ชุลมุนแผนร้าย ... ป่วนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอจะต้องมารับรู้เรื่องปวดหัวพวกนี้ด้วย!
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก

กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!

ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา

เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
Tags: ผี ฆาตกรรม ปิ่นนลิน

ตอน: ตอนที่ 2

ตอนที่ 2



ห้องทำงานของกอกานต์อยู่ชั้น 18 ของอาคารวัสวากรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังห้างสรรพสินค้าวัสวาที่ใหญ่โต จนกลายเป็นแลนด์มาร์คในย่านนี้ อาคารวัสวากรุ๊ปเป็นตึกกระจกสูง ตกแต่งดีไซน์โมเดิร์นเรียบหรู เน้นโทนสีขาว ดำ และทองตามโลโก้ห้างสรรพสินค้า

หญิงสาวผู้นอกจากกระโปรงนักศึกษาและเวลาไปงานกลางคืนน้อยครั้งแล้วก็ไม่เคยนิยมสวมกระโปรงและรองเท้ามีส้นนั่งประหม่าบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน หันมองซ้ายทีขวาที ภายในห้องทำงานขนาดหกคูณสี่เมตรกั้นด้วยกระจกใสสามด้าน นอกจากด้านริมนึกที่เป็รกำแพงปูนกั้นไว้ครึ่งล่าง และกระจกใสติดฟิล์มกันแดดกั้นไว้ส่วนบน

เวลานี้กอกานต์นั่งอยู่กับคอมพิวเตอร์ราคาแพงเท่านั้น นอกจากเธอแล้วไม่มีพนักงานแผนกออกแบบคนอื่นอีกเลย กอกานต์รู้สึกแปลกๆ และไม่มีใครอยู่กับเธอสักคนแม้ว่าเวลานี้จะเกือบสิบเอ็ดโมงแล้วก็ตาม เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือมาส่งข้อความหาศตารีเพื่อระบายความรู้สึกพิกลที่เกิดขึ้น

“อารี แก้มรู้สึกแปลกๆ เมื่อกี้พี่ที่เป็นแอดมินบอกแก้มว่าแก้มเป็นพนักงานออกแบบคนเดียวของวัสวากรุ๊ป”

“ว่าไงนะ” ศตารีตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “แต่วัสวากรุ๊ปมีสาขาทั่วประเทศ จะมีพนักงานออกแบบคนเดียวได้ยังไง” ศตารีไม่เชื่อที่เพื่อนเล่า ออกความเห็นว่า “หรือคนอื่นๆ อาจจะนั่งที่อื่นก็ได้นะ”

กอกานต์สงสัยว่าอาจจะเป็นอย่างศตารีบอก เพราะจากที่ รุจิรา พนักงานรุ่นพี่บอกไว้ว่าเธอจะต้องทำงานโดยตรงกับภาสวินท์ นี่อาจจะตำแหน่งเฉพาะคนก็ได้

“อย่ากังวลไปก่อนเลยแก้ม ทำให้เต็มที่ สู้ๆ นะ” ศตารีให้กำลังใจเพื่อนผ่านข้อความทางโทรศัพท์มือถือ

“ขอบใจมากนะอารี”

กอกานต์พิมพ์เสร็จก็เงยหน้าจากจอโทรศัพท์มือถือ มองตรงไปยังห้องกระจกด้านในซึ่งเป็นห้องทำงานประจำของภาสวินท์ เวลานี้เจ้าของห้องยังไม่มาทำงาน จากที่รุจิราบอกไว้ ถ้าภาสวินท์จะเข้าห้องทำงานเขามักจะเดินเข้าทางประตูแผนกการตลาดมากกว่า เพราะภาสวินท์ดูแลงานออกแบบของห้างทั้งหมด เจ้านายหนุ่มจึงให้คนมาติดประตูเพิ่ม เพราะต้องเดินเข้าออกห้องแผนกออกแบบตลอดเวลา

