คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 13 [1]




..........สับปะเหร่อกับหลานชายพาเพชรน้ำหนึ่ง ยุติและภาสกรเดินไปหาสถานที่ถ่ายรูปในเขตอภัยทานของวัดอยู่ข้างคลองกว้าง

มีเขื่อนปูนติดกับทางเดินเทปูนและมีท่าน้ำเป็นบันไดปูนสามารถเดินลงไปริมน้ำได้ ข้างคลองปลูกบัวสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีใบกว้างใหญ่ จากท่าน้ำนี้มองเห็นสะพานโค้ง ซึ่งเป็นสะพานปูนข้ามคลอง ราวสะพานมีโคมไฟหัวเสาเป็นรูปกินรีถือโคมดูสวยงาม

เพชรน้ำหนึ่งจึงเดินไปถ่ายรูปจากมุมไกล แล้วค่อยเดินขึ้นไปบนสะพาน ถ่ายรูปบริเวณโดยรอบด้วย

ส่วนสองหนุ่มคอยรอดูเธอถ่ายรูป... จนกระทั่งเธอเดินกลับมาหาพวกเขา

“พี่แม้น... หนึ่งถ่ายรูปได้เยอะแยะแล้ว มีที่วิวสวยที่ใกล้นี่อีกไหม”

“มีครับแต่คงเดินไปไม่ถึง ห่างจากที่นี่ไปเป็นนากุ้งและถัดเข้าไปลึกอีกนิดหนึ่งมีทุ่งนาโล่งกว้าง ผมว่าวิวสวยดีน่าถ่ายรูป ขับรถไปอีกนิดเดียวจะถึง คุณหนึ่งจะไปไหมครับ”

“ไปสิหนึ่งอยากเห็น งั้นเราไปกันเลย” เธอบอก พยักหน้าให้ยุติกับภาสกรตามกลับไปที่รถ

แล้วภาสกรจึงขับรถพาทุกคนไปจนถึงที่หมาย



..........สถานที่แห่งใหม่นี้ไม่มีอะไรน่ากลัว เป็นนากุ้งมีระหัดวิดน้ำ พื้นที่นี้กินบริเวณกว้าง... ดูโล่งโปร่งสบายตา มองเห็นท้องฟ้าเวิ้งว้างและดวงดาวยังเกลื่อนฟ้า ในยามดึกสงัดที่มีพระจันทร์เสี้ยวเคลื่อนตัวลงต่ำมาอยู่ปลายฟ้าจวนเจียนจะลับลาฟากฟ้าไปแล้ว

เพชรน้ำหนึ่งต้องการรูปถ่ายที่ให้ความรู้สึกเปลี่ยวเหงา... ที่นี่จึงดูลงตัวเลยทีเดียว

“หนึ่งจะถ่ายรูปอีกแค่เดี๋ยวเดียว ต้องกลับบ้านแล้ว ใกล้เช้ามืดตายายจะต้องไปตลาด ทุกคนรอหนึ่งบนรถนะคะ” เพชรน้ำหนึ่งบอก แล้วลงจากรถไปถ่ายรูปเพียงไม่นาน



..........บ้านอนัญชนา คืนถัดมาเวลาตีสอง ยุติเปิดประตูรั้วข้างบ้านได้อย่างง่ายดาย เพราะประตูไม่ได้ล็อคสำหรับเขา เดินเข้ามาในห้องรับแขก ชื่นชมฝีมือการถ่ายรูปของเพชรน้ำหนึ่ง

“อืม... ฝีมือการถ่ายรูปของหนึ่งสวยดีนะ” เขามายืนดูข้างกายเธอและก้มลงมองหน้าจอโน้ตบุ๊ก ทำให้เธอได้กลิ่นหอมอ่อน... เลยคิดเดาว่าหากไม่ใช่กลิ่นของครีมอาบน้ำหรือสบู่อาจเป็นกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชาย

“พี่ยุติเพิ่งอาบน้ำมาหรือเปล่า เหมือนมีกลิ่นพวกครีมอาบน้ำ”

