ฝากรักไว้ในสายหมอก (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
มวยเกล้าผมวาง บนกล๋างกระหม่อม

แล้วเหน็บโอบล้อม ด้วยดอกเกี้ยวเกล้า
แดงเฮย...งามแต๊ บ่แลโศกเศร้า

สดใสเริงเลา ใคร่เฝ้าอยู่ใกล้
ผ่อจนเหลียวหลัง เป๋นดีใคร่ได้

โอบล้อมหัวใจ๋ ดวงนี้
แต่เก๊าเจ้าหวง สมแล้วว่าอี้

บ่ดีเด็ดเล่น เนอนายฯ.....



...........................................................................


เพราะความรัก ความผูกพันช่วงหนึ่งในวัยเยาว์

ที่เคยเติมเต็มหัวใจอันอ้างว้างของเขาให้อบอุ่นขึ้นมาได้

ความรู้สึกเหล่านั้นฝังแน่นอยู่ในใจตลอดมา

จนกระทั่งถึงวันนี้ที่เขากลับมาตามหาความรัก

ความผูกพันที่ได้ฝากไว้กับใครบางคน.



ฝากรักไว้ในสายหมอก

เป็นนิยายเรื่องแรกที่ได้รับการตีพิมพ์กับสนพ.กรียมายด์

ตอนนี้หมดสัญญาแล้วจึงเอามาทำเองค่ะ

ติดตามกันได้ในรูปแบบอีบุ๊คนะคะ




Tags: เกี้ยวเกล้า ไตรศูรย์ เชียงใหม่ ล้านนา โรงแรม ความรัก ความผูกพัน วัยเยาว์ สายหมอก

ตอน: ตอนที่ 12

“ป้าอิ่นขา ลอยกระทงที่ใกล้จะถึงนี่บ้านเรามีงานยี่เป็ง เกี้ยวขอไปจัดบู้ธที่งานได้ไหมคะ ไปกับลี่ก็ได้ค่ะ”

“เอาสิลูก เกี้ยวมาอยู่ที่นี่เกือบ 3 เดือนแล้วยังไม่ได้กลับบ้านเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า ป้าให้เกี้ยวพักหลายวันได้นะ แม่อ่อนจะได้ไม่ว่าป้าเอาได้”

“ขอบคุณค่ะป้าอิ่น เกี้ยวว่าจะแวะไปดูบ้านยายด้วย” เกี้ยวเกล้าพูดดวงตาเป็นประกาย ป้าอิ่นคำยิ้มอย่างเอ็นดู นึกแล้วแกก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ขายที่ดินผืนนั้นไป ทั้งที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่ยายเอื้อยแม่ของแกยกให้ แล้วยังจะบ้านหลังนั้นที่หลานสาวรักมากก็เกือบจะได้ขายทิ้งขายขว้าง เพราะดันไปอยู่ในที่ดินของคนอื่นทั้งที่มันตั้งอยู่ตรงนั้นมานับสิบๆ ปี โชคดีที่คนซื้อเป็นคนไว้เนื้อเชื่อใจได้ ทำให้เกี้ยวเกล้ายังสามารถรักษาบ้านหลังนั้นเอาไว้ได้ แม้ที่ดินผืนนั้นจะไม่ใช่ของแกแล้วก็ตาม

เสียงกระดิ่งเล็กๆ ที่แขวนไว้ตรงประตูดังขึ้น พอประตูเปิดออก เกี้ยวเกล้ายกมือไหว้สุภาพสตรีสูงวัย ร่างสมส่วนแต่งตัวภูมิฐานที่ยิ้มบางๆ ให้เธอ แต่อีกคนที่เดินตามมานั้นเป็นหญิงสาวหน้าหมวย แต่งตัวเปรี้ยวจี้ดทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม และไม่สนใจมองเธอแต่อย่างใด

“คุณอิ่นคำอยู่ไหมจ๊ะหนู”

“อยู่ค่ะ เชิญด้านในก่อนสิคะ”

