เพียงใจเสน่าหา โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
เมื่อเทพบุตรในฝันมายืนอยู่ตรงหน้ามีหรือคนอย่างแป้งร่ำจะปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการล่ารักฉบับพลีชีพจึงเกิดขึ้น แต่เอ๊ะยังไง นานๆไปเทพบุตรในฝันกลับกลายร่าง รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็น "เป็ดน้อยในมือซาตานไปแล้ว"
เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
Tags: โรแมนติก คอเมดี้ นางเอกรั่วๆ นางเป็นเภสัชกร พระเอกเป็นจิตแพทย์
ตอน: บทนำ
บทนำ
ในห้องนั่งเล่นขนาดกลางที่เปิดโคมไฟเอาไว้ให้สว่างแต่เพียงสลัว สองหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งดูภาพยนตร์รักโรแมนอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีแดงสด สายตาของฝ่ายหญิงจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่อย่างให้ความสนใจ ในขณะที่สายตาของฝ่ายชายกลับทอดมองมายังหญิงสาวโดยไม่ใส่ใจจะมองนางเอกสาวสวยเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้สายตาเขามีเพียงเธอ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเทียบเคียงความสวยผุดผาดของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ ภาพเธอที่กำลังจ้องจอตาเขม็งทำให้รู้สึกเอ็นดูเสียจนต้องเหยียดแขนออกเพื่อโอบตัวหญิงสาวมาซบกับไหล่
ณัฐมลเอนตัวมาซบกับท่อนแขนกำยำอย่างไม่ขัดขืน เธอช้อนตาขึ้นมามองคนรักแล้วส่งยิ้มละไมกลับมาให้ แพขนตาหนาที่กระพริบขึ้นลงกับริมฝีปากอิ่มเคลือบลิปสติกสีหวานของหญิงสาวดูยั่วยวนเสียจนธาวินเริ่มจะยั้งใจไม่ได้ ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาแล้วประทับจูบลงบนกลีบปากของหญิงสาวแต่พลาดเป้าไปไกลเพราะเธอเอียงตัวหลบ
“ใจร้ายจัง แค่จูบเท่านั้นเอง เราคบมาครึ่งปีแล้วนะครับแป้ง แป้งยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าวินรักแป้ง” ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนอย่างน่ารัก
พอเห็นหญิงสาวมีท่าทีลังเลเหมือนจะอ่อนลง เขาก็ประทับริมฝีปากลงที่ขมับและจมูกของเธอ ในขณะที่มือก็ลูบไล้ต้นแขนบอบบางอย่างแผ่วเบา
สัมผัสละมุนทำให้ณัฐมลอ่อนระทวย การกระทำของเขาจุดไฟปรารถนาในใจของเธอให้คุกรุ่นขึ้นมาทีละน้อย สัญชาตญาณเตือนเธอว่าถ้ายังใจอ่อนอยู่อย่างนี้คืนนี้เรื่องคงไม่จบลงแค่จูบ ใจเธอก็อยากจะปล่อยให้อะไรต่อมิอะไรมันเลยเถิดไปตามความต้องการอยู่เหมือนกันแต่สติมันก็เตือนว่าตราบใดที่เธอยังมีความลับกับเขาอยู่ ฉากจบมันต้องไม่สวยแน่
หญิงสาวกัดฟันเรียกสติตัวเองแล้วยันอกเขาเอาไว้ให้เข้ามาแนบชิดมากไปที่เป็นอยู่
“ดูหนังต่อเถอะนะคะ กำลังสนุกเลย”
ธาวินขยับถอยออกมาหน่อยแต่ก็ยังคงไม่ยอมคลายมือไปจากตัวของหญิงสาว