ความที่เพิ่งเคยทำงานครั้งแรก แล้วต้องทำงานใกล้เจ้านายมากขนาดนี้ กอกานต์ถึงกับประหม่าและเกร็ง กลัวจะทำอะไรผิดพลาดไปเสียหมด

ไม่นานนัก ภาสวินท์ก็มาถึงพร้อมผู้ช่วยของเขา แค่ภาสวินท์เดินผ่าน พนักงานแผนการตลาดที่คุยเล่นกันเสียงดังสงบเงียบเสียงลงทันที

ภาสวินท์อยู่ในสูทสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเชิ้ตขาว ผมสั้นเซ็ททรงอวดโครงหน้าหล่อเลา หน้าตาชายหนุ่มสะอาดสะอ้านไร้หนวดเครา เขาเดินด้วยท่าทางมาดมั่น แววตาคมปลาบแทบไม่สนใจสิ่งรอบตัวเลย ส่วนแทนไทอยู่ในสูทสีดำสนิท โดยสองหนุ่มเดินเข้าห้องทำงานผ่านประตูฝั่งการตลาดแบบที่รุจิราบอกไว้จริงๆ ก่อนที่แทนไทจะเดินมาเปิดประตูฝั่งห้องออกแบบแล้วเชิญเธอเข้าไปพบภาสวินท์ที่โต๊ะทำงาน

“คุณได้บัตรพนักงาน และอีเมล์ประจำตัวจากคุณแนทเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคุณกอกานต์” ภาสวินท์ยังไม่นั่งเก้าอี้ เขากลับเดินไปที่ชั้นวางหนังสือมุมห้องก่อนจะหยิบแฟ้มสีดำขนาดใหญ่ออกมาจากชั้น

คนในบทสนทนาที่ภาสวินท์พูดถึงคือรุจิรา พนักงานธุรการดูแลเรื่องทั่วไปบนออฟฟิศ นอกจากผู้ช่วยเรื่องงานต่างๆ อย่างแทนไทแล้ว ภาสวินท์ก็เรียกหารุจิรามากกว่าใคร

“ค่ะ พี่แนทให้แก้มไว้แล้วค่ะ” กอกานต์ตอบพร้อมรีบเดินเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มที่กวักมือเรียกเธอ และเกือบยื่นมือไปรับแฟ้มหนาและหนักจากเขาแทบไม่ทัน

“ดีแล้ว … ก่อนจะเริ่มทำงาน ผมอยากให้คุณไปศึกษาหลักเกณฑ์ ข้อกำหนดต่างๆ ในการออกแบบงานให้ห้างฯ เราก่อน” ภาสวินท์วางแฟ้มอันที่สองและสามลงบนมือของหญิงสาว เขาไม่ทันสังเกตว่าพนักงานคนใหม่เริ่มขาสั่นขางอกับน้ำหนักแฟ้มทั้งหนาและหนักจากเขา

“ค่ะ” เธอตอบรับอย่างแข็งขันแล้วถึงกับอ้อนวอนผ่านสายตา ไม่ให้เจ้านายเพิ่มแฟ้มหรืออะไรมาวางบนแขนเธออีก แค่นี้ก็ต้องพยายามหอบแฟ้มทั้งหมดไม่ให้ร่วงตกพื้นขาสั่นแล้ว แถมยังต้องเดินตามเจ้านายไปยังโต๊ะทำงานตรงกลางห้อง

“ช่วงเช้าก็อ่านเอกสารในแฟ้มไปก่อนนะ แล้วผมมีงานจะให้คุณทำตอนบ่าย ไฟล์งานเก่าๆ อยู่ในฮาร์ดดิสก์ลูกนี้” ภาสวินท์ยื่นฮาร์ดดิสก์ก้อนใหญ่เหมือนกล่องข้าวสีดำให้อีกอย่าง กอกานต์ทำหน้าไม่ถูกเพราะไม่รู้จะยื่นมือไปรับของจากชายหนุ่มได้อย่างไร สองมือเธอเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารที่หนาอย่างกับสมุดโทรศัพท์ปกเหลือง

