อลวน ถนน หัวใจ (จบแล้ว)

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 17.อลวน ถนน หัวใจ

17.


เมื่อวางโทรศัพท์สายของพี่รติลง อินทรารีบปิดสัญญาณโทรศัพท์ทันที เพราะแม่คงจะเฝ้าโทรจนกว่าเธอจะรับเป็นแน่ อินทราค่อย ๆ พลิกหนังสือพิมพ์หน้าข่าวบันเทิงดูเนื้อด้านใน ใจของเธอเต้นแรง วันก่อนเธอเคยนั่งเขียนข่าว ดีใจที่เขียนให้มันสะใจเสียได้ แต่วันนี้เธอเป็นข่าวเสียเอง เวรกรรมแท้ ๆ มือของอินทราที่จับหนังสือพิมพ์สั่นพอ ๆ กับหัวใจ หูสองข้างได้ยินเสียงแว่วคล้ายใครกำลังเยาะเย้ยถากถาง อินทราเงยหน้าขึ้นมองไปยังผู้ชายที่พาให้เกิดเรื่อง เขาผิดหรือเธอผิด เขาไม่ผิด เธอเองต่างหากที่กระโดดกอดเขา หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง

เมื่อตั้งสติได้แล้ว อินทราลุกขึ้น สายตาจับอยู่ที่ทางเดินกลับห้องพัก สายตาของใครก็ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเองของตนสั่นคลอนไม่ได้ แม้จะคิดอย่างนั้นแต่อินทรารู้สึกว่าทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ห้องพักนั้นช่างยาวไกลเหลือเกิน

เมื่อเข้าห้องแล้ว ความจริงก็คือความจริง อินทราเปิดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับหลายสิบสายเป็นเบอร์ของแม่ทั้งนั้นเลย เธอตัดสินใจต่อสายกลับไป

“แม่”

“นังอินหมายความว่าอย่างไร บอกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้คนนั้นมันอยู่ที่ไหน เรียกมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้ เอ็งนี่หลงไว้ใจว่าเอาตัวรอดได้ แล้วเป็นไง แม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

อินทราปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ทำไมแม่ไม่ฟังเธอบ้างนะ ทำไมแม่ไม่ถามอย่างคนที่น่าจะเข้าข้างลูกสาว น้ำตาของอินทราไหลอยู่อย่างนั้น เสียงของแม่ที่กรอกเข้าหู ยิ่งกว่าเข็มนับพันเล่มที่ทิ่มแทง

“ทำไมแกไม่พูด ฮะ? แกเป็นอะไร นังอิน ๆ”

“ถ้าพูดแล้วแม่จะฟังฉันไหมล่ะ” ลูกสาวย้อนกลับไป คนเป็นแม่นิ่งอึ้ง

“แม่จะฟังฉันพูดก่อนไหม แม่ถามฉันไหมว่าจริงหรือไม่จริง” ลูกสาวระบายกลับไป

“มีอะไรก็เล่ามา” คนเป็นแม่เสียงอ่อยลง

“ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรกันนะ”

“ต๊าย ไม่ได้มีอะไรกัน ขนาดนี้ยังไม่ได้มีอะไรกันอีกเหรอ นี่แค่ในหนังสือพิมพ์นะ เขาบอกว่ามีคลิปอยู่ในเน็ตอีกด้วย นี่แม่ให้ไอ้ชัยวัฒน์ไปดูอยู่ว่า มันถึงขนาดแก้ผ้าแก้ผ่อนนอนอยู่บนเตียงด้วยกันเหมือนพวกดาราบางคนหรือเปล่า”

“ไม่มีหรอกแม่ มีแค่นี้แหละ”

“แล้วเอ็งจะกลับบ้านเมื่อไหร่”

“อีกสักวันสองวัน แม่ แค่นี้นะ ฉันจะปิดโทรศัพท์ ไม่ต้องโทรมาอีก เอ้อ แล้วเรื่องเงินประกันตัวไอ้ชัยวัฒน์ได้รับหรือเปล่า” อินทรารีบเปลี่ยนเรื่อง

“ได้รับแล้ว หน็อยนึกว่าใครที่ไหน ไอ้อินตาพ่อของอีนังเด็กใจแตก ก่อนหน้านั้นก็ยืนเถียงอยู่กับมัน”