“แป้งใจร้ายกับวินอีกแล้ว” ชายหนุ่มตัดพ้อ
“มันยังไม่ถึงเวลานี่คะ เราเพิ่งคบกันเอง ให้เวลาแป้งนะ”
หญิงสาวใช้ดวงตาใสๆ วิงวอน ธาวินเป็นสุภาพบุรุษและเป็นคนดีกว่าทุกคนที่เธอเคยคบมา เธอจึงเชื่อว่าเขาจะเข้าใจและให้เวลาเธอทำใจอีกสักระยะก่อนที่จะมีอะไรลึกซึ้งต่อกัน หรือพูดให้ตรงอีกหน่อยก็คือให้เวลาเธอเตรียมใจก่อนจะสารภาพความจริงกับเขา ถึงตอนนั้นถ้าเขารับได้ รับรองว่าเธอจะพลีกายถวายใจให้เขาในทันที
“คนเราต้องการเวลาเพราะไม่มั่นใจ แป้งไม่มั่นใจว่าวินจริงจังใช่ไหม” น้ำเสียงของชายหนุ่มเจือกระแสตัดพ้ออยู่ในที สีหน้าก็ฟ้องชัดว่ากำลังน้อยใจ
“ไม่ใช่นะคะวิน เพียงแต่แป้ง คือ...” ณัฐมลพูดตะกุกตะกักเพราะไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
สิ่งที่ธาวินพูดมามันจี้ใจดำหญิงสาวอย่างแรง เธอไม่มั่นใจในตัวเขาเนื่องจากเชื่อว่าเขาคงไม่ให้อภัยเรื่องที่เธอหลอกลวงเขามาตลอดเวลาที่คบกัน
“ไม่ต้องอธิบายแล้วครับแป้ง ช่างเถอะ วินผิดเองที่ไม่ชัดเจน” ชายหนุ่มโบกมือห้าม
ณัฐมลลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เค้าไม่เร่งรัดเธอ ทว่าสบายใจได้ไม่กี่วินาทีหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“วินรักแป้งจริงๆ นะครับ รักมากอย่างที่ไม่เคยรักใคร พรุ่งนี้ไปบ้านวินนะ วินจะได้แนะนำให้ป๋ากับม้ารู้จักว่าที่ลูกสะใภ้”
ธาวินคิดมานานแล้วเรื่องที่เขาอยากจะแต่งงานกับเธอ เขาเคยคิดว่าอายุยี่สิบหกมันเร็วเกินไปที่จะแต่งงาน จนกระทั่งได้พบณัฐมลความคิดของเขาก็เปลี่ยน เธอเป็นคนสวย มีเสน่หา สดใสน่ารักเป็นกันเอง ใครเห็นก็ต้องถูกชะตาและรักชอบเธอกันทั้งนั้น ทว่าเธอยังก็ยังมีส่วนที่เขาเข้าไปไม่ถึง เขาให้ใจเธอไปเต็มร้อยแต่เธอกลับให้กลับมาไม่ถึงครึ่ง เขาจึงกลัวว่าถ้าไม่รีบผูกมัดเธอเอาไว้เธออาจจะเป็นฝ่ายทิ้งเขาไป
“วินพูดจริงๆ เหรอ วินไม่ได้หลอกกันนะ” ณัฐมลแทบจะเขย่าตัวชายหนุ่มขณะถามเลยทีเดียว หัวใจเธอพองโตอย่างตื่นเต้นกับข่าวที่ได้ยิน
“สาบานด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลยครับ วินไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านนะ แป้งเป็นคนแรก”
คำตอบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกยินดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แววตาของเขาทำให้เธอมั่นใจว่าหากสารภาพความจริงออกไปเขาต้องให้อภัยเธอแน่ พอคิดได้แบบนี้ปากที่มักจะไปไวพอๆ กับความคิดก็เปล่งเสียงเป็นข้อความออกมา
“แป้งมีเรื่องปิดบังวินอยู่”
ธาวินชะงักไปในทันที สีหน้าจริงจังของเธอทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจชอบกลว่ามันไม่ใช่เรื่องดี
