หัวใจลายกระต่าย (รอลงต่อนะคะ)
ถ้าหัวใจคือดวงจันทร์ที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง
ความรักก็คงเหมือนดวงอาทิตย์ที่ทำให้ดวงจันทร์สว่างไสว
หัวใจที่ได้รับความรักจากเธอก็เช่นกัน

เธอเห็นความรักของฉันใช่ไหม?
Tags: หัวใจ กระต่าย ปิ่นนลิน รัก คุณหมอ

ตอน: ตอนที่ 6 - 80%

ตอนที่ 6 - 80%


หลังจากจอดรถเสร็จ ณฐาก็พาคนึงมาสเดินเข้าห้างสรรพสินค้า ตรงไปยังโรงภาพยนตร์ชั้นบน เวลานี้ห้างเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ผู้คนที่โรงภาพยนตร์จึงไม่ค่อยมากเท่าไหร่

“กระต่ายเลือกเลยนะว่าอยากดูเรื่องไหน”

ศัลยแพทย์หัวใจหนุ่มให้หญิงสาวเลือกภาพยนตร์ที่อยากดู เขาไม่ค่อยได้ดูหนังในโรง จำแทบไม่ได้ว่าหนังเรื่องสุดท้ายที่ดูคือเรื่องไหนด้วยซ้ำ

“อ้าว พี่ณัฐไม่ได้อยากดูเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือคะ” คนึงมาสเข้าใจผิดคิดว่าณฐามีเรื่องที่คิดไว้ในใจ

ณฐาส่ายหน้าตอบ ก่อนจะนึกหาคำพูดอธิบายอะไรไม่ออกสักอย่าง จะให้ตอบไปตามตวามจริงได้อย่างไรว่าเขาแค่อยากใช้เวลากับคนึงมาสสองต่อสอง นี่อุตส่าห์หาทางให้ศิลาแยกไปทำอะไรอย่างอื่น ไม่ติดสอยห้อยตามมาดูหนังด้วยได้

นายแพทย์หนุ่มผู้เคยแก้ไขปัญหาได้หลายเรื่อง แต่ดันมาติดแหง่กกับคำถามง่ายๆ เนี่ยนะ?

“พี่ณัฐคะ” คนึงมาสย่นคิ้วเมื่อคุณหมอสุดหล่อของเธอยืนนิ่งไปนานเชียว

“ผมจำเวลาผิดน่ะ หนังที่ผมอยากดูยังไม่เข้า ไหนๆ ก็มาแล้ว ไม่เสียเที่ยว กระต่ายเลือกแทนผมเลยล่ะกันนะ” ณฐาตอบแล้วถอนหายใจ ผิดศีลโกหกเธอไปจนได้

คนึงมาสก็หลงเชื่อตามที่ณฐาบอก เธอเลือกหนังรักโรแมนติกที่มีกระแส นอกจากณฐาเลี้ยงหนังแล้ว เขายังเลี้ยงป๊อบคอร์นถังใหญ่คู่น้ำอัดลมกันคนละแก้วอีก

ยังเหลืออีกเรื่อง คนึงมาสสงสัยตั้งแต่ลงจากรถว่าณฐาหยิบเสื้อวอร์มสีน้ำเงินเข้มจากหลังรถมาด้วยทำไม เธอเพิ่งเข้าใจก็ตอนเข้าไปนั่งในโรงเรียบร้อยแล้ว อากาศในโรงหนังค่อนข้างหนาว คนในโรงก็มีไม่เยอะยิ่งรู้สึกเย็นจนตัวสั่น เธอนั่งกอดอก ลูบแขนไปมาแค่ทีแรก เขาก็ส่งเสื้อวอร์มแขนยาวให้เธอ

“ใส่สิ ในโรงมันหนาว”

หญิงสาวรับมาห่มตัวไว้ทันที เพียงสบดวงตาแวววาววิบวับท่ามกลางความมืด เธอก็รู้สึกถึงแววตาใจดีที่ณฐามอบให้ เขาเหมือนจะใจดีกับเธอมากกว่าตอนแรกที่เจอกัน ณฐาคงไม่โกรธที่เธอเข้าไปเจอเขาโป๊แล้วสินะ


