The D.O.L.L.S โศกนาฏกรรมปีศาจตุ๊กตามหาเวท
"นักขายความฝันผู้เลือดร้อน & นักโทษประหารผู้เริงร่า & หัวขโมยผู้เย็นชา"
ต่างถิ่น ต่างความคิด ต่างอาชีพ ต่างนิสัย ต่างจุดมุ่งหมาย ต่างเผ่าพันธุ์
กลับต้องมาอยู่ด้วยกันเพราะเหตุบางอย่าง... The D.O.L.L.S
ตุ๊กตาปีศาจมีลักษณะรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ
ถ้าอย่างนั้น...จะรู้ได้อย่างไร?
...เป็นปีศาจ...หาใช่มนุษย์ไม่...
ระวังไว้ให้ดี...ทุกอย่างอาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา...
...ที่ใครบางคนสร้างขึ้นเท่านั้น...
สงครามระหว่างผู้มีพลังเวทกับมนุษย์ธรรมดา
ใครจะอยู่รอดเป็นผู้กำชัยชนะ!?
- ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านจากใจจริง -
แผนที่นครเซ็นทรัม http://i49.photobucket.com/albums/f290/thunchanoks/map122e1.jpg
ต่างถิ่น ต่างความคิด ต่างอาชีพ ต่างนิสัย ต่างจุดมุ่งหมาย ต่างเผ่าพันธุ์
กลับต้องมาอยู่ด้วยกันเพราะเหตุบางอย่าง... The D.O.L.L.S
ตุ๊กตาปีศาจมีลักษณะรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ
ถ้าอย่างนั้น...จะรู้ได้อย่างไร?
...เป็นปีศาจ...หาใช่มนุษย์ไม่...
ระวังไว้ให้ดี...ทุกอย่างอาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา...
...ที่ใครบางคนสร้างขึ้นเท่านั้น...
สงครามระหว่างผู้มีพลังเวทกับมนุษย์ธรรมดา
ใครจะอยู่รอดเป็นผู้กำชัยชนะ!?
- ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านจากใจจริง -
แผนที่นครเซ็นทรัม http://i49.photobucket.com/albums/f290/thunchanoks/map122e1.jpg
Tags: ตุ๊กตา,ปีศาจ,คำสาป,เวทมนตร์,สงคราม,แฟนตาซี,ผู้ใช้เวท,มนุษย์,โศกนาฏกรรม,mystery
ตอน: Episode 26 : || ของขวัญสุดพิเศษ ||
EPISODE 26
ของขวัญสุดพิเศษ
“...เพกัส” เด็กสาวพึมพำเสียงอ่อนขณะมองร่างน้อยตรงหน้า เด็กชายตัวน้อยไม่มีสติหลงเหลืออยู่อีกแล้ว เขากำลังจ้องเธอด้วยสายตาเลื่อนลอยเหมือนกับพวกนั้น เหมือนกับพวกตุ๊กตาปีศาจทั้งหลายนั่น เพกัสที่น่ารักของเธอหายไปแล้ว
“อ้าวๆ อย่าเพิ่งผลิตน้ำตานะ ยังไม่ทันจะได้เริ่มกันเลย เอาไว้ก่อน” เสียงหวานรีบเอ่ยขัดทันทีที่เห็นสีหน้าเจ็บปวดราวกับจะร้องไห้ของว่าที่ตุ๊กตาตัวใหม่ จริงๆ แล้วเธอก็อยากใช้วิธีคำอธิษฐาน แต่ใช้หลายๆ ครั้งมันก็น่าเบื่อ ถ้าได้ฟังเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลืออย่างเจ็บปวดบ้างมันคงจะสนุกยิ่งขึ้น และเธอเลือกตุ๊กตาหัวแดงตัวนี้เป็นพิเศษเพราะใบหน้างามนั่นทำให้เธอนึกถึงใครบางคนที่แสนจะน่าหมั่นไส้ซะเหลือเกิน
เพราะเสียงร้องขัดของผู้บุกรุกจึงทำให้มิเวลได้สติกลับคืนมา จริงสินะ ตอนนี้เธอต้องสนใจกำจัดศัตรูรายนี้ก่อน และเธอพอจะเดาได้แล้วว่าจิเซลคนนี้นั้นต้องมีอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการทำให้เพกัสเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน
“เจ้าทำให้เพกัสกลับเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้” เสียงเย็นออกคำสั่งโดยพยายามระงับความโกรธทั้งหมดเอาไว้ ยัง ยังก่อน เธอจะมาระเบิดอารมณ์อาละวาดตอนนี้โดยที่ยังไม่รู้วิธีช่วยเพกัสไม่ได้
จิเซลทำหน้าบึ้งอย่างขัดใจเมื่อว่าที่ตุ๊กตาหัวแดงตรงหน้าเธอไม่ยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆ แล้วยังมาริอาจออกคำสั่งกับเธออีกต่างหาก เธอคือเจ้าหญิงน้อยของท่านราชา ไม่มีใครหน้าไหนจะมาสั่งเธอได้นอกจากท่านราชาเพียงผู้เดียว
เจ้าหญิงน้อยแสยะยิ้มเย็น พร้อมกับค่อยๆ ก้าวเท้าเลื่อนไปด้านหน้าช้าๆ ขณะที่มิเวลก้าวถอยไปด้านหลัง สายตาเคร่งเครียดของเด็กสาวมองรอยยิ้มหวานบนใบหน้าน่ารักตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ เมื่อกี้ยัยนี่ยังทำหน้าหงุดหงิดอยู่เลย แต่อยู่ๆ ก็มายิ้มหวานให้แบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งหลัง เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นเหยื่อตัวน้อยกำลังถูกผู้ล่าค่อยๆ เดินย่างสามขุมเข้ามาหา และเมื่อผู้ล่าเข้ามาใกล้จนถึงตัวเมื่อใด เมื่อนั้นเธอก็จะถูกกัดกิน
ปลายของร่มสีดำชี้มายังมิเวลอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีเวลาให้เธอได้ถามตัวเองในใจว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ เพราะจู่ๆ พลังสีดำสนิทก็พุ่งพรวดออกมาจากปลายร่มพร้อมๆ กันกับที่ร่างของจิเซลลอยขึ้นไปอยู่บนขอบหน้าต่างด้านบนในท่าเท้าเอวด้วยมือซ้าย มิเวลรีบขยับตัวหลบได้ทันท่วงที ในมือกำดาบแห่งไฟไว้แน่น เพ่งสายตาจ้องเขม็งไปยังใบหน้าแย้มยิ้มด้วยความสนุก พลังสีดำจากปลายร่มหายวับไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ทำให้เธอนิ่งนอนใจเมื่อศัตรูตรงหน้าสะบัดร่มไปทางด้านข้างอย่างแรงเพื่อทำให้ร่มที่เคยหุบสนิทกางออก และแล้วพลังสีดำจากปลายเหล็กซึ่งขึงอยู่กับเนื้อผ้าของร่มก็พุ่งกระจายออกมาจนดูราวกับเป็นสายฟ้าสีดำ
มิเวลใช้ดาบสกัดกั้นพลังเหล่านั้นเอาไว้พร้อมๆ กับปกป้องร่างน้อยเบื้องหลังไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่พลังรุนแรงของศัตรูก็ทำให้เธอต้านเอาไว้ไม่อยู่ ร่างของเด็กสาวกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงด้านหลังรุนแรงจนแผ่นปูนร่วงกราวลงมาเป็นจำนวนมาก ความรู้สึกเจ็บบริเวณหลังทำให้มิเวลต้องกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา หลังจากพยายามยันตัวให้ยืนขึ้นได้แล้วดวงตาสีแดงก็รีบมองหาเพกัสทันทีด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเด็กชายยังยืนนิ่งปลอดภัยดีอยู่ที่เดิมเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้น
“ไม่สนุกเลย” น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นก่อนจะตามด้วยเสียงสบถอย่างขัดใจ จิเซลสั่งให้ร่มในมือหุบลงแล้ววาดปลายร่มเป็นรูปกากบาทเรืองแสงอ่อนๆ รอยแยกกลางอากาศรูปกากบาทค่อยๆ ปริกว้างออก เผยให้เห็นก้อนเมือกสีดำขนาดใหญ่อัดรวมกันอยู่ด้านใน
รอยแยกหยุดนิ่งอยู่เพียงชั่วครู่ แต่แล้วพลังสีดำด้านในก็พุ่งพรวดออกมาจำนวนมาก ตรงไปยังร่างเปื้อนเศษปูนของมิเวลด้วยความเร็วสูง เด็กสาวรีบยกดาบขึ้นมาป้องกันตามสัญชาตญาณ แต่เธอรู้ว่าพลังของเธอไม่มีทางต้านพลังมหาศาลของศัตรูได้อย่างแน่นอน มิเวลหลับตาแน่นเตรียมพร้อมรับความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น
เสียงเปรี้ยงดังลั่นไปทั่วพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้านานอยู่ครู่หนึ่ง มิเวลรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่ได้รับความเจ็บปวดอย่างที่คิดเอาไว้ เด็กสาวค่อยๆ ลืมตามองภาพเบื้องหน้าช้าๆ และแล้วดวงตาสีแดงก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างน้อยๆ แสนคุ้นตาเข้ามาขวางพลังสีดำนั่นจนมันสลายหายไป
ควินัว!