“แป้งอย่าบอกนะว่าแป้งมีคนอื่น” ชายหนุ่มเดาไปในทางร้ายที่สุดเอาไว้ก่อน พอได้เห็นเธอส่ายหน้าเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แล้วเรื่องอะไรล่ะ”
“คือ...เรื่องโกหก เกี่ยวกับเอ่อ...ตัวเลขน่ะ วินอย่าโกรธแป้งนะ แป้งไม่ได้ตั้งใจจะปิดวินเลย”
“ถ้าไม่ใช่เรื่องแป้งมีคนอื่น จะเป็นอดีตที่ไม่ดีหรืออะไรวินก็รับได้ทั้งนั้นแหละ”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างแบ่งรับแบ่งสู้เอาไว้ก่อน ทั้งที่ในใจก็เริ่มหวั่นเพราะสีหน้าของหญิงสาวดูซีดมาก
ณัฐมลมองธาวินอย่างขอบคุณ เธอสูดหายใจเข้าปอกลึกๆ เพื่อเรียกความกล้า แล้วตัดสินใจสารภาพความจริงออกไปในที่สุด
“แป้งโกหกว่าอายุ 26”
ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่ะๆ เรื่องแค่นี้ วินตกอกตกใจหมด”
“ไม่แค่นะวิน เยอะเลยล่ะ บวกไปอีกเอ่อ...ห้า”
ณัฐมลแทบจะกลั้นหายใจขณะรอฟังคำตอบ สีหน้าของธาวินดูประหลาดใจแต่ก็ไม่มีแววโกรธเคืองอยู่ในนั้น เขามองสำรวจใบหน้าของเธออย่างจริงจังเสียจนต้องก้มหน้างุดหลบตา
“แป้ง 31 แล้วจริงๆ เหรอ ไม่น่าเชื่อ”
เธอตัวเล็ก ผิวขาว หน้าเด็ก มองอย่างไรก็เหมือนคนที่เพิ่งจะพ้นวัยมหาวิทยาลัยมาได้ไม่นาน
“แป้งไม่ได้อำวินเล่นใช่ไหม” ธาวินถามด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น
หนนี้หญิงสาวตอบคำถามด้วยการยื่นบัตรประชาชนให้อีกฝ่ายดู ชายหนุ่มบวกลบเลขปีในบัตรอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างตรงกับที่เธอบอกนั่นคือเธออายุสามสิบเอ็ดแล้ว
ธาวินตกใจกับความลับข้อนี้ของคนรักแต่เขาก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ พอหายจากอาการแปลกใจเขาก็คลี่ยิ้มส่งมาให้หญิงสาว
“วินไม่โกรธแป้งกับเรื่องแค่นี้หรอก เลิกคิดมากแล้วยิ้มได้แล้วนะครับ”
ชายหนุ่มหวังว่าคำพูดประโยคนี้จะทำให้แฟนสาวโผเข้ามากอดเขา แล้วเอ่ยชมที่ไม่ถือสาคำโกหก ทว่าแทนที่จะผ่อนคลายลงสีหน้าของณัฐมลกลับจริงจังมากขึ้นไปอีก
“แป้งเชื่อแล้วค่ะว่าวินรักแป้งจริงๆ รอก่อนนะคะ แป้งมีบางอย่างอยากให้วินดู”
“ของอะไรเหรอ”
“หน้าแป้งตอนไม่ได้แต่งหน้าค่ะ” เอ่ยจบหญิงสาวก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา
“โธ่…นึกว่าอะไร ไม่ต้องหรอกแป้ง จะแต่งหน้าหรือไม่แต่งแป้งก็ยังน่ารักในสายตาวินอยู่ดี”
ถึงเขาจะไม่เคยเห็นใบหน้าเปลือยเปล่าของเธอแต่ณัฐมลก็แต่งหน้าอ่อนๆ ให้เห็นหลายครั้ง ชายหนุ่มจึงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอาง คิดกันเพียงว่าของพวกนี้ก็แค่สีที่เอาไว้ระบายหน้า ไม่ได้ช่วยให้แปลกแตกต่างแต่อย่างใด ธาวินไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าเขากำลังจะได้พบกับอภินิหารของเครื่องสำอางเข้าอย่างจัง
