หัวใจลายกระต่าย (รอลงต่อนะคะ)
ถ้าหัวใจคือดวงจันทร์ที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง
ความรักก็คงเหมือนดวงอาทิตย์ที่ทำให้ดวงจันทร์สว่างไสว
หัวใจที่ได้รับความรักจากเธอก็เช่นกัน

เธอเห็นความรักของฉันใช่ไหม?
Tags: หัวใจ กระต่าย ปิ่นนลิน รัก คุณหมอ

ตอน: ตอนที่ 1

ตอนที่ 1



ย้อนกลับไปสมัยคนึงมาสอายุหกถึงเก้าขวบ ศิลามักจะพาเพื่อนมัธยมปลายจากกรุงเทพฯ มาเที่ยวบ้านที่ภูเก็ตแทบทุกปี

ศิลาสอบติดโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังสำหรับนักเรียนหัวกะทิในกรุงเทพฯ ได้ ต้องอยู่หอเพียงลำพัง ตอนแรกทั้งคุณยายและคุณลุงของคนึงมาสไม่อยากให้น้องชายคนเล็กไปเรียนไกลๆ หรอก แต่ศิลามีความตั้งใจจะเรียนทันตแพทย์ ประกอบกับคะแนนเรียนดีเด่นมาตลอด ทำให้พวกท่านยอมส่งน้องชายไปเรียนไกลบ้าน

คนึงมาสได้พบกับณฐาครั้งแรกตอนหกขวบ ณฐาเป็นเพื่อนสนิทของศิลา หญิงสาวจำได้แค่ว่าณฐาใจดีกับเธอมากแค่นั้น แถมเกือบลืมชื่อ ‘น้าณัฐ’ ไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเธอไปเจอรูปของณฐาที่น้าชายส่งมาให้ดูตอนคุณน้าไปออกทริปต่างประเทศเมื่อปีก่อน คนึงมาสจึงเริ่มจำเรื่องเก่าๆ ได้ ความรู้สึกชอบณฐาค่อยๆ ผุดขึ้นในหัวใจทีละนิดๆ เธอหลงใบหน้าหล่อเหลา ชอบผู้ชายผิวขาว ยามอยู่ในเสื้อกาวน์คุณหมอก็ยิ่งโดดเด่น รอยยิ้มกว้างใจดี และลักยิ้มบุ๋มข้างแก้ม คนึงมาสเห็นรูปคุณหมอณฐทีไร ก็ตื่นเต้นและมีความสุขทุกครั้ง

แต่ศิลาไม่รู้ความลับเรื่องนี้ของเธอหรอก เธอเองก็ไม่เคยถามเรื่องณฐาจากน้าชายเช่นกัน คนึงมาสเข้าใจว่าอายุเธอกับณฐาห่างกันเป็นสิบปี ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ที่ไหนจะมาสนใจเด็กกะโปโลอย่างเธอ คนึงมาสจึงตัดใจตั้งแต่เริ่มรู้สึกว่าชอบณฐา แล้วก็ไม่เคยคาดหวังเรื่องนี้อีกเลย

แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็ดันมาเจอเขาอยู่ในบ้านคุณน้า แถมยังเจอเขาในสถานการณ์ที่แย่สุดๆ อีกต่างหาก!!

คนึงมาสยืนกำมือแน่นทั้งสองข้าง ยังหลับตาปี๋ หัวใจในอกเต้นจนแทบจะกระเด้งออกมาได้ เธอมั่นใจว่าเธอปิดตาทันก่อนจะเห็นอะไรๆ ที่ไม่ควรเห็น แต่หัวใจก็ยังไม่หายตื่นเต้นเสียที

เมื่อครู่หลังจากเธอร้องกรี๊ดก็ต่างคนต่างหันหลังวิ่งหนีไม่สนว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรต่อ คนึงมาสรีบวิ่งออกมายืนหน้าบ้าน เธอยืนอยู่นานอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร แต่แล้วเธอก็โดนประตูบ้านที่เธอยืนพิงอยู่นั้นเปิดใส่หัวเธออย่างแรง

