ห้วงฝันวันรัก (ผ่านพิจารณาสนพ.)
กิรณา ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ได้เพียงไม่นาน แต่แล้วชีวิตกลับต้องพลิกผันเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง หล่อนได้ข้ามผ่านไปยังช่วงเวลาอนาคต!

ภายใต้ความลึกลับของกาลเวลาที่ชวนพิศวงนั้น ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการที่หญิงสาวต้องมารับรู้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของบุพการี โดยไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุ ดรัล ในฐานะเพื่อนบ้านที่แสนดี แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวข้างบ้านอย่างกิรณาตั้งแต่แรกพบเสียเท่าไหร่ แต่จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายเงื่อนงำที่เกิดขึ้น

อดีต ปัจจุบัน อนาคต...เหตุการณ์ในช่วงเวลาใดกันแน่ที่มีแต่ความหลอกลวง...
Tags: เวลา ดราม่า ไซไฟ ฆาตกรรม หมอ บรรณารักษ์ สืบ อนาคต อบอุ่น เพื่อนบ้าน โรแมนติก

ตอน: บทที่ 2---75%

บทที่ 2 (ต่อ)



“ลาออก !?”

กิรณาถึงกับร้องเสียงหลง เมื่อมาถึงที่ทำงานแต่เช้าตรู่อยู่ดีไม่ว่าดีกลับมารับรู้ว่าตัวเองลาออกจากงานแล้ว !

“มะ...มันจะเป็นไปได้ไงคะพี่ตา” กิรณาพูดกับเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่เสียงสั่นเครือ ก็หวานตาน่ะสิเป็นคนบอก

“หว้าเนี่ยนะคะยื่นใบลาออก ไม่ค่ะ เป็นไปไม่ได้ ต้องมีใครสักคนเข้าใจผิดแน่ๆ หว้าขอโทร.ถามทางกศน.ก่อนนะคะ”

“ไม่มีประโยชน์จ้ะลูกหว้า” หวานตารีบขัดเมื่อเห็นกิรณาทำท่าจะคว้าโทรศัพท์บนเคาน์เตอร์บรรณารักษ์มาโทร.หาทางหน่วยงานต้นสังกัดที่ดูแล

ท่าทางกิรณาที่ไม่ยอมง่ายๆ หวานตาเลยดึงตัวกิรณาออกมาคุยกันนอกห้องสมุดแทนเพราะไม่อยากทำผิดกฎ เสียงดังรบกวนผู้ใช้บริการเสียเอง

“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าลูกหว้ากำลังมีปัญหาอะไรถึงได้อยากกลับมาทำงานที่นี่ แต่เรื่องที่ลูกหว้าลาออก ทางกศน.เขาก็รับรู้แล้ว จู่ๆ ลูกหว้าบุ่มบ่ามเข้ามาโวยวายที่ห้องสมุดแบบนี้จะยิ่งทำให้เสียทั้งงานเสียทั้งตัวลูกหว้าเอง ลูกหว้าเข้าใจที่พี่พูดใช่มั้ย”

“แต่หว้า...เอ่อ...ไม่เคยคิดจะลาออกเลยนะคะ” กิรณายังคงยืนยันคำเดิม

โอเค อาจจะมีบ้างที่หล่อนเคยคิดอยากลาออกจริงๆ แล้วไปตายเอาดาบหน้า งานห้องสมุดใช่ว่าจะสบายอย่างที่ใครๆ เข้าใจ แต่นั่นก็แค่ความคิด ไม่ได้ทำจริงอย่างที่รุ่นพี่กำลังเข้าใจอยู่ตอนนี้ !

