณาทำงานเป็นแฟชั่นคอลัมนิสต์ให้นิตยสารแฟชั่นหัวนอกฉบับหนึ่ง
“นี่ วันก่อนอาร์ตไปบ้านหลังนั้นมาอีกแล้วล่ะบัว คราวนี้ซวยชะมัดดันไปเจอเจ้าของบ้านเข้า” ห้องศิลป์บ่นให้เพื่อนสาวทั้งสองฟังหลังจากใช้ส้อมจิ้วเนื้อย่างเข้าปาก รวินท์รดายังจำบ้านหลังที่ห้องศิลป์เคยเล่าให้ฟังได้
“บ้านที่อาร์ตี้ไปถ่ายรูปดอกบัวสีเหลืองน่ะเหรอ”
“ใช่ หลังนั้นแหละ” คนตอบยังเพลินกับส้มตำตรงหน้า แม้จะหงุดหงิดก็กินได้สบาย ๆ
“แอบปีนเข้าบ้านเขาเลยถูกจับได้ ดีนะเขาไม่เอาตำรวจมาจับแกน่ะอาตี๋” กีรณาเงยหน้าจากจอโทรศัพท์มือถือมาบ่นเพื่อนร่วมก๊วนที่หาเรื่องเข้าตัว
“บอกที่ไหนว่าแอบปีนเข้าไป ลุงที่เฝ้าบ้านเขาอนุญาตให้อาร์ตเข้าไปต่างหากนะเกี๊ยว อีกอย่างเลิกเรียกว่าอาตี๋สักทีเถอะ” ห้องศิลป์แก้ความเข้าใจผิดของกีรณา
“ฉันก็เรียกแกว่าอาตี๋มาตั้งแต่เรียน ตั้งแต่แกอกหักจากแม่นางฟ้าของแกแล้วนะตี๋” กีรณาไม่เลิกต่อปากต่อคำกับเพื่อนชาย จนรวินท์รดาต้องมาห้ามทัพ
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว สองคนนี่เจอหน้ากันเป็นต้องตีกันอยู่เรื่อย อาตี๋ เอ้ย อาร์ตี้ แล้วเขาทำยังไงล่ะ เจ้าของบ้านน่ะ” ครีเอทีฟโฆษณาสาวอยากฟังเพื่อนเล่าต่อ
“อ่อ เขาไม่ทำอะไรหรอก แค่ไล่ให้อาร์ตออกมาจากบ้านเขา แต่ว่านะโคตรดุเลย อย่างกับร้อตไวเลอร์” ช่างภาพหนุ่มเซอร์หน้าตี๋เล่าก่อนจะแย่งโทรศัพท์มือถือมาจากมือของกีรณา
“คนนี้เลย!” พร้อมจิ้มไปที่รูปชายหนุ่มสวมสูทหน้าตาเหมือนโกรธคนทั้งโลก กีรณาเปิดรูปของคนที่เขาพูดถึงพอดี “หน้ายักษ์นี่เลย”
“คนนี้เหรอ” รวินท์รดากับกีรณาถามแทบจะพร้อมกัน
“แกรู้จักเหรอบัว คนนี้อะ” กีรณาเป็นฝ่ายถามก่อน
“เขาเป็นลูกค้าเจ้านายฉัน แล้วแกล่ะเกี๊ยว รู้จักคุณปราชญ์ดาเขาด้วยหรือ” รวินท์รดาถามกลับบ้าง
“ไม่รู้จักหรอก แต่ฉันกำลังจะทำงานกับน้องชายเขาอะ น้องชายที่เป็นนายแบบอินเตอร์ที่ชื่อ ธรรศ เพิ่งมาเซ็นสัญญาถ่ายแบบกับหนังสือเกี๊ยว … ว่าแต่พี่ชายเขาหล่อดีนะ แกว่ามั้ยบัว” กีรณาสนใจพี่ชายมาดนัธุรกิจสุดขรึมมากกว่าน้องชายรูปหล่อขวัญใจมหาชน
“หล่อ ดูร้อนแรงเหมือนมิสเตอร์เกรย์” และไม่วายที่กีรณาจะพาดพิงถึงพระเอกนิยายรักร้อนแรงอีก
“เหรอ แต่บัวว่าน้องชายเขาหล่อกว่านะ” รวินท์รดาออกความเห็นจากใจจริง เธออยู่กับเพื่อนเลยไม่ต้องวางฟอร์มอะไร แล้วอดยิ้มมีความสุขยามเข้าสู่ภวังค์คิดถึงธรรศไม่ได้
เมื่อหลายวันก่อน ธรรศมารอต้าหลิงที่คอนโดมิเนียมของเธอ ตอนแรกรวินท์รดาก็หงุดหงิดเขาอยู่หรอก แต่พอเห็นธรรศเล่นกับดาร์ลิ้ง รวินท์รดาก็พ่ายแพ้ผู้ชายรักแมวเฉยเลย
