ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน
ชะตาฟ้าลิขิตให้เขาและเธอมาเจอกัน แต่ก็ไม่สมหวังซักที
เขาและเธอเจอกันอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขามักมีแฟนควงคู่อยู่เสมอ
จนในที่สุดฟ้าก็ลิขิตให้เขาและเธอมาเจอกันอีกครั้งในจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม
ความรักครั้งนี้จึงเริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด
เหมือนกับลูกโลกที่ถูกที่แบ่งเป็นซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้
มันถูกหมุนและหยุด หมุนและหยุด จนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยลงล็อคซักที
จนในที่สุดเมื่อถึงจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม ลูกโลกลูกนั้นดันหยุดและตรงล็อคพอดี
พระเจ้าผู้สร้างโลกใบนี้ขึ้นจึงปล่อยให้ลูกโลกใบนั้นค่อยๆ หมุนต่อไปเองตามธรรมชาติและตามกาลเวลาของมัน
เขาและเธอเจอกันอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขามักมีแฟนควงคู่อยู่เสมอ
จนในที่สุดฟ้าก็ลิขิตให้เขาและเธอมาเจอกันอีกครั้งในจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม
ความรักครั้งนี้จึงเริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด
เหมือนกับลูกโลกที่ถูกที่แบ่งเป็นซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้
มันถูกหมุนและหยุด หมุนและหยุด จนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยลงล็อคซักที
จนในที่สุดเมื่อถึงจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม ลูกโลกลูกนั้นดันหยุดและตรงล็อคพอดี
พระเจ้าผู้สร้างโลกใบนี้ขึ้นจึงปล่อยให้ลูกโลกใบนั้นค่อยๆ หมุนต่อไปเองตามธรรมชาติและตามกาลเวลาของมัน
Tags: ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน
ตอน: บทที่ 4 เราเลิกกันเถอะ
…2 ปีต่อมา…
หลังจากที่เจนเนตรเปิดตัวแบรนด์มาภายใต้ชื่อ Janette ที่แปลว่าของขวัญจากพระเจ้า แบรนด์ของเธอก็เป็นที่ฮือฮาและโด่งดังไปทั่วประเทศ และตอนนี้ไปไกลถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่ไฮโซเซเลป เพราะเสื้อผ้าเธอเจาะเป้าหมายที่กลุ่มตลาดบน และราคาก็แพงหูฉี่ ทำให้ตอนนี้เธอมีชื่อเสียง และมีสังคมกับเหล่าไฮโซมากขึ้น ส่วนห้างของคุณลุงตอนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เธอใช้ประสบการณ์และคอนเนคชั่นต่างๆ บริหารจัดการการตลาดจนมีแบรนด์ดังต่างๆ เข้ามาเช่าพื้นที่จนเต็มในที่สุด แล้วเธอก็ขอรางวัลแลกเปลี่ยนนิดหน่อยกับลุงอนันต์คือ ขอห้องนึงทำเลดีๆ ใกล้ๆบันไดเลื่อน สำหรับร้านค้าของแบรนด์เธอโดยไม่เสียค่าเช่า แต่ลุงอนันต์กลับตอกกลับมาว่า “นี่นิดหน่อยเอ็งหรอ” แต่ลุงอนันต์ก็ให้แต่โดยดี แค่นี้เอง ทำไมจะให้หลานรักไม่ได้ และตอนนี้ลุงก็กำลังมีแพลนใหม่คือทำโครงการใหม่เพิ่ม และเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยให้เจนเนตรเป็ยรองประธาน โดยมีลุงอนันต์เป็นประธานบริษัท ส่วนน้องๆ ของเธอ เนวินหลังจากที่เรียนจบก็มีแมวมองทาบทามไปเล่นหนัง จนตอนนี้กลายเป็นสามีแห่งชาติไปแล้ว ส่วนนิลเนตรตอนนี้กำลังเรียนอยู่คณะบริหาร ปี 4 ใกล้จบ
ณ บ้านอานันตรา
ลินดา และแม่ของเธอกำลังคุยกันเรื่องเดิมที่ไม่ว่าคุยกันกี่ครั้งก็จบไม่สวยทุกที แต่ครั้งนี้เธอตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะเคลียร์กับแม่ให้รู้เรื่อง จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันอีก
“ลิน แม่บอกตามตรงนะ แม่ไม่ชอบแฟนของลูกเลย เลิกกับเขาเถอะ แม่ขอ”
“แม่คะ ลินก็บอกตามตรงนะคะ ลินรักตฤณค่ะ เราคบกันมา 2 ปีแล้ว แล้วลินจะแต่งงานกับตฤณค่ะ แม่อย่าห้ามลินเลยนะคะ”
“แต่แม่ไม่ชอบเขา เซนส์แม่มันบอก เขาจะทำให้ลูกสาวแม่เสียใจ”
“หนูไม่เข้าใจนะคะว่าเซนส์ที่แม่หมายถึงเป็นยังไง แต่ตั้งแต่ลินคบตฤณมาเขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้ลินเสียใจเลย และเขาก็รักลินมากด้วยค่ะแม่ แม่อย่าห้ามลินเลยนะคะ ลินรักเขาจริงๆ ค่ะ”
“แล้วลินไม่รักแม่หรอกลูก แม่ไม่สบายใจ” มารดาของลินดาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“รักสิคะแม่ ยังไงหนูก็รักแม่ที่สุดอยู่แล้ว” ลินดาพูดพลางเข้าไปกอดคนเป็นแม่อย่างอ้อนๆ
“’งั้นถ้าลินรักแม่ ลินก็เลือกมาว่าระหว่างแม่กับนายตฤณลูกจะเลือกใคร ถ้าลูกเลือกเขาแสดงว่าลินไม่ได้รักแม่จริงๆ”
“แต่แม่คะ!” ลินผละมือออกจากการกอด แล้วมองหน้าผู้เป็นมารดาอย่างน้อยใจ แล้วน้ำตาที่อดกลั้นมานานก็เอ่อคลอออกมา
“แม่ให้เวลาลูกตัดสินใจนะ” มารดาของเธอพูดแล้วเดินออกไป
หลังจากมารดาของลินดาเดินออกไปจากห้องนอนของเธอน้ำตาที่อดกลั้นมานานจากความน้อยใจ และไม่เข้าใจก็เอ่อล้นออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง เธอร้องไห้เหมือนคนหัวใจแตกสลาย ทำไมแม่ไม่เข้าใจเธอเลย ทำไม แม่ก็รู้ว่าเธอรักแม่มากขนาดไหน ยังไงเธอก็เลือกแม่อยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยดื้อกับแม่เลย แม่ให้เธอทำอะไรเธอก็เชื่อแล้วเป็นเด็กดีตลอด เธอขอแค่เรื่องนี้ทำไมแม่ไม่ให้ มันคือความสุขของเธอ แล้วตฤณนิธิก็เป็นคนดี มีทุกอย่างพร้อม ทำไมแม่ไม่ชอบเขา ในหัวของเธอมีแต่คำถามว่าทำไมเต็มไปหมด เธอร้องไห้อย่างนั้นทั้งคืนจนผลอยหลับไปพร้อมน้ำตา
