โคโยตี้สาวร้อนรัก
เมื่อความต้องตาต้องใจในแรกพบเกิดขึ้น ‘อติภพ’ เจ้าพ่อหนุ่มรูปหล่อแห่งสถานบังเทิงหรูจึงไม่รอช้า งัดหากระบวนท่าเพื่อหวังพิชิตและครอบครองสาวน้อยหน้าใสหัวใจโคโยตี้ที่มีนามว่า 'เภตรา' แต่จากที่คิดว่า 'ง่าย' กลับมีสารพัดเรื่องราวของความรัก พ่อแง่แม่งอน รวมถึงความเข้าใจผิดที่ชวนให้เจ้าพ่อหนุ่มต้องปวดหัว
.
ติดตามกันดูนะคะ
.
ลียาอัพทั้งหมด 50% ของเรื่องค่ะ ^_^
.
ติดตามกันดูนะคะ
.
ลียาอัพทั้งหมด 50% ของเรื่องค่ะ ^_^
Tags: อติภพเภตรา โคโยตี้ โคโยตี้สาวร้อนรัก
ตอน: บทที่ 2 ถูกใจแต่ไม่ยอมเสียฟอร์ม (50%)
บทที่ 2 ถูกใจแต่ไม่ยอมเสียฟอร์ม
.
ทันทีที่ปลายจมูกโด่งคมได้สัมผัสรุนแรงลงระหว่างเต้าทรวงตึงเต่งทั้งสองข้าง เภตราก็ดิ้นรนรุนแรงอีกครั้ง เธอผลักไสใบหน้าหล่อร้ายนั่นเต็มที่ แต่กลับไม่มีผลใดที่เธอจะพอใจบังเกิดขึ้นเลย บราเซียร์สีขาวสะอาดถูกกระชากจนสายขาดรุ่งริ่ง ไม่แค่อับอายเท่านั้น แต่มันยังสร้างทั้งความเจ็บปวดให้กับร่างกายและจิตใจของเธอชนิดไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน มือใหญ่แข็งกระด้างตะปบเข้ากอบกุมครอบครองสองเต้า แววตาคมกร้าวนั่นสบประสาน ก่อนโฟกัสทั้งหมดจะสะดุดหลุบลงกับปทุมถันเต็มตึงในอุ้งมือทั้งสองข้างของตนเอง
“กรี๊ดดดด!”
สาวน้อยใช้เสียงเข้าช่วย ในยามที่อีกฝ่ายไม่พูดพล่ามทำเพลง จัดการละเลงเรียวลิ้นลงตวัดระรัวกับยอดบัวสีชมพูสวย ไม่เท่านั้นริมฝีปากบางชื้นยังก้มลงกลืนกินยอดอกที่กำลังแข็งตัวชูชันให้หายเข้าไปในอุ้งปาก ปลายลิ้นฉ่ำชื้นโลมไล้ตวัดเล่น ขณะที่เขาเองก็ดูดเคล้นความนุ่มหยุ่นนั่นอย่างเพลินอารมณ์ไป เวลาผ่านไปไม่กี่นาที กายขาวนวลเนียนที่เคยแข็งขืนต่อต้านก็กลับเอนไหว ไม่ใช่เพราะความรู้สึกจากหัวใจ หากเป็นเพราะความอ่อนไหวไม่ประสาในเกมกามที่เขากำลังยัดเยียดให้นั่นเอง เขาเป็นใคร...ไอ้คนใจร้ายที่มีรูปกายงดงามราวเทพบุตร หากแต่กลับใช้วิธีป่าเถื่อนไร้จิตสำนึกเข้าคุกคามเธอจนแทบจะขาดใจตายด้วยความอับอายปนร้อนฉ่า คล้ายกับว่าไม่มีความเย็นยะเยือกใดในโลกที่จะสามารถดับมันลงได้แบบนี้
“นี่คือบทลงโทษ สำหรับหนึ่งตบที่เธอบังอาจ!”
