ร้อยรักพรางตะวัน
If no obstacle is found.
Do you know …What true love is?

เรื่องของนักแสดงสาวชื่อดังจอมเหวี่ยงวีนกับวิศวกรหนุ่ม ทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย แต่ความสนิทสนมทำให้ความสัมพันธ์ก้าวข้ามขีดคำว่า 'เพื่อน' ไปไม่ได้

ถ้าไม่มีอุปสรรคขัดขวางความรักระหว่างเพื่อนที่จำกัดไว้อาจจะไม่คืบหน้า และหากปล่อยเวลาผ่านไปอาจต้องเสียความรักนั้นไปให้ใครคนอื่น

เอาใจช่วยเพื่อนสนิทสองคนให้ค้นพบรักแท้ของกันและกันและก้าวผ่านอุปสรรคทั้งปวงเพื่อ ‘ความรัก’ ด้วยกันค่ะ

Tags: ร้อยรักพรางตะวัน, อรณี, ภาณุ, รักดราม่า, โรแมนติก, เพื่อนสนิท, แอบรัก

ตอน: บทที่ 1/2 ความสวยงามคือสิ่งสำคัญ

ผู้กำกับหนุ่มพยักหน้าท่าทางลำบากใจก่อนจะตัดบท

“ผมขอตัวไปเก็บของก่อนนะครับ” พูดกับผู้จัดการสาว “เอาไว้นัดคิวกันใหม่”

“ได้ค่ะ”

แสงสุรีย์ขอโทษขอโพยชัชพลอีกคำรบใหญ่แล้วหันหน้าหาตัวต้นเหตุตัวจริง

“ดีนะ เป็นดาราดังทำอะไรก็ไม่ผิด”

“ทำไมคะ อรไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเลยงั้นสิ”

“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์” แสงสุรีย์ค่อน “ใครจะไปว่าอะไรอรได้ ออกจะใหญ่คับกองขนาดนี้ ใคร ๆ ก็ต้องง้อ”

อรณีได้ฟังถึงกับคอแข็งขึ้นมาทันที ดวงตาคมเฉี่ยวตวัดมองผู้จัดการสาวแล้วบ่นลำเลิกเป็นชุด

“วันนี้ที่เจ้แคนเซิลงานเดินแบบของพี่โอ้เพื่อเคลียร์ฉากนี้ให้พี่ชัช เพราะเห็นแก่ว่าต้องเอาไปตัดทีเซอร์ยังไม่ดีอีกเหรอคะ”

“ก็ดี เจ้ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าอรจะอารมณ์เย็นกว่านี้จะดีกว่าไหม”

“แต่คืนนี้อรมีนัดนี่” หล่อนยั้งคำพูดไว้ได้ทัน “เด็กนั่นทำอรเสียอารมณ์สุด ๆ รู้งี้ไม่ยกเลิกพี่โอ้หรอก”

“กองเขาจ้างเธอฟรีซะเมื่อไหร่” แสงสุรีย์เสียงอ่อน

อรณีหน้ามุ่ยขมวดคิ้วมองเลยแสงสุรีย์ไปสบตากับศรุตที่กำลังเปิดประตูรถยนต์ส่วนตัวจะขับออกไป สีหน้าชายหนุ่มไม่ได้สลดอย่างที่บอกใครต่อใคร หล่อนเห็นสายตาหยันและรอยยิ้มเย้ยจากชายหนุ่ม

ไม่ได้คิดไปเองแน่แบบนี้

หมอนั่นกำลังทำให้หล่อนเป็นตัวร้ายในสายตาใครต่อใคร

“อร! ได้ยินเจ้บอกรึเปล่า” แสงสุรีย์ตีเพียะเข้าให้ที่แขน

“โอ๊ย!! อะไรเนี่ยเจ้ ตีอรทำไม”

