ความทรงจำใต้ผืนทราย
หนึ่งรัก สองภพ คำสัญญา และการรอคอย

พระองค์-ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และ นาง-สตรีผู้เสียความทรงจำ

สิ่งใดหนอนำทั้งสองมาพบกัน ...มันคือ โชคชะตา หรือ ความผูกพัน
Tags: อียิปต์ ฟาโรห์ ย้อนยุค ทะเลทราย ความทรงจำ

ตอน: ตอนที่ 1 (2)

บ้านหลังแรกที่เจออยู่ไม่ไกลนัก เป็นบ้านหลังเล็กชั้นเดียว ทาสีขาวและประดับด้วยแถบสีแดงแนวขวาง สีเหล่านั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบฝุ่นและควันจนดูขมุกขมัว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับการดูแลนัก แต่ บ้านของชาวนาที่ทำกินตามฤดูกาลส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ อย่างน้อยลานดินหน้าบ้านก็เรียบโล่ง ผู้เป็นเจ้าของคงพอจะมีเวลากวาดลานอยู่บ้าง

ฟาโรห์ทรงกระตุกม้าให้เดินย่างเข้าไปใกล้บ้าน ครั้นไม่เห็นใครจึงคิดจะออกโอษฐ์ตะโกนเรียก แต่หญิงสูงวัยรูปร่างผอมทว่ายังดูคล่องแคล่วเดินออกมาพอดี

เมื่อนางเห็นบุรุษแปลกหน้านั่งบนหลังม้าตัวโตอยู่หน้าบ้าน คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันแสดงความแปลกใจ อ้าปากออกเล็กน้อย คงกำลังจะเอ่ยถาม แต่องค์ฟาโรห์ชิงเอ่ยขึ้นก่อน

“ขออภัยเถิด ข้าผ่านทางมา พอดี...” ทรงมองหญิงสาวในอ้อมพระกร คิดหาคำพูดที่เหมาะสม “... ‘นาง’ ตกน้ำ ขอความช่วยเหลือจะได้หรือไม่”

หญิงสูงวัยผู้นั้นรีบเดินเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นสภาพของสตรีที่กำลังสลบไสลในอ้อมกอดของพระองค์ก็ถึงกับชะงัก

“เข้ามาก่อนสิ พ่อหนุ่ม”

นางเอ่ยก่อนรีบเดินนำเข้าไปในบ้าน ฟาโรห์จึงรีบอุ้มหญิงสาวลงจากม้าตามเข้าไปทันที

ภายในบ้านเป็นห้องกว้างเพียงห้องเดียว มีผ้าผืนใหญ่ขึงไว้ตรงมุมหนึ่งแทนการกั้นเป็นห้องส่วนตัว แสงแดดที่ส่องเป็นลำลอดเข้ามาจากช่องลมด้านบนของผนังเกือบชิดเพดานให้ความสว่างแบบสลัวรางแม้เป็นยามกลางวัน ฟาโรห์ทรงวางร่างหญิงสาวลงบนเสื่อกลางห้อง กิริยาของพระองค์เต็มไปด้วยความถนอมแบบไม่รู้องค์

“ข้าเดินทางมา ไม่มีเสื้อผ้าจะผลัดให้นาง...” ทรงก้มลงมองผู้ที่ถูกกล่าวถึง เสื้อผ้าของนางเป็นชุดยาวติดกันที่ดูแปลกตาอยู่บ้าง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งต้องพะวงในยามนี้ “...ขอรบกวนท่านป้าหาชุดใหม่ให้ได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นนางคงได้จับไข้เป็นแน่”

สิ้นคำขอขององค์ฟาโรห์ หญิงเจ้าของบ้านก็ทำท่าอึกอัก ใจนางคงอยากจะให้หากให้ได้ แต่..

