หัวใจลายกระต่าย (รอลงต่อนะคะ)
ถ้าหัวใจคือดวงจันทร์ที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง
ความรักก็คงเหมือนดวงอาทิตย์ที่ทำให้ดวงจันทร์สว่างไสว
หัวใจที่ได้รับความรักจากเธอก็เช่นกัน

เธอเห็นความรักของฉันใช่ไหม?
Tags: หัวใจ กระต่าย ปิ่นนลิน รัก คุณหมอ

ตอน: ตอนที่ 5 - 100%

ตอนที่ 5 - 100%

หลังจากได้หนังสือเล่มที่น่าสนใจ คนึงมาสก็หอบหนังสือไว้ในอ้อมแขน เธอหันมองรอบตัวไม่พบณฐา เมื่อครู่เขายังป้วนเปี้ยนวนรอบตัวเธออยู่เลย คนึงมาสคิดว่าบางทีณฐาอาจจะไปเลือกซื้อหนังสือของเขาบ้าง เธอจึงเดินไปยังหนังสือหมวดอื่นๆ ก่อนจะสบายใจเมื่อเห็นคนตัวสูงที่ตามหายืนอยู่แถวชั้นหนังสือแนวการ์ตูนตะวันตก หากว่ารอยยิ้มสดใสของเธอค่อยๆ เจื่อนลงเพราะเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ข้างกายของณฐามีผู้หญิงหน้าตาสวยยืนอยู่ด้วย

แต่คนึงมาสก็ไม่ต้องยืนหน้าหงอยนาน ณฐาหันมาเห็นเธอก็ร่ำลาผู้หญิงคนนั้น ตรงมาหาเธอแทน

“ได้หนังสือแล้วหรือ” ณฐาเอ่ยถาม เขาเองก็หยิบหนังสือติดมือมาสามเล่มเช่นกัน

“ค่ะ เอ่อ เพื่อนพี่ณัฐหรือคะ” คนึงมาสหันไปมองผู้หญิงสวยๆ ที่เหมือนจะยังมองเธออย่างสนใจ พอถูกเธอสบตา ผู้หญิงคนนั้นก็ส่งยิ้มให้แล้วเดินจากไป

“คุณแพรเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาลน่ะครับ เขาเป็นเลขาฯ คุณทินกฤต” ณฐามองไม่ออกหรอกว่าคนถามกำลังสงสัย เขาคิดว่าเป็นคำถามธรรมดาทั่วไป

คนึงมาสรับทราบก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรต่อ ชักชวนชายหนุ่มไปจ่ายเงินค่าหนังสือแล้วตั้งใจว่าจะกลับบ้านเลย



ศัลยแพทย์หนุ่มกับผู้หญิงของเขาเดินออกจากร้านหนังสือไปแล้ว แต่แพรมณียังยืนนิ่ง หัวใจของเธอเศร้าจนทำอะไรไม่ถูก

เธอคนนั้นตัวเล็ก เหมือนดอกไม้น้อยๆ แสนสดใส มีรอยยิ้มอ่อนหวาน นั่นคงเป็นสเปคของณฐาสินะ

แพรมณีถอนหายใจ เธอหันมองรอบตัว ผู้ชายที่มากับแฟนส่วนใหญ่ก็มีแต่สไตล์ผู้หญิงไซส์มินิทั้งนั้น ดูเธอสิ ตัวสูงขนาดนี้ แม้หน้าตาจะไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่เรื่องความสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรนี่อาจเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครกล้าจีบเธอก็ได้

หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะเดินคอตกออกจากร้านหนังสือไปบ้าง