“พี่เพิ่งอาบน้ำมา ใช้ครีมอาบน้ำหอมดีนะหนึ่งว่าไหม”

“อื้ม... หอมดี” เพชรน้ำหนึ่งตอบแค่นั้น สายตาจดจ่ออยู่แต่หน้าจอโน้ตบุ๊ก ไม่มีทีท่าจะหันมองดูเขา

ยุติเดินไปในครัวชั่วครู่... ชงกาแฟมาหนึ่งแก้วแล้วลงนั่งฝั่งตรงข้าม

สายตาเธอเผลอมองตรงบริเวณอกเสื้อเชิ้ตเขาไม่ได้ติดกระดุมหลายเม็ด พลันเกิดอาการ... ใจคอวอกแวกขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน! จึงเลื่อนตัวลงหมอบหมอบกับโต๊ะ หวังหลบเลี่ยงไม่อยากมองภาพหนุ่มหล่อโชว์แผงอกเนื้อแน่นเน้นความเซ็กซี่... เธอท้าวคางโดยใช้จอโน้ตบุ๊กเป็นเครื่องกำบัง ไม่ให้ต้องเห็นคนตรงหน้าอันจะทำลายสมาธิให้จิตใจกระเจิง

ยุติสายตาช่างสังเกตเรียกได้ว่าหูตาไว เหลือบมองอกเสื้อของตัวเองเพียงแวบเดียว รู้ใจ... เธอคิดอะไรกะเขา?

“ทำไมชอบหลบหน้าหลบตาพี่จัง อุตส่าห์มานั่งต่อหน้าให้เห็นกันใกล้แค่นี้ ยังไม่ยอมมองพี่อีกเป็นอะไรรึ หึ หึ...” เขาแกล้งว่า พร้อมหัวเราะลึก... คิดนึกเรื่องมิดีมิร้ายภายในใจ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มปรากฏขึ้นมุมปาก

“เสียสมาธิ คนกำลังทำงานทำการน่า”

“แค่มองพี่ถึงกับเสียสมาธิ ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหรือไง ทำไมความรู้สึกไวจังล่ะ”

“ไม่ใช่อย่างงั้นพี่ยุติไม่ติดกระดุมเสื้อ ทำไมไม่ติดให้มันเรียบร้อยล่ะ”

“หนึ่งก็ช่วย... ทำให้พี่เรียบร้อยหน่อยสิ” เขาใช้ลีลาการพูดลากเสียงเว้นวรรคบรรจงเสียงหล่อ และลุกขึ้นมาลงนั่งคุกเข่าชิดข้างกายเธอ แล้วไหว้วาน...

“ติดกระดุมเสื้อให้พี่ทีสิ”

“ไม่เอาน่า พี่ยุติอย่าเข้ามาใกล้หนึ่งซี่” เธอว่า ลุกเดินหนีออกจากประตูหน้าบ้านไปยืนที่ระเบียง

“ทำไมชอบหนีพี่จังนะหนึ่ง” เขารีบตามถามต่อ

“พี่ยุติหนึ่งเป็นคนจริงจัง ไม่มีความน่ารักอย่างผู้หญิงควรมี หนึ่งไม่เหมาะสมกับพี่ยุติ หนึ่งหมายถึง... เราสองคนไม่เหมาะเป็นแฟนกันหนึ่งพูดตามตรง หนึ่งพอจะเข้าใจพี่ยุติต้องการเป็นที่รักอยากเป็นขวัญใจของสาวมากมาย พี่ยุติไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ที่ชอบมีเมียหลายคน และหนึ่งไม่เหมาะจะเป็นกิ๊กหรือเป็นของเล่นของพี่ยุติ เพราะหนึ่งไม่ชอบเล่นสนุกอย่างนั้น ปกติพี่ยุติดีกับหนึ่ง หนึ่งยอมรับนับถือ มันเป็นความรู้สึกดีงามที่ไม่อยากให้เสียไป”

