เกมรักบรรณาการร้อน ชุดรักเร่าร้อน
Tags: เกมรักบรรณาการร้อน, มายา, รักเร่าร้อน, นิยายรัก, บำเรอ, หลงรัก
ตอน: ตอนที่ 3 บุญคุณกับความจริงที่ได้รู้ (ครึ่งแรก)
3
บุญคุณกับความจริงที่ได้รู้
แม้พิธีฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นและผ่านพ้นไปแล้ว แต่บรรยายความหมองเศร้ายังปกคลุมไปทุกย่างก้าวของไออุ่น หมดแล้วคนเป็นที่พึ่งทางใจ คนที่คอยปลอบโยนให้ความรักความอบอุ่น ต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้ว เหลือเพียงเธอที่โดดเดี่ยวเดียวดาย คิดแล้วน้ำตาที่เพิ่งเหือดแห้งไปก็ไหลออกมาราวกับทำนบแตกอีกครั้ง
ปริ๊น! ปริ๊น! ปริ๊น!
เสียงบีบแตรรถดังลั่นหน้าบ้าน ทำให้ร่างบางที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ค่อยๆ ขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบทยกมือปาดน้ำตา แล้วลุกขึ้นเดินออกไปดูว่าใครมา และพอเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดประตูพลางเช็ดหน้าเช็ดตาที่แดงก่ำ
“สวัสดีค่ะ” ไออุ่นยกมือไหว้คนเป็นแม่ ที่ตั้งแต่ยายจากไปรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับนางจะดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
“สวัสดี เป็นยังไงบ้าง”
ไออุ่นก้มหน้ายิ้มปากสั่นๆ ก่อนน้ำตาจะรื่นและไหลออกอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ อีกครั้ง เห็นแล้วนางมาลัยก็ได้แต่พูดปลอบ “ทำใจเถอะยายเขาไปสบายแล้ว”
“ค่ะ” รับคำพลางสะอื้นใช้หลังมือเช็ดน้ำหูน้ำตาป้อยๆ ไม่ต่างกับเด็ก “ว่าแต่คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ…”
นางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อยที่จะต้องมาคาดคั้นลูกสาวในสภาวะจิตใจแบบนี้ ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่มีทางเลือก
“ฉันจะมาถามเรื่องที่เคยพูดกับเธอเอาไว้” แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ และก็เป็นนางมาลัยที่เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้คิดจะเร่งรัดอะไรหรอกนะ แต่เธอเป็นผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวดูแล้วไม่ค่อยจะปลอดภัย”
“ขอบคุณค่ะ แต่สำหรับฉันไม่ที่ไหนปลอดภัยเท่าที่นี้อีกแล้ว”
“นี่หมายความว่า…” เห็นคนเป็นแม่ถามเสียงตึงชักสีหน้าออกอาการไม่พอใจ ไออุ่นจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“เรื่องวันนั้นฉันคิดทบทวนอยู่เหมือนกันค่ะ” บอกออกไปเสียไม่ได้ทั้งทีใจจริงแล้วเธอลืมเรื่องนี้ไปสนิทในหัวมีแต่เรื่องยายที่เสียชีวิตไปเท่านั้น
“แล้วตกลงว่าไง”
“ตอนนี้ไม่มียายที่ต้องเป็นห่วง ชีวิตจะขึ้นสูงหรือตกต่ำฉันก็ไม่กังวลอีกแล้ว นอกจากนั้นฉันก็ยังจะได้ตอบแทนบุญคุณคุณด้วย ไม่มีเหตุผลไหนที่ต้องปฏิเสธจริงไหมคะ”
แม้จะโดนพูดแดกดัน แต่นางมาลัยก็ไม่คิดจะเอามาใส่ใจ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางยังคงเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ตบอกตัวเองเบาๆ อย่างโล่งใจ ในที่สุดนางก็ทำสำเร็จ