“คุณภาสวินท์คะ คือ ขอแก้มเอาแฟ้มไปวางที่โต๊ะก่อนนะคะ” เธอทำใจกล้าขอความเห็นใจจากเจ้านาย

ภาสวินท์เพิ่งหันมองหญิงสาวเต็มตา เขาชะงักมือ เม้มริมฝีปากหยักแน่นก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ตอบเธอ “ครับ” โดยวางฮาร์ดดิสก์ไว้บนโต๊ะทำงานของตัวเอง

พนักงานใหม่ยิ้มแสดงออกว่าดีใจและโล่งอก ค่อยๆ เดินหอบแฟ้มงานที่หนักจนขาสั่นไปที่โต๊ะตัวเอง เธอจึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มมุมปากของเจ้านาย

“เอ่อ เดี๋ยวผมเอาเจ้านี่ออกไปให้คุณแก้มเองก็ได้นะครับ” แทนไทเอ่ยถามเมื่อเจ้านายยืนมองพนักงานใหม่ด้วยการเม้มริมฝีปาก มองไม่ออกว่าภาสวินท์ยิ้มหรือบึ้งไม่พอใจกันแน่

ภาสวินท์หันไปสบตาผู้ช่วยคนสนิท เขาเพิ่งนึกออกว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตยืนหัวโด่อยู่ในห้องทำงานของเขา

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้คุณแก้มเข้ามาเอาเอง นายเอาเอกสารไปให้ฝ่ายการเงินด่วนเลย” ภาสวินท์ยื่นเอกสารให้แทนไท เสร็จ แทนไทเดินออกไปแล้วคนตัวเล็กก็เพิ่งจะเดินเข้ามาหยิบฮาร์ดดิสก์บรรจุไฟล์งานจากบนโต๊ะทำงานของเขา เธอโค้งแล้วโค้งอีกก่อนจะเดินกลับออกไป

เมื่อเขามองตามคนตัวเล็กในชุดกระโปรงสีดำ ที่เกล้าผมครึ่งศีรษะแล้วดัดตรงปลายผมเป็นลอนๆ มีความคิดนึงผุดขึ้นในหัวของภาสวินท์

พนักงานใหม่ของเขา ตัวเล็ก แถมยังเดินดุ๊กๆ เหมือนหมาชิสุชะมัด!




กอกานต์ไม่รู้ตัวเลยว่านั่งอ่านข้อมูลในแฟ้มจนถึงเวลาเที่ยงกระทั่งสองหนุ่มเดินออกมาจากห้องด้านใน ภาสวินท์เคาะที่โต๊ะเบาๆ ทำให้เธอเงยหน้าจากแฟ้ม สบดวงตาคมกริบที่คาดเดาอารมณ์เจ้าของไม่ได้ ส่วนแทนไทยืนซ้อนอยู่ด้านหลังส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“ไปกินข้าวเที่ยงกัน ผมจะเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่” ภาสวินท์ไม่พูดต่อหรอกว่ามีเรื่องอยากถามเจ้าหล่อน

“ค่ะ” กอกานต์ตอบพร้อมปิดแฟ้มวางไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย เธอหันไปหยิบกระเป๋าสะพายใบน้อยมาคาดไหล่ก่อนลุกขึ้นยืน และเดินตามสองหนุ่มไปยังลิฟท์เพื่อลงไปด้านล่าง ในลิฟท์ไม่มีใครคนอื่นนอกจากเธอกับสองหนุ่ม

“เอ่อ คุณภาสวินท์คะ แก้มขอถามได้ไหมคะ” กอกานต์ทำลายความเงียบภายในลิฟท์ลง เจ้าของชื่อก้มมองคนเตี้ยกว่า แววตาหญิงสาวเต็มไปด้วยคำถาม