“ไม่ค่ะ วินไม่เข้าใจ วินดูเองดีกว่า แป้งตัดสินใจแล้วว่าเราจะไม่มีความลับต่อกัน” ณัฐมลหันมาเอ่ยอย่างมาดมั่น
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวตามลำพัง เธอนั่งลงตรงหน้ากระจกแล้วใช้ครีมล้างเครื่องสำอางเช็ดล้างทุกอย่างบนใบหน้า จากนั้นก็เอาขนตาแปลม คอนแทกต์เลนส์ตาโตกับกาวที่ใช้ติดสำหรับทำตาสองชั้นออก พอเช็ดทุกอย่างออกหมดจากผู้หญิงตากลมแพขนตาหนาน่ารักเหมือนตุ๊กตา ก็เปลี่ยนเป็นอาซิ้มหน้าจืดได้อย่างน่าอัศจรรย์
ณัฐมลแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นสภาพความเป็นจริงของตัวเองในกระจก ตาเธอเป็นตาชั้นเดียวแถมขนตายังสั้นและบางมาก ถ้าไม่กรีดอายไลน์เนอร์กับติดขนตาปลอม ใบหน้าเธอก็ไม่เหลืออะไรที่พอจะเรียกว่าดูดีเลย ภาพสะท้อนของผู้หญิงสุดแสนจะขี้ริ้วในกระจกทำให้หญิงสาวหมดความมั่นใจจนเริ่มอยากเปลี่ยนใจ
ในขณะที่หญิงสาวกำลังตัดสินใจอยู่นั้น ประตูห้องแต่งตัวก็ถูกเคาะ ยังไม่ทันได้อนุญาตธาวินก็เปิดพรวดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าเปลือยเปล่าของหญิงสาวตาค้าง ส่วนตัวณัฐมลเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ต่างฝ่ายจึงมองสบตากันนิ่งอยู่นาน
ธาวินจ้องมองหญิงสาวหน้าจืดค่อนไปทางขี้เหร่อย่างแปลกใจ เขากวาดตามองไปทั่วห้อง เมื่อไม่พบใครอื่นจึงหันกลับมาถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงใจใสซื่ออย่างที่สุดว่า
“คุณเป็นใครครับ?”
---------------------------------------------------------------------------------
ลิงค์การ์ตูนแถมท้ายบทค่ะ http://writer.dek-d.com/astrum/story/viewlongc.php?id=733032&chapter=2
ในห้องนั่งเล่นขนาดกลางที่เปิดโคมไฟเอาไว้ให้สว่างแต่เพียงสลัว สองหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งดูภาพยนตร์รักโรแมนอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีแดงสด สายตาของฝ่ายหญิงจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่อย่างให้ความสนใจ ในขณะที่สายตาของฝ่ายชายกลับทอดมองมายังหญิงสาวโดยไม่ใส่ใจจะมองนางเอกสาวสวยเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้สายตาเขามีเพียงเธอ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเทียบเคียงความสวยผุดผาดของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ ภาพเธอที่กำลังจ้องจอตาเขม็งทำให้รู้สึกเอ็นดูเสียจนต้องเหยียดแขนออกเพื่อโอบตัวหญิงสาวมาซบกับไหล่
ณัฐมลเอนตัวมาซบกับท่อนแขนกำยำอย่างไม่ขัดขืน เธอช้อนตาขึ้นมามองคนรักแล้วส่งยิ้มละไมกลับมาให้ แพขนตาหนาที่กระพริบขึ้นลงกับริมฝีปากอิ่มเคลือบลิปสติกสีหวานของหญิงสาวดูยั่วยวนเสียจนธาวินเริ่มจะยั้งใจไม่ได้ ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มตัวเข้าหาแล้วประทับจูบลงบนกลีบปากของหญิงสาวแต่พลาดเป้าไปไกลเพราะเธอเอียงตัวหลบ
