แรงรักบุษบา (รอก่อนนะคะ)
การพบกันอย่างมีปริศนา
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง
"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!
แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน
นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
แต่ได้นำพา ความรัก มาสู่หัวใจทั้งสอง
"ธรรศ" นายแบบ-นักแสดงสุดหล่อ
เกิดความสนใจ "รวินท์รดา" สาวครีเอทีฟมาดห้าว
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย รวินท์รดา พยายามหนีให้ห่างจาก ธรรศ
ยิ่งเขาตามติด เธอก็ยิ่งวิ่งหนี
ถ้าหนีไปนอกโลกได้แล้วเขาไม่ตามเธอก็จะทำ!
แต่มันก็ไม่ง่ายสำหรับ รวินท์รดา เช่นกัน
เมื่อเธอยิ่งหนี กลับพบว่ายิ่งกลายเป็นวิ่งสามขา
ถ้าคนใดคนหนึ่งล้ม อีกคนก็เจ็บเหมือนกัน
นอกจากจะไขปริศนา "ลึกลับ"
ก็ไม่มีทางอื่น
และหัวใจก็ไม่อาจปฏิเสธ "ความรัก"
ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
Tags: ปิ่นนลิน ลึกลับ ปริศนา
ตอน: ตอนที่ 12 - 50%
ตอนที่ 12 - 50%
“คุณย่า!” ทุกคนในห้องอาหารต่างตกใจจนร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน แต่ไม่ใช่กับธรรศ ธรรศได้แต่มองคุณย่าตาค้าง เขาไม่ได้หูฝาดไปเองใช่ไหม
“เดี๋ยวค่ะคุณแม่ คุณแม่จะยกช่อแก้วให้ตาธรรศเนี่ยนะคะ” วธิดาทั้งตกใจปนประหลาดใจ ก็แม่เองไม่ใช่หรือที่สั่งสมความเกลียดชังธรรศให้คนในบ้าน
“ใช่แล้วธิดา พ่อกับแม่ปรึกษากันแล้วว่าจะยกช่อแก้วให้ธรรศ” ธีระ ตอบลูกสาว น้ำเสียงและท่าทีของผู้สูงวัยต่างเยือกเย็น ไม่ใช่เพ้ออย่างคนเสียสติ
“แต่ว่าคุณแม่คะ คุณแม่จำไมได้หรือคะว่าพี่วิทย์ตายเพราะใคร คุณแม่อยากให้ช่อแก้ว…”
“เหลวไหลใหญ่แล้วธิดา! เรื่องตาวิทย์ตายนั่นเป็นเพราะไฟไหม้โรงแรม ตาธรรศไปเผาโรงแรมจนพ่อเขาตายหรือไง พี่ว่าดีเสียอีกที่ตาธรรศแต่งกับช่อแก้ว จะได้อยู่ใกล้ ๆ คุณพ่อคุณแม่นะ” ธราดลเห็นด้วยกับบิดามารดา
วัลภามองเลยลูกสาวที่โกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ มองผ่านลูกสะใภ้ที่กำลังถลึงตาใส่ธรรศอย่างไม่พอใจ ไปยังเจ้าตัวที่ยังคงเงียบ มีแต่แววตาจ้องเธอตอบกลับมาเท่านั้น
“ได้ไหมธรรศ ถึงย่าจะเคยทำไม่ดีกับเราเอาไว้แต่ก็เพราะย่าเข้าใจผิดเอง ย่าแก่แล้ว ธรรศก็เห็น” วัลภาไอออกมาชุดใหญ่ แล้วโบกมือไปมาเมื่อช่อแก้วจะยื่นมือมาลูบหลังลูบแขนเธอ
ยามนี้ดวงตาผู้สูงวัยมองธรรศนิ่งสนิทเหมือนสายน้ำยามคลื่นลมสงบ ไม่มีทั้งความอ่อนโยน เอ็นดูเขา หากก็ไม่ได้หยามเหยียดเขาอย่างที่ผ่านมาด้วย ยิ่งทำให้คนถูกถามไม่เข้าใจหนักกว่าเดิม
ทำไมอยู่ ๆ คุณย่าถึงจะยกหลานคนโปรดให้เขา?
