สายรัก(ษ์)
'เพราะ 'รัก' จึงปกปักษ์ พิทักษ์ (ใจ) เธอ'
คุณคิดว่าคนสายไหนน่ากลัวที่สุด
แต่ก่อนคุณจะตอบ ฉันจะบอกให้
ว่าไม่ว่าจะสายปาร์ตี้ สายธรรมะ สายเงียบ สายซึน
สายไหนๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่า สาย (ขึ้น) คาน!
คุณคิดว่าคนสายไหนน่ากลัวที่สุด
แต่ก่อนคุณจะตอบ ฉันจะบอกให้
ว่าไม่ว่าจะสายปาร์ตี้ สายธรรมะ สายเงียบ สายซึน
สายไหนๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่า สาย (ขึ้น) คาน!
Tags: แอบรัก,เพื่อนสนิท,หนีใจ
ตอน: บทที่ ๒ 2/4
“คุณกฤษฎ์ ไปดูตัวที่อังกฤษ แล้วทั้งที่เขาอุตส่าห์มาบอก แกกลับบอกให้เขาหาผู้ชายมาฝากอีกเนี่ยนะ” เสียงชุดาฟังดูระอาถึงขั้นสุด หลังนวพรรษเล่าให้ฟังว่าทำไมสองสามวันนี้กฤษฎ์หายไป
หัวค่ำวันพุธกลางอาทิตย์ ชุดากับนวพรรษเพิ่งกลับจากตรวจงานบัญชีลูกค้าที่ต่างจังหวัด และเพราะความหิวไม่เคยปรานีใคร พวกเธอจึงตัดสินใจจะหามื้อค่ำรับประทานกันที่ห้างสรรพสินค้าแถวบางนา เช่นเคย สเปซแวกอนสีเงินนอกจากคนขับและผู้โดยสารเบาะหน้าแล้ว นอกนั้นคือแฟ้มในลังที่ซ้อนกันอยู่เต็มไปหมด
รถติดหน้าห้างคือสิ่งปกติ ระหว่างตีไฟเลี้ยวรอ นวพรรษก็หันมามองชุดา
“ใช่ มันแปลกตรงไหนเอ้อ ก็แค่พูดเล่น แต่ไม่อยากเม้าท์ พี่ข้าวกล้าอาการหนักมาก ท่าทางซิสจะไม่อยากปิดแล้ว ตางี้ละห้อย น่าสงส้านน่าสงสาร” พูดจบนวพรรษก็หันกลับไปมองถนนอีกครั้ง ชุดานั้นยังมองคนขับ ด้วยอาการคิ้วขมวด
“ฉันถามจริง แกเคยคิดไหมถ้าคุณกฤษฎ์ดูตัวแล้วเกิดปิ๊งกับคู่ดูตัวคนนั้นขึ้นมา เขาคบเป็นแฟนกัน แต่งงานกัน แกจะเป็นยังไง”
“ก็ดีใจด้วย” นวพรรษยังคงมองถนน
ชุดาถอนหายใจ “แน่ใจ๊ ว่าที่พูดออกมานี่ไม่รู้สึกแปลกๆ ใจมันวูบๆ”
“ชุดาขา ถ้าพรรษเป็นแบบนั้นคงได้หาหมอเพราะมีอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจละ” นวพรรษบอกหัวเราะๆ ก่อนเลี้ยวตามท้ายรถยนต์คันหน้า วิ่งช้าๆ ผ่านทางเข้าหน้าห้างเพื่อวนอ้อมไปลงลานจอดรถ
“ยัยพรรษเอ๊ย ฉันชักจะสงสัยจริงๆ แล้วล่ะ ว่าสมองแกน่ะมันทำมาจากอะไรกันแน่” ชุดาจุปาก “แกน่ะบางทีก็รู้สึกไวเกิ๊น แต่บางทีก็ไม่รู้อะไรเลย!”
