คาวใจไฟรักลวง
คาวใจไฟรักลวง
ประพันธ์โดย..กันต์ระพี
ลิขสิทธิ์งานเขียนนี้เป็นสนพ. Touch Publishing

พบกันครั้งแรก...เขาคิดว่าหล่อนเป็นสาวสายอ่อย ไร้ยางอาย!
แต่หล่อนกลับกลายมาเป็นคู่หมั้นแสนดีของน้องชายเขา
ฝันไปเถอะ! ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ผู้หญืงตีสองหน้าคนนี้มาร่วมสกุล!

(เปิดให้ทดลองอ่านเท่านั้น!!)

***เปิดให้ทดลองอ่านบางส่วนเท่านั้น!!***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตัวอย่างเนื้อเรื่อง

ตอนที่ 1

ผู้หญิงคนนี้น่ะหรือ คู่หมั้นนายศิวา...

หัวคิ้วนรุตม์ขมวดมุ่นทีเดียว เมื่อเห็นร่างบางในชุดไทยประยุกต์เดินกระมิดกระเมี้ยนมานั่งพับเพียบเรียบแต้กับพื้นตรงหน้า ท่าทางที่หล่อนยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้ กับรอยยิ้มพิมพ์ใจบนริมฝีปากได้รูปสวยที่เจ้าตัวแจกจ่ายให้คนรอบข้าง ช่างชดช้อยแลอ่อนหวาน งดงามไม่ต่างจากนางฟ้านางสวรรค์เสียนี่กระไร

ให้ตายสิ! นี่เขาตาฝาดไปหรือฝันกลางวันกันแน่

นรุตม์อดถามตัวเองไม่ได้...

หากก่อนหน้านี้เขาไม่เดินทางมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ก็คงไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของผู้หญิงตรงหน้า ดีไม่ดีอาจจะเชื่อสนิท คิดว่าผู้หญิงกิริยาท่าทางเรียบร้อยคนนี้มีความเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว แต่นี่...เขาเห็นหล่อนกอดจูบกับชายต่างชาติจะจะกับตา แล้วจะให้คิดเป็นอื่นได้อย่างไร นอกเสียจากหล่อนกำลังเสแสร้งแกล้งกระทำ

ผู้หญิงอาไร๊! ไม่มียางอายเอาเสียเลย นั่งยิ้มหน้าระรื่น ทั้งที่เนื้อตัวจะสิ้นคาวหรือยังก็ไม่รู้

นรุตม์แค่นยิ้มอย่างนึกสังเวช หล่อนอาจตบตาใครๆ ได้อย่างแนบเนียน แต่หลอกเขาไม่ได้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเวลานี้อยู่ต่อหน้าธารกำนัลละก็ เขาคงถามหล่อนไปแล้วว่าจบการแสดงมาจากที่ไหนหรือ ทั้งที่เขาจ้องทุกชอต แต่หล่อนไม่หลุดสักเฟรม เชื่อเถอะว่า...ถ้ามีถ้วยรางวัลอยู่ตรงหน้า เขาต้องมอบให้ผู้หญิงมากมารยาคนนี้ในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทเป็นแน่!

ริมฝีปากหยักหยัดขึ้นอีกครั้ง ถึงกระนั้นก็อดเป็นห่วงศิวาไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าน้องชายตัวดีทราบเรื่องนี้หรือไม่ ทำไมไม่ตรวจสอบประวัติผู้หญิงคนนี้ให้ดีเสียก่อน หากสัปดาห์ก่อนไม่แวะไปหาที่คอนโดฯ เขาคงไม่ทราบว่าศิวาวางแพลนหมั้นหมายเงียบๆ เพราะหมอนั่นปลีกตัวมาพักที่นี่ตามลำพัง หลังจากสอบเข้ารับราชการและได้รับการบรรจุในตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการประจำกระทรวงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

แรกทีเดียวนรุตม์อดแปลกใจไม่ได้ แม้จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำงุบงิบเสมือนหนึ่งไม่ให้เกียรติผู้หญิง แต่เขาก็ไม่ได้คัดค้านหรือห้ามปราม นอกจากประวิงเวลาไว้โดยอ้างว่าต้องให้ผู้ใหญ่รับรู้ จากนั้นก็บึ่งรถกลับไร่พชรภาคิน แจ้งข่าวดังกล่าวกับพิมลผู้เป็นมารดา โดยหารู้ไม่ว่าผู้หญิงที่ศิวาหมายตาคือแม่สาวไซด์ไลน์คนนี้
หากเขาทราบว่าเป็นหล่อน!