“ฉะ...อื้อออ ฉันขอ...โทษ ขอโทษก็ได้ ได้โปรด...ปล่อย”
“ปล่อย? เธอฝันไปแล้วสาวน้อย”
สูทสากลสีดำสนิทของคนพูดปลิวออกไปพ้นลำตัวหนาใหญ่ที่ซ่อนมัดกล้ามได้รูปเป็นลอนสวยภายใต้เชิ้ตสีขาวราคาแพงลิ่ว ไม่ทันจะพ้นผ่านไปกี่ลมหายใจ เภตราก็เห็น...แผงอกขาวเปลือยเปล่ากว้างหนา มันกว้างเสียจนสามารถที่จะบดบังเนื้อตัวของเธอได้เสียจนมิดชิด ไรขนสีอ่อนที่กระจายเป็นแนวประทับบดเบียดไปกับอกนุ่มหยุ่นราวสปริงชั้นดีของเธอ สาวน้อยหูอื้อหัวหมุนเมื่อถูกเขาจู่โจมราวพายุร้ายที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดความรุนแรงลงแต่อย่างใด ร่างเล็กพยายามปัดป้องทุบตี ที่สุดก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกลิ้งตัวหนีลงจากโซฟา แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอม ลำแขนล่ำสันทั้งคู่ตวัดรัดร่างแน่งน้อยให้ยิ่งแน่นเข้าพร้อมกับซบหน้าลงคลุกเคล้าเนื้อตัวนุ่มนวลหอมหวานของเธอจนหนำใจ เภตราสะอื้นไห้ ไม่มีหนทางจะช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่ในยามที่ถูกเขาใช้กำลังบังคับปลุกปล้ำจนจัดการกับกางเกงยีนส์เนื้อหนาของเธอให้ร่นพ้นปลายเท้าไปในที่สุด คืนนี้มันช่างเลวร้ายถึงขีดสุด...เจ้าของความคิดส่ายหน้าอย่างท้อแท้ ทำไมทุกคนข้างนอกที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้า ถึงไม่มีใครพยายามเข้ามาช่วยเหลือเธอเลยสักคน ทุกคนเงียบกริบ สีหน้าท่าทางเหมือนหวั่นๆ แกมเกรงใจไอ้คนโฉดดิบเถื่อนคนนี้เสียยิ่งกว่าอะไร จะไปกลัวมันทำไมเภตราไม่เข้าใจ ในเมื่อมันก็มีแค่ลูกน้องสองสามคนที่ติดตามมา การ์ดกับคนในร้านเสียอีกที่มีมากมายกว่าหลายเท่าตัว เภตรานึกน้อยใจ...ไหนทุกคนเคยบอกว่าเราทำงานร่วมกันเหมือนพี่น้อง ไหนว่าจะรักจะเอ็นดูให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วนี่มันอะไร!!
“ว้าย!” ความคิดพลันสะดุดพร้อมกับที่ทั้งกายกระตุกแรง หูยังแว่วเสียงชายหนุ่มผู้คร่อมตัวอยู่เหนือร่างส่งเสียงปรามเบาๆ มาจากที่ไหนสักแห่ง
“จุ๊ๆ”
“แกจะทำอะไร! อย่านะ!” เภตราตกใจทำอะไรไม่ถูก ตากลมโตยิ่งเบิกกว้างขึ้นไปใหญ่ เมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างสูงหนากระถดตัวต่ำลงไปจนใบหน้าคมเฉี่ยวนั้นได้ระดับพอดีกับ ‘ท่อนล่าง’ ของเธออย่างน่าหวาดเสียว เลือดลมที่คงเดือดพล่านพุ่งฉีดขึ้นตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงดวงหน้า ส่งผลให้เภตราตัวชาสลับร้อนวูบวาบราวคนกำลังจะจับไข้ ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดหน้าขาเธอเป็นจังหวะนั่นล่ะ ที่ทำให้สาวน้อยสะดุ้งเฮือกด้วยความหวั่นกลัวตามสัญชาติญาณเมื่อสักครู่
“ดูบริสุทธิ์แล้วก็ไร้เดียงสาเหลือเกินนะ...เภตรา” เสียงห้าวเอ่ยชมแกมเหยียดชัดเจน
“ไอ้บ้า! แกมันคนบ้า ป่าเถื่อน! อย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ”
“แล้วเคยนอนกับคนบ้าบ้างแล้วหรือยัง?”
