The D.O.L.L.S โศกนาฏกรรมปีศาจตุ๊กตามหาเวท
"นักขายความฝันผู้เลือดร้อน & นักโทษประหารผู้เริงร่า & หัวขโมยผู้เย็นชา"
ต่างถิ่น ต่างความคิด ต่างอาชีพ ต่างนิสัย ต่างจุดมุ่งหมาย ต่างเผ่าพันธุ์
กลับต้องมาอยู่ด้วยกันเพราะเหตุบางอย่าง... The D.O.L.L.S

ตุ๊กตาปีศาจมีลักษณะรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ

ถ้าอย่างนั้น...จะรู้ได้อย่างไร?
...เป็นปีศาจ...หาใช่มนุษย์ไม่...

ระวังไว้ให้ดี...ทุกอย่างอาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา...

...ที่ใครบางคนสร้างขึ้นเท่านั้น...

สงครามระหว่างผู้มีพลังเวทกับมนุษย์ธรรมดา
ใครจะอยู่รอดเป็นผู้กำชัยชนะ!?


- ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านจากใจจริง -
แผนที่นครเซ็นทรัม http://i49.photobucket.com/albums/f290/thunchanoks/map122e1.jpg
Tags: ตุ๊กตา,ปีศาจ,คำสาป,เวทมนตร์,สงคราม,แฟนตาซี,ผู้ใช้เวท,มนุษย์,โศกนาฏกรรม,mystery

ตอน: Episode 25 : || ว่าที่ตุ๊กตา ||

EPISODE 25

ว่าที่ตุ๊กตา



“วอล?” เสียงเอ่ยเรียกคนชอบหายตัวไปอยู่ตลอดดังขึ้นเป็นพักๆ เนื่องจากจนป่านนี้ก็ยังไม่มีคำขานรับจากคนถูกเรียก เด็กสาวมองไปรอบห้องของวอลด้วยความสงสัย เจ้าบ้านั่นหายตัวไปไหนอีกแล้ว เธอตั้งใจจะมาถามเขาว่าเห็นเอเวนบ้างหรือเปล่า แต่นี่มันอะไรกัน ทั้งเอเวนทั้งวอลหายตัวกันไปไหนหมด

มิเวลเดินเข้าไปยืนข้างๆ แคปซูลอย่างสิ้นคิดก่อนจะก้มมองข้างในอย่างหงุดหงิด แม้จะรู้ว่าเจ้าบ้าวอลไม่ได้อยู่ในนี้เพราะภายในกระจกใสๆ นี่ไม่มีร่างของใครอยู่เลย แต่เธอเดินหาเขามาทั่วทั้งเคอาร์แล้วก็ไม่เจอตัวเสียที และก็เหลือแค่ในนี้เท่านั้นที่เธอไม่ได้หา บางทีเจ้าบ้านั่นอาจจะทำตัวกลมกลืนไปกับผ้าขาวๆ ในแคปซูลนี่ก็เป็นได้ ไหนๆ ทั้งผมทั้งสีผิวก็ขาวสว่างราวกับกระดาษอยู่แล้ว

พอรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่คนเดียว ความกังวลต่างๆ ก็วกกลับเข้ามาอีกครั้ง ร่างเล็กหมุนตัวกลับไปยังประตู ก่อนจะหันกลับไปมองรอบๆ ห้องอีกครั้งเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในนี้จริงๆ เด็กสาวถอนหายใจด้วยความรู้สึกหลายอย่างปะปนกัน เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไรอยู่กันแน่ ทั้งเสียใจและหวาดกลัว บางทีคงจะเป็นทั้งสองอย่าง มิเวลปิดประตูห้องของวอลเบาๆ แล้วเดินไปยังห้องรวม รู้สึกดีนิดๆ ที่ห้องของเธออยู่แยกไปทางอีกด้านหนึ่งของเคอาร์ ส่วนห้องของวอลและเอเวนรวมถึงห้องอื่นๆ อยู่ทางด้านนี้หมด ซึ่งหมายความว่าเธอไม่มีความจำเป็นต้องเดินผ่านห้องนั้นในตอนนี้ เธอยังไม่อยากเห็นเขาในสภาพนั้น สภาพของเพกัสในตอนนี้ทำให้ความทรงจำแสนเลวร้ายในอดีตผุดขึ้นมาอีกครั้งทั้งๆ ที่เธอพยายามลืมเหตุการณ์นั้นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้