“โอ๊ย!” คนึงมาสร้องลั่น ยกมือแตะศีรษะส่วนที่โดนชน พอหันไปเห็นว่าเป็นณฐาที่เปิดประตู เธอก็ตกใจอีกรอบ

“ขอเปิดประตูได้ไหม”

คนยืนขวางประตูเห็นคนถามขมวดคิ้วผ่านช่องแคบๆ ระหว่างประตูกับวงกบ น้ำเสียงของคุณหมอค่อนข้างไม่พอใจ คนึงมาสเลยรีบหลบไปยืนข้างๆ และหันหน้าไปทางอื่น เธอไม่กล้าสบตาคนตัวสูง คล้ายว่าเธอเพิ่งทำผิดแล้วโดนเขาจับได้!

ณฐายอมรับว่าเวลานี้เขาชักสีหน้ายามมองหญิงสาวผมยาวตรงหน้า เขากำลังทำหน้าไม่ถูก ได้แต่ถอนหายใจเซ็งๆ ด้วยเข้าใจว่าหญิงสาวตรงหน้าเห็นของเขาหมดสิ้นแล้วจริงๆ ตั้งแต่โตมาเป็นหนุ่ม ณฐายังไม่เคยโป๊เปลือยให้ผู้หญิงคนไหนเห็นมาก่อนเลยนะ!

และณฐาก็เหมือนจะจำหญิงสาวคนนี้ได้ เพราะหน้าตาแบบนี้ แก้มยุ้ย ตาโต มีรอยบุ๋มตรงข้างแก้ม ลักษณะโครงหน้าที่เขาเคยเห็นมาก่อน ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะเป็น …

“กระต่าย หลานนายหินใช่ไหม”

“ค่ะ” คนึงมาสตกใจคำถามชายหนุ่ม ยอมเงยหน้าสบตาคนตัวสูง คิ้วเรียวเหนือดวงตากลมขมวดนิดๆ นี่ณฐาจำเธอได้ด้วยหรือ … หรือน้าหินจะบอกเขาเอาไว้ก่อนกันนะ

“แล้วทำไมถึงไม่กดออดก่อนเข้าบ้าน”

คราวนี้เสียงของคุณหมอนั้นเข้มจนคนฟังหน้าเสีย

“ขอโทษค่ะ กระต่ายไม่รู้ว่าน้าณัฐอยู่ น้าหินไม่ได้บอกกระต่ายค่ะ” พอเห็นสายตาตำหนิของเขาหลังแว่นสายตาก็ก้มหน้าลงอย่างเดิม

“หินก็ไม่ได้บอกผมเหมือนกันว่ากระต่ายจะมา … ไอ้หินนะไอ้หิน” ณฐากัดฟันกรอดๆ พาลเพื่อนซี้ที่ไม่บอกเรื่องหลานกับเขา เขาจะได้ระวังตัวมากกว่านี้!

พอณฐานึกถึงศิลา เสียงแตรจากรถยนต์รุ่นเก่ากลางใหม่แต่สะอาดเอี่ยมหน้าประตูรั้วก็ดังขึ้น ณฐาถอนหายใจเมื่อเห็นตัวการทำให้เขาต้องอับอายขายหน้าจอดรถรออยู่หน้าประตู้รั้ว ก่อนคนึงมาสจะขยับตัว ณฐาเป็นคนเดินไปเลื่อนประตูรั้วให้เจ้าของบ้านตัวจริงอย่างไม่ต้องให้อีกฝ่ายรอนาน

หลังจากจอดรถเรียบร้อย ศิลาก็รีบเดินตรงมาหาหลานสาวสุดที่รักทันที

“กระต่าย มาให้น้ากอดทีซิ” ศิลาอ้าแขนกอดคนึงมาสเหมือนหลานสาวยังเป็นเด็กเล็กๆ สายตาขุ่นของเพื่อนอีกคนทำให้ศิลาเพิ่งนึกออก “เอ้อ ไอ้ณัฐ นี่หลานฉันเองชื่อกระต่าย ที่ฉันเคยเล่าให้แกฟังน่ะ”