สิ้นเสียงถาม เรียวขาขาวเปลือยทั้งสองข้างก็ขยับยกเหวี่ยงแรงมาอย่างว่องไว แต่นั่นก็ไม่ครนามืออีกฝ่ายสักเท่าไร เพราะเขาไวกว่าเธอในทุกด้านอยู่แล้ว มือแข็งๆ คว้ารวบปลีน่องเรียวแล้วกดเอาไว้ให้ราบกับโซฟาใหญ่ เภตราตะเกียกตะกายยังไงก็ไม่อาจจะพ้นไปจากกงเล็บของมัจจุราชร้ายอย่างเขาได้ สาวน้อยกรีดร้องสุดเสียงอีกครั้งเมื่อผู้กระทำการอุกอาจจับเรียวขาของเธอแยกออกจากกัน พลันร่างสูงหนาทว่าปราดเปรียวนักก็พาตัวเองเข้ามาปักหลักอยู่หว่างกลางอย่างเตรียมพร้อม! และในเสี้ยววินาทีที่หน้าคมดุซบวูบลงไป
“อย่านะ อย่า กรี๊ดดดด!!”
เจ้าของเสียงร้องลั่นนั่นต้องรีบสั่งตนเองให้รีบกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น ในยามที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียงกรี๊ดแสบแก้วหูเมื่อครู่ ฟังดูจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางอย่างที่เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะหลุดออกมาจากปากของตน ยิ่งเวลาทอดนาน...ความทรมานที่ได้รับจากเรียวลิ้นฉ่ำชื้นซึ่งกำลังแตะไล้ไชชอนไปตามจุดที่สาวน้อยแสนหวงแหนก็ดูจะยิ่งทบทวี แม้ภายในใจที่ปั่นป่วนจะยังต่อต้าน หากทว่าร่างกายกลับไม่อาจฝืนธรรมชาติที่ถูกเขาปลุกเร้านั้นได้ เจ้าของริมฝีปากที่กำลังรุกไล่จูบซับไปตามพื้นที่ของเนื้ออ่อนกดยิ้มตรงมุมปาก เมื่อประสบการณ์การรุกและปลุกเร้าของตนส่งผลให้สะโพกขาวกลมเหมาะมือนั่นค่อยยกสูงขึ้น เภตราทรมานแค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้ แต่เพราะความที่ต้องการจะแกล้งให้สมกับความหยิ่งและจองหองแต่แรกเจอของสาวน้อยคนนี้ จึงทำให้เขายังไม่ลงมือ ‘จัดการ’ ขั้นเด็ดขาดกับเธอในนาทีนี้ทั้งที่ตนเองก็กำลังถูกกระแสแห่งแรงราคะโจนเข้าบีบคั้นและกัดกินถึงก้นบึ้งของความต้องการจนรวดร้าวไปทั้งร่างแทบไม่ต่างอะไรกับเภตราก็ตาม
“อืออออ” เสียงเล็กๆ ครวญจนแหบแห้ง ตราบใดที่เขายังไม่หยุดการรุกรานแสนทรมานนี้ เภตราก็ยังต้องบิดเร่าด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งดำกฤษณาอยู่ไม่รู้หยุด
“ไง...รสชาติของไอ้บ้าไอ้เถื่อนอย่างที่เธอด่ามันถึงใจดีใช่ไหมล่ะ”
