เพียงใจเสน่าหา โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
เมื่อเทพบุตรในฝันมายืนอยู่ตรงหน้ามีหรือคนอย่างแป้งร่ำจะปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการล่ารักฉบับพลีชีพจึงเกิดขึ้น แต่เอ๊ะยังไง นานๆไปเทพบุตรในฝันกลับกลายร่าง รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็น "เป็ดน้อยในมือซาตานไปแล้ว"

เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

Tags: โรแมนติก คอเมดี้ นางเอกรั่วๆ นางเป็นเภสัชกร พระเอกเป็นจิตแพทย์

ตอน: บทที่ 1 อกหัก ผู้ชาย สายฝน

บทที่ 1 อกหัก ผู้ชาย สายฝน

ณ บริเวณทางออกของตึกอายุกรรม หญิงสาวร่างระหงในชุดเสื้อเชิ้ตสีม่วงกับกางเกงขายาวสีดำ กำลังก้าวเดินออกมาจากตัวตึกด้วยสีหน้าอ่อนล้า เธอขยับแว่นตาเล็กน้อยก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดนาฬิกาตรง รวมเบ็ดเสร็จก็สามสิบชั่วโมงพอดีที่ต้องทำงานติดต่อกัน

เมื่อคืนมีผู้ป่วยมากเป็นพิเศษ ทั้งยังมีคนไข้ด่วนจากแผนกศัลยกรรมถูกส่งมาขอคำปรึกษาจากอายุรแพทย์หลายคน ศศิชาเลยถูกตามตัวให้มาช่วยงานทั้งที่เพิ่งจะลงเวรไปได้แค่สิบนาที

“ไหวไหมคะหมอ” พยาบาลวัยกลางคนที่เดินตามออกมาถามไถ่อย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นหญิงสาวเดินตัวเซ

ช่วงสัปดาห์นี้มีแพทย์ลาพักร้อนและลาป่วยหลายคน แพทย์หญิงศศิชาเลยต้องรับผิดชอบงานแทน เกือบห้าวันแล้วที่แทบจะกินนอนอยู่ที่แผนกตลอด บ่ายนี้ก็ยังต้องอยู่เวรยาวไปถึงเช้าของอีกวัน

“ไหวค่ะ สบายมาก” ศศิชาตอบรับอย่างแข็งขัน เธอชินเสียแล้วกับการอดนอน

หญิงสาวเดินหิ้วถุงผ้าใบใหญ่เดินกลับไปที่หอพักแพทย์ ระหว่างทางก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่ปิดเสียงเอาไว้ขึ้นมาดู แล้วก็พบว่ามีสายเข้ากว่าสามสิบสายและทั้งหมดเป็นของณัฐมล

ศศิชาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ลองแม่เพื่อนซี้โทรจิกเสียขนาดนี้แสดงว่ามีเรื่องต้องคุยยาว ถึงกระนั้นเธอก็ยังหยิบหูฟังแบบไร้สายขึ้นมาใส่ แล้วกดปุ่มโทรออกไปหาเพื่อน

ทันทีที่เสียงรอสายซึ่งเป็นบทเพลงแสนเศร้าเงียบลง เสียงคร่ำครวญของเพื่อนสาวก็ดังเข้ามาแทนที่

“วินเขาต้องบอกเลิกฉันแน่ๆ เลย ทำยังไงดีชา ฮือออ!”

หลังจากได้เห็นใบหน้าเปลือยเปล่าของเธอ นาวินก็มีท่าทีเหมือนจะช็อกอย่างแรง ชายหนุ่มทำตาลอย แล้วขอตัวกลับโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็หายเงียบไปเลยราวกับตายจาก

“เขารู้อายุแกแล้วใช่ไหม ก็บอกแล้วว่าอย่าโกหกก็ไม่เชื่อ” ศศิชาไม่คิดจะปลอบใจเพราะเตือนไปตั้งแต่แรกแล้วไม่ให้โกหก

“วินรู้แล้ว แต่เขาไม่ถือเรื่องนั้น”

“ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้นแล้วเรื่องอะไร”

“ฉันให้เขาดูหน้าฉันตอนไม่แต่งหน้า”