“เธอคิดถูกแล้วละ ยังไงก็ขอบใจเพราะหุ้นส่วนคนนี้สำคัญกับบริษัทของสามีฉันมากๆ”
ไออุ่นยิ้มหยันรู้สึกเวทนากับชีวิตตัวเองสิ้นดี มีแม่ก็เหมือนไม่มี แม่ผู้ไม่เคยเหลียวแล มาเหลียวแลก็ต่อเมื่อจะใช้ประโยชน์จากเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ เอาเป็นว่าฉันขอจัดการเรื่องลาออกจากงานให้เรียบร้อยก่อนแล้วกันนะคะ”
“แล้วบ้านหลังนี้ล่ะ”
ไออุ่นเอี้ยวตัวกลับไปมองบ้านหลังเล็กแต่คุกรุ่นไปด้วยความอบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำในวันวานแล้วทำหน้าสลด
“คิดว่าจะให้คนเช่าน่ะคะ” นางมาลัยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ก็ดี เคลียร์เรื่องต่างๆ เสร็จแล้วโทร.หาฉันแล้วกันนะ ฉันขอเป็นพรุ่งนี้หรือไม่ก็มะรืนนี้นะ มีเบอร์ไหม” ถามเผื่อไปอย่างนั้น แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้คนถามถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน
“ไม่มีค่ะ”
นางมาลัยกะพริบตาปริบๆ ยกมือขึ้นแตะหน้าผากเรียกสติแล้วรีบเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรมายื่นให้กับลูกสาวในไส้ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของตน
“อย่าลืมโทร.มาละ ฉันแวะมาแค่นี้แหละ คงต้องไปแล้วมีธุระที่อื่นต่อ ไปนะ”
ไออุ่นยกมือไหว้ลา ยืนนิ่งมองมารดาขึ้นรถแล้วขับออกจนลับสายตา จากนั้นถึงได้มีโอกาสยกนามบัตรในมือขึ้นมาพิจารณา ดวงตากลมโตหากแต่ช้ำแดงก่ำกวาดสามองและอ่านมันคราวๆ พลิกซ้ายพลิกขวาแล้วยัดมันใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เห็นทีวันนี้เธอมีหลายอย่างที่ต้องรีบทำ
และในเช้าวันรุ่งขึ้นไออุ่นก็จัดการยื่นใบลาออกแบบปัจจุบันทันด่วนสร้างความตกใจให้ทั้งกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวิทยาหรือไอซ์เพื่อนสาวประเภทสองคนสนิท
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ” วิทยาแผดเสียง ขณะมาช่วยเพื่อนเก็บข้าวของ “แกลาออกทำไม”
“ไปช่วยงานแม่”
“แม่!”
“อื้อหึ”
“แม่แกยังอยู่เหรอ”
ถามพลางขยับเข้าไปชิดอีกฝ่ายอย่างสนใจใคร่รู้ “ฉันขอโทษนะ นึกว่าแม่แกไม่อยู่บนโลกนี้เสียอีก ไปที่บ้านไม่เคยเห็นแกกับคุณยายเอ่ยถึงสักที”
“เขาแต่งงานมีครอบครัวใหม่แล้ว นานๆ จะมาที่บ้านสักครั้ง ฉันเองยังไม่ค่อยจะได้เจอเลย”
“อย่างนั้นเองเหรอ แต่ก็ดีไม่มีคุณยายแล้ว แกยังมีแม่” ได้ยินอย่างนั้นแล้วไออุ่นก็ได้แต่ยิ้มรับก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อโดยไม่พูดอะไร ก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีที่มีแม่แบบนี้
“อ้อ แล้วบ้านแกล่ะ” ถามอย่างเพิ่งนึกได้
“ฉันว่าจะประกาศให้เช่า”
“จริงเหรอ งั้นให้ฉันเช่าได้ไหม” วิทยามองหน้าเพื่อนสนิทพร้อมกับพยักหน้าอย่างจริงจัง “แกจะเอาจริงเหรอ”
“จริงสิ ฉันกำลังคิดเรื่องนี้อยู่พอดีเลย เบื่อห้องข้างๆ ฆ่ากันได้ทุกวัน ไร้ซึ่งความสงบ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่เว้นฉันละเบื่อ”