ตลอดเวลาหนังเริ่มฉาย คนึงมาสแอบมองคนข้างๆ ที่ตั้งอกตั้งใจดูหนังเป็นอย่างมาก เขาอยู่ในเสื้อยืดคอวีสีกรม กางเกงยีนส์ขาวยาว ผมสั้นไม่ได้เซ็ทเรียบร้อยเหมือนเวลาไปทำงาน ตอนนี้เขานั่งกอดอก หลังตรง คิ้วหนามุ่นเข้าหากันตลอดเวลาที่จ้องไปด้านหน้า เธอเผลออมยิ้ม สงสัยว่า แค่ดูหนังเขายังเครียดได้อีกหรือ

เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่าถูกเธอแอบมองนานสองนาน สำหรับเธอแล้ว หน้าของเขาน่าดู น่าชมกว่าภาพยนตร์เรื่องไหนๆ

ณฐาเผลออินเข้าไปอยู่ในโลกหนังรักที่พระเอกกับนางเอกเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิด มีปัญหาให้ฝ่าฟัน จนเกิดความรักขึ้นมา เนื้อเรื่องเดินมาน่าจะถึงปลายทางแล้ว ณฐาเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ มีขยับตัวหยิบน้ำดื่ม หรือหันไปมองคนข้างๆ บ้าง คนึงมาสนั่งดูหนังโดยยึดป๊อบคอร์นกินเงียบๆ แต่แล้วณฐาก็ตกใจสะดุ้งเล็กน้อย เพราะอยู่ดีๆ คนที่นั่งกินป๊อบคอร์นก็หลับซบต้นแขนเขาเฉยเลย

ณฐาละสายตาจากจอภาพยนตร์ ตาโต มองศีรษะทุยได้รูปที่มีผมสีน้ำตาลเข้มยาวและนุ่มซบต้นแขนเขา คนตัวเล็กหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว เขาถอนหายใจเบาๆ และยอมนั่งนิ่ง ให้คนึงมาสหลับอยู่อย่างนั้นกระทั่งหนังจบ

หลังจากดูภาพยนตร์จบ ณฐาก็พาเธอมารับประทานอาหารกลางวันต่อ แม้เดินออกจากร้านอาหารมาแล้ว คนึงมาสหาวอีกหลายครั้ง เพราะยิ่งกินข้าวอิ่ม ก็ยิ่งง่วงมากขึ้น ก่อนเธอจะรู้สึกตัวว่าถูกมองอยู่ เลยส่งยิ้มแห้งๆ ตอบสายตาคนที่มองเธอขำๆ ฝั่งตรงข้าม

“ง่วงมากเลยหรือ นอนไม่พอหรือครับ” ณฐาอมยิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความละมุนแต่คนง่วงไม่ทันสังเกตเห็น

“คิดว่าพอนะคะ นอนเยอะไปด้วยซ้ำ ในโรงแอร์คงเย็น เสื้อของพี่ณัฐก็อุ่นสบายกระต่ายเลยหลับ ขอโทษนะคะ เสียดายค่าตั๋วจัง” คนึงมาสบอกอย่างรู้สึกผิด เกรงใจที่ณฐาเลี้ยงหนังเธอแท้ๆ แต่เธอกลับนอนหลับจนหนังจบเลย ตั๋วหนังเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ถูกๆ เลยด้วย

“ไม่เป็นไรหรอก” ณฐายิ้มด้วยสีหน้าท่าทางสบายๆ ก่อนหัวเราะคิกเพราะคนตัวเล็กหาวหวอดอีกครั้ง “ไปหาอะไรสดชื่นๆ กินกันไหม ไอศกรีมเป็นไง”

“ไอติมหรือคะ” คนึงมาสถามตาเป็นประกาย เห็นณฐาพยักหน้า เธอจึงเอ่ยด้วยท่าทางเกรงใจ “ให้กระต่ายเลี้ยงไอติมพี่ณัฐบ้างได้ไหมคะ”

