โซ่รักสีรุ้ง
"เด็กคนนั้น...เป็นลูกใคร" ห้าปีผ่านมา เธอคิดว่าชินชากับความเจ็บปวดแล้ว แต่ความจริงความรู้สึกนั้นเพียงแต่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งหัวใจรอเวลาที่ใครสักคนจะกวนตะกอนนั้นขึ้นมา ให้เจ็บรวดร้าวยอกแสลงไปทั้งหัวใจ
Tags: ศศิภา,อรุณฉาย,ท้อง,หย่า,หนี,แต่งงาน,ศศิอักษร
ตอน: บทที่ ๑๐ {แผนการขั้นสุดท้าย} ๓ + ตอนพิเศษ ๒
ควันสีเทาม้วนตัวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะกลืนหายไปกับความมืดยามราตรี
พนมกรมองควันนั้นจนจางหาย ทอดถอนใจหนึ่งครั้ง ก่อนบดปลายบุหรี่กับขอบระเบียง
...นานแล้วที่เขาไม่ได้สูบบุหรี่ ก็เพราะสายรุ้งนั่นแหละที่ทำให้เขาหยุดสูบไปเกือบปี
ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะเลิก เขาไม่ได้ ‘ติด’ มัน เพียงแต่ใช้มันเพื่อคลายความกดดันและความเครียดเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ช่วงหลัง...ยาคลายเครียดของเขาไม่ใช่บุหรี่ แต่เป็นหล่อน เด็กสาวที่เขาไม่เคยมองว่าสวย อีกทั้งยังจืดชืด ไร้ชีวิตชีวา ทว่าน่าแปลก เพียงแค่มองหล่อน เห็นรอยยิ้มของหล่อน ได้สบตาหล่อน อะไรที่มันคั่งค้างหรืออัดแน่นอยู่ในอกก็พร้อมที่จะสลายไปได้ในทุกวินาที
เขาไม่ได้พบหน้าหล่อนกี่วันแล้วนะ...สี่วัน? ห้าวัน? ไม่สิ จะเป็นอาทิตย์แล้วต่างหาก
เป็นครั้งแรกที่พนมกรรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป...เพราะหล่อนงั้นหรือ?
เขาขมวดคิ้วครุ่นคิด หากเพียงวินาทีก็ส่ายหน้า...ไม่หรอก คงเป็นเพราะความเคยชินมากกว่า
คนที่เคยเจอหน้ากันทุกวัน เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างน้อยก็สองสามชั่วโมง เคยยิ้ม เคยหัวเราะ เคยพูดคุย เคยจับมือ โอบกอด และ...จูบ จะแปลกอะไรที่จะคิดถึงกันเมื่อยามห่างกันเช่นนี้
เขาคิดถึงหล่อน...พนมกรยอมรับกับตัวเอง
เป็นความคิดถึง ที่ผสมปนเปกับอะไรบางอย่างซึ่งตัวเขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้
ชายหนุ่มทอดถอนใจเป็นครั้งที่เท่าไรก็คร้านจะนับ พนมกรสูดลมหายใจยาว ดีดบุหรี่ที่ดับแล้วลงกับพื้น ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง
บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ส์สี่แล่นผ่านประตูใหญ่ด้วยความเร็วตามแรงอารมณ์ของคนขับ...เป็นครั้งแรกที่เขาหงุดหงิดกับสถานการ์ที่เผชิญอยู่จนแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
เขาอยากพบหน้าสายรุ้ง
อยากกอด อยากหอมและ...อยากจูบ
เขาคงเป็นบ้าไปแล้วที่รู้สึกเช่นนั้นกับผู้หญิงที่ไม่ใช่สเปกและเขายังมองหล่อนเป็นเด็ก!
