ห้วงฝันวันรัก (ผ่านพิจารณาสนพ.)
กิรณา ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ได้เพียงไม่นาน แต่แล้วชีวิตกลับต้องพลิกผันเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง หล่อนได้ข้ามผ่านไปยังช่วงเวลาอนาคต!

ภายใต้ความลึกลับของกาลเวลาที่ชวนพิศวงนั้น ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการที่หญิงสาวต้องมารับรู้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของบุพการี โดยไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุ ดรัล ในฐานะเพื่อนบ้านที่แสนดี แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวข้างบ้านอย่างกิรณาตั้งแต่แรกพบเสียเท่าไหร่ แต่จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายเงื่อนงำที่เกิดขึ้น

อดีต ปัจจุบัน อนาคต...เหตุการณ์ในช่วงเวลาใดกันแน่ที่มีแต่ความหลอกลวง...
Tags: เวลา ดราม่า ไซไฟ ฆาตกรรม หมอ บรรณารักษ์ สืบ อนาคต อบอุ่น เพื่อนบ้าน โรแมนติก

ตอน: บทที่ 1---50%

บทที่ 1 (ต่อ)

รถยุโรปสีดำคันงามแล่นปราดเข้ามาจอดหน้าอาคารห้องสมุดประชาชนแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มในชุดสูทสีจัดจ้านก้าวลงจากรถคันนั้น พลางเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะแล้วจึงไม่รีรอเข้าไปหาบรรณารักษ์สาวในห้องสมุด

ประตูทางเข้าซึ่งเป็นบานกระจกใส เลื่อนเปิดอัตโนมัติ ตามมาด้วยชายหนุ่มในชุดสูทที่ย่างก้าวเข้ามาในห้องสมุด กวาดตามองไปรอบกาย เขาสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ ปลอดโปร่ง และสะดวกสบายทุกครั้งยามได้เข้ามา อาจเพราะห้องสมุดแห่งนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นต้นแบบห้องสมุดภาพลักษณ์ใหม่ ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มุ่งเน้นให้เป็นแหล่งการเรียนรู้สำหรับคนทุกวัย นอกจากมีหนังสือให้บริการอย่างห้องสมุดอื่นๆ แล้ว ยังมีเทคโนโลยีการเรียนรู้สมัยใหม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตซึ่งอยู่ตั้งแต่ปากทางเข้าห้องสมุด สื่อการเรียนรู้ในรูปแบบซีดี ดีวีดีที่เก็บรวมไว้อย่างดีในตู้บริเวณใกล้เคียง ตลอดจนห้องมินิเธียเตอร์ก็มีให้บริการซึ่งมีฉายภาพยนตร์ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์

เนื่องจากห้องสมุดเป็นอาคารกระจกสามชั้น บรรณารักษ์สาวที่ชายหนุ่มแวะมาหา ประจำอยู่เคาน์เตอร์ให้บริการยืน-คืนหนังสือชั้นสาม ชายหนุ่มเลยขึ้นบันไดไปหา

ยามนั้นเอง ชายหนุ่มในชุดสูทเผยยิ้มกว้างออกมาทันใด เพราะบรรณารักษ์สาวที่เขามองหาอยู่นั้น กำลังก้มๆ เงยๆ จัดวางหนังสือเข้าชั้น

“อุ๊ย ขอโทษค่ะ” กิรณาไม่รู้ตัว ถอยหลังชนชายหนุ่มด้านหลังตกใจรีบเอ่ยขอโทษ แต่แล้ว...