“ใจร้ายจัง แค่จูบเท่านั้นเอง เราคบมาครึ่งปีแล้วนะครับแป้ง แป้งยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าวินรักแป้ง” ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนอย่างน่ารัก
พอเห็นหญิงสาวมีท่าทีลังเลเหมือนจะอ่อนลง เขาก็ประทับริมฝีปากลงที่ขมับและจมูกของเธอ ในขณะที่มือก็ลูบไล้ต้นแขนบอบบางอย่างแผ่วเบา
สัมผัสละมุนทำให้ณัฐมลอ่อนระทวย การกระทำของเขาจุดไฟปรารถนาในใจของเธอให้คุกรุ่นขึ้นมาทีละน้อย สัญชาตญาณเตือนเธอว่าถ้ายังใจอ่อนอยู่อย่างนี้คืนนี้เรื่องคงไม่จบลงแค่จูบ ใจเธอก็อยากจะปล่อยให้อะไรต่อมิอะไรมันเลยเถิดไปตามความต้องการอยู่เหมือนกันแต่สติมันก็เตือนว่าตราบใดที่เธอยังมีความลับกับเขาอยู่ ฉากจบมันต้องไม่สวยแน่
หญิงสาวกัดฟันเรียกสติตัวเองแล้วยันอกเขาเอาไว้ให้เข้ามาแนบชิดมากไปที่เป็นอยู่
“ดูหนังต่อเถอะนะคะ กำลังสนุกเลย”
ธาวินขยับถอยออกมาหน่อยแต่ก็ยังคงไม่ยอมคลายมือไปจากตัวของหญิงสาว
“แป้งใจร้ายกับวินอีกแล้ว” ชายหนุ่มตัดพ้อ
“มันยังไม่ถึงเวลานี่คะ เราเพิ่งคบกันเอง ให้เวลาแป้งนะ”
หญิงสาวใช้ดวงตาใสๆ วิงวอน ธาวินเป็นสุภาพบุรุษและเป็นคนดีกว่าทุกคนที่เธอเคยคบมา เธอจึงเชื่อว่าเขาจะเข้าใจและให้เวลาเธอทำใจอีกสักระยะก่อนที่จะมีอะไรลึกซึ้งต่อกัน หรือพูดให้ตรงอีกหน่อยก็คือให้เวลาเธอเตรียมใจก่อนจะสารภาพความจริงกับเขา ถึงตอนนั้นถ้าเขารับได้ รับรองว่าเธอจะพลีกายถวายใจให้เขาในทันที
“คนเราต้องการเวลาเพราะไม่มั่นใจ แป้งไม่มั่นใจว่าวินจริงจังใช่ไหม” น้ำเสียงของชายหนุ่มเจือกระแสตัดพ้ออยู่ในที สีหน้าก็ฟ้องชัดว่ากำลังน้อยใจ
“ไม่ใช่นะคะวิน เพียงแต่แป้ง คือ...” ณัฐมลพูดตะกุกตะกักเพราะไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
สิ่งที่ธาวินพูดมามันจี้ใจดำหญิงสาวอย่างแรง เธอไม่มั่นใจในตัวเขาเนื่องจากเชื่อว่าเขาคงไม่ให้อภัยเรื่องที่เธอหลอกลวงเขามาตลอดเวลาที่คบกัน
“ไม่ต้องอธิบายแล้วครับแป้ง ช่างเถอะ วินผิดเองที่ไม่ชัดเจน” ชายหนุ่มโบกมือห้าม
ณัฐมลลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เค้าไม่เร่งรัดเธอ ทว่าสบายใจได้ไม่กี่วินาทีหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“วินรักแป้งจริงๆ นะครับ รักมากอย่างที่ไม่เคยรักใคร พรุ่งนี้ไปบ้านวินนะ วินจะได้แนะนำให้ป๋ากับม้ารู้จักว่าที่ลูกสะใภ้”
ธาวินคิดมานานแล้วเรื่องที่เขาอยากจะแต่งงานกับเธอ เขาเคยคิดว่าอายุยี่สิบหกมันเร็วเกินไปที่จะแต่งงาน จนกระทั่งได้พบณัฐมลความคิดของเขาก็เปลี่ยน เธอเป็นคนสวย มีเสน่หา สดใสน่ารักเป็นกันเอง ใครเห็นก็ต้องถูกชะตาและรักชอบเธอกันทั้งนั้น ทว่าเธอยังก็ยังมีส่วนที่เขาเข้าไปไม่ถึง เขาให้ใจเธอไปเต็มร้อยแต่เธอกลับให้กลับมาไม่ถึงครึ่ง เขาจึงกลัวว่าถ้าไม่รีบผูกมัดเธอเอาไว้เธออาจจะเป็นฝ่ายทิ้งเขาไป