เด็กสาวตะโกนเรียกชื่อเจ้าเฟรเนร่าในใจด้วยหัวใจพองโต รอยยิ้มบนใบหน้าเจ้าหญิงน้อยหายวับไปทันควันเมื่ออยู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นมา
มิเวลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดีนะที่ควินัวมาช่วยเธอเอาไว้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงได้ไปเคาะประตูนรกไม่ก็ประตูสวรรค์แล้ว เด็กสาวมองเจ้าสัตว์เวทตัวน้อยด้วยความรู้สึกแปลกใจนิดๆ เธอนึกว่าเฟรเนร่าจะใช้ได้แค่พลังจิตเสียอีก และพลังจิตก็ไม่น่ามีพลังมากมายจนถึงกับสลายพลังสีดำนั่นได้นี่นา
ว่าที่ตุ๊กตาของเธอไม่ยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆ เอาเสียเลย จิเซลคิดในใจอย่างหงุดหงิด เธอไม่รู้จักแขกไม่ได้รับเชิญตัวประหลาดนี่ และไม่ได้อยากจะรู้จักด้วย แต่มันทำให้เธอโกรธ และคนที่บังอาจมาทำให้เธอโกรธนั้นจะต้องชดใช้อย่างสาสม
ใบหน้าน่ารักไม่หลงเหลือรอยยิ้มอีกต่อไป เจ้าหญิงน้อยใช้ปลายร่มวาดเป็นรูปไม้กางเขนกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นรอยแยกรูปไม้กางเขนเรืองแสงอ่อนๆ ซึ่งเหมือนกันกับรอยแยกรูปกากบาทก่อนหน้านี้
รอยแยกค่อยๆ ปริกว้างออกทีละนิด เผยให้เห็นกลุ่มควันสีเทาอัดรวมตัวกันอยู่ด้านใน กลุ่มควันเหล่านั้นพุ่งกระจายออกมากลางอากาศก่อนจะรวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้ง กลายเป็นร่างคุ้นเคยกำลังล่องลอย เปลือกตาทั้งสองข้างปิดสนิท ร่างนั้นค่อยๆ ลอยต่ำลงเรื่อยๆ จนเท้าทั้งสองข้างถึงพื้นในที่สุด
นัยน์ตาสีแดงเบิกกว้างขณะมองร่างที่เธอเห็นอยู่ตลอดเวลาในกระจกเงาตรงหน้า นั่นมันตัวเธอเอง!
ร่างปลอมแปลงของเธอค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นทีละนิด มิเวลรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังมองภาพเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอยู่ เงาสะท้อนตรงหน้ามีหน้าตาเหมือนกันกับเธอไม่มีผิด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายชุดลำลองธรรมดา หรือผมสีแดงที่ปล่อยยาวสยายกลางหลัง จะแตกต่างก็แค่ตรงแววตาเท่านั้น ร่างของเงาสะท้อนไม่มีแววตาของสิ่งมีชีวิต ดวงตาสีแดงจ้องตรงมายังเธอด้วยสายตาว่างเปล่า เป็นเพียงแค่ร่างเปล่าๆ ที่ถูกบังคับให้ขยับไปมาตามความต้องการเท่านั้น
เด็กสาวสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ร่างปลอมตรงหน้าก็คว้าดาบในมือขึ้นมา มิเวลมองไปยังดาบในมือของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ดาบแห่งไฟเหมือนกันกับดาบของเธอ ถึงจะมีรูปร่างเหมือนกันก็จริง แต่เธอก็สามารถมองออกว่าอันไหนของจริงของปลอม เห็นชัดๆ ได้จากไอเวทรอบๆ ดาบที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับไอเวทอ่อนๆ จากจิเซล
และแล้วดาบแห่งไฟของจริงก็ต้องถูกจัดให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมเพื่อรับแรงดาบจากศัตรูที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับเหวี่ยงดาบในมือสุดแรง มิเวลต้านพลังดาบของอีกฝ่ายไว้ได้ แต่ก็โล่งใจได้ไม่นานเมื่อดาบของคู่ต่อสู้เรืองแสงสีดำขึ้น เธอรู้สึกว่าพลังของตัวเองลดฮวบลงเรื่อยๆ อย่างไม่มีสาเหตุ เด็กสาวมองไปยังดาบแห่งไฟของตัวเองอย่างกระวนกระวาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ เธอถึงได้รู้สึกอ่อนแรงแบบนี้ เท้าสองข้างเริ่มไถลไปด้านหลังทีละนิดเนื่องจากต้านพลังดาบของศัตรูเอาไว้ไม่อยู่
ใบหน้าน่ารักปรากฏรอยยิ้มหวานพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างพอใจ ต้องแบบนี้สิถึงจะน่ารักสมกับเป็นว่าที่ตุ๊กตาตัวใหม่ของเธอ สีหน้าร้อนรนยามต่อสู้ของมิเวลช่างเป็นใบหน้าที่เธอรู้สึกชอบเป็นพิเศษเหลือเกิน
มิเวลเริ่มรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะหมดแรงเต็มที เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้เธอต้องถูกดาบของศัตรูจัดการแน่ เด็กสาวรีบร่ายเวทไฟในใจอย่างรวดเร็ว ปรากฏเปลวไฟห่อหุ้มไปทั่วทั้งดาบ ใช้แรงฮึดสุดท้ายดันดาบของอีกฝ่ายออกไปแล้วเหวี่ยงดาบแห่งไฟเข้ากับพื้นสุดแรง
เปลวไฟลุกท่วมพื้นเป็นทางยาวจนไปถึงร่างของศัตรู ก่อนจะลุกท่วมร่างปลอมของเธอด้วยเช่นกัน
เสียงดีดนิ้วดังขึ้น และแล้วเปลวไฟทั้งหมดของเธอก็หายวับไปในพริบตา มิเวลมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาตกตะลึง เธอรีบเงยหน้ามองไปยังผู้ทำเสียงดีดนิ้วเมื่อครู่ทันที ดวงหน้าสวยน่ารักปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เห็นอย่างชัดเจน จิเซลยักไหล่น้อยๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มเยาะมาให้
มิเวลเบือนสายตากลับมายังศัตรูเบื้องหน้าอีกครั้งด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จิเซลสามารถสลายเวทของเธอได้ด้วยการดีดนิ้วเพียงแค่ทีเดียวเท่านั้น เธอไม่มีทางเอาชนะผู้ใช้เวทระดับสูงขนาดนี้ได้ ระดับของพลังมันต่างกันเกินไป ต่อให้เป็นเอเวนเธอก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะสามารถต่อกรกับเธอคนนี้ได้ ความมั่นใจเรื่องฝีดาบของเธอต้องพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี นี่หรือคือคนที่เคยโอ้อวดว่าไม่เคยแพ้ใคร ตอนนี้เธอกำลังจะได้ลิ้มรสของความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก และช่างน่าเศร้าเหลือเกินที่เธอคงไม่เหลือชีวิตรอดกลับไปขอโทษเหล่าผู้คนเผ่ามายาทั้งๆ ที่พวกเขาเตือนเธอแล้วว่าอย่าจากมาเลย ยิ่งคิดถึงพวกเขาเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ทั้งเสียใจ และผิดหวังในตัวเอง
ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนขาทำให้เด็กสาวเบือนสายตาลงต่ำ ควินัวกำลังเงยหน้ามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ เช่นเคย แต่ครั้งนี้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าแววตาของเจ้าสัตว์เวทตัวนี้นั้นต่างออกไปจากเดิม แววตาของควินัวในตอนนี้แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งทำให้ความรู้สึกแย่ๆ ทั้งหลายของเธอผ่อนคลายลง จริงสินะ เธอจะมายอมแพ้ตรงนี้ไม่ได้ ยังมีเรื่องอีกมากมายกำลังรออยู่ ทั้งเรื่องการเดินทางและเพกัส ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอจะต้องช่วยเพกัสให้กลับเป็นน้องชายที่น่ารักคนเดิมให้ได้ และเธอจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะทำให้ความตั้งใจทั้งหมดกลายเป็นจริง
