ฝากรักไว้ในสายหมอก (เปิดจองรูปแบบเล่มพร้อมE-Book)
มวยเกล้าผมวาง บนกล๋างกระหม่อม

แล้วเหน็บโอบล้อม ด้วยดอกเกี้ยวเกล้า
แดงเฮย...งามแต๊ บ่แลโศกเศร้า

สดใสเริงเลา ใคร่เฝ้าอยู่ใกล้
ผ่อจนเหลียวหลัง เป๋นดีใคร่ได้

โอบล้อมหัวใจ๋ ดวงนี้
แต่เก๊าเจ้าหวง สมแล้วว่าอี้

บ่ดีเด็ดเล่น เนอนายฯ.....



...........................................................................


เพราะความรัก ความผูกพันช่วงหนึ่งในวัยเยาว์

ที่เคยเติมเต็มหัวใจอันอ้างว้างของเขาให้อบอุ่นขึ้นมาได้

ความรู้สึกเหล่านั้นฝังแน่นอยู่ในใจตลอดมา

จนกระทั่งถึงวันนี้ที่เขากลับมาตามหาความรัก

ความผูกพันที่ได้ฝากไว้กับใครบางคน.



ฝากรักไว้ในสายหมอก

เป็นนิยายเรื่องแรกที่ได้รับการตีพิมพ์กับสนพ.กรียมายด์

ตอนนี้หมดสัญญาแล้วจึงเอามาทำเองค่ะ

ติดตามกันได้ในรูปแบบอีบุ๊คนะคะ




Tags: เกี้ยวเกล้า ไตรศูรย์ เชียงใหม่ ล้านนา โรงแรม ความรัก ความผูกพัน วัยเยาว์ สายหมอก

ตอน: ตอนที่ 24 ​



##เปิดจองนิยายรัก 2 เรื่อง 2 รส##
‘ลิขิตรักเก็บตก’
มี 2 เล่มจบ ราคาเล่มละ 339 บ.
2 เล่มลดเหลือ 670 บ.
‘ฝากรักไว้ในสายหมอก’
ราคา 369 บ. ลดเหลือ 360 บ.
*สั่งซื้อ 3 เล่ม ในราคาพิเศษเพียง 999 บ. เท่านั้น*
สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้
ทางอินบ็อกเฟส : pirita ametrine
หรือในเพจ ‘พิริตา อเมทริน นักเขียน’
Email: kanplu@windowslive.com
โทร.0626656247 หรือทางไลน์ ID: pirita-ametrine
วันนี้-20 สิงหาคม นี้ เท่านั้น!!



ภายในบ้านป้าอิ่นคำ วันนี้ทั้งเกี้ยวเกล้าและสาลี่กลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน เพราะต้องมาจัดของตามออร์เดอร์ของลูกค้า หลังกลับจากร้านแล้วทั้งเกี้ยวเกล้าและสาลี่ต่างง่วนอยู่กับงานของตัวเอง ผ้าคลุมไหล่สีสันออกธรรมชาติทอจากผ้าฝ้าย แพ็คใส่ถุงเรียบร้อย ถูกจัดวางไว้เป็นกองๆ แถวโซฟารับแขก เกี้ยวเกล้านั่งพับเพียบบนพื้น ในมือถือสมุดและเช็คของที่กองอยู่ตรงหน้าไปเรื่อยๆ ขณะที่สาลี่นั่งบนเก้าอี้อีกด้านตรวจตราดูความเรียบร้อยของผ้าอีกกองที่วางอยู่ข้างตัว

“เออนี่...เกี้ยว ฉันว่าตั้งแต่เรามีเว็บไซด์นี่ มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเยอะเหมือนกันนะ แกว่าไหม” สาลี่เอ่ยขึ้น