“ฉันจำได้ แกเคยพาฉันไปบ้านแกตอนม. ปลายไง” ณฐาตอบเสียงเรียบๆ ในตอนแรกก็จริง หากประโยคหลังเต็มไปด้วยเสียงตำหนิ “แกไม่บอกฉันหน่อยวะว่าหลานแกจะมา” เพราะถ้าศิลาบอกก่อนสักนิด เขาคงจะระวังตัวมากกว่านี้ เหตุการณ์ขายตัวเองเมื่อครู่คงไม่มีวันเกิดขึ้น!

“‘โทษทีว่ะ มัวแต่ยุ่งๆ ก็เลยลืมบอก” ศิลาเกาหัว ยอมรับผิด แต่เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยสงสัยว่าทำไมณฐาถึงต้องทำหน้าบูดใส่เขาด้วย

“มีอะไรวะ กระต่ายทำอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า! ฉันจะออกไปทำงานแล้ว เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกัน” ณฐากระแทกเสียงก่อนแยกเขี้ยวใส่ แล้วเดินหนีไปที่รถสีขาวคันใหญ่อีกคันในโรงจอดรถ

คนึงมาสได้คำตอบก็ตอนนี้นี่เองว่ารถใหม่เอี่ยมอีกคันไม่ใช่รถของน้าหิน

“โมโหอะไรของมัน นี่ก่อนน้าจะมาถึงเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เราไปกวนอะไรไอ้ณัฐหรือเปล่า” ศิลาก้มหน้าถามหลานสาวข้างๆ คนถูกตั้งข้อสงสัยส่ายหน้าหวือ

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้าหินคะไปช่วยกระต่ายรื้อกระเป๋าดีกว่า กระต่ายหิ้วของฝากจากคุณยายมาเต็มเลย น้าหินต้องชอบแน่ๆ เลยค่ะ” คนึงมาสไม่กล้าเล่าเหตุการณ์น่าอายให้คุณน้าฟังหรอก เธอจึงเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นแทน

“เหรอ ดีจัง น้าว่าจะต้องมีขนมฝีมือคุณยายแน่เลยใช่ไหม” ศิลาเลิกสนใจอาการแปลกๆ ของณฐาแล้ว มีแต่คนึงมาสที่ยังกังวลใจว่าณฐาจะโกรธเกลียดเธอหรือเปล่า



เที่ยงวันถัดมา คนึงมาสกับชนิดานัดเจอกันที่ร้านขนมหวานบนห้างสรรพสินค้าดังกลางเมือง หลังจากศิลาพาคนึงมาสไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษในช่วงเช้า ศิลาขับรถมาส่งเธอที่นัดกับเพื่อน ก่อนเขาจะตรงไปทำงานที่โรงพยาบาลต่อ

แค่ครึ่งวันแต่คนึงมาสถอนหายใจเป็นสิบรอบแล้ว เมื่อวานหลังจากณฐาออกจากบ้านไป เขากลับบ้านอีกทีก็ดึกมาก เธอหลับไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเช้าเธอลงมาจากห้องนอนก็เจอณฐาเพิ่งกลับมาจากวิ่งออกกำลังกาย เขาปรายตามองเธอก่อนจะเดินผ่านเธอไปโดยไม่ทักทายสักคำ หัวใจของคนึงมาสห่อเหี่ยวยิ่งกว่าลูกโป่งมีรูรั่ว ชนิดาเห็นเพื่อนสาวทำหน้าคิดมากก็เข้าใจไปอีกอย่าง

“ยังหาข่าวเรื่องพ่อไม่ได้ใช่ไหม กระต่าย”

“ข่าวหรือ” หน้าตาคนึงมาสเหรอหรางุนงง เธอไม่ทันฟังคำถามของเพื่อน

“ข่าวเรื่องพ่อของกระต่ายไง หรือที่ทำหน้าเศร้าอยู่นี่เป็นเพราะเรื่องอื่น” ชนิดาเริ่มคาดเดาว่าจะเป็นเรื่องอื่น “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า”