“เลี้ยงทำไม ผมทำงานแล้ว แก่ … เอ่อ อายุมากกว่ากระต่ายตั้งเป็นสิบปี” ณฐาเสียงอ่อย คิ้วขมวด เหมือนจี้โดนปมบางอย่างของตัวเอง ปมที่เป็นเหมือนกำแพงยักษ์ปริศนา ไม่ให้ณฐากล้าคิดอะไรไปมากกว่าแค่เพื่อนน้ากับหลานเพื่อน

“แต่ว่า กระต่ายเกรงใจนี่คะ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกลกัน” ณฐาย้ำเหตุผลเดิม ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมจ้องตาดวงกลมๆ ที่ยังคิดมากอยู่ “หรือกระต่ายมองผมเป็นคนอื่น”

“ก็ไม่ใช่คนอื่นหรอกค่ะ กระต่ายแค่ …” เธอแค่กลัวถูกมองว่าเป็นเด็ก หรือเป็นผู้หญิงเอาแต่ได้จากผู้ชาย แต่ณฐาคงมองเธอเป็นน้องคนหนึ่ง ไม่ได้คิดมากไปกว่านั้นหรอก

“งั้นก็อย่าคิดมาก ไว้กระต่ายค่อยทำอาหารเช้าให้ผมกินตอบแทนก็แล้วกัน” ณฐาเริ่มสบายใจที่คนึงมาสยอมพยักหน้า พร้อมอวดรอยยิ้มกว้างแสนสดใส เขาเกิดคำถามในใจว่า วันนี้ เขาในสายตาคนึงมาสจะยังเหมือนคนไกล แต่วันหน้า เขาจะเข้าใกล้เธอมากกว่าเดิมหรือไม่นะ



ตึกข้างหน้าคือโรงพยาบาลเวชธีระ ศิลาถอดเข็ดขัดนิรภัยหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว เขาได้ยินพี่สาวพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถยนต์ของเขา

“ขอบใจหินนะที่ขับรถพาพี่มาเยี่ยมแม่ของเพื่อน” ก่อนคนพูดจะถอนหายใจกับสิ่งไม่แน่ไม่นอน “นี่นัดไปกินข้าวที่ร้านเพื่อนแท้ๆ แต่กลับต้องมาเยี่ยมแม่เพื่อนเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน เป็นอะไรมากหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ตอนแรกมาสิณีต้องการไหว้วานน้องชายให้พาไปส่งร้านอาหารของเพื่อนที่สนิทกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่พอนั่งรถไปได้ครึ่งทาง เพื่อนก็โทรมาหาน้ำเสียงสั่น บอกว่าแม่ของเพื่อนหายใจไม่ออกจนต้องเรียกรถพยาบาลกันเลย โรงพยาบาลที่มารดาเพื่อนรักษาตัวอยู่ก็คือเวชธีระแห่งนี้

มาสิณีค่อนข้างลำบากใจที่ต้องมาที่นี่ รู้ดีว่าเวชธีระคือกิจการครอบครัวของทินกฤต อดีตคนรักวัยหวานของเธอนั่นเอง แต่จะไม่มาก็ใจแล้งใจดำเกิน แม่ของเพื่อนก็ค่อนข้างสนิทกับเธอมากด้วย

“อยู่ไอซียูใช่ไหมครับ” ศิลาเอ่ยถาม และพี่สาวก็พยักหน้า เขาจึงอาสาพาพี่สาวไปส่งถึงห้องไอซียู โดยระหว่างทาง ภาพของศิลาและมาสิณีผ่านสายตาทินกฤตเข้า


ทินกฤตชะงักตัว หยุดเดิน เพ่งมองไปยังมาสิณีกับชายหนุ่มอีกคนอย่างแปลกใจ เขาไม่ทันเห็นใบหน้าผู้ชายข้างๆ อดีตคนรัก จึงทำให้ทินกฤตเคืองตาปวดใจกับภาพมาสิณีเดินควงแขนผู้ชายตัวสูง พร้อมตัดพ้อน้อยใจมาสิณีว่า เธอดูมีความสุขกับอะไรใหม่ๆ มีแต่เขางั้นหรือที่จมทุกข์กับอดีตเก่าๆ ทินกฤตกำมือแน่น และมองตามหลังมาสิณีไปด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว


การนั่งรออยู่ทางออกเดียวจากห้องไอซียูไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก เพราะมีระยะเวลาในการเยี่ยมคนเจ็บอาการหนักอยู่ และทินกฤตก็คิดว่าไม่มีการรอคอยเวลาไหนยาวนานเท่ากับเวลาในการลืมคนรักเก่าอีกแล้ว


ทินกฤตดักรอหลังจากเห็นว่าผู้ชายที่มากับมาสิณีนั้นเพียงแค่ส่งเธอที่หน้าประตู ไม่ได้เข้าไปด้านในด้วยกัน และผู้ชายคนนั้นก็เดินไปอีกที่ จนถึงเวลารอคอยสิ้นสุดลง เขายิ้มมุมปาก ทันทีที่เห็นว่ามาสิณีเดินออกจากห้องไอซียูมาเพียงลำพัง เขาไม่รอช้า เดินไปขวางหน้ามาสิณีทันที


“พี่ทิน” มาสิณีตกใจจนเผลอเรียกทินกฤตอย่างเคยปาก เธอภาวนาว่าจะไม่เจอทินกฤตที่นี่ แต่ฟ้าฝนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นใจด้วยเลย


“ยังจำกันได้” ทินกฤตแค่นยิ้มหยัน ดวงตาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง ซึ่งมาสิณีถึงกับหนาวๆ ร้อนๆ ยามสบแววตาวาววับของคนตรงข้าม เธอตัดสินใจเลี่ยงไปข้างๆ หากเขาก็ขยับตัวขวางเธอไว้


“คุณทินกฤต!” มาสิณีตั้งใจเรียกชื่ออีกฝ่ายจริงจัง ให้เขารู้ตัวบ้างว่าเธอไม่ใช่ ‘ศมน’ คนเดิมอีกแล้ว


“เรียกห่างเหินแบบนี้ กลัวแฟนใหม่จะมาเห็นแล้วเข้าใจผิดหรือ กระแต” ทินกฤตหัวเราะหึ ถามด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร เหมือนอยากจะกวนโมโหเธอมากกว่า


“หลบไปนะคะ” มาสิณีสะบัดหน้าไปมองจุดอื่น ที่ไม่ใช่คนทำหน้ายักษ์ อยากจะฉีกเนื้อเธอกินอย่างคนตรงหน้า


แต่ทินกฤตกลับจับข้อมือเธอขึ้นมา แล้วลากเธอไปอีกทาง มาสิณีพยายามฝืนรั้นแต่ก็แพ้แรงทินกฤตอยู่ดี กระทั่งถึงสุดทางเดินที่เป็นประตูห้อง ไม่มีใครเดินผ่าน เธอโดนเขาดึงแล้วดันเธอไปจนหลังติดกำแพง มาสิณีจะรีบหนีแต่ถูกทินกฤตกดข้อมือสองข้างแน่นกับกำแพง พร้อมใช้ร่างกายสูงใหญ่กันไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้


“คุณทินกฤต คุณจะทำอะไร ถ้าคุณไม่ปล่อย ฉันจะร้องให้คนช่วยนะ” มาสิณีขู่ฟ่อ ทินกฤตไม่ได้กลัว เขาจะต้องรู้ความจริงให้ได้


“ทำไมแตไม่บอกพี่ว่าพ่อของแตฆ่าตัวตาย”


คำถามของทินกฤตทำให้มาสิณีหยุดดิ้นไปมา เธอตกใจที่เขาถามเธอเช่นนี้


“ว่ายังไง ทำไมเกิดเรื่องเลวร้ายนาดนั้นถึงไม่บอกพี่สักคำ พี่เป็นอะไรของเธอกันแน่ กระแต!” เขาถามอย่างน้อยใจ มาสิณีหลบสายตาตัดพ้อลงมองพื้น


“ฉันไม่มีจังหวะจะบอกอะไรใครทั้งนั้น” มาสิณีตอบเสียงแผ่ว พอนึกถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมา ก็คล้ายถูกกรีดหัวใจ มาสิณียังสงสัยตัวเองเลยว่าเธอผ่านเรื่องตอนนั้นมาได้อย่างไร ทั้งพ่อฆ่าตัวตาย ล้มละลาย ตั้งท้องไม่พร้อม ต้องย้ายโรงเรียนหนีเจ้าหนี้อีก


ส่วนทินกฤตน่ะหรือ เขาก็ปล่อยให้แม่มาเคลียร์ แล้วตัวเองก็เอาแต่ห่วงเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย!