“อืมม์...ช่วงนี้ป้าอิ่นหน้าบานกว่าเดิมตั้งเยอะแน่ะ แต่จะว่าไปแกกับพี่แสงหล้าก็เก่งนะที่เรียนรู้เรื่องนี้ได้เร็วมากเลย” หญิงสาวหมายถึงเรียนรู้เรื่องระบบการขายสินค้าผ่านทางเว็บไซด์ ที่เป็นช่องทางใหม่ในการขายสินค้าของทางร้าน

“ไม่เร็วได้ไง เดี๋ยวแม่สามีก็บ่นฉันอีก โทษฐานที่ไม่แบ่งเบาภาระหลานรักอย่างแก น่ากลัวจะตาย” สาลี่พูดพลางทำหน้าแหยง เกี้ยวเกล้าส่ายหน้ายิ้มๆ “เออ...เกี้ยวกับข้าวเหลือในตู้เย็นตั้งหลายอย่าง ฉันว่าแกโละทำแกงโฮะกินกันดีกว่า ซื้อเค้ากินไม่ค่อยอร่อยจืดชืดไม่มีรสชาติไม่เหมือนบ้านเราทำเลย แกทำกับข้าวเหนืออร่อยทำให้กินหน่อยสิ” ปกติหากไม่พึ่งพากับข้าวสำเร็จจากตลาด เรื่องทำกับข้าวมีเกี้ยวเกล้ากับป้าอิ่นคำที่คอยทำหน้าที่อยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ป้าอิ่นคำกับเกื้อกูลไปต่างจังหวัด 2-3 วันสาลี่จึงเล็งเป้าหมายมาที่เกี้ยวเกล้าแทน

“ได้สิลี่ ว่าจะทำตั้งนานแล้วเหมือนกัน เห็นแกบ่นอยากกินตั้งหลายทีแล้วนี่ แต่ว่าฉันทำให้แกกินละกันนะ เย็นนี้ฉันไม่ว่าง”

“แกจะไปไหน อ๋อ...นัดคุณไตรใช่ไหมล่ะ ก็ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกันทุกมื้อนี่นะ ทุกทีนี่เช้า กลางวัน เย็น” สาลี่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยแซว คนถูกแซวยิ้มเขิน

ช่วงนี้ไตรศูรย์ไม่ค่อยได้อยู่ที่โรงแรมเวียงคำแก้ว เพราะร้านอาหารที่ขายกิจการให้กับครอบครัวของนิรามัยกำลังมีปัญหา ผู้จัดการลาออกไปทำให้ไตรศูรย์ใช้เวลาสะสางงานที่โน่นเป็นส่วนมาก แต่เขาก็พยายามหาเวลามาหาเธอทุกวัน ส่วนมากจะแวะมากินข้าวเย็นด้วยกันและวันนี้ก็เช่นกัน

“อย่าบอกว่าเขาจะพาไปกินที่โรงแรมอีกนะ แกก็ไปกินบ้อย บ่อยไม่เบื่อบ้างหรือไง ถ้าจะไปกินที่โรงแรมเขาฉันว่าพากันมากินแกงโฮะที่บ้านเราดีกว่า” สาลี่ว่า

“เปล่าหรอก จะไปที่อื่นน่ะแต่ไม่รู้ที่ไหนเหมือนกัน เอาน่า...ยังไงฉันก็ต้องทำแกงโฮะไว้ให้แกกินอยู่ดี

แหล่ะ” เกี้ยวเกล้ายืนยันความตั้งใจกับเพื่อน

“ว้า! งั้นฉันก็ต้องกินข้าวคนเดียวจริงๆ น่ะสิ” คนที่รู้ชะตากรรมว่าต้องกินข้าวคนเดียวแน่แล้ว ร้องอย่างผิดหวัง

“วันเดียวเอง พรุ่งนี้พี่เกื้อกับป้าอิ่นก็กลับมาแล้ว พรุ่งนี้ฉันอยู่กินด้วยเอ้า! ไม่แน่อาจมีพี่ไตรด้วยอีกคน ถ้าเค้าว่าง”