“อ้าว คุณภัทรา สวัสดีค่ะ ดีจังที่วันนี้แวะมาได้ ไม่ทราบว่าวันนี้จะรับอะไรดีคะ” ป้าอิ่นคำเดินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง

“มีผ้าลายใหม่ๆ บ้างไหมคะช่วงนี้ อ้อ...อีกอย่างดิฉันพาหนูนีร่ามาดูพวกผ้าปูโต๊ะแบบที่ดิฉันเคยสั่งไปใช้ที่ร้านคราวก่อนน่ะค่ะ อยากได้อีกชุดเอาไว้สลับสับเปลี่ยนกัน” คุณภัทราตอบ

“อ๋อ ได้สิคะ ยินดีค่ะ” ป้าอิ่นคำยิ้มแย้มต้อนรับ แม้คนที่คุณภัทราพูดถึงจะแค่หันมามองและยิ้มให้แกแบบแกนๆ ก็ตามที

“ไปช่วยแสงหล้าเถอะลูก เดี๋ยวป้าดูแลทางนี้เอง” ป้าอิ่นคำหันมาบอกหลานสาวเบาๆ

“เด็กใหม่เหรอคะพึ่งเคยเห็น ทุกทีเห็นแต่แสงหล้า” คุณภัทราถาม มองเกี้ยวเกล้าเต็มตา

“หลานสาวน่ะค่ะ พึ่งดึงตัวมาช่วย เกี้ยวไหว้คุณภัทราสิลูก คุณภัทราเป็นเจ้าของ ‘โรงแรมเวียงคำแก้ว’ นี่ไงลูก แล้วยังเป็นลูกค้าประจำของร้านเราด้วยนะ” เกี้ยวเกล้ายกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมอีกครั้ง

“หน้าตาน่าเอ็นดูนะ ชื่ออะไรนะจ๊ะ” คุณภัทราถามด้วยรอยยิ้มใจดี

“เกี้ยวเกล้าค่ะ”

“นีร่ายืนจนเมื่อยแล้วนะคะคุณป้า” เสียงนั้นทำให้ทั้งสามหันไปสนใจหญิงสาวแต่งตัวจี๊ดจ๊าดที่ยืนอยู่ด้วยกัน หน้าตาของเธอแสดงออกถึงความรำคาญเต็มที่

“งั้นเชิญทางด้านนี้เลยค่ะ” ป้าอิ่นคำก้าวนำลูกค้าทั้งสองไปทางโซฟาด้านใน พอดีอีกด้านมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เกี้ยวเกล้าจึงเดินไปช่วยแสงหล้าที่กำลังเทคแคร์ลูกค้าอยู่

หลังจากวุ่นวายกับการดูแลต้อนรับลูกค้าพักใหญ่ พอว่างเกี้ยวเกล้าก็กลับมาช่วยป้าอิ่นคำที่กำลังจัดผ้าใส่ถุง โดยมีลูกค้าคนสำคัญทั้งสองนั่งรออยู่ที่โซฟา

“เสร็จพอดีลูก” ป้าอิ่นคำบอก

“เกี้ยวเอาไปส่งให้ลูกค้าที่รถเองค่ะป้าอิ่น” เกี้ยวเกล้าอาสาและเดินตามป้าอิ่นคำพร้อมถุงใส่ผ้าพะรุงพะรัง

“ดิฉันจะให้ยายเกี้ยวไปส่งให้นะคะ” ป้าอิ่นคำบอกคุณภัทรา

“รบกวนหนูหน่อยนะจ๊ะ พอดีป้าจอดรถไว้ที่โรงแรมน่ะ” คุณภัทราหันมาพูดกับเกี้ยวเกล้าอย่างเป็นกันเอง

“ด้วยความยินดีค่ะคุณภัทรา”

“เรียกป้าก็ได้จ้ะหนู ไปกันเถอจ้ะหนูนีร่า” ประโยคหลังหันไปชวนสาวจี๊ดจ๊าดที่ทำท่าไม่สนโลกอยู่ข้างๆ