“ช่วยดูแลน้องแทนย่าได้ไหม” คุณย่าเอ่ยถามอย่างกระท่อนกระแท่นนัก
“ไม่ได้ครับคุณย่า” ธรรศตอบโดยไม่ได้หลบสายตาคนสูงวัยที่เริ่มประกายขุ่นขึ้งเพราะการถูกปฏิเสธ “ผมมีคนรักแล้ว ถ้าคุณย่าอยากให้ผมช่วยดูแลช่อแก้วในฐานะน้องสาว ผมพอจะรับปากคุณย่าได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นผมทำให้ไมได้จริง ๆ ครับ”
“จองหอง! นี่ขนาดคุณแม่ใจดีกับแกขนาดนี้ แกยังจะกล้าขัดใจคุณแม่อีกหรือ” วธิดาต่อว่าหลานชายเสียงเข้ม ทำเอาประมุขของบ้านหันไปตำหนิลูกสาวคนเล็กของท่านอย่างไม่พอใจ
“ธิดา แกยังเห็นพ่อกับแม่แกอยู่ในสายตาไหม”
“แต่คุณพ่อคะ ธิดา” วธิดาจะโต้แย้งบิดา หากธีระก็โบกมือไปมาอย่างรำคาญใจ หันไปสนใจธรรศแทน
“ธรรศ คิดดูอีกทีได้ไหม คนรักของหลานเป็นใคร จะรู้จักใจคอดีกว่าน้องที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตหรือ ปู่ไม่เคยขัดใจธรรศ อยากให้ธรรศมีความสุขมาตลอด เรื่องนี้ทำเพื่อปู่ไม่ได้หรือ ปู่ไม่อยากเสียธรรศไปอย่างเสียพ่อของเรานะ”
น้ำเสียงของคุณปู่เหมือนเชือกรัดหัวใจหลานชาย ธรรศกำมือแน่นเมื่อเขาไม่อาจจะทำตามใจปู่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ปู่เสียใจผิดหวังในตัวเขาเช่นกัน
“คุณตาคุณยายคะ อย่าบังคับพี่ธรรศเลยนะคะ ในเมื่อพี่ธรรศมีคนรักอยู่แล้ว ช่อไม่อยากทำลายความรักใครนะคะ” ช่อแก้วเอ่ยกับวัลภาด้วยเสียงสั่นเครือ นัยน์ตาแดงก่ำ
วัลภามองหลานสาวคนโปรดที มองหลานชายที่แสนจะชังที
ธรรศเป็นหลานชายที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นตัวซวย เป็นตัวต้นเหตุพรากลูกชายที่เธอรักที่สุดไป แต่ใช่เธอจะมีแต่ความเกลียด วัลภาทั้งรักทั้งเกลียดหลานชายลูกเสี้ยวปนเปกัน ธรรศเป็นเด็กหน้าตาน่ารักตั้งแต่เกิด มีความผสมระหว่างเชื้อตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว แค่ธรรศยิ้มให้ คนมองต่างก็หลงรักหลงเอ็นดูหลานคนนี้กันทั้งนั้น วัลภาจำได้ว่าบ่อยครั้งที่ธรรศอยากจะมาอ้อนเธอ ดวงตาใส ๆ ของเด็กชายธรรศมีแต่ความบริสุทธิ์ แต่ทุกครั้งวัลภาก็เลือกจะผลักไสธรรศไปให้ห่าง เพราะเห็นหน้าหลานคนนี้ทีไรก็นึกถึงลูกชายที่เสียไปแล้วทุกที
ที่ผ่านมา วัลภาทำเป็นไม่สนใจธรรศว่าจะไปหรือจะมา ในใจก็มีคิดถึงลูกชายหลานชายบ้างบางครั้ง
ทว่าวันนี้เธอกลับอยากยกช่อแก้วให้ธรรศ วัลภาเห็นว่าธรรศเป็นคนเข้มแข็งกับอุปสรรค แต่ก็อ่อนโยนกับคนรอบข้างเสมอมา ผิดกับปราชญ์ดาที่แข็งกระด้าง ไม่ค่อยมีมุมอ่อนโยนเท่าไหร่ น่ากลัวจะทำให้ช่อแก้วร้องไห้ทุกวันมากกว่า ส่วนหลานชายคนเล็กก็อยากจะให้ลงเอยกับเดหลี หลานของเพื่อนสนิทอีกคนของเธอ
อีกทั้งวัลภาไม่อยากยกช่อแก้วให้คนนอกครอบครัว ไม่อยากให้ออกไปจากบ้านหลังนี้
“ถ้าเลือกคนอื่นนอกจากช่อแก้ว ก็อย่ามาเรียกฉันว่าย่า” วัลภายื่นคำขาด แม้ธรรศจะมองเธอด้วยแววตาเจ็บปวด เธอก็ยังเอ่ยต่อ น้ำเสียงของเธออ่อนลงกว่าเดิม “แต่ถ้าเชื่อฟังย่า ย่าจะยกทุกอย่างที่ย่ามีให้ธรรศ”
“ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยมีอะไรอยู่แล้ว” ธรรศตอบคุณย่าแทบจะทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากความโดดเดี่ยวอย่างที่คนคนหนึ่งจะรู้สึกได้ ธรรศหลุบตาลงเพราะทนสายตากร้าวของคุณย่าไม่ไหว “ถ้าคุณย่ายังจะพรากสิ่งสุดท้ายที่ผมเหลืออยู่ไปให้ได้ ผมก็จนใจครับ ผมรับปากคุณปู่คุณย่าไม่ได้จริง ๆ ผมเชื่อว่าจะต้องมีผู้ชายที่ดีกว่าผม ที่รักช่อแก้วจริง ๆ จากใจ โดยไม่ต้องมาบังคับให้แต่งกับคนที่ไม่ได้รักอย่างผม”
“ออกไปให้พ้น!” วัลภาพประกาศกร้าว “ถ้าแกเลือกแล้วแกก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าย่า!”
ธรรศลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร ท่ามกลางสายตาคนในครอบครัว บ้างที่มองเขาอย่างโกรธเคือง บ้างก็มองเขาด้วยสายตาเวทนาสงสาร ก่อนจะรีบร้อนออกจากที่นั่น
“ธรรศ!” ปราชญ์ดาหันมองน้องชายที่เดินออกจากโต๊ะอาหารไปอย่างรวดเร็ว ก่อนตวัดสายตากลับมามองย่าของตน คุณย่าเอาแต่นั่งนิ่งขณะที่ช่อแก้วเริ่มร้องไห้ “ต้องบีบน้องขนาดนี้เลยหรือครับคุณย่า” ปราชญ์ดาถามออกไปตรง ๆ
“วัลภา เธอก็แรงไปนะ” คุณปู่ไม่เห็นด้วยกับคุณย่าเลย
“ฉันมีเหตุผลค่ะคุณพี่ แต่คงไม่จำเป็นต้องบอกใครล่ะมั้งในเมื่อธรรศเลือกจะตัดขาดแล้ว” วัลภายกน้ำขึ้นดื่มอย่างใจเย็น “แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวธรรศจะต้องกลับมาแต่งงานกับหนูช่ออย่างแน่นอน คราวนี้คุณพี่ก็จะได้อยู่ใกล้ ๆ หลานชายคนโปรดนะคะ”
“นี่คุณปู่เห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือครับ” ปราชญ์ดาแปลกใจมากกว่าเดิม
“แน่นอนสิปั้น ถ้าไม่ผ่านความเห็นชอบของคุณปู่ ย่าคงไม่เรียกธรรศมาคุยหรอก … หนูช่อพายายกลับบ้านทีนะ”
“เดี๋ยวสิครับ” ปราชญ์ดาลุกจากโต๊ะ ในเมื่อคุณย่าไม่สนใจจะตอบคำถาม คุณปู่ก็ลุกตามคุณย่าไปอีกคน ส่วนพ่อแม่เขาน่าจะยังช็อคกับเรื่องเมื่อครู่จึงไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย
เมื่อปราชญ์ดากับปราณนท์เดินออกมาที่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ ก็พบว่ารถกอล์ฟหายไปจากที่จอดไว้ริมบันไดหน้าประตู พร้อมได้ยินเด็กรับใช้ในบ้านบอกว่าธรรศขับรถกอล์ฟมุ่งไปยังด้านหลังเรือนใหญ่ ทั้งสองเข้าใจว่าธรรศคงกลับไปที่บ้านในสวนแล้ว
“ไม่อยากจะเชื่อ คุณย่ายกช่อให้พี่ธรรศ” ปราณนท์รู้สึกประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาคุณย่าเกลียดธรรศมาก ไม่น่าจะยกหลานสาวสุดที่รักให้อย่างนี้ ปราณนท์ไม่รู้ว่าจะดีใจที่ย่าเริ่มยอมรับพี่ชายหรือเศร้าใจเพราะพี่ชายโดนคุณย่าบังคับดี
“คุณย่าคิดอะไรอยู่กันแน่ แล้วทำยังไงให้คุณปู่ยอมทำตาม คุณปู่ไม่เคยบังคับธรรศสักครั้งเลยนะ” ปราชญ์ดาคิดจนเริ่มปวดหัวก็ยังไม่ได้คำตอบที่เข้าเค้าสักอย่าง
“ตามไปหาพี่ธรรศดีไหมพี่ปั้น ผมเป็นห่วง คราวก่อนพี่ธรรศก็หนีไปถึงฝรั่งเศส ไปตั้งสามปี คราวนี้จะหนีไปไหนอีกหรือเปล่า พรุ่งนี้มีถ่ายแบบกับเดหลีด้วยนะครับ” ปราณนท์จำได้ว่าเขารู้เรื่องอีกทีธรรศก็บินหนีไปอีกฟากของโลกแล้ว มีแต่ปราชญ์ดาที่รู้เรื่องก่อนใคร
“พี่ว่าคราวนี้ธรรศไม่หนีเราไปไหนหรอกปิง คุณบัวอยู่ที่นี่นะ” ปราชญ์ดาตอบ
“อ้อ นั่นสิครับ พี่ธรรศมีคนรักแล้วนี่” คนฟังพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยลืมนึกไปเลยว่าตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อสามปีก่อน
“เรื่องงาน ปกติธรรศเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นมืออาชีพพอที่จะไม่ทิ้งงานไปเพราะเรื่องส่วนตัว พี่เชื่อในตัวน้องชายพี่นะ”
“พี่ปั้นจะไปไหนครับ” ปราณนท์ถามทันทีที่เห็นพี่ชายคนโตเดินไปอีกด้าน
“ไปหาคุณปู่ พี่อยากรู้เหตุผลที่แท้จริง แล้วก็อยากช่วยธรรศด้วย” คนพี่ตอบโดยไม่หันหลังมามองน้องชาย ปราณนท์ได้ยินก็รีบก้าวเท้ายาว ๆ ตามหลังพี่ชายไปทันที