“ถ้างั้นก็ดีเลย ที่จริงก็หนักใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกันกลัวได้คนที่ไม่ดีไม่รู้จักรักษาของมาเช่า แต่ถ้าเป็นแกฉันก็สบายใจหายห่วงเลยละ ตกลงแกเอาน่ะ”
“เอาสิ แต่ฉันขอย้ายเข้ามาอยู่สิ้นเดือนหน้าน่ะ ไม่อยากย้ายกะทันหันเสียดายค่ามัดจำห้องตั้งหลายพันแน่ะ”
“ได้ จะมาวันไหนโทร.บอกละกันฉันจะเอากุญแจบ้านมาให้พร้อมกับมาช่วยขนของ”
พูดด้วยท่าทีโล่งใจที่จัดการเรื่องบ้านเสร็จไปอีกเรื่อง แต่นี้แค่เรื่องเล็กน้อยยิบย่อย ส่วนเรื่องที่หนักอึ้งในใจนั้นคงหนีไม่พ้นงานที่แม่จ้างให้ไปทำ
“ตามนั้น…แต่ตอนนี้ฉันช่วยแกขนของก่อนละกัน และเที่ยงนี้หล่อนเลี้ยงข้าวฉันด้วยนะยะ” ชี้นิ้วกรีดกราดจีบปากจีบคอสั่ง
“ทำดีหวังผลนี่น่า” ล้อเสียงกลั้วหัวเราะ
“แน่นอน วันนี้เก็บของในที่ทำงานขอแค่เลี้ยงข้าว แต่วันที่แกย้ายบ้านฉันไปช่วยแกต้องเลี้ยงฉันด้วยผู้ชายนะยะหล่อน”
ว่าแล้วกะเทยร่างยักษ์ก็ทำท่าทางตัวสั่นตาลอยเคลิ้มประกอบคำพูด เห็นแล้วไออุ่นก็อดที่จะหัวเราะคิกออกมาไม่ได้ ความเศร้าที่เกาะกุมหัวใจรู้สึกทุเลาลงมาบ้างแม้จะเล็กน้อย มันก็สามารถทำให้หญิงสาวรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกนิด ทิ้งท้ายก่อนจากนี้ไปเธอไม่รู้ว่ารอยยิ้มเหล่านี้จะมีโอกาสปรากฏบนใบหน้าอีกไหม หนทางข้างหน้ามันช่างมืดมนเสียเหลือเกิน!
บ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่กว้าง คาดคะเนจากสายตาคร่าวๆ มันคงกว่างกว่าพื้นที่ในบ้านของเธอสี่ถึงห้าเท่าได้ละมั้งและขนาดของบ้านนั้นไม่ต้องพูดถึง คฤหาสถ์กับรูหนูดีๆ นี่เอง ไออุ่นปิดประตูรถที่ตัวเองเพิ่งก้าวลง ขณะที่สายตานั้นยังคงกวาดสำรวจบ้านหลังใหญ่โตของพ่อเลี้ยงไม่ยอมวางตา
“เข้าข้างในกันเถอะ”
ไออุ่นหันรีหันขวางมองไปที่ท้ายรถ อย่างต้องการบอกว่าข้าวของเธอล่ะ และนางมาลัยเหมือนจะอ่านท่าทางนั้นออกจึงหันมาบอก “ไม่ต้องเอาลงหรอก เดี๋ยวก็ต้องเสียเวลาขนขึ้นอีก” หญิงสาวเม้มปากพลางพยักหน้ารับ นี้กะจะไม่ให้เธอหายใจหายคอเลยหรือไง คิดจะใช้ประโยชน์ก็ใช้เอาใช้เอา คิดก่อนเดินตามหลังมารดาเข้าไปข้างใน
ที่ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ผิดหวังมันดูหรูหราไม่ต่างกับภายนอก และดูหรูหราเสียจนเธอรู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง
“หาน้ำและของว่างมารับรองแขกด้วย”
นางบอกเด็กรับใช้ ก่อนจะหันมาพูดกับลูกสาว “ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการให้เสร็จ เธอก็นั่งเล่นเดินเล่นในบ้านไปก่อนนะ อีกสักพักใหญ่ๆ ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้านคุณไมก้าห์”
และไม่รอให้อีกฝ่ายซักถามข้อสงสัย พูดจบนางมาลัยก็เดินขึ้นข้างบน ปล่อยให้ไออุ่นอ้าปากค้าง ยืนเคว้งอยู่ในห้องรับแขกกว้างเพียงลำพัง
หญิงสาวถอนหายใจแล้วส่ายหน้า มองซ้ายมองขวานั่งเล่นเดินเล่นเหรอ ใครจะไปกล้า จู่ๆ เกิดของหายขึ้นมาลูกชังอย่างเธอมิซวยหรือ คิดแล้วก็ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาที่ดูจะนิ่มดีเหลือเกิน จากนั้นก็หยิบหนังสือที่ถูกวางอย่างเป็นระเบียบที่ชั้นล่างของโต๊ะขึ้นมาเปิดอ่าน และในตอนนั้นเองเด็กรับใช้ในบ้านก็ยกน้ำหวานพร้อมขนมมาวาง