นวพรรษยังคงไม่สนใจ ซ้ำยังยิ้มแม้จะต้องจอดรถต่อคิวรอแลกบัตรลานจอดซึ่งติดยาวเฟื้อย เนื่องจากเป็นช่วงต้นเดือนใครๆ ต่างก็มาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันให้ครึก “ขอบใจที่ชม!” ซ้ำยังหัวเราะฮิฮิ “ฉันรู้ตัวนะชุดาว่าฉันฉลาด แสนดี และสวย แกไม่ต้องพูดตรงขนาดนี้ก็ได้ฉันเขิน คนกันเองอย่าชมให้มากเลย อายเค้า”
ชุดากลอกตาถอนหายใจอีกเฮือก ตั้งแต่คบกับนวพรรษมา เธอก็นึกสงสัยอยู่ครามครัน ว่านวพรรษไปเอาความมั่นอกมั่นใจพวกนี้มาจากไหน
“พรรษถามจริงๆ นะ บอกได้ไหมทำไมแกคิดว่าคุณกฤษฎ์เป็นเกย์”
คำถามมาพร้อมสายตาสนใจใคร่รู้ นวพรรษมองสบตอบและแสร้งเบือนกลับมามองถนนอีกครั้ง เธอผ่อนลมหายใจ
อดีตที่ไม่น่าจดจำ
เธออกหักครั้งแรก... ก็เพราะเขานี่แหละ
“น้องคะน้อง เก็บของคืนให้พี่หน่อย” เสียงแซวดังลั่น หลังมีหนุ่มหน้าหล่อกำลังจะเดินผ่านกลุ่มของนวพรรษไป คนแซวเป็นเพื่อนชายใจหญิงในกลุ่ม การกลายเป็นรุ่นพี่ปีสองทำให้นวพรรษไม่ได้ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม ดังนั้นเมื่อมีการเลี้ยงรับน้องนักศึกษาใหม่ของชมรม สาวซ่าพร้อมพวกจึงได้มานั่งริมหาดคอยเหล่น้องใหม่
แล้วก็ใช่... ถ้าเป็นชุดาไม่มีทางมานั่งดักแซวหนุ่มแบบนี้แน่เพราะเป็นคนขี้อาย โชคดีของนวพรรษแค่ไหนแล้วที่อยู่กันคนละชมรม เพราะไม่งั้นสาบานได้ตอนนี้นวพรรษคงถูกกักตัวอยู่ในห้องพัก
“เก็บอะไรอะแก” พอเห็นเป้าหมายหยุดหันมองเหลอหลา นวพรรษกับเพื่อนที่เหลือก็ช่วยกันตบมุข “น้องเขาหาใหญ่แล้ว”
คนแซวขยิบตา และส่งจูบให้รุ่นน้องผู้โชคร้าย
“ก็หัวใจที่ลอยไปกับน้องเขายังไง เอ้า! ฮิ้ว!!”
เสียงหัวเราะเฮฮาดังครืน และคนถูกแซวก็เดินห่างออกไป เสียงหัวเราะยังคงอยู่ ต่อเมื่อนวพรรษละสายตากลับมาพอเห็นว่าใครกำลังเดินใกล้เข้ามา หญิงสาวก็หลุบตาลงมองมือตัวเองทันที แถมยังสงบปากสงบคำเสียด้วย
สี่จตุรเทพ รุ่นพี่กิตติมศักดิ์ที่แม้จะเรียนจบไปแล้ว แต่ยังมาช่วยรับน้องนักศึกษาใหม่
“อุ้ยตาย! พี่กฤษฎ์ขา เชิญค่า ที่ว่างตรงข้างหนุงหนิงเยอะเชียวค่า ถ้าไม่พอเดี๋ยวหนุงหนิงเตะแม่พวกชะนีแถวนี้ลงทะเลเองค่า”
เสียงหัวเราะคิกคักดัง แต่นวพรรษเป็นคนที่หุบปากเงียบคนเดียว เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อกฤษฎ์กับเพื่อนเข้ามาหยุดตรงกลุ่มของเธอเข้าจริงๆ เขาเป็นรุ่นพี่ที่ฮอตที่สุด เป็นทั้งเดือนคณะ เดือนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบก็ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง นอกจากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเป็นที่หนึ่งแล้ว นิสัยก็ยังสุภาพอ่อนโยนเลยทำให้เป็นคนที่เข้าถึงได้ยากมาก เพราะดันมีแฟนคลับอยู่ในมหาวิทยาลัยเกินครึ่ง
“กำลังสนุกกันเชียวสาวๆ เดี๋ยวหนุ่มๆ ก็กลัวหรอก”
เสียงเขาที่เอ่ยทัก มีผลให้ใจของนวพรรษเต้นระรัว
“แหมพี่กฤษฎ์ขา นานๆ กวางหนุ่มๆ จะผ่านมา มันก็ต้องมีกันบ้าง” แม่เพื่อนชายตัวดียังวี้ดว้าย กลุ่มของกฤษฎ์นั่งลงใกล้ๆ แต่ที่ทำให้นวพรรษนึกไม่ถึงคือเขาเลือกที่จะนั่งลงใกล้ๆ เธอ
เขาเอ่ยทักเธอ ในขณะที่เพื่อนของเธอกับเพื่อนของเขาติดพันในบทสนทนาที่เริ่มออกทะเล
“น้องพรรษเงียบๆ นะคะ เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงอยู่เลย”
“เอ่อ” นวพรรษติดอ่างและได้แต่ยิ้ม
จะพูดกับเขายังไม่กล้า เรื่องสบตาไม่ต้องพูดถึง!