“อะไรแม่”

“อ้าวก็ลูกสาวมันซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คนอื่นมา แล้วไอ้ชัยวัฒน์มันแข่งรถชนะ อีนี่ก็เลยตกมาเป็นของไอ้ชัยวัฒน์ พอตำรวจจับ พ่อมันก็ว่าไอ้ชัยวัฒน์ไปล่อล่วงลูกสาวมันมา ดีนะที่มันอายุเกินสิบแปดไปแล้ว ไม่งั้นเป็นเรื่องอีก”

อินทรายังงง

“แล้วนายอินตานี่คือใคร”

“ไม่รู้ มันบอกแต่ว่านายมันบอกว่าแก ลูกสาวฉันให้เอาเงินมาให้ประกันตัวไอ้ชัยวัฒน์ออกมา กูก็เลยงงเข้าไปใหญ่เลย”

“ฉันก็งงแม่ แล้วตอนนี้ไอ้ชัยวัฒน์มันไปไหน ทำอะไรอยู่ ขอคุยกับมันหน่อยได้ไหม”

“มันก็ไปร้านเน็ตไปดูภาพอื้อฉาวของพี่มันนะซิ กูบอกมึงไปแล้วนี่”

“งั้นแค่นี้นะ ไม่ต้องโทรมาอีกนะ” พูดจบอินทราก็กดปิดสัญญาณก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน จากเรื่องหนึ่งกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันอะไรนักหนานะ อยากไปทำบุญล้างซวยเสียจริง ๆ



ประดิพัทธ์เปิดประตูเข้ามาพบว่าอินทรานั่งอยู่บนโซฟาสายตาของเจ้าหล่อนจับจ้องอยู่ที่หน้าตู้สี่เหลี่ยมโดยที่ไม่ยอมมองมาหาเขาที่กระแอมไอทักทายแก้เขิน

“อินทรา” เขาเรียกชื่อหญิงสาวเบา ๆ อินทราไม่หันไปมองดั่งเก่า เขาเกาหัวแกรก ๆ งานนี้ไม่รู้ว่าเขาหรือใครที่ผิด แต่เป็นว่าเขาสรุปเองว่าเขาพาเจ้าหล่อนมาเสียหาย แม้ยังไม่ได้เสียหายก็ถือว่าเธอร่วมขบวนการฉาวกับเขาไปเสียแล้ว

“เธอเป็นอย่างไรบ้าง”

“ฉันสบายดี แต่แม่ฉันไม่สบายใจด้วยเลย”

“ผม” ประดิพัทธ์อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ

“คุณไม่ผิด ฉันเป็นคนผิดเองที่ขี้ขึ้นสมองจนไร้สติสะตัง” พูดจบหญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ อย่างอารมณ์เสีย

“มีอะไรคุยกันได้นะ”

เมื่อได้ยินหญิงสาวหันมามองที่ตาคมของเขาแล้วก็รีบหลบกลับมาที่หน้าจอโทรทัศน์

“คุยอะไร มีอะไรต้องคุย เราก็รู้ตัวดีว่ามันไม่มีอะไรนี่”

“แต่เธอเสียหาย”

“เดี๋ยวคนก็ลืม เดี๋ยวดาราคนอื่นมันก็ทำแบบนี้กัน แล้วไอ้พวกนักข่าว พวกฉันเองแหละมันก็ตามคุ้ยเรื่องของคนอื่นมาแทน บ้าฉิบ บ้าชะมัด” แม้ปากจะบอกว่าไม่มีอะไรแต่น้ำเสียงและท่าทางฮึดฮัดนั้นมันมีเรื่องร้อนอยู่ในใจเต็มเปี่ยม


คนสองคนทางรีสอร์ตแม้จะหาทางออกของปัญหาไม่พบแต่ก็ยังถือว่ากินอยู่ยังสุขสบาย แต่สองคนที่อยู่กับยายในกระท่อมริมหมู่บ้านนั้น ต้องอกสั่นขวัญแขวน ด้วยตอนหลังเที่ยงผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยเดินตะเวนตามบ้านลูกบ้านเพื่อบอกกล่าวเรื่องที่โจรลักพาตัวคุณหนูแห่ง รังสิตารีสอร์ตออกมา ผู้ใหญ่พูดให้ชาวบ้านระวังตัว หากมีการปะทะกันก็ให้ระวังด้วยเพราะมันมีปืนและที่สำคัญอย่าให้ผู้หญิงเป็นอะไรเด็ดขาด ส่วนไอ้โจรห้าร้อยพร้อมคณะนั้น ยิงให้ตายได้เลยทางการไม่เอาผิด