อรณีหน้านิ่วเขม้นมองแสงสุรีย์อย่างเอาเรื่อง

“ก็ไม่ให้ตีได้ยังไง ไปส่งสายตาคาดโทษแบบนั้น เด็กมันเสียความมั่นใจหมด ตัวเองไม่เคยเป็นเด็กใหม่รึไง ทำไมไม่ใจเย็น ๆ ให้โอกาสเด็กมันบ้าง ถือว่าช่วย ๆ กันน่า”

“ก็เจ้ไม่เห็น”

อรณีหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เพราะพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อหล่อน

“ไปอาบน้ำไป แล้วจะได้มาตกลงกับคุณชัชอีกทีว่าคิวจะยังไงต่อ” ผู้จัดการสาวยกแม่น้ำทั้งสี่ห้าสายมาช่วยพูด

แต่มีหรือคนอย่างอรณีจะรับฟัง ดวงตากลมโตเขม่นมองรถนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ไปจนลับตาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหงุดหงิด

“แล้วเจ้ไปแค่ซึ้อขนมแน่นะ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไม่เคยคิดจะมาสนใจดูแลกันเลยนะ ดูอรสิ มอมเป็นลูกหมาตกโคลนอย่างนี้ หมดกัน”

อรณีก้มมองสภาพตนเองในชุดขาวบริสุทธ์เกรอะกรังไปด้วยเศษดินโคลนที่กำลังเริ่มแห้งอย่างหงุดหงิดมากขึ้นไปกว่าเดิม

แสงสุรีย์กอดอกมองการกระทำของอรณีอย่างรำคาญนิด ๆ แสยะยิ้มมุมปากอย่างหมั่นไส้

“ก็ไปอาบน้ำสิ ยืนบ่นอยู่ได้ ห้องน้ำก็มี คุณผู้กำกับใหญ่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้คุณนางเอกคนดังแล้ว ยังจะมาบ่นอะไรเร็ว ๆ เข้า ทีมงานเก็บกองกันหมดแล้ว อยากอยู่รั้งท้ายที่นี่รึไง”

แสงสุรีย์รุนหลังให้เดินไปยังแคมป์ปิ้งคาร์ หญิงสาวหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยอมเดินไปแต่โดยดี เมื่อมองไปรอบ ๆ ผู้คนในกองขะมักเขม้นทำงานเก็บของอย่างเหน็ดเหนื่อย หล่อนรู้สึกผิดได้แต่ถอนหายใจแล้วก็หยุดเดินกะทันหัน จนแสงสุรีย์ที่เดินตามกันเกือบชนเข้าให้

“แล้วหยุดเดินทำไม เร็ว ๆ เข้า เจ้ไปส่งหน้ารถ”

“นัดกองคราวหน้าช่วยสั่งขนมร้านที่อรชอบมาเลี้ยงทีมงานด้วยนะคะ”

“ได้ตามคำบัญชาค่ะ”

แสงสุรีย์ข่มอารมณ์ อยู่กับอรณีต้องใช้ความอดทนร้อยแปดพันเก้า บางครั้งก็ดูน่าสงสารแต่บ่อยครั้งกว่าที่ทำให้หงุดหงิด

“หิวจัง มีอะไรกินบ้าง ถ่ายมาหลายฉากทั้งวิ่งหนีสารพัด เหนื่อยเสียพลังงานเยอะเลย ขอกินก่อนแล้วค่อยอาบน้ำจะได้สดชื่น”

“ก็ไหนว่าทนไม่ไหวแล้วไง สกปรกมอมแมมขนาดนี้ อาบน้ำก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”

“อรจะกินก่อน”

ไม่รอให้ได้ยินคำปฏิเสธ อรณีเบนทิศทางเดินจากแคมป์ปิ้งคาร์ไปยังรถตู้ส่วนตัวสีดำติดฟิล์มทึบจนมองข้างในไม่เห็น ก่อนจะเปิดท้ายค้นหาขนมนมเนย ที่ผู้จัดการคนเก่งเตรียมมาให้อย่างรวดเร็ว