หวานตากลับเข้าไปในห้องสมุดแล้ว ขณะที่กิรณายังคงยืนค้างอยู่อย่างนั้น…ก่อนไปหวานตาเล่าว่า กิรณาเป็นคนบอกเรื่องลาออกให้หวานตารู้เอง โดยให้เหตุผลไว้ว่าต้องการกลับไปช่วยครอบครัวดูแลร้านสุขภัณฑ์ที่ลำปาง และทางหน่วยงานต้นสังกัดก็อนุมัติยินยอมให้กิรณาลาออกแล้วด้วย

สิ่งที่เพิ่งรับรู้มาจากหวานตา กิรณาถึงกับเข่าทรุดล้มทั้งยืนบนฟุตปาธแถวนั้นไม่ต่างจากคนหมดกำลัง

แค่เมื่อเช้าหล่อนตื่นขึ้นมาก็เครียดมากพออยู่แล้ว หล่อนเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่ที่แน่ๆ กาแฟพวกนั้นมันไม่ได้ช่วยให้หล่อนหายง่วงเลยสักนิด รู้สึกตัวอีกทีก็ตื่นมาเจอกับความว่างเปล่าภายในบ้านเช่นเคย หนำซ้ำดันต้องมารับรู้ว่าตัวเองตกงานกะทันหัน !

กิรณาเหลือบมองอาคารกระจกรูปทรงทันสมัยสามชั้นเบื้องหลังด้วยความเจ็บปวด น้ำใสๆ เริ่มระรื้นขึ้นที่ขอบตา กิรณาไม่รู้แล้วว่า ณ ตอนนี้ เวลานี้ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตหล่อนกันแน่ ความเครียดที่สุมรวมอยู่ในอกจึงระเบิดออกมาเป็นหยาดน้ำตาไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้าง

...เนิ่นนานที่หญิงสาวปล่อยให้ตัวเองนั่งก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้อยู่ตรงนั้น...

“หนูต้องมีสติให้มากๆ”

จู่ๆ ก็มีเสียงของใครบางคนดังอยู่เหนือศีรษะ พลันนั้น มีไม้เท้าคนแก่กลิ้งมากระทบที่ปลายเท้ากิรณา

หญิงสาวกำลังนั่งก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้ เงยหน้าสบมอง เจ้าของเสียงนั้นเป็นชายชรา แต่งตัวดี เดินงกๆ เงิ่นๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้า ลักษณะเหมือนกำลังก้มหาของบนพื้น กิรณาเลยจำต้องปาดน้ำตาทิ้ง ลุกขึ้นหยิบไม้เท้าให้ชายชราคนนั้น

“เมื่อถึงเวลา หนูก็จะรู้เอง” ชายชราดั่งรู้ความคิด บอกเสียงสั่นตามอายุขัยแล้วรับไม้เท้าไปจากหญิงสาว

“คุณพ่อ ! มองก็ไม่เห็นเดินมาเองได้ไงคะเนี่ย” มีหญิงแปลกหน้าหน้าตาตื่นเข้ามาหาชายชราคนนั้น พร้อมกับจูงมือลูกสาวตัวน้อยมาด้วย กิรณาจึงหลบให้อีกฝ่ายเข้ามาแทนที่แม้ยังงงๆ กับคำพูดของชายชรา หล่อนไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่ชายชราคนนั้นพูดกับหล่อนรึเปล่า

“วันนี้ทางห้องสมุดมีจัดกิจกรรมวาดภาพระบายสีใช่มั้ยคะ” หญิงแปลกหน้าหันมาถามกิรณา เพราะพาลูกสาวมาร่วมกิจกรรม



กิรณาไม่มีอารมณ์มาสนใจใครหรอก หล่อนกำลังตกอยู่ในภาวะเครียดและสับสน แต่ด้วยชุดฟอร์มบรรณารักษ์ที่สวมใส่อยู่นั้นยังค้ำคอจึงฝืนยิ้มให้ ครุ่นคิดเล็กน้อย หล่อนจำไม่ได้ว่าห้องสมุดมีแผนจัดกิจกรรมในช่วงนี้ด้วย

เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนมารดามองมาตาแป๋ว รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ กิรณาเลยอดไม่ได้ขอทำหน้าที่บรรณารักษ์ครั้งสุดท้าย ช่วยเข้าไปดูโปรแกรมให้ซึ่งติดประกาศอยู่ภายในห้องสมุด แต่แล้ววินาทีนั้น กิรณากลับประหลาดใจกับวันเดือนปีที่เห็นในโปรแกรมจัดกิจกรรม มันเลยผ่านวันเวลาที่หล่อนจดจำได้มาร่วมสองเดือน !



