ฝากรักไว้ในสายหมอก (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
มวยเกล้าผมวาง บนกล๋างกระหม่อม

แล้วเหน็บโอบล้อม ด้วยดอกเกี้ยวเกล้า
แดงเฮย...งามแต๊ บ่แลโศกเศร้า

สดใสเริงเลา ใคร่เฝ้าอยู่ใกล้
ผ่อจนเหลียวหลัง เป๋นดีใคร่ได้

โอบล้อมหัวใจ๋ ดวงนี้
แต่เก๊าเจ้าหวง สมแล้วว่าอี้

บ่ดีเด็ดเล่น เนอนายฯ.....



...........................................................................


เพราะความรัก ความผูกพันช่วงหนึ่งในวัยเยาว์

ที่เคยเติมเต็มหัวใจอันอ้างว้างของเขาให้อบอุ่นขึ้นมาได้

ความรู้สึกเหล่านั้นฝังแน่นอยู่ในใจตลอดมา

จนกระทั่งถึงวันนี้ที่เขากลับมาตามหาความรัก

ความผูกพันที่ได้ฝากไว้กับใครบางคน.



ฝากรักไว้ในสายหมอก

เป็นนิยายเรื่องแรกที่ได้รับการตีพิมพ์กับสนพ.กรียมายด์

ตอนนี้หมดสัญญาแล้วจึงเอามาทำเองค่ะ

ติดตามกันได้ในรูปแบบอีบุ๊คนะคะ




Tags: เกี้ยวเกล้า ไตรศูรย์ เชียงใหม่ ล้านนา โรงแรม ความรัก ความผูกพัน วัยเยาว์ สายหมอก

ตอน: ตอนที่14​



ภายในร้านอาหารที่อยู่ติดกับร้านอิ่นคำ ไตรศูรย์กับเพื่อนอีกสองคนนั่งทานข้าวกลางวันกันอยู่

“อุตส่าห์ถ่อสังขารมาจากเชียงรายทั้งที แล้วจะกลับเย็นนี้เลยน่ะนะไอ้เก้ง” วิทย์เปรยกับเก้ง เพื่อนคนที่ไปชีวิตอยู่เชียงรายบ้านเกิดหลังจากเรียนจบพร้อมกัน

“บอกแล้วไงว่าฉันมาทำธุระ ไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยว รอไอ้อ้วนมาจากตรังก่อนแล้วเราค่อยนัดเจอกันให้เต็มคราบอีกที แกก็ว่าแต่ฉันไอ้วิทย์ นี่ฉันอุตส่าห์มาตั้งไกลไอ้ไตรมันยังให้มาเจอที่ทำงานมันอีก มันลงทุนไหมล่ะ จะบ้า! ” เก้งไม่วายหันไปแขวะคนที่นั่งเงียบฟังเพื่อนคุยกันมาตั้งนาน

“แกเล่นมากระทันหันนี่หว่า ช่วยไม่ได้ฉันมีงานต้องเคลียร์เยอะ” ไตรศูรย์ว่า

“ทั้งปี ดีนะโว้ยที่มันยังเปลี่ยนบรรยากาศมากินร้านใหม่ๆ มั่ง ทุกทีเอะอะก็เข้าร้านที่โรงแรมมันยันเต” เก้งบ่นติดระอา

“อย่าไปว่ามันเลยว่ะ ช่วงนี้มันวุ่นจริงๆ แหล่ะ ไหนจะงานที่นี่ ไหนต้องดูเรื่องงานให้น้องชายมันอีก ไหนจะเรื่องบ้าน เรื่องที่” วิทย์แก้ต่างให้ ก่อนหันมาถาม “เออ แล้วไอ้ตุลน้องแกเป็นไงมั่งวะ เห็นกลับมาตั้งพักใหญ่แล้วนี่”

“ก็เหมือนเดิม พอคุณลุงว่าเข้าหน่อยก็ไม่ยอมกลับบ้าน คุณป้าก็ตามใจด้วยการซื้อคอนโดฯ กลางใจเมืองให้อยู่ เลยยิ่งหายหัวเข้ากลีบเมฆเลยทีนี้” เขาบอกเล่าตามประสามากกว่าจะบ่นว่าน้องชายจริงจัง

“แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะวะ เห็นตอนเรียนอยู่น้องแกก็ใช่ย่อยนะนั่น” เก้งที่พึ่งรับรู้ข่าวสารถาม อดเป็นกังวลแทนเพื่อนไม่ได้

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ทำอะไรได้ก็คงทำให้ดีที่สุดนั่นแหล่ะ”

“ฉันว่ายังไงเรื่องมันก็ต้องมาจุกอกแกเหมือนเดิมอยู่ดีแหล่ะวะไอ้ไตร” วิทย์พูดด้วยรู้ถึงความเป็นไปในครอบครัวนี้ค่อนข้างดี และยังอดเป็นกังวลแทนไตรศูรย์อีกคนไม่ได้

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้คิดอะไร” เป็นคำตอบที่ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนสนิททั้งสองมากนัก เพราะหากเป็นเรื่องครอบครัวแล้ว ไตรศูรย์มักไม่เคยมีปัญหา และอ้าแขนรับทุกสิ่งทุกอย่างเสมอไม่ว่าดีหรือร้ายโดยไม่เคยปริปากบ่นสักนิด

“เป็นงี้ทุกทีสิน่า” วิทย์ถอนหายใจส่ายหน้ากับท่าทีของเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนถามต่อ “ว่าแต่เรื่องบ้านกับที่ที่โน่นล่ะวะ ไปถึงไหนแล้ว”

“บ้านอะไรวะ” เก้งผู้อยู่ไกลและตกข่าวเสมออดถามขึ้นไม่ได้

“ก็ไอ้ไตรน่ะสิ มันไปซื้อที่แถวอำเภอฮอด ตอนนี้ก็ซ่อมบ้านเก่าเขาอยู่ ไม่ใช่บ้านของมันนะโว้ย! แกฟังให้ดี ไม่ใช่บ้านของมัน แต่อยู่ในที่ดินของมันน่ะ เข้าใจหรือเปล่า? แต่ฉันพูดเองยังงงเองเลยว่ะ” วิทย์เพื่อนผู้ปากไวทำหน้าที่สาธยายแทนไตรศูรย์ ที่ไม่เคยอ้าปากทันเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

“ยังไงวะ” เก้งไม่วายงงตามไปด้วย จึงหันมาถามไตรศูรย์

“ก็ไม่ยังไงหรอกฉันแค่อยากได้ที่นั่น ส่วนบ้านก็อยากให้อยู่ที่เดิมฉันมีเหตุผลส่วนตัวน่ะ”

“เหตุผลต้องพิเศษแน่เลยว่ะ หรือว่า...อ๊า จะเกี่ยวกับสาวๆ ” ไตรศูรย์ไม่ต่อคำของเก้ง ทำหูทวนลมเสียอย่างนั้น “ไม่ตอบอย่างนี้ต้องใช่แน่ๆ เลย แต่ก็ดีว่ะแกจะได้ตบได้แต่งกะเค้าซะที นี่ถ้าเปลี่ยนได้เหมือนรถฉัน

ถอยคนที่ 4-5 ออกมาแล้ว ไอ้วิทย์เองก็ลูกจะเป็นหนุ่มอยู่แล้ว แกยังไม่มีทีท่าจะตบจะแต่งซักทีมัวทำอะไรอยู่ว้า” เก้งถามพลางส่ายหน้า

“ทำงานไง” ไตรศูรย์ตอบเหมือนกวน แต่มันเป็นความจริง

“ระวังนะโว้ย ไม่ยอมมีใครสักที เดี๋ยวนีร่ากลับมาหาอีกแกจะไม่รอด ฮ่าๆ ๆ ๆ ” วิทย์แกล้งขู่ตบท้ายอย่างเห็นเป็นเรื่องขัน

“ไอ้วิทย์แกอย่าพูดไป” ไตรศูรย์ปรามเพื่อนอย่างรำคาญ

“เฮ้ยๆ! ดูนั่นสิวะไอ้ไตร นั่นพนักงานโรงแรมแกหรือเปล่าวะ สวยว่ะ น่ารักสุดๆ ” เก้งตาโตกับภาพที่เห็น ทำให้ไตรศูรย์และวิทย์ต้องหันไปมองตาม หญิงสาวในชุดพื้นเมืองเดินเข้ามาในร้าน พร้อมชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีที่ไตรศูรย์คุ้นหน้า ทั้งสองไม่ได้มองมาทางโต๊ะพวกเขาซึ่งอยู่ด้านใน แต่เลือกนั่งโต๊ะติดกับประตู โดยร่างบางนั้นนั่งหันหลังให้เขา

