สายรัก(ษ์)
'เพราะ 'รัก' จึงปกปักษ์ พิทักษ์ (ใจ) เธอ'
คุณคิดว่าคนสายไหนน่ากลัวที่สุด
แต่ก่อนคุณจะตอบ ฉันจะบอกให้
ว่าไม่ว่าจะสายปาร์ตี้ สายธรรมะ สายเงียบ สายซึน
สายไหนๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่า สาย (ขึ้น) คาน!
คุณคิดว่าคนสายไหนน่ากลัวที่สุด
แต่ก่อนคุณจะตอบ ฉันจะบอกให้
ว่าไม่ว่าจะสายปาร์ตี้ สายธรรมะ สายเงียบ สายซึน
สายไหนๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่า สาย (ขึ้น) คาน!
Tags: แอบรัก,เพื่อนสนิท,หนีใจ
ตอน: บทที่ ๔ 5/5
สองสาวนั่งกันที่เบาะหลัง กฤษฎ์นั่งหน้าเพียงลำพังและคอยมองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ ชุดาทำตัวราวกับเป็นผู้ปกครอง ส่วนนวพรรษนั่งจ๋องเหมือนเด็กนักเรียนที่แอบจับได้ว่าทำความผิด บางครั้งเมื่อชุดาดุหนักๆ เข้า นวพรรษก็จะเรียกเขาหวังให้ช่วย แต่คราวนี้กฤษฎ์จำต้องทำใจแข็ง เพื่อให้มันเป็นบทเรียนแก่นวพรรษ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าหากเขาไปไม่ทันและเหตุการณ์มันเลวร้ายไปยิ่งกว่า คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือตัวนวพรรษเอง
ใช่ เขาต้องใจแข็ง ไม่ว่าจะโดนลูกอ้อนแบบไหนก็ตาม...
“พี่ข้าวกล้า” เสียงเครือเจือสะอื้น กฤษฎ์มองสบตาฉ่ำน้ำนั้นผ่านกระจกหลัง “พี่ข้าวกล้านี่พรรษยังตกใจไม่หายเลยนะ ฮือ พรรษยังกลัวอยู่เลย แต่ชุดาสิ ชุดาฮึก”
ชุดาอ้าปากค้างมองคนก้มหน้าสะอื้นฮึกๆ ก่อนหรี่ตามองสบกับกฤษฎ์ที่กระจกมองหลัง และถอนหายใจเพราะ...
“คุณชุดาครับ พรรษคงตกใจอยู่ อย่าเพิ่งพูดอะไรกันเลยนะ”
ชุดากลอกตา “คุณกฤษฎ์ ที่ยัยพรรษนิสัยจะเสียก็เพราะคุณน่ะตามใจ! คุณเคยตามยัยนี่ทันไหม นี่ลองอ้อนได้แบบนี้ก็แสดงว่ามันหายแล้วค่า ชุดาขอพูดตรงๆ เลยนะ คุณน่ะหัดใจแข็งบ้างเถอะ พอเห็นยัยพรรษบีบน้ำตาเข้าหน่อยละใจอ่อนเชียว” ว่าแล้วก็เหลียวมองต้นเรื่องที่ก้มหน้าหลบตาทันควัน “ส่วนแกยัยพรรษ--”
นวพรรษยิ้มแห้ง “สำนึกผิดแล้ว ต่อไปสัญญาจะไม่ทำอีก”
“เหรอ-อ-อ” ชุดาลากเสียง “ฉันเชื่อเลย นี่แกเพิ่งหวุดหวิดจะโดนข่มขืนมาแท้ๆ ยังหน้าทำเป็นอยู่อีก”
นวพรรษหงอ “พี่ข้าวกล้า” เสียงเรียกทำให้กฤษฎ์มองกระจกหลังตาปรอย
“ขับรถไปค่ะคุณกฤษฎ์!” ชุดาแหวลั่น แล้วจัดการกับคนขี้อ้อน “ไม่มีใครช่วยแกได้ทั้งนั้นแหละยัยพรรษ เพราะฉะนั้นหัดอ้อนให้มันพอดีๆ หน่อยเถอะย่ะ แกน่ะผิด วันนี้กลับไปไม่ต้องนอน ฉันมีเรื่องจะอบรมแกอีกเยอะ ดูไปก็แล้วกัน!”