ณ บ้านสิทธาภิวัฒน์
ตฤณนิธิ และบิดาของเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาพ่อลูก
“แล้วหนูลินเป็นไง เมื่อไหร่จะแต่งงานกันซักทีล่ะ นี่อายุแกก็ขึ้นเลขสามแล้วนะเว้ย”
“รอจังหวะอยู่อะพ่อ”
“จังหวะอะไรของแกวะ ฉันถามแกจริงๆ คนนี้จริงจังมั้ย”
“ผมก็จริงจังทุกคนอะพ่อ แต่มันไม่ใช่ก็เลิกไป แต่กับลินผมรักจริงหวังแต่ง” ตฤณนิธิพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วจับกล่องกำมะหยี่ใบเล็ก พลางยิ้มขึ้นมา
“เออรีบๆ แต่ง ฉันอยากอุ้มหลานจะแย่แล้ว”
“คนแก่อะไร ใจร้อนจริงๆ เลย”
“เอ้าไอนี่ วอนโดนตีนละ”
แล้วสองหนุ่มก็คุยกันไป หัวเราะกันไปอย่างมีความสุข สักพักก็แยกย้ายกันไปนอน
…วันต่อมา…
ณ ร้านอาหารชั้นบนสุดของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มร่างสูงจูงมือแฟนสาวของเขาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้สำหรับดินเนอร์ โดยเขาได้สั่งปิดร้านเพราะนี่คือโรงแรมของเขา เพื่อเขาจะได้ดินเนอร์กับเธอสองคน และวันนี้แหละเขาจะขอแฟนสาวแต่งงานในวันเกิดของเธอ
“ทำไมวันนี้ไม่มีคนเลยล่ะคะ” ลินดามองดูรอบๆ พลางถามแฟนหนุ่มอย่างสงสัย
“สงสัยเค้ารู้มั้ง ว่าตฤณจะมา เลยไม่มีใครกล้ามากินเลย ฮ่าๆ” ตฤณนิธิพูดอย่างขำขัน
“หืมมมม ตฤณน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอคะ ฮ่าๆ”
“แล้วลินกลัวรึเปล่าล่ะ”
“ไม่กลัวหรอกค่ะ แบร่” ลินดาพูดพลางแลบลิ้นอย่างทะเล้น
“ฮ่าๆ มาสั่งอาหารกันดีกว่า” ตฤณนิธิหัวเราะอย่างเอ็นดูกับท่าทางของแฟนสาว
“โอเคค่ะ”
หลังจากที่หนุ่มสาวรับประทานอาหารกันเรียบร้อย ตฤณนิธิก็จูงมือพาลินดาเดินมาตรงข้างนอกอาคารซึ่งเป็นลานกลางแจ้ง ที่อยู่บนตึกสูงสำหรับชมวิวทิวทัศน์ในเมืองหลวง แล้วยืนกอดลินดาจากด้านหลัง พลางคิดในใจว่าวันนี้แหละเขาจะขอเธอแต่งงานให้ได้ ส่วนด้านลินดาก็หนักใจเรื่องที่เธอคุยกับแม่ เธอตัดสินใจแล้วว่าวันนี้เธอจะบอกเลิกเขา เธอจะไม่ทำให้แม่ของเธอต้องลำบากใจอีกต่อไป เพราะยังไงเธอก็รักแม่ของเธอมากที่สุด ถึงแม้เธอจะรักตฤณนิธิมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าให้เลือก แม่ต้องมาก่อนอยู่แล้ว
“ลิน…ตฤณรักลินนะคะ” ตฤณนิธิกระซิบข้างหูลินดา พอได้ยินดังนั้นน้ำตาของเธอก็เริ่มเอ่อคลอเบ้า ด้วยความเสียใจ และอัดอั้นใจกับสิ่งที่กำลังจะทำ
“ลินก็รักตฤณค่ะ” เธอพูดพลางกลั้นน้ำตาไว้