“ไม่มีอะไรหรอก” คนึงมาสไม่ได้อยากโกหกเพื่อน แต่เธอก็ไม่รู้จะเล่าให้เพื่อนฟังอย่างไรดี จึงรีบเปลี่ยนเรื่องแทน “หนูเล็ก วันนี้หนูเล็กไปที่ที่นึงกับกระต่ายได้ไหม”

“ที่ไหนหรือ” ชนิดาถามพลางตักขนมเค้กใส่ปาก

“โรงพยาบาลน่ะ” ได้ฟังคำตอบ ชนิดาก็ตกใจ

“ไปโรงพยาบาลทำไม กระต่ายเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าๆ เราไม่ได้เป็นอะไร แต่เราลืมบอกหนูเล็กไปว่าพ่อของเรามีชื่ออยู่ในบอร์ดผู้บริหารโรงพยาบาลนี่” คนึงมาสบอกพร้อมยื่นกระดาษเอสี่ให้เพื่อนสาว

“โรงพยาบาลเวชธีระเหรอ โรงพยาบาลนี้ชื่อคล้ายๆ นามสกุลพ่อของกระต่ายเหมือนกันเนอะ” ชนิดาตั้งข้อสังเกตจากชื่อและประวัติจากกระดาษที่คนึงมาสเคยเอาให้ดู

‘ทินกฤต เวชธีระฐากุล รองผู้บริหารโรงพยาบาลเวชธีระ’

“ก็น่าจะเป็นลูกหลานเจ้าของโรงพยาบาลล่ะมั้ง บางทีเหตุผลที่พ่อไม่ยอมรับ คงเพราะแม่ไม่ใช่คนมีฐานะแบบพ่อก็ได้ ประวัติของพ่อก็บอกว่าอายุแค่สามสิบเก้า มากกว่าแม่แค่ปีเดียว แสดงว่าพ่อกับแม่มีกระต่ายตอนไม่พร้อมกันทั้งคู่เลย” น้ำเสียงและสีหน้าของคนเล่าเศร้าหมอง จนคนฟังสงสัย

“แล้วทำไมกระต่ายถึงยังอยากเจอพ่อล่ะ กระต่ายไม่โกรธหรือเกลียดพ่อหรือที่ทิ้งแม่ไป” ถ้าเป็นชนิดา ชนิดาคงไม่อยากเจอหน้าผู้ชายใจร้ายไปตลอดชีวิตหรอก

“เราไม่รู้เหตุผลนี่ มันแปลกๆ ถ้าพ่อไม่ต้องการเราและแม่จริงๆ ทำไมแม่ถึงไม่เกลียดพ่อล่ะ แม่ไม่เคยเกลียดพ่อเลยนะ ในไดอารี่ของแม่ก็มีแต่เล่าเรื่องเราตอนเล็กๆ ตั้งแต่เกิดให้พ่อฟังตลอด แม้ว่าพ่อจะไม่มีวันได้อ่าน … กระต่ายอยากรู้ว่าพ่อเป็นคนแบบไหน” คนึงมาสไม่ได้คิดไปเองแน่นอนว่าแม่ยังความรักให้พ่อเธออยู่เต็มอก แม่ไม่เคยหลอกเธอว่าพ่อตายไปแล้ว บอกแค่เพียงว่าพ่อกับแม่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้แค่นั้น เธออยากตามหาความจริง ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงค้างคาใจจนนอนไม่หลับแน่นอนเลย

“แล้วถ้าได้เจอ กระต่ายจะแสดงตัวไหมว่ากระต่ายคือลูกของเขา”

คนึงมาสส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินคำถามจากเพื่อนสาว

“ไม่ล่ะ เราไม่อยากให้แม่เสียใจ เรามีแค่แม่คนเดียวก็พอแล้ว” เพราะแอบแม่มาตามหาพ่อ คนึงมาสก็รู้สึกผิดกับแม่มากเหลือเกินแล้ว ที่เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ก็แค่เพียงอยากรู้เรื่องพ่อมากกว่าเดิมเท่านั้น