เจ้าหญิงน้อยมองว่าที่ตุ๊กตาของเธออย่างสนใจเมื่อเห็นสายตาของคนมิเวลเปลี่ยนไป ปรากฏความไม่ยอมแพ้ขึ้นอย่างชัดเจนในแววตาคู่นั้น เด็กสาวลอบยิ้มเย็นกับตัวเองด้วยความพอใจเพราะได้เจอตุ๊กตาแสนน่ารักเพิ่มขึ้นอีกตัว แย่จริงเชียว แบบนี้ก็ห้ามเล่นจนพังวันนี้เลยน่ะสิ
นัยน์ตาสีแดงมองดวงตาทั้งสามของเจ้าเฟรเนร่าตัวน้อยอยู่สักพักแล้วเบือนสายตากลับขึ้นไปยังศัตรูตรงหน้าอีกครั้ง สายตาไม่ยอมแพ้จ้องอีกฝ่ายเขม็งพร้อมกับคิดวิเคราะห์การเคลื่อนไหวและการปะทะกันก่อนหน้านี้ในหัวอย่างรวดเร็ว ร่างปลอมนั่นเคลื่อนไหวได้เร็วก็จริงอยู่ และตอนแรกนั้นพลังดาบยังไม่รุนแรงเท่าไหร่ แต่อยู่ๆ พลังก็เพิ่มมากขึ้นแบบฉับพลันจนน่ากลัวหลังจากเรืองแสงสีดำนั่น แถมมันยังทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงด้วยอีกต่างหาก แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนปกติทุกอย่าง เมื่อเป็นแบบนี้แสดงว่าเธอต้องถูกดูดพลังกายไปในช่วงสู้ประชิดตัวอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าไม่ปะทะดาบด้วยตรงๆ เธอก็จะสามารถใช้แรงได้ตามปกติ
เด็กสาวสบถเบาๆ ด้วยความเจ็บใจเมื่อรู้ว่าต่อจากนี้คงสู้แบบประชิดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่เธอถนัดไม่ได้แล้ว ถ้าไม่อยากถูกดูดพลังกายอีก แต่ถูกดูดพลังกายแบบนี้ก็แสดงว่าจิเซลคงรู้ว่าเธอถนัดใช้ดาบมากกว่าใช้เวท และคงรู้ได้จากการวิเคราะห์ไอเวทของเธอแน่ๆ
ดาบแห่งไฟถูกเงื้อขึ้นสูงก่อนจะตวัดผ่าอากาศลงมาสร้างแรงลมพุ่งไปปะทะเข้ากับม่านพลังของศัตรู ซึ่งต้านพลังของเธอเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย จิเซลแย้มยิ้มด้วยความพึงพอใจ แต่แล้วอยู่ๆ สายตาฉายแววความรู้สึกสนุกเล็กๆ ก็ตวัดไปยังร่างน้อยๆ ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งแทน เห็นดังนั้นแล้วเธอก็เดาได้ว่าจิเซลต้องการจะทำอะไร เด็กสาวรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ทั่วทั้งร่างเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ความกลัวกำลังกัดกินร่างของเธอ ไม่นะ ได้โปรด...
ร่างของเพกัสโน้มตัวลงน้อยๆ เป็นการคำนับก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว มิเวลมองหาเด็กชายด้วยสายตาร้อนรน เธอเห็นเป็นเงาบางอย่างวิ่งฝ่าอากาศด้วยความเร็วสูงอยู่รอบๆ ตัวจนไล่สายตามองตามไม่ทัน เด็กสาวกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ เธอไม่ได้อยากสู้กับเพกัสเลยแม้แต่นิดเดียว ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมกัน!?
เพกัสปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้งตรงหน้าพร้อมกับดาบมือที่เงื้อสูงขึ้น มิเวลจับดาบในท่าเตรียมพร้อมโดยสัญชาตญาณ แต่เธอก็ต้องชะงักไปเพราะความลังเล เธอไม่อยากทำร้ายอีกฝ่าย เธอไม่อยากทำร้ายเพกัส และในจังหวะนั้นเองที่ดาบของเพกัสตวัดลงมาด้วยความเร็วสูง เด็กสาวรู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากจมอยู่ในภวังค์ แล้วรีบกระโดดหลบได้ทันท่วงที ดาบแห่งไฟในมือถูกเปลี่ยนมาอยู่ในท่าตั้งรับ มิเวลขยับหลบการโจมตีของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่โจมตีกลับไป แรงดาบของเพกัสในการโจมตีแต่ละครั้งเริ่มเพิ่มสูงขึ้นจนเธอแทบยันเอาไว้ไม่อยู่ เด็กสาวมองร่างตรงหน้าด้วยสายตาเคร่งเครียด เธอจะทำอย่างไรดี จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่ได้
และแล้วเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ก็ทำให้เธอคิดอะไรบางอย่างออก เพราะมัวแต่สนใจเพกัสเธอจึงลืมไปเลยว่ายังมีตัวบงการแสนร้ายกาจอยู่อีกคน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยนั่น จิเซลเป็นคนที่ทำให้เพกัสเป็นแบบนี้ เธอจะมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไม่ได้ และหากจะจัดการที่มาของปัญหาทั้งหมดเธอก็ต้องจัดการยัยนั่น
มิเวลกระโดดหลบดาบของเพกัสได้อย่างสวยงาม แล้วตวัดสายตาแข็งกร้าวไปยังร่างบนขอบหน้าต่างทันควัน เห็นใบหน้าของจิเซลฉายแววประหลาดใจเล็กๆ ก่อนเจ้าตัวจะแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์กว้างขึ้นอีก
“จบแค่นี้แหละ!” มิเวลตะโกนลั่นพร้อมกับงัดพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดออกมา เด็กสาวตวัดดาบแห่งไฟผ่าอากาศเป็นรูปกากบาทซึ่งปรากฏเป็นลูกไฟ ขึ้น แล้วตวัดผ่าเป็นแนวขวางอีกทีสุดแรง ลูกไฟจำนวนมากพุ่งกระจายออกมารวมกันกลายเป็นเปลวไฟขนาดยักษ์ จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าใส่เป้าหมายทันที
เจ้าหญิงน้อยลอบยิ้มเย็นอย่างพอใจที่ได้เห็นตุ๊กตาของเธอมีพลังมากมายขนาดนี้ แต่ยังหรอก มันยังไม่มากพอ ร่มในมือเตรียมรับพลังของอีกฝ่าย แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเธอต้องเก็บตุ๊กตาตัวน้อยไว้เล่นด้วยอีกหลายๆ รอบ ดังนั้นเด็กสาวจึงต้องถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ วันนี้เธอต้องพอแค่นี้ก่อน ไม่อย่างนั้นตุ๊กตาของเธอจะเสียหายเอาได้
แต่ก่อนจะอำลาจากกัน เธอคงต้องทิ้งของขวัญสุดพิเศษไว้ให้ตุ๊กตาตัวสำคัญสักหน่อย น่าเสียดายที่ตอนนี้ตุ๊กตาหัวแดงยังขาดเงื่อนไขจำเป็นบางอย่างในการกลายมาเป็นตุ๊กตาของเธอ แต่อีกไม่นานนี้หรอก เธอแค่ต้องรออีกนิดเท่านั้น เพราะเจ้าหญิงน้อยอย่างเธอต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามความต้องการ และตุ๊กตาหัวแดงนี่ก็ไม่เว้นเหมือนกัน ใบหน้าน่ารักปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง แล้วร่างเล็กของเด็กสาวก็หายวับไปในพริบตาก่อนจะถูกพลังของมิเวลพอดี
เพราะพลังมหาศาลของเธอจึงทำให้มิเวลไม่สามารถมองเห็นศัตรูได้ แต่เธอได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังสวนออกมา เด็กสาวรู้สึกใจชื้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดว่าพลังของตัวเองคงจะสามารถจัดการจิเซลได้ แต่ไม่ทันไร ความรู้สึกดีทั้งหมดก็ต้องอันตรธานหายไปอย่างฉับพลันทันทีที่ลูกไฟยักษ์ตรงหน้าสลายไป ภาพเบื้องหน้าทำให้เธอยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาสีแดงเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ลำคอแห้งผากไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกมาแม้แต่นิดเดียว