“มากับแฟนนี่หว่า” เก้งทำท่าผิดหวังอย่างแรง

“แกมีลูกแล้วนะ เดี๋ยวฉันฟ้องลูกแกหรอก” วิทย์ว่า ก่อนหันไปมองอีกที “แต่ก็...น่ารักดีจริงๆ แหล่ะว่ะ อยู่แผนกไหนวะไอ้ไตร ชุดสีนี้ ทำไมไม่เคยเห็นวะฉันก็มาหาแกออกบ่อย หรือเป็นพนักงานใหม่” แล้วก็ออกอาการกระหายใคร่รู้อีกคน

“เปล่า เค้าอยู่ร้านผ้าอิ่นคำข้างๆ นี่ไง แกไม่เคยเห็นหรอก” ไตรศูรย์บอกเสียงเรียบ แต่ใจกลับพะวักพะวน เมื่อมองไปเห็นด้านหลังของเธอ ผมมวยที่มีปิ่นปักผมเงินยาวระย้าสะบัดไปมายามเธอหันทางโน้นทางนี้และพูดคุยกับผู้ชายคนนั้น เสื้อแขนกระบอกพอดีเอว พอนั่งชายเสื้อจะร่นขึ้นทำให้เห็นเข็มขัดเงินเส้นสวยชัดเจน โชคดีที่เห็นแค่เข็มขัด ชายหนุ่มคิดเบาใจขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่วายจะรู้สึกหงุดหงิด ยิ่งเห็นหน้าระรื่นของผู้ชายคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอยิ่งทำให้ความรู้สึกคุกรุ่น ไหนบอกว่าเป็นแค่เพื่อนไง เขาค่อนขอดอยู่ในใจ

“เฮ้ยๆ ๆ ทำเป็นไม่สนใจ แต่ทำไมมองเขาอย่างนั้นวะ” วิทย์แซว ไตรศูรย์จึงได้รู้ตัวและดึงสายตากลับมาแทบทันที

“อยู่ใกล้ขนาดนี้ เป็นฉันหน่อยนะไม่ปล่อยให้รอดเงื้อมมือหรอก” เก้งเปรยตามนิสัยเจ้าชู้เรื่อยเจื้อย

“เออใช่ ยิ่งโสดอย่างแกนะไอ้ไตร แต่ดูท่าไอ้นั่นคงไม่ใช่แฟนมั้ง” วิทย์พูดพลางมองไปทางโต๊ะนั้นอย่างสังเกตแบบไม่ยอมเลิกรา

“ไม่สำคัญโว้ย! ถ้ายังไม่แต่งกันยังมีสิทธิ์ลุ้นโว้ย ว่าแต่แกกล้าหรือเปล่าไอ้ไตร แน่จริงจีบเลยดิ” เก้งหันมายุต่อ

“มันคงไม่กล้าหรอกว่ะ อย่างไอ้ไตรมันคงได้แต่มองเท่านั้นแหล่ะ” วิทย์สบประมาทสมทบเป็นการท้าทายและยั่วยุไปในตัว

“เอางี้ไอ้ไตร ฉันท้าแกเลย ถ้าแกจีบได้คราวหน้าที่ไอ้อ้วนขึ้นมาจากตรัง ฉันเลี้ยงพวกแกมื้อใหญ่เลยเอ้า! ” เก้งไม่ยอมแพ้ ไตรศูรย์ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ เขาชินกับการท้าทาย สบประมาท ยั่วยุในทุกเรื่องของเพื่อนแล้วล่ะ ตลอดเวลาที่เรียนมาด้วยกันเขาเจอไม้นี้มานับครั้งไม่ถ้วน บ่อยครั้งที่เขาพลอยตกหลุมพรางไปด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เวลาอยู่ด้วยกันพวกเขามักจะคุยกันบ้าๆ บอๆ ความที่เขาเป็นคนพูดน้อยที่สุดในกลุ่ม และไม่เคยถือโทษโกรธเพื่อน จึงตกเป็นเป้าหมายการถูกแกล้ง อำ รวมถึงการท้าทาย ยุแหย่ต่างๆ นี่ด้วย ไม่เว้นแม้แต่ตอนนี้ที่วัยก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว

“เฮ้ย! ฉันเอาด้วยไอ้เก้ง แต่มีข้อแม้ว่าแกต้องพาน้องเขามาเจอพวกฉันกับไอ้อ้วนนะโว้ย! ว่าไงไอ้ไตร” วิทย์ที่บ้าไม่แพ้กันถาม

“ฉันไม่เล่นกับพวกแกหรอก” ไตรศูรย์ปฏิเสธอย่างไม่สนใจใยดีกับคำยุยงนั้น ทำให้เพื่อนทั้งสองทำท่าผิดหวังเสียเต็มประดาที่ยุไม่ขึ้น เขาไม่ชอบล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และโดยเฉพาะกับผู้หญิงคนนี้ เขาไม่อยากเอามาล้อเล่นแม้เพียงนิด

เกี้ยวเกล้าวางเมนูลงเมื่อสั่งอาหารเสร็จ พลางมองพีระที่กำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่

“ยัยอ๋อมถึงไหนแล้วล่ะ” หญิงสาวเอ่ยถาม หลังจากที่เห็นเขาวางสายแล้ว

“ใกล้ถึงแล้วล่ะ ตรงมาที่นี่ก่อนยังไม่ได้ไปบ้านพีท” พีระตอบ เขานัดอ๋อมแอ๋มมาที่นี่เพื่อที่จะได้เจอกับเกี้ยวเกล้าด้วย เนื่องมาจากที่เขาพยายามง้อแฟนสาวสำเร็จแล้ว แต่ปัญหามันมีอยู่ว่าอ๋อมแอ๋มยังคงหวาดระแวงเรื่องเขากับเกี้ยวเกล้าไม่หาย จนพีระต้องพามาเจอกับเกี้ยวเกล้าเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ และเกี้ยวเกล้าเองก็อยากคุยกับอ๋อมแอ๋มอย่างจริงจังเสียที เพราะเมื่อก่อนเธอไม่เคยได้คุยหรือเคลียร์ตัวเองในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เธอคิดว่านั่นอาจจะเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดนี้

“เกี้ยวดีใจนะที่พีทให้โอกาสตัวเองซะที” เกี้ยวเกล้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ

“ขอบคุณเกี้ยวจริงๆ แต่เราก็ยังอยากอยู่อย่างนี้อีกสักพัก อ๋อมเขาก็เลือกเองด้วย พีทว่าดีเหมือนกันที่เว้นที่ว่างให้แต่ละคนได้หายใจหายคอกันบ้าง ทำให้เรามีสติกันขึ้นมากเลย” อาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับที่อ๋อมแอ๋มโทร.เข้ามาอีกครั้ง เมื่อพีระพูดไปสองสามประโยค ร่างของอ๋อมแอ๋มก็เดินเข้าประตูมาและตรงดิ่งมาที่โต๊ะ

“ว่ายังไงยัยเกี้ยว แต่งตัวแบบนี้เหรอเนี่ย” ยังไม่วายทักทายแบบกัดๆ พีระขยับเก้าอี้อีกตัวที่ติดกันให้แฟนสาว

“อืมม์ เวลาทำงานก็ใส่อย่างนี้แหล่ะ อ๋อมอยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งเลยนะ” เกี้ยวเกล้าว่า ขณะที่อ๋อมแอ๋มกำลังจะนั่งลงนั้นกลับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างขวางข้ามผ่านเกี้ยวเกล้าไป

“คุณไตร สวัสดีค่ะคุณไตร” เสียงของอ๋อมแอ๋มดังผ่านหลายโต๊ะไปยังชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังเช็คบิลอยู่ เขาหันมามองแล้วชะงักไปเช่นกัน ก่อนจะยิ้มให้เจ้าของเสียงแสบแก้วหูนั้นอย่างยินดี ทำให้เกี้ยวเกล้าและพีระที่หันมองตามตาค้าง ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน

“สงสัยเห็นเราตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วแน่ๆ ” พีระเปรยด้วยความกริ่งเกรง เป็นเหตุให้อ๋อมแอ๋มที่ยังไม่ยอมนั่งหันมามองเกี้ยวเกล้าอย่างแปลกใจ เพียงครู่ก็หันไปทางไตรศูรย์ที่เดินตรงมายังโต๊ะพร้อมเพื่อนอีกสองคน

“สวัสดีครับคุณอ๋อมแอ๋ม เอ่อ...คุณ...” ไตรศูรย์มองไปที่พีระ

“ผมพีทไงครับ เราเคยเจอกันมาแล้ว เกี้ยวคงบอกคุณแล้วว่าเราจะมากินข้าวกัน คือ...อ๋อมเป็นแฟนผมครับ” พีระรีบบอกอย่างคนร้อนตัว ด้วยกลัวจะเจอเหมือนคราวก่อน

ไตรศูรย์เห็นเจ้าของใบหน้าหวานมองเขาอย่างกระอักกระอ่วนใจ ชายหนุ่มจึงยิ้มและพยักหน้ารับ

“อ๋อ...ครับ ตามสบายนะครับ พอดีผมกับเพื่อนก็มากินข้าวที่นี่เหมือนกัน” แต่อ๋อมแอ๋มมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างงงๆ

“คุณไตรแฟนเกี้ยวไงอ๋อม” พีระเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของแฟนสาว นั่นยิ่งทำให้อ๋อมแอ๋มเบิ่งตาโต ชี้นิ้วไปทางเกี้ยวเกล้าสลับกับไตรศูรย์ไปมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่พีระบอก และไม่เพียงแต่อ๋อมแอ๋มเท่านั้น แต่เพื่อนทั้งสองของไตรศูรย์ก็อ้าปากค้างเช่นกัน

“จริงเหรอ? ” อ๋อมแอ๋มถามเหล่ตามองเกี้ยวเกล้าอย่างจับผิด หรือเป็นแผนของพีระกับเกี้ยวเกล้าที่ตบตาเธอ แม้เธอจะเคยเห็นท่าทีสนิทชิดเชื้อระหว่างไตรศูรย์กับเกี้ยวเกล้ามาก่อน และพอรู้มาเหมือนกันว่าไตรศูรย์สนิทสนมกับที่บ้านของเกี้ยวเกล้า แต่เธอคิดอยู่เสมอว่าเกี้ยวเกล้านั้นมีใจให้กับพีระมาตลอดและคงไม่ยอมตัดใจง่ายๆ ส่วนพีระนั้นไม่ต้องพูดถึงว่ามีใจให้ฝ่ายนั้นขนาดไหน นั่นเป็นหนามยอกใจเธอมาตลอดเช่นกัน



ตอนนี้อีบุ๊ค ‘ฝากรักไว้ในสายหมอก’ ลงขายแล้วนะคะ
ตามลิ้งค์ที่แนบมาค่ะ ใครสนใจอยากเก็บพี่ไตร+น้องเกี้ยวเข้ากรุสมบัติ เข้าไปโหลดกันได้รัวๆเลยจร้า
หรือสนใจนิยายเรื่องอื่นๆในนาม ‘พิริตา’ และ ‘อเมทริน’ ก็สามารถเข้าไปโหลดกันได้นะคะ ทั้งตัวอย่างและอีบุ๊ค
ขอบคุณค่า
meb
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=Y
ToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzEyOTE
2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiNTc3OTMiO30
hytexts
https://www.hytexts.com/ebook/B012031-ฝากรักไว้ในสายหมอก
ookbee
http://www.ookbee.com/shop/BookInfo?pid=a927a107-7f6d-4c43-9301-a8c03f420109&affiliateCode=1168c15837084f8bbb5cf6fde0ca707d
นายอินทร์ปัณณ์
https://naiin.com/product/detail/214536




กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ค. 2560, 10:10:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2560, 10:10:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 868





<< ตอนที่ 13   ตอนที่ 15 >>
แว่นใส 15 พ.ค. 2560, 17:38:34 น.
จะตอบยังไงน๊า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account