“ฉัน...จะฆ่า...แก” ประโยคนั้นกระท่อนกระแท่นขาดๆ หายๆ เสียงห้าวหัวเราะเยาะเธออีกครั้ง
“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะนะสาวน้อย”
“อื้ออออ!” ความระคายของไรหนวดสั้นๆ ใต้คางบึกบึนที่ถูกแกล้งประทับสัมผัสย้ำลงตรงส่วนบอบบางอุ่นชื้นอีกครั้งทำเอาเจ้าของเนื้อนวลถึงกับต้องครวญเสียงสั่น
“แล้วจำใส่ใจเอาไว้ให้ดีนะเภตรา...ว่าตัวเธอเป็นของฉัน นับตั้งแต่วินาทีนี้...เป็นต้นไป” หางตาของคนสั่งละจากนาฬิกาแขวนซึ่งบอกเวลาเที่ยงคืนตรงผนัง
“มะ...ไม่นะ ฉันไม่...ยอม” กายสั่นเทาพยายามจะยันตัวหนี แต่ไอ้บ้าที่เธอก่นด่าอยู่ในใจน่ะยอมรามือเสียที่ไหน เพราะในชั่วขณะที่ละปลายลิ้นและริมฝีปากห่างไป ปลายนิ้วแข็งๆ ก็ถูกจรดจ่อเข้ามาแทนที่ เดิมทีร่างน้อยสะดุ้งเฮือกพร้อมปฏิกิริยาดิ้นหนี แต่มันก็เป็นอีกทีที่เธอต้องพ่ายแพ้ต่อแรงกำลังมหาศาลของอีกฝ่าย หน้าหวานแกมเศร้าส่ายหนี เรียวปากอิ่มเล็กร้องประท้วง
“อย่าทำกับฉัน...แบบนี้ ไม่...ยะ...อย่า”
“ขั้นปรานีนะเภตรา ถ้าฉันไม่บังเอิญมีนัดสำคัญคืนนี้พอดี เธอคงต้องหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ที่นี่จนไม่ได้กลับบ้านกลับช่องกันเป็นแน่”
“บ้าน...บ้าน...แม่...แม่จ๋า แม่ช่วยผึ้งด้วย ช่วยผึ้งด้วย” เจ้าตัวร้องหาที่พึ่งสุดท้าย ที่ยังไงท่านก็คงไม่อาจรู้ได้ว่าเธอกำลังจะเป็นตายร้ายดียังไงในเวลานี้
“ผึ้งงั้นหรือ? ชื่อเล่นหวานสมตัวเธอเลยนะ”
“ไม่นะ อย่าทำฉัน ได้โปรดเถอะ...”
“ละเว้นให้ขนาดนี้แล้ว ยังจะว่าฉันไม่โปรดเธออีกหรือสาวน้อย”
.
ทันทีที่ปลายจมูกโด่งคมได้สัมผัสรุนแรงลงระหว่างเต้าทรวงตึงเต่งทั้งสองข้าง เภตราก็ดิ้นรนรุนแรงอีกครั้ง เธอผลักไสใบหน้าหล่อร้ายนั่นเต็มที่ แต่กลับไม่มีผลใดที่เธอจะพอใจบังเกิดขึ้นเลย บราเซียร์สีขาวสะอาดถูกกระชากจนสายขาดรุ่งริ่ง ไม่แค่อับอายเท่านั้น แต่มันยังสร้างทั้งความเจ็บปวดให้กับร่างกายและจิตใจของเธอชนิดไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน มือใหญ่แข็งกระด้างตะปบเข้ากอบกุมครอบครองสองเต้า แววตาคมกร้าวนั่นสบประสาน ก่อนโฟกัสทั้งหมดจะสะดุดหลุบลงกับปทุมถันเต็มตึงในอุ้งมือทั้งสองข้างของตนเอง
“กรี๊ดดดด!”
