ร้อยรักพรางตะวัน
If no obstacle is found.
Do you know …What true love is?

เรื่องของนักแสดงสาวชื่อดังจอมเหวี่ยงวีนกับวิศวกรหนุ่ม ทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย แต่ความสนิทสนมทำให้ความสัมพันธ์ก้าวข้ามขีดคำว่า 'เพื่อน' ไปไม่ได้

ถ้าไม่มีอุปสรรคขัดขวางความรักระหว่างเพื่อนที่จำกัดไว้อาจจะไม่คืบหน้า และหากปล่อยเวลาผ่านไปอาจต้องเสียความรักนั้นไปให้ใครคนอื่น

เอาใจช่วยเพื่อนสนิทสองคนให้ค้นพบรักแท้ของกันและกันและก้าวผ่านอุปสรรคทั้งปวงเพื่อ ‘ความรัก’ ด้วยกันค่ะ

Tags: ร้อยรักพรางตะวัน, อรณี, ภาณุ, รักดราม่า, โรแมนติก, เพื่อนสนิท, แอบรัก

ตอน: บทที่ 9/1 เรื่องบังเอิญ 50%


รถยุโรปหรูมุ่งสู่พัทยาด้วยความเร็วปานกลางมีน่านฟ้าเป็นคนขับและคอยแต่จ้อเรื่องสัพเพเหระไม่หยุด นาน ๆ ภาณุถึงจะหันมาตอบสักครั้งด้วยความรำคาญ

“นายว่าไงวะ... ณุ”

เงียบไม่มีเสียงตอบรับหลังจากเล่าเสียยืดยาวก็ยังไม่ได้รับความเห็นจากคนนั่งข้าง น่านฟ้าจึงถามย้ำ

“เฮ้! เป็นไรวะ นั่งเงียบ เหม่อตลอดทาง” น่านฟ้าดึงแขนเรียก “อย่าบอกนะว่ากำลังมีความรักถึงนั่งฝันหวานอยู่คนเดียวเนี่ย ผู้หญิงที่ไหนโชคดี ฉันรู้จักรึเปล่า”

“ไม่ใช่หรอกน่า” ภาณุละสายตาจากความมืดด้านนอกหันมา “คิดเรื่องงานเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“มีอะไรปรึกษาได้นะเว้ย อย่าทำเป็นพวกปากหนักมันน่ารำคาญ”

ภาณุได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะถามเรื่องคาใจ

“ตกลงไปพัทยาทำไม”

“ไปดูที่ทำเฟสสามกัน ท่าทางจะได้ทำเลดีคุณหญิงแม่เร่งยิกเลย”

“แล้วต้องค้างรึเปล่า ไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนสักชุดนึง”

ภาณุก้มมองตัวเอง สีหน้ากังวล เพราะน่านฟ้าเอารถมารับถึงไซด์งานโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าทำให้ต้องทิ้งรถไว้และไม่ได้เตรียมความพร้อมมาก่อน น่านฟ้าเหลือบมอง ยักไหล่เหมือนเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย

“เอาน่า แค่เสื้อผ้าชุดเดียวไปหาเอาข้างหน้า”

“ถ้าบอกก่อนไม่ต้องเสียเงินซื้อ” ภาณุไม่วายบ่น “คราวหน้าบอกกันก่อนนะเว้ย ไม่ชอบแบบนี้ไม่ได้เตรียมตัว”

“เออ” น่านฟ้าลากเสียงยานคางตอบขอไปที “โทษที พอดีรีบว่ะ เดี๋ยวคุณหญิงแม่เปลี่ยนใจไม่ให้ขึ้นมาจะชวด ฉลู ขาล เถาะ กันพอดี”

“ให้อะไรไม่ให้อะไร งงแล้วนะเนี่ย ถึงขนาดรีบแบบนี้”

“เออสิวะ คุณหญิงแม่ไม่รู้นึกครึ้มอะไร ให้พานายมาหาที่โรงแรมบอกจะชวนไปดูที่ดินทำคอนโดแถวพัทยากลาง แพงนะเว้ย แต่ถ้าได้ล่ะก็เงินเห็น ๆ ช่วยหน่อยละกัน ไปดูเองตัดสินใจไม่ถูก”

“เข้าใจ ๆ แล้วคืนนี้พักที่ไหนกัน”

“โรงแรมห้าดาวติดหาดของคุณหญิงแม่ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวให้เปิดห้องชั้นบนสุดวิวพานอราม่าให้เลยก็ได้”

“ไม่ต้องเว่อร์ขนาดนั้น แค่ถามเฉย ๆ” ภาณุบอกปัด

“ต้องเอาใจหน่อยสิวะ” น่านฟ้าตบไหล่เพื่อน “นายเป็นคนที่แม่ฉันเชื่อที่สุดแล้ว”

ภาณุถอนหายใจหนักหน่วง เพราะน่านฟ้าเป็นคนคิดเร็วทำเร็วและไม่ค่อยเสียดายเงินตามประสาลูกคนมีอันจะกิน ถ้าไม่ได้เขาช่วยตัดสินใจ น่านฟ้ามักจะโลเลและตัดสินใจผิดพลาดเสมอ เป็นผลให้ความไว้วางใจจากครอบครัวให้ดูแลกิจการใหญ่ไม่สามารถปล่อยมือได้ในเวลาอันใกล้ จำเป็นที่เขาจะต้องช่วยตามประสาเพื่อนที่ปรารถนาดีต่อเพื่อนรัก



สายลมพัดพลิ้วแรงจนเส้นผมที่เซ็ททรงสวยปลิวไสวยุ่งเหยิงผิดรูปผิดทรง บรรยากาศเป็นใจของดวงอาทิตย์สีส้มกำลังจะพ้นขอบฟ้าลงทุกขณะ แต่บรรยากาศของคู่รักที่ควรจะหวานชื่นท่ามกลางแสงสีทองงดงามกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อใบหน้านวลสวยแตะแต้มเครื่องสำอางบางงอง้ำ ทำให้ชายหนุ่มอดกระเซ้าไม่ได้

“ทำหน้าสวย ๆ หน่อยสิครับ... เรากำลังอินเลิฟกันอยู่นะ”

“อินเลิฟบ้านนายสิ ลมแรงขนาดนี้ผมยุ่งเสียทรงน่ารำคาญชะมัด” อรณีจ้องตอบดวงตาวาวขุ่นเคือง “ฉันจะถ่ายใหม่”

“ไม่เอาน่า กลั้นใจเล่นให้จบ ๆ ไปเถอะครับ ตะวันจะตกดินแล้วมัวแต่ยึกยักเดี๋ยวได้มาถ่ายซ่อมวันหลังมีวีนอีก ผมก็ไม่อยากกอดพี่หลายเทคนักหรอกกลัวหน้ามืดตบผมล่ะยุ่งเลยเดี๋ยวเป็นข่าว”

“จะได้เป็นข่าวเพราะปากดีอย่างนี้ไงเล่าจะโดนตบไม่รู้ตัว”

อรณีเค้นเสียงลอดไรฟัน แสร้งยิ้มและรับกอดโดยไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์ แต่กริยาไม่เป็นธรรมชาติปรากฏผ่านสายตาคนนั่งหลังจอมอนิเตอร์ จนในที่สุดก็ทนไม่ได้

“เทค! คุณเป็นอะไรของคุณ อรณี อินเนอร์ไปไหนหมด ยิ้มหวาน ซี้งจิกตาจิกหมอนให้สมกับเป็นซีนโปรโมทหน่อยสิ นี่อะไรกอดกันแล้วทำตัวแข็งทื่อยังกับท่อนไม้ หน้าตาก็ถมึงทึงเหมือนกับโกรธกันมาสักสิบปี ทำตาหยาดเยิ้มแบบรักใคร่ดูดดื่มน่ะ ทำเป็นรึเปล่า”

เงียบไปทั้งกอง ทุกอย่างหยุดชะงัก เพราะไม่ค่อยได้เห็นผู้กำกับหนุ่มออกอาการหงุดหงิดโดยเฉพาะกับอรณี แต่ไม่ใช่แค่หล่อนที่โดนคนเดียว

“คุณก็ด้วยนะ ศรุต ผมรู้ว่าคุณเชี่ยวกว่าที่คิดอย่าทำเป็นยืนตัวเกร็งน่ารำคาญจริง”

ชัชพลเท้าเอวยืนจังก้าหน้าจอมอนิเตอร์ รอบตัวราวกับหยุดเคลื่อนไหว ต่างพากันมองไปทางอรณีที่ยังคงตีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะถอนหายใจโล่งอกกันเป็นแถวเมื่ออรณีไม่วีนกลับ

“ขอโทษค่ะพี่ชัช... อรขอใหม่อีกรอบนึง” หล่อนมองไปรอบบริเวณแล้วร้องเรียก “เจ้!”