“ขนมกับน้ำค่ะคุณอุ่น” เจ้าของชื่อละสายตาจากหนังสือในมือหันมาเลิกคิ้วมองคนที่นั่งยิ้มแฉ่งอยู่กับพื้นอย่างประหลาดใจ
“รู้จักชื่อฉันได้ไงจ๊ะ”
“ก็คุณผู้หญิงบอกก่อนจะออกจากบ้านค่ะว่าจะไปรับคุณอุ่นค่ะ”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง นึกว่ามีความสามารถพิเศษแค่มองหน้าก็รู้ชื่อ”
ล้อเสียงกลั้วหัวเราะดูท่าทางเป็นกันเองไม่ถือตัวทำให้ เด็กสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นใจกล้าถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยตั้งแต่เห็นสาวสวยตรงหน้า
“คุณอุ่นเป็นญาติกับคุณผู้หญิงเหรอคะ” คนถูกถามถึงกับนิ่งขึงไปครู่หนึ่ง “ก็…ไม่เชิง ทำไมเหรอจ๊ะ”
“ก็คุณอุ่นหน้าตาถอดแบบมาจากคุณผู้หญิงเลยนี่คะ ไม่ญาติก็ลูก แต่คุณผู้หญิงไม่มีลูกงั้นก็ต้องเป็นญาติสินะคะ”
คำพูดพาซื่อทำให้คนฟังถึงกับสะอึก น้ำตาตกใน เมื่อได้มารู้ว่าในชีวิตปัจจุบันของคนเป็นแม่ไม่เคยมีลูกอย่างเธออยู่ในสารระบบ
***********************************************************************************************************************
ดาวโหลด E-book ได้ที่
- เวบ MEB
- เวบ hytexs
- เวบ ebook
บุญคุณกับความจริงที่ได้รู้
แม้พิธีฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นและผ่านพ้นไปแล้ว แต่บรรยายความหมองเศร้ายังปกคลุมไปทุกย่างก้าวของไออุ่น หมดแล้วคนเป็นที่พึ่งทางใจ คนที่คอยปลอบโยนให้ความรักความอบอุ่น ต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้ว เหลือเพียงเธอที่โดดเดี่ยวเดียวดาย คิดแล้วน้ำตาที่เพิ่งเหือดแห้งไปก็ไหลออกมาราวกับทำนบแตกอีกครั้ง
ปริ๊น! ปริ๊น! ปริ๊น!
เสียงบีบแตรรถดังลั่นหน้าบ้าน ทำให้ร่างบางที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ค่อยๆ ขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบทยกมือปาดน้ำตา แล้วลุกขึ้นเดินออกไปดูว่าใครมา และพอเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดประตูพลางเช็ดหน้าเช็ดตาที่แดงก่ำ
“สวัสดีค่ะ” ไออุ่นยกมือไหว้คนเป็นแม่ ที่ตั้งแต่ยายจากไปรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับนางจะดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
“สวัสดี เป็นยังไงบ้าง”
ไออุ่นก้มหน้ายิ้มปากสั่นๆ ก่อนน้ำตาจะรื่นและไหลออกอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ อีกครั้ง เห็นแล้วนางมาลัยก็ได้แต่พูดปลอบ “ทำใจเถอะยายเขาไปสบายแล้ว”
“ค่ะ” รับคำพลางสะอื้นใช้หลังมือเช็ดน้ำหูน้ำตาป้อยๆ ไม่ต่างกับเด็ก “ว่าแต่คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ…”
นางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อยที่จะต้องมาคาดคั้นลูกสาวในสภาวะจิตใจแบบนี้ ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่มีทางเลือก