หากคุณปู่ก็เข้าห้องพระ สวดมนต์ไปแล้ว ส่วนคุณย่าเพิ่งรับประทานยา พักผ่อนแล้วเช่นกัน ปราชญ์ดายืนมองหน้าช่อแก้วที่ยังไม่หยุดร้องไห้
“ช่อไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ช่อก็เพิ่งรู้ตรงโต๊ะอาหารเหมือนกัน” เธอตอบเสียงสั่นเครือ
“เธอไม่ได้ไปขอคุณย่าเองใช่ไหม ก็เธอชอบพี่ธรรศมากเลยนี่” ปราณนท์ถามน้ำเสียงเหมือนไม่เชื่ออีกฝ่าย
“ถ้าช่อขอคุณยายได้ ช่อคงขอไปนานแล้วค่ะพี่ปิง คงไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องแอบรักพี่ธรรศอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้หรอกค่ะ” ช่อแก้วสะบัดหน้าหนีสายตาดูแคลนจากปราณนท์ไปมองปราชญ์ดาแทน
“พี่ปั้น พี่ธรรศเขาจะไม่หนีไปอีกใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างหวาดหวั่นใจนัก
“ธรรศเขามีคุณบัวอยู่ เขารักของเขามาก เขาไม่มีทางทิ้งคุณบัวไปไหนไกลหรอกช่อ”
ช่อแก้วสะอึก เธอไม่แน่ใจว่าปราชญ์ดาตั้งใจพูดให้เธอเจ็บปวดหรือเปล่า ชายหนุ่มย้ำเตือนความจริงว่าธรรศไม่ได้รักเธอ แม้จะโดนบังคับแต่เขาก็ไม่เลือกเธอ เพราะน้ำเสียงคนพูดนิ่งเย็นไม่กระแทกกระทั้นอย่างไร มีเพียงแววตาที่มองเธออย่างยากจะคาดเดา มองไม่ออกว่าปราชญ์ดากำลังคิดอะไรอยู่
“นั่นสินะคะ” ช่อแก้วตอบพลางหลุบตาลงมองพื้น
ปราชญ์ดาไม่พูดอะไรต่อ เดินหันหลังกลับออกจากบ้านคุณปู่คุณย่าไปเงียบ ๆ เหลือเพียงปราณนท์ที่ยังไม่ลดราสายตาเกลียดชังใส่เธอ
“ถ้าไม่ใช่แผนการของเธอก็แล้วไป แต่ถ้าเธอรู้เห็นด้วย พี่คงเสียใจมาก”
“พี่ปิงเอาเวลาไปสนใจคุณเดหลีดีกว่าค่ะ” ช่อแก้วประชดกลับ เธอไม่ได้ชอบปราณนท์แบบคนรัก แต่ก็อดรู้สึกเหมือนเสียความสำคัญไปไม่ได้ เพราะเวลานี้ปราณนท์มีคนสำคัญในใจที่ไม่ใช่เธออีกแล้ว
และปราณนท์ก็ไม่มาวนเวียนกับเธออีก
“แน่นอน พี่ย่อมสนใจคนที่ทำให้พี่มีความสุขมากกว่าอยู่แล้วล่ะ” ปราณนท์ยิ้มหยัน
“ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนใจได้ง่ายขนาดนี้ ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคนหรือคะ มีแต่ผู้หญิงหรือคะที่มั่นคงในความรัก” ช่อแก้วถามเพราะอยากรู้จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าว่าปราณนท์ใจง่ายหรืออย่างไร เธอเพียรพยายามตัดใจจากธรรศมาหลายปียังทำไม่ได้เลย
ปราณนท์หันมองไปสวนมืด ๆ นอกหน้าต่างริมทางเดินแทนใบหน้าหวานของช่อแก้ว เขาไม่ได้โกรธเมื่อถูกตั้งคำถามเช่นนี้
“พี่ไม่ได้รักช่อน้อยลงหรอกนะ พี่แค่ยอมรับความจริงว่าช่อไม่ได้รักพี่” ปราณนท์ต้องเบือนหน้าหนีก็เพราะไม่อยากถูกมองออกว่าเขายังรู้สึกอะไร ๆ กับคนถาม แต่พอคิดถึงรอยยิ้มของหญิงสาวอีกคน ความพยายามที่เดหลีจะสร้างเสียงหัวเราะให้เขา ปราณนท์ก็อมยิ้ม
“แม้ตอนนี้พี่จะยังพูดเต็มปากไม่ได้ว่ารักเดหลี แต่เดหลีก็ทำให้พี่สบายใจ พี่ต้องการมีชีวิตที่มีความสุข และเดหลีก็ทำให้ชีวิตพี่มีความสุขมากกว่าเวลาที่พี่ตามรักคนที่ไม่เคยรักพี่เลย”
ช่อแก้วยืนนิ่งอยู่นาน แม้ปราณนท์จะเดินออกจากบ้านไปแล้วเธอก็ยังยืนกำมือแน่นอยู่อย่างนั้น หากว่าช่อแก้วก็ยังเชื่อ ยังมีความหวัง เธอไม่เหมือนปราณนท์หรอกที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ในเมื่อตอนนี้คุณปู่คุณย่าของธรรศก็อยู่ข้างเธอแล้ว
จบตอน 12 - 50%
นำมาลงต่อเลยค่ะ ไม่รู้จะว่างเมื่อไหร่อีก ฮ่าๆ