ผู้จัดการสาวแว่นคว้าอุปกรณ์แต่งสวยพร้อมช่างหน้าผมคู่ใจเข้าไปจัดแจงอย่างเร็วรี่ ในขณะที่ศรุตยืนยิ้มขำอยู่ข้างกายหลังผละออกห่างหญิงสาวที่ดูจะหงุดหงิดพอตัวเพราะถูกเอ็ด

“หน้าไม่สวยเลยที่รัก ท่าทางพรุ่งนี้เราได้มาถ่ายซ่อมฉากนี้กันอีกแน่งบคงบานตะไท ผมละเห็นใจจริง ๆ”

“หุบปากไปเลย” อรณีจ้องตาดุใส่ “นายก็โดนด้วยเหมือนกันนั่นล่ะ”

“แต่ผมว่า คราวนี้สงสัยพี่อรคนสวยจะโดนท่านประธานเรียกเข้าห้องเย็นอีกแน่ โทษฐานไม่ตั้งใจทำงาน”

อรณีละสายตาจากกระจกหันไปคาดโทษ

"นี่!อยากให้งานเสร็จจริง ๆ รึเปล่าเนี่ย ขัดฉันได้ตลอดสิ” อรณีบ่นอุบ

ท่าทางหงุดหงิดเหลือประมาณของนางเอกสาว ไม่คลาดสายตาชัชพลที่มองอยู่ ผู้กำกับหนุ่มส่งสายตาเป็นห่วงแต่หล่อนก็ไม่หันกลับมามอง



แสงไฟระยิบทั่วบริเวณเมื่อมองจากชั้นเกือบบนสุดของเดอะมิวส์ โรงแรมหรูระดับห้าดาวริมหาดจอมเทียน ที่ยังคงสว่างไสวในเมืองไม่เคยหลับอย่างพัทยา ดั่งสวรรค์ของนักเดินทางทั่วโลกที่ต่างต้องการมาเยือนและสัมผัสกลิ่นอายชายทะเลชื่อเสียงติดอันดับโลก

ภาณุในเครื่องแต่งกายชุดเดิมปลายแขนเสื้อเชิ้ตตลบพับต่ำกว่าศอกมองเหม่อออกไปริมระเบียงอย่างครุ่นคิด เรื่องที่คุยกับคุณหญิงแม่ของน่านฟ้ายังติดอยู่ในใจจนข่มตาหลับไม่ได้ ต้องออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ผ่อนคลาย

“ไอ้ณุ เสื้อผ้าชุดใหม่หามาให้แล้ว วางอยู่บนโซฟา ตามสบายนะ”

น่านฟ้าแต่งกายสะอาดเอี่ยมพรมน้ำหอมฟุ้งเตรียมท่องราตรีตะโกนบอกจากด้านในห้อง

“ขอบใจ” ภาณุตอบรับสั้นอย่างเคย มองแสงไฟท้องถนนเบื้องล่างครุ่นคิด

“ฉันนัดเพื่อนไว้ ไปด้วยกันไหมวะ”

“ไม่ไปหรอก ตามสบายนายเถอะ”

“โอเค... คืนนี้อาจจะไม่กลับ ยังไงก็พรุ่งนี้เช้าเจ็ดโมงเจอกันล็อบบี้”

น่านฟ้าตบบ่า ทำเอาภาณุถึงกับสะดุ้ง แต่พอเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเดินตามหลังน่านฟ้าเข้ามาในห้อง
“เดี๋ยว มีเรื่องจะถาม”

น่านฟ้าชะงัก สงสัยในท่าทีของเพื่อนรักที่ดูกระอักกระอ่วนพิกล

“มีอะไรวะ เห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งแต่เย็นแล้ว แม่พูดอะไรให้ไม่สบายใจรึเปล่า หรือว่าช็อคที่จะต้องเทียวไปเทียวมากับเฟสสามที่นี่”

“ก็ไม่เชิงว่ะ” ภาณุหน้าเครียด

“โทษทีพอดีเจอเพื่อนก็เลยไม่ทันได้อยู่ฟังด้วย” น่านฟ้าตบบ่าเพื่อนรัก “วันนี้มีนายมาด้วยโชคดีเป็นบ้าเลย คุณหญิงแม่ไฟเขียวให้เฟสสามขึ้นทีสามตึก นายนี่สุดยอด”

น่านฟ้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ภาณุได้แต่ครุ่นคิดแต่ก็ตัดสินใจพูด