เสียงกุกกักดังมาจากทางห้องเสบียงทำให้มิเวลรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น แต่เด็กสาวก็ต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องเสบียง ที่มาของเสียงก็คือสัตว์เวทชนิดหนึ่งซึ่งมีรูปร่างเหมือนนกตัวน้อยๆ ถ้าเป็นเวลาปกติเธอคงโวยวายที่ไม่เจอเอเวนสักที แต่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกอยากจะทำอะไรทั้งนั้น เธออยากไปหลับนานๆ แล้วตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าปัญหาทุกอย่างได้จบลงแล้ว ซึ่งมันคงไม่มีวันนั้น

มิเวลหมุนตัวกลับตั้งใจจะเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็ต้องหันกลับไปมองสัตว์เวทตัวน้อยๆ นั่นอีกครั้ง

เรียโอล คือสัตว์เวทรูปร่างเหมือนนก ขนสีขาวสะอาด อาศัยอยู่ตามภูเขาและถ้ำ นัยน์ตาสีแดงมองร่างน้อยๆ ตรงหน้าด้วยความฉงน เธอไม่แน่ใจว่าเขตอาคมของเอเวนสามารถกันพวกสัตว์เวทได้ด้วยหรือเปล่า และเธอก็คงจะไม่ได้รับคำตอบในเร็วๆ นี้เพราะเจ้าของเวทดันหายตัวไปไหนไม่รู้ แต่ไม่ว่ายังไงเจ้าเรียโอลตัวนี้ก็แปลกประหลาดอยู่ดี เพราะตอนนี้เธออยู่กลางป่าค่อนข้างโล่งและกว้างพอสมควร ตรงกันข้ามกับสถานที่อยู่ของสัตว์เวทชนิดนี้ที่เธอเคยอ่านเจอในหนังสือโดยสิ้นเชิง แล้วทำไมมันถึงมาอยู่แถวนี้ได้

“เพราะเป็นร่างแปลงของข้ายังไงล่ะ” เสียงหวานตอบคำถามในใจของเด็กสาว ก่อนร่างน้อยๆ จะเรืองแสงอ่อนๆ แล้วเจ้านกตัวน้อยก็กลายร่างกลายเป็นเด็กสาวในชุดกระโปรงยาวสีชมพูตัดกับสีดำสนิท ดวงตาสีชมพูมฉายแววขบขันเล็กๆ ขณะมองตรงมาด้วยสายตาประหลาดเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง ผมยาวสีขาวปล่อยสยาย ใบหน้าน่ารักปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

มิเวลมองคนกลายร่างต่อหน้าต่อตาด้วยความตกใจและตะลึงงันกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอไม่รู้เลยว่ามีเวทบ้าบออะไรสามารถแปลงร่างคนให้กลายเป็นสัตว์ได้ และแน่นอนว่าเธอคงยังไม่ได้คำตอบในเร็วๆ นี้อีกเช่นเคย เพราะคนอาจจะให้คำตอบได้นั้นหายตัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“เจ้าเป็นใคร” เสียงเย็นเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าเอเวนไม่ได้อยู่บนเคอาร์แน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาต้องบอกเธอแล้วว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในเขตอาคม เอเวนต้องไปทำอะไรสักอย่างอยู่ที่อื่นหรือไม่ก็โดนคนตรงหน้าฆ่าทิ้งไปแล้วเรียบร้อย เธอภาวนาขอให้เป็นอย่างแรก แล้วยังจะเจ้าบ้าวอลนั่นด้วย นี่ก็อีกคน ไม่รู้หายตัวไปไหน

“ข้าชื่อจิเซล” คำตอบแสนเป็นกันเองของสาวน้อยที่ดูๆ แล้วน่าจะอายุพอกันกับเธอทำให้มิเวลขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย นัยน์ตาสีแดงมองสำรวจอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง เด็กสาวสวมชุดกระโปรงยาวมีสายโซ่พันกันยุ่งเหยิง ในมือถือร่มสีชมพูคันหนึ่งทั้งที่อากาศแจ่มใส ดูรวมๆ แล้วเรียกได้ว่าแต่งตัวประหลาดมาก เหมือนพวกนิยมโกธิคซึ่งอยู่ในเมืองหนึ่งทางทิศตะวันตก