“พี่ไม่เคยคิดว่าหนึ่งเป็นของเล่นหรือเป็นกิ๊ก พี่จริงจังและจริงใจ เพียงได้อยู่ใกล้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ...ชอบหนึ่งนะ” คำพูดท้ายสุดเป็นเสียงกระซิบ... พูดเพียงแผ่วเบา แล้วเข้ามาใกล้เกือบแนบข้างใบหูของเธอ ซึ่งนั่นทำให้รู้สึกหวิวไป! เบี่ยงกายออกห่างจากเขา

“อย่าเสียเวลากับหนึ่งเลย เวลาเป็นสิ่งมีค่าสำหรับชีวิต ถ้าพี่ยุติรู้จักหนึ่งมากขึ้น มากขึ้น... อาจจะเสียดายเวลา ยังมีสาวอีกมากมายหลายคนที่เขาหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวพี่ยุติ เพราะพี่ยุติเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก อยากรักใครชอบใครคงไม่มีใครปฏิเสธพี่ยุติหรอก”

“ไม่จริงเลย เพราะคนที่พี่อยากรักอยากชอบ เขาคอยแต่หลบเลี่ยงหนี... ปฏิเสธพี่อยู่นี่ไง” ยุติพูด มองเพชรน้ำหนึ่งที่ก้มหน้า และใช้ปลายนิ้วเชยคางเธอ ให้แหงนหน้าขึ้นมองตาเขาอยู่นิ่งนาน รู้สึกถึงหัวใจเธอที่หวิวไหว เมื่อเขาอยู่ใกล้ตรงหน้านี้

“พี่เห็นสายตาหนึ่ง พยายามเสมอที่จะไม่รักพี่ ทำไปทำไม อยากจะรักก็รักไม่ยากเลย”

“อย่าค่ะ อย่าพูดอย่างนั้น เอ้อ... หนึ่งขอตัวขึ้นห้องนอนก่อนค่ะพี่ยุติ” เป็นการกล่าวอำลา เอาตัวรอด เพียงเพื่อพ้นภาวะคับขันอันรัญจวนใจ



..........เป็นเรื่องไม่คาดฝันมาก่อน เมื่อบ้านอนัญชนาต้องต้อนรับแขกที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนคือ... อดีตคู่ต่อสู้ผู้เป็นลูกสาวยากูซ่า ซึ่งมาเยี่ยมเยือนเพชรน้ำหนึ่งถึงบ้าน

เสียงกริ่งดังที่หน้าประตูรั้วบ้านดังขึ้นในขณะเดียวกันกับเสียงมือถือของยุติดัง

“ฮัลโหลว่าไงลิต...” ยุติรับโทรศัพท์มือถือ ได้ยินเสียงผู้เป็นน้องชายของเขาดูจะตื่นเต้นแปลกใจพิกล!

“พี่ยุติ... ใครมาที่หน้าบ้านอนัญชนาดูไม่น่าไว้ใจเลย ผู้ชายท่าทางน่ากลัวมีรอยสักทั้งนั้น ดูเหมือนไม่ใช่คนไทยด้วย ผมเพิ่งเห็นพวกนั้นขับรถหลีกไป” ลิลิตโทรบอกพี่ชาย

ทำให้ยุติพี่เพิ่งตื่นนอนลุกออกมาจากกระท่อมตายายแล้วชะเง้อมองออกไป เห็นสองตายายเดินออกไปดูหน้าประตูใหญ่

“มาหาใครเหรอคุณ” คุณตาเป็นคนถาม

“เจ้านายเราต้องการพบคุณเพชรน้ำหนึ่ง” ผู้ชายคนนั้นบอก สำเนียงภาษาไทยไม่ค่อยชัด เขาใส่แว่นตาดำรูปร่างล่ำกล้ามใหญ่เต็มไปด้วยรอยสักและอยู่ในชุดเสื้อแจ็กเก็ตแขนกุดสีดำกางเกงสีดำ