ชนิดาขับรถพาคนึงมาสมาจนถึงโรงพยาบาลเวชธีระ สาขาใหญ่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนใหญ่ครบวงจร มีทุกศาสตร์การรักษา

แต่คนอยากมากลับเอาแต่ยืนทำหน้าไม่ถูกอยู่หน้าประตู ไม่ยอมเดินเข้าไปเสียที ชนิดาจับมือเพื่อนก็ทักออกมา

“มือเย็นเฉียบเลยกระต่าย ตื่นเต้นเหรอ”

“อือ กลัวด้วย” คนึงมาสยกมือแตะหน้าอก หายใจเข้าออกเพื่อข่มความตื่นเต้นในอก ถ้าได้เจอพ่อจริงๆ เขาจะมองเธอแบบไหนกันนะ

“ลองเดินดูรอบๆ ก่อนดีไหม หนูเล็กว่าคงไม่ฟลุคเจอกันตั้งแต่ครั้งแรกที่มาหรอกมั้ง แต่ถ้าได้เจอก็ดีเลย จะได้ไม่มาเสียเที่ยว”

“อืม” คนึงมาสพยายามไม่กลัวไปก่อน เธอเดินเข้าไปในตึกหลักที่มีเคาน์เตอร์เวชระเบียน โรงพยาบาลใหญ่โตโอ่โถงสะอาดสะอ้านบรรยากาศสบายตาแม้ว่าจะมีคนพลุกพล่าน พรั่งพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทันสมัย การตกแต่งค่อนข้างเรียบหรู และเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์มีรอยยิ้มใจดีพร้อมบริการ สมกับเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง

คนึงมาสค่อยๆ กวาดสายตาไปรอบๆ ทั้งกล้าทั้งกลัวว่าจะเจอคนที่ตามหา แต่แล้วชนิดาก็สะกิดไหล่เธอเบาๆ

“กระต่ายๆ”

“อะไรหรือ” คนึงมาสหันไปถามเพื่อนสาว ก่อนจะยืนมองตาค้าง เลือดในตัวแทบกลายเป็นน้ำแข็ง เมื่อเห็นผู้ชายในสูทสีเข้มท่าทางสุขุมพร้อมผู้ติดตามผู้ชายสามคนกำลังเดิน ตรงมาทางเธอ

“นั่นใช่พ่อกระต่ายหรือเปล่า” ชนิดากระซิบถาม แต่คนึงมาสกลับตอบไม่ออก เธอได้แต่มองทินกฤตเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

นั่นน่ะหรือ พ่อของเธอ … คนึงมาสกะพริบตาไวๆ ไม่ให้น้ำตาไหลออกมาเวลานี้ เธอบอกไม่ถูกว่าเธอรู้สึกอย่างไร ดีใจ ตื่นเต้น หรือน้อยใจพ่อกันแน่

คนึงมาสไม่อยากจะร้องไห้ออกมาเวลานี้ เธอจึงรีบหมุนตัวเพื่อจะเดินหนีแต่กลับชนกับผู้หญิงที่เดินสวนมาพอดี กาแฟร้อนในมือของอีกคนหกรดแขนของเธอเต็มๆ !!

“โอ๊ย!” คนึงมาสร้องโอดเพราะแสบแขนจากกาแฟร้อนของอีกฝ่าย

“กรี๊ด ชุดของฉัน!! มือถือของฉัน!!” อีกฝ่ายกรีดร้องเสียงหลงดังกว่าคนึงมาสสองเท่า คนึงมาสเงยหน้าจากแขนมองเจ้าของเสียงกรีดร้อง เห็นว่าชุดของคนตรงข้ามมีรอยกาแฟกระเซ็นโดนจริงๆ โทรศัพท์มือถือราคาแพงก็หล่นอยู่บนพื้น ก่อนจะมีเสียงตวาดดังลั่นอีกครั้ง คนรอบๆ ต่างหันมองอย่างสนอกสนใจ

“แกเดินยังไงของแกยะ!”