“แม่นายบอกว่าจะยกหุ้นในคอนโดมิเนียมเฟสใหม่ที่ไปดูที่กันเมื่อเย็นให้ถ้าโครงการสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่มันไม่จำเป็น ฉันก็ทำไปตามหน้าที่ถ้าท่านต้องการให้ทำอะไร ฉันก็พร้อมจะทำอย่างสุดความสามารถเพราะท่านอุตส่าห์ไว้ใจ... แต่”

“แต่อะไรวะ” น่านฟ้าถามย้ำ งงกับท่าทางเพื่อนที่ควรจะดีใจมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เหตุไฉนภาณุจึงมีท่าทางเหมือนกับคนแบกโลก

“จะดีซะกว่าที่ฉันจะทำงานเต็มความสามารถแล้วได้ผลตอบแทนเป็นเงินเดือนหรือโบนัสเพิ่มขึ้น เรื่องหุ้นนั่นไม่คิดอยากได้เลยสักนิดเพราะฉันไม่ใช่ลูก หลาน ญาติทางไหนก็ไม่ใช่ มันคงไม่เหมาะกรณีถ้าเกิดมีอะไรแล้วฉันเป็นคนนอก”

“เฮ้ย! อย่าคิดอะไรมาก” น่านฟ้าเปิดประตู “เอาไว้ค่อยคุยกัน รีบว่ะ นัดสาวไว้”

ภาณุถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะน่านฟ้าไม่ค่อยสนใจการงานทำให้แม่ต้องคอยห่วง เขาหนักใจกับท่าทีของคุณหญิงรัตนาไม่น้อย ยิ่งสะดุดหูกับคำพูดที่คุยกันเมื่อเย็นแล้วยิ่งรู้สึกแปลก

“แม่อยากตอบแทนณุที่ช่วยเหลือน่านมาตลอด แม่เอ็นดูรักณุเหมือนลูกหลาน เห็นกันมาแต่มัธยม ณุเหมือนลูกชายแท้ ๆ แม่ก็อยากช่วยให้เราตั้งตัว จะได้ช่วยดูแลกิจการงานให้น่านกับน้องด้วย ไม่รู้ว่าณุรู้จักน้องรึยังลูก... น้องสาวของน่านน่ะ แกเพิ่งจบไฮสกูลมาจากเมืองนอก”

คำพูดอ่อนโยนแสดงออกผ่านคำพูดและการกระทำของคุณหญิงผู้ดีเก่าทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้เขาค่อนข้างเกร็งทุกครั้งยามเผชิญหน้ากันตามลำพัง แล้วยังจะคำพูดที่ฟังดูแล้วสะดุดใจพิกลนั่นอีก

“เราเพิ่งรู้จักกันครับ เจอกันที่ออฟฟิศเมื่อวันก่อน คุณนางมาหาน่านครับ”

“นั่นแหละ น้องชื่อนาง คคนานต์ แม่อยากให้ทำความรู้จักกันไว้จ้ะ ช่วยพิจารณาน้องไว้สักคนนะ แม่เห็นณุยังไม่มีใครเผื่ออีกหน่อยมีอะไรแม่จะได้มีคนดูแลฝากผีฝากไข้”

ภาณุยิ้มรับแต่คำตอบแบ่งรับแบ่งสู้

“เอ่อ... คุณนางเป็นคนเก่ง ผมคงไม่มีอะไรจะต้องช่วยเธอหรอกครับ แล้วอีกอย่างผมยังไม่คิดมีใครตอนนี้”

“เหรอจ๊ะ เสียดายจัง อันที่จริงแม่อยากให้น้องจบปริญญาก่อนค่อยกลับมา แต่นี่กลับมาเยี่ยมบ้านแค่ไม่กี่วัน ไปแคสติ้งเป็นนักแสดงเฉยเลย แถมได้บทนำหนังภาคต่อด้วยนะ แม่ล่ะพูดไม่ออกได้แต่เป็นห่วงอยากให้น้องสานต่องานธุรกิจครอบครัวกับใครสักคนที่แม่สามารถวางใจได้”

คุณหญิงรัตนาคล้ายจะฝากฝังลูกสาวกับเขา ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ภาณุต้องคิดหนัก วัยอย่างเขาสมควรกับการมีครอบครัวก็จริง แต่หัวใจคนบางครั้งก็เล่นตลก การจะรักใครสักคนใช่ว่าหัวใจจะบังคับได้ ถึงแม้จะรู้ว่าคนที่หวังไว้นั้นไกลเกินเอื้อม