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ชุดาก็ไม่ได้ทำอย่างปากว่า
พอกลับถึงคอนโดนวพรรษก็หลับเป็นตาย ฤทธิ์ยาของตุลายังคงค้างอยู่ แต่ที่ฮึดจนอาละวาดบนโรงพักนั่นก็เป็นเพราะอารมณ์เพียวๆ กฤษฎ์กลับไปหลังหล่อนหลับ ทว่าก่อนนั้นก็ฝากฝังชุดาเสียจนเธออ่อนใจ และเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ ชุดาจึงโทร.เข้าไปที่ออฟฟิศเพื่อสั่งงาน เพราะจะอยู่เป็นเพื่อนนวพรรษ มีหลายหนทั้งๆ ที่หลับแต่หล่อนกลับสะดุ้ง ซึ่งชุดาก็เข้าใจ แม้จะดูเข้มแข็งก๋ากั๋นมากแค่ไหน แต่นวพรรษก็เป็นผู้หญิง ถึงอย่างไรเจอมาขนาดนี้ก็ต้องกลัวและฝังใจอยู่แล้ว
จนกระทั่งบ่ายแก่ นวพรรษก็ยังไม่ฟื้น ชุดาที่นั่งๆ นอนๆ อยู่ห้องรับแขกลุกขึ้นไปดูที่ประตูเมื่อมีแขกมา เป็นกฤษฎ์นั่นเอง เขามาพร้อมกับอภิสราและเด็กในบ้านที่ถือตะกร้าใบใหญ่ ชุดายกมือไหว้ผู้สูงวัยและเชื้อเชิญแขกให้เข้ามาในห้อง
“พรรษยังไม่ตื่นเลยค่ะ แต่เดี๋ยวชุดาจะเข้าไปปลุกเพราะนี่ก็นอนพักนานแล้วเหมือนกัน คุณหญิงเชิญนั่งก่อนสิคะ”
“ขอบใจจ้ะหนู” อภิสราทรุดลงนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ระหว่างที่ชุดากำลังจะหาน้ำมารับรองแขก กฤษฎ์ก็เอ่ยขึ้น
“เอ่อ ผมไปปลุกพรรษให้--”
อภิสรา ชุดา และเด็กในบ้านที่กำลังเอาของออกจากตะกร้าบนโต๊ะกลางต่างมองเขาเป็นตาเดียว กฤษฎ์รู้ตัวเดี๋ยวนั้นว่าไม่เหมาะ แต่เพราะห่วงจึงยิ้มตีหน้ามึน
“ก็ ค่ะ ขอบคุณ” ชุดามองคุณหญิงอภิสรายิ้มแห้ง ตัวกฤษฎ์นั้นไม่รอแล้ว เขาเดินดุ่มไปที่ห้องนอนซึ่งเปิดประตูค้างไว้และก้าวเข้าไป ท่าทีเคยคุ้นนั้นยิ่งทำให้อภิสราตงิดๆ ในใจ หญิงชรารอจนกระทั่งชุดานำน้ำมาเสิร์ฟ จึงกระซิบถาม
“แม่หนู ฉันถามหน่อยนะ ตากลางเป็นแบบนี้เหรอ เวลามาที่นี่น่ะ”
“ก็” ชุดายิ้มเรี่ย “แบบนี้ละค่ะ”
“แบบนี้?” อภิสรายกมือขึ้นทาบอก “หนูพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ ที่ตากลางเดินเข้าห้องนอนพวกหนูนี่นะ”
“ก็แบบว่า” ชุดาลังเล สุดท้ายก็ถอนหายใจ “ไม่ทันห้ามค่ะ แบบคุณกฤษฎ์ก็เดินไปแล้ว” เธอยิ้มแห้งๆ แต่อภิสราหรี่ตามองท่าทางไม่เชื่อ ชุดาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ชุดาไม่อยากคิด หากคุณหญิงอภิสราได้รู้ว่านวพรรษบ้าถึงขนาดเคยใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวเดินโถงๆ ไปเปิดประตูรับกฤษฎ์ มีหวังหัวใจวาย ยิ่งถ้ารู้ว่านวพรรษกับกฤษฎ์เคยขนาดพากันไปซื้อชุดชั้นใน กับชุดนอนวาบหวิวมาแล้วด้วยล่ะก็...