พนมกรหัวเราะแผ่ว พลางส่ายหน้ากับอารมณ์อันไม่คงเส้นคงวาของตัวเอง เขาผ่อนเท้าที่เหยียบคันเร่ง ทำให้รถลดความเร็วลง
คงเพราะเขาใจร้อนอยากได้หล่อนมาเป็นเมียเร็วๆ กระมัง
ก็เหมือนทุกครั้ง เมื่อหวังในสิ่งใด...เขาย่อมอยากได้มันมาโดยเร็ว เพียงแต่ครั้งนี้เขาใจร้อนเกินไปสักหน่อยก็เท่านั้น
ขับรถมาได้สักพักใหญ่ๆ พนมกรก็ตบไฟเลี้ยวชิดริมฟุตปาธ เขาปิดไฟ ดับเครื่อง และนั่งเอนกายพิงเบาะรถ สองตาทอดมองข้ามฝั่งถนนไปยังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงข้าม
เวลาสี่ทุ่ม...ไฟนีออนยังส่องสว่างไปทั่วบ้านหลังนั้น
เขานั่งนิ่ง รอคอย ระหว่างรอ อดไม่ได้ที่จะจุดบุหรี่สูบ
ชายหนุ่มเปิดกระจก พาดแขนกับขอบหน้าต่าง มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่ มืออีกข้างเคาะพวงมาลัย
นานเป็นชั่วโมง...เมื่อเข็มนาฬิกาขยับเคลื่อนมาถึงเลขสิบสอง เที่ยงคืนพอดิบพอดี ไฟในบ้านหลังนั้นก็ค่อยๆ ดับ คงเหลือไว้เพียงสามดวง คือไฟประตูด้านหน้า ไฟในห้องทางปีกซ้าย และไฟในห้องปีกขวา...ห้องที่เขาเฝ้าดูแทบไม่คลาดสายตามาเกือบสองชั่วโมง
พนมกรเหงื่อซึม เขารู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปอายุสิบหกอีกครั้ง...ตอนที่กล้าปีนรั้วเข้าไปหาสาวเป็นครั้งแรกในชีวิต
ในครั้งนั้น พ่อของเขาเพิ่งกลับมาทำธุรกิจอีกครั้งหลังจากระหกระเหินมานานหลายปี เรียกว่าเป็นช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวก็ว่าได้ ฐานะของเขายังไม่ร่ำรวย เพียงแต่พอมีพอกินเท่านั้น ทว่าสาวที่เขาจีบนี่สิ เป็นลูกมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก เมื่อถูกกีดกัน เขาก็หน้ามืดตามัวปีนเข้าไปหาสาวคนนั้นโดยไม่เกรงกลัวอันตราย ครั้ยถูกจับได้เขาก็โดนซ้อมแทบปางตาย หลังจากวันนั้นพ่อก็พาเขาย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพจึงไม่ได้พบหน้าหล่อนอีกเลย
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด เปิดประตู โยนบุหรี่ลงบนพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบและบี้จนไฟมอด จากนั้นจึงก้าวอาดๆ ตรงไปยังรั้วสูงท่วมศีรษะ
โดยไม่เสียเวลาคิด เขาปีนข้ามรั้วเข้าไปด้านใน สองตาจับจ้องเป้าหมายแน่วนิ่ง
อย่างไรวันนี้เขาก็ต้องได้เห็นหน้าหล่อน
ได้เห็น ได้กอด ได้หอม และ...ได้จูบ อย่างที่โหยหามาตั้งเจ็ดวัน!
ตอนพิเศษ 2
บันทึกของชายหนุ่มผู้ไม่รู้หัวใจตัวเอง ๒
เธอยืนอยู่ตรงนั้น...ท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่อง เธอดูตัวเล็กและประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
เธอเหลียวมองไปรอบๆ มือที่ประสานกันไว้ด้านหน้าขยับยุกยิก
ความหวาดหวั่นนั้นทำให้ผมมองอย่างนึกขัน...
ผมรอจนวินาทีสุดท้าย จึงได้ก้าวออกไป
ผมยืนอยู่ต่อหน้าเธอ ยื่นมือออกไป...รอคอยให้เธอวางมือลง
ตาสบตา ผมเห็นความโล่งใจและคำขอบคุณในดวงตาสุกสกาวคู่นั้น
มือของเธอเล็ก และนิ่ม น่าทะนุถนอมจนผมไม่กล้าบีบแรง
ตัวของเธอเล็ก ศีรษะของเธออยู่แค่แถวๆ หน้าอกของผมเท่านั้น
ยามผมกอดเธอ แก้มของเธอก็แดงปลั่ง เพราะเขินอายหรือตื่นเต้นก็ยากจะเดา
เสียงของเธอกังวานใส ฟังแล้วรื่นหู และทำให้อารมณ์ของผมดีขึ้นเป็นเท่าตัว
จากที่คิดว่า...เธอน่าเบื่อดั่งขนมเค้กที่ลืมใส่น้ำตาล ผมกลับพบว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นเลย
เธอน่าสนใจในแบบฉบับของเธอเอง...ความไร้เดียงสา รอยยิ้มบริสุทธิ์ และดวงตาแสนหวาน ทุกอย่างในตัวเธอทำให้ผมอยากครอบครอง
ในตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจอารมณ์ของผมนัก แต่วันนี้ผมเข้าใจแล้ว...
เธอดึงดูดความสนใจของผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นรูปของเธอ
และเมื่อเธอวางมือลงบนมือผม...มืออันเรียวเล็กจนเกรงว่าถ้าบีบแรงมันจะแตกสลาย
ผมประคองมือนั้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับความรู้สึกในส่วนลึก
...ความรู้สึกที่ว่าอยากเป็นเจ้าของ...อยากได้เธอมาเคียงข้าง...และอยากให้เธอเป็นผู้หญิงของผมนับตั้งแต่วันนั้น
มาอัปให้อ่านกันต่อค่าาา เป็นฉบับยังไม่ได้อีดิท อาจมีคำผิดบ้างนะคะ ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ
ระหว่างนี้ยังสั่งจองได้ถึง 20 ธันวาคมนะคะ จัดส่งประมาณ 10 มกราคม
สั่งจองได้ที่ www.sasiaksornbook.com ค่ะ
แล้วพบกันตอนหน้า แผนการขั้นสุดท้าย ๒
ขอบคุณสำหรับการติดตามและทุกยอดจองนะคะ _/\_

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ธ.ค. 2559, 20:29:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ธ.ค. 2559, 20:29:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1166
<< บทที่ ๑๐ - แผนการขั้นสุดท้าย ๒ + ตอนพิเศษ ๑ | บทที่ ๑๑ {แผนการขั้นสุดท้าย ๒} ๑ >> |