“แต่งงานกันนะ” ตฤณนิธิพูด แล้วหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดง ที่เขาซื้อไว้ให้เธอขึ้นมา แล้วหันตัวเธอเข้ามาหาเขาให้หันหน้าเข้าหากัน แล้วเขาก็คุกเข่าลงเพื่อขอเธอแต่งงาน
“ฮึก ฮึก…ฮืออออ ตฤณ…ลิน ขะ ขอโทษ” พอลินดาเห็นดังนั้น ก็บ่อน้ำตาแตกเลย
“ขอโทษทำไมคะ” ตฤณนิธิยืนขึ้น แล้วถามไปอย่างใจเสีย
“เราเลิกกันเถอะ” ลินดาฝืนใจพูดออกไปทั้งน้ำตา
“ทำไมอะลิน แม่ลินบอกให้เราเลิกกันใช่มั้ย ตฤณไม่ยอมนะ ตฤณรักลิน ตฤณจะไปคุยกับท่านเอง” ตฤณนิธิเก็บแหวนใส่กระเป๋า แล้วพยายามจูงลินดาไป หมายจะขับรถไปที่บ้านเธอเพื่อคุยกับมารดาของเธอให้รู้เรื่อง
“ตฤณ ตฤณ พอเถอะ มันจบแล้ว” ลินดาไม่ยอมก้าวขาตามแล้วดึงตฤณนิธิกลับมาคุย เธอต้องจบเรื่องนี้ซักที เธอเลือกแล้วว่าจะไม่ทำให้แม่เสียใจ เธอจะเป็นคนที่เสียใจเอง
“ทำไมอะลิน แต่เรารักกันนะ ท่านต้องเข้าใจสิ” ตฤณนิธิพูดอย่างใจเสีย ตอนนี้ใจของเขาลงไปอยู่ตาตุ่มแล้ว
“ลินเลือกแล้ว แม่ให้ลินเลือก ระหว่างตฤณกับแม่ ตฤณเข้าใจลินนะ ถึงแม้เราไม่เป็นแฟนกัน เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ” ลินดาฝืนพูดออกไปทั้งน้ำตา แล้วหันหน้าหนีอย่างไม่กล้าสบตาเขา
“……..” พอตฤณนิธิได้ยินดังนั้น เขาก็พูดไม่ออกแล้วทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นพิงขอบระเบียงที่กั้นไว้ น้ำตาของลูกผู้ชายเริ่มไหลรินออกมา ใช่เขาเข้าใจเธอ ยังไงเธอก็ต้องเลือกแม่ของเธอ แต่สิ่งที่มันยังค้างในใจของเขาคือ ทำไมท่านถึงไม่ชอบเขา เขาไม่ดีตรงไหน ทำไม เขาเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน
“ลินขอโทษนะตฤณ ลินขอโทษ” ลินดาพูดทั้งน้ำตา
“……..”
เมื่อเห็นว่าตฤณนิธินั่งนิ่งเหม่อไม่ตอบเธอ เธอจึงเดินออกไปอย่างเงียบๆ
____________________________________________________________________
ใครอยากอ่านตอนต่อไปเร็วขึ้นตามไปที่ธัญวลัยได้หนาาา
www.tunwalai.com แล้วเสิร์ชหาชื่อ "ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน" ได้เลยจ้า
หลังจากที่เจนเนตรเปิดตัวแบรนด์มาภายใต้ชื่อ Janette ที่แปลว่าของขวัญจากพระเจ้า แบรนด์ของเธอก็เป็นที่ฮือฮาและโด่งดังไปทั่วประเทศ และตอนนี้ไปไกลถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะในหมู่ไฮโซเซเลป เพราะเสื้อผ้าเธอเจาะเป้าหมายที่กลุ่มตลาดบน และราคาก็แพงหูฉี่ ทำให้ตอนนี้เธอมีชื่อเสียง และมีสังคมกับเหล่าไฮโซมากขึ้น ส่วนห้างของคุณลุงตอนนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เธอใช้ประสบการณ์และคอนเนคชั่นต่างๆ บริหารจัดการการตลาดจนมีแบรนด์ดังต่างๆ เข้ามาเช่าพื้นที่จนเต็มในที่สุด แล้วเธอก็ขอรางวัลแลกเปลี่ยนนิดหน่อยกับลุงอนันต์คือ ขอห้องนึงทำเลดีๆ ใกล้ๆบันไดเลื่อน สำหรับร้านค้าของแบรนด์เธอโดยไม่เสียค่าเช่า แต่ลุงอนันต์กลับตอกกลับมาว่า “นี่นิดหน่อยเอ็งหรอ” แต่ลุงอนันต์ก็ให้แต่โดยดี แค่นี้เอง ทำไมจะให้หลานรักไม่ได้ และตอนนี้ลุงก็กำลังมีแพลนใหม่คือทำโครงการใหม่เพิ่ม และเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยให้เจนเนตรเป็ยรองประธาน โดยมีลุงอนันต์เป็นประธานบริษัท ส่วนน้องๆ ของเธอ เนวินหลังจากที่เรียนจบก็มีแมวมองทาบทามไปเล่นหนัง จนตอนนี้กลายเป็นสามีแห่งชาติไปแล้ว ส่วนนิลเนตรตอนนี้กำลังเรียนอยู่คณะบริหาร ปี 4 ใกล้จบ
ณ บ้านอานันตรา
ลินดา และแม่ของเธอกำลังคุยกันเรื่องเดิมที่ไม่ว่าคุยกันกี่ครั้งก็จบไม่สวยทุกที แต่ครั้งนี้เธอตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะเคลียร์กับแม่ให้รู้เรื่อง จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันอีก
“ลิน แม่บอกตามตรงนะ แม่ไม่ชอบแฟนของลูกเลย เลิกกับเขาเถอะ แม่ขอ”
“แม่คะ ลินก็บอกตามตรงนะคะ ลินรักตฤณค่ะ เราคบกันมา 2 ปีแล้ว แล้วลินจะแต่งงานกับตฤณค่ะ แม่อย่าห้ามลินเลยนะคะ”
“แต่แม่ไม่ชอบเขา เซนส์แม่มันบอก เขาจะทำให้ลูกสาวแม่เสียใจ”
“หนูไม่เข้าใจนะคะว่าเซนส์ที่แม่หมายถึงเป็นยังไง แต่ตั้งแต่ลินคบตฤณมาเขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้ลินเสียใจเลย และเขาก็รักลินมากด้วยค่ะแม่ แม่อย่าห้ามลินเลยนะคะ ลินรักเขาจริงๆ ค่ะ”
“แล้วลินไม่รักแม่หรอกลูก แม่ไม่สบายใจ” มารดาของลินดาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“รักสิคะแม่ ยังไงหนูก็รักแม่ที่สุดอยู่แล้ว” ลินดาพูดพลางเข้าไปกอดคนเป็นแม่อย่างอ้อนๆ
“’งั้นถ้าลินรักแม่ ลินก็เลือกมาว่าระหว่างแม่กับนายตฤณลูกจะเลือกใคร ถ้าลูกเลือกเขาแสดงว่าลินไม่ได้รักแม่จริงๆ”
“แต่แม่คะ!” ลินผละมือออกจากการกอด แล้วมองหน้าผู้เป็นมารดาอย่างน้อยใจ แล้วน้ำตาที่อดกลั้นมานานก็เอ่อคลอออกมา
“แม่ให้เวลาลูกตัดสินใจนะ” มารดาของเธอพูดแล้วเดินออกไป
หลังจากมารดาของลินดาเดินออกไปจากห้องนอนของเธอน้ำตาที่อดกลั้นมานานจากความน้อยใจ และไม่เข้าใจก็เอ่อล้นออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง เธอร้องไห้เหมือนคนหัวใจแตกสลาย ทำไมแม่ไม่เข้าใจเธอเลย ทำไม แม่ก็รู้ว่าเธอรักแม่มากขนาดไหน ยังไงเธอก็เลือกแม่อยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยดื้อกับแม่เลย แม่ให้เธอทำอะไรเธอก็เชื่อแล้วเป็นเด็กดีตลอด เธอขอแค่เรื่องนี้ทำไมแม่ไม่ให้ มันคือความสุขของเธอ แล้วตฤณนิธิก็เป็นคนดี มีทุกอย่างพร้อม ทำไมแม่ไม่ชอบเขา ในหัวของเธอมีแต่คำถามว่าทำไมเต็มไปหมด เธอร้องไห้อย่างนั้นทั้งคืนจนผลอยหลับไปพร้อมน้ำตา