“บัว … ยัยบัว!” เสียงของกีรณา และมือที่โบกไปมาของห้องศิลป์ดึงคนตกหลุมรักขึ้นมาจากหลุมได้
“เมื่อกี้แกชมว่าคุณธรรศหล่อหรือ สเปคแกเหรอ” กีรณาจ้องตาถาม ห้องศิลป์ก็ยื่นหน้ามารอฟังเช่นกัน กีรณายังขยี้คำถามเดิมซ้ำ “ไหนว่าไม่ชอบคนหล่อไง อย่างคุณธรรศนี่เขาเรียกว่าโคตรหล่อเลยนะแก”
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ก็บอกแค่ว่าน้องชายหล่อกว่าแค่นั้นเอง ไมได้บอกว่าชอบเลยนะ” รวินท์รดารีบแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง เธอหันไปทางห้องศิลป์ที่เอาแต่นิ่งเงียบ
“สรุปบ้านเก่าหลังนั้นเป็นของคุณปราชญ์ดาหรือ โลกกลมจังเลยนะ”
“โลกกลมแบบนี้ก็ยังโอเค แต่อย่าได้กลมแบบหมาหน้ายักษ์ หรือมิสเตอร์เกรย์ของเกี๊ยวมาเป็นลูกค้าอาร์ตละกัน จะว่าไปก็เสียดาย อาร์ตคงไม่ได้ไปบ้านนั้นแล้ว คงไม่มีโอกาสพาบัวไปดูดอกบัวดอกนั้นด้วย” ช่างภาพหนุ่มถอนหายใจเฮือก ๆ
“บัว ตกลงแกชอบแบบคุณธรรศเหรอ” กีรณายังไม่เลิกติดใจสเปคของเพื่อนซี้ แม้คนถูกถามจะหนีการตอบด้วยการกัดไก่ย่างเต็มปากก็ตาม!
ห้องศิลป์ขี่มอเตอร์ไซด์พากีรณากลับมาส่งที่บ้านของเธอ พอกีรณายื่นหมวกกันน็อคคืนให้ช่างภาพหนุ่มแล้วก็อดถามคำถามที่ติดค้างใจไม่ได้
“ตี๋ ถามจริงเถอะ แกตัดใจจากบัวแล้วหรือยัง”
“ทำไมอยู่ ๆ ถึงถาม” ห้องศิลป์ถามกลับ พลางเอาหมวกกันน็อคใส่ช่องว่างใต้เบาะรถ
“อย่าว่าฉันเลยนะ แกมองคนอื่นเถอะ ถ้าบัวชอบแกก็คงชอบตั้งนานแล้ว” กีรณาอาจจะชอบชวนห้องศิลป์ทะเลาะบ่อย ๆ แต่เธอก็เป็นเพื่อนรักห้องศิลป์มาตั้งนาน “ฉันว่ามันเสียเวลาว่ะ”
“อาร์ตยอมรับว่าอาร์ตรู้สึกดีกับบัวมาก มากจนไม่แน่ใจว่าใช่รักหรือเปล่า เพราะอาร์ตไม่แน่ใจก็เลยไม่แสดงออกหรือทำอะไรไงล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเราเจอคนที่ชอบเราก็ลุยเป็นน่ะ”
“ดีแล้ว ฉันไปก่อนนะ ขี่รถดี ๆ นะ” กีรณาค่อยสบายใจขึ้นหน่อย
“แล้วแกชอบแบบหมาหน้ายักษ์ เอ่อ ฉันหมายถึงมิสเตอร์เกรย์ของแก ชอบแบบนั้นหรือเกี๊ยว” ชายหนุ่มถามบ้าง
“แน่สิ ฉันชอบแบบนั้นแหละ แบบเอาแส้ฟาด” กีรณาตอบแล้วหัวเราะเมื่อเพื่อนชายทำตาโตใส่ หน้าตาห้องศิลป์เหวออย่างน่าตลก เธอรีบบอกก่อนอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดมากกว่าเดิม
“บ้าน่าอาร์ตี้ ฉันไม่ใช่พวกชอบความเจ็บปวดนะ ถึงจะหล่อแต่ถ้าขืนเอาแส้มาฟาดฉัน ฉันจะฟาดกลับให้ ไปล่ะ ขี่รถดี ๆ นะแก”
ก่อนคนขี้อำจะเดินเข้าบ้านของเธอไป ชายหนุ่มก็ขี่รถกลับที่พักบ้าง ระหว่างทางต้องผ่านบ้านเก่าหลังนั้น
บ้านคนหน้ายักษ์!