รังสิตากับโชคชัยที่หมอบกันอยู่ในกระพ้อมข้าวที่วางอยู่ในยุ้งฉางใกล้ ๆ บ่อน้ำแทบจะกระอักเมื่อได้ยินเรื่องราวที่ลุกลามใหญ่โต เธออยากเห็นหนังสือพิมพ์หรืออยากเปิดโทรทัศน์ดูเหลือเกิน เรื่องนี้มันบานปลายไปถึงไหนแล้ว ด้วยในกระพ้อมนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นรังสิตาแทบจะจามเสียงดังเสียหลายรอบแต่ด้วยเธอกดจมูกลงที่แผ่นหลังของชายหนุ่มจึงทำให้เสียงนั้นผะแผ่ว แต่ถึงกระนั้นผู้ใหญ่และผู้ชายต่างก็หันรีหันขวาง

“ที่นี่ไม่มีหรอก ไปหาที่อื่น แล้วพ่อผู้ใหญ่มั่นใจรึว่ามันจะมาทางนี้”

“ก็คนของรีสอร์ตบอกว่ามันข้ามฝั่งมา ไม่ผ่านหมู่บ้านเราก็ไปผ่านทางอุทยานโน่น ทางโน้นทางสะดวกกว่าเขาวางกำลังดักรอไว้แล้ว ส่วนทางนี้ ยังไม่มีใครเห็นว่าผ่านมา รึว่าพวกมันจะลากผู้หญิงข้ามเขาไป ถ้าข้ามไปได้จริง ๆ ก็เก่งล่ะวะ”

“ได้ข่าวว่าสวยเช้งเลยนะยายผู้หญิงคนนั้น” อีกคนสอดเข้ามาด้วย

“คงสวย ถ้าไม่สวยไอ้โจรมันคงไม่พามาหรอก แต่มันพามาเรียกค่าไถ่แน่รึ” ยายยังถาม

“อ้าวถ้าไม่เรียกค่าไถ่จะพามาทำไม”

“อาจจะหนีตามกันมา แล้วเขาก็มาปล่อยข่าวอีกอย่างก็ได้ ทำอย่างกับเรื่องพวกนี้พวกเราไม่เคยได้ยิน อย่าไปเชื่อมากนักเลย ยายว่าตาเสี่ยนั่นคงหวงน้องสาวแน่ ๆ แล้วมีไอ้หนุ่มมากระตุกหนวดเสือก็เลยต้องฆ่าทิ้ง จับน้องสาวไปใส่ตะกร้าล้างน้ำ”

“ยายพูดเหมือนเห็นกับตามาแล้วเลย”

รังสิตากับโชคชัยใจเต้นแรง หากยายเผลอโม้ภูมิตัวเองออกไปอีก เขาและเธอ ต้องเขาคนเดียวซิ จะต้องตายแน่ ๆ

“เหอะ ก็ยายมีตาวิเศษพวกเอ็งก็รู้ดี เฮอะ ๆ ๆ ๆ” แล้วยายก็หัวเราะเสียงดังเหมือนพวกหมอผีจนคนเหล่านั้นส่ายหน้าก่อนจะกลับเข้าหมู่บ้านไป

ผ่านไปอึดใจ เด็กเหว่าก็รีบเดินมาหาแล้วก็เปิดฝากระพ้อมใบใหญ่ให้

“ออกมาได้แล้วพี่ ไปกันหมดแล้ว”

“ตกลงที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยแล้ว เราจะเอาอย่างไรกันดี” รังสิตาเหนื่อยหอบก่อนจะ ‘ฮาดเช้ย’ ออกมาเสียงดัง

“หนูว่าพี่สองคนมอบตัวเสียดีกว่านะ”

“เฮ้ย! พี่ไม่ได้ทำความผิดอะไรกันนะ” รังสิตารีบเปลี่ยนความเข้าใจของเด็กสาวรุ่นเสียใหม่