นรุตม์ก็คงไม่จัดการเป็นธุระเรื่องต่างๆ จนแล้วเสร็จ แต่คงพูดอย่างแตกหักในวันนั้น พิธีหมั้นในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น แต่เวลานี้...สายเกินกว่าจะเปิดเผยความจริงให้ทราบ เพราะการฉีกหน้าผู้หญิงคนนี้ ก็เท่ากับเป็นการฉีกหน้าตัวเองและคนในครอบครัว
นรุตม์พ่นลมหายใจออกมา พลางครุ่นคิดแผนการเงียบๆ ในใจ แม้เวลานี้จะกระอักกระอ่วนใจอย่างที่สุด แต่ก็จำต้องรูดซิบปากปิดสนิท เขาไม่อยากให้มารดาต้องทุกข์ทรมานใจกับการตกเป็นขี้ปากในหมู่ญาติพี่น้อง เพราะเท่าที่มองตามรูปการ...ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้มาดีแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่รบเร้าศิวาให้รีบหมั้น ดีไม่ดีหล่อนอาจเป็นนักต้มตุ๋น หรือไม่ก็พวกมิจฉาชีพที่หวังจะเข้ามากอบโกยทรัพย์สิน แต่อย่าฝันว่าจะเป็นจริงไปได้ เพราะนายนรุตม์คนนี้จะกางปีกปกป้อง เขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงตีสองหน้าอย่างหล่อนเข้ามาร่วมสกุล!



หลังจากพิธีหมั้นเรียบง่ายดำเนินมาจนแล้วเสร็จ ศิวาก็ถือโอกาสแนะนำคู่หมั้นสาว เพราะเห็นว่าพิมลผู้เป็นมารดาเดินทางมาถึงก็นั่งเป็นประธานในพิธีฯ นางยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยหรือทำความรู้จักกับคนรักของเขาอย่างเป็นทางการ

“นี่พีช...พิชญาครับ เธอเป็นนางแบบหน้าใหม่ไฟแรงครับแม่”

“ที่แท้ก็เป็นนางแบบนี่เอง มิน่าล่ะ...แม่ถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” พิมลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางหันมาลูบหลังลูบไหล่ว่าที่สะใภ้คนเล็กที่ยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้ฝากเนื้อฝากตัวอย่างนึกเอ็นดู ไม่ได้ถือโกรธเรื่องที่ทั้งสองคิดจะหมั้นกันเงียบๆ แต่ยึดคติปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน บุตรชายรักใคร นางก็พึงพอใจผู้หญิงคนนั้นด้วย

“เรานี่ตาถึงไม่เบาเลยนะตาศิวา”

“มันก็แน่อยู่แล้วละครับ ผมหาลูกสะใภ้ให้แม่ทั้งทีจะธรรมดาได้ยังไง นอกจากพีชจะมีชื่อเสียงในวงการแล้ว เธอยังเป็นนางแบบที่มีค่าตัวสูงที่สุดด้วยนะครับ” ศิวาคุยโว สีหน้าท่าทางบอกว่าภูมิใจนักหนา ไม่ต่างจากสายตาที่มองคู่หมั้นสาวอย่างชื่นชม แต่เจ้าตัวกลับย่นจมูกใส่เขา

“อย่าไปเชื่อพี่ศิวาเลยค่ะคุณแม่ พี่ศิวาน่ะชอบพูดเกินจริงอยู่เรื่อย” พิชญาแก้ต่าง แม้อาชีพนางแบบจะไม่ตรงกับสายงานที่เรียนมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพนี้นำมาซึ่งรายได้ ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของหล่อนสุขสบายกว่าแต่ก่อน
“พี่พูดเกินจริงที่ไหนกัน พีชทำงานไม่ถึงปีก็มีเงินเก็บในบัญชีมากกว่าพี่อีก แต่ก็ยังขี้ตืด...” ศิวาพูดได้แค่นั้น พิชญาก็ตีแขนเขาดังเพียะ

“แน่ะ! พี่ศิวาเนี่ย พูดอะไรไม่ไว้หน้ากันบ้างเลย”