เธอกำลังฝันอีกแล้ว ฝันร้ายที่ไม่จบสิ้นเสียที ดาบในมือถูกปล่อยร่วงลงกับพื้น เด็กสาวค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งอย่างคนไม่มีแรง น้ำใสๆ ซึมผ่านดวงตาออกมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
...ฆาตรกร
“มิเวล!”
เอเวนรีบวิ่งเข้าไปทันทีเมื่อเห็นร่างคุ้นตากำลังนั่งอยู่กับพื้น เขามองสำรวจบาดแผลทั่วตัวเด็กสาวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งดูเหมือนว่ามิเวลจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนอกจากรอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ ตามแขนขาเท่านั้น เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก หายใจหอบเพราะความเหนื่อยจากการใช้เวทเร่งความเร็วมาตลอดทาง
วอลวิ่งเข้ามาเป็นคนที่สอง เขาเห็นเอเวนพยักหน้าให้น้อยๆ เป็นเชิงบอกว่าคนที่พวกเขาเป็นห่วงนั้นไม่เป็นอะไรแล้ว เด็กหนุ่มมองคนนั่งนิ่งๆ บนพื้นอย่างสงสัย ทำไมมิเวลถึงไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย ถ้าสบายดีจริง อย่างน้อยก็ต้องโวยวายเรื่องถูกปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียวแล้วสิ และแล้วความรู้สึกเย็นวาบขึ้นกลางหลังก็ทำให้นัยน์ตาสีเงินเหลือบไปมองร่างหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณห้าเมตร
“...ไม่...” เสียงเบาราวกระซิบพึมพำขณะมองร่างนั้น ไม่จริง...นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เอเวนเห็นท่าทางแปลกๆ ของวอลจึงหันขวับไปมองว่าเขากำลังมองอะไรอยู่ แล้วคิ้วทั้งสองก็ต้องขมวดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ใบหน้านิ่งๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันควัน ก่อนจะตวัดสายตากลับไปยังเด็กสาวข้างกาย
ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะปนกันมั่วไปหมด สีหน้าเจ็บปวดราวกับแก้วบางๆ กำลังจะแตกสาย สายตาว่างเปล่ามองร่างโชกเลือดตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ในหัวคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้นนอกจากฉายภาพหนึ่งให้เห็นชัดเจน ภาพแสนโหดร้ายที่เธอไม่อยากจะจดจำ ภาพพลังของเธอพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเพกัสและทำลายร่างนั้นจนเกิดบาดแผลนับไม่ถ้วน ร่างน้อยๆ ชุ่มไปด้วยเลือดแทบดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นใคร มิเวลก้มมองมือของตัวเอง เธอเป็นคนฆ่าเพกัส นี่หรือคือคนที่พร่ำบอกว่าจะช่วยเขาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เธอกลับเป็นคนฆ่าเขาด้วยมือของเธอเอง เธอมันน่ารังเกียจที่สุด
นัยน์ตาสีอำพันมองร่างบอบบางข้างกายด้วยสายตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน เด็กหนุ่มกำหมัดแน่น ก่อนจะดึงร่างของมิเวลเข้ามากอด เขาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้เพียงแค่ว่าอย่างน้อยขอให้อ้อมกอดของเขาได้ดูดซับความเจ็บปวดของเด็กสาวได้เพียงสักน้อยนิดก็ยังดี
ร่างในอ้อมกอดสั่นน้อยๆ พร้อมกับเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ไม่ไหวแล้ว เธอกลั้นความรู้สึกเอาไว้อีกต่อไปไม่ไหวแล้ว มิเวลจำได้ว่าเธอเคยร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนครั้งหนึ่ง ก่อนที่เธอจะออกจากหมู่บ้านฟรอซเซลมา ตอนนั้นเธอสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่ยอมร้องไห้ให้ใครเห็นอีกเด็ดขาด แต่ปรากฏว่าในวันนี้ คำสัญญานั้นกลับต้องพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
เด็กหนุ่มกอดร่างบอบบางแน่นขึ้นอีกโดยปล่อยให้มิเวลร้องไห้ในอ้อมกอดของตนอยู่เงียบๆ สายตาเคร่งเครียดมองใบหน้าเปียกชื้นนิ่งท่ามกลางความเงียบสงัด ไม่มีคำพูดอะไรถูกเอ่ยออกมาในระหว่างนั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจอย่างไร แต่เขาก็ไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้ นี่มันความรู้สึกอะไรกัน เขารู้สึกว่าคนในอ้อมแขนของเขานั้นเปราะบางเหลือเกิน ถึงแม้ว่าภายนอกมิเวลจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในของเธอนั้นไม่ต่างกับแก้วใสๆ ที่กำลังร้าว ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาทำให้เขารู้สึกเจ็บลึกๆ อีกครั้งหนึ่งแล้วที่เขาไม่เข้าใจตัวเอง นี่เขาเป็นอะไรไป
นัยน์ตาสีเงินมองเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรทั้งสิ้น ปรากฏอาการสั่นไหวภายในแววตาให้เห็นแวบหนึ่งก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่ใบหน้านิ่งๆ นั้นกลับมายิ้มแย้มตามแบบฉบับของเจ้าตัว วอลยักไหล่น้อยๆ อย่างช่วยไม่ได้ให้กับสภาพกลายเป็นตัวเกะกะแบบฉับพลันของตัวเอง
เด็กหนุ่มค่อยๆ ก้าวเท้าเดินหลบฉากออกมาจากระเบียงทางเดิน แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนขา สายตาฉงนเหลือบมองต่ำ ก่อนรอยยิ้มอบอุ่นจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานขณะมองร่างน้อยๆ ข้างกาย
“ควินัว” ร่างของเฟรเนร่าโน้มศีรษะลงเป็นการคำนับ
‘ท่านวอล’
วอลและควินัวเดินหลบเข้าไปในห้องของเอเวน เด็กหนุ่มมั่นใจว่าควินัวต้องรู้แน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเป็นคนออกคำสั่งให้มันอยู่กับมิเวลเอง แต่เขาไม่อยากอยู่ข้างนอกกับสองคนนั้นในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แค่ความรู้สึกบางอย่างในตัวกำลังสั่งให้เขาหนี ซึ่งเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนีจากอะไร และทำไมถึงต้องหนี รู้เพียงแค่อย่างเดียวว่า ตัวเขาเองก็ยินดีที่จะทำตามนั้น
“ควินัว เกิดอะไรขึ้น”
เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่าควินัวกำลังเสียใจ สายตาเศร้าหมองมองตรงมายังเขา ก่อนเจ้าสัตว์เวทตัวน้อยจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้เป็นเจ้านายได้รับรู้
+++++++++++++++++++++++++++++
โปรดติดตามตอนต่อไป!
