รัตนมณีแห่งหัวใจ (รัตน)
Tags: ความรักเดียวที่กษัตริย์แดนเถื่อนมีต่อเจ้าหญิงแห่งรัตนที่ตราตรึงในหัวใจ
ตอน: ตอนที่ 15/1
ตอนที่ 15/1
ว่าที่ราชินีเสด็จไปยังห้องสรงกลางแจ้งด้านหลังพระตำหนัก เสด็จถึงก็ให้แปลกพระทัยมาก ห้องสรง
ที่ว่าเป็นเพียงพื้นหินอ่อนโล่งๆ มีผ้าม่านสีขาวกั้นไว้สองชั้นแทนประตู และที่แปลกไปกว่านั้นคือสระน้ำเล็กๆ
ที่นางกำนัลกราบทูลคือ อ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมทำด้วยหยกสีขาวอมชมพูขนาดใหญ่เกินอ่างอาบน้ำทั่วไป
ฝังลงไปในพื้นหินอ่อน ห้องนี้นอกจากม่านสีขาวที่ทำเป็นประตูกั้นกับอ่างหยกสีขาวอมชมพูตามที่นางกำนัล
เรียกว่าสระน้ำแล้วนอกนั้นโล่งหมดไม่มีหลังคา เหมือนอยู่กลางแจ้งจริงๆแต่กลับปิดกั้นจากโลกภายนอกได้
ทอดพระเนตรแล้วทรงเข้าพระทัยทันที ว่าทำไมเหนือหัวองค์ก่อนถึงโปรดใช้เป็นที่พักผ่อน
พระอิริยาบทส่วนพระองค์ เพราะดูเงียบสงบผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามโดยเฉพาะในยามราตรี
เหล่าทหารราชองครักษ์กับนางกำนัลและอุษากำลังวุ่นวายกับการเตรียมการรักษาองค์อคินตามคำสั่ง
ของหมอ ครั้นพอเห็นว่าที่ราชินีเสด็จมาก็รีบถวายความเคารพ ทรงโบกพระหัตถ์ห้าม
“พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธี เราเพียงมาดูความพร้อม จวนได้เวลาหรือยังท่านหมอ” รับสั่งเป็นกันเอง
ยังความปราบปลื้มให้กับทุกคนนัก ต่างรู้สึกดีใจที่ในยามนี้มีว่าที่ราชินีอยู่เคียงข้าง ไม่อย่างนั้นหิรัณย์คงต้อง
สูญเสียเจ้าเหนือหัวที่พวกเขารักไปอย่างแน่นอน บ้านเมืองคงระส่ำระสายน่าดู แม้จะดูบอบบางและเยาว์วัยนัก
แต่กลับดำรงพระสติได้อย่างมั่นคงในยามที่ต้องเผชิญระหว่างความเป็นตายของผู้ที่รักสุดหัวใจได้ คงเป็นเพราะ
พระสติกับความเชื่อมั่นในความรักที่องค์อคินมีให้จึงทรงใช้ความรักจากพระหทัยในการเรียกคืนพระชนม์ชีพ
องค์อคินคืนมา พวกเขาเข้าใจแล้วทำไมองค์อคินถึงได้ทรงเลือกสตรีผู้นี้มาเป็นราชินีคู่พระทัย
“ใกล้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าพระองค์คิดว่าจวนได้เวลาปลุกองค์อคินแล้ว” ผู้เป็นหมอกราบทูลตอบ
“เราจะไปปลุกให้เอง อุษาเจ้าช่วยไปบอกทหารราชองครักษ์ให้ไปรอที่หน้าห้ององค์อคิน ทันทีที่ทรง
รู้สึกพระองค์อีกครั้งให้รีบนำเสด็จมายังห้องสรงนี้” รับสั่งจบก็รีบเสด็จไปยังห้องพระบรรทมแห่งองค์อคินทันที
ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช
ภายในห้องพระบรรทม องค์อคินบรรทมอย่างสงบโดยไม่รู้สึกพระองค์ ว่าที่ราชินีเสด็จมาถึงก็มีรับสั่ง