เขาอดไม่ได้ที่จะจอดรถแล้วมองบ้านที่ยังซ่อมแซมและเวลานี้ก็เงียบสนิท หากชายหนุ่มก็ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วขี่รถจากไป โดยไม่เห็นว่าเขาถูกมองจากสายตาใครบางคนจากชั้นบนบ้านหลังเก่า
รวินท์รดาเองเมื่อถึงกลับถึงคอนโดมิเนียม แวะเอาจดหมายที่ห้องเมล์บ๊อกก่อนอย่างทุกวัน และในวันนี้เธอก็ได้ใบแจ้งว่ามีพัสดุมาส่ง รวินท์รดาจึงรีบนำใบไปรับของจากเจ้าหน้าที่ที่ห้องนิติบุคคลประจำคอนโดมิเนียมทันที
“นี่ค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวที่อยู่เวรดึกคืนนี้บส่งถุงกระดาษใบใหญ่ให้เธอ
รวินท์รดาเปิดถุงออกดูเมื่อเข้าไปนั่งในห้องเรียบร้อยแล้ว ภายในถุงใบใหญ่ยังมีถุงกระดาษใบเล็กและขนมสำหรับแมวหลายยี่ห้อหลายรสชาติสามถุงใหญ่ ๆ
เธอเห็นกระดาษใบเล็กสอดไว้ในถุงด้วย จึงหยิบขึ้นมาอ่าน แก้มใสระเรื่อแดงกับชื่อเจ้าของลายมือ
‘บัว ขอบคุณที่ช่วยเหลือผมมาตลอดนะ
ผมจริงใจกับคุณนะ
ธรรศ’
เธอพบว่าในถุงใบน้อยคือกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม ที่มีกำไลเงินวงบาง ๆ ไม่ฉลุลายเรียบ ๆ หนึ่งวงนอนนิ่งอยู่ในนั้น รวินท์รดากำลังสับสนกับความรู้สึกตัวเองว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับธรรศกันแน่
ความรักมันจะสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ขนาดนี้เชียวหรือ เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง ก็เหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน
“เมี้ยว”
อยู่ดี ๆ ดาร์ลิ้งกระโดดขึ้นมาคลอเคลียทำให้คนคิดมากหยุดคิดทุกอย่าง ลูบขนนุ่ม ๆ ของแมวเหมียวพร้อมรอยยิ้ม พร้อมบอกให้เจ้าเหมียวได้รู้ด้วยว่า
“ดูซิ มีหนุ่มหล่อส่งของให้แกด้วยนะ ดาร์ลิ้ง ขนมตั้งเยอะแยะ” รวินท์รดารวบดาร์ลิ้งมาวางบนตัก ก่อนจะพิงพนักโซฟา นั่งอมยิ้มเพียงลำพัง
“ แกชอบเขาใช่ไหม ดาร์ลิ้ง” เธอถามเจ้าดาร์ลิง รวมถึงถามใจตัวเองไปด้วย “แล้วฉันล่ะ ฉันควรจะชอบเขาไหม”
หลายวันถัดมา วันนี้ปราชญ์ดานัดทางเลมอนพายเข้ามาฟังพรีเซนต์คอนเซปต์โฆษณาในตอนบ่ายโมง หากตอนสาย ๆ ธราดล พ่อของเขาและเป็นประธานกรรมการบริหารสยาม อาร์ ทีที ได้เรียกปราชญ์ดาเข้าไปพบเป็นการส่วนตัว
ปราชญ์ดายังไม่ได้ถามพ่อเรื่องการปล่อยข่าวลือของธรรศ เขาคิดว่าถามไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้จับตามองและเตรียมรับมือแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยดีกว่า
“ข่าวของธรรศดีขึ้นแล้วใช่ไหมปั้น” ธราดลถามเมื่อลูกชายนั่งตรงหน้า
