โซ่รักสีรุ้ง
"เด็กคนนั้น...เป็นลูกใคร" ห้าปีผ่านมา เธอคิดว่าชินชากับความเจ็บปวดแล้ว แต่ความจริงความรู้สึกนั้นเพียงแต่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งหัวใจรอเวลาที่ใครสักคนจะกวนตะกอนนั้นขึ้นมา ให้เจ็บรวดร้าวยอกแสลงไปทั้งหัวใจ
Tags: ศศิภา,อรุณฉาย,ท้อง,หย่า,หนี,แต่งงาน,ศศิอักษร

ตอน: บทที่ ๑๑ {แผนการขั้นสุดท้าย ๒} ๒

ติ๊ง! เสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์ทำให้สายรุ้งต้องละมือจากการหวีผม หล่อนวางหวีลงบนโต๊ะแล้วหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมา

ข้อความที่ส่งมาทำให้หล่อนคลี่ยิ้ม ความดีใจและคิดถึงระบายอยู่บนวงหน้านวล

Da Da : โทษที ฉันเพิ่งว่าง แกทำไรอยู่

คนที่ส่งข้อความมาคือชฎาภรณ์ เพื่อนสนิทของสายรุ้งนั่นเอง แปดเก้าเดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่อีกฝ่ายไปต่อโทที่ญี่ปุ่น หล่อนก็แทบไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนผู้นี้อีกเลย เนื่องเพราะอีกฝ่ายเรียนหนัก หาเวลาแทบไม่ค่อยได้ ถึงกระนั้นหล่อนก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับชฎาภรณ์ผ่านทางเฟสบุ๊คบ้าง ไลน์บ้าง และเคยโทร.คุยกันสองสามครั้ง

ทุกเรื่องราวในชีวิตหล่อน ชฎาภรณ์รับรู้ทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่หล่อนเผลอตัวเผลอใจไปกับพนมกรด้วย

Rung : เพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังจะไปบริษัท

Da Da : อ้าว พ่อแกยอมให้แกออกจากบ้านแล้วเหรอ

Rung : อืม...คงเห็นว่าฉันอยู่ในโอวาทดีก็เลยยอมให้ฉันไปทำงานซะที

Da Da : แล้วเรื่องเมื่อคืนเป็นไง พี่กรของแกว่ายังไงบ้าง

Rung : ก็ไม่ว่าไง เขาบอกให้อดทน เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้คุณพ่อหายโกรธและยอมให้ฉันแต่งงานกับเขา

Da Da : โชคดีของแกที่เขารับผิดชอบ ฉันไม่อยากจะคิดเล้ย แกจะเป็นยังไงถ้าเขาฟันแล้วทิ้ง นี่ถ้าฉันอยู่ที่นั่นจะขอชกหน้าพี่กรของแกสักทีสองที

Rung : ดา... เรื่องมันผ่านมาแล้ว ความจริงฉันก็ผิด...ที่ยอมเขา

ต่างคนต่างเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนอีกฝ่ายจะส่งข้อความมาว่า

Da Da : ดูแกรักเขามากนะรุ้ง

สายรุ้งอ่านข้อความนั้นแล้วนิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนตอบ

Rung : ไม่รู้สิดา ไม่เคยมีใครมาจีบฉันเลย พี่กรเป็นคนแรกและคนเดียวที่มาจีบฉัน ฉันเลย...

Da Da : แกก็เลยตกหลุมรักเขาง่ายๆไง...ง่ายเกินไปด้วยซ้ำ

Rung : คงงั้นมั้ง...แกว่าพี่กรเขาไม่ดีเหรอ

ชฎาภร์ส่งสติ๊กเกอร์สาวน้อยหน้ายู่ยี่มาให้ ก่อนพิมพ์ข้อความตอบ

Da Da : ไม่รู้ว่ะ ดูๆ แล้วพี่เขาก็ดี เขาไม่เคยนอกใจแก เอาใจแกดูแลแกสารพัด ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง แต่...

Rung : แต่อะไร...

