กว่าจะสุดทาง
ความเห็นแก่ตัว การรักแต่ตัวเอง การดูถูกและเหยียดหยามได้สร้างความแค้นและความกดดันขึ้นในใจ เมื่อถึงวันที่มีโอกาส การแก้แค้นเอาคืนก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
Tags: พี่น้อง คนรัก สุดทาง

ตอน: ตอนที่ 4 กว่าจะสุดทาง

ทุกคนหันมามองอนีฆาเป็นตาเดียว พี่ชายรีบจับมือน้องสาวที่อายุห่างกันเพียง 1 ปี แล้วถามอย่างแปลกใจว่า

“ทำไมล่ะ นี น้าก็แสนจะดีกับพวกเราออกนะ”

“แสนดียังไง ก็เป็นคนอื่น เข้าใจไหม คนอื่น คนอื่น ไม่ใช่ครอบครัวของเรา” พูดจบก็สบัดมือพี่ชาย เดินออกจากห้องไปทันที

อมาตย์จึงบอกลูกชายและลูกสาวคนเล็กให้รออยู่ในห้องก่อน แล้วเดินตามอนีฆาขึ้นไปบนห้องนอนของเธอ แม้จะอายุเพียง 9 ปี แต่อนัตตาก็เข้าใจดีว่า พี่สาวไม่พอใจกับเรื่องที่บิดาจะแต่งงานกับวัชรินทร์ เพียงแต่เธอไม่รู้สาเหตุว่า ทำไมพี่สาวจึงไม่พอใจ

“พี่นีเป็นอะไรไปคะพี่เน ทำไมเขาไม่พอใจน้าจ๋า น้าจ๋าดีกับพี่นีจะตายไป”

“พี่เนก็แปลกใจอยู่นี่ ที่ผ่านมาพี่เห็นเราสองคนสนิทสนมกับน้าจ๋าดีอยู่ไม่ใช่หรือ”

สองพี่น้องมองหน้ากันแล้วต่างก็ส่ายหัว พี่ชายเห็นน้องสาวคนเล็กหน้าตาไม่สบาย จึงปลอบว่า

“ไม่ต้องกังวลหรอกนัต เดี๋ยวคุณพ่อก็จัดการได้เรียบร้อย ว่าแต่เราเถอะ ดีใจมากเกินไปหรือเปล่าจ้ะ”

“โหย... ดีใจที่สุดในโลกเลย นัตรักน้าจ๋า คราวนี้นัตจะได้มีแม่เหมือนคนอื่นๆแล้วไง พี่เน”

อนัตตาพูดแล้วก็ยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายฉายความสุข จนพี่ชายอดยื่นมือไปขยี้ผมน้องสาวคนเล็กอย่างเอ็นดูไม่ได้

อมาตย์เคาะประตูห้องนอนลูกสาวคนกลาง พร้อมร้องเรียกชื่อ เมื่อเห็นว่าประตูไม่ได้ปิดล็อค จึงเปิดประตูออกแล้วเดินเข้าไป อนีฆานั่งห้อยขาอยู่บนเตียง น้ำตายังไหลเป็นทางแม้จะไม่มีเสียงสะอื้น บิดานั่งลงข้างๆเตียง แขนข้างหนึ่งโอบตัวลูกสาวไว้ อีกมือหนึ่งเช็ดน้ำตาให้เบาๆ

“นี พ่อไม่ขัดใจลูกหรอกนะ ถ้าลูกไม่พอใจ พ่อไม่แต่งงานใหม่ก็ได้นะ แต่พ่ออยากามนีว่า ทำไมนีถึงเห็นน้าจ๋าเป็นคนอื่น ตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา พ่อก็เห็นว่าลูกๆทุกคนสนิทสนามกับน้าจ๋ามาก”