แล้วก็ถึงกับต้องร้องโอดโอย เมื่อโดนตีเข้าให้บนหลังมือเนียนจนต้องหดมือหนีแทบไม่ทัน

“นี่แน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย เอาขนมปังคืนมา ของตัวเป็นสลัดบรอกโคลี่ร้านท็อปโฟร์ เจ้อุตส่าห์ถ่อสังขารไปซื้อไกล ๆ มาให้เลยมาช้านี่แหละ กับน้ำส้มคั้นแช่เย็นในลัง อย่างอื่นห้าม นั่นของทีมงานไม่ได้ซื้อมาให้”

“ใจร้าย เมื่อไหร่จะเปลี่ยนเมนูอื่นบ้าง พิซซ่าบ้างก็ได้ เจ้คิดดูนะ ของขึ้นชื่อร้านท็อปโฟร์สี่อย่างทั้งพิซซ่าเอย เพนเน่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์เอย พาสต้ากุ้งไวน์ขาวเอย ไหนจะแซนวิซด์ชีสย่างเอย ไม่ได้กินสักอย่างนึง”

“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ คนขี้เกียจออกกำลังกายอาศัยบุญเก่าถึงได้รูปร่างดีอยู่แบบนี้ แต่ก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารขยะพวกนี้อยู่ดี อย่าลืมสิ อาชีพของอรคือขายความสวย”

“ขายความสามารถด้วยต่างหาก”

อรณีบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็รับกล่องสลัดกับน้ำส้มมาจัดการด้วยความหิวโหย แสงสุรีย์ได้แต่มองอย่างระอา นึกสงสารแต่เพื่อความสวยงามสม่ำเสมอซึ่งส่งผลต่ออาชีพทำให้หล่อนต้องใจแข็งเข้าไว้

“รีบ ๆ กินแล้วไปอาบน้ำ เสื้อผ้าเตรียมไว้ในกระเป๋านั่นแล้ว เอาเข้าไปเปลี่ยนด้วยพรุ่งนี้มีบรีฟงานละครเรื่องใหม่ เดี๋ยวเจ้เอาขนมไปฝากทีมงานก่อน”

“ค่ะ เสร็จแล้วอรจะรีบไปอาบน้ำเลย รีบ ๆ ไปสิคะ”

อรณีโบกมือไล่ พอแสงสุรีย์เดินลับสายตาไปก็ล้วงหยิบขนมปังเนยก้อนโตออกมาจัดการอย่างสบายอารมณ์หลังจากแอบซ่อนมันไว้ตรงซอกรถ

ทำอย่างกับพวกลักกินขโมยกิน...

ทันทีที่จัดการกับอาหารและขนมที่แอบหยิบจากถุงจนหมดไม่เหลือหลักฐาน จึงเดินไปแคมป์ปิ้งคาร์เพื่อจัดการกับสภาพโทรมของตนเองเสียที


หลังอาบน้ำแต่งตัวสำรวจหน้าตาที่ล้างเครื่องสำอางออกจนดวงหน้านวลหมดจดก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบใครบางคนยืนอยู่มุมในสุดหน้าประตู

“เป็นไงบ้าง บริการพิเศษเฉพาะสำหรับคนสำคัญของพี่คนเดียว”

ชัชพลออกมาขวางทางเดินคับแคบ หญิงสาวทั้งตกใจและขุ่นเคือง แต่ก็ตอบคำถามเขาอย่างใจเย็น

“ก็ดีค่ะ แต่คราวหลังไม่ต้องนะคะ อรไม่ชอบที่ใคร ๆ มาว่าอรมีสิทธิพิเศษ ว่าอรเรื่องมากขอเจ้ารถนี่มาไว้ใช้ส่วนตัว ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วยคะ”

อรณีเอ่ยอย่างใจเย็นในสถานการณ์หมิ่นเหม่ เหลียวซ้ายแลขวาหาทางหนีทีไล่ ถ้าเกิดชัชพลทำอะไรรุ่มร่าม

สายตาของเขาช่างเต็มไปด้วยความรู้สึก...