สาวน้อยใช้เสียงเข้าช่วย ในยามที่อีกฝ่ายไม่พูดพล่ามทำเพลง จัดการละเลงเรียวลิ้นลงตวัดระรัวกับยอดบัวสีชมพูสวย ไม่เท่านั้นริมฝีปากบางชื้นยังก้มลงกลืนกินยอดอกที่กำลังแข็งตัวชูชันให้หายเข้าไปในอุ้งปาก ปลายลิ้นฉ่ำชื้นโลมไล้ตวัดเล่น ขณะที่เขาเองก็ดูดเคล้นความนุ่มหยุ่นนั่นอย่างเพลินอารมณ์ไป เวลาผ่านไปไม่กี่นาที กายขาวนวลเนียนที่เคยแข็งขืนต่อต้านก็กลับเอนไหว ไม่ใช่เพราะความรู้สึกจากหัวใจ หากเป็นเพราะความอ่อนไหวไม่ประสาในเกมกามที่เขากำลังยัดเยียดให้นั่นเอง เขาเป็นใคร...ไอ้คนใจร้ายที่มีรูปกายงดงามราวเทพบุตร หากแต่กลับใช้วิธีป่าเถื่อนไร้จิตสำนึกเข้าคุกคามเธอจนแทบจะขาดใจตายด้วยความอับอายปนร้อนฉ่า คล้ายกับว่าไม่มีความเย็นยะเยือกใดในโลกที่จะสามารถดับมันลงได้แบบนี้
“นี่คือบทลงโทษ สำหรับหนึ่งตบที่เธอบังอาจ!”
“ฉะ...อื้อออ ฉันขอ...โทษ ขอโทษก็ได้ ได้โปรด...ปล่อย”
“ปล่อย? เธอฝันไปแล้วสาวน้อย”
สูทสากลสีดำสนิทของคนพูดปลิวออกไปพ้นลำตัวหนาใหญ่ที่ซ่อนมัดกล้ามได้รูปเป็นลอนสวยภายใต้เชิ้ตสีขาวราคาแพงลิ่ว ไม่ทันจะพ้นผ่านไปกี่ลมหายใจ เภตราก็เห็น...แผงอกขาวเปลือยเปล่ากว้างหนา มันกว้างเสียจนสามารถที่จะบดบังเนื้อตัวของเธอได้เสียจนมิดชิด ไรขนสีอ่อนที่กระจายเป็นแนวประทับบดเบียดไปกับอกนุ่มหยุ่นราวสปริงชั้นดีของเธอ สาวน้อยหูอื้อหัวหมุนเมื่อถูกเขาจู่โจมราวพายุร้ายที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดความรุนแรงลงแต่อย่างใด ร่างเล็กพยายามปัดป้องทุบตี ที่สุดก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกลิ้งตัวหนีลงจากโซฟา แต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะยอม ลำแขนล่ำสันทั้งคู่ตวัดรัดร่างแน่งน้อยให้ยิ่งแน่นเข้าพร้อมกับซบหน้าลงคลุกเคล้าเนื้อตัวนุ่มนวลหอมหวานของเธอจนหนำใจ เภตราสะอื้นไห้ ไม่มีหนทางจะช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่ในยามที่ถูกเขาใช้กำลังบังคับปลุกปล้ำจนจัดการกับกางเกงยีนส์เนื้อหนาของเธอให้ร่นพ้นปลายเท้าไปในที่สุด คืนนี้มันช่างเลวร้ายถึงขีดสุด...เจ้าของความคิดส่ายหน้าอย่างท้อแท้ ทำไมทุกคนข้างนอกที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้า ถึงไม่มีใครพยายามเข้ามาช่วยเหลือเธอเลยสักคน ทุกคนเงียบกริบ สีหน้าท่าทางเหมือนหวั่นๆ แกมเกรงใจไอ้คนโฉดดิบเถื่อนคนนี้เสียยิ่งกว่าอะไร จะไปกลัวมันทำไมเภตราไม่เข้าใจ ในเมื่อมันก็มีแค่ลูกน้องสองสามคนที่ติดตามมา การ์ดกับคนในร้านเสียอีกที่มีมากมายกว่าหลายเท่าตัว เภตรานึกน้อยใจ...ไหนทุกคนเคยบอกว่าเราทำงานร่วมกันเหมือนพี่น้อง ไหนว่าจะรักจะเอ็นดูให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วนี่มันอะไร!!