EPISODE 26
ของขวัญสุดพิเศษ
“...เพกัส” เด็กสาวพึมพำเสียงอ่อนขณะมองร่างน้อยตรงหน้า เด็กชายตัวน้อยไม่มีสติหลงเหลืออยู่อีกแล้ว เขากำลังจ้องเธอด้วยสายตาเลื่อนลอยเหมือนกับพวกนั้น เหมือนกับพวกตุ๊กตาปีศาจทั้งหลายนั่น เพกัสที่น่ารักของเธอหายไปแล้ว
“อ้าวๆ อย่าเพิ่งผลิตน้ำตานะ ยังไม่ทันจะได้เริ่มกันเลย เอาไว้ก่อน” เสียงหวานรีบเอ่ยขัดทันทีที่เห็นสีหน้าเจ็บปวดราวกับจะร้องไห้ของว่าที่ตุ๊กตาตัวใหม่ จริงๆ แล้วเธอก็อยากใช้วิธีคำอธิษฐาน แต่ใช้หลายๆ ครั้งมันก็น่าเบื่อ ถ้าได้ฟังเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลืออย่างเจ็บปวดบ้างมันคงจะสนุกยิ่งขึ้น และเธอเลือกตุ๊กตาหัวแดงตัวนี้เป็นพิเศษเพราะใบหน้างามนั่นทำให้เธอนึกถึงใครบางคนที่แสนจะน่าหมั่นไส้ซะเหลือเกิน
เพราะเสียงร้องขัดของผู้บุกรุกจึงทำให้มิเวลได้สติกลับคืนมา จริงสินะ ตอนนี้เธอต้องสนใจกำจัดศัตรูรายนี้ก่อน และเธอพอจะเดาได้แล้วว่าจิเซลคนนี้นั้นต้องมีอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการทำให้เพกัสเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน
“เจ้าทำให้เพกัสกลับเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้” เสียงเย็นออกคำสั่งโดยพยายามระงับความโกรธทั้งหมดเอาไว้ ยัง ยังก่อน เธอจะมาระเบิดอารมณ์อาละวาดตอนนี้โดยที่ยังไม่รู้วิธีช่วยเพกัสไม่ได้
จิเซลทำหน้าบึ้งอย่างขัดใจเมื่อว่าที่ตุ๊กตาหัวแดงตรงหน้าเธอไม่ยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆ แล้วยังมาริอาจออกคำสั่งกับเธออีกต่างหาก เธอคือเจ้าหญิงน้อยของท่านราชา ไม่มีใครหน้าไหนจะมาสั่งเธอได้นอกจากท่านราชาเพียงผู้เดียว
เจ้าหญิงน้อยแสยะยิ้มเย็น พร้อมกับค่อยๆ ก้าวเท้าเลื่อนไปด้านหน้าช้าๆ ขณะที่มิเวลก้าวถอยไปด้านหลัง สายตาเคร่งเครียดของเด็กสาวมองรอยยิ้มหวานบนใบหน้าน่ารักตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ เมื่อกี้ยัยนี่ยังทำหน้าหงุดหงิดอยู่เลย แต่อยู่ๆ ก็มายิ้มหวานให้แบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งหลัง เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นเหยื่อตัวน้อยกำลังถูกผู้ล่าค่อยๆ เดินย่างสามขุมเข้ามาหา และเมื่อผู้ล่าเข้ามาใกล้จนถึงตัวเมื่อใด เมื่อนั้นเธอก็จะถูกกัดกิน
ปลายของร่มสีดำชี้มายังมิเวลอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีเวลาให้เธอได้ถามตัวเองในใจว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่ เพราะจู่ๆ พลังสีดำสนิทก็พุ่งพรวดออกมาจากปลายร่มพร้อมๆ กันกับที่ร่างของจิเซลลอยขึ้นไปอยู่บนขอบหน้าต่างด้านบนในท่าเท้าเอวด้วยมือซ้าย มิเวลรีบขยับตัวหลบได้ทันท่วงที ในมือกำดาบแห่งไฟไว้แน่น เพ่งสายตาจ้องเขม็งไปยังใบหน้าแย้มยิ้มด้วยความสนุก พลังสีดำจากปลายร่มหายวับไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ทำให้เธอนิ่งนอนใจเมื่อศัตรูตรงหน้าสะบัดร่มไปทางด้านข้างอย่างแรงเพื่อทำให้ร่มที่เคยหุบสนิทกางออก และแล้วพลังสีดำจากปลายเหล็กซึ่งขึงอยู่กับเนื้อผ้าของร่มก็พุ่งกระจายออกมาจนดูราวกับเป็นสายฟ้าสีดำ
มิเวลใช้ดาบสกัดกั้นพลังเหล่านั้นเอาไว้พร้อมๆ กับปกป้องร่างน้อยเบื้องหลังไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่พลังรุนแรงของศัตรูก็ทำให้เธอต้านเอาไว้ไม่อยู่ ร่างของเด็กสาวกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงด้านหลังรุนแรงจนแผ่นปูนร่วงกราวลงมาเป็นจำนวนมาก ความรู้สึกเจ็บบริเวณหลังทำให้มิเวลต้องกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา หลังจากพยายามยันตัวให้ยืนขึ้นได้แล้วดวงตาสีแดงก็รีบมองหาเพกัสทันทีด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเด็กชายยังยืนนิ่งปลอดภัยดีอยู่ที่เดิมเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้น
“ไม่สนุกเลย” น้ำเสียงหงุดหงิดดังขึ้นก่อนจะตามด้วยเสียงสบถอย่างขัดใจ จิเซลสั่งให้ร่มในมือหุบลงแล้ววาดปลายร่มเป็นรูปกากบาทเรืองแสงอ่อนๆ รอยแยกกลางอากาศรูปกากบาทค่อยๆ ปริกว้างออก เผยให้เห็นก้อนเมือกสีดำขนาดใหญ่อัดรวมกันอยู่ด้านใน
รอยแยกหยุดนิ่งอยู่เพียงชั่วครู่ แต่แล้วพลังสีดำด้านในก็พุ่งพรวดออกมาจำนวนมาก ตรงไปยังร่างเปื้อนเศษปูนของมิเวลด้วยความเร็วสูง เด็กสาวรีบยกดาบขึ้นมาป้องกันตามสัญชาตญาณ แต่เธอรู้ว่าพลังของเธอไม่มีทางต้านพลังมหาศาลของศัตรูได้อย่างแน่นอน มิเวลหลับตาแน่นเตรียมพร้อมรับความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น
เสียงเปรี้ยงดังลั่นไปทั่วพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้านานอยู่ครู่หนึ่ง มิเวลรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่ได้รับความเจ็บปวดอย่างที่คิดเอาไว้ เด็กสาวค่อยๆ ลืมตามองภาพเบื้องหน้าช้าๆ และแล้วดวงตาสีแดงก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างน้อยๆ แสนคุ้นตาเข้ามาขวางพลังสีดำนั่นจนมันสลายหายไป
ควินัว!