ภาณุได้แต่ทอดถอนใจ มองเหม่อไปในทะเลกว้างไกล มืดมิด สุดลูกหูลูกตา สายลมกรรโชกแรงสลับเบาเป็นระยะ เสียงคลื่นซัดสาดหาดทรายที่เป็นสัญญาณของการเคลื่อนไหวของธรรมชาติรอบกาย นานพอสำหรับใครบางคนที่ออกอาการหงุดหงิดอยู่หน้าประตูห้องพักของเขาหลังจากกดกริ่งเรียกอยู่หลายครั้ง แต่คนในห้องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมาเปิดสักที



อรณีนั่งหน้ามุ่ยอยู่หน้ากระจกฟังตารางงานคร่าว ๆ จากผู้จัดการสาวแว่นสาธยาย มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ถึงกับสะดุดทันทีที่ฟังยังไม่ทันจบ

“เดี๋ยว ๆ เมื่อกี้หมายความว่ายังไง”

“อะไรอีกละอร” แสงสุรีย์เงยหน้าจากตารางงานถามเสียงรำคาญ “ฟังให้จบก่อนได้ไหม”

“หมายความว่ายังไงที่ว่าพรุ่งนี้ช่วงเช้าต้องยกเลิกคิวก่อนเพราะบทไม่พร้อมต้องแก้ใหม่”

“ก็ตามนั้นไง เข้าใจยากตรงไหน”

“เจ้” อรณีลากเสียงยาว “แค่บทช้ายังมาไม่ถึงมืออรนี่มันก็ไม่เป็นมืออาชีพจะแย่แล้วนะ อรมีเวลาแค่ไม่เกินสามวันสำหรับพัทยาก็รู้นี่”

อรณีตั้งคำถามกลับทันทีที่ฟังจบ แสงสุรีย์ขยับแว่นหนาตามความเคยชินก่อนจะกระแอมเบา ๆ ขัดเสียก่อนที่นักแสดงสาวจะทันได้พูดอะไรออกมาอีก

“ก็รู้ แต่จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อบทไม่โอเค คุณชัชไม่ให้ผ่านก็ต้องแก้ใหม่ แล้วทีนี้คิวนักแสดงเลยรวน ไหนจะยังประกาศกรมอุตุว่าพรุ่งนี้อาจจะมีพายุฝนฟ้าคะนองอีก กรรมจริง ๆ ไม่รู้จะยกกองหรือมาถ่ายอินดอร์แทน”

“อินดอร์ฉากไหน อย่าบอกนะว่าฉาก...”

“โอ๊ย! อย่าเพิ่งคิดไปเอง ไปกินข้าวกันดีกว่าห้องอาหารบรรยากาศดีมากเลยนะ รีแล็กซ์จ้ะ สูดหายใจลึก ๆ โอเค๊”

แสงสุรีย์รีบขัดกลัวเรื่องยาว เพราะเวลาอรณีโมโหขึ้นมาใครก็เอาไม่อยู่ อรณีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาเบอร์เคยคุ้นหมายจะสอบถาม แต่โดนผู้จัดการสาวคว้าไปซะก่อน

“อย่าเรื่องมากน่า”

“อรอยากรู้ว่ามีปัญหาอะไรนักหนา” หล่อนตอบเสียงสะบัด

“รู้แล้วจะช่วยอะไรได้” แสงสุรีย์แย้ง “ก็แค่รอไม่ต้องเสียอะไรสักอย่าง ที่พักก็ดี อาหารการกินไม่ขาดแถมยังมีเวลาว่างเธอยังไม่พอใจอีก”

“ก็ได้... งั้นอรจะกิน กิน กิน ให้หายหงุดหงิดเลยไม่ต้องมาห้ามด้วย”

พูดจบก็ลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายใบหรูเตรียมออกนอกห้องทันที ทำเอาแสงสุรีย์ที่ยังเคลียร์เอกสารไม่เสร็จรีบเก็บแทบไม่ทัน

ทันทีที่ประตูหน้าห้องเปิดออก อรณีถึงกับงงเมื่อพบใครบางคนยืนอยู่หน้าห้อง

“พี่ชัช!”