คุณเอ๊ย มีหวังเม้าท์มันบันเทิงกันน่าดู!
ท่าทีกระอักกระอ่วนของชุดาติดใจของอภิสรายิ่งนัก หญิงชรามองกลับเข้าไปยังห้องนอนของสองสาว ที่ตอนนี้หลานชายเธออยู่ตรงนั้น กฤษฎ์ทรุดลงนั่งบนเตียงข้างๆ คนหลับ โน้มตัวก้มมองนวพรรษนิ่งๆ
กฤษฎ์เอื้อมมือออกไปหวังจะลูบกลุ่มผมที่ปรกหน้าผาก ทว่า...
มันไม่ควร
เขาบอกตัวเองและลดมือลงวางข้างตัว หลังรู้สึกถึงสายตาของผู้เป็นย่าที่มองมา และคงจะมีสายตาของชุดา แล้วก็เด็กในบ้านแถมพ่วงท้ายมาด้วย ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ สุดท้ายก็วางมือลงบนไหล่ของหญิงสาว
“พรรษคะ พรรษ ตื่นเถอะค่ะ คุณย่ามาเยี่ยมนะ”
แม้จำต้องสำรวมกิริยาแต่สายตานั้นแทบไม่ปิดบัง กฤษฎ์มองคนหลับที่พลิกตัวหนีครางหือ เพราะรำคาญที่ถูกรบกวนอย่างรักใคร่แกมเอ็นดู นวพรรษไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างในอุดมคติ แต่เธอเป็นคนที่น่ารักที่สุดในสายตาของเขา
“หื้อ!” สุ้มเสียงนั้นบอกว่าขัดใจ ใบหน้าเป็นมัน ผมยาวรุ่ยร่ายหมดสวย แต่กระนั้นกฤษฎ์กลับเห็นว่าภาพตรงหน้าช่างดีต่อใจเหลือเกิน
“พรรษคะ” เขาหัวเราะ วางมือบนหัวไหล่แล้วเขย่า คราวนี้ได้ผลมือเขาถูกปัดออกและดวงตาโตก็ลืมขึ้นทันทีจนเขาตกใจ นวพรรษเองก็ดูเหมือนจะอึ้งๆ ที่ได้เจอหน้าเขา เรามองสบตากันอยู่ชั่วอึดใจ กฤษฎ์ที่เท้ามือกับที่นอนนุ่มเอนตัวเข้าไปใกล้เธอเหมือนมีมนตร์ดึงดูด
ทุกสิ่งอย่างรอบตัวเหมือนว่าหยุดนิ่งและเลือนหายไป มันเหมือนโลกทั้งใบเวลานี้มีแค่เรา
กฤษฎ์ยอมรับว่าเผลอคิด... หากเขาจะก้มลงไปตอนนี้จะเป็นไปได้ไหม
ใช่ เขาต้องใจแข็ง ไม่ว่าจะโดนลูกอ้อนแบบไหนก็ตาม...