“ถ้าไม่ผิดแล้วเขาจะมาตามหาพวกพี่ให้วุ่นเหรอ”

โชคชัยมองหน้าหญิงสาวแล้วหัวเราะเบา ๆ รังสิตาค้อนให้เขาหนึ่งที ตกลงเธอผิดหรือพี่ชายเธอเป็นคนผิดกันแน่




เมื่อออกมาจากที่ซ่อนยายแก่ก็ส่งห่อใบตองสองห่อพร้อม กระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำ และมีดเหน็บพร้อมฝักมาให้

รังสิตามองหน้าโชคชัย ชายหนุ่มรับไว้ เขาสะกิดหญิงสาวให้ยกมือขอบคุณ เมื่อคนทั้งคู่ขอบคุณแล้วยายก็ให้ศีลให้พร

“ไปกันให้รอดนะ ถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชรหนักเบาก็ให้อภัยกัน” รังสิตาแทบจะสำลักน้ำลายเสียแล้ว แต่ด้วยโชคชัยใช้เท้าจิกเท้าเธอไว้ เธอจึงได้แต่ก้มหน้ากลั้นความรู้สึกไว้จนกระทั่งยายพูดจบ

รังสิตาจกลงไปในกระเป๋ากางเกงซึ่งเธอได้ปรึกษาโชคชัยแล้วถึงเรื่องจะสมนาคุณยายและหลานสาว หญิงสาวยื่นแบงก์พันใหม่เอี่ยมไปให้ ยายมองหน้า

“หนูตอบแทนยายกับหลานจ้ะเอาไว้ซื้อหาอะไรกิน”

ยายหันไปมองหน้าหลาน หลานมองหน้ายาย ทั้งสองหันกลับมามองหน้าหญิงสาวและชายหนุ่ม

“มันเยอะไปนะ” ยายพูดตามตรง

รังสิตาเอื้อมมือไปจับมือยายแล้วยัดเงินให้

“รับไปเถอะยาย หากเราสองคนหนีไปรอด เราจะกลับมาหายายกับหลานอีกนะ ดูแลตัวเองด้วย ยายไม่สบายใช่ไหม เอาเงินนี่ไปซื้อยา เสื้อผ้าใหม่ ๆ ใส่ ซื้อขนมให้หลานสาวกินบ้าง” คนเป็นยายน้ำตารื้นขอบตา

“ไป ๆ จะมืดค่ำ เดี๋ยวให้นังเหว่ามันพาเดินไป ไปถึงอีกหมู่บ้านหนึ่งก็ประมาณสามกิโล หากไม่แวะบ้านคน ก็หาพักตามกระท่อมกลางทุ่งนา อย่าเข้าไปในป่าลึกนะเพราะสัตว์ออกหากินจะมีอันตราย” ยายยังสั่งอย่างยืดยาว รังสิตาถอนหายใจออก รู้ว่ามันอันตรายแต่เธอต้องก้าวไปข้างหน้าไปให้พ้นจากการกดขี่บังคับจากคนเป็นพี่ชาย



เด็กหญิงเหว่าเดินนำคนทั้งคู่ออกทางหลังบ้านแล้วลัดเลาะผ่านป่ามันสำปะหลังผ่านไร่ข้าวโพด ใบพืชไร่ที่ยาวยื่นออกมายังทางเดินแคบ ๆ ซึ่งคั่นระหว่างที่คนละเจ้าของเสียดสีกับผิวขาวเผือด ด้วยไม่คุ้นกับแสงแดดและฝุ่นละอองทำให้ผิวของรังสิตาเกิดผื่นขึ้นมา

“คัน” รังสิตาบ่นขณะที่เดินไป เมื่อเป็นดังนั้นโชคชัยจึงเดินนำหน้าแล้วใช้ ‘มีดเหน็บ’ ที่ยายให้มาฟันไปยังใบข้าวโพดที่ยื่นออกมาขวางทางเดิน เด็กหญิงเหว่ายังเดินนำหน้าไปเรื่อย ๆ ในสายตาของรังสิตานั้นเบื้องหน้ามีแต่ภูเขาสีน้ำเงินเข้มและทิวป่าไม้ขวางกั้น แล้วเธอจะไปทางไหนต่อ ยิ่งเดินท่ามกลางแสงแดด ความร้อนก็ยิ่งมากขึ้น โชคชัยหยุดรอส่งมีดเข้าฝักไม้หวายเขาถอดเสื้อออกแล้วคลุมศีรษะให้หญิงสาวที่มีใบหน้าเกรียมแดด