“วินพูดจริงๆ เหรอ วินไม่ได้หลอกกันนะ” ณัฐมลแทบจะเขย่าตัวชายหนุ่มขณะถามเลยทีเดียว หัวใจเธอพองโตอย่างตื่นเต้นกับข่าวที่ได้ยิน
“สาบานด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลยครับ วินไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านนะ แป้งเป็นคนแรก”
คำตอบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกยินดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แววตาของเขาทำให้เธอมั่นใจว่าหากสารภาพความจริงออกไปเขาต้องให้อภัยเธอแน่ พอคิดได้แบบนี้ปากที่มักจะไปไวพอๆ กับความคิดก็เปล่งเสียงเป็นข้อความออกมา
“แป้งมีเรื่องปิดบังวินอยู่”
ธาวินชะงักไปในทันที สีหน้าจริงจังของเธอทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจชอบกลว่ามันไม่ใช่เรื่องดี
“แป้งอย่าบอกนะว่าแป้งมีคนอื่น” ชายหนุ่มเดาไปในทางร้ายที่สุดเอาไว้ก่อน พอได้เห็นเธอส่ายหน้าเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แล้วเรื่องอะไรล่ะ”
“คือ...เรื่องโกหก เกี่ยวกับเอ่อ...ตัวเลขน่ะ วินอย่าโกรธแป้งนะ แป้งไม่ได้ตั้งใจจะปิดวินเลย”
“ถ้าไม่ใช่เรื่องแป้งมีคนอื่น จะเป็นอดีตที่ไม่ดีหรืออะไรวินก็รับได้ทั้งนั้นแหละ”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างแบ่งรับแบ่งสู้เอาไว้ก่อน ทั้งที่ในใจก็เริ่มหวั่นเพราะสีหน้าของหญิงสาวดูซีดมาก
ณัฐมลมองธาวินอย่างขอบคุณ เธอสูดหายใจเข้าปอกลึกๆ เพื่อเรียกความกล้า แล้วตัดสินใจสารภาพความจริงออกไปในที่สุด
“แป้งโกหกว่าอายุ 26”
ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่ะๆ เรื่องแค่นี้ วินตกอกตกใจหมด”
“ไม่แค่นะวิน เยอะเลยล่ะ บวกไปอีกเอ่อ...ห้า”
ณัฐมลแทบจะกลั้นหายใจขณะรอฟังคำตอบ สีหน้าของธาวินดูประหลาดใจแต่ก็ไม่มีแววโกรธเคืองอยู่ในนั้น เขามองสำรวจใบหน้าของเธออย่างจริงจังเสียจนต้องก้มหน้างุดหลบตา
“แป้ง 31 แล้วจริงๆ เหรอ ไม่น่าเชื่อ”
เธอตัวเล็ก ผิวขาว หน้าเด็ก มองอย่างไรก็เหมือนคนที่เพิ่งจะพ้นวัยมหาวิทยาลัยมาได้ไม่นาน
“แป้งไม่ได้อำวินเล่นใช่ไหม” ธาวินถามด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น
หนนี้หญิงสาวตอบคำถามด้วยการยื่นบัตรประชาชนให้อีกฝ่ายดู ชายหนุ่มบวกลบเลขปีในบัตรอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างตรงกับที่เธอบอกนั่นคือเธออายุสามสิบเอ็ดแล้ว
ธาวินตกใจกับความลับข้อนี้ของคนรักแต่เขาก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ พอหายจากอาการแปลกใจเขาก็คลี่ยิ้มส่งมาให้หญิงสาว