“คุณก็เดินไม่มองทางเหมือนกันนะคะ เอาแต่เล่นมือถือ” ชนิดาต่อว่ากลับไป เรื่องนี้เพื่อนเธอไม่ได้ผิดฝ่ายเดียวแน่ๆ “และเพื่อนฉันก็เจ็บตัว ดูสิ แขนแดงหมดเลย” ชนิดารีบใช้ผ้าเช็ดหน้าช่วยซับคราบกาแฟบนแขนแดงๆ ของเพื่อน

“ว่ายังไงนะ!” คู่กรณีตอบโต้เสียงดังไม่ยอมแพ้ ดวงตาที่แต่งแต้มสีสันวาวโรจน์โกรธจัด

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ คุณจริยา” เสียงทุ้มพร้อมการก้าวเข้ามายืนใกล้ๆ ของทินกฤตได้ดึงความสนใจทั้งคนึงมาส ชนิดา และหญิงสาวเสียงแหลม ดวงตาคมทรงอำนาจกวาดมองผู้หญิงทั้งสาม

“คุณทิน ก็ยัยเด็กบ้านี่น่ะสิคะ เดินไม่ดูตาม้า ชันย่าเปื้อนกาแฟหมดเลย โทรศัพท์มือถือก็หล่น แตกหรือเปล่าก็ไม่รู้” จริยาออดอ้อนฟ้องคนถาม

“กาแฟ” ทินกฤตมองกับพื้นเห็นว่าเป็นกาแฟร้อนก็ตกใจ ยิ่งเห็นรอยแดงบนแขนเล็กๆ ของหญิงสาวอ่อนวัย “หกโดนแขนหนูใช่ไหมคะ”

“คะ” คนึงมาสไม่ได้ตอบคำถาม แต่กำลังเบิกตากว้าง เพราะไม่คิดว่าทินกฤตจะมายืนใกล้ๆ ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อเขาแตะลงบนแขนของเธอแผ่วเบา

“เจ็บใช่ไหม ให้คนพาไปใส่ยาอะไรก่อนจะดีกว่า” ทินกฤตรีบหันไปสั่งผู้ติดตามวัยกลางคนด้านหลัง “คุณบวร ช่วยพาหนูคนนี้ไปปฐมพยาบาลด่วนเลยนะ”

“แค่นิดเดียว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” คนึงมาสแปลกใจ เพียงแค่ได้ยินเสียง ได้มองตาพ่อแท้ๆ ที่ไม่เคยเลี้ยงเธอมา ทำไมหัวใจของคนึงมาสก็ไม่อยู่กับตัวแบบนี้

“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวตามลุงคนนี้ไปทำแผลนะ” ทินกฤตยิ้มให้อย่างใจดี ดวงตาของเขาก็มีแต่ความเอ็นดู คนึงมาสถึงกับหลุบตาลงเพราะหัวใจเธอสั่นไหวกับแววตาของเขา

“คุณทินคะ” คู่กรณีสาวสวยส่งเสียงแทรกขึ้นมา “ชุดของชันย่าก็เปื้อนนะคะ ทำไมคุณไม่ห่วงชันย่าบ้าง” พร้อมทักท้วงถามหาความเห็นอกเห็นใจจากทินกฤต

ทินกฤตถอนหายใจ ปรายตาเย็นชามองจริยา ถ้าไม่ติดว่าจริยาเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล เขาก็อยากจะเสียมารยาทไปบ้างเหมือนกัน

“ผมจะให้นายทีพาคุณไปจัดการเรื่องชุดก็แล้วกันนะครับ ส่วนผม … ผมพาเด็กคนนี้ไปทำแผลก่อน แผลน้ำร้อนลวกถ้าไม่รีบทายาเดี๋ยวจะเป็นหนักกว่าเดิม รีบไปเถอะ” ทินกฤตไม่อยู่รอฟังอะไรจากจริยาอีก เขาผายมือกดดันหญิงสาวอ่อนวัยกลายๆ ทำให้คนึงมาสต้องเดินไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนจริยาได้แต่ยืนกระฟัดกระเฟียด