ฟาโรห์ทรงถอดตุ้มพระกรรณซึ่งทำจากทองและทองแดงข้างหนึ่งยื่นให้นาง

“ข้ามีไม่มากนัก โปรดช่วยนางเถิด”

ครานี้ หญิงสูงวัยถึงกับเบิ่งตาโต แม้จะเป็นเพียงตุ้มพระกรรณธรรมดาสำหรับฟาโรห์ แต่กับนางนั้นคงมีค่าไม่น้อย อาจจะพอให้นำไปแลกข้าวสาลีได้เป็นกระสอบ

“ข้าจะหาเสื้อผ้าให้ รอสักครู่นะพ่อหนุ่ม”

นางคว้าตุ้มพระกรรณนั้นก่อนเดินดุ่มหายไปหลังผืนม่าน ฟาโรห์ทรงรีบถอดเครื่องประดับอื่น ๆ ของพระองค์และแหวนล้ำค่าจากมือหญิงสาวเก็บไว้ก่อนเจ้าของบ้านกลับออกมาพร้อมผ้าสีขาวมอ

“เอ้า พ่อหนุ่ม รีบเปลี่ยนให้เมียเจ้าเถิด ประเดี๋ยวข้าจะไปหาอาหารมาให้”

หญิงสูงวัยยื่นผ้าให้พร้อมกับทำท่าจะลุกออกไป แต่องค์ฟาโรห์รีบเรียกไว้แทบจะในทันที

“ท่านป้า ท่านช่วยเปลี่ยนให้นางหน่อยเถิด” เมื่ออีกฝ่ายทำหน้าคล้ายจะแปลกใจ พระองค์จึงรีบขยายความ “คือ ข้า ใส่เสื้อผ้าให้สตรีไม่เป็น”

คราวนี้คนฟังถึงกับยิ้มกว้างจนเห็นฟันที่เหลืออยู่ไม่กี่ซี่ หัวเราะออกมาและตบไหล่พระองค์

“โถ พ่อหนุ่ม นี่คงถอดเป็นอย่างเดียวสินะ”

องค์ฟาโรห์ถึงกับกระแอมไอ ความจริงคือ แม้การ ถอด ก็ใช่ว่าจะทรงทำได้คล่องแคล่ว ก็เพราะที่ผ่านมา เมื่อมาถึงพระหัตถ์ก็ ‘พร้อม’ ถวายการรับใช้แล้วทั้งสิ้น ทว่าท่าทางของพระองค์ยามนี้คงดูไม่ต่างกับ ‘เจ้าบ่าวหมาด ๆ’ กระมัง คนตบไหล่พระองค์อยู่จึงหัวเราะร่าได้เช่นนี้

“ข้าจะไปดูม้าเสียหน่อย รบกวนท่านป้าด้วย”

ทรงตรัสแค่นั้นแล้วรีบลุกออกไป ราวกับจะ ‘หนี’ เสียอย่างนั้น


ม้าตัวเก่งของพระองค์ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยได้รับการฝึกมาอย่างดีเยี่ยม เมื่อฟาโรห์ลูบแผงคอมันเบา ๆ มันก็ดุนหัวเข้ากับพระอุระอย่างน่าเอ็นดู

“รอก่อนนะ เดี๋ยวข้าจะหาน้ำหาอาหารมาให้”

ตรัสกับอาชาคู่พระทัยขณะนำมันไปผูกไว้กับต้นไม้ข้างบ้าน ในยามนี้คงจะให้อยู่แถวนี้ไปก่อน เผื่อว่าองครักษ์ของพระองค์ผ่านมาจะได้เห็นว่าพระองค์อยู่ที่ไหน แต่หากถึงยามกลางคืน ก็คงต้องไปผูกไว้ในบ้านด้วยเกรงจะโดนขโมยไปเสียก่อน ม้านั้นสูงค่าพอ ๆ กับวัว แต่หากเป็นม้าลักษณะดีเช่นเจ้าตัวนี้ของพระองค์ แน่นอนว่าวัวสักห้าตัวสิบตัวคงยังเทียบไม่ได้