ให้นางกำนัลกับทหารมหาดเล็กที่เฝ้าพระอาการอยู่ให้ออกไปรอหน้าห้อง สองพระบาทบอบบบางก้าวไปยัง
พระแท่นบรรทม ทอดพระเนตรพระพักตร์องค์อคิน สีพระพักตร์ดีขึ้นมากหากยังหมองคล้ำอยู่เพราะพิษที่ได้รับ
นิ้วพระหัตถ์เรียวงามนุ่มนิ่มค่อยๆปัดปลายพระเกศาที่ตกลงมาปิดพระนลาฏออก นับว่าหิรัณย์โชคดีที่องค์อคิน
ทรงรอดพ้นจากเงามัจจุราชมาได้ แต่ถ้าไม่รีบรักษาให้หายเป็นปกติภายในวันสองวันนี้ หิรัณย์อาจต้องพ่ายแพ้
ในการศึกที่อาจมีขึ้นในไม่ช้า สินธุไม่มีวันปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ยามปกติทหารหิรัณย์ออกรบโดยมีจ้าวสุริยะ
อยู่เคียงข้างเสมอแต่ครั้งนี้อาจต้องออกรบโดยไม่มีจ้าวสุริยะ แม้มีชาครกับนักรบผู้กล้าชาวหิรัณย์อีกมากมาย
ที่พร้อมสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินก็ตามแต่การรบที่ปราศจากจ้าวสุริยะย่อมทำให้ขวัญและกำลังใจทหารลดทอนลงไป
ได้ไม่มากก็น้อย ดวงพักตร์งดงามค่อยๆขยับเข้าไปใกล้พระพักตร์คมเข้มที่ยังคงหมองคล้ำเพราะพิษอยู่แล้ว
ทรงกระซิบเบาๆ
“ได้เวลาแล้วเพคะ ตื่นเถอะเพคะ ทหารหิรัณย์รอพระองค์อยู่” พระหัตถ์บอบบางนุ่มนิ่มเขย่าพระวรกาย
สูงใหญ่เบาๆ เพื่อให้ทรงรู้สึกพระองค์ ได้ผลองค์อคินทรงลืมพระเนตรขึ้น สายพระเนตรทอดมองดวงพักตร์งดงาม
สดใสกับรอยยิ้มสวยสดงดงามที่ทอดมองมา สองพระหัตถ์แข็งแรงดึงวรกายงดงามบางอรชรให้ลงมาซบพระอุระ
กว้างใหญ่แข็งแกร่ง
“ขอบใจในความรัก ความห่วงใยที่มีต่อชาวหิรัณย์มากมาย สัญญานะจะไม่ร้องไห้อีก หม่อมฉัน
ไม่อยากเห็นน้ำตาองค์หญิงอีกต่อไป”
“ทรงรู้หรือไม่ หม่อมฉันกลัวแค่ไหน กลัวพระองค์จะทิ้งหม่อมฉันกับหิรัณย์ของพระองค์ไปจริงๆ
หม่อมฉันได้แต่วิงวอนขอคุณพระคุณเจ้าให้ช่วยนำชีวิตพระองค์กลับคืนมาสู่ชาวหิรัณย์”
“ไม่ใช่คืนสู่หัวใจองค์หญิงเหรอ หม่อมฉันได้ยินใครไม่รู้คร่ำครวญว่า ทรงลืมพระเนตรขึ้นสิเพคะ
องค์อคินของหม่อมฉัน” แม้พระอาการยังไม่สู้ดีแต่กลับมีพระอารมณ์ยั่วคนในอ้อมพระกรได้ คนในอ้อมพระกร
เริ่มฉุน พระหัตถ์น้อยๆทุบเบาๆบนพระอุระแข็งแกร่งก่อนค่อยๆขยับออกห่าง
“ถ้าหม่อมฉันรู้ว่า ทรงฟื้นแล้วจะร้ายกาจอย่างนี้ จะแช่งให้ตายไปเลย” สุรเสียงหวานเริ่มขุ่น
“แน่นะ... ” รับสั่งได้แค่นั้นทรงเริ่มหายใจขัด ว่าที่ราชินีทรงตกพระทัยรีบซบพระพักตร์งดงามลงแนบ
พระอุระแข็งแกร่งสองพระกรเรียวงามกอดพระวรกายสูงใหญ่ไว้แน่นกับสุรเสียงที่เริ่มสั่นเครือ
“ไม่นะ! อย่าทรงเป็นอะไรไปอีกนะ”