“ฉันจะมาถามเรื่องที่เคยพูดกับเธอเอาไว้” แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ และก็เป็นนางมาลัยที่เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้คิดจะเร่งรัดอะไรหรอกนะ แต่เธอเป็นผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวดูแล้วไม่ค่อยจะปลอดภัย”
“ขอบคุณค่ะ แต่สำหรับฉันไม่ที่ไหนปลอดภัยเท่าที่นี้อีกแล้ว”
“นี่หมายความว่า…” เห็นคนเป็นแม่ถามเสียงตึงชักสีหน้าออกอาการไม่พอใจ ไออุ่นจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“เรื่องวันนั้นฉันคิดทบทวนอยู่เหมือนกันค่ะ” บอกออกไปเสียไม่ได้ทั้งทีใจจริงแล้วเธอลืมเรื่องนี้ไปสนิทในหัวมีแต่เรื่องยายที่เสียชีวิตไปเท่านั้น
“แล้วตกลงว่าไง”
“ตอนนี้ไม่มียายที่ต้องเป็นห่วง ชีวิตจะขึ้นสูงหรือตกต่ำฉันก็ไม่กังวลอีกแล้ว นอกจากนั้นฉันก็ยังจะได้ตอบแทนบุญคุณคุณด้วย ไม่มีเหตุผลไหนที่ต้องปฏิเสธจริงไหมคะ”
แม้จะโดนพูดแดกดัน แต่นางมาลัยก็ไม่คิดจะเอามาใส่ใจ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางยังคงเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ตบอกตัวเองเบาๆ อย่างโล่งใจ ในที่สุดนางก็ทำสำเร็จ
“เธอคิดถูกแล้วละ ยังไงก็ขอบใจเพราะหุ้นส่วนคนนี้สำคัญกับบริษัทของสามีฉันมากๆ”
ไออุ่นยิ้มหยันรู้สึกเวทนากับชีวิตตัวเองสิ้นดี มีแม่ก็เหมือนไม่มี แม่ผู้ไม่เคยเหลียวแล มาเหลียวแลก็ต่อเมื่อจะใช้ประโยชน์จากเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ เอาเป็นว่าฉันขอจัดการเรื่องลาออกจากงานให้เรียบร้อยก่อนแล้วกันนะคะ”
“แล้วบ้านหลังนี้ล่ะ”
ไออุ่นเอี้ยวตัวกลับไปมองบ้านหลังเล็กแต่คุกรุ่นไปด้วยความอบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำในวันวานแล้วทำหน้าสลด
“คิดว่าจะให้คนเช่าน่ะคะ” นางมาลัยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ก็ดี เคลียร์เรื่องต่างๆ เสร็จแล้วโทร.หาฉันแล้วกันนะ ฉันขอเป็นพรุ่งนี้หรือไม่ก็มะรืนนี้นะ มีเบอร์ไหม” ถามเผื่อไปอย่างนั้น แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้คนถามถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน
“ไม่มีค่ะ”
นางมาลัยกะพริบตาปริบๆ ยกมือขึ้นแตะหน้าผากเรียกสติแล้วรีบเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรมายื่นให้กับลูกสาวในไส้ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของตน
“อย่าลืมโทร.มาละ ฉันแวะมาแค่นี้แหละ คงต้องไปแล้วมีธุระที่อื่นต่อ ไปนะ”
ไออุ่นยกมือไหว้ลา ยืนนิ่งมองมารดาขึ้นรถแล้วขับออกจนลับสายตา จากนั้นถึงได้มีโอกาสยกนามบัตรในมือขึ้นมาพิจารณา ดวงตากลมโตหากแต่ช้ำแดงก่ำกวาดสามองและอ่านมันคราวๆ พลิกซ้ายพลิกขวาแล้วยัดมันใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เห็นทีวันนี้เธอมีหลายอย่างที่ต้องรีบทำ
และในเช้าวันรุ่งขึ้นไออุ่นก็จัดการยื่นใบลาออกแบบปัจจุบันทันด่วนสร้างความตกใจให้ทั้งกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวิทยาหรือไอซ์เพื่อนสาวประเภทสองคนสนิท
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ” วิทยาแผดเสียง ขณะมาช่วยเพื่อนเก็บข้าวของ “แกลาออกทำไม”
“ไปช่วยงานแม่”
“แม่!”