“พี่ข้าวกล้า” เสียงเครือเจือสะอื้น กฤษฎ์มองสบตาฉ่ำน้ำนั้นผ่านกระจกหลัง “พี่ข้าวกล้านี่พรรษยังตกใจไม่หายเลยนะ ฮือ พรรษยังกลัวอยู่เลย แต่ชุดาสิ ชุดาฮึก”
ชุดาอ้าปากค้างมองคนก้มหน้าสะอื้นฮึกๆ ก่อนหรี่ตามองสบกับกฤษฎ์ที่กระจกมองหลัง และถอนหายใจเพราะ...
“คุณชุดาครับ พรรษคงตกใจอยู่ อย่าเพิ่งพูดอะไรกันเลยนะ”
ชุดากลอกตา “คุณกฤษฎ์ ที่ยัยพรรษนิสัยจะเสียก็เพราะคุณน่ะตามใจ! คุณเคยตามยัยนี่ทันไหม นี่ลองอ้อนได้แบบนี้ก็แสดงว่ามันหายแล้วค่า ชุดาขอพูดตรงๆ เลยนะ คุณน่ะหัดใจแข็งบ้างเถอะ พอเห็นยัยพรรษบีบน้ำตาเข้าหน่อยละใจอ่อนเชียว” ว่าแล้วก็เหลียวมองต้นเรื่องที่ก้มหน้าหลบตาทันควัน “ส่วนแกยัยพรรษ--”
นวพรรษยิ้มแห้ง “สำนึกผิดแล้ว ต่อไปสัญญาจะไม่ทำอีก”
“เหรอ-อ-อ” ชุดาลากเสียง “ฉันเชื่อเลย นี่แกเพิ่งหวุดหวิดจะโดนข่มขืนมาแท้ๆ ยังหน้าทำเป็นอยู่อีก”
นวพรรษหงอ “พี่ข้าวกล้า” เสียงเรียกทำให้กฤษฎ์มองกระจกหลังตาปรอย
“ขับรถไปค่ะคุณกฤษฎ์!” ชุดาแหวลั่น แล้วจัดการกับคนขี้อ้อน “ไม่มีใครช่วยแกได้ทั้งนั้นแหละยัยพรรษ เพราะฉะนั้นหัดอ้อนให้มันพอดีๆ หน่อยเถอะย่ะ แกน่ะผิด วันนี้กลับไปไม่ต้องนอน ฉันมีเรื่องจะอบรมแกอีกเยอะ ดูไปก็แล้วกัน!”
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ชุดาก็ไม่ได้ทำอย่างปากว่า
พอกลับถึงคอนโดนวพรรษก็หลับเป็นตาย ฤทธิ์ยาของตุลายังคงค้างอยู่ แต่ที่ฮึดจนอาละวาดบนโรงพักนั่นก็เป็นเพราะอารมณ์เพียวๆ กฤษฎ์กลับไปหลังหล่อนหลับ ทว่าก่อนนั้นก็ฝากฝังชุดาเสียจนเธออ่อนใจ และเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ ชุดาจึงโทร.เข้าไปที่ออฟฟิศเพื่อสั่งงาน เพราะจะอยู่เป็นเพื่อนนวพรรษ มีหลายหนทั้งๆ ที่หลับแต่หล่อนกลับสะดุ้ง ซึ่งชุดาก็เข้าใจ แม้จะดูเข้มแข็งก๋ากั๋นมากแค่ไหน แต่นวพรรษก็เป็นผู้หญิง ถึงอย่างไรเจอมาขนาดนี้ก็ต้องกลัวและฝังใจอยู่แล้ว