องค์อคินทรงพระสรวลเบาๆ พระหัตถ์แข็งแรงสวมกอดวรกายงดงามหอมละมุนไว้แน่น พระนาสิก
สูดดมความหอมจากคนในอ้อมพระกรด้วยพระพักตร์แช่มชื่นก่อนพระสุรเสียงล้อเลียนจะดังขึ้น
“จับคนโกหกได้แล้ว ห่วงหม่อมฉันมากอย่างนี้ ยังจะปากแข็งอีก” ดวงพักตร์งดงามสดใสเริ่มบึ้งตึงเมื่อ
รู้ว่าถูกคนเจ้าเล่ห์หลอกอีกแล้ว ขอให้เจ็บจริงๆเถอะทรงทั้งร้ายทั้งเจ้าเล่ห์ อาการดีขึ้นแล้วนี่ให้ทหารราชองค
รักษ์มาดูแลก็แล้วกัน พระหัตถ์เรียวงามทุบพระอุระแข็งแกร่งเบาๆแล้วขยับพระวรกายขึ้นยืน ก่อนทูลด้วยเสียง
ราบเรียบ
“ทรงหายดีแล้ว หม่อมฉันจะไปบอกทหารราชองครักษ์ให้พาพระองค์ไปขับพิษที่เหลือออก หม่อมฉัน
ขอตัว อย่าลืมนะเพคะต้องขับพิษออกให้หมดภายในคืนนี้ ห้ามโยกโย้ หม่อมฉันไปล่ะ”
องค์อคินทรงผิดหวังอย่างแรง ‘ไม่น่าเลยเรา’ ทรงคิดอย่างปลงๆ
จากนั้นทหารราชองครักษ์ก็มานำเสด็จไปยังห้องสรงเพื่อขับพิษที่ยั่งคั่งค้างในพระวรกาย
===================================================================
********ขอบคุณนะคะที่คอยติดตาม จะพยายามมาลงให้เรื่อย ๆ ค่ะ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ว่าที่ราชินีเสด็จไปยังห้องสรงกลางแจ้งด้านหลังพระตำหนัก เสด็จถึงก็ให้แปลกพระทัยมาก ห้องสรง
ที่ว่าเป็นเพียงพื้นหินอ่อนโล่งๆ มีผ้าม่านสีขาวกั้นไว้สองชั้นแทนประตู และที่แปลกไปกว่านั้นคือสระน้ำเล็กๆ
ที่นางกำนัลกราบทูลคือ อ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมทำด้วยหยกสีขาวอมชมพูขนาดใหญ่เกินอ่างอาบน้ำทั่วไป
ฝังลงไปในพื้นหินอ่อน ห้องนี้นอกจากม่านสีขาวที่ทำเป็นประตูกั้นกับอ่างหยกสีขาวอมชมพูตามที่นางกำนัล
เรียกว่าสระน้ำแล้วนอกนั้นโล่งหมดไม่มีหลังคา เหมือนอยู่กลางแจ้งจริงๆแต่กลับปิดกั้นจากโลกภายนอกได้
ทอดพระเนตรแล้วทรงเข้าพระทัยทันที ว่าทำไมเหนือหัวองค์ก่อนถึงโปรดใช้เป็นที่พักผ่อน
พระอิริยาบทส่วนพระองค์ เพราะดูเงียบสงบผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามโดยเฉพาะในยามราตรี
เหล่าทหารราชองครักษ์กับนางกำนัลและอุษากำลังวุ่นวายกับการเตรียมการรักษาองค์อคินตามคำสั่ง
ของหมอ ครั้นพอเห็นว่าที่ราชินีเสด็จมาก็รีบถวายความเคารพ ทรงโบกพระหัตถ์ห้าม
“พวกเจ้าไม่ต้องมากพิธี เราเพียงมาดูความพร้อม จวนได้เวลาหรือยังท่านหมอ” รับสั่งเป็นกันเอง
ยังความปราบปลื้มให้กับทุกคนนัก ต่างรู้สึกดีใจที่ในยามนี้มีว่าที่ราชินีอยู่เคียงข้าง ไม่อย่างนั้นหิรัณย์คงต้อง
สูญเสียเจ้าเหนือหัวที่พวกเขารักไปอย่างแน่นอน บ้านเมืองคงระส่ำระสายน่าดู แม้จะดูบอบบางและเยาว์วัยนัก