“เจ้ามีจุดประสงค์อะไรถึงบุกรุกเข้ามาในรถเคอาร์ของผู้อื่น” มิเวลเริ่มต้นการซักถาม เธอไม่คิดว่าเจ้าของชื่อจิเซลผู้นี้จะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ เห็นได้ชัดจากรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าอ่อนหวานน่ารักนั่น และเธอสัมผัสไอเวทอ่อนๆ ได้จากอีกฝ่ายซึ่งหมายความว่าผู้บุกรุกคนนี้เป็นผู้ใช้เวท เธอมีพลังเวทไม่มากจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าศัตรูมีพลังเวทสูงแค่ไหน ถ้าหากมีพลังสูงมากเท่าไหร่เธอก็จะยิ่งแย่ และวันนี้ก็คงเป็นดวงซวยของเธอจริงๆ เพราะคนตรงหน้าฝ่าเขตอาคมของเอเวนเข้ามาได้ อย่างน้อยๆ ก็คงมีพลังพอฟัดพอเหวี่ยงกับเจ้าบ้าเอเวนแน่

“ข้าแค่เบื่อ เลยมาหาเพื่อนพูดคุยเล่น” เสียงหวานตอบพร้อมกับยิ้มแย้มอย่างน่ารัก แต่มิเวลก็ต้องหัวเราะแห้งๆ ให้กับรอยยิ้มลวงโลกนั่น คิดว่าเธอดูไม่ออกหรือไงว่ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นมันรอยยิ้มปีศาจชัดๆ แล้วยังคำตอบหลอกลวงนั่นอีก คำว่า ‘หาเพื่อนพูดคุยเล่น’ คงถูกบิดเบือนมาจากคำว่า ‘หาศัตรูจัดการเล่น’ เสียมากกว่า ใครที่ไหนเขาจะอุตส่าห์ฝ่าเขตอาคมเพื่อเข้ามาพูดคุยเล่นบ้าง

หลังจากมั่นใจว่าผู้บุกรุกตรงหน้าไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน เด็กสาวก็รีบคว้าดาบแห่งไฟขึ้นมาเตรียมพร้อมทันที จิเซลเลิกคิ้วสูงขึ้นน้อยๆ ก่อนใบหน้าน่ารักจะมุ่ยลงอย่างขัดใจ ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยก็จะเล่นเกมซะแล้ว พวกธาตุไฟนี่เลือดร้อนกันทุกคนเลยรึไงนะ สงสัยคงต้องทำให้เชื่อฟังเสียหน่อย แล้วตุ๊กตาหัวแดงตัวนี้ก็จะน่าเล่นด้วยขึ้นอีกเยอะ

มือขวาชี้ปลายร่มไปที่เป้าหมายพร้อมกับส่งยิ้มชั่วร้ายให้อีกฝ่าย

มิเวลรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ คนตรงหน้าก็ชี้ปลายร่มมาทางเธอ และแล้วก็มีเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบาๆ ทำให้เธอชักจะฉุนขึ้นมาตงิดๆ มันมีอะไรน่าขำนักหรือไง

“ขำอะไร” เสียงหงุดหงิดถามพร้อมกับกำด้ามดาบในมือแน่นขึ้นอีก คนถูกถามค่อยๆ เลื่อนสายตาพร้อมกับร่มในมือไปทางซ้าย เลยไหล่ของมิเวลไป ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงหวานพร้อมด้วยรอยยิ้มน่ารัก

“ที่จะได้ชมการต่อสู้ระหว่างตุ๊กตากับว่าที่ตุ๊กตาไง”

มิเวลรีบหมุนตัวหันไปมองข้างหลังทันที แล้วนัยน์ตาสีแดงก็ต้องเบิกกว้างมองร่างเล็กตรงหน้าด้วยความตกใจพร้อมๆ ที่ร่างทั้งร่างหยุดชะงักอย่างเฉียบพลันราวกับกลายเป็นหินไป ในหัวเกิดคำถามมากมายอย่างไม่เข้าใจ นี่มันอะไรกัน ทำไมอยู่ๆ เด็กคนนั้นถึงหลุดออกมาจากเวทตาข่ายไฟฟ้าของเอเวนได้ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากผู้บุกรุกดังขึ้นอีกครั้ง