“อย่าลืมสิ คุณเองก็ไม่ได้มาหาฉันเหมือนกัน” มาสิณีช้อนตาที่ทั้งเกลียดและแค้นมองทินกฤต เธอยิ้มมุมปาก ถามประชดเขากลับ “ไงล่ะ หวังจะสอบติดหมอ สุดท้ายก็ไม่มีความสามารถที่จะสอบได้ เพราะว่าคุณมันเลว เวรกรรมเลยทำให้คุณไม่สมหวังที่จะเป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็น”


“เวรกรรมงั้นหรือ เวรกรรมอะไร ในเมื่อแตเลือกจะทิ้งพี่ไป ไม่ติดต่อมาหาสักครั้ง!” ทินกฤตเผลอออกแรงบีบข้อมือบางแน่นกว่าเดิม เขาทั้งห่วงหา และโกรธคนในสายตา “เธอต่างหากที่พรากลูกไปจากพี่ เธอต่างหากที่ทำให้ชีวิตพี่พัง!!”

มาสิณีแทบล้มเมื่อทินกฤตปล่อยมืออย่างแรง โชคดีที่เธอยังยืนอยู่ไหว นอกจากแรงสะบัดข้อมือ

“ถ้าแตทำชีวิตพี่ทินพัง พี่ก็ช่วยทำเป็นไม่รู้จักแตเถอะนะ เราสองคนไม่มีทางเดินด้วยกันได้อีก อย่ามายุ่งกับกระแตอีกเลย” มาสิณีเอ่ยเสียงอ่อนลง เพราะอยากให้ทินกฤตจบทุอย่าง ไม่ว่าความรู้สึก ความแค้น หรืออะไรก็ตามเสียที เธอจะได้ป้องกันไม่ให้เขาเจอลูกได้ด้วย

ทินกฤตทำเพียงส่งเสียงหึผ่านจมูก แล้วเดินกระแทกเท้าจากไปด้วยอารมณ์ มาสิณีถอนหายใจ ทรุดนั่งกับพื้น เริ่มร้องไห้เบาๆ เธอบอกตัวเองเป็นร้อยเป็นพันครั้งว่า ไม่ว่าเธอกับเขาจะรู้สึกอย่างไร แต่การไม่เจอกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว


ติดตามตอนต่อไป


ขออภัยหายไปนานอีกแล้ว เดินทางเพราะงานบ่อยเกิน >_< ฮือออ


คุณ kaelek - น้าหินทำไม่สำเร็จหรอกค่ะ หมอณัฐมีลู่ทางดี อิอิ

คุณ แว่นใส - หมอณัฐจะถูกแซวอีกหลายครั้งเลย 5555

คุณ ตามหาฝัน - แต่ก็สกัดทางเดืนมดไม่ได้ตลอดหรอกน้าาา อิอิ


พบกันใหม่ตอนหน้าค่า ถ้าพรุ่งนี้ไม่เลิกดึก ก็จะมาลงต่อนะค้าา



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.พ. 2560, 00:42:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.พ. 2560, 00:42:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1034





<< ตอนที่ 6 - 35%   ตอนที่ 6 -100% >>
ตามหาฝัน 24 ก.พ. 2560, 02:07:34 น.
ลุ้นคู่คุณแม่


แว่นใส 24 ก.พ. 2560, 07:19:12 น.
นักสืบยังไม่รายงานผลเหรอ


kaelek 26 ก.พ. 2560, 00:50:22 น.
ง่ออออ.. เบื้องหลังคือฝีมือคุณแม่หรือนี่ ทีแรกคิดว่าฝีมือน้าชายซะอีก.. น้าณัฐ ถอนตัวจากเด็กไม่ขึ้นแว้วววว


Zephyr 27 มี.ค. 2560, 01:45:53 น.
เคลียร์กันเถอะไๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account