“นียอมรับน้าจ๋าเป็นน้าของนี แต่น้าจ๋าไม่ใช่คุณแม่ของนี”
อนีฆาตอบจากความรู้สึกของตนเอง แม้ว่ามารกาจะทิ้งเธอไปหรือจะจากไปอย่างไร ที่ตรงนี้ก็คือที่ของมารดาของตน ไม่ต้องการให้ใครมาแทนที่ อนีฆาหารู้ไม่ว่า คำนี้ ... คำที่พูดว่า “คุณแม่ของนี” นั้น กลับเสียดแทงเข้าไปกลางใจของบิดา ซึ่งพยายามจะลืมคนคนนี้ตลอดมา แผลที่ดูภายนอกเหมือนหายสนิทแล้ว กลับถูกคำพูดของลูกสาว ที่เปรียบเสมือนปลายเข็มแหลมแทงซ้ำที่เดิม ทำให้หนองที่ไม่แห้งกลับไหลปริ่มออกมาทันที อมาตย์ถามลูกสาวเสียงเข้มว่า

“แล้วนีจะไปเปรียบกับ .. คุณแม่ของนี ทำไม คุณแม่ของนีไม่ได้ทิ้งนีไปหรอกหรือ”

อมาตย์ลุกจากริมเตียงที่นั่งอยู่ชิดลูกสาว เดินไปหยุดมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ราวกับวามีสิ่งที่น่ามองอยู่ข้างนอกนั้น แท้จริงเพราะเขากำลังพยายามสะกดกลั้นน้ำตาที่เริ่มซึมขึ้นมาอย่างยากลำบาก ลูกสาวคงไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของบิดา ของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกภรรยา ผู้หญิงที่เขารักจนหมดหัวใจทิ้งไป เพื่อไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น มันไม่ใช่แค่ความเสียใจ แต่มันเป็นความรู้สึกว่าถูกหักหลัง ถูกทรยศ ถือเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ภรรยาของเขาให้ความสำคัญกับผู้ชายต่างชาติคนนั้น เธอยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ลูกทั้งสามคน เธอเลือกที่จะไปอยู่กับมัน

“ก็เพราะคุณแม่ทิ้งนีไปไงคะ นีถึงไม่ต้องการมีใครมาแทนที่ตรงนี้อีก สำหรับนี ตรงนี้มันเป็นที่ว่างค่ะ”

“พ่อไม่เข้าใจ”
“ครอบครัวของนี มีคุณพ่อ คุณแม่ พี่เนและนัต”

“ก็คุณแม่ทิ้งเราไปแล้ว เขาเป็นคนเดินออกจากครอบครัวของเราไปเอง”

“ แต่พวกเราที่เหลืออยู่ก็ยังเป็นครอบครัวไม่ใช่หรือคะ เรามีกันและกัน นีไม่ต้องการคนอื่น”

“ทำไมหรือ นีกลัวอะไรหรือลูก”

อมาตย์สลัดอารมณ์ของตนแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับลูกสาว นึกขึ้นได้ว่า เขาอาจจะคิดผิดที่นึกถึงแต่ความรู้สึกของตนเองเท่านั้น ลูกก็คงเศร้าเสียใจที่เก็บกดไว้ข้างในเช่นกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่เคยถามถึงความรู้สึกของลูกๆเลย เด็กดูร่าเริง ใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทันได้เอะใจอะไรเลย วันนี้น่าจะเป็นโอกาสดีปล้ว ที่จะคุยกับลูกสาวคนกลาง ที่เขาเคยเข้าใจว่าเป็นผู้ใหญ่ คิดว่าลูกคนนี้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร เขาเพิ่งเห็นว่าแท้จริงอนีฆาเป็นคนนิ่งเฉยและเก็บความรู้สึกไว้ภายในอย่างมิดชิด

“คุณพ่อกำลังจะรักน้าจ๋ามากกว่านี คุณแม่ก็ไม่รักนีไปคนหนึ่งแล้ว นีไม่ต้องการให้คนอื่นมาแย่งความรักจากคุณพ่อ พี่เนแล้วก็น้องนัตไปจากนีอีก”

น้ำตาที่เริ่มแห้งแล้ว กลับไหลลงมาอีกราวกับทำนบแตก คราวนี้อนีฆาสะอื้นจนตัวโยน อมาตย์เดินกลับมานั่งข้างลูกสาวและโอบกอดเธอไว้ พลางโยกตัวไปมาอย่างปลอบประโลม