ได้ฟังเท่านี้ศศิชาก็เข้าใจทุกอย่าง ณัฐมลไม่ใช่คนสวย ถึงอย่างนั้นก็พยายามเรียนแต่งหน้าและทำทุกทางให้ดูดีขึ้น แล้วความพยายามกับเครื่องสำอางดีๆ ก็เนรมิตลูกเป็ดขี้เหร่ให้กลายร่างเป็นนางพญาหงส์ พอตัดผมบ็อบเทให้เข้ากับรูปหน้าแล้วเพิ่มเครื่องแต่งตัวที่ดูดีเข้าไปหน่อย ณัฐมลก็กลายเป็นสาวสวยที่ทำให้ใครๆ ต้องมองเหลียวหลัง

ความสวยไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่มันก็เป็นดาบสองคม คนที่เข้ามาในชีวิตณัฐมลต่างก็เข้ามาเพราะเปลือกนอก ทั้งยังไม่มีใครตาถึงพอจะมองผ่านรูปกายไปที่เนื้อแท้ของจิตใจ พอเห็นว่าหน้าตาที่แท้จริงไม่เหมือนกับตอนมีเครื่องสำอางแต่งแต้มก็ทิ้งกันไปง่ายๆ

“แล้วจะให้ฉันช่วยยังไง”

“ไม่รู้สิ มีคำแนะนำอะไรไหมล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังจิตตก ติสต์แตก ไม่เป็นอันทำอะไรเลยนอกจากเข้าสปานวดหน้าขัดผิว”

การประทินโฉมคือทางออกในการสลายความเครียดอย่างหนึ่งของณัฐมล เรื่องเศร้ามันห้ามกันไม่ได้ แต่เธอไม่มีทางยอมทำตัวเป็นยายเพิ้งเด็ดขาด วันนี้เธอไม่ต้องไปทำงานที่โรงพยาบาล อยู่เฝ้าร้านยาคนเดียวทั้งวันก็ฟุ้งซ่าน เลยปิดร้านแล้วออกมานวดตัวข้างนอก ตอนนี้ก็กำลังนอนให้พนักงานนวดตัวให้อยู่

“คิดว่าเขาหายไปทำใจ หรือคิดทิ้งแกไปแล้วชัวร์ๆ ล่ะ”

“ไม่มั่นใจ แต่…น่าจะเป็นข้อหลัง ฉันพลาดเองแหละชา ที่รีบให้วินดูตอนไม่แต่งหน้า ฉันอัปลักษณ์มากใช่ไหมชา ทุกคนถึงได้ทิ้งฉันไปกันหมด” ณัฐมลเริ่มคร่ำครวญอีกครั้ง

นี่ไม่ใช่แฟนคนแรกที่เลิกกันเพราะเรื่องหน้าตาเป็นเหตุ แต่เป็นรายที่สี่ในรอบสามปีแล้ว ความจริงถ้าเลือกคนหน้าตาธรรมดาพอๆ กัน บางทีอาจจะคบกันได้ยืดกว่านี้ ทว่าณัฐมลนั้นถือคติ ‘ไม่สวยก็เลือกได้’ พวกผู้ชายที่เคยคบหาด้วยส่วนใหญ่ก็หล่อรวยแบบครบสูตร ซึ่งก็เป็นประเภทเลือกมากเหมือนกัน สุดท้ายเธอเลยเป็นฝ่ายที่โดนทิ้งเสียทุกทีไป

“ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า แค่หน้าตาธรรมดาค่อนไปทางจืด” ศศิชาพยายามจะปลอบ แต่มันก็จริงใจเสียจนทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ด

“ฉันไปทำศัลยกรรมดีไหมชา ไปกรีดตาให้มันหมดเวรหมดกรรมกันไป”

ณัฐมลเป็นคนกลัวมีดกลัวเข็ม เธอต่อต้านการทำศัลยกรรมมาโดยตลอด เพราะพยายามหาคนที่รักเธอที่จิตใจ ลองพูดออกมาอย่างนี้แสดงว่าปัญหารักครั้งนี้หนักหนากว่าทุกคราว เพื่อนแท้อย่างศศิชาจึงจำเป็นต้องเตือนสติ

“ถ้าแกจะทำศัลยกรรมเพื่อตัวเองฉันจะไม่ห้ามสักคำ แต่ถ้าทำเพื่อผู้ชายฉันไม่เห็นด้วย ผู้ชายที่มองแค่เปลือกนอกแบบนั้นไม่ดีพอสำหรับแกหรอกแป้ง แกบอกประจำไม่ใช่เหรอว่าเราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต ในเมื่อเขาไม่ได้รักเราจริง แล้วจะเก็บเอาไว้เป็นขยะใจอีกทำไม”