Da Da : ฉันมีลางสังหรณ์แปลกๆ

Rung : แปลกยังไง

Da Da : ช่างเถอะ อย่าสนใจเลย

แล้วชฎาภรณ์ก็ตัดบทด้วยการบอกว่ามีธุระต้องรีบไป และอวยพรให้หล่อนโชคดี

Da Da : แต่งงานเมื่อไหร่บอกด้วยนะเว้ย ถ้าฉันไปได้ฉันจะไป แต่ถ้าไปไม่ได้ฉันจะให้พี่วิธไปแทน

ชื่อ ‘พี่วิธ’ เรียกรอยระลึกในดวงตาคู่สวยได้...เขาคือลูกพี่ลูกน้องของชฏาภรณ์ และหล่อนก็รู้จักมาตั้งแต่อยู่ประถม เคยพบหน้าพูดคุยกันอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งหล่อนขึ้นชั้นมัธยมปลาย จึงค่อยๆ ห่างกันไป อาจเพราะเรียนหนักและภาระหน้าที่ของแต่ละคน ทำให้ห่างกันไปโดยปริยาย

ล่าสุดที่หล่อนได้ข่าวของเขาก็จากปากของชฎาภรณ์

‘พี่วิธไปทำงานที่เชียงใหม่ตั้งแต่ต้นปีแล้ว นี่ฉันยังไม่ได้บอกแกเหรอ’

‘ก็ยังน่ะสิ ถึงว่ามาหาแกทีไรไม่เคยเจอพี่วิธเลยสักครั้ง...แล้วพี่วิธไปทำอะไรที่นู่นล่ะ’

‘ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง...ดูไม่ค่อยมีเวลา สงสัยกิจการจะไปได้สวย’

สายรุ้งรู้เพียงแค่นั้น และไม่ได้ถามต่อ จนป่านนี้ผ่านมาสองปี ‘พี่วิธ’ จะยังอยู่ที่เชียงใหม่ ถ้าอยู่หล่อนก็อยากจะถามที่เที่ยวดีๆ สักแห่ง เผื่อว่าหล่อนกับพนมกรจะหาเวลาไปเที่ยวที่โน่นบ้าง

Rung : จริงสิ ฉันว่าจะถามนานแล้วก็ลืม พี่วิธยังอยู่ที่เชียงใหม่หรือเปล่า

ชฎาภรณ์ไม่ได้ตอบ คงมีงานด่วนจริงๆ สายรุ้งจึงกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ วางลงบนโต๊ะ แล้วหยิบหวีขึ้นมาหวีผมต่อ

ผมของหล่อนยังคงหยักศกหน่อยๆ หล่อนจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ตัดผมคือวันสอบวันสุดท้าย แต่ก็เพียงแค่เล็มปลายผมออกเท่านั้น ผ่านพ้นมาหนึ่งปี ผมของหล่อนจึงยาวขึ้นๆ รู้สึกตัวอีกทีก็ยาวเลยเอวไปเสียแล้ว

นับตั้งแต่จำความได้ หล่อนชอบไว้ผมสั้น เพราะหล่อนรู้สึกผมยาวมันดูฟูฟ่องและกระเซิงเกินไป

จนกระทั่งได้รู้จักกับพนมกร เขาไม่รังเกียจผมของหล่อน ตรงกันข้าม เขามักจะจับมันอยู่บ่อยๆ ลูบบ้าง กำบ้าง เอาไปเกี่ยวนิ้วเล่นบ้าง วันดีคืนดีก็หอมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

‘ใครจะว่ายังไงพี่ไม่รู้หรอกนะ แต่ในสายตาพี่ผมของรุ้งไม่ได้ดูแย่เลย ทั้งนุ่มทั้งหนา...หอมด้วย พี่ซุกหน้าหอมได้ทุกวัน’

เมื่อคืนนี้ เขาก็ซบใบหน้าลงบนผมของหล่อน หลังจากที่หล่อนห้ามปรามไม่ให้เขากอด จูบและกอดหล่อน

‘ทำไมล่ะคะ’

‘ไม่ได้ค่ะ รุ้งไม่อยากทำผิดต่อคุณพ่ออีก แล้วก็...รุ้งเหม็น’

‘เหม็น?’

‘พี่กรสูบบุหรี่อีกแล้ว’

เขาทำหน้าสลด พึมพำขอโทษสามสี่ครั้ง

‘ก็พี่คิดถึงรุ้ง โอเค! พี่จะพยายามไม่สูบอีก’

‘พยายาม?’