แต่กลับดำรงพระสติได้อย่างมั่นคงในยามที่ต้องเผชิญระหว่างความเป็นตายของผู้ที่รักสุดหัวใจได้ คงเป็นเพราะ
พระสติกับความเชื่อมั่นในความรักที่องค์อคินมีให้จึงทรงใช้ความรักจากพระหทัยในการเรียกคืนพระชนม์ชีพ
องค์อคินคืนมา พวกเขาเข้าใจแล้วทำไมองค์อคินถึงได้ทรงเลือกสตรีผู้นี้มาเป็นราชินีคู่พระทัย
“ใกล้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าพระองค์คิดว่าจวนได้เวลาปลุกองค์อคินแล้ว” ผู้เป็นหมอกราบทูลตอบ
“เราจะไปปลุกให้เอง อุษาเจ้าช่วยไปบอกทหารราชองครักษ์ให้ไปรอที่หน้าห้ององค์อคิน ทันทีที่ทรง
รู้สึกพระองค์อีกครั้งให้รีบนำเสด็จมายังห้องสรงนี้” รับสั่งจบก็รีบเสด็จไปยังห้องพระบรรทมแห่งองค์อคินทันที
ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช
ภายในห้องพระบรรทม องค์อคินบรรทมอย่างสงบโดยไม่รู้สึกพระองค์ ว่าที่ราชินีเสด็จมาถึงก็มีรับสั่ง
ให้นางกำนัลกับทหารมหาดเล็กที่เฝ้าพระอาการอยู่ให้ออกไปรอหน้าห้อง สองพระบาทบอบบบางก้าวไปยัง
พระแท่นบรรทม ทอดพระเนตรพระพักตร์องค์อคิน สีพระพักตร์ดีขึ้นมากหากยังหมองคล้ำอยู่เพราะพิษที่ได้รับ
นิ้วพระหัตถ์เรียวงามนุ่มนิ่มค่อยๆปัดปลายพระเกศาที่ตกลงมาปิดพระนลาฏออก นับว่าหิรัณย์โชคดีที่องค์อคิน
ทรงรอดพ้นจากเงามัจจุราชมาได้ แต่ถ้าไม่รีบรักษาให้หายเป็นปกติภายในวันสองวันนี้ หิรัณย์อาจต้องพ่ายแพ้
ในการศึกที่อาจมีขึ้นในไม่ช้า สินธุไม่มีวันปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ ยามปกติทหารหิรัณย์ออกรบโดยมีจ้าวสุริยะ
อยู่เคียงข้างเสมอแต่ครั้งนี้อาจต้องออกรบโดยไม่มีจ้าวสุริยะ แม้มีชาครกับนักรบผู้กล้าชาวหิรัณย์อีกมากมาย
ที่พร้อมสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินก็ตามแต่การรบที่ปราศจากจ้าวสุริยะย่อมทำให้ขวัญและกำลังใจทหารลดทอนลงไป
ได้ไม่มากก็น้อย ดวงพักตร์งดงามค่อยๆขยับเข้าไปใกล้พระพักตร์คมเข้มที่ยังคงหมองคล้ำเพราะพิษอยู่แล้ว
ทรงกระซิบเบาๆ
“ได้เวลาแล้วเพคะ ตื่นเถอะเพคะ ทหารหิรัณย์รอพระองค์อยู่” พระหัตถ์บอบบางนุ่มนิ่มเขย่าพระวรกาย
สูงใหญ่เบาๆ เพื่อให้ทรงรู้สึกพระองค์ ได้ผลองค์อคินทรงลืมพระเนตรขึ้น สายพระเนตรทอดมองดวงพักตร์งดงาม
สดใสกับรอยยิ้มสวยสดงดงามที่ทอดมองมา สองพระหัตถ์แข็งแรงดึงวรกายงดงามบางอรชรให้ลงมาซบพระอุระ
กว้างใหญ่แข็งแกร่ง
“ขอบใจในความรัก ความห่วงใยที่มีต่อชาวหิรัณย์มากมาย สัญญานะจะไม่ร้องไห้อีก หม่อมฉัน
ไม่อยากเห็นน้ำตาองค์หญิงอีกต่อไป”