คำพูดของเพื่อนคล้ายแสงสว่างที่เจิดจ้าขึ้นมาในความมืด มันจุดเปลวเพลิงแห่งความทระนงให้ลุกติดขึ้นมาอีกครั้ง จากที่คิดอะไรไม่ออก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าจะจัดการอย่างไรกับชีวิต

‘ทำไมเธอต้องถูกกระทำในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด’

“แกพูดถูกชา ฉันไม่น่าโง่เลย ที่ผ่านมาฉันโดนแต่ผู้ชายขยะๆ ทิ้งมาตลอด หนนี้เป็นคราวฉันบ้างล่ะที่จะทิ้งขยะ คอยดูนะ ฉันจะบอกเลิกวิน แล้วเดินเชิดออกมาให้ดู”

ศศิชาอยากจะค้านว่าไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ แต่ช้าไปเสียแล้ว คนใจร้อนกดตัดสายทิ้งไปในทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงเอาเวลาไปแต่งสวยแล้วนัดฝ่ายชายมาบอกเลิก

หญิงสาวสุดแสนจะกลุ้มใจกับนิสัยลมพัดลมเพของณัฐมลอยู่มาก เจ้าหล่อนถนัดทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังนักล่ะ หนนี้พอผลีผลามบอกเลิกเขาไป สุดท้ายก็คงไม่แคล้วมานั่งปล่อยโฮให้เธอปลอบ


ทางด้านณัฐมล หญิงสาวนัดนาวินให้ออกมาเจอกันที่ร้านกาแฟใกล้ที่ทำงานเขาในตอนเย็น จากนั้นก็ออกจากสปาไปแต่งหน้าทำผมให้สวยที่สุดเท่าที่จะสวยได้ เมื่อได้เวลาก็เดินเชิดเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น หญิงสาวกวาดตามองหาชายหนุ่ม เมื่อไม่พบจึงเลือกนั่งบริเวณมุมในสุดของร้านซึ่งว่างอยู่

ตอนนี้เป็นเวลานัดหมายพอดี เธอจะให้เวลาเขาครึ่งชั่วโมง ถ้าเขามาช้ากว่านี้เธอจะถือว่าเขามีเจตนาหลบหน้า นาวินเป็นคนที่เคร่งเรื่องเวลามาก นัดกันคราใดเขาก็มักจะมารอก่อน หากมีเหตุขัดข้องก็จะโทรศัพท์มาบอกเสมอ ทว่าวันนี้กลับไม่มีการติดต่อจากเขาเลย ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาล

คนอย่างแป้งร่ำไม่ยอมถูกใครหยาม ถ้าหมดเวลาแล้วเขายังไม่มาเธอจะบุกไปบอกเลิกถึงที่บริษัทให้ขายหน้าให้ดู

ความโกรธของณัฐมลก็สะสมมากขึ้นตามเวลาบนเข็มนาฬิกาที่หมุนไป จวบจนกระทั่งเลยเวลานัดมาราวยี่สิบห้านาที คนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตของเธอก็ปรากฏตัว

นาวินเข้ามาในร้านในสภาพเปียกชุ่มเพราะเจอฝนที่ตกลงมาระหว่างทาง ณัฐมลนั่งอยู่ในมุมอับ จึงไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอเข้ามาฝนก็ตกหนัก

ร้านกาแฟแห่งนี้ติดกับถนนใหญ่ ถ้าริมฟุตบาทไม่ว่างก็ต้องขับออกไปจอดในตลาด ซึ่งอยู่ไกลจากตัวร้านมากทีเดียว หญิงสาวเข้าใจเหตุผลที่เขามาสาย แต่ก็ไม่เห็นใจเนื่องจากยังเคืองอยู่

ชายหนุ่มรีบเข้ามาหาทันทีที่เห็นคนรัก เขานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพลางส่งรอยยิ้มแห้งแล้งกลับมาให้

“วินขอโทษที่ไม่ค่อยได้โทรหา”

“ไม่โทรเลยต่างหาก” แป้งร่ำแก้คำพูดเขาด้วยน้ำเสียงกระด้าง

ชายหนุ่มนั่งก้มหน้าทำไหล่ห่อโดยไม่โต้เถียง ความรู้สึกผิดทำให้เขาดูตัวหดเล็กลง ไร้สง่าราศีต่างจากที่เคยเห็นจนชินตา