“ครับพ่อ ช่วงนี้ธรรศก็มีงานทำทุกวัน เดี๋ยวไปถ่ายแบบ เดี๋ยวก็ออกอีเวนท์ ไม่น่าห่วงว่าจะตกงานนะครับ” ปราชญ์ดาจ้องบิดาเพื่อดูว่าบิดาจะแสดงออกอย่างไรบ้าง หากบิดาของเขากลับยิ้มแล้วหัวเราะเบา ๆ
“ก็ดีแล้วนะ พ่อก็ห่วงว่าธรรศอาจจะเครียด”
“ธรรศจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้ยางของเราครับพ่อ” ปราชญ์ดาเล่าแผนการตลาดให้บิดาฟังอีกครั้ง
“ดี ๆ นี่ลูกรู้หรือยังว่าหนูเดหลีกลับมาแล้ว”
“เดหลีหรือครับ ผมไม่ทราบเลยครับพ่อ” ปราชญ์ดาตอบความจริง เขาไม่ได้ตามข่าวหลานสาวเพื่อนคุณย่าตั้งแต่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าจะพูดตรง ๆ คือ เขาไม่สนใจเดหลีว่าไปหรือจะมาเลย
“ญาติของเดหลีทำงานอยู่บริษัทนำเข้ารถแข่ง เขาอยากร่วมทำโฆษณากับเราน่ะ โดยให้เดหลีกับธรรศถ่ายแบบร่วมกัน ลูกพอจะเอาแผนนี้รวมกับแผนการตลาดของลูกได้ไหม”
“เดหลีกับธรรศหรือครับ แล้วคุณย่ากับคุณอาธิดาจะไม่โวยวายหรือครับพ่อ” ปราชญ์ดาไม่มีปัญหากับเดหลีหรอก จะติดก็คุณย่าวัลภากับคุณอาวธิดาอาจจะล้มโปรเจ็คก็ได้
“ไม่ต้องห่วง คุณย่ายังอยากได้หนูเดหลีมาเป็นสะใภ้ ไม่มีทางโวยวายหรอก ดีเสียอีกที่จะหาทางสนิทสนมกับหนูเดหลี ส่วนคุณอาของปั้น รายนั้นเห็นผลประโยชน์ของบริษัทมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว”
“พ่อครับ นี่แปลว่าคุณย่ายังจะจับคู่เดหลีให้หนึ่งในเราสามคนหรือครับ ผมเคยปฏิเสธไปแล้ว ผมไม่ชอบเดหลีแบบนั้น” ปราชญ์ดาอยากจะบอกเพิ่มไปด้วยว่าธรรศเองก็ถึงกับหนีเดหลีไปอีกซีกโลก ถ้าหากมีการบังคับกัน คราวนี้น่าจะแย่กว่าเดิม
“พ่อได้ยินมาว่าพักนี้เดหลีกับน้องคนเล็กของลูกสนิทสนมกันดีนะ” ธราดลยิ้มกับสีหน้าประหลาดใจของลูกชายคนโต “บางทีปิงอาจจะทำให้คุณย่าสมหวังก็ได้”
ปราชญ์ดาค่อนข้างประหลาดใจมาก เพราะน้องชายคนเล็กไม่มีทีท่าจะอินเลิฟกับใคร ปราชญ์ดาสงสัยว่าพ่อเขาเข้าใจผิดเองหรือเปล่า แต่ก็ไม่ต้องเดาไปเองเมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ปราณนท์เดินเคียงคู่เดหลีเข้ามาในบริษัท
โปรดติดตามตอนต่อไป
ท่าทางนางเอกจะแพ้ทางหนุ่มรักแมว อุตส่าห์ใจแข็งนะคะ ฮ่าๆๆ
ตอบเมนท์ค่า
คุณ kaelek - อุ๊อิ๊ มิสเตอร์เกรย์กับอาตี๋น่ะหรือคะ อุ๊อิ๊ ๆ ดูกันต่อไป ฮ่าๆๆ
คุณ แว่นใส - บ้านพี่ปั้นค่า พี่ปั้นซื้อไว้เอง ^^
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ
ห้องศิลป์ชวนรวินท์รดากับกีรณาออกมากินมื้อเย็นที่ร้านส้มตำติดแอร์ในวันทำงานวันหนึ่ง ทั้งสามเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย กีรณาทำงานเป็นแฟชั่นคอลัมนิสต์ให้นิตยสารแฟชั่นหัวนอกฉบับหนึ่ง