จนกระทั่งบ่ายแก่ นวพรรษก็ยังไม่ฟื้น ชุดาที่นั่งๆ นอนๆ อยู่ห้องรับแขกลุกขึ้นไปดูที่ประตูเมื่อมีแขกมา เป็นกฤษฎ์นั่นเอง เขามาพร้อมกับอภิสราและเด็กในบ้านที่ถือตะกร้าใบใหญ่ ชุดายกมือไหว้ผู้สูงวัยและเชื้อเชิญแขกให้เข้ามาในห้อง
“พรรษยังไม่ตื่นเลยค่ะ แต่เดี๋ยวชุดาจะเข้าไปปลุกเพราะนี่ก็นอนพักนานแล้วเหมือนกัน คุณหญิงเชิญนั่งก่อนสิคะ”
“ขอบใจจ้ะหนู” อภิสราทรุดลงนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ระหว่างที่ชุดากำลังจะหาน้ำมารับรองแขก กฤษฎ์ก็เอ่ยขึ้น
“เอ่อ ผมไปปลุกพรรษให้--”
อภิสรา ชุดา และเด็กในบ้านที่กำลังเอาของออกจากตะกร้าบนโต๊ะกลางต่างมองเขาเป็นตาเดียว กฤษฎ์รู้ตัวเดี๋ยวนั้นว่าไม่เหมาะ แต่เพราะห่วงจึงยิ้มตีหน้ามึน
“ก็ ค่ะ ขอบคุณ” ชุดามองคุณหญิงอภิสรายิ้มแห้ง ตัวกฤษฎ์นั้นไม่รอแล้ว เขาเดินดุ่มไปที่ห้องนอนซึ่งเปิดประตูค้างไว้และก้าวเข้าไป ท่าทีเคยคุ้นนั้นยิ่งทำให้อภิสราตงิดๆ ในใจ หญิงชรารอจนกระทั่งชุดานำน้ำมาเสิร์ฟ จึงกระซิบถาม
“แม่หนู ฉันถามหน่อยนะ ตากลางเป็นแบบนี้เหรอ เวลามาที่นี่น่ะ”
“ก็” ชุดายิ้มเรี่ย “แบบนี้ละค่ะ”
“แบบนี้?” อภิสรายกมือขึ้นทาบอก “หนูพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ ที่ตากลางเดินเข้าห้องนอนพวกหนูนี่นะ”
“ก็แบบว่า” ชุดาลังเล สุดท้ายก็ถอนหายใจ “ไม่ทันห้ามค่ะ แบบคุณกฤษฎ์ก็เดินไปแล้ว” เธอยิ้มแห้งๆ แต่อภิสราหรี่ตามองท่าทางไม่เชื่อ ชุดาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ชุดาไม่อยากคิด หากคุณหญิงอภิสราได้รู้ว่านวพรรษบ้าถึงขนาดเคยใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวเดินโถงๆ ไปเปิดประตูรับกฤษฎ์ มีหวังหัวใจวาย ยิ่งถ้ารู้ว่านวพรรษกับกฤษฎ์เคยขนาดพากันไปซื้อชุดชั้นใน กับชุดนอนวาบหวิวมาแล้วด้วยล่ะก็...
คุณเอ๊ย มีหวังเม้าท์มันบันเทิงกันน่าดู!
ท่าทีกระอักกระอ่วนของชุดาติดใจของอภิสรายิ่งนัก หญิงชรามองกลับเข้าไปยังห้องนอนของสองสาว ที่ตอนนี้หลานชายเธออยู่ตรงนั้น กฤษฎ์ทรุดลงนั่งบนเตียงข้างๆ คนหลับ โน้มตัวก้มมองนวพรรษนิ่งๆ
กฤษฎ์เอื้อมมือออกไปหวังจะลูบกลุ่มผมที่ปรกหน้าผาก ทว่า...