“โธ่วัต มายืนทำอะไรตรงนี้ เราตกใจหมด” กิรณาถึงกับโล่งอกที่เห็นว่าเป็นทิวัตถ์ ไม่ใช่ผู้เข้ามาใช้บริการทั่วไปอย่างที่คิด

ชายหนุ่มซึ่งกิรณาเรียกว่า ‘วัต’ หรือ ‘ทิวัตถ์’ นั้นยิ้มขัน ทว่ากิรณากำลังอารมณ์ไม่ดี มีสีหน้าบูดบึ้งเดินกลับไปประจำที่เคาน์เตอร์บรรณารักษ์เฉย ทิวัตถ์เลยเดินตามมาไม่ห่าง

ระหว่างนั้น ด้วยความที่ชั้นที่กิรณาดูแลอยู่ส่วนใหญ่แล้วเป็นหนังสือนวนิยาย เรื่องสั้น และมีมุมนั่งทำการบ้านสงบๆ โดยเฉพาะ ชั้นนี้จึงมีสาวๆ วัยใสอยู่เยอะ แต่ละคนต่างจับจ้องมาทางทิวัตถ์เป็นตาเดียวกัน เพื่อนของบรรณารักษ์สาวหน้าตาออกไปทางลูกครึ่งตะวันออกตามกระแสเทรนด์เกาหลีนิดๆ

“มีคนโทรศัพท์มาบอกเราน่ะว่าเห็นหว้าหน้าบูดแต่เช้า เราเองเบื่อๆ งานที่โรงแรมอยู่พอดีเลยว่าจะแวะมาชวนหว้าออกไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเสียหน่อย”

“วัตไปกินข้าวคนเดียวเถอะ วันนี้พี่ตาขอลางานครึ่งวัน นี่ก็เพิ่งออกไปเอง” กิรณาบอกเสียงเนือยๆ หญิงสาวหมายถึง หวานตา...บรรณารักษ์อีกคนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ และคาดว่ารายนั้นนั่นแหละที่เป็นคนโทรศัพท์ไปรายงานเรื่องหล่อนให้ทิวัตถ์ฟังอีกตามเคย

“แล้วหว้าไปกินรังแตนที่ไหนมาแต่เช้าถึงได้หน้าบูดแบบนี้”

เพื่อนถามถึงอาการหน้าบูดขึ้นมา กิรณาก็ยิ่งหน้าหงิก

หล่อนยังแค้นชายหนุ่มข้างบ้านกับสาวบ้านฝั่งตรงข้ามที่มีเรื่องกันเมื่อเช้า !

ก็หลังจากที่ดรัลห้ามศึกระหว่างกิรณากับสาวบ้านฝั่งตรงข้าม นอกจากเขาจะไม่ฟังเหตุผลของกิรณาสักคำแล้ว หนำซ้ำเขายังเข้าข้างเด็กนั่น ต่อว่าหาว่ากิรณารังแกเด็ก

ไม่เพียงแค่นั้น ‘เด็ก’ ยังแสร้งเล่นละครบีบน้ำตา ทำตัวเป็นนางเอกผู้แสนดีให้อภัยในทุกสิ่ง เรียกคะแนนความน่าสงสารจากดรัลไปเต็มๆ ทำเอากิรณากลายเป็นนางมารร้ายในสายตาเขาไปในพริบตา คิดแล้วกิรณาก็เจ็บใจนัก แถมพอมาถึงที่ทำงานแทนที่จะได้ผ่อนคลายบ้าง กลับต้องมารับรู้ว่ามีหนังสือวางกองเป็นตั้งรอให้หล่อนจัดการ ทั้งหนังสือที่ผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่งส่งคืนตามกำหนดรวมทั้งหนังสือเข้าใหม่ที่หล่อนจะต้องทำหน้าที่ลงทะเบียนหนังสือใหม่ วิเคราะห์เลขหมู่ ติดสันหนังสือ คีย์ข้อมูลลงโปรแกรมของห้องสมุด และเก็บเข้าชั้นตามมา

ภาระท่วมหัวที่รออยู่ตรงหน้าทำให้กิรณาหัวเสียหนักกว่าเก่า นั่งลงประจำที่บรรณารักษ์ทำหน้าที่เหล่านั้นด้วยตัวเอง

ทิวัตถ์ซึ่งยังคงอยู่ข้างๆ เห็นสีหน้ายุ่งของบรรณารักษ์สาวแล้วทนไม่ได้

“มา เดี๋ยวเราช่วยหว้าเอง” ทิวัตถ์เปลี่ยนสถานะเป็นบรรณารักษ์จำเป็นยื่นมือเข้ามาช่วยกิรณาอีกแรง