“นี่ วันก่อนอาร์ตไปบ้านหลังนั้นมาอีกแล้วล่ะบัว คราวนี้ซวยชะมัดดันไปเจอเจ้าของบ้านเข้า” ห้องศิลป์บ่นให้เพื่อนสาวทั้งสองฟังหลังจากใช้ส้อมจิ้วเนื้อย่างเข้าปาก รวินท์รดายังจำบ้านหลังที่ห้องศิลป์เคยเล่าให้ฟังได้
“บ้านที่อาร์ตี้ไปถ่ายรูปดอกบัวสีเหลืองน่ะเหรอ”
“ใช่ หลังนั้นแหละ” คนตอบยังเพลินกับส้มตำตรงหน้า แม้จะหงุดหงิดก็กินได้สบาย ๆ
“แอบปีนเข้าบ้านเขาเลยถูกจับได้ ดีนะเขาไม่เอาตำรวจมาจับแกน่ะอาตี๋” กีรณาเงยหน้าจากจอโทรศัพท์มือถือมาบ่นเพื่อนร่วมก๊วนที่หาเรื่องเข้าตัว
“บอกที่ไหนว่าแอบปีนเข้าไป ลุงที่เฝ้าบ้านเขาอนุญาตให้อาร์ตเข้าไปต่างหากนะเกี๊ยว อีกอย่างเลิกเรียกว่าอาตี๋สักทีเถอะ” ห้องศิลป์แก้ความเข้าใจผิดของกีรณา
“ฉันก็เรียกแกว่าอาตี๋มาตั้งแต่เรียน ตั้งแต่แกอกหักจากแม่นางฟ้าของแกแล้วนะตี๋” กีรณาไม่เลิกต่อปากต่อคำกับเพื่อนชาย จนรวินท์รดาต้องมาห้ามทัพ
“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว สองคนนี่เจอหน้ากันเป็นต้องตีกันอยู่เรื่อย อาตี๋ เอ้ย อาร์ตี้ แล้วเขาทำยังไงล่ะ เจ้าของบ้านน่ะ” ครีเอทีฟโฆษณาสาวอยากฟังเพื่อนเล่าต่อ
“อ่อ เขาไม่ทำอะไรหรอก แค่ไล่ให้อาร์ตออกมาจากบ้านเขา แต่ว่านะโคตรดุเลย อย่างกับร้อตไวเลอร์” ช่างภาพหนุ่มเซอร์หน้าตี๋เล่าก่อนจะแย่งโทรศัพท์มือถือมาจากมือของกีรณา
“คนนี้เลย!” พร้อมจิ้มไปที่รูปชายหนุ่มสวมสูทหน้าตาเหมือนโกรธคนทั้งโลก กีรณาเปิดรูปของคนที่เขาพูดถึงพอดี “หน้ายักษ์นี่เลย”
“คนนี้เหรอ” รวินท์รดากับกีรณาถามแทบจะพร้อมกัน
“แกรู้จักเหรอบัว คนนี้อะ” กีรณาเป็นฝ่ายถามก่อน
“เขาเป็นลูกค้าเจ้านายฉัน แล้วแกล่ะเกี๊ยว รู้จักคุณปราชญ์ดาเขาด้วยหรือ” รวินท์รดาถามกลับบ้าง
“ไม่รู้จักหรอก แต่ฉันกำลังจะทำงานกับน้องชายเขาอะ น้องชายที่เป็นนายแบบอินเตอร์ที่ชื่อ ธรรศ เพิ่งมาเซ็นสัญญาถ่ายแบบกับหนังสือเกี๊ยว … ว่าแต่พี่ชายเขาหล่อดีนะ แกว่ามั้ยบัว” กีรณาสนใจพี่ชายมาดนัธุรกิจสุดขรึมมากกว่าน้องชายรูปหล่อขวัญใจมหาชน
“หล่อ ดูร้อนแรงเหมือนมิสเตอร์เกรย์” และไม่วายที่กีรณาจะพาดพิงถึงพระเอกนิยายรักร้อนแรงอีก
“เหรอ แต่บัวว่าน้องชายเขาหล่อกว่านะ” รวินท์รดาออกความเห็นจากใจจริง เธออยู่กับเพื่อนเลยไม่ต้องวางฟอร์มอะไร แล้วอดยิ้มมีความสุขยามเข้าสู่ภวังค์คิดถึงธรรศไม่ได้
เมื่อหลายวันก่อน ธรรศมารอต้าหลิงที่คอนโดมิเนียมของเธอ ตอนแรกรวินท์รดาก็หงุดหงิดเขาอยู่หรอก แต่พอเห็นธรรศเล่นกับดาร์ลิ้ง รวินท์รดาก็พ่ายแพ้ผู้ชายรักแมวเฉยเลย