“ความรักที่พ่อมีให้ลูก ไม่มีคำว่ามากกว่าหรือน้อยกว่า พ่อรักเน นี นัตเท่าดวงตาดวงใจของพ่อ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”

“แต่คุณพ่อก็จะรักน้าจ๋าด้วย”

“พ่อรักน้าจ๋า เพราะเขาดีกับเรา เขาไม่ได้มาแย่งความรักของพ่อไปจากนี แต่เขาเอาความรักมาเติมให้นีต่างหาก เขาเติมความรักให้พวกเราทุกคนต่างหาก”

“แต่นีก็คงรักน้าจ๋าไม่ได้” บิดานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า

“ตอนนี้นียังไม่รักน้าจ๋า แต่ขอโอกาสให้น้าจ๋าได้เข้ามาในครอบครัวของเราได้ไหมลูก พ่อมั่นใจ น้าจ๋าจะไม่มีวันทำให้ลูกเสียใจหรือผิดหวังในเรื่องใดๆเลย สักวันนีจะเห็นว่าน้าจ๋าเป็นคนดีแค่ไหนและรักลูกทั้งสามคนของพ่อมาก”

“ทำไมคุณพ่ออยู่คนเดียวไม่ได้ คุณพ่อมีพวกเรา 3 คน”
“พ่ออยู่คนเดียวได้นะนี แต่การที่มีน้าจ๋ามาอยู่ด้วย เขาจะเป็นคู่คิดของพ่อ เขาจะช่วยเป็นธุระเรื่องต่างๆ เขาจะดูแลลูกแทนพ่อถ้าพ่อไม่ว่าง นีก็เห็นพ่อทำงานหนักมาก ถ้ามีน้าจ๋าอยู่ พ่อจะลุยไปข้างหน้าได้อย่างไม่ต้องเป็นห่วงลูกมากจนเกินไป ทุกอย่างที่พ่อทำ ก็ทำเพื่อลูกทั้ง 3 คนทั้งสิ้น รวมทั้งการที่พ่อขอแต่งงานกับน้าจ๋าด้วย”

“เอาเถอะค่ะ” อนีฆาใช้มือปาดน้ำตาที่ยังไหลลงข้างแก้มทั้งสองข้าง แล้วตอบบิดาอย่างตัดใจว่า

“จะว่าไป มาถึงตอนนี้นีจะคิดอย่างไรก็คงไม่มีความหมาย เพราะคุณพ่อก็คงตกลงกับน้าจ๋าแล้ว นีไม่ขัดขวางหรอกค่ะ แต่นีก็จะเป็นของนีอย่างนี้ คุณพ่อคงไม่บังคับให้นีรักน้าจ๋าหรอกนะคะ”

“พ่อบอกลูกแล้วไง ขอเพียงให้น้าจ๋าได้เข้ามาในครอบครัวของเรา สักวันนีจะรู้จักและเข้าใจน้าจ๋าเหมือนกับพ่อ ...” อมาตย์ดึงตัวลูกสาวคนกลางมากอดไว้ พูดต่อว่า “พ่อขอบใจนีมากนะ ครอบครัวของเราจะมีความสุขด้วยกัน พ่อมั่นใจ”

อนีฆาหยุดร้องไห้แล้ว เธอจะไม่มีน้ำตาอีกต่อไป คำพูดสรุปของบิดาช่างแตกต่างจากที่อนีฆากำลังคิดอยู่ในใจอย่างลิบลับ เธอคิดว่าสุดท้ายเรื่องความต้องการมีคู่นี่คงยากจะหักห้ามใจได้ อย่างไรเสียผู้ชายก็ต้องมีผู้หญิง รวมทั้งผู้ชายฝรั่งที่กลับมาหาแม่แล้วแม่วิ่งตามเขาไปคนนั้นด้วย นึกมาถึงตรงนี้ ก็ให้นึกสมเพชใจ คงไม่ใช่แต่ผู้ชายเท่านั้นสินะ ผู้หญิงก็ไม่ต่างกัน มารดาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ทั้งที่มีสามีอยู่ทั้งคน ก็ยังโผกลับไปหาคนรักเก่า กลับไปหาความต้องการในวัยสาวจนได้ อนีฆาตัดสินใจแล้ว เมื่อเธอไม่อาจทำให้คนอื่นเป็นอย่างใจเธอได้ ก็เลือกที่จะจัดการกับตัวเองก็แล้วกัน ตั้งแต่นี้ไปเธอจะปล่อยให้ทุกคนทำอย่างที่พวกเขาต้องการ เธอจะไม่ผูกพันจิตใจกับใครทั้งนั้น ขออยู่และทำทุกอย่างเพื่อตนเองเท่านั้น ... เท่านั้นจริงๆ ขอสัญญากับตัวเองตั้งแต่วันนี้ น้ำตาแห้งแล้ว อนีฆาถามบิดาว่า