“แหม...คำก็พี่ไตร สองคำก็พี่ไตร อิจฉาจริงๆ ” สาลี่กระแหนะกระแหนอย่างไม่จริงจังนัก

“อิจฉาทำไมล่ะ แกก็มี ‘อีตาหมูอ้วน’ ของแกอยู่แล้วนี่” เกี้ยวเกล้าเรียกเกื้อกูลเลียนแบบสาลี่ที่เรียกสามี

“มันเหมือนกันเสียที่ไหนเล่า คุณไตรกับหมูอ้วนของฉันน่ะ แค่หุ่นคุณไตรก็ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นแล้ว แต่ก็พูดไปงั้นแหล่ะถึงจะอ้วนยังไงฉันก็ร้าก...ของฉันอยู่ดีแหล่ะ ฮิ ฮิ” หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้ายิ้มไปกับท่าทางของเพื่อนอีกครั้ง

“พี่ไตรจะพาเกี้ยวไปไหนคะ” เกี้ยวเกล้าถามเมื่อขึ้นไปนั่งเคียงข้างเขาอยู่บนรถแล้ว ชายหนุ่มยิ้ม

“ก็พาไปกินข้าวใต้แสงเทียนไงครับ บรรยากาศดีมากเลยนะ ริมแม่น้ำปิงด้วย พี่ไตรจองโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้ว” เขาตอบขณะที่กำลังกลับรถเพื่อออกจากซอยบ้านป้าอิ่นคำ

“ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่คะ ที่โรงแรมพี่ไตรก็หรูพอแล้วสำหรับเกี้ยว”

“พี่ไตรไม่ได้คิดว่าหรูหรือไม่หรูนี่นา พี่ไตรแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ และอยากทำอะไรเพื่อน้องเกี้ยวบ้าง ยิ่งตอนนี้เราไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันเท่าไหร่เลยนะ”

“ก็เจอกันอยู่ทุกวันแล้วนี่คะ” หญิงสาวท้วงเบาๆ

“สำหรับพี่ไตรแค่นี้ยังไม่พอหรอกครับ เพราะพี่ไตรอยากอยู่ใกล้น้องเกี้ยวมากที่สุด ตลอดเวลาด้วยหรือน้องเกี้ยวเบื่อหน้าพี่ไตรแล้ว” ท้ายประโยคคนพูดทำเสียงเหมือนน้อยใจเสียเต็มประดา

“เปล่าหรอกค่ะ เกี้ยวแค่ไม่อยากให้พี่ไตรมาห่วงกังวลหรือเอาสมองมาคิดเรื่องเกี้ยวมากเกินไป เพื่อที่พี่ไตรจะได้ทำงานให้ดีที่สุดไงคะ” อีกฝ่ายจึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับผม พี่ไตรเต็มที่อยู่แล้ว อีกอย่างงานที่ร้านใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน แต่ตอนนี้พี่ไตรอยากทำให้น้องเกี้ยวมีความสุข” เขาทอดเสียงนุ่มขณะสายตายังจ้องมองถนน แต่ก็ทำให้คนที่ฟังอดอมยิ้มด้วยหัวใจพองโตไม่ได้

ก่อนที่ทั้งสองจะพูดคุยกันต่อเสียงโทรศัพท์มือถือของไตรศูรย์ก็ดังขึ้น เขามองหน้าจอเพียงแว่บแล้วถอนหายใจ ก่อนพยักหน้าให้เกี้ยวเกล้ารับแทน เมื่อเธอมองหน้าจอเห็นชื่อที่โชว์อยู่ก็ส่ายหน้า

“รับสิคะ บางทีอาจมีอะไรด่วน”

“แต่ว่า พี่ไตร...” เขาพูดได้แค่นั้นก็ถอนหายใจอีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจจอดรถข้างทาง