“วินไม่โกรธแป้งกับเรื่องแค่นี้หรอก เลิกคิดมากแล้วยิ้มได้แล้วนะครับ”
ชายหนุ่มหวังว่าคำพูดประโยคนี้จะทำให้แฟนสาวโผเข้ามากอดเขา แล้วเอ่ยชมที่ไม่ถือสาคำโกหก ทว่าแทนที่จะผ่อนคลายลงสีหน้าของณัฐมลกลับจริงจังมากขึ้นไปอีก
“แป้งเชื่อแล้วค่ะว่าวินรักแป้งจริงๆ รอก่อนนะคะ แป้งมีบางอย่างอยากให้วินดู”
“ของอะไรเหรอ”
“หน้าแป้งตอนไม่ได้แต่งหน้าค่ะ” เอ่ยจบหญิงสาวก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา
“โธ่…นึกว่าอะไร ไม่ต้องหรอกแป้ง จะแต่งหน้าหรือไม่แต่งแป้งก็ยังน่ารักในสายตาวินอยู่ดี”
ถึงเขาจะไม่เคยเห็นใบหน้าเปลือยเปล่าของเธอแต่ณัฐมลก็แต่งหน้าอ่อนๆ ให้เห็นหลายครั้ง ชายหนุ่มจึงไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มักจะไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอาง คิดกันเพียงว่าของพวกนี้ก็แค่สีที่เอาไว้ระบายหน้า ไม่ได้ช่วยให้แปลกแตกต่างแต่อย่างใด ธาวินไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าเขากำลังจะได้พบกับอภินิหารของเครื่องสำอางเข้าอย่างจัง
“ไม่ค่ะ วินไม่เข้าใจ วินดูเองดีกว่า แป้งตัดสินใจแล้วว่าเราจะไม่มีความลับต่อกัน” ณัฐมลหันมาเอ่ยอย่างมาดมั่น
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวตามลำพัง เธอนั่งลงตรงหน้ากระจกแล้วใช้ครีมล้างเครื่องสำอางเช็ดล้างทุกอย่างบนใบหน้า จากนั้นก็เอาขนตาแปลม คอนแทกต์เลนส์ตาโตกับกาวที่ใช้ติดสำหรับทำตาสองชั้นออก พอเช็ดทุกอย่างออกหมดจากผู้หญิงตากลมแพขนตาหนาน่ารักเหมือนตุ๊กตา ก็เปลี่ยนเป็นอาซิ้มหน้าจืดได้อย่างน่าอัศจรรย์
ณัฐมลแทบจะร้องไห้เมื่อเห็นสภาพความเป็นจริงของตัวเองในกระจก ตาเธอเป็นตาชั้นเดียวแถมขนตายังสั้นและบางมาก ถ้าไม่กรีดอายไลน์เนอร์กับติดขนตาปลอม ใบหน้าเธอก็ไม่เหลืออะไรที่พอจะเรียกว่าดูดีเลย ภาพสะท้อนของผู้หญิงสุดแสนจะขี้ริ้วในกระจกทำให้หญิงสาวหมดความมั่นใจจนเริ่มอยากเปลี่ยนใจ
ในขณะที่หญิงสาวกำลังตัดสินใจอยู่นั้น ประตูห้องแต่งตัวก็ถูกเคาะ ยังไม่ทันได้อนุญาตธาวินก็เปิดพรวดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าเปลือยเปล่าของหญิงสาวตาค้าง ส่วนตัวณัฐมลเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ต่างฝ่ายจึงมองสบตากันนิ่งอยู่นาน
ธาวินจ้องมองหญิงสาวหน้าจืดค่อนไปทางขี้เหร่อย่างแปลกใจ เขากวาดตามองไปทั่วห้อง เมื่อไม่พบใครอื่นจึงหันกลับมาถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงใจใสซื่ออย่างที่สุดว่า
“คุณเป็นใครครับ?”
---------------------------------------------------------------------------------
ลิงค์การ์ตูนแถมท้ายบทค่ะ http://writer.dek-d.com/astrum/story/viewlongc.php?id=733032&chapter=2