“พี่กฤษฎ์มานานแล้วหรือคะ เห็นพี่ๆ เขาว่ากันว่าพี่กฤษฎ์ไม่ว่าง”
“ว่างสิครับน้องพรรษ” จินต์ เพื่อนสนิทของกฤษฎ์เอ่ยขึ้น “สำหรับน้องพรรษ ไอ้กฤษฎ์มันว่างเสมอ”
นวพรรษหน้าแดงขัดเขิน
“อุ้ยต๊าย! พี่ๆ ขาน้องตาร้อน อิจฉาคนเขาจีบกัน!”
นวพรรษเขินจนแทบม้วน เธอแทบไม่กล้าสบตากับเขา กฤษฎ์เองไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบรับและมันทำให้เธอมีหวังลึกๆ
เหตุการณ์เป็นเช่นนั้น และเราก็เริ่มสนิทกัน ความสนิทสนมระหว่างเราเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เธอเริ่มไปไหนมาไหนกับเขาตามลำพังบ่อยขึ้น แม้จะมีเพื่อนเรียนปริญญาโทของเขาติดไปด้วยบ่อยๆ ก็ตาม
แต่นวพรรษไม่แคร์ เพราะพี่นัฐ เป็น ‘ทอม’ ตัวเล็ก หน้าหวาน มาดเท่ ที่มีแฟนคลับไม่น้อยไปกว่ากฤษฎ์ เจอกันครั้งแรกเธอเกือบนึกว่าเขาเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ แต่พอเห็นพี่นัฐสวมชุดนักศึกษานักเรียนหญิง นวพรรษถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อเพื่อนร่วมกลุ่มของกฤษฎ์บอกว่าพี่นัฐเป็นทอม
“นัฐมันเป็นทอม แต่พวกพี่ชอบแกล้ง เพราะรู้ว่ามันไม่ชอบ”
“แต่พี่นัฐสวยซะขนาดนั้นเนี่ยนะคะ”
คำชมของเธอทำให้ ‘เต้’ เพื่อนของกฤษฎ์หัวเราะเสียงดัง
“เดี๋ยวมันไปเสริม ‘ไอ้นั่น’ เมื่อไหร่ น้องพรรษบอกมันนะ”
นวพรรษยิ่งตาโต อ้าปากค้าง ส่วนพี่เต้หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง มิหนำยังตบท้าย “พี่พูดเล่น น้องพรรษก็อย่าไปพูดให้เข้าหูมันเชียว ไอ้นัฐได้ต่อยปากแตก”
“อุ้ยพรรษไม่พูดหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่นัฐ แหม ถึงขั้นต่อยเลย”
“จ้ะ ดีแล้ว ดี” พี่เต้ยังหัวเราะลั่นๆ และนวพรรษก็งุนงงว่าเขาขำอะไรหนักหนา เธอก็ได้แต่พยักเพยิดไปด้วย แสนเสียดายที่นัฐฐาสวยขนาดนั้นยังจะเป็นทอม
นวพรรษเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ปริปากพูดกับใคร แต่การได้รู้มันก็ทำให้เธอสบายใจ เมื่อนัฐฐาเป็นทอม นั่นก็แสดงว่าหล่อนไม่ใช่ ‘คู่แข่ง’ ที่เธอจะต้องกลัว
หัวค่ำวันพุธกลางอาทิตย์ ชุดากับนวพรรษเพิ่งกลับจากตรวจงานบัญชีลูกค้าที่ต่างจังหวัด และเพราะความหิวไม่เคยปรานีใคร พวกเธอจึงตัดสินใจจะหามื้อค่ำรับประทานกันที่ห้างสรรพสินค้าแถวบางนา เช่นเคย สเปซแวกอนสีเงินนอกจากคนขับและผู้โดยสารเบาะหน้าแล้ว นอกนั้นคือแฟ้มในลังที่ซ้อนกันอยู่เต็มไปหมด
รถติดหน้าห้างคือสิ่งปกติ ระหว่างตีไฟเลี้ยวรอ นวพรรษก็หันมามองชุดา