“ครับนีร่า ผมเคลียร์ให้แล้วในบางส่วนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะดูส่วนที่เหลือให้ อะไรนะ? ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยล่ะ คุณช่วยบอกคุณป้าให้หน่อยไม่ได้เหรอ งั้นผมโทร.หาคุณป้าเองละกัน อะไรนะ? ตอนนี้ผมอยู่ข้างนอก กำลังจะพาน้องเกี้ยวไปกินข้าว....” แล้วเขาก็คุยเรื่องงานต่ออีกหลายคำ ก่อนจะวางสายและหันมามองเกี้ยวเกล้าละห้อย

“พี่ไตรขอโทษนะครับที่ไม่ได้ปิดเครื่อง” เขาเสียงอ่อย

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะเรื่องงานสำคัญกว่า พี่ไตรไปร้านเถอะค่ะ เดี๋ยวเกี้ยวกลับเองก็ได้”

“น้องเกี้ยวไม่ต้องกลับหรอก ไปกับพี่ไตรนะครับ พี่ไตรอยากให้น้องเกี้ยวไปด้วยกัน”

ร้านอาหารที่เกี้ยวเกล้าเคยมากับไตรศูรย์อยู่หลายครั้ง วันนี้แขกค่อนข้างพลุกพล่าน อาจเพราะเป็นช่วงเย็นที่คนพาครอบครัวมากินข้าว ทำให้ร้านที่ปกติกว้างขวางดูแคบลงถนัดตา ไตรศูรย์พาเกี้ยวเกล้าไปนั่งโต๊ะริมระเบียงด้านข้างที่เปิดโล่ง

หญิงสาวสังเกตเห็นตามที่ไตรศูรย์เคยบอกว่าพนักงานเก่าๆ ได้ลาออกกันเกือบหมดแล้ว จึงเห็นแต่หน้าใหม่ๆ และพนักงานเก่าบางส่วนได้ตามไปอยู่ที่โรงแรมกับไตรศูรย์บ้างเท่าที่จะรับได้ แต่ก็มีบางส่วนที่เขาได้ฝากฝังไว้กับเพื่อนฝูงคนรู้จักรวมถึงคุณวราผู้จัดการด้วย

“เรากินข้าวกันที่นี่ละกันนะครับ น้องเกี้ยวกินอะไรดี” เขาถามอย่างเอาใจ ขณะที่พนักงานรีบเข้ามาบริการ

“พี่ไตรไปดูคุณนีร่าเธอเถอะค่ะ เกี้ยวดูแลตัวเองได้”

“งั้น...น้องเกี้ยวสั่งเผื่อพี่ไตรด้วยนะครับ เดี๋ยวพี่ไตรออกมากินด้วยคงไม่นาน ดูแลคุณเกี้ยวให้พี่ด้วยนะ” ประโยคหลังเขาหันไปบอกพนักงานที่ยืนพร้อมรับคำสั่งอยู่ข้างโต๊ะ

หญิงสาวเขี่ยข้าวในจานเล่น ไตรศูรย์เข้าไปนานกว่าที่เธอคิด และให้พนักงานมาบอกว่าให้เธอกินข้าวไปก่อนไม่ต้องรอ เพราะเขาจะเคลียร์งานข้างในให้เสร็จคงกลัวเธอหิว แต่เธอก็ตั้งใจรอกินพร้อมเขาอยู่ดี เกี้ยวเกล้าทอดสายตามองน้ำตกจำลองที่ถูกจัดไว้ด้านข้าง ประดับประดาด้วยพวกเฟิร์น มอสหลายชนิด มีโอ่งน้ำและตุ๊กตาดิ

นเผาปั้นเป็นรูปเด็กอ้วนหน้าตาประหลาดแต่น่ารักจัดวางไว้อย่างลงตัว

“สวัสดีค่ะน้องเกี้ยว อาหารเป็นยังไงบ้างคะ รสชาติคงเหมือนเดิมนะคะ แม้จะเปลี่ยนกุ๊กใหม่แต่ยังเป็นสูตรเดิมค่ะ”