“แล้วเจ้านายเป็นใครเหรอครับ”

“ฉันชื่อ ยูริ เพชรน้ำหนึ่งรู้จักฉัน ขอพบเพชรน้ำหนึ่งหน่อย” หญิงสาวตะโกนบอกโดยยังไม่ได้ลงมาจากรถ แต่ลดกระจกลงเพื่อให้พูดคุยกันได้ เธอเป็นหญิงสาวผิวขาวตาเรียวเล็กริมฝีปากบางหน้าตาท่าทางดุ

“ยายโทรบอกหนึ่งให้มาดูเดี๋ยวนี้ รู้จักกันจริงหรือเปล่า” คุณตาสั่งยาย ไม่กล้าเปิดประตูให้นำรถเข้ามาจอด เพราะดูท่าทางน่ากลัวมากกว่าน่าไว้ใจ

“มีผู้หญิงสาวคนหนึ่งมาหาหนึ่ง เขาบอกว่าชื่อยูริ พูดไทยไม่ค่อยชัดบอกว่าหนึ่งรู้จักเขา มาดูที่หน้าบ้านหน่อย”

“หา! ยูริ... มาถึงที่นี่? อยู่หน้าบ้านเรา? จริงเหรอยาย... หนึ่งจะไปดูเดี๋ยวนี้ล่ะ”



..........ประตูใหญ่บ้านอนัญชนาถูกเปิด เห็นรถยนต์สีดำเป็นมันคันหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าตึก

ยุติจึงเดินผ่านทางเดินห้องกระจก เพื่อไปดูพวกนั้นที่ห้องรับแขก ถึงจะไม่ใช่กิจธุระหน้าที่ของเขา แต่ท่าทางไม่น่าไว้ใจของแขกผู้มาเยือนทำให้เขาอดเป็นห่วงไม่ได้

เพชรน้ำหนึ่งนำน้ำดื่มใส่แก้วยกไปให้แขกสองคน คือยูริกับอีกคนคือลูกสมุนที่ยืนคุมเชิงอยู่

“รู้จักบ้านฉันได้ยังไงถึงมาที่นี่ได้”

“สืบหาได้ไม่ยากนี่... ลูกสาวยากูซ่าระดับฉันแล้ว นี่เป็นเรื่องง่ายมาก แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” ยูริถาม หันมองไปที่ยุติ ซึ่งกำลังมองมาเช่นกัน เขายืนอยู่ข้างประตูห้องรับแขก

“พี่ยุติ เป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับบ้านฉัน เขาพูดภาษาญี่ปุ่นได้” เพชรน้ำหนึ่งบอก “พี่ยุติมานั่งข้างหนึ่งสิ หนึ่งไม่มีความลับกับพี่ยุติหรอก”

“เลิกชกมวย เพราะมีแฟนนี่เอง” นั้นเป็นบทสรุปของยูริ จากสายตาที่ดูว่าทั้งคู่สนิทกัน

“แฟน? ไหนกัน”

“คนนี้ไม่ใช่แฟน?”

“เป็นแค่เพื่อนบ้านสนิทกันเท่านั้น เขาใจดีมีน้ำใจกับบ้านฉันมาก”

“ไม่ใช่แฟนกันแน่รึ” คำถามนี้ยูริถาม เฉพาะเจาะจงกับยุติ โดยการจ้องหน้าให้เขาตอบ

“อย่างที่หนึ่งบอก เราสนิทกันเท่านั้น ไม่ใช่แฟนแน่นอน” ยุติตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นชัดเจน

“แล้วเธอมาหาฉัน มีเรื่องอะไร ไม่เห็นเมล์บอกล่วงหน้าว่าจะมา” เพชรน้ำหนึ่งถามเข้าประเด็น

“ฉันอยากรู้ ทำไมเธอเลิกชกมวย”

“อยากเลิก เลยประกาศแขวนนวม”