เกี้ยวเกล้าเดินตามลูกค้าทั้งสองไปถึงหน้าโรงแรม 5 ชั้นที่ใหญ่โตพอสมควร ด้านบนที่เป็นป้ายชื่อโรงแรมขนาดใหญ่แกะสลักจากไม้ แม้จะเป็นอักษรไทยแต่ใช้รูปแบบการเขียนแบบ *‘ตั๋วเมือง’ ถัดลงมาเป็นอิฐสีแดงนำมาต่อกันเป็นผืนกว้างและยาวพอสมควรแกะสลักลายนูน บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวล้านนาสมัยโบราณ

เมื่อประตูเลื่อนเปิดออกพนักงานต้อนรับโค้งให้อย่างนอบน้อม เกี้ยวเกล้าอาจจะเคยเดินผ่านหน้าโรงแรมอยู่หลายครั้งแต่ไม่เคยเข้ามาสักที มีแต่แสงหล้าที่เอาของมาส่งให้ลูกค้าที่เป็นแขกของโรงแรมเป็นประจำ ข้างในตัวโรงแรมเองค่อนข้างโอ่โถงด้วยเพดานสูง มีโครงสร้างที่ผสมผสานระหว่างอิฐสีแดงกับไม้ แต่เน้นการตกแต่งด้วยไม้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟระย้าที่แขวนอยู่บนเพดานอยู่เป็นระยะ ตู้โชว์ ฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะที่จัดวางอยู่ตามจุดต่างๆ ล้วนแล้วแต่แกะสลักลวดลายวิจิตรตามแบบฉบับของช่างทางเหนือโดยเฉพาะ ไม่เว้นแม้ในส่วนของเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ และล็อบบี้ที่อยู่เยื้องกันด้านหน้า

นอกจากนี้หญิงสาวยังแอบตื่นตากับการแต่งกายของพนักงานที่เดินกันขวักไขว่ ผู้ชายใส่กางเกงขาก๊วย เสื้อแขนยาวแบบพื้นเมือง ห่มสไบเฉียง ส่วนพนักงานหญิงเกล้าผมสูงปักด้วยปิ่นเงิน นุ่งผ้าซิ่น ใส่เสื้อคอป้ายแขนกระบอกพอดีตัว ห่มทับด้วยสไบปักลายเช่นกัน และด้านหนึ่งตรงอกติดดอกกล้วยไม้สีชมพู อีกด้านเป็นป้ายชื่อ แต่ชุดของที่นี้เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ดูเป็นธรรมชาติ

ดีนะที่วันนี้เธอใส่ผ้าซิ่นและเสื้อสีออกฟ้าอ่อน ทัดผมด้วยดอกไม้สีขาวมา ไม่งั้นอาจมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพนักงานในโรงแรมก็เป็นได้ หญิงสาวคิดเล่นๆ ขณะเดินตามคุณภัทราไปห่างๆ แต่แล้วเท้าต้องชะงักกึกกับเสียงเอะอะที่ดังอยู่ตรงล็อบบี้ที่เดินผ่านมาเมื่อครู่ คุณภัทราเองก็หยุดเดินแล้วหันไปมองเช่นกัน ดูเหมือนกำลังมีความวุ่นวายเล็กๆ เกิดขึ้นตรงนั้น

“เขาอยู่ไหนไปบอกว่าฉัน...นีร่ามาหา” เกี้ยวเกล้ามองเห็นหญิงสาวจี๊ดจ๊าดคนนั้นกำลังยืนโวยวายใส่พนักงาน เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าพอเข้ามาถึงข้างในโรงแรมแล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เดินตามคุณภัทรามา

“ดิฉันบอกคุณแล้วไงคะว่าวันนี้แกยังไม่เข้ามาเลย คุณไม่ลองโทร.หาล่ะคะ” พนักงานตอบท่าทางเหมือนพยายามระงับอารมณ์เต็มที่