“น้าจ๋าจะมาอยู่บ้านเราเมื่อไหร่คะ”

“รอลูกๆปิดเรียน พ่อจะขอจัดงานเล็กๆที่ “เรือนริมทะเล” ไม่เชิญใครมากมายให้เอิกเกริก พ่อแค่อยากให้เกียรติน้าจ๋า ให้เป็นที่รับรู้ในหมู่ญาติสนิทๆของเราเท่านั้น นีว่าอยางไร”

อมาตย์ลงท้ายประโยคอย่างอ่อนโยน เพื่อแสดงให้เห็นความอาทรทีมีต่อลูกสาวคนกลางเขาหารู้ไม่ว่า นั่นยิ่งทำให้เธอกลับโกรธอีกครั้ง อนีฆาหงุดหงิดขึ้นทันที แต่ห้ามอาการไว้ได้ทันควัน เธอนึกในใจว่า จะมาถามเพื่ออะไรนี่ ยังไงคุณพ่อก็จะทำอยู่แล้ว อาการเงียบของลูกสาว ทำให้อมาตย์เข้าใจว่าเธอคงเข้าใจความรู้สึกของเขาแล้ว เขาดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง พูดเบาๆว่า

“พ่อขอบใจนีนะลูก ขอให้ลูกลองพิจารณาความปรารถนาดีที่น้าจ๋ามีต่อครอบครัวของเรา และขอให้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเรานะลูก พ่อรักลูกที่สุดนะ พ่อไม่มีวันรักใครมากกว่าลูกทั้งสามคนของพ่อ”
“นีก็รักคุณพ่อค่ะ” อนีฆาพูดได้เท่านี้ เธอเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของบิดา แล้วพูดต่อว่า

“งั้นคุณพ่อลงไปบอกพี่เนกับนัตเถอะค่ะ ป่านนี้ 2 คนนั่นคงรอฟังข่าวดีแล้ว นีขออาบน้ำก่อนแล้วจะตามลงไปทานข้าวนะคะ”

“ได้เลยจ้ะ”

อมาตย์เดินตัวปลิวออกจากห้องไปราวกับเด็กหนุ่มที่ได้รับคำอนุญาตให้แต่งงานสมใจ อนีฆาเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปที่ใส่ภาพครอบครัวของเธอขึ้นมาดู ครอบครัวของอนีฆาที่มีบิดามารดาพี่ชายและน้องสาว ทุกคนยืนกอดกัน หัวเราะร่าเริงอยู่ที่หน้า “เรือนริมทะเล” ที่หัวหิน ... ตั้งแต่นี้ไป คงไม่มีอีกแล้ว ไม่มีมารดา แล้วยังมีผู้หญิงอีกคนที่กำลังจะเข้ามาแทนในรูป ภาพนี้จึงเป็นเพียงอดีต ความรักความอบอุ่นความสุขที่เคยมีเป็นเพียงอดีตที่ผ่านไป จะตั้งภาพนี้ไว้ดูทำไมอีกเล่า อนีฆาคว่ำหน้ากรอบรูปนั้น แล้วโยนเข้าไปด้านในสุดของลิ้นชัก ทุกอย่างมันจบแล้ว




กนกนัดดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 มิ.ย. 2560, 20:52:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มิ.ย. 2560, 21:12:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 710





<< ตอนที่ 3 กว่าจะสุดทาง   ตอนที่ 5 กว่าจะสุดทาง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account