“ทรงรู้หรือไม่ หม่อมฉันกลัวแค่ไหน กลัวพระองค์จะทิ้งหม่อมฉันกับหิรัณย์ของพระองค์ไปจริงๆ
หม่อมฉันได้แต่วิงวอนขอคุณพระคุณเจ้าให้ช่วยนำชีวิตพระองค์กลับคืนมาสู่ชาวหิรัณย์”
“ไม่ใช่คืนสู่หัวใจองค์หญิงเหรอ หม่อมฉันได้ยินใครไม่รู้คร่ำครวญว่า ทรงลืมพระเนตรขึ้นสิเพคะ
องค์อคินของหม่อมฉัน” แม้พระอาการยังไม่สู้ดีแต่กลับมีพระอารมณ์ยั่วคนในอ้อมพระกรได้ คนในอ้อมพระกร
เริ่มฉุน พระหัตถ์น้อยๆทุบเบาๆบนพระอุระแข็งแกร่งก่อนค่อยๆขยับออกห่าง
“ถ้าหม่อมฉันรู้ว่า ทรงฟื้นแล้วจะร้ายกาจอย่างนี้ จะแช่งให้ตายไปเลย” สุรเสียงหวานเริ่มขุ่น
“แน่นะ... ” รับสั่งได้แค่นั้นทรงเริ่มหายใจขัด ว่าที่ราชินีทรงตกพระทัยรีบซบพระพักตร์งดงามลงแนบ
พระอุระแข็งแกร่งสองพระกรเรียวงามกอดพระวรกายสูงใหญ่ไว้แน่นกับสุรเสียงที่เริ่มสั่นเครือ
“ไม่นะ! อย่าทรงเป็นอะไรไปอีกนะ”
องค์อคินทรงพระสรวลเบาๆ พระหัตถ์แข็งแรงสวมกอดวรกายงดงามหอมละมุนไว้แน่น พระนาสิก
สูดดมความหอมจากคนในอ้อมพระกรด้วยพระพักตร์แช่มชื่นก่อนพระสุรเสียงล้อเลียนจะดังขึ้น
“จับคนโกหกได้แล้ว ห่วงหม่อมฉันมากอย่างนี้ ยังจะปากแข็งอีก” ดวงพักตร์งดงามสดใสเริ่มบึ้งตึงเมื่อ
รู้ว่าถูกคนเจ้าเล่ห์หลอกอีกแล้ว ขอให้เจ็บจริงๆเถอะทรงทั้งร้ายทั้งเจ้าเล่ห์ อาการดีขึ้นแล้วนี่ให้ทหารราชองค
รักษ์มาดูแลก็แล้วกัน พระหัตถ์เรียวงามทุบพระอุระแข็งแกร่งเบาๆแล้วขยับพระวรกายขึ้นยืน ก่อนทูลด้วยเสียง
ราบเรียบ
“ทรงหายดีแล้ว หม่อมฉันจะไปบอกทหารราชองครักษ์ให้พาพระองค์ไปขับพิษที่เหลือออก หม่อมฉัน
ขอตัว อย่าลืมนะเพคะต้องขับพิษออกให้หมดภายในคืนนี้ ห้ามโยกโย้ หม่อมฉันไปล่ะ”
องค์อคินทรงผิดหวังอย่างแรง ‘ไม่น่าเลยเรา’ ทรงคิดอย่างปลงๆ
จากนั้นทหารราชองครักษ์ก็มานำเสด็จไปยังห้องสรงเพื่อขับพิษที่ยั่งคั่งค้างในพระวรกาย
===================================================================
********ขอบคุณนะคะที่คอยติดตาม จะพยายามมาลงให้เรื่อย ๆ ค่ะ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
เพลงใบไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ธ.ค. 2559, 21:24:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ธ.ค. 2559, 21:24:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 933
<< ตอนที่ 14/3 | ตอนที่ 15/2 >> |
แว่นใส 15 ธ.ค. 2559, 07:58:19 น.
แกล้งไม่ถูกเวลา ก็เป็นงี้แหละ
แกล้งไม่ถูกเวลา ก็เป็นงี้แหละ
Zephyr 24 ธ.ค. 2559, 19:10:44 น.
งอนเลย
งอนเลย