“อื้อหึ”
“แม่แกยังอยู่เหรอ”
ถามพลางขยับเข้าไปชิดอีกฝ่ายอย่างสนใจใคร่รู้ “ฉันขอโทษนะ นึกว่าแม่แกไม่อยู่บนโลกนี้เสียอีก ไปที่บ้านไม่เคยเห็นแกกับคุณยายเอ่ยถึงสักที”
“เขาแต่งงานมีครอบครัวใหม่แล้ว นานๆ จะมาที่บ้านสักครั้ง ฉันเองยังไม่ค่อยจะได้เจอเลย”
“อย่างนั้นเองเหรอ แต่ก็ดีไม่มีคุณยายแล้ว แกยังมีแม่” ได้ยินอย่างนั้นแล้วไออุ่นก็ได้แต่ยิ้มรับก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อโดยไม่พูดอะไร ก็ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีที่มีแม่แบบนี้
“อ้อ แล้วบ้านแกล่ะ” ถามอย่างเพิ่งนึกได้
“ฉันว่าจะประกาศให้เช่า”
“จริงเหรอ งั้นให้ฉันเช่าได้ไหม” วิทยามองหน้าเพื่อนสนิทพร้อมกับพยักหน้าอย่างจริงจัง “แกจะเอาจริงเหรอ”
“จริงสิ ฉันกำลังคิดเรื่องนี้อยู่พอดีเลย เบื่อห้องข้างๆ ฆ่ากันได้ทุกวัน ไร้ซึ่งความสงบ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่เว้นฉันละเบื่อ”
“ถ้างั้นก็ดีเลย ที่จริงก็หนักใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกันกลัวได้คนที่ไม่ดีไม่รู้จักรักษาของมาเช่า แต่ถ้าเป็นแกฉันก็สบายใจหายห่วงเลยละ ตกลงแกเอาน่ะ”
“เอาสิ แต่ฉันขอย้ายเข้ามาอยู่สิ้นเดือนหน้าน่ะ ไม่อยากย้ายกะทันหันเสียดายค่ามัดจำห้องตั้งหลายพันแน่ะ”
“ได้ จะมาวันไหนโทร.บอกละกันฉันจะเอากุญแจบ้านมาให้พร้อมกับมาช่วยขนของ”
พูดด้วยท่าทีโล่งใจที่จัดการเรื่องบ้านเสร็จไปอีกเรื่อง แต่นี้แค่เรื่องเล็กน้อยยิบย่อย ส่วนเรื่องที่หนักอึ้งในใจนั้นคงหนีไม่พ้นงานที่แม่จ้างให้ไปทำ
“ตามนั้น…แต่ตอนนี้ฉันช่วยแกขนของก่อนละกัน และเที่ยงนี้หล่อนเลี้ยงข้าวฉันด้วยนะยะ” ชี้นิ้วกรีดกราดจีบปากจีบคอสั่ง
“ทำดีหวังผลนี่น่า” ล้อเสียงกลั้วหัวเราะ
“แน่นอน วันนี้เก็บของในที่ทำงานขอแค่เลี้ยงข้าว แต่วันที่แกย้ายบ้านฉันไปช่วยแกต้องเลี้ยงฉันด้วยผู้ชายนะยะหล่อน”
ว่าแล้วกะเทยร่างยักษ์ก็ทำท่าทางตัวสั่นตาลอยเคลิ้มประกอบคำพูด เห็นแล้วไออุ่นก็อดที่จะหัวเราะคิกออกมาไม่ได้ ความเศร้าที่เกาะกุมหัวใจรู้สึกทุเลาลงมาบ้างแม้จะเล็กน้อย มันก็สามารถทำให้หญิงสาวรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกนิด ทิ้งท้ายก่อนจากนี้ไปเธอไม่รู้ว่ารอยยิ้มเหล่านี้จะมีโอกาสปรากฏบนใบหน้าอีกไหม หนทางข้างหน้ามันช่างมืดมนเสียเหลือเกิน!