เด็กสาวตะโกนเรียกชื่อเจ้าเฟรเนร่าในใจด้วยหัวใจพองโต รอยยิ้มบนใบหน้าเจ้าหญิงน้อยหายวับไปทันควันเมื่ออยู่ๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นมา
มิเวลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดีนะที่ควินัวมาช่วยเธอเอาไว้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงได้ไปเคาะประตูนรกไม่ก็ประตูสวรรค์แล้ว เด็กสาวมองเจ้าสัตว์เวทตัวน้อยด้วยความรู้สึกแปลกใจนิดๆ เธอนึกว่าเฟรเนร่าจะใช้ได้แค่พลังจิตเสียอีก และพลังจิตก็ไม่น่ามีพลังมากมายจนถึงกับสลายพลังสีดำนั่นได้นี่นา
ว่าที่ตุ๊กตาของเธอไม่ยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆ เอาเสียเลย จิเซลคิดในใจอย่างหงุดหงิด เธอไม่รู้จักแขกไม่ได้รับเชิญตัวประหลาดนี่ และไม่ได้อยากจะรู้จักด้วย แต่มันทำให้เธอโกรธ และคนที่บังอาจมาทำให้เธอโกรธนั้นจะต้องชดใช้อย่างสาสม
ใบหน้าน่ารักไม่หลงเหลือรอยยิ้มอีกต่อไป เจ้าหญิงน้อยใช้ปลายร่มวาดเป็นรูปไม้กางเขนกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นรอยแยกรูปไม้กางเขนเรืองแสงอ่อนๆ ซึ่งเหมือนกันกับรอยแยกรูปกากบาทก่อนหน้านี้
รอยแยกค่อยๆ ปริกว้างออกทีละนิด เผยให้เห็นกลุ่มควันสีเทาอัดรวมตัวกันอยู่ด้านใน กลุ่มควันเหล่านั้นพุ่งกระจายออกมากลางอากาศก่อนจะรวมตัวเข้าด้วยกันอีกครั้ง กลายเป็นร่างคุ้นเคยกำลังล่องลอย เปลือกตาทั้งสองข้างปิดสนิท ร่างนั้นค่อยๆ ลอยต่ำลงเรื่อยๆ จนเท้าทั้งสองข้างถึงพื้นในที่สุด
นัยน์ตาสีแดงเบิกกว้างขณะมองร่างที่เธอเห็นอยู่ตลอดเวลาในกระจกเงาตรงหน้า นั่นมันตัวเธอเอง!
ร่างปลอมแปลงของเธอค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นทีละนิด มิเวลรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังมองภาพเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอยู่ เงาสะท้อนตรงหน้ามีหน้าตาเหมือนกันกับเธอไม่มีผิด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายชุดลำลองธรรมดา หรือผมสีแดงที่ปล่อยยาวสยายกลางหลัง จะแตกต่างก็แค่ตรงแววตาเท่านั้น ร่างของเงาสะท้อนไม่มีแววตาของสิ่งมีชีวิต ดวงตาสีแดงจ้องตรงมายังเธอด้วยสายตาว่างเปล่า เป็นเพียงแค่ร่างเปล่าๆ ที่ถูกบังคับให้ขยับไปมาตามความต้องการเท่านั้น
เด็กสาวสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ร่างปลอมตรงหน้าก็คว้าดาบในมือขึ้นมา มิเวลมองไปยังดาบในมือของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ดาบแห่งไฟเหมือนกันกับดาบของเธอ ถึงจะมีรูปร่างเหมือนกันก็จริง แต่เธอก็สามารถมองออกว่าอันไหนของจริงของปลอม เห็นชัดๆ ได้จากไอเวทรอบๆ ดาบที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับไอเวทอ่อนๆ จากจิเซล
และแล้วดาบแห่งไฟของจริงก็ต้องถูกจัดให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมเพื่อรับแรงดาบจากศัตรูที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับเหวี่ยงดาบในมือสุดแรง มิเวลต้านพลังดาบของอีกฝ่ายไว้ได้ แต่ก็โล่งใจได้ไม่นานเมื่อดาบของคู่ต่อสู้เรืองแสงสีดำขึ้น เธอรู้สึกว่าพลังของตัวเองลดฮวบลงเรื่อยๆ อย่างไม่มีสาเหตุ เด็กสาวมองไปยังดาบแห่งไฟของตัวเองอย่างกระวนกระวาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ เธอถึงได้รู้สึกอ่อนแรงแบบนี้ เท้าสองข้างเริ่มไถลไปด้านหลังทีละนิดเนื่องจากต้านพลังดาบของศัตรูเอาไว้ไม่อยู่
ใบหน้าน่ารักปรากฏรอยยิ้มหวานพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างพอใจ ต้องแบบนี้สิถึงจะน่ารักสมกับเป็นว่าที่ตุ๊กตาตัวใหม่ของเธอ สีหน้าร้อนรนยามต่อสู้ของมิเวลช่างเป็นใบหน้าที่เธอรู้สึกชอบเป็นพิเศษเหลือเกิน
มิเวลเริ่มรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะหมดแรงเต็มที เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้เธอต้องถูกดาบของศัตรูจัดการแน่ เด็กสาวรีบร่ายเวทไฟในใจอย่างรวดเร็ว ปรากฏเปลวไฟห่อหุ้มไปทั่วทั้งดาบ ใช้แรงฮึดสุดท้ายดันดาบของอีกฝ่ายออกไปแล้วเหวี่ยงดาบแห่งไฟเข้ากับพื้นสุดแรง
เปลวไฟลุกท่วมพื้นเป็นทางยาวจนไปถึงร่างของศัตรู ก่อนจะลุกท่วมร่างปลอมของเธอด้วยเช่นกัน
เสียงดีดนิ้วดังขึ้น และแล้วเปลวไฟทั้งหมดของเธอก็หายวับไปในพริบตา มิเวลมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาตกตะลึง เธอรีบเงยหน้ามองไปยังผู้ทำเสียงดีดนิ้วเมื่อครู่ทันที ดวงหน้าสวยน่ารักปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เห็นอย่างชัดเจน จิเซลยักไหล่น้อยๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มเยาะมาให้
มิเวลเบือนสายตากลับมายังศัตรูเบื้องหน้าอีกครั้งด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง จิเซลสามารถสลายเวทของเธอได้ด้วยการดีดนิ้วเพียงแค่ทีเดียวเท่านั้น เธอไม่มีทางเอาชนะผู้ใช้เวทระดับสูงขนาดนี้ได้ ระดับของพลังมันต่างกันเกินไป ต่อให้เป็นเอเวนเธอก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะสามารถต่อกรกับเธอคนนี้ได้ ความมั่นใจเรื่องฝีดาบของเธอต้องพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี นี่หรือคือคนที่เคยโอ้อวดว่าไม่เคยแพ้ใคร ตอนนี้เธอกำลังจะได้ลิ้มรสของความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก และช่างน่าเศร้าเหลือเกินที่เธอคงไม่เหลือชีวิตรอดกลับไปขอโทษเหล่าผู้คนเผ่ามายาทั้งๆ ที่พวกเขาเตือนเธอแล้วว่าอย่าจากมาเลย ยิ่งคิดถึงพวกเขาเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ทั้งเสียใจ และผิดหวังในตัวเอง
ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนขาทำให้เด็กสาวเบือนสายตาลงต่ำ ควินัวกำลังเงยหน้ามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ เช่นเคย แต่ครั้งนี้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าแววตาของเจ้าสัตว์เวทตัวนี้นั้นต่างออกไปจากเดิม แววตาของควินัวในตอนนี้แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งทำให้ความรู้สึกแย่ๆ ทั้งหลายของเธอผ่อนคลายลง จริงสินะ เธอจะมายอมแพ้ตรงนี้ไม่ได้ ยังมีเรื่องอีกมากมายกำลังรออยู่ ทั้งเรื่องการเดินทางและเพกัส ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอจะต้องช่วยเพกัสให้กลับเป็นน้องชายที่น่ารักคนเดิมให้ได้ และเธอจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะทำให้ความตั้งใจทั้งหมดกลายเป็นจริง