มันไม่ควร
เขาบอกตัวเองและลดมือลงวางข้างตัว หลังรู้สึกถึงสายตาของผู้เป็นย่าที่มองมา และคงจะมีสายตาของชุดา แล้วก็เด็กในบ้านแถมพ่วงท้ายมาด้วย ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ สุดท้ายก็วางมือลงบนไหล่ของหญิงสาว
“พรรษคะ พรรษ ตื่นเถอะค่ะ คุณย่ามาเยี่ยมนะ”
แม้จำต้องสำรวมกิริยาแต่สายตานั้นแทบไม่ปิดบัง กฤษฎ์มองคนหลับที่พลิกตัวหนีครางหือ เพราะรำคาญที่ถูกรบกวนอย่างรักใคร่แกมเอ็นดู นวพรรษไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างในอุดมคติ แต่เธอเป็นคนที่น่ารักที่สุดในสายตาของเขา
“หื้อ!” สุ้มเสียงนั้นบอกว่าขัดใจ ใบหน้าเป็นมัน ผมยาวรุ่ยร่ายหมดสวย แต่กระนั้นกฤษฎ์กลับเห็นว่าภาพตรงหน้าช่างดีต่อใจเหลือเกิน
“พรรษคะ” เขาหัวเราะ วางมือบนหัวไหล่แล้วเขย่า คราวนี้ได้ผลมือเขาถูกปัดออกและดวงตาโตก็ลืมขึ้นทันทีจนเขาตกใจ นวพรรษเองก็ดูเหมือนจะอึ้งๆ ที่ได้เจอหน้าเขา เรามองสบตากันอยู่ชั่วอึดใจ กฤษฎ์ที่เท้ามือกับที่นอนนุ่มเอนตัวเข้าไปใกล้เธอเหมือนมีมนตร์ดึงดูด
ทุกสิ่งอย่างรอบตัวเหมือนว่าหยุดนิ่งและเลือนหายไป มันเหมือนโลกทั้งใบเวลานี้มีแค่เรา
กฤษฎ์ยอมรับว่าเผลอคิด... หากเขาจะก้มลงไปตอนนี้จะเป็นไปได้ไหม

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 เม.ย. 2560, 10:23:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 เม.ย. 2560, 10:23:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 1052
<< บททที่ 4 4/5 | บทที่ ๕ 1/5 + แจ้งข่าววางขาย 'สายรัก(ษ์)' >> |

ดังปัณณ์ 24 เม.ย. 2560, 10:24:36 น.
ดีจ้า พายัยพรรษมาส่งค่า
คุณแว่นใส นางน่ารักนะ 5555
และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ค่า เจอกันพรุ่งนี้จ้า ^^
ดีจ้า พายัยพรรษมาส่งค่า
คุณแว่นใส นางน่ารักนะ 5555
และคุณๆรีดเดอร์นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน มาคุย มากดคะแนนให้ค่า เจอกันพรุ่งนี้จ้า ^^



แว่นใส 24 เม.ย. 2560, 18:26:42 น.
ทำเถอะี่ข้าวกล้า จะได้รู้กันไป
ทำเถอะี่ข้าวกล้า จะได้รู้กันไป

goldensun 24 เม.ย. 2560, 21:15:23 น.
กฤษฎ์นี่นะ แสดงออกไม่สุดๆ ให้พรรษเห็นซะที ใช้ปีนตบจมูกตุลาจนกระดูกแตก พรรษยังเห็นเป็นข้าวกล้าได้อีกนะ
กว่าพรรษจะรู้ จะเลยกลางเรื่องมั้ยคะ หรือรู้แล้วจบเลย
ว่าแต่กฤษฎ์เผลอรอบนี้ พยานเยอะนะเนี่ย
กฤษฎ์นี่นะ แสดงออกไม่สุดๆ ให้พรรษเห็นซะที ใช้ปีนตบจมูกตุลาจนกระดูกแตก พรรษยังเห็นเป็นข้าวกล้าได้อีกนะ
กว่าพรรษจะรู้ จะเลยกลางเรื่องมั้ยคะ หรือรู้แล้วจบเลย
ว่าแต่กฤษฎ์เผลอรอบนี้ พยานเยอะนะเนี่ย