“ถ้าฉันโทร.ติดจะถามเธอทำไมล่ะ เธอต้องโกหกฉันแน่ๆ เลย”

“อะไรกันจ๊ะ อะไรกันหนูนีร่า” คุณภัทราเข้าไปหาและร้องถาม

“นีร่าถามหาไตรน่ะค่ะคุณป้า แต่พนักงานบอกว่ายังไม่เข้า เป็นไปได้ยังไงคะ จะเที่ยงอยู่รอมร่อแล้วนะคะ” เกี้ยวเกล้าสะดุดใจกับชื่อที่เป็นข้อพิพาทนั้น แต่...ในโลกนี้มีคนชื่อเหมือนกันตั้งเยอะแยะน่า เธอได้แต่ปัดไป

“อ๋อ เมื่อกี้ป้าก็บอกหนูแล้วไงว่าไตรเขาติดธุระที่อื่น เดี๋ยวคงกลับมาแล้วล่ะจ้ะ หนูจะรอไตรกลับมาหรือจะกลับพร้อมป้า เรื่องงานที่ร้านเดี๋ยวป้าบอกไตรไปดูให้เอง” คุณภัทราถามอย่างใจเย็น

“ถ้าเป็นอย่างที่คุณป้าพูดจริง นีร่ารอไตรอยู่ที่นี่ดีกว่าค่ะ” ตอบคุณภัทราไปทั้งที่หน้างอง้ำ

แต่ขณะเดียวกันกับที่พนักงานกระซิบกระซาบชี้ชวนกันมองไปที่ประตูทางเข้า เกี้ยวเกล้าหันมองตามแล้วก็ต้องตกใจของในมือแทบร่วง เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามาถนัดตา เขาหยุดยืนคุยกับพนักงานชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการหรือตำแหน่งอะไรที่ไม่ใช่พนักงานธรรมดาอยู่ไม่ไกล

“นั่นไง ไตร ไตรกลับมาแล้ว นีร่ามารอตั้งนาน” เจ้าของเสียงไม่ทักทายเปล่า เธอรีบจ้ำอ้าวไปหาร่างสูงด้วยความรวดเร็ว จนทำให้เขาต้องหันมาและแว่บหนึ่งที่มองเห็นเกี้ยวเกล้า ชายหนุ่มนิ่งงันไปชั่วอึดใจ

“นีร่ามีเรื่องปรึกษาไตรเยอะเลยนะ” ว่าพลางเกาะแขนเขาอย่างสนิทสนม

“ผมพึ่งกลับจากทำธุระมาน่ะ เดี๋ยวผมให้ผู้จัดการร้านเป็นคนดูแลได้ไหม วันนี้ผมต้องเคลียร์งานที่นี่ด้วย” เขาพูดขณะพยายามดึงแขนที่ถูกเกาะกุมไว้อย่างแน่นเหนียวให้หลุดออก ก่อนจะเดินเข้าไปหาผู้เป็นป้า โดยมีนีร่าหรือนิรามัย ตามมาติดๆ

“คุณป้าไปที่ร้านป้าอิ่นคำมาหรือครับ” ปากถามป้าแต่ตากลับจับจ้องร่างบางที่ยืนอยู่ใกล้ป้าอย่างไม่วางตา

“ใช่จ้ะ อ๊ะ! ขอโทษทีนะจ๊ะหนูเกี้ยวคงเมื่อยแย่ คนแก่นี่แย่จริงๆ เดี๋ยวป้าให้พนักงานเอาไปส่งดีกว่าจ้ะ”

“ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมเองก็ได้” ไตรศูรย์รีบรับถุงพะรุงพะรังมาจากมือเกี้ยวเกล้า

“เกี้ยวขอตัวเลยละกันนะคะคุณป้า” พอได้โอกาสจึงรีบขอตัว

“อ๊ะ เดี๋ยวหนูเกี้ยว อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ลำบากหนูแย่” คุณภัทรายื่นธนบัตรสีแดงสองใบให้ แต่เกี้ยวเกล้าจับมือผู้สูงวัยกว่าให้กำธนบัตรนั้นไว้ดังเดิม