ณ บ้านสิทธาภิวัฒน์
ตฤณนิธิ และบิดาของเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาพ่อลูก
“แล้วหนูลินเป็นไง เมื่อไหร่จะแต่งงานกันซักทีล่ะ นี่อายุแกก็ขึ้นเลขสามแล้วนะเว้ย”
“รอจังหวะอยู่อะพ่อ”
“จังหวะอะไรของแกวะ ฉันถามแกจริงๆ คนนี้จริงจังมั้ย”
“ผมก็จริงจังทุกคนอะพ่อ แต่มันไม่ใช่ก็เลิกไป แต่กับลินผมรักจริงหวังแต่ง” ตฤณนิธิพูดพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วจับกล่องกำมะหยี่ใบเล็ก พลางยิ้มขึ้นมา
“เออรีบๆ แต่ง ฉันอยากอุ้มหลานจะแย่แล้ว”
“คนแก่อะไร ใจร้อนจริงๆ เลย”
“เอ้าไอนี่ วอนโดนตีนละ”
แล้วสองหนุ่มก็คุยกันไป หัวเราะกันไปอย่างมีความสุข สักพักก็แยกย้ายกันไปนอน
…วันต่อมา…
ณ ร้านอาหารชั้นบนสุดของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มร่างสูงจูงมือแฟนสาวของเขาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้สำหรับดินเนอร์ โดยเขาได้สั่งปิดร้านเพราะนี่คือโรงแรมของเขา เพื่อเขาจะได้ดินเนอร์กับเธอสองคน และวันนี้แหละเขาจะขอแฟนสาวแต่งงานในวันเกิดของเธอ
“ทำไมวันนี้ไม่มีคนเลยล่ะคะ” ลินดามองดูรอบๆ พลางถามแฟนหนุ่มอย่างสงสัย
“สงสัยเค้ารู้มั้ง ว่าตฤณจะมา เลยไม่มีใครกล้ามากินเลย ฮ่าๆ” ตฤณนิธิพูดอย่างขำขัน
“หืมมมม ตฤณน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอคะ ฮ่าๆ”
“แล้วลินกลัวรึเปล่าล่ะ”
“ไม่กลัวหรอกค่ะ แบร่” ลินดาพูดพลางแลบลิ้นอย่างทะเล้น
“ฮ่าๆ มาสั่งอาหารกันดีกว่า” ตฤณนิธิหัวเราะอย่างเอ็นดูกับท่าทางของแฟนสาว
“โอเคค่ะ”
หลังจากที่หนุ่มสาวรับประทานอาหารกันเรียบร้อย ตฤณนิธิก็จูงมือพาลินดาเดินมาตรงข้างนอกอาคารซึ่งเป็นลานกลางแจ้ง ที่อยู่บนตึกสูงสำหรับชมวิวทิวทัศน์ในเมืองหลวง แล้วยืนกอดลินดาจากด้านหลัง พลางคิดในใจว่าวันนี้แหละเขาจะขอเธอแต่งงานให้ได้ ส่วนด้านลินดาก็หนักใจเรื่องที่เธอคุยกับแม่ เธอตัดสินใจแล้วว่าวันนี้เธอจะบอกเลิกเขา เธอจะไม่ทำให้แม่ของเธอต้องลำบากใจอีกต่อไป เพราะยังไงเธอก็รักแม่ของเธอมากที่สุด ถึงแม้เธอจะรักตฤณนิธิมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าให้เลือก แม่ต้องมาก่อนอยู่แล้ว