“เหตุผลเพราะอะไร ฉันเคยส่งเมล์มาคุย เธอตอบว่าเบื่อแค่นั้น ฉันไม่เชื่อหรอก มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ดูจากสภาพเธอตอนนี้ ซูบซีดผอมแห้งลงไป ทรวดทรงอกเอวผิดจากแต่ก่อน ดูร่างกายไม่สมบูรณ์เลย น่าแปลกมาก”

“ฉันอกหักจากผู้ชายญี่ปุ่น ฉันอยากแต่งงานกับเขา แต่เขาไม่ยอมแต่งงานกับฉัน เราจบกัน ฉันเบื่อทุกอย่าง เลยอยากกลับมาเมืองไทย”

“โธ่เอ๋ยเรื่องแค่นั้นเอง ความรักเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในชีวิตเรา ผ่านมาแล้วผ่านไป ต่อไปยังจะได้เจออีกไม่มีความแน่นอน ความใฝ่ฝันสิเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า คนเราต้องมีความฝันอันสูงส่งและพยายามไปให้ถึงฝัน”

“ยิ่งใหญ่แค่ไหนจะมีประโยชน์อะไรกับฉันที่ไม่มีกระจิตกระใจจะทะเยอทะยานไปต่ออีก”

“ตอนนี้เธออกหักคงต้องใช้เวลาทำใจ แต่คนเข้มแข็งจะไม่เจ็บนาน ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนเข้มแข็ง ฉันจะช่วยเธอเอง กลับไปกับฉันสิ ถ้าเธอไม่มีใคร ให้ฉันจะเป็นเพื่อนได้ไหม รับรองฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ฉันชอบเธอนะ ให้ฉันเป็นมากกว่าเพื่อนยังได้” คำพูดประโยคหลังนี้ ยูริพูดและยิ้มให้อย่างมีเลศนัย ในขณะที่ยุติจ้องหน้ายูริ จับตาคอยสังเกต เพราะฟังดูแปลกหูไปเล็กน้อย กับถ้อยคำทำนองนั้น

“ยูริชอบฉัน? จริงสิ! เธอชอบผู้หญิงนี่”

“ใช่... ฉันชอบท่าทางเงียบขรึมและเท่ห์ของเธอ แค่วางมาดนิ่งเฉยก็น่ามอง ตอนซ้อมมวยเธอยิ่งดูเท่ห์ที่สุดเลย” ยูริยิ้มแย้มชื่นชม

แต่ยุติเข้าใจในบัดดลว่าคนที่พูด ...คิดเช่นไร

“อะไรกันลังเลเหรอนี่! อย่าบอกนะว่า... หนึ่งมีใจเอนเอียงเป็นเลสเบี้ยน โอ๊ย! ฟ้าจะผ่า ...เปรี้ยง”

“เลสเบี้ยนแล้วไง ฉันรู้... หนึ่งไม่เคยรังเกียจเรื่องพวกนี้ฉันถึงชอบหนึ่ง มีอะไรไหม” ยูริกล่าวอย่างหาเรื่องกับยุติ

“พี่ยุติ หนึ่งให้มาฟังด้วย พี่ยุติมีหน้าที่ฟังไป ไม่ใช่ให้มาวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าอยากพูดมากนักล่ะก็เชิญโน่น...” เพชรน้ำหนึ่งว่า พร้อมกับทำมือเป็นสัญญาณ เชิญให้ออกไปนอกห้อง

“แหม... เงียบก็ได้ ฟังก็ฟัง” ยุติกล่าว ยิ้มแก้เก้อ เพราะอยากรู้อยากเห็น คนอย่างเขาไม่มีทางยอมออกไปแน่นอน





ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ธ.ค. 2559, 16:40:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ธ.ค. 2559, 16:40:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1003





<< ตอน 12 [2]   ตอน 13 [2] >>
ไตรติมา 29 ธ.ค. 2559, 16:41:56 น.
อีบุ๊กรวมเล่มเดียวจบเป็นเรื่องยาวค่ะ ช่วยอุดหนุนดาวน์โหลดนะคะ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709

ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account