คุณ kaelek - คุณย่าก็พยายามจะหาทางให้ธรรศกลับมาหาท่าน แต่ดูเหมือนจะแย่กว่าเดิมนะคะ ><
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ
“คุณย่า!” ทุกคนในห้องอาหารต่างตกใจจนร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน แต่ไม่ใช่กับธรรศ ธรรศได้แต่มองคุณย่าตาค้าง เขาไม่ได้หูฝาดไปเองใช่ไหม
“เดี๋ยวค่ะคุณแม่ คุณแม่จะยกช่อแก้วให้ตาธรรศเนี่ยนะคะ” วธิดาทั้งตกใจปนประหลาดใจ ก็แม่เองไม่ใช่หรือที่สั่งสมความเกลียดชังธรรศให้คนในบ้าน
“ใช่แล้วธิดา พ่อกับแม่ปรึกษากันแล้วว่าจะยกช่อแก้วให้ธรรศ” ธีระ ตอบลูกสาว น้ำเสียงและท่าทีของผู้สูงวัยต่างเยือกเย็น ไม่ใช่เพ้ออย่างคนเสียสติ
“แต่ว่าคุณแม่คะ คุณแม่จำไมได้หรือคะว่าพี่วิทย์ตายเพราะใคร คุณแม่อยากให้ช่อแก้ว…”
“เหลวไหลใหญ่แล้วธิดา! เรื่องตาวิทย์ตายนั่นเป็นเพราะไฟไหม้โรงแรม ตาธรรศไปเผาโรงแรมจนพ่อเขาตายหรือไง พี่ว่าดีเสียอีกที่ตาธรรศแต่งกับช่อแก้ว จะได้อยู่ใกล้ ๆ คุณพ่อคุณแม่นะ” ธราดลเห็นด้วยกับบิดามารดา
วัลภามองเลยลูกสาวที่โกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ มองผ่านลูกสะใภ้ที่กำลังถลึงตาใส่ธรรศอย่างไม่พอใจ ไปยังเจ้าตัวที่ยังคงเงียบ มีแต่แววตาจ้องเธอตอบกลับมาเท่านั้น
“ได้ไหมธรรศ ถึงย่าจะเคยทำไม่ดีกับเราเอาไว้แต่ก็เพราะย่าเข้าใจผิดเอง ย่าแก่แล้ว ธรรศก็เห็น” วัลภาไอออกมาชุดใหญ่ แล้วโบกมือไปมาเมื่อช่อแก้วจะยื่นมือมาลูบหลังลูบแขนเธอ
ยามนี้ดวงตาผู้สูงวัยมองธรรศนิ่งสนิทเหมือนสายน้ำยามคลื่นลมสงบ ไม่มีทั้งความอ่อนโยน เอ็นดูเขา หากก็ไม่ได้หยามเหยียดเขาอย่างที่ผ่านมาด้วย ยิ่งทำให้คนถูกถามไม่เข้าใจหนักกว่าเดิม
ทำไมอยู่ ๆ คุณย่าถึงจะยกหลานคนโปรดให้เขา?
“ช่วยดูแลน้องแทนย่าได้ไหม” คุณย่าเอ่ยถามอย่างกระท่อนกระแท่นนัก
“ไม่ได้ครับคุณย่า” ธรรศตอบโดยไม่ได้หลบสายตาคนสูงวัยที่เริ่มประกายขุ่นขึ้งเพราะการถูกปฏิเสธ “ผมมีคนรักแล้ว ถ้าคุณย่าอยากให้ผมช่วยดูแลช่อแก้วในฐานะน้องสาว ผมพอจะรับปากคุณย่าได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นผมทำให้ไมได้จริง ๆ ครับ”
“จองหอง! นี่ขนาดคุณแม่ใจดีกับแกขนาดนี้ แกยังจะกล้าขัดใจคุณแม่อีกหรือ” วธิดาต่อว่าหลานชายเสียงเข้ม ทำเอาประมุขของบ้านหันไปตำหนิลูกสาวคนเล็กของท่านอย่างไม่พอใจ
“ธิดา แกยังเห็นพ่อกับแม่แกอยู่ในสายตาไหม”
“แต่คุณพ่อคะ ธิดา” วธิดาจะโต้แย้งบิดา หากธีระก็โบกมือไปมาอย่างรำคาญใจ หันไปสนใจธรรศแทน
“ธรรศ คิดดูอีกทีได้ไหม คนรักของหลานเป็นใคร จะรู้จักใจคอดีกว่าน้องที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตหรือ ปู่ไม่เคยขัดใจธรรศ อยากให้ธรรศมีความสุขมาตลอด เรื่องนี้ทำเพื่อปู่ไม่ได้หรือ ปู่ไม่อยากเสียธรรศไปอย่างเสียพ่อของเรานะ”
น้ำเสียงของคุณปู่เหมือนเชือกรัดหัวใจหลานชาย ธรรศกำมือแน่นเมื่อเขาไม่อาจจะทำตามใจปู่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ปู่เสียใจผิดหวังในตัวเขาเช่นกัน
“คุณตาคุณยายคะ อย่าบังคับพี่ธรรศเลยนะคะ ในเมื่อพี่ธรรศมีคนรักอยู่แล้ว ช่อไม่อยากทำลายความรักใครนะคะ” ช่อแก้วเอ่ยกับวัลภาด้วยเสียงสั่นเครือ นัยน์ตาแดงก่ำ
วัลภามองหลานสาวคนโปรดที มองหลานชายที่แสนจะชังที