ท่าทางของเขาทำให้ณัฐมลรู้สึกเห็นใจขึ้นมา นาวินแตกต่างจากทุกคนตรงที่กล้าจะมาเผชิญหน้ากับเธอและกล่าวคำว่าขอโทษออกมาก่อน มันทำให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หนนี้เธอไม่ได้ตาถั่วเสียทีเดียว เลยตัดสินใจเปลี่ยนฉากจบให้ดูประนีประนอมมากกว่าเดิม

“วินอยากเลิกกับแป้งใช่ไหม”

คำถามอย่างตรงไปตรงมานี้ทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าอึกอัก มือเขาชื้นเหงื่อทั้งที่อากาศในร้านค่อนข้างหนาว

นาวินยอมรับว่าตกใจที่เห็นใบหน้าณัฐมลตอนไม่แต่งหน้า เขาหลงเธอเพราะความสวยกับนิสัยเปิดเผย เมื่อสิ่งที่เขาหลงใหลไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เป็นธรรมดาว่าต้องช็อกอย่างแรง ที่เงียบหายไปไม่ได้ติดต่อมาเพราะกำลังทบทวนความรู้สึกของตัวเองอยู่

“อย่าใช้คำว่าเลิกเลย ห่างกันสักพักดีกว่า” ชายหนุ่มตัดสินใจใช้คำนี้เพราะต้องการเวลา

ฟังแล้วอาจจะดูดี แต่มันกลับทำให้ณัฐมลรู้สึกโกรธจนคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่

กี่รายต่อกี่รายแล้วที่ใช้คำนี้ สุดท้ายก็หายจ้อย ปล่อยให้เธอรอเก้อนั่งช้ำใจทุกที

หญิงสาวตบโต๊ะดังปัง! แล้วตะโกนออกมาอย่างไม่อายสายตาใคร

“แป้งรับไม่ได้ ห่างกันสักพักมันก็ไม่ต่างอะไรกับเลิกกันหรอก อยากจะเลิกก็บอกเลิกให้มันชัดเจนไปเลย แต่ถึงคุณไม่เลิกฉันก็จะเลิก ผู้ชายโลเลอย่างคุณไม่จำเป็นกับชีวิตฉัน”

พูดจบณัฐมลก็สะบัดหน้าออกมา อย่างไม่คิดจะเหลียวหลังกลับไปมองคนเคยรักให้เสียสายตา

พอเปิดประตูร้านออกไปหญิงสาวก็พบว่าฝนยังคงตกหนัก เธอจอดรถเอาไว้ไม่ไกลก็จริง แต่ถ้าวิ่งฝ่าไปคงเปียกม่อลอกม่อแลกทั้งตัว จะเดินกลับเข้าไปก็กลัวเสียหน้า อุตส่าห์เชิดออกมาแล้ว ให้กลับเข้าไปทั้งที่ไม่มีใครตามมาง้อได้อย่างไร

ณัฐมลหลบอยู่ใต้ชายคาร้านอย่างละล้าละลัง เธอแอบชำเลืองมองที่ประตู ไม่มีวี่แววว่านาวินจะตามมา หญิงสาวถอนหายใจด้วยความเจ็บปวด เธอเคยคิดว่าเขาแตกต่าง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิตเธอ

หรือเธอจะผิดกันนะ ที่เริ่มต้นคบกับทุกคนด้วยใบหน้าที่ได้รับการแต่งแต้มแล้ว

ในจังหวะที่หญิงสาวกำลังเหม่อ กระดิ่งที่หน้าประตูร้านก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีคนกำลังเดินออกมา ณัฐมลรีบหันไปมองเพราะคิดว่าเป็นนาวิน แต่แล้วก็ต้องสลดเมื่อคนที่ก้าวออกมาเป็นชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม พอเขาหันมามอง หญิงสาวก็แกล้งเสตาไปมองสายฝนแก้เก้อ

หยาดน้ำที่เทกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้าไม่มีทีท่าว่าจะซาลง เหมือนกับนาวินที่ไม่คิดมางอนง้อ

‘เปล่าประโยชน์ที่จะรอ พอกันที’

เมื่อคิดได้แบบนั้น หญิงสาวก็ตรวจเช็คกระเป๋าหิ้วว่ารูดซิปดีหรือไม่ พลางเตรียมพร้อมที่จะวิ่งฝ่าสายฝนออกไป ในขณะที่กำลังจะก้าวออกจากชายคาร้าน น้ำใจที่ไม่ได้คาดคิดก็ถูกส่งมาถึงมือของหญิงสาวโดยชายแปลกหน้า

“รถผมจอดอยู่ไม่ไกล เอาร่มผมไปใช้ก็ได้ครับ” เขายื่นร่มมาให้ ทว่าณัฐมลมัวแต่ตะลึงกับใบหน้าของอีกฝ่ายก็เลยไม่ได้รับมา