ชัชพลในชุดลำลองแต่ดูภูมิฐานสมวัยยืนยิ้มอยู่หน้าห้องพร้อมดอกกุหลาบสีแดงสดช่อโตยื่นให้

“พี่ขอโทษ”

“เรื่องอะไรคะ”

“ที่ดุเธอเมื่อกลางวัน”

“ไม่เป็นไรค่ะ มันคืองานนี่คะ”

อรณีรับดอกไม้รับมาถือ สูดดมกลิ่นหอมอย่างพอใจแล้วส่งต่อให้ผู้จัดการสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังรับช่วงต่อไป

“เอาไปจัดแจกันให้ด้วยเจ้”

“ได้ค่ะ” แสงสุรีย์รับคำแล้วเดินย้อนกลับเข้าไปในห้อง ทิ้งให้อรณีและชัชพลเผชิญหน้ากันตามลำพัง

“พี่มาชวนอรไปดินเนอร์... ไปด้วยกันนะ”

“ตามจริงเราน่าจะไปกินข้าวกันทั้งทีมงาน แล้วนี่พวกเขาอยู่ไหนกันคะ”

อรณีเสเปลี่ยนเรื่องไม่อยากไปสองคนตามลำพังกับชายหนุ่มที่กำลังตกเป็นข่าวกับหล่อนไม่แพ้คู่รักหลอก ๆ ต่างวัยอย่างศรุต

“เด็ก ๆ ไม่ได้พักที่นี่ ที่นี่สำหรับนักแสดงเท่านั้นจ้ะ ก็มีอร ศรุต แล้วก็นางเอกใหม่ที่เล่นภาคต่อ กับนักแสดงรุ่นใหญ่อีกไม่กี่คนเท่านั้นแหละ แต่ทุกคนขอฟรีสไตล์ เห็นว่าจะไปท่องราตรีกัน”

“อ๋อ... มีแต่อรที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย งั้นกินที่ห้องอาหารของโรงแรมก็แล้วกันนะคะ อรไม่ชอบวุ่นวาย”

อรณียิ้มน้อย ๆ เมื่อไม่เห็นทางปฏิเสธจึงได้แต่เดินนำไปอย่างเงียบ ๆ ชัชพลเร่งฝีเท้าเดินมาจนทันกัน

แสงสุรีย์มองตามนึกเป็นห่วงอรณี นึกไปถึงเรื่องที่ปราณคาดโทษเอาไว้เมื่อวานแล้วได้แต่ทอดถอนใจ



ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกภาณุถึงกับเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดเดรสสั้นแขนกุดสีฟ้ายืนยิ้มหวานอยู่หน้าห้อง

“คุณนาง!”

“ไม่ต้องตกใจค่ะ พรุ่งนี้นางมีคิวถ่ายนอกสถานที่ที่นี่ ก็เลยมาค้างที่โรงแรมเรา แม่บอกพี่ณุ พี่น่านมาพอดี ดีใจจังค่ะ”
คคนานต์ยิ้มหวานตาเป็นประกายชวนคุยเจื้อยแจ้ว ภาณุยิ้มเล็กน้อย เอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าไม่เบาเพราะความน่ารักสดใสของหล่อน

“แล้วมีอะไรกับพี่รึเปล่าครับ”

“มาชวนพี่ณุไปกินข้าวค่ะ พี่น่านไปกับเพื่อนแล้ว ฝากนางให้ดูแลพี่ณุแทน ไปกินข้าวที่ห้องอาหารของเราก็ได้ เป็นซิกเนเจอร์เลย วิวสวยมากค่ะ นะคะ”

คคนานต์คะยั้นคะยอ ภาณุกระดากที่โดนเกาะแขนแน่น ได้แต่ลูบต้นคอขัดเขิน

“แต่พี่ยังชุดเดิมไม่ได้อาบน้ำเลย ทำยังไงดี”

“ไม่ต้องเลยค่ะไปชุดนี้แหละ นะคะ”

“ก็ได้ครับ”

คำตอบรับสั้น ๆ พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นของชายหนุ่มตรงหน้า ทำให้คคนานต์ถึงกับยิ้มไม่หุบ ดวงตาเป็นประกาย เดินแกมวิ่งตามเขาไปทันที



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
เรื่องนี้มีอีบุ๊คแล้วค่ะ ขอฝากด้วยนะคะ

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=57488

ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^__^



lovereason2
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 พ.ค. 2560, 13:46:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2560, 13:46:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1061





<< บทที่ 8 ชั่วโมงต้องมนต์   บทที่ 9/2 เรื่องบังเอิญ 100% >>
Reddy 31 พ.ค. 2560, 17:47:20 น.
มาเจอกันแน่เลย


lovereason2 3 มิ.ย. 2560, 20:50:00 น.
แฮ่ เดี๋ยวตอนใหม่มีเฉลยแล้วค่า
ขอบคุณมากค่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account