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ส.ค. 2554, 09:25:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.พ. 2555, 00:19:08 น.
จำนวนการเข้าชม : 4369
บทที่ 1 อกหัก ผู้ชาย สายฝน >> |

น้องแสตมป์ 10 ส.ค. 2554, 09:52:23 น.
เคยเจอพล็อตแบบนี้เหมือนกัน คนเราสมัยนี้มักสวยด้วยการแต่งหน้าทั้งนั้น อิอิ
เคยเจอพล็อตแบบนี้เหมือนกัน คนเราสมัยนี้มักสวยด้วยการแต่งหน้าทั้งนั้น อิอิ

lunamoon 10 ส.ค. 2554, 11:04:11 น.
555+ เอากาอินมาเป็นอิมเมจด้วย
555+ เอากาอินมาเป็นอิมเมจด้วย

เรียงอักษร 10 ส.ค. 2554, 11:36:12 น.
ผ.ญ. อย่าหยุดสวยค่ะ
ผ.ญ. อย่าหยุดสวยค่ะ

คุณแม่ลูกสอง 10 ส.ค. 2554, 11:43:03 น.
555555
555555

หมูแพนด้า 10 ส.ค. 2554, 13:27:59 น.
55555555 อ๊าาาาาาา ล้อกันเล่นใช่ม้ายยยยย ถึงขนาดจำไม่ได้เนี่ยะ
55555555 อ๊าาาาาาา ล้อกันเล่นใช่ม้ายยยยย ถึงขนาดจำไม่ได้เนี่ยะ


หมูอ้วน 10 ส.ค. 2554, 14:09:39 น.
ตามลุ้นตอนต่อไปค่ะ
ตามลุ้นตอนต่อไปค่ะ

anOO 10 ส.ค. 2554, 17:19:37 น.
ถามแบบนี้ไดไง แสดงว่าไม่เคยตายซะแล้ว 555
ถามแบบนี้ไดไง แสดงว่าไม่เคยตายซะแล้ว 555

Zephyr 10 ส.ค. 2554, 19:08:16 น.
โห ถามแบบนั้นได้ไงอ่า ถึงจะจริงใจ แต่มันแทงใจ โห้ย ปวดใจ
โห ถามแบบนั้นได้ไงอ่า ถึงจะจริงใจ แต่มันแทงใจ โห้ย ปวดใจ

ปูสีน้ำเงิน 10 ส.ค. 2554, 20:39:23 น.
โหย ถามกันอย่างนี้เลยนะ
โหย ถามกันอย่างนี้เลยนะ


ณิชนิตา 11 ส.ค. 2554, 08:44:46 น.
ฮ่าๆ...คำถามนั้นทำเอาน้ำตาเล็ดเลยนะเนี่ย
ฮ่าๆ...คำถามนั้นทำเอาน้ำตาเล็ดเลยนะเนี่ย

XaWarZd 11 ส.ค. 2554, 10:25:52 น.
แทงใจเฟ้ยคำถามนี้อ่ะ
แทงใจเฟ้ยคำถามนี้อ่ะ

kaeka 11 ส.ค. 2554, 15:26:18 น.
โห!!! เปลี่ยนขนาดนี้รึไง
โห!!! เปลี่ยนขนาดนี้รึไง


เฉื่อย 13 ส.ค. 2554, 13:06:24 น.
ฮาสุดๆๆๆๆๆๆ
ฮาสุดๆๆๆๆๆๆ

bow 14 ส.ค. 2554, 07:34:44 น.
ชอบประโยคที่บอกว่าผู้ชายไม่รู้เรื่องเครื่องสำอางน่ะค่ะ..
เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ..
บางครั้งเห็นผู้หญิงด้วยกันแต่งหน้า.. before & after ต่างกันจนเรายังตกใจเลย :P ผู้ชายจะรู้ได้ยังไง๊..?
ชอบประโยคที่บอกว่าผู้ชายไม่รู้เรื่องเครื่องสำอางน่ะค่ะ..
เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ..
บางครั้งเห็นผู้หญิงด้วยกันแต่งหน้า.. before & after ต่างกันจนเรายังตกใจเลย :P ผู้ชายจะรู้ได้ยังไง๊..?