พลันเสียงเรียกดังหนึ่งก็ดังจากด้านหลัง

“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่ม”

เมื่อพระองค์หันกลับไปก็เจอหญิงเจ้าของบ้านยืนยิ้มกว้าง ดูท่าได้สนทนากันไม่เท่าไร นางก็รู้สึกคุ้นเคยกับพระองค์เสียแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะตุ้มพระกรรณนั้นก็เป็นได้

“ข้าจะเอาผ้าไปซักตาก พักกันก่อนก็เถิด แล้วจะหาอาหารมาให้”

พูดจบนางก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่แล้วก็ชะงัก ก่อนหันกลับมาถาม

“จริงสิ เจ้าชื่ออะไรรึ ข้าจะได้เรียกถูก”

“นาเมส”

ทรงเลือกนามกำเนิดอันเรียบง่ายของพระองค์มาเป็นคำตอบ

“ข้า กียา”

หญิงสูงวัยแนะนำตัวสั้น ๆ พระองค์มิตอบสิ่งใดเกินกว่าการพยักพระพักต์รับ นางจึงเดินอ้อมหายไปทางด้านหลัง บัดนี้ภายในบ้านคงมีสตรีผู้นั้นนอนสิ้นสติอยู่เพียงลำพัง อันที่จริงพระองค์ไม่คิดว่าเป็นเรื่องดีนักหากอยู่ ๆ จะถูกทึกทักให้เป็นสามีของใคร หรือมีใครต้องมาเป็นภรรยาของพระองค์เช่นนี้ เพราะในชีวิตจริงของฟาโรห์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินจะล้อเล่น

แต่ เหตุใดเมื่อนึกถึงใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาของคนนอนไม่รู้เรื่องอยู่ข้างใน จึงเผลอยิ้มออกมาได้หนอ

...เอาเถิด...

ทรงถอนพระปัสสาสะเมื่อรู้สึกองค์ ในสถานการณ์เช่นนี้คงต้องปล่อยไปก่อน หากนางฟื้นขึ้นมาก็ค่อยว่ากัน

อีกประการ การที่หญิงเจ้าของบ้านคิดว่าพระองค์และนางเป็นสามีภรรยากันได้ นั่นคงหมายความว่านางไม่ใช่คนละแวกนี้ แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตาของนางดูเป็นคนต่างถิ่น แต่จะต่างสักแค่ไหนกัน เพราะอย่างน้อยนางก็มาจมน้ำอยู่แถวนี้ได้

ทรงเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทอดพระเนตรมองคนที่กำลังสลบไสล คนที่ไม่รู้สึกตัวอันใด แต่พระองค์ได้ช่วยไว้จนหลวมตัวถึงกับมาสวมรอยเป็นสามีของนาง มันช่างเป็นเรื่องเกินความคาดหมายเหลือเกินในวันนี้

ครั้นเมื่อได้ทรุดนั่งลงข้างกายหญิงสาว ก็ทรงรู้สึกราวกับว่านางได้กลายเป็นสมบัติของพระองค์ไปเสียแล้ว ...และเป็นสมบัติที่ทำท่าว่าจะน่าหวงแหนเสียด้วย

...เถิด...

ทรงปรามองค์เองอีกครั้ง

อย่างไรตอนนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น ก็หวังแต่เพียงว่าในยามตื่นนางจะสงบเสงี่ยมได้เหมือนในยามหลับ





วินตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.ค. 2560, 13:42:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.ค. 2560, 13:42:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 855





<< ตอนที่ 1 (1)   ตอนที่ 1 (3 - จบตอน) >>
วินตา 9 ก.ค. 2560, 13:45:25 น.
คุณแว่นใส >> อิอิ ค่ะ ได้เจอกันอีกแล้ว มาเจอกันอีกเรื่อย ๆ นะคะ
.
.
.
ทางไป ebook ฟิ้วววว >>> https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=59566


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account