“สวัสดีค่ะคุณนีร่า เกี้ยวยังไม่ได้ทานเลยค่ะ รอพี่ไตรอยู่ นั่งก่อนสิคะ”

“ตายจริง! พี่ต้องขอโทษน้องเกี้ยวด้วยนะคะที่รบกวนเวลาของน้องเกี้ยวกับไตร มันจำเป็นจริงๆ เกี่ยวกับโปรแกรมฯ ที่มันรวนน่ะจ้ะ ทีแรกก็คิดว่าคงแป๊บเดียวต้องขอโทษจริงๆ ” พูดพลางนั่งลงตรงข้ามเกี้ยวเกล้า

“ไม่เป็นไรค่ะ เกี้ยวเข้าใจค่ะ”

“น้องเกี้ยวทานไปก่อนก็ได้นะคะเดี๋ยวหิวแย่ ไตรนี่ก็จริงๆ เลยนะ ให้น้องเกี้ยวมาหิ้วท้องรออย่างนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ไม่เหมือนตอนคบกับพี่เลยนะคะ เขามักจะเห็นแฟนมาก่อนอะไรเสมอ อุ๊ย! เอ่อ ขอโทษค่ะ ที่พูดแบบนี้พี่เผลอไปหน่อยอย่าคิดมากนะคะ ยังไงเสียพี่กับไตรตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น หวังว่าน้องเกี้ยวคงไม่ถือสาและเข้าใจนะคะ” นิรามัยยิ้มเก้อๆ กับคำพูดของตัวเอง

“ไม่เป็นไรค่ะ เกี้ยวเข้าใจ” แล้วหญิงสาวก็ต้องเอ่ยคำนี้ซ้ำอีกครั้ง อย่างไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้

“น้องเกี้ยวนี่ดีจริงๆ เลยนะคะเนี่ย มิน่าไตรถึงชอบว่าน้องเกี้ยวเหมือนน้องสาวของตัวเองเอามากๆ ถ้าน้องเขายังอยู่คงอายุเท่ากับน้องเกี้ยวใช่ไหมคะ แถมยังบอกอีกนะคะว่าเห็นครอบครัวน้องเกี้ยวแล้วก็อุ่นใจ คิดถึงครอบครัวตัวเองถ้ายังอยู่คงเป็นแบบนั้น เขาคงคิดถึงครอบครัวที่จากไปนะคะ พอเห็นน้องเกี้ยวกับครอบครัวก็เลยคิดว่าน่าจะทดแทนกันได้ ก็อย่างนี้แหล่ะคนขาดความอบอุ่นนี่คะ” พูดเหมือนรู้จักและสนิมสนมกับคนที่เป็นหัวข้อสนทนาดีเหมือนในอดีต

“พี่ไตรบอกคุณนีร่าอย่างนั้นเหรอคะ” เป็นเหตุให้คนฟังถามเสียงแผ่ว

“เอ่อ...ก็ประมาณนั้นแหล่ะค่ะ แต่เขาคงไม่บอกน้องเกี้ยวอย่างนั้นหรอกนะคะ ขนาดพี่เองเขายังสั่งไม่ให้พูดเลยคนไม่สนิทกันจริงๆ ไม่รู้เรื่องนี้หรอกค่ะ ไตรคงกลัวน้องเกี้ยวคิดมาก แล้วอีกอย่างไตรเขาก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว” เกี้ยวเกล้าอยากเถียงนักว่าไม่จริง! เพราะกับเธอแล้ว คุณไตรศูรย์ผู้เคร่งขรึมกลับช่างหาถ้อยคำและเรื่องราวมากมายมาเจรจาได้แทบไม่มีหยุดหย่อน