“ตุ๊กตาของข้าน่ารักใช่มั้ยล่ะ”



++++++++++++++++++++++++++++



“...เจ้ารู้จักคารอฟหรือไม่”

คนถูกถามยักไหล่นิดๆ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงกวนประสาทพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่รู้สิ” จากนั้นเด็กหนุ่มก็กระโดดลงไปข้างล่างทันที

เอเวนกระโดดตาม ‘ผู้ควบคุม’ ลงไปยังพื้นดินเบื้องล่าง ก่อนจะใช้สายตาราบเรียบมองดวงหน้าเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย ร่างสูงตรงหน้ายืนพิงต้นไม้ด้วยท่าทางสบายๆ แล้วหัวเราะเบาๆ เอเวนเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ เขาคิดว่าเจ้านี่คงไม่ค่อยเต็มสักเท่าไหร่ อยู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

“ข้าชื่อแอช” เด็กหนุ่มเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับยื่นมามาให้เขาจับ เอเวนมองมือนั้นด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปยังใบหน้าที่กำลังหุบยิ้มลงช้าๆ “เจ้าจะไม่จับมือข้างั้นรึ?”

“ไม่” เสียงเย็นชาตอบทันที เขาไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเป็นมิตรกับคนตรงหน้า แอชยิ้มเย็นหลังจากได้รับคำตอบที่ไม่น่าพึงพอใจสำหรับเขา

“น่าเสียดาย” เด็กหนุ่มกล่าวเสียงเนิบ ทั้งๆ ที่ตำแหน่งตุ๊กตาหัวน้ำเงินนั้นไม่เหมาะสมสำหรับเจ้าหนูคนนี้แท้ๆ แต่เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นอีก เพราะเขาอุตส่าห์หยิบยื่นไมตรีให้แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับไปเอง

ทันใดนั้นเองอยู่ๆ ก็มีสายฟ้าฟาดลงมาจากด้านบน แอชรีบกระโดดหลบแทบไม่ทันก่อนจะตวัดสายตาแข็งกร้าวไปยังร่างสูงที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน สายตานิ่งๆ มองตรงมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งเรียกโทสะให้กับเขามากขึ้นไปอีก

“กวนประสาทนักนะ” แอชกัดฟันกรอด เมื่อกี้นี้มันเวทสายฟ้า แสดงว่าเจ้าหมอนี่ต้องเป็นพวกธาตุไฟฟ้าอย่างแน่นอน เด็กหนุ่มยิ้มเหี้ยมพร้อมกับร่ายเวทในใจอย่างรวดเร็ว

พื้นดินกลายสภาพกลายเป็นผืนน้ำโดยฉับพลัน เอเวนรีบกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ใกล้ตัวก่อนที่ร่างกายจะจมดิ่งลงใต้น้ำ เขามองหาร่างของศัตรูซึ่งหายไปซ่อนตัวพร้อมกับจับความรู้สึกของไอเวทไปด้วย แต่น่าแปลกที่อยู่ๆ ไอเวทจากแอชก็ขาดหายไป หนีไปแล้วงั้นรึ?

เสียงเหมือนมีอะไรผ่ากลางอากาศเรียกให้นัยน์ตาสีอำพันตวัดไปมองด้านบนทันที ร่างของแอชกำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศ สายตาเยาะเย้ยจ้องตรงมาพร้อมด้วยรอยยิ้มเย็น ในมือถืออะไรบางอย่างซึ่งเป็นลูกกลมๆ สีดำ อะไรบางอย่างที่ทำให้เอเวนต้องขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด เขาสัมผัสความรู้สึกของพลังงานจำนวนมากจากก้อนสีดำนั่นได้ มันไม่ใช่พลังเวท แต่เป็นพลังที่เหมือนกับ...ผู้ขายวิญญาณ