“ว้าย!” ความคิดพลันสะดุดพร้อมกับที่ทั้งกายกระตุกแรง หูยังแว่วเสียงชายหนุ่มผู้คร่อมตัวอยู่เหนือร่างส่งเสียงปรามเบาๆ มาจากที่ไหนสักแห่ง
“จุ๊ๆ”
“แกจะทำอะไร! อย่านะ!” เภตราตกใจทำอะไรไม่ถูก ตากลมโตยิ่งเบิกกว้างขึ้นไปใหญ่ เมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างสูงหนากระถดตัวต่ำลงไปจนใบหน้าคมเฉี่ยวนั้นได้ระดับพอดีกับ ‘ท่อนล่าง’ ของเธออย่างน่าหวาดเสียว เลือดลมที่คงเดือดพล่านพุ่งฉีดขึ้นตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงดวงหน้า ส่งผลให้เภตราตัวชาสลับร้อนวูบวาบราวคนกำลังจะจับไข้ ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดหน้าขาเธอเป็นจังหวะนั่นล่ะ ที่ทำให้สาวน้อยสะดุ้งเฮือกด้วยความหวั่นกลัวตามสัญชาติญาณเมื่อสักครู่
“ดูบริสุทธิ์แล้วก็ไร้เดียงสาเหลือเกินนะ...เภตรา” เสียงห้าวเอ่ยชมแกมเหยียดชัดเจน
“ไอ้บ้า! แกมันคนบ้า ป่าเถื่อน! อย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ”
“แล้วเคยนอนกับคนบ้าบ้างแล้วหรือยัง?”
สิ้นเสียงถาม เรียวขาขาวเปลือยทั้งสองข้างก็ขยับยกเหวี่ยงแรงมาอย่างว่องไว แต่นั่นก็ไม่ครนามืออีกฝ่ายสักเท่าไร เพราะเขาไวกว่าเธอในทุกด้านอยู่แล้ว มือแข็งๆ คว้ารวบปลีน่องเรียวแล้วกดเอาไว้ให้ราบกับโซฟาใหญ่ เภตราตะเกียกตะกายยังไงก็ไม่อาจจะพ้นไปจากกงเล็บของมัจจุราชร้ายอย่างเขาได้ สาวน้อยกรีดร้องสุดเสียงอีกครั้งเมื่อผู้กระทำการอุกอาจจับเรียวขาของเธอแยกออกจากกัน พลันร่างสูงหนาทว่าปราดเปรียวนักก็พาตัวเองเข้ามาปักหลักอยู่หว่างกลางอย่างเตรียมพร้อม! และในเสี้ยววินาทีที่หน้าคมดุซบวูบลงไป
“อย่านะ อย่า กรี๊ดดดด!!”
เจ้าของเสียงร้องลั่นนั่นต้องรีบสั่งตนเองให้รีบกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น ในยามที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียงกรี๊ดแสบแก้วหูเมื่อครู่ ฟังดูจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางอย่างที่เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะหลุดออกมาจากปากของตน ยิ่งเวลาทอดนาน...ความทรมานที่ได้รับจากเรียวลิ้นฉ่ำชื้นซึ่งกำลังแตะไล้ไชชอนไปตามจุดที่สาวน้อยแสนหวงแหนก็ดูจะยิ่งทบทวี แม้ภายในใจที่ปั่นป่วนจะยังต่อต้าน หากทว่าร่างกายกลับไม่อาจฝืนธรรมชาติที่ถูกเขาปลุกเร้านั้นได้ เจ้าของริมฝีปากที่กำลังรุกไล่จูบซับไปตามพื้นที่ของเนื้ออ่อนกดยิ้มตรงมุมปาก เมื่อประสบการณ์การรุกและปลุกเร้าของตนส่งผลให้สะโพกขาวกลมเหมาะมือนั่นค่อยยกสูงขึ้น