“จะให้ผมช่วยอะไรดีครับ คุณชันย่า” ธิปกถามอย่างไม่เต็มใจ ถ้าไม่ใช่คุณอาสั่ง เขาก็ไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนี้หรอก นี่คงตั้งใจมาอ่อยทินกฤตอีกแน่ๆ แน่นอนว่าอายุห่างกับทินกฤตเป็นสิบปี ทินกฤตไม่สนใจยัยผู้หญิงแบบนี้หรอก

จริยาค้อนใส่หลานชายวัยยี่สิบสองปีของทินกฤต ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดแล้วสะบัดตัวไปอีกทาง ธิปกส่ายหน้าระอา แล้วรีบเดินตามคุณอาของเขาไป



โดยอีกด้านหนึ่ง ยังมีอีกคนยืนมองสถานการณ์การประทะระหว่างสามสาวอย่างตกใจ ตอนแรกณฐาได้ยินเสียงคนโวยวาย เขาหยุดมองเหมือนคนอื่นๆ แต่พอเห็นว่าเป็นคนึงมาส เขาก็รีบเดินเข้าไปไถ่ถาม แต่ก็ไม่ทันถึงตัวหลานสาวเพื่อนสนิท ทินกฤตก็พาคนึงมาสเดินไปอีกทางก่อนแล้ว

ณฐามุ่นคิ้วสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนึงมาสถึงมาโรงพยาบาล และทำไมเธอถึงได้รู้จักกับรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่

“สวัสดีค่ะหมอณัฐ วันนี้หล่อเหมือนเดิมเลยนะคะ” หัวหน้าพยาบาลหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใสอย่างทุกวัน ณฐาเลยลองถามคุณหัวหน้าพยาบาลเสียเลย

“คุณสายใจครับ เมื่อกี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือครับ”

“อ๋อ มีคนโชคร้ายโดนคุณจริยาเหวี่ยงใส่น่ะค่ะ น่าสงสารน้องคนนั้น ทั้งโดนกาแฟร้อนหกใส่แขน แล้วยังโดนคุณจริยาด่าอีก” หัวหน้าพยาบาลถอนหายใจ

“กาแฟร้อนหกใส่” ณฐาเริ่มร้อนใจ ถึงเขาจะพยายามหลบหน้าคนึงมาสมาสองวัน แต่อย่างไรคนึงมาสก็เป็นหลานสาวเพื่อนซี้เขา จึงอดห่วงไม่ได้

หัวหน้าพยาบาลเห็นสีหน้ากังวลของคุณหมอ ก็รีบบอกให้สบายใจว่า

“แต่คุณทินกฤตเข้ามาช่วยหนูคนนั้นค่ะ คุณทินกฤตให้พาไปทำแผลแล้วด้วย”

“ขอบคุณนะครับ” ณฐาบอกกับหัวหน้าพยาบาลแล้วรีบขอตัวเพื่อไปดูอาการของหลานสาวเพื่อน ถ้าไม่เป็นอะไรมากก็คงดี

ความเป็นห่วงในตัวหญิงสาวทำให้ณฐาลืมเรื่องน่าอายไปสนิทเลย



พยาบาลคนสวยช่วยทำความสะอาดแขนที่เปื้อนกาแฟ และทายาให้ ก่อนจะปิดด้วยผ้าก๊อต คนึงมาสมองแขนตัวเองที่ถูกพันด้วยผ้าสีขาวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะทินกฤตยังยืนมองเธออยู่

สายตาชายวัยเกือบสี่สิบปีที่มองเธอนั้นเต็มไปด้วยอะไรบางอย่าง คิ้วหนาได้รูปของเขาก็ขมวดแน่น ริมฝีปากซึ่งคล้ายเธอมากปิดสนิท ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย เขายืนนิ่งๆ เงียบๆ จนเธออึดอัด ด้วยไม่รู้เลยว่าทินกฤตคิดอะไรอยู่

… รีบหนีจะดีกว่า!