“ลิน…ตฤณรักลินนะคะ” ตฤณนิธิกระซิบข้างหูลินดา พอได้ยินดังนั้นน้ำตาของเธอก็เริ่มเอ่อคลอเบ้า ด้วยความเสียใจ และอัดอั้นใจกับสิ่งที่กำลังจะทำ
“ลินก็รักตฤณค่ะ” เธอพูดพลางกลั้นน้ำตาไว้
“แต่งงานกันนะ” ตฤณนิธิพูด แล้วหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดง ที่เขาซื้อไว้ให้เธอขึ้นมา แล้วหันตัวเธอเข้ามาหาเขาให้หันหน้าเข้าหากัน แล้วเขาก็คุกเข่าลงเพื่อขอเธอแต่งงาน
“ฮึก ฮึก…ฮืออออ ตฤณ…ลิน ขะ ขอโทษ” พอลินดาเห็นดังนั้น ก็บ่อน้ำตาแตกเลย
“ขอโทษทำไมคะ” ตฤณนิธิยืนขึ้น แล้วถามไปอย่างใจเสีย
“เราเลิกกันเถอะ” ลินดาฝืนใจพูดออกไปทั้งน้ำตา
“ทำไมอะลิน แม่ลินบอกให้เราเลิกกันใช่มั้ย ตฤณไม่ยอมนะ ตฤณรักลิน ตฤณจะไปคุยกับท่านเอง” ตฤณนิธิเก็บแหวนใส่กระเป๋า แล้วพยายามจูงลินดาไป หมายจะขับรถไปที่บ้านเธอเพื่อคุยกับมารดาของเธอให้รู้เรื่อง
“ตฤณ ตฤณ พอเถอะ มันจบแล้ว” ลินดาไม่ยอมก้าวขาตามแล้วดึงตฤณนิธิกลับมาคุย เธอต้องจบเรื่องนี้ซักที เธอเลือกแล้วว่าจะไม่ทำให้แม่เสียใจ เธอจะเป็นคนที่เสียใจเอง
“ทำไมอะลิน แต่เรารักกันนะ ท่านต้องเข้าใจสิ” ตฤณนิธิพูดอย่างใจเสีย ตอนนี้ใจของเขาลงไปอยู่ตาตุ่มแล้ว
“ลินเลือกแล้ว แม่ให้ลินเลือก ระหว่างตฤณกับแม่ ตฤณเข้าใจลินนะ ถึงแม้เราไม่เป็นแฟนกัน เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ” ลินดาฝืนพูดออกไปทั้งน้ำตา แล้วหันหน้าหนีอย่างไม่กล้าสบตาเขา
“……..” พอตฤณนิธิได้ยินดังนั้น เขาก็พูดไม่ออกแล้วทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นพิงขอบระเบียงที่กั้นไว้ น้ำตาของลูกผู้ชายเริ่มไหลรินออกมา ใช่เขาเข้าใจเธอ ยังไงเธอก็ต้องเลือกแม่ของเธอ แต่สิ่งที่มันยังค้างในใจของเขาคือ ทำไมท่านถึงไม่ชอบเขา เขาไม่ดีตรงไหน ทำไม เขาเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน
“ลินขอโทษนะตฤณ ลินขอโทษ” ลินดาพูดทั้งน้ำตา
“……..”
เมื่อเห็นว่าตฤณนิธินั่งนิ่งเหม่อไม่ตอบเธอ เธอจึงเดินออกไปอย่างเงียบๆ
____________________________________________________________________
ใครอยากอ่านตอนต่อไปเร็วขึ้นตามไปที่ธัญวลัยได้หนาาา
www.tunwalai.com แล้วเสิร์ชหาชื่อ "ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน" ได้เลยจ้า
เข็มขัดนิรภัย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 เม.ย. 2560, 00:02:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 เม.ย. 2560, 00:03:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 690
<< บังเอิญชนอีกครั้ง | บทที่ 5 เพื่อนกัน >> |