ดวงตาสีอำพันเบิกกว้างเมื่อเชื่อมต่อข้อมูลอะไรบางอย่างเข้าด้วยกัน เป็นเวลาเดียวกันกับที่แอชเงื้อก้อนสีดำในมือขึ้นสูง แสยะยิ้มด้วยความสะใจแล้วขว้างพลังในมือลงไปเบื้องล่างสุดแรง ก้อนพลังสีดำขยายตัวออกจนมีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายร้อยเท่า เอเวนรีบเรียกม่านพลังขึ้นมาต้านพลังสีดำที่พุ่งตรงเข้ามาเอาไว้ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าม่านพลังของเขาคงจะต้านไอ้ก้อนสีดำนี่ได้ไม่นาน นี่มันพลังอะไรกัน เป็นอย่างเดียวกันกับพลังของเฟลนเวย์แน่งั้นเหรอ ถึงเขาจะสัมผัสความรู้สึกได้ว่ามีพลังงานแบบเดียวกัน แต่ความรุนแรงของพลังนั้นมันคนละชั้นกันเลยด้วยซ้ำ

เด็กหนุ่มรู้สึกว่าเท้าทั้งสองข้างของเขากำลังค่อยๆ ไถลไปด้านหลังตามแรงปะทะจากด้านหน้า และกิ่งไม้ก็กำลังจะหักในเร็วๆ นี้ แล้วทันใดนั้นเอง ก้อนพลังสีดำอีกลูกหนึ่งก็พุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูงจากทางด้านซ้าย เอเวนรีบสลายม่านพลังพร้อมกับกระโดดลงไปยังพื้นน้ำข้างล่างทันที

เสียงตูมดังลั่นพร้อมกับที่ร่างสูงค่อยๆ ใช้มือทั้งสองดันตัวเองให้ส่วนศีรษะพ้นขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แล้วปัดเส้นผมที่เปียกจนลูบลงมาปิดตาออก ดวงตาสีอำพันมองหาร่างของศัตรู แล้วก็เจออย่างง่ายดายเพราะอีกฝ่ายยังคงล่องลอยอยู่กลางอากาศ เอเวนมองคนกำลังยิ้มเยาะด้วยสายตาเคร่งเครียด เขารู้สึกหนักอึ้งไปทั่วทั้งร่างจากเวทกักตัวด้วยน้ำของแอช แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะกระโดดลงมาในคุกน้ำนี่

“ไม่ต้องพยายามหรอก เจ้าไม่มีทางหลุดไปจากเวทกักตัวของข้าได้ เหนื่อยเปล่าน่า” แอชพูดพร้อมกับยิ้มเยาะอย่างสนุกเมื่อเห็นเหยื่อของเขาพยายามตะเกียกตะกายพาตัวเองออกจากน้ำ

เอเวนกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด ในคุกน้ำนี่ใช้เวทไม่ได้ ถ้าเขาวางแผนให้รอบคอบกว่านี้ เรื่องน่าโมโหนี่ก็คงจะไม่เกิดขึ้น อย่างน้อยถ้ามีดาบเงิน...

เด็กหนุ่มรีบดำลงไปใต้น้ำอีกครั้งพร้อมกับมองหาดาบเงินของตัวเองอย่างรีบร้อน แต่ไม่ว่าจะค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ความรู้สึกกระวนกระวายเริ่มทำให้เขารู้สึกแย่มากกว่าเดิม ดาบของเขาไปไหนกัน เมื่อกี้นี้เขายังถือมันอยู่เลย

ร่างสูงใช้แรงผลักตัวเองขึ้นให้ศีรษะอยู่พ้นน้ำอีกครั้ง แล้วถามศัตรูด้วยเสียงเย็นชา

“ดาบของข้าไปไหน” คนถูกถามยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับร่ายเวทเรียกดาบเล่มหนึ่งให้ปรากฏขึ้นข้างกาย นัยน์ตาสีอำพันจ้องดาบเล่มนั้นด้วยความโกรธที่กำลังปะทุอยุ่ในร่าง ก่อนจะตวัดสายตาเย็นชากลับไปยังหัวขโมย

“เจ้าทำหล่นตอนกระโดดลงไปในน้ำ ข้าก็เลยเก็บเอาไว้ให้ น่าเสียดายออก ท่าทางจะเป็นดาบดี” น้ำเสียงขบขันกล่าวพลางมองสำรวจดาบเล่มใหม่ของตัวเองอย่างสนใจ

สีหน้าของผู้เป็นเจ้าของดาบตัวจริงยังคงเรียบสนิทเช่นเคย เขามองแอชกำลังถือดาบของเขาแกว่งเล่นไปมาด้วยสายตาเย็นชาที่เริ่มปรากฏแววคุกรุ่นขึ้นทีละนิด และในระหว่างนั้นเอง ความรู้สึกหนึ่งก็ทำให้เขาต้องรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งร่าง

มีผู้บุกรุกเขตอาคม!