“ผมวางไว้ตรงนี้นะครับ” เขาวางร่มพิงไว้กับผนังร้าน แล้ววิ่งลุยฝนหายไปโดยไม่อยู่รอรับคำขอบคุณแม้แต่คำเดียว

ความหล่อเหลาของชายหนุ่มแปลกหน้า ทำให้หัวใจของณัฐมลเต้นโครมครามประหนึ่งเหมือนเพิ่งเจอรักแรก แววตาอ่อนโยนของเขาที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำ ทำให้เธอยิ้มออกมาทั้งที่สถานการณ์กับบรรยากาศไม่เป็นใจให้ยิ้มเลย

หญิงสาวเดินกางร่มกลับมาที่รถด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เธอเพิ่งอกหักมาหมาดๆ แต่กลับรู้สึกเหมือนตกหลุมรักอีกครั้ง

คิดมาได้ถึงตรงนี้หญิงสาวก็สลด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของเทพบุตรสุดหล่อเจ้าของร่มคันนี้เลย เรื่องการสานสัมพันธ์ต่อไปนั้นจึงอย่าได้หวัง ณัฐมลตกหลุมรักและอกหักภายในห้านาที นั่นเท่ากับว่าเธออกหักสองครั้งซ้อนในวันเดียว

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอึมครึมผ่านกระจกรถ แล้วแผดเสียงถามเทวดาฟ้าดินอย่างโกรธเกรี้ยว

“เมื่อไรจะได้ลงจากคานสักที เบื่อที่จะอกหักแล้วนะโว้ย!”

สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงนักจัดรายการวิทยุของคลื่นหนึ่ง ที่บังเอิญพูดสวนมาพอดี

“รอชาติหน้าเถอะคุณ”

หญิงสาวหันขวับไปค้อนให้กับเครื่องเสียงแทบไม่ทัน

สงสัยวันนี้จะไม่ใช่วันของแป้งร่ำเป็นแน่แท้ เพราะแม้แต่ดีเจก็ยังซ้ำเติม





นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ส.ค. 2554, 19:00:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.พ. 2555, 15:34:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 3297





<< บทนำ   บทที่ 2 ฟ้าดลบันดาลให้เรามาพบ >>
เฉื่อย 14 ส.ค. 2554, 20:09:39 น.
ท่าจะฮาอีกแระ


lunamoon 14 ส.ค. 2554, 20:54:08 น.
ลุ้นๆๆๆๆ


พิพินทุ์ 14 ส.ค. 2554, 20:56:06 น.
'รอชาติหน้าเถอะคุณ'
๕๕๕
ชอบมากกก ><


kaeka 14 ส.ค. 2554, 22:26:44 น.
หาใหม่ถูกแล้วคร้า แป้ง


วรรณ 14 ส.ค. 2554, 22:27:05 น.
3 ชั่วโมง 25 นาที โดยประมาณ มีผู้เข้าชม 117 ท่าน
พี่ว่าก็โอเคนะ กลับจากต่างจังหวัดเมื่อไหร่เอ่ย เที่ยวเผื่อพี่หรือเปล่า


หมูอ้วน 15 ส.ค. 2554, 02:09:28 น.
รออ่านตอนต่อไปค่ะ ชอบมากมาย


ปูสีน้ำเงิน 15 ส.ค. 2554, 03:10:09 น.
ฮาได้ใจนะ


Pat 15 ส.ค. 2554, 06:19:54 น.
5555


น้องแสตมป์ 15 ส.ค. 2554, 07:35:13 น.
ฮาได้อีก


Zephyr 15 ส.ค. 2554, 14:24:13 น.
หนูแป้งตกหลุมรักง่ายๆงี้เลยเหรอ เค้าเป็นใครน้า พระเอกรึป่าว


nunoi 16 ส.ค. 2554, 12:28:23 น.
ฮ่าๆๆๆๆ


แล่นแต๊ 20 ส.ค. 2554, 00:53:04 น.
555 นางเอกตลก


kaze 2 ก.ย. 2554, 03:23:53 น.
อ่านตอนหัวเราะดัง ๆ ไม่ได้นี่...ทรมานอ่ะ T^T


ChaussonAuxPomme 23 ก.พ. 2555, 08:52:35 น.
...ชอบคะ สนุกตั้งแต่ตอนแรกเลย ฮ่าๆๆๆ... <3


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account