‘ค่ะ...พยายาม จนกว่าเราจะได้แต่งงานกัน พี่ไม่แน่ใจว่าจะห้ามตัวเองไหวหรือเปล่า’

จากนั้นเขาก็ขอหล่อน

‘งั้นไม่กอด ไม่จูบ แต่ขอแค่...หอมผมรุ้งก็ได้ นะคะ...คืนนี้พี่จะได้นอนฝันดี’

สุ้มเสียงและแววตาออดอ้อนของเขาทำให้หล่อนใจอ่อน พยักหน้าอนุญาต เขาจึงได้ซุกซบใบหน้ากับผมของหล่อนอยู่นานทีเดียว...นานเสียจนหล่อนเมื่อยไปหมดทั้งตัวเพราะเอาแต่ยืนเกร็ง

เขาถึงกับหัวเราะ

‘กลัวพี่มากหรือคะ’ เขาเงยหน้า มองหล่อนด้วยแววตาขบขัน ‘พี่บอกแล้วว่าจะไม่ทำอะไรก็ไม่ทำอะไรสิคะ รุ้งน่าจะเชื่อพี่สิ’

‘ก็...เชื่อค่ะ’

‘แต่ก็กลัว?’

แล้วเขาก็หัวเราะ เสียงหัวเราะของเขายังดังก้องอยู่ในหัวของหล่อน

สายรุ้งคิดถึงเสียงนี้ เสียงอันสดใสกังวานเปี่ยมด้วยเสน่ห์

ก่อนจากกัน หล่อนบอกกับเขาว่า

‘พรุ่งนี้รุ้งจะไปทำงานแล้วนะคะ’

แววตาของเขายินดีอย่างเห็นได้ชัด

‘ไปยังไงคะ นายพันยังไม่หายดีไม่ใช่หรือคะ’

‘คุณพ่อให้คุณศิมารับค่ะ’

ใบหน้าเปื้อนยิ้มหุบฉับลงทันควัน พร้อมกับแววตาข่นเคืองที่หล่อนไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร

‘แล้วตอนกลับล่ะ’

‘คุณศิเหมือนกันค่ะ’

‘อะไรกัน! ทำไมต้องให้...’ เขาสะอึก เหมือนห้ามตัวเองไม่ให้โพล่งบางคำออกมา ‘คุณศิวนาถมารับมาส่งรุ้งด้วย คนอื่นที่ขับรถเป็นไม่มีแล้วหรือ’

‘มีลุงสมัยอีกคน แต่คุณลุงต้องไปส่งคุณพ่อค่ะ ส่วนพี่ฝน...ก็นอนที่คอนโด ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ’

ดูเขาจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็จนใจ ได้แต่ซบหน้าลงกับผมของหล่อนแล้วเอ่ย

‘เจอกันพรุ่งนี้นะรุ้ง’

เขาบอกแค่นั้น ไม่ได้ขยายความว่าเจอที่ไหน หรือเมื่อไร

กระทั่งเช้าวันนี้ เมื่อหล่อนนั่งรถศิวนาถผ่านประตูใหญ่ รถของเขาจอดอยู่อีกฝั่งหนึ่ง กระจกเปิดอยู่ ทำให้หล่อนเห็นเขาชัดเจน

พนมกรนั่งพิงเบาะ หันหน้ามาทางหล่อน...ไม่แน่ใจว่ามองหล่อนหรือเปล่า เพราะเขาสวมแว่นกันแดดหล่อนจึงไม่เห็นแววตาของเขา

สายรุ้งนั่งตัวแข็งทื่อ เผยอริมฝีปากเสมือนจะเอ่ยอะไร แต่ยังไม่ทันได้โพล่งมันออกมา ศิวนาถก็เหยียบคันเร่งพารถแล่นจากไปอย่างรวดเร็ว

รถของพนมกรจึงห่างออกไป...ห่างออกไป...จนลับสายตา








ศศิภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ธ.ค. 2559, 11:12:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ธ.ค. 2559, 11:12:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 958





<< บทที่ ๑๑ {แผนการขั้นสุดท้าย ๒} ๑   บทที่ ๑๑ {แผนการขั้นสุดท้าย ๒} ๓ >>
Zephyr 18 ธ.ค. 2559, 22:22:35 น.
พยายามเข้าๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account