ธรรศเป็นหลานชายที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นตัวซวย เป็นตัวต้นเหตุพรากลูกชายที่เธอรักที่สุดไป แต่ใช่เธอจะมีแต่ความเกลียด วัลภาทั้งรักทั้งเกลียดหลานชายลูกเสี้ยวปนเปกัน ธรรศเป็นเด็กหน้าตาน่ารักตั้งแต่เกิด มีความผสมระหว่างเชื้อตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว แค่ธรรศยิ้มให้ คนมองต่างก็หลงรักหลงเอ็นดูหลานคนนี้กันทั้งนั้น วัลภาจำได้ว่าบ่อยครั้งที่ธรรศอยากจะมาอ้อนเธอ ดวงตาใส ๆ ของเด็กชายธรรศมีแต่ความบริสุทธิ์ แต่ทุกครั้งวัลภาก็เลือกจะผลักไสธรรศไปให้ห่าง เพราะเห็นหน้าหลานคนนี้ทีไรก็นึกถึงลูกชายที่เสียไปแล้วทุกที
ที่ผ่านมา วัลภาทำเป็นไม่สนใจธรรศว่าจะไปหรือจะมา ในใจก็มีคิดถึงลูกชายหลานชายบ้างบางครั้ง
ทว่าวันนี้เธอกลับอยากยกช่อแก้วให้ธรรศ วัลภาเห็นว่าธรรศเป็นคนเข้มแข็งกับอุปสรรค แต่ก็อ่อนโยนกับคนรอบข้างเสมอมา ผิดกับปราชญ์ดาที่แข็งกระด้าง ไม่ค่อยมีมุมอ่อนโยนเท่าไหร่ น่ากลัวจะทำให้ช่อแก้วร้องไห้ทุกวันมากกว่า ส่วนหลานชายคนเล็กก็อยากจะให้ลงเอยกับเดหลี หลานของเพื่อนสนิทอีกคนของเธอ
อีกทั้งวัลภาไม่อยากยกช่อแก้วให้คนนอกครอบครัว ไม่อยากให้ออกไปจากบ้านหลังนี้
“ถ้าเลือกคนอื่นนอกจากช่อแก้ว ก็อย่ามาเรียกฉันว่าย่า” วัลภายื่นคำขาด แม้ธรรศจะมองเธอด้วยแววตาเจ็บปวด เธอก็ยังเอ่ยต่อ น้ำเสียงของเธออ่อนลงกว่าเดิม “แต่ถ้าเชื่อฟังย่า ย่าจะยกทุกอย่างที่ย่ามีให้ธรรศ”
“ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยมีอะไรอยู่แล้ว” ธรรศตอบคุณย่าแทบจะทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากความโดดเดี่ยวอย่างที่คนคนหนึ่งจะรู้สึกได้ ธรรศหลุบตาลงเพราะทนสายตากร้าวของคุณย่าไม่ไหว “ถ้าคุณย่ายังจะพรากสิ่งสุดท้ายที่ผมเหลืออยู่ไปให้ได้ ผมก็จนใจครับ ผมรับปากคุณปู่คุณย่าไม่ได้จริง ๆ ผมเชื่อว่าจะต้องมีผู้ชายที่ดีกว่าผม ที่รักช่อแก้วจริง ๆ จากใจ โดยไม่ต้องมาบังคับให้แต่งกับคนที่ไม่ได้รักอย่างผม”
“ออกไปให้พ้น!” วัลภาพประกาศกร้าว “ถ้าแกเลือกแล้วแกก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าย่า!”
ธรรศลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร ท่ามกลางสายตาคนในครอบครัว บ้างที่มองเขาอย่างโกรธเคือง บ้างก็มองเขาด้วยสายตาเวทนาสงสาร ก่อนจะรีบร้อนออกจากที่นั่น
“ธรรศ!” ปราชญ์ดาหันมองน้องชายที่เดินออกจากโต๊ะอาหารไปอย่างรวดเร็ว ก่อนตวัดสายตากลับมามองย่าของตน คุณย่าเอาแต่นั่งนิ่งขณะที่ช่อแก้วเริ่มร้องไห้ “ต้องบีบน้องขนาดนี้เลยหรือครับคุณย่า” ปราชญ์ดาถามออกไปตรง ๆ
“วัลภา เธอก็แรงไปนะ” คุณปู่ไม่เห็นด้วยกับคุณย่าเลย
“ฉันมีเหตุผลค่ะคุณพี่ แต่คงไม่จำเป็นต้องบอกใครล่ะมั้งในเมื่อธรรศเลือกจะตัดขาดแล้ว” วัลภายกน้ำขึ้นดื่มอย่างใจเย็น “แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวธรรศจะต้องกลับมาแต่งงานกับหนูช่ออย่างแน่นอน คราวนี้คุณพี่ก็จะได้อยู่ใกล้ ๆ หลานชายคนโปรดนะคะ”
“นี่คุณปู่เห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือครับ” ปราชญ์ดาแปลกใจมากกว่าเดิม
“แน่นอนสิปั้น ถ้าไม่ผ่านความเห็นชอบของคุณปู่ ย่าคงไม่เรียกธรรศมาคุยหรอก … หนูช่อพายายกลับบ้านทีนะ”