“ก็หรือไม่จริง เวลาไปกินข้าวด้วยกันทีไร พีชก็ให้พี่ออกทุกที” แม้ศิวาจะปรารภเชิงบ่นกลายๆ แต่ลึกๆ เขารู้สึกสบายใจ นั่นอาจเป็นเพราะพิชญาไม่ใช่คนเรื่องมาก หล่อนไม่จู้จี้จุกจิก ซ้ำยังวางตัวเสมอต้นเสมอปลายมาตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ ตอนนั้น...พิชญาเพิ่งก้าวเข้ามาเป็นนิสิตในมหาวิทยาลัย ส่วนเขาก็เป็นพี่รหัสของหล่อน

“แหม ก็พีชเป็นผู้หญิงนี่คะ อีกอย่างพีชก็ไม่ได้อยากไปเสียหน่อย”

“แต่พี่ชวนทีไรก็เห็นพีชไปทุกทีสิน่า”

“พีชก็ไปอย่างนั้นเองละคะ ก็พี่ศิวาอยากชวนทำไมล่ะ คนชวนก็ต้องจ่ายสิคะ”

“พอเถอะลูก เถียงกันไปเถียงกันมาอย่างนี้ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ” พิมลปราม

แม้การปะทะคารมระหว่างหนุ่มสาวจะเป็นเรื่องน่าเอ็นดู แต่คงไม่ดีแน่ หากการต่อปากต่อคำจะกระทบกระทั่งกันจนกลายเป็นความบาดหมาง ซึ่งนางไม่อยากให้ทั้งสองต้องมาผิดใจกันในวันมงคล จนอดที่จะหันไปเตือนคนของตนไม่ได้

“ตาศิวาก็นะ เราเป็นผู้ชายจะให้ผู้หญิงเลี้ยงได้ยังไงกัน...น่าเกลียดตาย!”

“น่าเกลียดอะไรกันละครับแม่ สมัยนี้เขาก็อยู่กันอย่างแฟร์ๆ อเมริกันแชร์ทั้งนั้น”

“ใครจะชงจะแชร์ยังไงก็ช่าง แต่ลูกแม่ต้องไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องหยุมหยิมพรรค์นี้ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า...เขาจะหาว่าเราไม่แมนนะตาศิวา”

“ครับ...ทราบแล้วครับ ยังไม่ทันไรแม่ก็เข้าข้างว่าที่ลูกสะใภ้ซะแล้ว อย่างนี้ผมก็แย่น่ะสิ” ศิวาโอดครวญเสียงยานคาง ถึงกระนั้นก็ไม่ได้โกรธมารดาที่หันไปถือหางพิชญา เขาสบายใจมากกว่าที่ทั้งสองเข้ากันได้เป็นอย่างดี อย่างน้อย...ก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ ครั้นศิวาเห็นมารดาตวัดค้อนแล้วทำปากขมุบขมิบ เขาก็อมยิ้มกึ่งขำแล้วถือโอกาสหันไปแนะนำพี่ชาย

“พีชจ๊ะ นี่พี่รุตม์ นรุตม์...เจ้าของไร่พชรภาคิน”

พิชญาหันมองชายหนุ่มที่ศิวาแนะนำ แรกทีเดียวหล่อนไม่ทันสังเกตว่ามีใครนั่งอยู่เคียงข้างพิมลเสียด้วยซ้ำ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับพิธีการต่างๆ กลัวตัวเองจะทำอะไรผิดพลาดจนเกร็งไปหมด แต่เวลานี้ผู้ชายมาดเข้มตรงหน้ากลับสะกดสายตาหล่อน ด้วยท่าทางองอาจผึ่งผายแลมั่นใจในตัวเอง บุคลิกที่โดดเด่นชวนมองนั้นทำให้สรรพสิ่งรอบตัวเขาเลือนหายกลายเป็นเพียงแค่ฉากหลัง

แม้เวลานี้นรุตม์จะวางท่าเรียบเฉย สีหน้าแววตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ไม่ต่างจากประติมากรรมปูนปั้นที่ตั้งเด่นเป็นสง่าท้าท้ายแดดฝนกลางสวนสวย ไร้หัวใจ...ปราศจากความรู้สึก แต่รูปร่างสูงใหญ่กับผิวสีแทนของเขาก็เปี่ยมไปด้วยพลังแลมีชีวิตชีวาน่าค้นหา เขาทำให้หล่อนนึกถึงเจ้าป่าสง่างาม น่าเกรงขาม ยามโจนทะยานอย่างปราดเปรียวในไพรพนา

ผู้ชายคนนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือร้าย...