“บัว … ยัยบัว!” เสียงของกีรณา และมือที่โบกไปมาของห้องศิลป์ดึงคนตกหลุมรักขึ้นมาจากหลุมได้
“เมื่อกี้แกชมว่าคุณธรรศหล่อหรือ สเปคแกเหรอ” กีรณาจ้องตาถาม ห้องศิลป์ก็ยื่นหน้ามารอฟังเช่นกัน กีรณายังขยี้คำถามเดิมซ้ำ “ไหนว่าไม่ชอบคนหล่อไง อย่างคุณธรรศนี่เขาเรียกว่าโคตรหล่อเลยนะแก”
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ก็บอกแค่ว่าน้องชายหล่อกว่าแค่นั้นเอง ไมได้บอกว่าชอบเลยนะ” รวินท์รดารีบแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง เธอหันไปทางห้องศิลป์ที่เอาแต่นิ่งเงียบ
“สรุปบ้านเก่าหลังนั้นเป็นของคุณปราชญ์ดาหรือ โลกกลมจังเลยนะ”
“โลกกลมแบบนี้ก็ยังโอเค แต่อย่าได้กลมแบบหมาหน้ายักษ์ หรือมิสเตอร์เกรย์ของเกี๊ยวมาเป็นลูกค้าอาร์ตละกัน จะว่าไปก็เสียดาย อาร์ตคงไม่ได้ไปบ้านนั้นแล้ว คงไม่มีโอกาสพาบัวไปดูดอกบัวดอกนั้นด้วย” ช่างภาพหนุ่มถอนหายใจเฮือก ๆ
“บัว ตกลงแกชอบแบบคุณธรรศเหรอ” กีรณายังไม่เลิกติดใจสเปคของเพื่อนซี้ แม้คนถูกถามจะหนีการตอบด้วยการกัดไก่ย่างเต็มปากก็ตาม!
ห้องศิลป์ขี่มอเตอร์ไซด์พากีรณากลับมาส่งที่บ้านของเธอ พอกีรณายื่นหมวกกันน็อคคืนให้ช่างภาพหนุ่มแล้วก็อดถามคำถามที่ติดค้างใจไม่ได้
“ตี๋ ถามจริงเถอะ แกตัดใจจากบัวแล้วหรือยัง”
“ทำไมอยู่ ๆ ถึงถาม” ห้องศิลป์ถามกลับ พลางเอาหมวกกันน็อคใส่ช่องว่างใต้เบาะรถ
“อย่าว่าฉันเลยนะ แกมองคนอื่นเถอะ ถ้าบัวชอบแกก็คงชอบตั้งนานแล้ว” กีรณาอาจจะชอบชวนห้องศิลป์ทะเลาะบ่อย ๆ แต่เธอก็เป็นเพื่อนรักห้องศิลป์มาตั้งนาน “ฉันว่ามันเสียเวลาว่ะ”
“อาร์ตยอมรับว่าอาร์ตรู้สึกดีกับบัวมาก มากจนไม่แน่ใจว่าใช่รักหรือเปล่า เพราะอาร์ตไม่แน่ใจก็เลยไม่แสดงออกหรือทำอะไรไงล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเราเจอคนที่ชอบเราก็ลุยเป็นน่ะ”
“ดีแล้ว ฉันไปก่อนนะ ขี่รถดี ๆ นะ” กีรณาค่อยสบายใจขึ้นหน่อย
“แล้วแกชอบแบบหมาหน้ายักษ์ เอ่อ ฉันหมายถึงมิสเตอร์เกรย์ของแก ชอบแบบนั้นหรือเกี๊ยว” ชายหนุ่มถามบ้าง
“แน่สิ ฉันชอบแบบนั้นแหละ แบบเอาแส้ฟาด” กีรณาตอบแล้วหัวเราะเมื่อเพื่อนชายทำตาโตใส่ หน้าตาห้องศิลป์เหวออย่างน่าตลก เธอรีบบอกก่อนอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดมากกว่าเดิม
“บ้าน่าอาร์ตี้ ฉันไม่ใช่พวกชอบความเจ็บปวดนะ ถึงจะหล่อแต่ถ้าขืนเอาแส้มาฟาดฉัน ฉันจะฟาดกลับให้ ไปล่ะ ขี่รถดี ๆ นะแก”
ก่อนคนขี้อำจะเดินเข้าบ้านของเธอไป ชายหนุ่มก็ขี่รถกลับที่พักบ้าง ระหว่างทางต้องผ่านบ้านเก่าหลังนั้น
บ้านคนหน้ายักษ์!