“ใช่ มันแปลกตรงไหนเอ้อ ก็แค่พูดเล่น แต่ไม่อยากเม้าท์ พี่ข้าวกล้าอาการหนักมาก ท่าทางซิสจะไม่อยากปิดแล้ว ตางี้ละห้อย น่าสงส้านน่าสงสาร” พูดจบนวพรรษก็หันกลับไปมองถนนอีกครั้ง ชุดานั้นยังมองคนขับ ด้วยอาการคิ้วขมวด
“ฉันถามจริง แกเคยคิดไหมถ้าคุณกฤษฎ์ดูตัวแล้วเกิดปิ๊งกับคู่ดูตัวคนนั้นขึ้นมา เขาคบเป็นแฟนกัน แต่งงานกัน แกจะเป็นยังไง”
“ก็ดีใจด้วย” นวพรรษยังคงมองถนน
ชุดาถอนหายใจ “แน่ใจ๊ ว่าที่พูดออกมานี่ไม่รู้สึกแปลกๆ ใจมันวูบๆ”
“ชุดาขา ถ้าพรรษเป็นแบบนั้นคงได้หาหมอเพราะมีอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจละ” นวพรรษบอกหัวเราะๆ ก่อนเลี้ยวตามท้ายรถยนต์คันหน้า วิ่งช้าๆ ผ่านทางเข้าหน้าห้างเพื่อวนอ้อมไปลงลานจอดรถ
“ยัยพรรษเอ๊ย ฉันชักจะสงสัยจริงๆ แล้วล่ะ ว่าสมองแกน่ะมันทำมาจากอะไรกันแน่” ชุดาจุปาก “แกน่ะบางทีก็รู้สึกไวเกิ๊น แต่บางทีก็ไม่รู้อะไรเลย!”
นวพรรษยังคงไม่สนใจ ซ้ำยังยิ้มแม้จะต้องจอดรถต่อคิวรอแลกบัตรลานจอดซึ่งติดยาวเฟื้อย เนื่องจากเป็นช่วงต้นเดือนใครๆ ต่างก็มาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันให้ครึก “ขอบใจที่ชม!” ซ้ำยังหัวเราะฮิฮิ “ฉันรู้ตัวนะชุดาว่าฉันฉลาด แสนดี และสวย แกไม่ต้องพูดตรงขนาดนี้ก็ได้ฉันเขิน คนกันเองอย่าชมให้มากเลย อายเค้า”
ชุดากลอกตาถอนหายใจอีกเฮือก ตั้งแต่คบกับนวพรรษมา เธอก็นึกสงสัยอยู่ครามครัน ว่านวพรรษไปเอาความมั่นอกมั่นใจพวกนี้มาจากไหน
“พรรษถามจริงๆ นะ บอกได้ไหมทำไมแกคิดว่าคุณกฤษฎ์เป็นเกย์”
คำถามมาพร้อมสายตาสนใจใคร่รู้ นวพรรษมองสบตอบและแสร้งเบือนกลับมามองถนนอีกครั้ง เธอผ่อนลมหายใจ
อดีตที่ไม่น่าจดจำ
เธออกหักครั้งแรก... ก็เพราะเขานี่แหละ
“น้องคะน้อง เก็บของคืนให้พี่หน่อย” เสียงแซวดังลั่น หลังมีหนุ่มหน้าหล่อกำลังจะเดินผ่านกลุ่มของนวพรรษไป คนแซวเป็นเพื่อนชายใจหญิงในกลุ่ม การกลายเป็นรุ่นพี่ปีสองทำให้นวพรรษไม่ได้ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม ดังนั้นเมื่อมีการเลี้ยงรับน้องนักศึกษาใหม่ของชมรม สาวซ่าพร้อมพวกจึงได้มานั่งริมหาดคอยเหล่น้องใหม่
แล้วก็ใช่... ถ้าเป็นชุดาไม่มีทางมานั่งดักแซวหนุ่มแบบนี้แน่เพราะเป็นคนขี้อาย โชคดีของนวพรรษแค่ไหนแล้วที่อยู่กันคนละชมรม เพราะไม่งั้นสาบานได้ตอนนี้นวพรรษคงถูกกักตัวอยู่ในห้องพัก
“เก็บอะไรอะแก” พอเห็นเป้าหมายหยุดหันมองเหลอหลา นวพรรษกับเพื่อนที่เหลือก็ช่วยกันตบมุข “น้องเขาหาใหญ่แล้ว”
คนแซวขยิบตา และส่งจูบให้รุ่นน้องผู้โชคร้าย
“ก็หัวใจที่ลอยไปกับน้องเขายังไง เอ้า! ฮิ้ว!!”