“เอ่อ ป่านนี้คุณน้าคงรอหนูแล้ว หนูต้องไปแล้วค่ะ” คนึงมาสหาข้ออ้างเพื่อจะหลุดจากสายตาของทินกฤต

“หนูอายุเท่าไหร่แล้วคะ” ทินกฤตเอ่ยถาม แม้น้ำเสียงอ่อนโยน หางเสียงนุ่มนวล แต่ยังไม่เลิกมองคนึงมาสอย่างสงสัย

“ยี่สิบเอ็ดปีค่ะ” คนึงมาสไม่กล้าสบตาคนถามนาน ลืมไปเลยว่าเคยมีคนทักว่าดวงตาเธอเหมือนแม่มาก ทินกฤตจะจับได้ไหมนะว่าเธอคือลูกของเขา!

“อืม รีบไปเถอะ เดินทางดีๆ นะคะ” ทินกฤตส่งยิ้มให้

“ขอบคุณนะคะ … หนูต้องไปจ่ายเงินตรงไหนหรือคะ” คนึงมาสถามกับผู้ชายร่างอวบอีกคนที่เป็นผู้ติดตาม ซึ่งน่าจะแก่กว่าทินกฤต

“ไม่ต้องหรอกค่ะ แต่ให้พยาบาลจัดยาไปทานะ จะได้หายไวๆ” ทินกฤตเป็นคนตอบ และไหว้วานพยาบาลสาวให้จัดการต่อแทนเขา

คนึงมาสยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะรีบจูงมือเพื่อนซี้ที่ยืนเป็นไบ้อยู่นานให้ออกมาจากห้องทำแผล โดยทินกฤตยังมองอยู่ไม่วางตา

“คุณทินมีอะไรหรือเปล่าครับ” บวร เลขาคนสนิทวัยสี่สิบห้าปีของทินกฤตเอ่ยถามอย่างสงสัย แม้ปกตินายของบวรจะใจดี แต่ก็ไม่เคยเห็นใจดีถึงขนาดพามาทำแผลและยืนรอนานๆ แบบนี้มาก่อน “หรือว่าคุณทินจะถูกใจหนูคนนั้น” บวรแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยเลย

“ไม่ใช่หรอกครับ อย่าหาเรื่องให้ผมสิคุณบวร” ทินกฤตขอร้องคนสนิทอย่าเข้าใจผิดไปแบบนั้น หากในใจกลับสับสนจนอดรำพึงเบาๆ ไมได้ว่า

“แปลก ทำไมอยู่ๆ ถึงได้คิดถึง …” ทินกฤตรีบห้ามไม่ให้เอ่ยชื่อใครอีกคนขึ้นมา เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ย้อนคิดถึงตัวเองในอดีตที่โง่งมหลงความรัก ทินกฤตกัดฟันกรอด เพราะความรักทำให้เขาต้องเสียอนาคตไป!


จบตอน


นำนิยายมาส่งค่ะ
พอดีเดินทางไปต่างประเทศมา (ทำงาน) เลยหายไปอีกแล้ว แง
จะพยายามมาอาทิตย์ละตอนนะคะ (ถ้าไม่ติดงานก็จะลงบ่อยๆ ค่ะ)

คุณแว่นใส - หมอณัฐลืมว่าเคยพูดอะไรไว้ และจะยังไม่รู้ตัวอีกนานเลยค่ะ 5555

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่า



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.พ. 2560, 01:20:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.พ. 2560, 01:30:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 980





<< บทนำ   ตอนที่ 2 - 50% >>
แว่นใส 2 ก.พ. 2560, 06:25:17 น.
เกิดเรื่องเข้าใจผิดระหว่างพ่อกับแม่แน่เลย
กระต่ายจะช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจกันได้ไหมนะ


Zephyr 27 มี.ค. 2560, 00:40:26 น.
แน่ะ พ่อยังโสดใช่มะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account