เภตราทรมานแค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้ แต่เพราะความที่ต้องการจะแกล้งให้สมกับความหยิ่งและจองหองแต่แรกเจอของสาวน้อยคนนี้ จึงทำให้เขายังไม่ลงมือ ‘จัดการ’ ขั้นเด็ดขาดกับเธอในนาทีนี้ทั้งที่ตนเองก็กำลังถูกกระแสแห่งแรงราคะโจนเข้าบีบคั้นและกัดกินถึงก้นบึ้งของความต้องการจนรวดร้าวไปทั้งร่างแทบไม่ต่างอะไรกับเภตราก็ตาม
“อืออออ” เสียงเล็กๆ ครวญจนแหบแห้ง ตราบใดที่เขายังไม่หยุดการรุกรานแสนทรมานนี้ เภตราก็ยังต้องบิดเร่าด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งดำกฤษณาอยู่ไม่รู้หยุด
“ไง...รสชาติของไอ้บ้าไอ้เถื่อนอย่างที่เธอด่ามันถึงใจดีใช่ไหมล่ะ”
“ฉัน...จะฆ่า...แก” ประโยคนั้นกระท่อนกระแท่นขาดๆ หายๆ เสียงห้าวหัวเราะเยาะเธออีกครั้ง
“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะนะสาวน้อย”
“อื้ออออ!” ความระคายของไรหนวดสั้นๆ ใต้คางบึกบึนที่ถูกแกล้งประทับสัมผัสย้ำลงตรงส่วนบอบบางอุ่นชื้นอีกครั้งทำเอาเจ้าของเนื้อนวลถึงกับต้องครวญเสียงสั่น
“แล้วจำใส่ใจเอาไว้ให้ดีนะเภตรา...ว่าตัวเธอเป็นของฉัน นับตั้งแต่วินาทีนี้...เป็นต้นไป” หางตาของคนสั่งละจากนาฬิกาแขวนซึ่งบอกเวลาเที่ยงคืนตรงผนัง
“มะ...ไม่นะ ฉันไม่...ยอม” กายสั่นเทาพยายามจะยันตัวหนี แต่ไอ้บ้าที่เธอก่นด่าอยู่ในใจน่ะยอมรามือเสียที่ไหน เพราะในชั่วขณะที่ละปลายลิ้นและริมฝีปากห่างไป ปลายนิ้วแข็งๆ ก็ถูกจรดจ่อเข้ามาแทนที่ เดิมทีร่างน้อยสะดุ้งเฮือกพร้อมปฏิกิริยาดิ้นหนี แต่มันก็เป็นอีกทีที่เธอต้องพ่ายแพ้ต่อแรงกำลังมหาศาลของอีกฝ่าย หน้าหวานแกมเศร้าส่ายหนี เรียวปากอิ่มเล็กร้องประท้วง
“อย่าทำกับฉัน...แบบนี้ ไม่...ยะ...อย่า”
“ขั้นปรานีนะเภตรา ถ้าฉันไม่บังเอิญมีนัดสำคัญคืนนี้พอดี เธอคงต้องหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ที่นี่จนไม่ได้กลับบ้านกลับช่องกันเป็นแน่”
“บ้าน...บ้าน...แม่...แม่จ๋า แม่ช่วยผึ้งด้วย ช่วยผึ้งด้วย” เจ้าตัวร้องหาที่พึ่งสุดท้าย ที่ยังไงท่านก็คงไม่อาจรู้ได้ว่าเธอกำลังจะเป็นตายร้ายดียังไงในเวลานี้
“ผึ้งงั้นหรือ? ชื่อเล่นหวานสมตัวเธอเลยนะ”
“ไม่นะ อย่าทำฉัน ได้โปรดเถอะ...”
“ละเว้นให้ขนาดนี้แล้ว ยังจะว่าฉันไม่โปรดเธออีกหรือสาวน้อย”
ลียา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.พ. 2560, 09:39:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.พ. 2560, 09:41:59 น.
จำนวนการเข้าชม : 960
<< บทที่ 1 โชคชะตาที่ต้องฝ่าฟัน (100%) | บทที่ 2 ถูกใจแต่ไม่ยอมเสียฟอร์ม (100%) >> |