เจ้าหญิงน้อยมองว่าที่ตุ๊กตาของเธออย่างสนใจเมื่อเห็นสายตาของคนมิเวลเปลี่ยนไป ปรากฏความไม่ยอมแพ้ขึ้นอย่างชัดเจนในแววตาคู่นั้น เด็กสาวลอบยิ้มเย็นกับตัวเองด้วยความพอใจเพราะได้เจอตุ๊กตาแสนน่ารักเพิ่มขึ้นอีกตัว แย่จริงเชียว แบบนี้ก็ห้ามเล่นจนพังวันนี้เลยน่ะสิ
นัยน์ตาสีแดงมองดวงตาทั้งสามของเจ้าเฟรเนร่าตัวน้อยอยู่สักพักแล้วเบือนสายตากลับขึ้นไปยังศัตรูตรงหน้าอีกครั้ง สายตาไม่ยอมแพ้จ้องอีกฝ่ายเขม็งพร้อมกับคิดวิเคราะห์การเคลื่อนไหวและการปะทะกันก่อนหน้านี้ในหัวอย่างรวดเร็ว ร่างปลอมนั่นเคลื่อนไหวได้เร็วก็จริงอยู่ และตอนแรกนั้นพลังดาบยังไม่รุนแรงเท่าไหร่ แต่อยู่ๆ พลังก็เพิ่มมากขึ้นแบบฉับพลันจนน่ากลัวหลังจากเรืองแสงสีดำนั่น แถมมันยังทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงด้วยอีกต่างหาก แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนปกติทุกอย่าง เมื่อเป็นแบบนี้แสดงว่าเธอต้องถูกดูดพลังกายไปในช่วงสู้ประชิดตัวอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าไม่ปะทะดาบด้วยตรงๆ เธอก็จะสามารถใช้แรงได้ตามปกติ
เด็กสาวสบถเบาๆ ด้วยความเจ็บใจเมื่อรู้ว่าต่อจากนี้คงสู้แบบประชิดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่เธอถนัดไม่ได้แล้ว ถ้าไม่อยากถูกดูดพลังกายอีก แต่ถูกดูดพลังกายแบบนี้ก็แสดงว่าจิเซลคงรู้ว่าเธอถนัดใช้ดาบมากกว่าใช้เวท และคงรู้ได้จากการวิเคราะห์ไอเวทของเธอแน่ๆ
ดาบแห่งไฟถูกเงื้อขึ้นสูงก่อนจะตวัดผ่าอากาศลงมาสร้างแรงลมพุ่งไปปะทะเข้ากับม่านพลังของศัตรู ซึ่งต้านพลังของเธอเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย จิเซลแย้มยิ้มด้วยความพึงพอใจ แต่แล้วอยู่ๆ สายตาฉายแววความรู้สึกสนุกเล็กๆ ก็ตวัดไปยังร่างน้อยๆ ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งแทน เห็นดังนั้นแล้วเธอก็เดาได้ว่าจิเซลต้องการจะทำอะไร เด็กสาวรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ทั่วทั้งร่างเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ความกลัวกำลังกัดกินร่างของเธอ ไม่นะ ได้โปรด...
ร่างของเพกัสโน้มตัวลงน้อยๆ เป็นการคำนับก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว มิเวลมองหาเด็กชายด้วยสายตาร้อนรน เธอเห็นเป็นเงาบางอย่างวิ่งฝ่าอากาศด้วยความเร็วสูงอยู่รอบๆ ตัวจนไล่สายตามองตามไม่ทัน เด็กสาวกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ เธอไม่ได้อยากสู้กับเพกัสเลยแม้แต่นิดเดียว ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมกัน!?
เพกัสปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้งตรงหน้าพร้อมกับดาบมือที่เงื้อสูงขึ้น มิเวลจับดาบในท่าเตรียมพร้อมโดยสัญชาตญาณ แต่เธอก็ต้องชะงักไปเพราะความลังเล เธอไม่อยากทำร้ายอีกฝ่าย เธอไม่อยากทำร้ายเพกัส และในจังหวะนั้นเองที่ดาบของเพกัสตวัดลงมาด้วยความเร็วสูง เด็กสาวรู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากจมอยู่ในภวังค์ แล้วรีบกระโดดหลบได้ทันท่วงที ดาบแห่งไฟในมือถูกเปลี่ยนมาอยู่ในท่าตั้งรับ มิเวลขยับหลบการโจมตีของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่โจมตีกลับไป แรงดาบของเพกัสในการโจมตีแต่ละครั้งเริ่มเพิ่มสูงขึ้นจนเธอแทบยันเอาไว้ไม่อยู่ เด็กสาวมองร่างตรงหน้าด้วยสายตาเคร่งเครียด เธอจะทำอย่างไรดี จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่ได้
และแล้วเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ก็ทำให้เธอคิดอะไรบางอย่างออก เพราะมัวแต่สนใจเพกัสเธอจึงลืมไปเลยว่ายังมีตัวบงการแสนร้ายกาจอยู่อีกคน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยนั่น จิเซลเป็นคนที่ทำให้เพกัสเป็นแบบนี้ เธอจะมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไม่ได้ และหากจะจัดการที่มาของปัญหาทั้งหมดเธอก็ต้องจัดการยัยนั่น
มิเวลกระโดดหลบดาบของเพกัสได้อย่างสวยงาม แล้วตวัดสายตาแข็งกร้าวไปยังร่างบนขอบหน้าต่างทันควัน เห็นใบหน้าของจิเซลฉายแววประหลาดใจเล็กๆ ก่อนเจ้าตัวจะแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์กว้างขึ้นอีก
“จบแค่นี้แหละ!” มิเวลตะโกนลั่นพร้อมกับงัดพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดออกมา เด็กสาวตวัดดาบแห่งไฟผ่าอากาศเป็นรูปกากบาทซึ่งปรากฏเป็นลูกไฟ ขึ้น แล้วตวัดผ่าเป็นแนวขวางอีกทีสุดแรง ลูกไฟจำนวนมากพุ่งกระจายออกมารวมกันกลายเป็นเปลวไฟขนาดยักษ์ จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าใส่เป้าหมายทันที
เจ้าหญิงน้อยลอบยิ้มเย็นอย่างพอใจที่ได้เห็นตุ๊กตาของเธอมีพลังมากมายขนาดนี้ แต่ยังหรอก มันยังไม่มากพอ ร่มในมือเตรียมรับพลังของอีกฝ่าย แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเธอต้องเก็บตุ๊กตาตัวน้อยไว้เล่นด้วยอีกหลายๆ รอบ ดังนั้นเด็กสาวจึงต้องถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ วันนี้เธอต้องพอแค่นี้ก่อน ไม่อย่างนั้นตุ๊กตาของเธอจะเสียหายเอาได้
แต่ก่อนจะอำลาจากกัน เธอคงต้องทิ้งของขวัญสุดพิเศษไว้ให้ตุ๊กตาตัวสำคัญสักหน่อย น่าเสียดายที่ตอนนี้ตุ๊กตาหัวแดงยังขาดเงื่อนไขจำเป็นบางอย่างในการกลายมาเป็นตุ๊กตาของเธอ แต่อีกไม่นานนี้หรอก เธอแค่ต้องรออีกนิดเท่านั้น เพราะเจ้าหญิงน้อยอย่างเธอต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามความต้องการ และตุ๊กตาหัวแดงนี่ก็ไม่เว้นเหมือนกัน ใบหน้าน่ารักปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง แล้วร่างเล็กของเด็กสาวก็หายวับไปในพริบตาก่อนจะถูกพลังของมิเวลพอดี
เพราะพลังมหาศาลของเธอจึงทำให้มิเวลไม่สามารถมองเห็นศัตรูได้ แต่เธอได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังสวนออกมา เด็กสาวรู้สึกใจชื้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดว่าพลังของตัวเองคงจะสามารถจัดการจิเซลได้ แต่ไม่ทันไร ความรู้สึกดีทั้งหมดก็ต้องอันตรธานหายไปอย่างฉับพลันทันทีที่ลูกไฟยักษ์ตรงหน้าสลายไป ภาพเบื้องหน้าทำให้เธอยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาสีแดงเบิกกว้างขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ลำคอแห้งผากไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกมาแม้แต่นิดเดียว
เธอกำลังฝันอีกแล้ว ฝันร้ายที่ไม่จบสิ้นเสียที ดาบในมือถูกปล่อยร่วงลงกับพื้น เด็กสาวค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งอย่างคนไม่มีแรง น้ำใสๆ ซึมผ่านดวงตาออกมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
...ฆาตรกร
“มิเวล!”