เด็กหนุ่มก้มมองตัวเองที่ไปไหนไม่ได้อย่างโกรธเคือง เขาโกรธตัวเองที่ทิ้งมิเวลกับเจ้าตัวแคปซูลนั่นเอาไว้ แถมตอนนี้เขาก็ไปช่วยไม่ได้เพราะดันมาติดอยู่ในเวทบ้าๆ นี่ของศัตรู

ปัง!

เสียงปืนเรียกให้เอเวนเงยหน้ามองบนฟ้าด้วยความตกใจ เขาเห็นร่างของแอชกำลังร่วงลงมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกันกับดาบของเขาก่อนจะตามด้วยเสียงตูมดังลั่น เด็กหนุ่มงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ชั่วครู่ และแล้วก็มีเสียงใบหญ้าเสียดสีกันดังมาจากทางด้านหลัง เขารีบหมุนตัวกลับแล้วเพ่งสายตามองเข้าไปในพงหญ้าทันที อะไรบางอย่างกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และก็ต้องเป็นที่มาของเสียงปืนเมื่อครู่อย่างแน่นอน

ร่างหนึ่งโผล่พ้นออกมาจากพงหญ้าพร้อมกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกที่ตัวเองหลุดออกมาจากดงหญ้าสูงพวกนั้นได้เสียที ดวงตาสีเงินกะพริบปริบๆ ขณะมองสายตาตกตะลึงของคนกำลังลอยตุ๊บป่องอยู่ในน้ำ

“จะ...เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง”

“อ้าว ไงเอเวน” เจ้าตัวยุ่งยิ้มกว้าง แลบลิ้นน้อยๆ พร้อมกับหัวเราะแหะๆ โดนจับได้ซะแล้ว เขาอุตส่าห์แอบตามมาห่างๆ แล้วเชียว แต่เอเวนเล่นวิ่งมาซะสุดแรงจนเขาตามไม่ทันและเกือบหลงทางในป่าเลยทีเดียว ถ้าไม่เรียกให้ควินัวช่วยก็คงต้องควานหาทางกลับแบบไม่มีวันเจอแหง และต้องขอบคุณพลังของควินัวที่ทำให้เขาสามารถออกมาเดินกลางแดดเปรี้ยงแบบนี้ได้

เอเวนมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เจ้าตัวแคปซูลมาอยู่ที่นี่ก็หมายความว่าตอนนี้มิเวลอยู่คนเดียวน่ะสิ

“เจ้ารีบกลับไปที่เคอาร์ด่วนเลย!” เสียงเย็นชาตะโกนสั่ง ไม่สนใจสีหน้าเหลอหลาของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะกำลังงงๆ อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น “ตอนนี้มีศัตรูบุกรุก!”

วอลเริ่มแสดงอาการลังเล เขาตั้งใจจะมาช่วยเอเวน แต่ตอนนี้มิเวลกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าไม่รีบกลับไปมิเวลก็จะแย่

“เมื่อกี้เจ้ายิงมัน ศัตรูคง...” เอเวนพูดแล้วก็หยุดอยู่แค่นั้นหลังจากนึกอะไรบางอย่างออก ใช่ เมื่อกี้เจ้าตัวแคปซูลยิงมัน แล้วเขาก็เห็นดาบของเขาตกลงมาพร้อมกับเจ้าบ้านั่น เพราะฉะนั้นดาบของเขาก็ต้องอยู่ในน้ำนี่ด้วยเหมือนกัน

ร่างสูงรีบสูดหายใจเข้าปอดแล้วดำน้ำลงมาอีกครั้ง เขาว่ายไปยังจุดที่คิดว่าแอชตกลงมา จากนั้นก็กวาดสายตาหาร่างของคนถูกยิงซึ่งหาเจอได้ไม่ยากเย็นอะไรนัก แอชกำลังล่องลอยอยู่ใต้น้ำ ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้อีกไม่นานก็คงจะขาดอากาศตาย และเขายินดีที่จะปล่อยให้มันเป็นตามนั้น เด็กหนุ่มละสายตาจากร่างของแอชแล้วรีบมองหาดาบของตัวเองในบริเวณใกล้ๆ นี้