พิชญาเผลอมองนรุตม์จนเสียกิริยา จู่ๆ หัวใจก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ นั่นอาจเป็นเพราะสะดุดตากับใบหน้าหล่อเหลาแลคมคายของเขา คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่หล่อนก็ต้องโยนความคิดเหล่านั้นทิ้งไป เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มแล้วเห็นความเป็นอริสะท้อนในดวงตาคู่นั้นอย่างเปิดเผย

วินาทีนั้นรอยยิ้มบนเรียวปากบางที่กำลังจะแย้มก็หุบลงทันที นึกฉงนระคนแปลกประหลาดใจ แต่เหนือกว่าอื่นใด หล่อนอดหวั่นใจไม่ได้ นี่แค่วันหมั้น...พี่ชายของศิวาก็ทำท่าจะประกาศสงครามเสียแล้ว เขาตั้งตนเป็นปรปักษ์ แล้วต่อไป...ถ้าหล่อนต้องก้าวเข้าไปเป็นวงศาคณาญาติในตระกูลพชรภาคิน เขาจะยอมรับในฐานะน้องสะใภ้หรือ!?

พิชญาครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล ที่ผ่านมาหล่อนเคยเดินเชิดฉายบนเวทีแคทวอล์คอย่างมั่นใจ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะอึดอัดกับการตกเป็นเป้าสายตาของคนหมู่มาก แต่เวลานี้...ดวงตาคมเข้มของนรุตม์เพียงคู่เดียวกลับมีอิทธิพลอย่างมากมาย รัศมีความมีอำนาจที่สะท้อนในดวงตาคู่นั้นสยบความมั่นใจในตัวหล่อน ซ้ำยังทำให้อึดอัดกึ่งประหม่าได้ในคราเดียวกัน

แม้พิชญาจะไม่ชอบสถานการณ์ตรงหน้า พอๆ กับที่เกลียดความเย็นชาที่นรุตม์แสดงออก ราวกับเขาจงใจบ่อนทำลายความสงบสุขในใจหล่อน ด้วยการเหยียบย่ำอารมณ์และความรู้สึกเปราะบางให้วางตัวไม่ถูก ถึงกระนั้นหล่อนก็เก็บซ่อนความขุ่นมัวนั้นไว้แล้วยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้อย่างนอบน้อม

“พีชค่ะ...พิชญา ธีระวสุกานต์” เจ้าตัวเปล่งเสียงอย่างยากเย็นแล้วลอบถอนหายใจออกมา โล่งใจ ราวกับยกภูเขาออกจากอก แต่วินาทีต่อมาก็ต้องนั่งหน้าเจื่อน เมื่อความเงียบที่สะท้อนกลับนำพาความอึดอัดมาเยือนอีกครั้ง

ศิวาเองก็จับความรู้สึกได้จากสีหน้าท่าทางของคู่หมั้น ไม่ต่างจากพิมลที่หันมองนรุตม์อย่างนึกฉงน ครั้นเห็นบุตรชายคนรองยังนั่งจ้องว่าที่สะใภ้คนเล็กไม่วางตา นางก็สะกิดเตือนให้รู้ตัวว่ากำลังทำเรื่องไม่สมควรและเป็นการเสียมารยาท

“ตารุตม์ ทำไมไม่รับไหว้น้องล่ะลูก”

“นั่นสิครับ พี่รุตม์จะรับไหว้หรือให้พรอะไรก็ว่ามา ไม่ใช่มานั่งจ้องหน้าพีชอย่างนี้ หรือพี่คิดอะไรกับคู่หมั้นผม” ศิวาหรี่ตามอง นึกระแวงไปต่างๆ นานา ไม่เชื่อใจนรุตม์ เนื่องจากเขามีประวัติด่างพร้อยเรื่องชู้สาว ก็เกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อครั้งที่เกิดขึ้นกับราเมศพี่ชายคนโต โดยหารู้ไม่ว่าการตั้งข้อกังขาได้ยั่วยุโทสะคนถูกกล่าวหาให้ผุดลุกขึ้นมาคำรามกร้าว

“นายศิวา!”