เอเวนรีบวิ่งเข้าไปทันทีเมื่อเห็นร่างคุ้นตากำลังนั่งอยู่กับพื้น เขามองสำรวจบาดแผลทั่วตัวเด็กสาวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งดูเหมือนว่ามิเวลจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนอกจากรอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ ตามแขนขาเท่านั้น เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก หายใจหอบเพราะความเหนื่อยจากการใช้เวทเร่งความเร็วมาตลอดทาง
วอลวิ่งเข้ามาเป็นคนที่สอง เขาเห็นเอเวนพยักหน้าให้น้อยๆ เป็นเชิงบอกว่าคนที่พวกเขาเป็นห่วงนั้นไม่เป็นอะไรแล้ว เด็กหนุ่มมองคนนั่งนิ่งๆ บนพื้นอย่างสงสัย ทำไมมิเวลถึงไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย ถ้าสบายดีจริง อย่างน้อยก็ต้องโวยวายเรื่องถูกปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียวแล้วสิ และแล้วความรู้สึกเย็นวาบขึ้นกลางหลังก็ทำให้นัยน์ตาสีเงินเหลือบไปมองร่างหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณห้าเมตร
“...ไม่...” เสียงเบาราวกระซิบพึมพำขณะมองร่างนั้น ไม่จริง...นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เอเวนเห็นท่าทางแปลกๆ ของวอลจึงหันขวับไปมองว่าเขากำลังมองอะไรอยู่ แล้วคิ้วทั้งสองก็ต้องขมวดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ใบหน้านิ่งๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันควัน ก่อนจะตวัดสายตากลับไปยังเด็กสาวข้างกาย
ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะปนกันมั่วไปหมด สีหน้าเจ็บปวดราวกับแก้วบางๆ กำลังจะแตกสาย สายตาว่างเปล่ามองร่างโชกเลือดตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ในหัวคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้นนอกจากฉายภาพหนึ่งให้เห็นชัดเจน ภาพแสนโหดร้ายที่เธอไม่อยากจะจดจำ ภาพพลังของเธอพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเพกัสและทำลายร่างนั้นจนเกิดบาดแผลนับไม่ถ้วน ร่างน้อยๆ ชุ่มไปด้วยเลือดแทบดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นใคร มิเวลก้มมองมือของตัวเอง เธอเป็นคนฆ่าเพกัส นี่หรือคือคนที่พร่ำบอกว่าจะช่วยเขาให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เธอกลับเป็นคนฆ่าเขาด้วยมือของเธอเอง เธอมันน่ารังเกียจที่สุด
นัยน์ตาสีอำพันมองร่างบอบบางข้างกายด้วยสายตาเจ็บปวดไม่แพ้กัน เด็กหนุ่มกำหมัดแน่น ก่อนจะดึงร่างของมิเวลเข้ามากอด เขาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้เพียงแค่ว่าอย่างน้อยขอให้อ้อมกอดของเขาได้ดูดซับความเจ็บปวดของเด็กสาวได้เพียงสักน้อยนิดก็ยังดี
ร่างในอ้อมกอดสั่นน้อยๆ พร้อมกับเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ไม่ไหวแล้ว เธอกลั้นความรู้สึกเอาไว้อีกต่อไปไม่ไหวแล้ว มิเวลจำได้ว่าเธอเคยร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนครั้งหนึ่ง ก่อนที่เธอจะออกจากหมู่บ้านฟรอซเซลมา ตอนนั้นเธอสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่ยอมร้องไห้ให้ใครเห็นอีกเด็ดขาด แต่ปรากฏว่าในวันนี้ คำสัญญานั้นกลับต้องพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
เด็กหนุ่มกอดร่างบอบบางแน่นขึ้นอีกโดยปล่อยให้มิเวลร้องไห้ในอ้อมกอดของตนอยู่เงียบๆ สายตาเคร่งเครียดมองใบหน้าเปียกชื้นนิ่งท่ามกลางความเงียบสงัด ไม่มีคำพูดอะไรถูกเอ่ยออกมาในระหว่างนั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจอย่างไร แต่เขาก็ไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้ นี่มันความรู้สึกอะไรกัน เขารู้สึกว่าคนในอ้อมแขนของเขานั้นเปราะบางเหลือเกิน ถึงแม้ว่าภายนอกมิเวลจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในของเธอนั้นไม่ต่างกับแก้วใสๆ ที่กำลังร้าว ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาทำให้เขารู้สึกเจ็บลึกๆ อีกครั้งหนึ่งแล้วที่เขาไม่เข้าใจตัวเอง นี่เขาเป็นอะไรไป
นัยน์ตาสีเงินมองเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรทั้งสิ้น ปรากฏอาการสั่นไหวภายในแววตาให้เห็นแวบหนึ่งก่อนจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่ใบหน้านิ่งๆ นั้นกลับมายิ้มแย้มตามแบบฉบับของเจ้าตัว วอลยักไหล่น้อยๆ อย่างช่วยไม่ได้ให้กับสภาพกลายเป็นตัวเกะกะแบบฉับพลันของตัวเอง
เด็กหนุ่มค่อยๆ ก้าวเท้าเดินหลบฉากออกมาจากระเบียงทางเดิน แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนขา สายตาฉงนเหลือบมองต่ำ ก่อนรอยยิ้มอบอุ่นจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานขณะมองร่างน้อยๆ ข้างกาย
“ควินัว” ร่างของเฟรเนร่าโน้มศีรษะลงเป็นการคำนับ
‘ท่านวอล’
วอลและควินัวเดินหลบเข้าไปในห้องของเอเวน เด็กหนุ่มมั่นใจว่าควินัวต้องรู้แน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเป็นคนออกคำสั่งให้มันอยู่กับมิเวลเอง แต่เขาไม่อยากอยู่ข้างนอกกับสองคนนั้นในตอนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แค่ความรู้สึกบางอย่างในตัวกำลังสั่งให้เขาหนี ซึ่งเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนีจากอะไร และทำไมถึงต้องหนี รู้เพียงแค่อย่างเดียวว่า ตัวเขาเองก็ยินดีที่จะทำตามนั้น
“ควินัว เกิดอะไรขึ้น”
เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่าควินัวกำลังเสียใจ สายตาเศร้าหมองมองตรงมายังเขา ก่อนเจ้าสัตว์เวทตัวน้อยจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้เป็นเจ้านายได้รับรู้
+++++++++++++++++++++++++++++
โปรดติดตามตอนต่อไป!
โฮป
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 เม.ย. 2560, 00:19:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 เม.ย. 2560, 00:19:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 751
<< Episode 25 : || ว่าที่ตุ๊กตา || | Episode 27 : || หัวใจสับสน || >> |