เสียงหัวเราะเฮฮาดังครืน และคนถูกแซวก็เดินห่างออกไป เสียงหัวเราะยังคงอยู่ ต่อเมื่อนวพรรษละสายตากลับมาพอเห็นว่าใครกำลังเดินใกล้เข้ามา หญิงสาวก็หลุบตาลงมองมือตัวเองทันที แถมยังสงบปากสงบคำเสียด้วย
สี่จตุรเทพ รุ่นพี่กิตติมศักดิ์ที่แม้จะเรียนจบไปแล้ว แต่ยังมาช่วยรับน้องนักศึกษาใหม่
“อุ้ยตาย! พี่กฤษฎ์ขา เชิญค่า ที่ว่างตรงข้างหนุงหนิงเยอะเชียวค่า ถ้าไม่พอเดี๋ยวหนุงหนิงเตะแม่พวกชะนีแถวนี้ลงทะเลเองค่า”
เสียงหัวเราะคิกคักดัง แต่นวพรรษเป็นคนที่หุบปากเงียบคนเดียว เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อกฤษฎ์กับเพื่อนเข้ามาหยุดตรงกลุ่มของเธอเข้าจริงๆ เขาเป็นรุ่นพี่ที่ฮอตที่สุด เป็นทั้งเดือนคณะ เดือนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบก็ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง นอกจากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเป็นที่หนึ่งแล้ว นิสัยก็ยังสุภาพอ่อนโยนเลยทำให้เป็นคนที่เข้าถึงได้ยากมาก เพราะดันมีแฟนคลับอยู่ในมหาวิทยาลัยเกินครึ่ง
“กำลังสนุกกันเชียวสาวๆ เดี๋ยวหนุ่มๆ ก็กลัวหรอก”
เสียงเขาที่เอ่ยทัก มีผลให้ใจของนวพรรษเต้นระรัว
“แหมพี่กฤษฎ์ขา นานๆ กวางหนุ่มๆ จะผ่านมา มันก็ต้องมีกันบ้าง” แม่เพื่อนชายตัวดียังวี้ดว้าย กลุ่มของกฤษฎ์นั่งลงใกล้ๆ แต่ที่ทำให้นวพรรษนึกไม่ถึงคือเขาเลือกที่จะนั่งลงใกล้ๆ เธอ
เขาเอ่ยทักเธอ ในขณะที่เพื่อนของเธอกับเพื่อนของเขาติดพันในบทสนทนาที่เริ่มออกทะเล
“น้องพรรษเงียบๆ นะคะ เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงอยู่เลย”
“เอ่อ” นวพรรษติดอ่างและได้แต่ยิ้ม
จะพูดกับเขายังไม่กล้า เรื่องสบตาไม่ต้องพูดถึง!
“พี่กฤษฎ์มานานแล้วหรือคะ เห็นพี่ๆ เขาว่ากันว่าพี่กฤษฎ์ไม่ว่าง”
“ว่างสิครับน้องพรรษ” จินต์ เพื่อนสนิทของกฤษฎ์เอ่ยขึ้น “สำหรับน้องพรรษ ไอ้กฤษฎ์มันว่างเสมอ”
นวพรรษหน้าแดงขัดเขิน
“อุ้ยต๊าย! พี่ๆ ขาน้องตาร้อน อิจฉาคนเขาจีบกัน!”