“อีกอย่าง ไตรน่ะค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องครอบครัวมาก พี่รู้จักไตรดีค่ะ ไตรเป็นคนดีนะคะแต่เวลาโมโหจะน่ากลัว พูดก็พูดเหอะน้องเกี้ยวรู้ไหมคะตอนนี้ไตรยังไม่หายโกรธพี่ดีเลย” ท้ายประโยคป้องปากกระซิบกระซาบราวกับกลัวคนอื่นจะได้ยิน

“เรื่องอะไรคะ” ทำให้เกี้ยวเกล้างุนงง

“ก็...เอ่อ เรื่องที่พี่ไปมีคนอื่นตอนนั้นน่ะสิน้องเกี้ยวอย่าพูดไปนะคะ เรื่องมันก็จบไปนานแล้วไตรยังคงฝังใจอยู่ตลอด แต่พี่ไม่ถือสาหรอกค่ะอย่างน้อยเราก็เคยคบหากันมาก่อน เห็นไหมล่ะคะเจอหน้าพี่แต่ละทีก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา พึ่งมาพูดดีก็ตอนที่เข้ามาสะสางงานนี่แหล่ะค่ะ บางทีพี่รู้สึกว่าไตรควงน้องเกี้ยวเย้ยพี่ยังไงไม่รู้นะคะ เหมือนประชดพี่ยังงั้นแหล่ะ” นิรามัยพูดราวกับว่ากำลังเล่าเรื่องคนอื่นให้เธอฟังกระนั้น

“อ่า...อย่างนั้นเหรอคะ” ทำให้คนฟังหน้าเจื่อนลงอย่างห้ามไม่ได้

“ค่ะ แต่น้องเกี้ยวอย่าบอกไตรนะคะว่าพี่พูดเรื่องนี้ให้ฟัง ไตรโกรธตายเลย โดยเฉพาะเรื่องที่เขารักน้องเกี้ยวเหมือนน้องสาวของเขา และเอาครอบครัวน้องเกี้ยวมาทดแทนครอบครัวตัวเองอะไรอย่างนั้นน่ะค่ะ ถึงมันจะเป็นความจริงก็เหอะ” เกี้ยวเกล้านิ่งอึ้ง พร้อมทั้งรู้สึกกระตุกตรงหัวใจ

“ตายจริง! พี่เกือบลืมว่าน้องเกี้ยวจะทานข้าวมาชวนคุยเสียเพลิน’โทษทีนะคะ อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกเด็กได้นะ เดี๋ยวพี่เข้าไปดูไตรอีกทีดีกว่า ตามสบายนะคะน้องเกี้ยว”

หญิงสาวมองตามร่างนิรามัยที่เดินไปด้านหลังของร้านด้วยความรู้สึกที่ประเดประดัง ทั้งสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ ทุกครั้งที่ได้คุยกันแม้จะด้วยรอยยิ้มและคำพูดที่ดี แต่กลับทำให้เธอคลางแคลงใจได้ทุกครั้งไป และในครั้งนี้สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูดก็ทำให้เธอรู้สึกมากกว่านั้น เกี้ยวเกล้ารู้ว่าเป็นเจตนาที่ไม่สะอาดนัก แต่เรื่องที่นิรามัยพูดก็มีน้ำหนักมากกว่าเจตนาของคนพูด ‘พี่ไตร’ ของเธอ รักเธอเหมือนน้องสาวอย่างนั้นหรือ? หญิงสาวรู้สึกแปลบอยู่ในอก

แปลกที่ตอนเป็นเด็กเธอไม่เคยรู้สึกอะไรกับเรื่องนี้สักนิด แถมยังยินดีเสียอีกที่เขารักเหมือนน้องสาวไม่ว่าจะทดแทน ‘ไตรทิพย์’ น้องสาวที่จากไปของเขา หรือรักเหมือนน้องสาวจริงๆ เธอก็ยินดีทั้งนั้น เรื่องครอบครัวก็เหมือนกัน เธอเคยคิดว่าหากครอบครัวของเธอสามารถทดแทนครอบครัวเขาได้ก็คงดี เขาจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เธอยินดีให้เขาเป็นพี่และถึงขนาดเคยเอ่ยปากว่าจะยกพ่อ แม่ ยาย พี่สาวหรืออะไรก็ตามที่เป็นของเธอให้เป็นของเขาด้วย