“ทำไม...ผมพูดแทงใจดำหรือไง พี่ถึงได้ไม่พอใจ อย่านึกว่าใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วทุกคนต้องก้มหัวให้ ผมบอกตรงนี้เลย ผมไม่กลัวพี่สักนิด...จะวัดกันตอนนี้เลยก็ได้” ศิวาพูดไปพลางก็ถลกแขนเสื้อขึ้นทำท่าจะวางมวย จนพิมลต้องปราม

“พอๆ หยุดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ เหลือกันแค่สองคนพี่น้อง ไม่รู้จะทะเลาะกันทำไม”

พิมลพ่นลมหายใจออกมา แม้สถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้าจะเป็นเรื่องที่เห็นจนชินตา แต่นางก็ลุกขึ้นคว้าแขนนรุตม์ไว้เชิงขอร้องกึ่งเตือนสติ ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงภายในครอบครัว ด้วยเกรงว่าบุตรชายคนรองที่เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ของบ้านจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ ทว่า...ทั้งสองก็ยังทำสงครามกันทางสายตาอย่างไม่ยอมลงให้กันง่ายๆ จนพิมลต้องหันไปเตือนสติบุตรชายคนเล็กอีกครั้ง

“ตาศิวาก็นะ สงบปากสงบคำเสียบ้างเถอะ วันนี้เป็นวันมงคลของเรา พี่เขาก็ช่วยจัดการอะไรต่อมิอะไรให้ตั้งหลายอย่าง แล้วเขาจะคิดอะไรกับคู่หมั้นเราได้ยังไงกัน”

“ก็ขอให้จริงเถอะครับ กลัวแต่ว่าความดีของเขาจะฆ่าผมเสียมากกว่า” นอกจากคำพูดที่ศิวาใช้ฟาดฟันเชิงตอกย้ำตราบาปกึ่งประณามนรุตม์ สายตาก็ยังแลหยามหยันอย่างคนหมดศรัทธาในตัวพี่ชาย

แม้นรุตม์จะโกรธจนกรามขึ้นสัน แต่ลึกๆ ความรู้สึกเขาก็พังยับเยิน เพียงเพราะคนกันเองไม่เชื่อใจ หากเป็นคนอื่น...นรุตม์คงกระชากคอเสื้อมาตะบันหน้าเรียกเลือดสดๆ ออกจากปากโดยไม่รู้สึกผิด แต่นี่เป็นน้องชายที่มีสายเลือดเดียวกันแท้ๆ เขาทำไม่ได้!

“นายจะคิดยังไงก็ช่าง แต่คนอย่างฉันไม่เคยคิดร้ายทำลายพี่น้อง!” นรุตม์บอกเสียงเย็นแล้วเดินแยกไปยืนสงบสติอารมณ์ในมุมหนึ่ง ไม่มีประโยชน์จะอธิบาย ถ้าศิวายังปักใจเชื่อว่าราเมศตายเพราะเขา!

ฝ่ายพิชญานั้นได้แต่ยืนมองเห็นการณ์ตรงหน้าตาปริบๆ ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของคนในตระกูลพชรภาคิน นอกจากทราบคร่าวๆ ว่าครอบครัวของศิวาประกอบธุรกิจไร่องุ่นควบคู่กับกิจการด้านรีสอร์ท พิมลมารดาเขามีบุตรชายสามคน คนโตชื่อราเมศเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ คนถัดมาชื่อนรุตม์เป็นเจ้าของไร่พชรภาคิน ซึ่งรับช่วงต่อมาจากกรินทร์ผู้เป็นบิดาที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ส่วนศิวาคู่หมั้นของหล่อนเป็นบุตรชายคนเล็กที่ปลีกตัวมาทำงานที่กรุงเทพฯ

“ตาศิวา พาหนูพีชไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิลูก แล้วก็ให้ช่างแต่งหน้าทำผมให้ใหม่ด้วยนะ เดี๋ยวแม่จะไปบอกญาติๆ ให้เตรียมตัวออกไปฉลองกัน” พิมลฝืนยิ้ม แม้จะไม่ค่อยสบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นางก็ยังทำหน้าที่แม่งานที่ดี

ศิวาเองก็เช่นกัน หลังจากรับคำมารดาที่เดินแยกไปอีกทาง เขาก็หันมายิ้มให้พิชญาแล้วแตะข้อศอกอย่างสุภาพพาเดินเข้าห้องที่จัดไว้รับรองคู่หมั้นสาว เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พิชญาเองก็ไม่กล้าถาม แม้จะฉงนใจในเรื่องดังกล่าว แต่ก็จำต้องเก็บงำความสงสัยไว้ในใจ...



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 เม.ย. 2560, 00:34:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ย. 2560, 13:42:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1006





<< ตัวอย่างเนื้อเรื่อง   ตัวอย่างเนื้อเรื่อง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account