เขาอดไม่ได้ที่จะจอดรถแล้วมองบ้านที่ยังซ่อมแซมและเวลานี้ก็เงียบสนิท หากชายหนุ่มก็ทำได้เพียงถอนหายใจแล้วขี่รถจากไป โดยไม่เห็นว่าเขาถูกมองจากสายตาใครบางคนจากชั้นบนบ้านหลังเก่า
รวินท์รดาเองเมื่อถึงกลับถึงคอนโดมิเนียม แวะเอาจดหมายที่ห้องเมล์บ๊อกก่อนอย่างทุกวัน และในวันนี้เธอก็ได้ใบแจ้งว่ามีพัสดุมาส่ง รวินท์รดาจึงรีบนำใบไปรับของจากเจ้าหน้าที่ที่ห้องนิติบุคคลประจำคอนโดมิเนียมทันที
“นี่ค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวที่อยู่เวรดึกคืนนี้บส่งถุงกระดาษใบใหญ่ให้เธอ
รวินท์รดาเปิดถุงออกดูเมื่อเข้าไปนั่งในห้องเรียบร้อยแล้ว ภายในถุงใบใหญ่ยังมีถุงกระดาษใบเล็กและขนมสำหรับแมวหลายยี่ห้อหลายรสชาติสามถุงใหญ่ ๆ
เธอเห็นกระดาษใบเล็กสอดไว้ในถุงด้วย จึงหยิบขึ้นมาอ่าน แก้มใสระเรื่อแดงกับชื่อเจ้าของลายมือ
‘บัว ขอบคุณที่ช่วยเหลือผมมาตลอดนะ
ผมจริงใจกับคุณนะ
ธรรศ’
เธอพบว่าในถุงใบน้อยคือกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม ที่มีกำไลเงินวงบาง ๆ ไม่ฉลุลายเรียบ ๆ หนึ่งวงนอนนิ่งอยู่ในนั้น รวินท์รดากำลังสับสนกับความรู้สึกตัวเองว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับธรรศกันแน่
ความรักมันจะสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ขนาดนี้เชียวหรือ เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง ก็เหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน
“เมี้ยว”
อยู่ดี ๆ ดาร์ลิ้งกระโดดขึ้นมาคลอเคลียทำให้คนคิดมากหยุดคิดทุกอย่าง ลูบขนนุ่ม ๆ ของแมวเหมียวพร้อมรอยยิ้ม พร้อมบอกให้เจ้าเหมียวได้รู้ด้วยว่า
“ดูซิ มีหนุ่มหล่อส่งของให้แกด้วยนะ ดาร์ลิ้ง ขนมตั้งเยอะแยะ” รวินท์รดารวบดาร์ลิ้งมาวางบนตัก ก่อนจะพิงพนักโซฟา นั่งอมยิ้มเพียงลำพัง
“ แกชอบเขาใช่ไหม ดาร์ลิ้ง” เธอถามเจ้าดาร์ลิง รวมถึงถามใจตัวเองไปด้วย “แล้วฉันล่ะ ฉันควรจะชอบเขาไหม”
หลายวันถัดมา วันนี้ปราชญ์ดานัดทางเลมอนพายเข้ามาฟังพรีเซนต์คอนเซปต์โฆษณาในตอนบ่ายโมง หากตอนสาย ๆ ธราดล พ่อของเขาและเป็นประธานกรรมการบริหารสยาม อาร์ ทีที ได้เรียกปราชญ์ดาเข้าไปพบเป็นการส่วนตัว
ปราชญ์ดายังไม่ได้ถามพ่อเรื่องการปล่อยข่าวลือของธรรศ เขาคิดว่าถามไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้จับตามองและเตรียมรับมือแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยดีกว่า
“ข่าวของธรรศดีขึ้นแล้วใช่ไหมปั้น” ธราดลถามเมื่อลูกชายนั่งตรงหน้า
“ครับพ่อ ช่วงนี้ธรรศก็มีงานทำทุกวัน เดี๋ยวไปถ่ายแบบ เดี๋ยวก็ออกอีเวนท์ ไม่น่าห่วงว่าจะตกงานนะครับ” ปราชญ์ดาจ้องบิดาเพื่อดูว่าบิดาจะแสดงออกอย่างไรบ้าง หากบิดาของเขากลับยิ้มแล้วหัวเราะเบา ๆ
“ก็ดีแล้วนะ พ่อก็ห่วงว่าธรรศอาจจะเครียด”
“ธรรศจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้ยางของเราครับพ่อ” ปราชญ์ดาเล่าแผนการตลาดให้บิดาฟังอีกครั้ง
“ดี ๆ นี่ลูกรู้หรือยังว่าหนูเดหลีกลับมาแล้ว”
“เดหลีหรือครับ ผมไม่ทราบเลยครับพ่อ” ปราชญ์ดาตอบความจริง เขาไม่ได้ตามข่าวหลานสาวเพื่อนคุณย่าตั้งแต่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าจะพูดตรง ๆ คือ เขาไม่สนใจเดหลีว่าไปหรือจะมาเลย
“ญาติของเดหลีทำงานอยู่บริษัทนำเข้ารถแข่ง เขาอยากร่วมทำโฆษณากับเราน่ะ โดยให้เดหลีกับธรรศถ่ายแบบร่วมกัน ลูกพอจะเอาแผนนี้รวมกับแผนการตลาดของลูกได้ไหม”
“เดหลีกับธรรศหรือครับ แล้วคุณย่ากับคุณอาธิดาจะไม่โวยวายหรือครับพ่อ” ปราชญ์ดาไม่มีปัญหากับเดหลีหรอก จะติดก็คุณย่าวัลภากับคุณอาวธิดาอาจจะล้มโปรเจ็คก็ได้
“ไม่ต้องห่วง คุณย่ายังอยากได้หนูเดหลีมาเป็นสะใภ้ ไม่มีทางโวยวายหรอก ดีเสียอีกที่จะหาทางสนิทสนมกับหนูเดหลี ส่วนคุณอาของปั้น รายนั้นเห็นผลประโยชน์ของบริษัทมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว”
“พ่อครับ นี่แปลว่าคุณย่ายังจะจับคู่เดหลีให้หนึ่งในเราสามคนหรือครับ ผมเคยปฏิเสธไปแล้ว ผมไม่ชอบเดหลีแบบนั้น” ปราชญ์ดาอยากจะบอกเพิ่มไปด้วยว่าธรรศเองก็ถึงกับหนีเดหลีไปอีกซีกโลก ถ้าหากมีการบังคับกัน คราวนี้น่าจะแย่กว่าเดิม
“พ่อได้ยินมาว่าพักนี้เดหลีกับน้องคนเล็กของลูกสนิทสนมกันดีนะ” ธราดลยิ้มกับสีหน้าประหลาดใจของลูกชายคนโต “บางทีปิงอาจจะทำให้คุณย่าสมหวังก็ได้”
ปราชญ์ดาค่อนข้างประหลาดใจมาก เพราะน้องชายคนเล็กไม่มีทีท่าจะอินเลิฟกับใคร ปราชญ์ดาสงสัยว่าพ่อเขาเข้าใจผิดเองหรือเปล่า แต่ก็ไม่ต้องเดาไปเองเมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย ปราณนท์เดินเคียงคู่เดหลีเข้ามาในบริษัท
โปรดติดตามตอนต่อไป
ท่าทางนางเอกจะแพ้ทางหนุ่มรักแมว อุตส่าห์ใจแข็งนะคะ ฮ่าๆๆ
ตอบเมนท์ค่า
คุณ kaelek - อุ๊อิ๊ มิสเตอร์เกรย์กับอาตี๋น่ะหรือคะ อุ๊อิ๊ ๆ ดูกันต่อไป ฮ่าๆๆ
คุณ แว่นใส - บ้านพี่ปั้นค่า พี่ปั้นซื้อไว้เอง ^^
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ธ.ค. 2559, 02:44:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 2559, 02:50:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 1048
<< ตอนที่ 10 - 100% | ตอนที่ 11 - 100% >> |
kaelek 1 ธ.ค. 2559, 06:43:19 น.
แผนของนายปิงรึป่าวววว
แผนของนายปิงรึป่าวววว
Zephyr 2 ธ.ค. 2559, 21:21:55 น.
แน่เๆๆๆ ถูกคู่ไหมนะ
แน่เๆๆๆ ถูกคู่ไหมนะ
พอใจ 5 ธ.ค. 2559, 22:42:28 น.
หนูบัวอิจฉาดาร์ลิ้งรึป่าววว พี่ธรรศเทใจให้แมว
เอ๊ะ!! แบบนี้เค้าเรียกว่าจีบสาวโดยเข้าทางแมวให้ช่วยเป็นแม่สื่อนี่นา อิอิ
หนูบัวอิจฉาดาร์ลิ้งรึป่าววว พี่ธรรศเทใจให้แมว
เอ๊ะ!! แบบนี้เค้าเรียกว่าจีบสาวโดยเข้าทางแมวให้ช่วยเป็นแม่สื่อนี่นา อิอิ