รังสิตามองหน้าเขาหญิงสาวใช้มือข้างซ้ายกอดเอวเขาก่อนจะดึงเข้ามาหาแล้วนิ่งซบอย่างคนต้องการที่พัก เด็กหญิงเหว่าหันมามองแล้วมีใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา

“ไหวไหม” โชคชัยใช้ปลายนิ้วดึงชายเสื้อมาปิดแดดไม่ให้ถูกใบหน้าที่เคยนวลเนียน

“ไหว”

“งั้นไปต่อ”

คราวนี้เขาพยุงเธอเช่นเมื่อคืน รังสิตาหอบแรงขึ้น

“หยุดก่อนเถอะเหว่า” เขาร้องเรียกเด็กสาวที่เดินชะลอนำหน้า เด็กหญิงสาวหันมามอง โชคชัยประคองร่างระหงนั่งลงข้างต้นข้าวโพด ต้นไม้สีเขียวช่วยบังแสงแดด เขาอยากจะพาไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าแต่เห็นว่ารังสิตาคงไปไม่ไหว

“ดื่มน้ำหน่อยนะ” เขาจับหน้าเธอประคองให้เงยขึ้นก่อนจะรินน้ำลงสู่ริมฝีปากบางที่สั่นระริก

“ขอบใจ”

“อีกไกลไหม” เขาถามคนนำทางที่เดินกลับมานั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขา

“ตรงโน้น ข้ามลำธารไป จะเจอถนนเล็ก ๆ เลี้ยวซ้ายแล้วก็เลี้ยวขวาตรงไปจนถึงหุบเขาตรงโน้นจะเจอหมู่บ้าน หมู่บ้านนั้นแหละ เป็นเส้นทางเดิมที่จะไปเกริงกะเวีย”

เมื่อรู้จุดหมายโชคชัยและรังสิตาถอนหายใจพร้อมกัน เขาและเธอจะพากันไปรอดไหมหนอ




ประดิพัทธ์ตัดสินใจกดเปิดโทรศัพท์ ด้วยคิดว่าการรู้เรื่องของโลกภายนอก น่าจะเป็นการเตรียมพร้อมกับการออกไปเผชิญปัญหา

เมื่อได้สัญญาณสายที่ไม่ได้รับก็ฝากข้อความกลับมา เป็นเบอร์นายพหลหลายสาย เป็นเบอร์ของรุ่นน้องในที่ทำงาน บางเบอร์เขาไม่รู้จัก ขณะไล่ดูเบอร์ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อินทราที่นั่งดูโทรทัศน์ด้วยวิธีการเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ หันมามองแล้วก็สะบัดหน้ากลับไป

“ครับ ผมเองครับนาย อยู่ครับอยู่ด้วยกัน”

“เป็นอย่างไรล่ะดีไหม”

“อะไรหรือครับ”

“เด็กคนนั้นนะซิ จ่ายไปมากไหม”

“ครับ” เขาไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร นายพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เขาเหลือบตาไปมองยังอินทราที่จ้องหน้าจอดูรายการผ่านดาวเทียมซึ่งเป็นภาษาต่างประเทศ

“ฉันจ่ายเธอไปสองหมื่น แกจ่ายไปเท่าไหร่ เขาถึงได้ยอมกอดซะแน่นขนาดนั้น”

“นายเข้าใจเขาผิดนะครับ”

“ไม่ผิดหรอก นี่คุณรัชดาพรกลับมาถึงแล้ว เขายังยืนยันด้วยภาพที่นายกับเด็กนั่นซบกันบนเรืออีก ถ้าเบื่อก็ขอต่อนะโว้ย บอกตามตรงว่ะ แบบนั้นสเป็คของฉัน ยิ่งดิ้นแรง ๆ ฉันยิ่งชอบ”