ตั้งแต่แม่กลับมาจากเจอเพื่อนเก่า คนึงมาสก็เห็นแม่นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา แม่กินข้าวน้อย และตอนหัวค่ำนั่งดูรายการโทรทัศน์ตลกๆ ก็ไม่หัวเราะตามประสาคนเส้นตื้นอย่างทุกที เอาแต่เหม่อลอยเหมือนมีอะไรในใจ คนึงมาสไม่กล้าถาม ปกติแม่ของเธอไม่ใช่คนนั่งเหม่อ หรือแสดงความเศร้า ความเครียดให้ใครเห็น บางทีแม่อาจจะมีเรื่องกลุ้มใจอยู่จริงๆ คนึงมาสเลยไม่กล้าทักให้แม่ต้องแกล้งแสดงว่าสบายดี แทนการระบายออกมาให้เธอรู้

กระทั่งเกือบสี่ทุ่ม คนึงมาสเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าแม่ไม่ได้นั่งอยู่ในห้องนอน เธอลงจากชั้นบน เห็นมารดานั่งอยู่ที่โต๊ะสนามหน้าบ้านกับน้าชายแค่สองคน เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแต่ความเป็นห่วงทำให้คนึงมาสค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้โดยผู้ใหญ่ทั้งสองคนไม่รู้สึกตัวเลย

“เจอพ่อกระต่ายหรือครับ” เสียงของศิลาดังอย่างตกใจ คนึงมาสเห็นสีหน้าน้าชายเต็มไปด้วยความกังวล และแม่ของเธอก็พยักหน้าช้าๆ

“ใช่ เจอโดยบังเอิญน่ะ หิน พี่ทำยังไงดี พี่กลัวเขาจะรู้ว่าพี่ยังเก็บลูกไว้ พี่กลัวเขามาเอายัยกระต่ายไปจากพี่” มาสิณีถามน้องชายสุ้มเสียงกลุ้มใจ

“พี่แต อย่ากังวลไปเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ตามกฏหมายแล้วเขาเอาตัวกระต่ายไปไม่ได้หรอกครับ” ศิลาลูบไหล่ปลอบประโลมพี่สาว

หากศิลาก็ไม่สบายใจเมื่อเวลานี้หลานสาวอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้ว

“แต่ว่ากระต่ายก็โตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว กระต่ายมีสิทธิ์จะเลือกเหมือนกันว่าแกอยากเจอพ่อแกหรือเปล่า”

“จริงสิ กระต่ายโตแล้ว พี่ไม่มีสิทธิ์จะเก็บแกไว้กับตัวอีกแล้ว” มาสิณีเริ่มร้องไห้ ด้วยสับสนใจเหลือเกิน

“ผมว่านะพี่แต กระต่ายไม่มีทางเลือกทางนั้นหรอก กระต่ายเห็นมาตลอดว่าพี่พยายามเลี้ยงแกมาลำบากแค่ไหน เรามีกันแค่นี้ แม้ไมได้ร่ำรวยอะไร ก็พยายามให้หลานมีทุกอย่างที่ควรจะมี”

ศิลาจำได้ดีว่าตอนพ่อของเขาฆ่าตัวตายเพราะล้มละลายนั้น เขาเคยลำบากมาขนาดไหน ศิลาไม่ชอบความลำบากแบบตอนนั้นอีก เขากลายเป็นคนตั้งใจเรียน คว้าทุนการศึกษา ทำงานก็เป็นคนบ้างาน เพราะอยากเก็บเงินให้ได้มากที่สุด

พี่สาวอาจจะว่าว่าเขาขี้งก ขี้เหนียว หรืออะไรก็ตาม ศิลาไม่สนใจหรอก ถ้าวันหนึ่งเขาเกิดทำงานไม่ได้ขึ้นมา เงินและทรัพย์สินจากการประหยัดอดออมจะช่วยให้เขาผ่านความลำบากไปได้

แต่เขาก็ไม่เคยขี้งก หรือคิดมากกับการจ่ายเงินซื้อความสุขให้ครอบครัวเลย ยิ่งพี่สาว หลานสาวด้วยแล้ว ศิลาอยากเห็นสองคนนี้มีแต่รอยยิ้ม มีแต่ความสุขให้มากเท่าที่มากได้

อีกอย่างหนึ่ง ศิลาก็เชื่อมั่นในตัวหลานสาว

“กระต่ายเป็นเด็กดีนะครับ ไม่มีทางเลือกพ่อโดยทิ้งแม่ได้หรอกครับ”

คนึงมาสใช้สมาธิและตั้งใจฟังพวกผู้ใหญ่คุยกัน แต่ระยะห่างไกลเกินกว่าจะได้ยินว่าแม่กับน้าชายคุยอะไรกันอยู่ แถมเธอไม่ได้ยินหรือรู้สึกว่าณฐามายืนอยู่ด้านหลัง

“กระต่าย ทำอะไรอยู่” ณฐาโน้มตัวลงมาใกล้ข้างใบหน้าขาว เอ่ยถามเสียงเบา แต่ก็ทำให้คนตัวเล็กตกใจสะดุ้งโหยง

“เปล่าค่ะ ไม่ได้ทำอะไรค่ะ” คนึงมาสโบกมือไปมา โชคดีที่ณฐาไม่สงสัยอะไร เขาอมยิ้มขัดเขิน เอ่ยกับเธอ

“ผมมีของจะให้ แบมือมาสิ”

หญิงสาวยอมยกมือสองข้างขึ้นมา ตุ๊กตากระต่ายหูยาวตัวประมาณฝ่ามือ ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายสีขาวก็ถูกหย่อนลงกลางฝ่ามือเล็ก เธอเงยหน้ามองคนให้อย่างแปลกใจ

หากณฐากลับไม่พูดหรือเอ่ยอะไรต่อนอกจาก “ฝันดีนะ” เขายิ้ม และหมุนตัวเดินกลับขึ้นบันไดไปชั้นบน ทิ้งให้คนยืนงงมองตาม

คนึงมาสจ้องตุ๊กตากระต่ายในมือ ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมณฐาถึงให้ตุ๊กตากับเธอ แต่เธอก็ดีใจ ยืนยิ้มแก้มแทบแตก

ซึ่งรอยยิ้ม หน้าตามีความสุข และแก้มแดงๆ ของเธอก็ทำให้คนให้ที่แอบมองอยู่บนบันไดยิ้มตามด้วยเช่นกัน

เขาทำใจอยู่นานว่าจะให้ตุ๊กตาคนึงมาสอย่างไรดี คิดหาตั้งหลายวิธีแต่สุดท้ายก็ยื่นให้แบบธรรมดาๆ น่าแปลกที่ทุกอย่างง่ายดายกว่าที่คิด อาจจะอายไปหน่อยแต่ได้เห็นรอยยิ้มของคนน่ารัก ณฐาก็มีความสุขปริ่มหัวใจ


จบตอนค่า



คุณแว่นใส - คุณพ่อจะสืบสำเร็จไหมน้า

คุณkaelek- แม่อาจไม่ใช่อุปสรรคกับหมอณัฐ แต่พ่อนี่ด่านหินแน่ๆ ค่ะ อิอิ

พบกันตอนหน้าค่ะ ขอบคุณ สวัสดีค่ะ



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.พ. 2560, 03:11:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.พ. 2560, 03:11:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 1030





<< ตอนที่ 5 - 70%   ตอนที่ 6 - 35% >>
kaelek 16 ก.พ. 2560, 06:40:09 น.
มีให้ตุ๊กตาแทนใจกันดีวยอ่าาาา ..เรื่องระหว่างพ่อกะแม่ต้องมีตัวแปรอื่นอีกแน่เลย


แว่นใส 16 ก.พ. 2560, 07:18:43 น.
นี่ไม่ใช่การจีบใช่ไหม


ตามหาฝัน 16 ก.พ. 2560, 11:21:39 น.
อยากได้ตุ๊กตาบ้าง


Zephyr 27 มี.ค. 2560, 01:36:16 น.
โอ้ยยยยๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account