บ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่กว้าง คาดคะเนจากสายตาคร่าวๆ มันคงกว่างกว่าพื้นที่ในบ้านของเธอสี่ถึงห้าเท่าได้ละมั้งและขนาดของบ้านนั้นไม่ต้องพูดถึง คฤหาสถ์กับรูหนูดีๆ นี่เอง ไออุ่นปิดประตูรถที่ตัวเองเพิ่งก้าวลง ขณะที่สายตานั้นยังคงกวาดสำรวจบ้านหลังใหญ่โตของพ่อเลี้ยงไม่ยอมวางตา
“เข้าข้างในกันเถอะ”
ไออุ่นหันรีหันขวางมองไปที่ท้ายรถ อย่างต้องการบอกว่าข้าวของเธอล่ะ และนางมาลัยเหมือนจะอ่านท่าทางนั้นออกจึงหันมาบอก “ไม่ต้องเอาลงหรอก เดี๋ยวก็ต้องเสียเวลาขนขึ้นอีก” หญิงสาวเม้มปากพลางพยักหน้ารับ นี้กะจะไม่ให้เธอหายใจหายคอเลยหรือไง คิดจะใช้ประโยชน์ก็ใช้เอาใช้เอา คิดก่อนเดินตามหลังมารดาเข้าไปข้างใน
ที่ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ผิดหวังมันดูหรูหราไม่ต่างกับภายนอก และดูหรูหราเสียจนเธอรู้สึกว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดทาง
“หาน้ำและของว่างมารับรองแขกด้วย”
นางบอกเด็กรับใช้ ก่อนจะหันมาพูดกับลูกสาว “ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการให้เสร็จ เธอก็นั่งเล่นเดินเล่นในบ้านไปก่อนนะ อีกสักพักใหญ่ๆ ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้านคุณไมก้าห์”
และไม่รอให้อีกฝ่ายซักถามข้อสงสัย พูดจบนางมาลัยก็เดินขึ้นข้างบน ปล่อยให้ไออุ่นอ้าปากค้าง ยืนเคว้งอยู่ในห้องรับแขกกว้างเพียงลำพัง
หญิงสาวถอนหายใจแล้วส่ายหน้า มองซ้ายมองขวานั่งเล่นเดินเล่นเหรอ ใครจะไปกล้า จู่ๆ เกิดของหายขึ้นมาลูกชังอย่างเธอมิซวยหรือ คิดแล้วก็ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาที่ดูจะนิ่มดีเหลือเกิน จากนั้นก็หยิบหนังสือที่ถูกวางอย่างเป็นระเบียบที่ชั้นล่างของโต๊ะขึ้นมาเปิดอ่าน และในตอนนั้นเองเด็กรับใช้ในบ้านก็ยกน้ำหวานพร้อมขนมมาวาง
“ขนมกับน้ำค่ะคุณอุ่น” เจ้าของชื่อละสายตาจากหนังสือในมือหันมาเลิกคิ้วมองคนที่นั่งยิ้มแฉ่งอยู่กับพื้นอย่างประหลาดใจ
“รู้จักชื่อฉันได้ไงจ๊ะ”
“ก็คุณผู้หญิงบอกก่อนจะออกจากบ้านค่ะว่าจะไปรับคุณอุ่นค่ะ”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง นึกว่ามีความสามารถพิเศษแค่มองหน้าก็รู้ชื่อ”
ล้อเสียงกลั้วหัวเราะดูท่าทางเป็นกันเองไม่ถือตัวทำให้ เด็กสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นใจกล้าถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยตั้งแต่เห็นสาวสวยตรงหน้า
“คุณอุ่นเป็นญาติกับคุณผู้หญิงเหรอคะ” คนถูกถามถึงกับนิ่งขึงไปครู่หนึ่ง “ก็…ไม่เชิง ทำไมเหรอจ๊ะ”
“ก็คุณอุ่นหน้าตาถอดแบบมาจากคุณผู้หญิงเลยนี่คะ ไม่ญาติก็ลูก แต่คุณผู้หญิงไม่มีลูกงั้นก็ต้องเป็นญาติสินะคะ”
คำพูดพาซื่อทำให้คนฟังถึงกับสะอึก น้ำตาตกใน เมื่อได้มารู้ว่าในชีวิตปัจจุบันของคนเป็นแม่ไม่เคยมีลูกอย่างเธออยู่ในสารระบบ
***********************************************************************************************************************
ดาวโหลด E-book ได้ที่
- เวบ MEB
- เวบ hytexs
- เวบ ebook
![](/images/icons/871.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ธ.ค. 2559, 17:28:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ธ.ค. 2559, 17:28:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 703
<< ตอนที่ 2 สิ่งที่สูญเสียไปกับสิ่งที่ได้มา (ครึ่งหลัง) | ตอนที่ 3 บุญคุณกับความจริงที่ได้รู้ (ครึ่งหลัง) >> |