“บ้าแล้ว” เขาเผลออุทานออกไป

“หมายความว่าไงน่ะ ติดใจเหรอ เออ ให้ติดใจให้จริงเถอะ เด็กใจแตกในสลัมน่ะแก อย่าคิดจริงจังอะไรมากนัก รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น นายประดิพัทธ์ดาราหน้าเป็นตกหลุมรักผู้หญิงจน ๆ ในสลัม รู้ถึงไหนอายถึงนั่นจริง ๆ นะโว้ย แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่ น้ำหวานยังไม่หมดใช่ไหม ดูดซะให้หมดนะ ไม่งั้นฉันจะริบกลับมาดูดต่อ แล้วงานว่าไง คุณรัชดาพรบอกว่า ตอนนี้แกไม่เกี่ยวข้องกับน้องสาวเจ้าของรีสอร์ตแล้วนี่ รีบกลับมาก่อนที่ฉันจะเลื่อนตำแหน่งแกลง เฮอะ ๆ ๆ ๆ”

ประดิพัทธ์เหวี่ยงโทรศัพท์ราคาแพงลงยังที่นอนทันที เขาถอนหายใจออกมา อินทราหันมาจ้องหน้าคาดเดาว่าคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ แต่มันเป็นเรื่องอะไรล่ะ

“มีอะไรหรือ” อดถามคนที่นั่งบนเตียงแล้วเอามือกุมหน้าขยี้ผมไปมาไม่ได้

“ธะธะเธอไปเอาเงินอะไรเขามา”

“ใคร” อินทรารีบลุกขึ้นแล้วมายืนตรงหน้าชายหนุ่มทันที

“ไอ้พหลนะซิมันบอกมันเคยซื้อเธอ”

อินทราหายใจฮืดฮาด อยากจะแก้ตัว แต่เธอก็นึกถึงสัญญาที่ให้ไว้ ความลับของคน ‘หน้าหม้อ’ ต้องเป็นความลับ แล้วอีกอย่างจำเป็นต้องอธิบายอะไรให้เขาฟังด้วยหรือ หญิงสาวเดินกลับไปนั่งที่เดิม กดรีโมทโทรทัศน์ไปเรื่อย ๆ

“เครื่องมันจะเสียไหม” เขาตะคอกกลับไป

“เสียก็เรื่องของมัน ไม่ใช่เรื่องของฉัน มันไม่ใช่ของฉันนี่” ไม่พูดเปล่า อินทรายังกดรีโมท อย่างกวนอารมณ์ ประดิพัทธ์ทนไม่ไหว เขาลุกขึ้นตรงเข้าไปแย่งรีโมทในมือ อินทราเองก็ความอยากเอาชนะจึงยื้อยุดไว้สุดกำลังเช่นกัน ยิ่งดื้อดึง หนุ่มใหญ่ก็ยิ่งโมโหบวกกับกลิ่นกายที่หอมจรุงใจทำให้มือที่ไขว่คว้าจะเอารีโมทเปลี่ยนเป็นรวบร่างบางไว้แล้วก็กดจมูกไต่ตอมไปยังบริเวณผิวขาวของต้นคอติ่งหูหัวไหล่และใบหน้าที่นวล เมื่อเห็นฤทธิ์บ้าของเขา อินทราตกใจแทบสิ้นสติ หญิงสาวพยายามขัดขืนพยายามเอารีโมทที่อยู่ในมือกระทุ้งที่บริเวณท้องคืนกลับไป แต่ด้วยที่อินทรานั่งอยู่ในโซฟาและกำลังตัวของเขาที่ถาโถมลงมาทำให้ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแน่น

“ปล่อยยยยย!!!!” น้ำเสียงของอินทรานั้นบอกให้รู้ว่าคับแค้นใจถึงขีดสุด แต่ว่าเขาหาได้สนใจ อินทราหาทางช่วยตัวเองให้หลุดพ้น ทางเดียวที่ทำได้ก็คือโงนหัวไปข้างหลังแล้วตวัดโขกกับที่ดั้งจมูก มันได้ผลประดิพัทธ์ถึงผงะ แต่ยิ่งเจ็บก็เขาก็ยิ่งมีกำลังรุกเอาคืน