“เดี๋ยวสิครับ” ปราชญ์ดาลุกจากโต๊ะ ในเมื่อคุณย่าไม่สนใจจะตอบคำถาม คุณปู่ก็ลุกตามคุณย่าไปอีกคน ส่วนพ่อแม่เขาน่าจะยังช็อคกับเรื่องเมื่อครู่จึงไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย
เมื่อปราชญ์ดากับปราณนท์เดินออกมาที่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ ก็พบว่ารถกอล์ฟหายไปจากที่จอดไว้ริมบันไดหน้าประตู พร้อมได้ยินเด็กรับใช้ในบ้านบอกว่าธรรศขับรถกอล์ฟมุ่งไปยังด้านหลังเรือนใหญ่ ทั้งสองเข้าใจว่าธรรศคงกลับไปที่บ้านในสวนแล้ว
“ไม่อยากจะเชื่อ คุณย่ายกช่อให้พี่ธรรศ” ปราณนท์รู้สึกประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาคุณย่าเกลียดธรรศมาก ไม่น่าจะยกหลานสาวสุดที่รักให้อย่างนี้ ปราณนท์ไม่รู้ว่าจะดีใจที่ย่าเริ่มยอมรับพี่ชายหรือเศร้าใจเพราะพี่ชายโดนคุณย่าบังคับดี
“คุณย่าคิดอะไรอยู่กันแน่ แล้วทำยังไงให้คุณปู่ยอมทำตาม คุณปู่ไม่เคยบังคับธรรศสักครั้งเลยนะ” ปราชญ์ดาคิดจนเริ่มปวดหัวก็ยังไม่ได้คำตอบที่เข้าเค้าสักอย่าง
“ตามไปหาพี่ธรรศดีไหมพี่ปั้น ผมเป็นห่วง คราวก่อนพี่ธรรศก็หนีไปถึงฝรั่งเศส ไปตั้งสามปี คราวนี้จะหนีไปไหนอีกหรือเปล่า พรุ่งนี้มีถ่ายแบบกับเดหลีด้วยนะครับ” ปราณนท์จำได้ว่าเขารู้เรื่องอีกทีธรรศก็บินหนีไปอีกฟากของโลกแล้ว มีแต่ปราชญ์ดาที่รู้เรื่องก่อนใคร
“พี่ว่าคราวนี้ธรรศไม่หนีเราไปไหนหรอกปิง คุณบัวอยู่ที่นี่นะ” ปราชญ์ดาตอบ
“อ้อ นั่นสิครับ พี่ธรรศมีคนรักแล้วนี่” คนฟังพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยลืมนึกไปเลยว่าตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อสามปีก่อน
“เรื่องงาน ปกติธรรศเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นมืออาชีพพอที่จะไม่ทิ้งงานไปเพราะเรื่องส่วนตัว พี่เชื่อในตัวน้องชายพี่นะ”
“พี่ปั้นจะไปไหนครับ” ปราณนท์ถามทันทีที่เห็นพี่ชายคนโตเดินไปอีกด้าน
“ไปหาคุณปู่ พี่อยากรู้เหตุผลที่แท้จริง แล้วก็อยากช่วยธรรศด้วย” คนพี่ตอบโดยไม่หันหลังมามองน้องชาย ปราณนท์ได้ยินก็รีบก้าวเท้ายาว ๆ ตามหลังพี่ชายไปทันที
หากคุณปู่ก็เข้าห้องพระ สวดมนต์ไปแล้ว ส่วนคุณย่าเพิ่งรับประทานยา พักผ่อนแล้วเช่นกัน ปราชญ์ดายืนมองหน้าช่อแก้วที่ยังไม่หยุดร้องไห้
“ช่อไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ช่อก็เพิ่งรู้ตรงโต๊ะอาหารเหมือนกัน” เธอตอบเสียงสั่นเครือ
“เธอไม่ได้ไปขอคุณย่าเองใช่ไหม ก็เธอชอบพี่ธรรศมากเลยนี่” ปราณนท์ถามน้ำเสียงเหมือนไม่เชื่ออีกฝ่าย
“ถ้าช่อขอคุณยายได้ ช่อคงขอไปนานแล้วค่ะพี่ปิง คงไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องแอบรักพี่ธรรศอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้หรอกค่ะ” ช่อแก้วสะบัดหน้าหนีสายตาดูแคลนจากปราณนท์ไปมองปราชญ์ดาแทน
“พี่ปั้น พี่ธรรศเขาจะไม่หนีไปอีกใช่ไหมคะ” เธอถามอย่างหวาดหวั่นใจนัก
“ธรรศเขามีคุณบัวอยู่ เขารักของเขามาก เขาไม่มีทางทิ้งคุณบัวไปไหนไกลหรอกช่อ”
ช่อแก้วสะอึก เธอไม่แน่ใจว่าปราชญ์ดาตั้งใจพูดให้เธอเจ็บปวดหรือเปล่า ชายหนุ่มย้ำเตือนความจริงว่าธรรศไม่ได้รักเธอ แม้จะโดนบังคับแต่เขาก็ไม่เลือกเธอ เพราะน้ำเสียงคนพูดนิ่งเย็นไม่กระแทกกระทั้นอย่างไร มีเพียงแววตาที่มองเธออย่างยากจะคาดเดา มองไม่ออกว่าปราชญ์ดากำลังคิดอะไรอยู่