*************************



กิรณาสืบเท้าออกมาจากห้องสมุดมุ่งตรงขึ้นรถกลับบ้าน ขณะเดียวกันนั้น หน้าจอโทรศัพท์มือถือกิรณายังสว่างจ้า กิรณาเพิ่งกดดูวันที่ในโทรศัพท์มือถือตัวเองเพราะที่ผ่านมาก็ใช้ไปตามอัตโนมัติ ไม่เคยคิดเฉลียวใจสักนิด กิรณาแทบไม่อยากเชื่อวันเดือนปีที่เพิ่งรับรู้มา !

ทันทีที่ถึงบ้าน หล่อนก็ไม่รีรอคว้าปฏิทินตั้งโต๊ะบนหัวเตียงมาเปิดดู หล่อนมักจดเรื่องสำคัญๆ ไว้ตามหน้าแต่ละเดือนของปฏิทิน ตอนนั้นเองเพิ่งเห็นว่ามีจดวันยื่นใบลาออกไว้เสียดิบดี !

“ลาออกมาได้อาทิตย์กว่าแล้วเหรอเนี่ย”

กิรณางึมงำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะลองเปิดหน้าปฏิทินย้อนกลับไปยังเดือนก่อนหน้านี้แล้วต้องใจหาย...วันสิ้นเดือนมีตัวหนังสือสีแดงเขียนไว้ว่า วันเสียชีวิตของมารดา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหล่อนลาออกจากงานได้ห้าวัน

ทว่า...มีอีกหลายอย่างที่จดไว้ในปฏิทิน แต่หล่อนกลับจำเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้สักอย่าง มีหลงเหลืออยู่ในความทรงจำก็แค่เรื่องอย่างเช่นวันที่จำรัสมีอาการหอบกำเริบ ซึ่งพอมานั่งนึกไล่เรียงดูแล้ว นับจากวันนี้ย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่หล่อนยังจดจำได้เห็นจะร่วมสองเดือน

“หรือว่า...”

กิรณาร้องรับความคิดตัวเองในใจ แล้วหันไปคว้าโทรศัพท์มือถือมากดดูวันที่อีกครั้ง รวมทั้งเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีระบุวันเดือนปีของข้อมูลที่ลง เพื่อยืนยันถึงสิ่งที่หล่อนกำลังเผชิญ

กิรณาอดคิดพิลึกพิลั่นกับตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้...กำลังอยู่ในช่วงกาลเวลาอนาคต !

เช้าวันรุ่งขึ้น กิรณาลืมตาตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเพลงสตริงในยุค 80 ดังลอยมาจากชั้นล่างเช่นเคย มันเป็นสัญญาณดีว่าบิดามารดากลับมาอยู่กับหล่อนภายในบ้านหลังนี้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่กิรณาคาดไว้เลยรู้สึกโล่งอกขึ้นมาบัดดล

กิรณายังพอจดจำสิ่งที่จดไว้ในปฏิทินกาลเวลาอนาคตได้เลยลุกจากเตียงทันควัน มองหากระดาษหรือสมุดอะไรก็ได้ที่มีพื้นที่ว่างพอให้หล่อนได้จดเก็บไว้ เพราะถ้าเข้าใจไม่ผิด วันนี้หล่อนได้กลับมาอยู่ช่วงเวลาปัจจุบันกับบิดามารดาก็จริง แต่พรุ่งนี้หล่อนก็คงตื่นขึ้นมาอยู่ตัวคนเดียวในช่วงเวลาอนาคตอีกตามเคย และอาจเป็นแบบนี้สลับกันไปมาเหมือนเช่นทุกเช้าที่ผ่านๆ มา





สรัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 มิ.ย. 2560, 12:21:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 มิ.ย. 2560, 12:21:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 721





<< บทที่ 2---50%   บทที่ 2---100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account