“ไม่ต้องวัต เราทำเองได้”

“ไม่เป็นไร หว้าก็รู้ว่าเราทำใจได้ที่ไหนถ้าต้องปล่อยให้หว้านั่งทำงานอยู่คนเดียว แล้วเราออกไปกินข้าวสบายใจเฉิบน่ะ” ไม่พูดเปล่าทิวัตถ์ถอดเสื้อสูทออกแล้วเหลือแต่เสื้อเชิ้ตคอปกข้างใน เขาพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อที่จะได้ดูทะมัดทะแมง พลางเสยผมสีน้ำตาลอ่อนหยิกหยักศกของเขาที่ยาวประบ่าขึ้นลวกๆ ปัดรำคาญ

ลักษณะเพื่อนนั้นเอาจริง กิรณาว่าจะไม่ยอมเลยจำต้องปล่อยเลยตามเลย แบ่งหนังสือบางส่วนให้ทิวัตถ์ช่วยจัดการ

“ขอบคุณนะวัตที่คอยช่วยเหลือเราตลอดเลย”

“ขอเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นเลี้ยงข้าวเย็นนี้แทนได้มั้ย” ทิวัตถ์เอ่ยยิ้มๆ เย้ากิรณาเล่น

“แล้วบ้านเป็นไงบ้าง อยู่สบายมั้ย พ่อแม่หว้าบ่นอะไรบ้างรึเปล่า”

กิรณาส่ายหน้าหวือ

“ไม่เลยวัต แม่เราชอบบ้านวัตมาก แถมยังฝากขอบคุณวัตมาด้วยนะ แต่...เอ่อ...วัตอย่าโกรธพ่อเราเลย ที่แกทำไปแบบนั้นเพราะเป็นห่วงเราน่ะ” กิรณายังรู้สึกผิด เพราะก่อนที่จะย้ายมาอยู่บ้านเช่าของเพื่อน บิดาโทรศัพท์ไปต่อว่าทิวัตถ์เสียยกใหญ่หาว่าดูถูกหล่อนถึงได้ยกบ้านให้อยู่ฟรีๆ ที่จริงแล้วนั่นก็แค่ความคิดของทิวัตถ์ในตอนแรก กิรณาไม่ยอมเอาเปรียบเพื่อนเด็ดขาดแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีฐานะมากกว่าหล่อนหลายเท่าก็ตาม จึงขอให้ทิวัตถ์คิดค่าเช่าบ้านเพื่อความสบายใจทั้งตัวหล่อนเองและครอบครัวของหล่อนด้วย โดยให้เหตุผลกับบิดามารดาว่าจากบ้านทิวัตถ์เดินทางมาทำงานสะดวกกว่าห้องเช่าเดิมมากโข

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม บิดาหล่อนก็ไม่พอใจนักหรอกที่จู่ๆ หล่อนทิ้งห้องเช่าราคาถูกแล้วย้ายมาอยู่บ้านที่มีอดีตแทน ด้วยว่าบ้านจัดสรรสองชั้นหลังนี้ทิวัตถ์เคยปลูกไว้ตั้งใจให้เป็นเรือนหอระหว่างเขากับแฟนสาวที่หมายมั่นจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่กลับต้องมาล้มเลิกกลางคันเพราะทั้งสองเลิกรากันไปเสียก่อน บ้านเรือนหอหลังนี้จึงถูกปล่อยให้ร้างอยู่เป็นเดือนๆ กระทั่งกิรณาเข้ามาอยู่นั่นแหละ

เหตุนี้จำรัสกับอรวีจึงห่างบ้านที่ต่างจังหวัดมาพักอยู่ด้วยกันกับลูกสาวชั่วคราว บิดาหล่อนหวงและห่วงลูกสาวขึ้นสมอง!



********************

มาอัพเพิ่มให้แล้วค่ะ ^O^ ขอบคุณนักอ่านที่จิ้มถูกใจในตอนที่แล้วให้รันน้าาาา



สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 มิ.ย. 2560, 19:16:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 มิ.ย. 2560, 19:16:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 736





<< บทที่ 1---35%   บทที่ 1---100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account