“ปล่อยยกรู ไอ้สัตว์” อินทราปล่อยวาจาที่คุ้นลิ้นออกมาอย่างไม่ยากเย็น แต่ดูเหมือนว่ามันห้ามเขาไม่อยู่เสียแล้ว อินทรารู้สึกว่าที่ทรวงอกของเธอเย็นวาบ อยากจะยกมือเอื้อมมาปิดบัง แต่เขาก็ใช้มือทั้งสองข้างบีบล็อกที่ต้นแขนเธอไว้ ใบหน้าของเขากดทับลงไปเหมือนคนที่ตายอดตายอยาก เมื่อเธอสงบเพราะฤทธิ์ของดำกฤษณา สัมผัสที่ร้อนแรงของเขาก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวล อินทรารู้ตัวว่าใจของตนกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งกามคุณ แต่เธอไม่ต้องการให้ความสาวของเธอจบลงด้วยความรู้สึกแบบนี้ ความหวงแหนในสิ่งที่ทะนุถนอมไว้ ทำให้ทำนบน้ำตาของอินทราแตกอีกรอบ

เสียงร้องไห้โหยหวนของหญิงสาว ทำให้เขาหยุดบ้าลง ร่างของประดิพัทธ์หยุดชะงัก หลังจากที่เขาอุ้มร่างที่เปลือยเปล่าในท่อนบนมาวางลงบนที่นอน อินทราพลิกตัวซบหน้าร้องไห้อย่างจะเป็นจะตาย ประดิพัทธ์ใช้มือทั้งสองข้างจิกทึ้งผมตัวเอง เขาทำอะไรลงไป เขามองไปที่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตของหญิงสาว กระดุมขาดกระจุย บราเซียเล็ก ๆ ตัวนั้นยังร่วงหล่นอยู่บนโซฟา เขาดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกายให้หญิงสาวแล้วนั่งคอตกรอคำพิพากษา

อินทรายังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น จนเขาต้องเหลียวกลับไปมอง

“ผมขอโทษ” เขาไม่อยากพูดคำนี้ แต่จะให้เขาพูดอะไรในยามนี้ได้ ขณะที่เขาหันกลับไปมองร่างที่ยังร้องไห้อีกรอบยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรออกไปความรู้สึกสุดท้าย คือแรงปะทะจากก้อนหินขนาดใหญ่อัดเข้าที่ปลายคางของเขา





จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ส.ค. 2554, 09:39:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ส.ค. 2554, 09:39:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 1821





<< 16. อลวน ถนน หัวใจ   18-19 อลวน ถนน หัวใจ >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 9 ส.ค. 2554, 09:47:17 น.
ยอดคนอ่านลดลงลดลง แสดงว่าสนุกจัด..555555


คิมหันตุ์ 9 ส.ค. 2554, 12:18:52 น.
โอ๊ะไม่นะคะ..ก้สนุกดี...ติดตามตลอดๆ


คุณแม่ลูกสอง 9 ส.ค. 2554, 14:02:52 น.
สนุกค่ะ แต่จบตอนแบบโหดๆนะคะ อิอิอิ


nutcha 9 ส.ค. 2554, 14:23:44 น.
ก็หนุกดี อยากให้มาบ่อยกว่านี้ได้เปล่า


nutcha 9 ส.ค. 2554, 14:23:48 น.
ก็หนุกดี อยากให้มาบ่อยกว่านี้ได้เปล่า


nutcha 9 ส.ค. 2554, 14:23:53 น.
ก็หนุกดี อยากให้มาบ่อยกว่านี้ได้เปล่า


nutcha 9 ส.ค. 2554, 14:23:57 น.
ก็หนุกดี อยากให้มาบ่อยกว่านี้ได้เปล่า


nutcha 9 ส.ค. 2554, 14:24:02 น.
ก็หนุกดี อยากให้มาบ่อยกว่านี้ได้เปล่า


nutcha 9 ส.ค. 2554, 14:24:06 น.
ก็หนุกดี อยากให้มาบ่อยกว่านี้ได้เปล่า


Zephyr 9 ส.ค. 2554, 14:53:51 น.
อ่าว เลยต้องรับผิดชอบซะงั้น


kk007 9 ส.ค. 2554, 15:49:26 น.
สารภาพค่ะ ลงตอนใหม่เข้ามาดูทุกครั้ง แต่ไม่ได้อ่านมา 3ตอนละ เบื่อรังสิตา


หมูแพนด้า 9 ส.ค. 2554, 19:44:05 น.
เข้ามายกมือว่าติดตามอยู่ค่าาาา สนุกดีค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account