ยิ่งบรรยากาศภายในรถสลัวเพราะไฟทางเดินสีเหลืองถูกเปิดไว้เพียงแค่ดวงเดียวทำให้ภายในค่อนข้างมืด ผ้าม่านปิดแทบจะมิดชิดทุกช่องหน้าต่างยิ่งทำให้หล่อนใจคอไม่ดี แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ

“ก็ที่นี่มันเป็นป่า จะหาโรงแรมที่ไหนให้อรได้พักผ่อน แล้วยังฉากเลอะเทอะแบบวันนี้ด้วย พี่ไม่อยากให้คนสวยของพี่ต้องรำคาญใจ”

ผู้กำกับหนุ่มเผลอลูบแก้มนวลใสอย่างลืมตัว

“อย่าค่ะ...” อรณีเบี่ยงตัวหลบ “ไม่เหมาะที่ผู้กำกับจะทำอย่างนี้กับนักแสดงหญิงของตัวนะคะ อรไม่ชอบคำครหาช่วยหลีกทางด้วย อรจะกลับ ป่านนี้เจ้แสงรอแล้ว ไม่อยากหูชาค่ะ”

“อย่าเพิ่งไปสิ เรายังคุยกันไม่จบเลย” ชัชพลรั้งแขนหล่อน “พี่หาโอกาสที่เราสองคนจะได้อยู่กันสองต่อสองไม่มีใครเห็นทั้งวันแล้วนะ”

“อ๊ะ! จะทำอะไร ปล่อยอรนะคะ ปล่อย!”

“พี่คิดถึงอร” เขากระซิบกอดหล่อนไว้ในวงแขน “อยากอยู่กับอร”

“ไม่ได้ค่ะ”

อรณีผลักวงแขนหนาที่ยกขึ้นเท้าประตูขวางหน้าหล่อนให้พ้นออกจากเส้นทาง รีบเบี่ยงตัวออกมาแต่ยังไม่ทันได้ออกไป ชัชพลก็คว้าเอวไว้จากทางด้านหลังแล้วกอดกระชับแน่น

หล่อนดิ้นขลุกขลัก แต่ผู้กำกับหนุ่มกลับกระชับอ้อมกอดแน่น ซุกหน้าเข้าหาซอกคอขาวหอมกรุ่นนิ่งแต่ไม่ได้รุกล้ำอย่างที่หวาดหวั่น

“ขออยู่อย่างนี้สักครู่นะ วันนี้พี่เหนื่อยมาก”

ชัชพลเสียงสั่นแปลก จนอรณีหน้านิ่วคิ้วขมวด กลั้นใจเอ่ยออกไปทั้งที่พยายามแกะมือที่โอบเอวของหล่อนออกเบา ๆ ไม่ให้รู้ตัว

“ขอโทษที่อรสร้างปัญหาค่ะ” อรณีเสียงเบา “แต่เด็กคนนั้นไม่รับผิดชอบงานตัวเองเลย”

“พี่รู้ แต่จะทำยังไงได้ ผู้ใหญ่สั่งมาให้ดันก็ต้องดัน”

“อรเข้าใจค่ะ แต่อดโมโหไม่ได้” อรณีขืนตัวเมื่อรู้สึกว่ายอมให้เขากอดนานเกินไป “พี่ชัชช่วยปล่อยก่อนเถอะค่ะ เกิดใครมาเห็นเข้ามันจะไม่งาม อรไม่อยากเป็นขี้ปากพวกชอบนินทา”

“งั้นคืนนี้ไปดินเนอร์กันนะ ร้านเดิมที่อรชอบ พี่จะจองห้องวีไอพีไว้แล้วอรค่อยตามไปทีหลัง... นะครับ”