วอลกำลังตกใจที่อยู่ๆ เอเวนก็หายผลุบลงไปใต้น้ำ เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังจมน้ำจึงรีบวิ่งปรี่เข้าไปโดยตั้งใจว่าจะช่วย แต่เท้าสองข้างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อนึกถึงคำพูดของศัตรูได้ว่าเอเวนไม่มีทางขึ้นจากผืนน้ำแห่งนี้ได้ วอลยืนอยู่ที่เดิมอย่างลังเลว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ถ้าเขาลงไปช่วย เขาก็ต้องติดอยู่ในน้ำนี่เหมือนกัน และถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วใครจะเป็นคนไปช่วยมิเวลกันล่ะ แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เขาใช้ยิงกระสุนพลังจิตใส่ศัตรูไป ถ้าบังคับให้ฝ่ายนั้นถอนเวทน้ำนี่ออก เขาก็น่าจะลงไปช่วยเอเวนได้

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว วอลก็รีบตั้งสมาธิพยายามนึกถึงศัตรูทันที เขาออกคำสั่งในใจให้อีกฝ่ายถอนเวทน้ำออกหลายต่อหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรกลับมาเลย ต่างจากตอนใช้พลังที่ไซโรนาส เขารู้สึกร้อนวาบตรงกลางอกขณะใช้พลัง แต่ทำไมตอนนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย

“พลังจิตของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก” เสียงหนึ่งดังสะท้อนไปทั่วทั้งบริเวณทำให้วอลสะดุ้งเฮือก ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่นราวกับคนกำลังคลั่ง “ร่างที่เจ้ายิงนั้นเป็นแค่ร่างทรง ไม่ใช่ร่างจริงของข้าซะหน่อย”

วอลไม่ได้สนใจกับศัพท์ใหม่ที่เขาไม่รู้จัก เขาไม่รู้ว่าร่างทรงคืออะไรและไม่อยากรู้ในตอนนี้ เพราะในหัวเขาแปลความหมายได้เพียงอย่างเดียวว่าศัตรูกลับมาอีกแล้ว เด็กหนุ่มไม่คิดทบทวนอะไรอีกแล้วรีบกระโดดลงไปในน้ำทันที อย่างน้อยถ้าเขาช่วยเอเวนได้ บางทีเอเวนอาจจะมีวิธีออกไปจากน้ำแล้วรีบไปช่วยมิเวลได้ก็ได้

เอเวนคว้าดาบที่วางราบอยู่กับพื้นใต้น้ำลึกขึ้นมา เด็กหนุ่มมองดาบในมือนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบสลัดความลังเลทั้งหมดทิ้งไป เวทน้ำกักขังยังไม่คลาย แสดงว่าศัตรูยังมีชีวิตอยู่ และนั่นก็หมายความบางทีร่างที่ถูกยิงอาจจะไม่ใช่ร่างจริงของแอช เอเวนใช้สองมือจับด้ามดาบแน่นพร้อมกับยกแขนขึ้นสูง ค้างไว้ชั่วครู่ จากนั้นก็ทิ้งแขนลงปักดาบลงกับพื้นดินใต้น้ำสุดแรง

เวทอาคมของดาบสำแดงฤทธิ์ทันที พื้นดินรอบๆ ดาบค่อยๆ กลายสภาพกลับเป็นอย่างเดิม อาคมของดาบขยายบริเวณกว้างไปทั่วทั้งผืนน้ำโดยมีดาบเป็นศูนย์กลาง ไม่นานน้ำผืนใหญ่ก็กลับสู่สภาพเดิม