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ลำบากอะไรเลยค่ะ เป็นบริการของที่ร้านเราอยู่แล้วค่ะคุณป้า เกี้ยวขอตัวนะคะ” เกี้ยวเกล้าพูดพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำให้การปฏิเสธของเธอดูนุ่มนวลขึ้น ก่อนจะยกมือไหว้คุณภัทราอีกครั้ง แล้วรีบหันหลังเดินออกไปโดยไม่เหลือบแลมาทางคนหน้าคมเข้มที่ยืนมองจนร่างบางนั้นลับสายตาไปสักนิด ขณะเดียวกันกับที่สายตาของนิรามัยมองท่าทางของชายหนุ่มและหญิงสาวที่เดินจากไปด้วยความไม่พอใจ

“หยิ่งจังนะคะพนักงานร้านนี้” อดไม่ได้จึงกระแหนะกระแหนขึ้นมา

“ป้าว่าไม่ใช่อย่างนั้นหรอกจ้ะ เขาเกรงใจต่างหาก หน้าตาน่าเอ็นดูเข้าที ไม่ติดว่าทำงานให้คุณอิ่นคำนี่ ชวนมาทำงานที่นี่แล้วนะเนี่ย” คุณภัทราพูดอย่างไม่ออมน้ำใจนิรามัยสักนิด ไตรศูรย์ยิ้มกว้างราวกับว่าป้ากำลังชมตัวเองอยู่ก็ไม่ปาน ทำให้นิรามัยค้อนคว่ำหน้าหงิกงอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น

“คุณป้าจะกลับเลย หรือว่าจะขึ้นไปหาคุณลุงกับนายตุลก่อนครับ”

“ไม่ดีกว่า ป้านัดเพื่อนไว้ที่ร้านเสริมสวยน่ะจ้ะ เอาของไปขึ้นรถเลยดีกว่า เอ่อ...นี่ไตร วันนี้ตาตุลมาทำงานสายมาก พึ่งออกมาพร้อมป้านี่เอง ไม่รู้จะโดนลุงเราเฉ่งเอาหรือเปล่า ยังไงช่วยไปดูน้องด้วยล่ะ” ประโยคหลังคุณภัทรากระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน

“ได้ครับคุณป้า เดี๋ยวขึ้นไปผมแวะไปดูนายตุลก่อนละกันครับ” ไตรศูรย์กำลังจะเดินไปส่งคุณภัทราที่รถ

“ไตร นีร่าจะรออยู่ตรงนี้นะคะ” นิรามัยยังไม่ยอมไปไหน ชายหนุ่มระบายลมหายใจหนักหน่วง ก่อนจะหันไป

“คุณมีธุระสำคัญก็คุยกับผู้จัดการที่ร้านได้เลยครับนีร่า ถ้ามีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงเขาจะมาปรึกษาคุณลุงกับผมเอง ผมไม่อยากข้ามหน้าข้ามตา เขาเป็นพนักงานและมีหน้าที่ที่ต้องทำเราก็ควรให้เกียรติเขา ให้เขาทำหน้าที่ของเขาเถอะนะ” เขาเอ่ยยืดยาวแต่ยังคงสีหน้าเรียบสนิท ทำให้นิรามัยไม่พอใจมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งสองป้าหลานหาสนใจเธอไม่ พากันออกไปทางประตูด้านหลังเพื่อไปยังลานจอดรถของโรงแรม






กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ค. 2560, 11:03:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ค. 2560, 11:03:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 986





<< ตอนทที่ 11   ตอนที่ 13 >>
แว่นใส 5 พ.ค. 2560, 20:45:32 น.
เจอกันละ


กานพลู 10 พ.ค. 2560, 13:14:20 น.
อิ อิ ลุ้นๆจ้าา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account