แต่แล้ว...ทำไมวันนี้เธอถึงต้องมารู้สึกรู้สากับสิ่งที่เคยยินดีและเต็มใจอย่างนี้เล่า หรือเป็นเพราะวันนี้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอไม่เหมือนตอนเด็กอย่างนั้นใช่ไหม? แต่หากเป็นอย่างที่นิรามัยพูดมาจริงๆ ก็เท่ากับว่าเธอคิดกับเขาเพียงฝ่ายเดียวสินะ

เขาเองก็ไม่เคยจะบอกเธอสักคำว่ารัก ไม่แน่ว่าท่าทางการแสดงออกของเขาที่มีต่อเธอ อาจจะไม่มีอะไรแอบแฝงอยู่มากมายไปกว่า ‘น้องรัก’ คนหนึ่ง เพราะเขามักสุภาพอ่อนโยนกับเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นไปได้ไหมว่า ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่เขาจะยิ่งสุภาพ อ่อนโยนกับเธอมากขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะเห็นเธอเป็นน้องสาวที่ต้องทะนุถนอมตามประสาพี่ชายที่แสนดี

แล้วไหนจะเรื่องที่เขาค่อนข้างเฉยชากับนิรามัยนั่นอีกเล่า เธอเองก็เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมคนที่เคยรักกันมาก่อน ต้องมาทำเฉยชาไม่ใส่ใจกันมากขนาดนั้น ทั้งที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เพราะเขายังโกรธนิรามัยอยู่อย่างนั้นหรือ? เขาทำหวานใส่เธอเพื่อประชดคนรักเก่าอย่างนั้นหรือ? นั่นคือความจริงอย่างนั้นหรือ? เกี้ยวเกล้าตัวชาเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธอมองไปยังหลังร้านยังไม่มีวี่แววของไตรศูรย์ หญิงสาวควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมากด


###ตอนนี้อีบุ๊ค ‘ฝากรักไว้ในสายหมอก’ ลงขายแล้วนะคะ###
ตามลิ้งค์ที่แนบมาค่ะ ใครสนใจอยากเก็บพี่ไตร+น้องเกี้ยวเข้ากรุสมบัติ เข้าไปโหลดกันได้รัวๆเลยจร้า
หรือสนใจนิยายเรื่องอื่นๆในนาม ‘พิริตา’ และ ‘อเมทริน’ ก็สามารถเข้าไปโหลดกันได้นะคะ ทั้งตัวอย่างและอีบุ๊ค
ขอบคุณค่า
meb
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=Y
ToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzE
yOTE2IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiNTc3OTMiO30
hytexts
https://www.hytexts.com/ebook/B012031-ฝากรักไว้ในสายหมอก
ookbee
http://www.ookbee.com/shop/BookInfo?pid=a927a107-7f6d-4c43-9301-a8c03f420109&affiliateCode=1168c15837084f8bbb5cf6fde0ca707d
นายอินทร์ปัณณ์
https://naiin.com/product/detail/214536

ebooks.in.th
http://ebooks.in.th/ebook/45108/%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0
%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%84
%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B
8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%
E0%B8%AD%E0%B8%81/



กานพลู
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ค. 2560, 20:43:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ค. 2560, 20:43:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 831





<< ตอนที่ 23   ตอนที่ 25 >>
แว่นใส 5 ก.ค. 2560, 21:25:37 น.
นางร้ายใส่ไฟแล้ว น้องชายจะมาช่วยสุมฟืนด้วยไหม


กานพลู 8 ก.ค. 2560, 12:17:53 น.
ดูกานต่อไปปปป 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account