แอชมองเวทคุกน้ำของตัวเองถูกทลายลงในชั่วพริบตาผ่านกระจกในมืออย่างตื่นเต้น ร่างจริงของเขาไม่ได้อยู่ในป่านั่น แต่ก็อยู่ห่างออกมาไม่ไกลมากนัก ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหัวน้ำเงินนี่จะสามารถทำลายพลังของเขาได้ เด็กหนุ่มลอบอมยิ้มอย่างนึกสนุกขณะมองภาพตุ๊กตาหัวน้ำเงินกำลังนั่งสำรวจร่างทรงของเขา เจ้าหมอนี่น่าสนใจอย่างที่คิดจริงๆ ของเล่นแสนสนุกแบบนี้มันต้องเก็บเอาไว้เล่นนานๆ ทำพังทันทีคงน่าเสียดายแย่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาคงต้องไปเล่นอย่างอื่นฆ่าเวลาเสียหน่อยแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้นแอชก็สลายเวทร่างทรง ทำให้ร่างทรงกลายเป็นเพียงแค่ควันจางๆ ค่อยๆ หายวับไปเท่านั้น

วอลก้มมองพื้นดินอย่างงงๆ อยู่ๆ น้ำก็หายไปและกลายเป็นว่าตอนนี้เขากำลังว่ายอยู่บนดินแทน เด็กหนุ่มค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นยืน แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างคุ้นเคยเดินมาจากอีกด้านหนึ่งของป่า ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

“ข้านึกว่าเจ้าตายซะแล้ว แล้วศัตรูล่ะ” เสียงร่าเริงรีบถามโดยไม่สนใจสีหน้าเคร่งเครียดของอีกฝ่าย เพราะปกติเอเวนก็ทำหน้าตาเครียดๆ แบบนี้อยู่แล้ว

คนถูกถามส่ายหน้าเป็นคำตอบแล้วเดินผ่านคนถามไป วอลเลิกคิ้วสูงขึ้นอย่างงุนงง ส่ายหน้านี่หมายความว่าจัดการแล้วหรือหนีไปแล้วกันล่ะ แต่ท่าทางเอเวนคงไม่อยากตอบคำถามของเขาสักเท่าไหร่เพราะเด็กหนุ่มเอาแต่รีบเดินจ้ำอ้าวโดยไม่รอ ดวงตาสีเงินตวัดกลับไปมองยังบริเวณที่เคยเป็นผืนน้ำอยู่ครู่หนึ่ง ในใจคิดกังวลว่าถ้าศัตรูหนีไปได้แล้วไปเล่นงานมิเวลล่ะจะทำอย่างไรดี

“เฮ้!” เสียงเรียกของเอเวนทำให้วอลหันหลังกลับแล้วรีบวิ่งตามไปทันที

“โทษที”

“ทำไมถึงไม่รีบกลับไปช่วยมิเวล” น้ำเสียงหงุดหงิดเอ่ยถามก่อนจะพึมพำร่ายเวทบาเรียคลุมร่างของทั้งสองเอาไว้ เขารู้สึกแปลกใจที่เห็นคนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆ

“ข้ากลับไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”

เอเวนบังคับบาเรียเวทให้เร่งความเร็วขึ้นอีกก่อนจะหันไปตำหนิคนข้างตัวด้วยเสียงเย็นชา “มันก็ยังดีกว่าทิ้งให้อยู่คนเดียว”

“...ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยดี” น้ำเสียงเครียดเอ่ยแย้งคำกล่าวเมื่อครู่เบาๆ ขณะมองภาพของพื้นดินเบื้องล่างแล่นผ่านไปด้วยความเร็วสูง เขาไม่ได้สนใจว่าเอเวนหันขวับมามองเขาด้วยสายตาแบบไหน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วน้อยๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่หาดูได้ยากจากคนร่าเริงอย่างวอล เขากำลังเป็นห่วงมิเวล ถ้าศัตรูร่างทรงอะไรนั่นหันไปเล่นงานมิเวลเข้าจริงๆ เขาจะทำอย่างไรดี



++++++++++++++++++++++++++++++++++



โปรดติดตามตอนต่อไป!


ปรบมือต้อนรับจิเซล สาวน้อยอ่อนหวานน่ารัก (?) กับ แอช หนุ่มน้อยผู้บ้าเสื้อขนสัตว์ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน้า หนูมิเวลกับจิเซล...จะเกิดอะไรขึ้นน้อ โปรดติดตามฮับบบบบบ!!








โฮป
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2560, 00:31:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2560, 00:31:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 714





<< Episode 24 : || ตามรอย ||   Episode 26 : || ของขวัญสุดพิเศษ || >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account