“นั่นสินะคะ” ช่อแก้วตอบพลางหลุบตาลงมองพื้น
ปราชญ์ดาไม่พูดอะไรต่อ เดินหันหลังกลับออกจากบ้านคุณปู่คุณย่าไปเงียบ ๆ เหลือเพียงปราณนท์ที่ยังไม่ลดราสายตาเกลียดชังใส่เธอ
“ถ้าไม่ใช่แผนการของเธอก็แล้วไป แต่ถ้าเธอรู้เห็นด้วย พี่คงเสียใจมาก”
“พี่ปิงเอาเวลาไปสนใจคุณเดหลีดีกว่าค่ะ” ช่อแก้วประชดกลับ เธอไม่ได้ชอบปราณนท์แบบคนรัก แต่ก็อดรู้สึกเหมือนเสียความสำคัญไปไม่ได้ เพราะเวลานี้ปราณนท์มีคนสำคัญในใจที่ไม่ใช่เธออีกแล้ว
และปราณนท์ก็ไม่มาวนเวียนกับเธออีก
“แน่นอน พี่ย่อมสนใจคนที่ทำให้พี่มีความสุขมากกว่าอยู่แล้วล่ะ” ปราณนท์ยิ้มหยัน
“ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนใจได้ง่ายขนาดนี้ ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคนหรือคะ มีแต่ผู้หญิงหรือคะที่มั่นคงในความรัก” ช่อแก้วถามเพราะอยากรู้จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะต่อว่าว่าปราณนท์ใจง่ายหรืออย่างไร เธอเพียรพยายามตัดใจจากธรรศมาหลายปียังทำไม่ได้เลย
ปราณนท์หันมองไปสวนมืด ๆ นอกหน้าต่างริมทางเดินแทนใบหน้าหวานของช่อแก้ว เขาไม่ได้โกรธเมื่อถูกตั้งคำถามเช่นนี้
“พี่ไม่ได้รักช่อน้อยลงหรอกนะ พี่แค่ยอมรับความจริงว่าช่อไม่ได้รักพี่” ปราณนท์ต้องเบือนหน้าหนีก็เพราะไม่อยากถูกมองออกว่าเขายังรู้สึกอะไร ๆ กับคนถาม แต่พอคิดถึงรอยยิ้มของหญิงสาวอีกคน ความพยายามที่เดหลีจะสร้างเสียงหัวเราะให้เขา ปราณนท์ก็อมยิ้ม
“แม้ตอนนี้พี่จะยังพูดเต็มปากไม่ได้ว่ารักเดหลี แต่เดหลีก็ทำให้พี่สบายใจ พี่ต้องการมีชีวิตที่มีความสุข และเดหลีก็ทำให้ชีวิตพี่มีความสุขมากกว่าเวลาที่พี่ตามรักคนที่ไม่เคยรักพี่เลย”
ช่อแก้วยืนนิ่งอยู่นาน แม้ปราณนท์จะเดินออกจากบ้านไปแล้วเธอก็ยังยืนกำมือแน่นอยู่อย่างนั้น หากว่าช่อแก้วก็ยังเชื่อ ยังมีความหวัง เธอไม่เหมือนปราณนท์หรอกที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ในเมื่อตอนนี้คุณปู่คุณย่าของธรรศก็อยู่ข้างเธอแล้ว
จบตอน 12 - 50%
นำมาลงต่อเลยค่ะ ไม่รู้จะว่างเมื่อไหร่อีก ฮ่าๆ
คุณ kaelek - คุณย่าก็พยายามจะหาทางให้ธรรศกลับมาหาท่าน แต่ดูเหมือนจะแย่กว่าเดิมนะคะ ><
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2559, 14:24:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ธ.ค. 2559, 14:32:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 1059
<< ตอนที่ 11 - 100% | ตอนที่ 12 - 100% >> |
kaelek 11 ธ.ค. 2559, 15:57:50 น.
ที่ร้องไห้น่ะ เสียใจจริงๆรึช่อแก้ว ทำไมไม่ดูนายปิงเป็นตัวอย่าง แบบนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าแพ้ แต่เค้าเรียกยอมรับความจริง
ที่ร้องไห้น่ะ เสียใจจริงๆรึช่อแก้ว ทำไมไม่ดูนายปิงเป็นตัวอย่าง แบบนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าแพ้ แต่เค้าเรียกยอมรับความจริง
พอใจ 12 ธ.ค. 2559, 00:39:06 น.
อยากให้ธรรศฉุดหนูบัวไปฝรั่งเศสซะ ทั้งผีทั้งคนจะได้ไม่ต้องเป็นมารผจญมากนัก อิอิ
อยากให้ธรรศฉุดหนูบัวไปฝรั่งเศสซะ ทั้งผีทั้งคนจะได้ไม่ต้องเป็นมารผจญมากนัก อิอิ
แว่นใส 12 ธ.ค. 2559, 23:48:56 น.
จะทำได้ไหม
จะทำได้ไหม