นวพรรษเขินจนแทบม้วน เธอแทบไม่กล้าสบตากับเขา กฤษฎ์เองไม่ปฏิเสธ ไม่ตอบรับและมันทำให้เธอมีหวังลึกๆ
เหตุการณ์เป็นเช่นนั้น และเราก็เริ่มสนิทกัน ความสนิทสนมระหว่างเราเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เธอเริ่มไปไหนมาไหนกับเขาตามลำพังบ่อยขึ้น แม้จะมีเพื่อนเรียนปริญญาโทของเขาติดไปด้วยบ่อยๆ ก็ตาม
แต่นวพรรษไม่แคร์ เพราะพี่นัฐ เป็น ‘ทอม’ ตัวเล็ก หน้าหวาน มาดเท่ ที่มีแฟนคลับไม่น้อยไปกว่ากฤษฎ์ เจอกันครั้งแรกเธอเกือบนึกว่าเขาเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ แต่พอเห็นพี่นัฐสวมชุดนักศึกษานักเรียนหญิง นวพรรษถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อเพื่อนร่วมกลุ่มของกฤษฎ์บอกว่าพี่นัฐเป็นทอม
“นัฐมันเป็นทอม แต่พวกพี่ชอบแกล้ง เพราะรู้ว่ามันไม่ชอบ”
“แต่พี่นัฐสวยซะขนาดนั้นเนี่ยนะคะ”
คำชมของเธอทำให้ ‘เต้’ เพื่อนของกฤษฎ์หัวเราะเสียงดัง
“เดี๋ยวมันไปเสริม ‘ไอ้นั่น’ เมื่อไหร่ น้องพรรษบอกมันนะ”
นวพรรษยิ่งตาโต อ้าปากค้าง ส่วนพี่เต้หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง มิหนำยังตบท้าย “พี่พูดเล่น น้องพรรษก็อย่าไปพูดให้เข้าหูมันเชียว ไอ้นัฐได้ต่อยปากแตก”
“อุ้ยพรรษไม่พูดหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่นัฐ แหม ถึงขั้นต่อยเลย”
“จ้ะ ดีแล้ว ดี” พี่เต้ยังหัวเราะลั่นๆ และนวพรรษก็งุนงงว่าเขาขำอะไรหนักหนา เธอก็ได้แต่พยักเพยิดไปด้วย แสนเสียดายที่นัฐฐาสวยขนาดนั้นยังจะเป็นทอม
นวพรรษเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ปริปากพูดกับใคร แต่การได้รู้มันก็ทำให้เธอสบายใจ เมื่อนัฐฐาเป็นทอม นั่นก็แสดงว่าหล่อนไม่ใช่ ‘คู่แข่ง’ ที่เธอจะต้องกลัว
ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 เม.ย. 2560, 10:46:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 เม.ย. 2560, 10:46:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 1025
<< บทที่ ๒ 1/4 | บทที่ ๒ 3/4 >> |
ดังปัณณ์ 12 เม.ย. 2560, 10:48:03 น.
ดีค้า พายัยพรรษมาส่งค่า ^O^
คุณKIM มีแน่ๆ ค่า ปลายเดือนนี้เจอกันค่า ^O^
คุณkaelek ยัยพรรษเป็นคนใสซื่อออออ 5555 นางโดนมาเยอะ อิๆ
คุณแว่นใส นี่โอเพนนิ่งกับทั้งบ้านเลยค่า นางมั่นหน้ามาก รอวันยัยพรรษหน้าแตกกันเถอะ อิๆ
และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ
วันนี้ไปแล้ว ไว้เจอกันตอนหน้า วันนี้ไปแล้ว บุ้ยบุย
ดีค้า พายัยพรรษมาส่งค่า ^O^
คุณKIM มีแน่ๆ ค่า ปลายเดือนนี้เจอกันค่า ^O^
คุณkaelek ยัยพรรษเป็นคนใสซื่อออออ 5555 นางโดนมาเยอะ อิๆ
คุณแว่นใส นี่โอเพนนิ่งกับทั้งบ้านเลยค่า นางมั่นหน้ามาก รอวันยัยพรรษหน้าแตกกันเถอะ อิๆ
และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ
วันนี้ไปแล้ว ไว้เจอกันตอนหน้า วันนี้ไปแล้ว บุ้ยบุย
Kim 12 เม.ย. 2560, 12:26:05 น.
อยากรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ยัยพรรษคิดว่าพี่กฤษฎ์ไม่แมน
อยากรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ยัยพรรษคิดว่าพี่กฤษฎ์ไม่แมน
แว่นใส 12 เม.ย. 2560, 14:38:17 น.
พี่ข้าวกล้ายังไม่รู้ตัวใช่ไหม ถึงไม่แก้ความเข้าใจผิด
พี่ข้าวกล้ายังไม่รู้ตัวใช่ไหม ถึงไม่แก้ความเข้าใจผิด