ชัชพลปล่อยมือ อรณีถอนหายใจโล่งอกรีบจ้ำเดินมาหน้าประตูรถ สีหน้าตระหนกของหล่อนทำให้ผู้กำกับหนุ่มรู้สึกใจเสีย ยิ่งคำพูดต่อมายิ่งทำให้เขาหน้าถอดสี

“พี่ชัชอย่าพยายามเลย”

“ทำไมล่ะ” ชัชพลถามเสียงอ่อย

อรณีหันมาสบตา ดวงตากลมโตแต่แน่วแน่ยิ่ง

“คืนนี้อรไม่ว่าง พรุ่งนี้มีบรีฟงาน มะรืนฟิตติ้งละคร หลังจากนั้นมีถ่ายแบบนอกสถานที่ ไม่มีคิวว่างสำหรับดินเนอร์ส่วนตัวเลย คงกินได้แต่ข้าวกองถ่าย พี่ชัชต้องชวนคนอื่นแล้วล่ะค่ะ”

“แต่พี่ว่า”

ไม่ทันที่ชัชพลจะได้อิดออด หล่อนก็ผลักประตูลงไปทันที ผู้กำกับหนุ่มมองตามร่างระหงไปด้วยความเสียดาย แต่ก็เดินตามลงไปติดๆ

เขาหลงรักอรณีตั้งแต่แรกเห็น...

หญิงสาวแสนสวยที่เคยมาแคสติ้งกับเขาตั้งแต่สมัยเข้าวงการ เคยให้ความช่วยเหลือเล็กน้อยโดยที่หล่อนอาจจะจำไม่ได้ แต่เขาจำได้แม่นยำ ภาพอรณีในวัยเยาว์ยังคงต้องตาติดใจ

เสียงข้อความจากโปรแกรมของโทรศัพท์มือถือราคาแพงระยับเรียกความสนใจอรณีได้ชะงัด ถึงกับสะบัดหนีมือแข็งแรงที่พยายามตามมาเกาะเกี่ยว ร่างสูงเพรียวก้าวยาว ๆ ไปให้พ้นจุดลับตา ป้องกันสายตาแพรวพราวทั้งจากของทีมงานและอาจจะมีนักข่าวที่มารอสัมภาษณ์ปะปนอยู่ด้วย

พอลับตาก็ก้มดูข้อความในมือถือที่ส่งมาจากใครบางคน

..รีบกลับนะ... มีของอร่อยให้ชิม...

ข้อความหน้าจอปรากฏแก่สายตาเรียกรอยยิ้มบางจนลืมสนใจทุกสิ่งรอบกาย รีบกดส่งตอบข้อความกลับไปอย่างรวดเร็ว

...หิว...

... รีบมานะ จะรอ...

อรณีอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นข้อความ รีบกดส่งตอบไปรวดเร็ว

…วันนี้วันเกิดนี่นา... รีบแน่นอน รอก่อนนะ...

...อืมมมม...

ประโยคสุดท้ายสั้นมากแต่ทำให้รอยยิ้มหล่อนกว้างกว่าเดิม จนแสงสุรีย์ที่เดินมาตามหลังจากคุยกับทีมงานเรื่องเหตุการณ์วุ่นวายเสร็จสรรพเรียบร้อยถึงกับชะงักไป เห็นอรณียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็ยิ่งสงสัย จะเข้ามาตามก็กลัวว่าจะขัดใจหล่อน เลยหนีไปสั่งคนขับรถให้ติดเครื่องรออย่างไม่สบอารมณ์นัก



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เอาเรื่องนี้มาลงสลับกับสูตรลับจับรักค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ^__^



lovereason2
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2560, 20:41:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 เม.ย. 2560, 20:41:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1072





<< บทที่ 1/1 ความสวยงามคือสิ่งสำคัญ   บทที่ 2 จะผิดไหมหากหัวใจต้องการไออุ่น >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account