“ได้สิ นี่ คุณเรียกผมว่าวินท์ก็พอ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มหรอก คุณแก้ม” ภาสวินท์มอบความเป็นกันเองให้พนักงานคนใหม่ เพราะยังต้องทำงานตัวติดกันไปจนกว่าหญิงสาวจะทำงานเองได้คล่อง ภาสวินท์หวังว่าเขาจะไม่ต้องหาพนักงานใหม่อีก อะไรบางอย่างที่ไม่ยอมรับพนักงานคนอื่นนั้นเหมือนจะยอมรับให้กอกานต์ทำงานอยู่ใกล้ๆ เขา

“ค่ะคุณวินท์ คือว่า พนักงานฝ่ายออกแบบคนอื่นเขาทำงานกันชั้นอื่นหรือคะ” กอกานต์อดทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้จริงๆ

ภาสวินท์เลิกคิ้ว เหลือบมองหน้าแทนไทครู่สั้นๆ ก่อนเบือนหน้าไปมองเงาตัวเองในประตูลิฟท์แทนจะสบตาคนถามที่จ้องเขาตาแป๋ว

“ใช่ เขาทำงานกันชั้นอื่น คุณน่ะทำงานใต้คำสั่งผมโดยตรง ไม่ต้องไปรับคำสั่งใครคนอื่น เพราะฉะนั้นคุณไม่เหมือนพนักงานคนอื่นหรอก”

เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงกังวลเรื่องที่ถามออกมา “คุณกลัวอะไรหรือ คุณแก้ม” ภาสวินท์คาดหวังว่าจะไม่ได้กลัวเหมือนคนอื่นๆ

“ไม่ได้กลัวอะไรหรอกค่ะ แค่สงสัยเฉยๆ ตอนเข้าไปนั่งคนเดียวก็แค่คิดว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้ ไม่น่ามีพนักงานออกแบบแค่คนเดียวค่ะ”

สีหน้าหญิงสาวคล้ายจะผ่อนคลาย ก่อนจะแอบขมวดคิ้ว แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ กับตัวเอง

หญิงสาวมัวแต่คิดอะไรของเธอจนไม่สังเกตว่าสองหนุ่มเห็นอาการของเธอชัดเจน หากสองหนุ่มวัยสามสิบปีต่างไม่ได้ถามอะไรต่อ

แทนไทรำพึงในใจว่าเมื่อก่อนตอนยังหาคนมาช่วยไม่ได้ ภาสวินท์ก็จัดการทุกอย่างเพียงลำพัง โดยการจ้างบริษัทออกแบบข้างนอกทำงาน ทั้งตรวจงานและจัดการ ภาสวินท์ก็ทำทุกอย่างเพียงคนเดียว การรับพนักงานใหม่เข้ามาคงช่วยให้งานเจ้านายเบาลง

น่าเสียดายพนักงานที่เข้าได้กับที่นี่ดันมีแต่เด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์การทำงาน ภาสวินท์คงต้องเหนื่อยสอนงานคนใหม่อีกนิด




หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ภาสวินท์และแทนไทก็แยกไปทำงานอื่น เหลือเพียงกอกานต์ที่กลับมาห้องทำงานเพียงลำพัง

ตอนเดินผ่านแผนกการตลาด กอกานต์รู้สึกถึงสายตาแปลกๆ จากพนักงานในแผนกนั้น กระจกกั้นห้องทำให้หญิงสาวไม่สามารถได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกัน เธอเปิดประตูห้องแล้วนั่งมองจอคอมพิวเตอร์ที่ดำสนิท ก่อนจะเบิกตากว้างเพราะเงาในกระจกจอสะท้อนภาพผู้หญิงหน้าขาวคนหนึ่งขึ้นมา กอกานต์หันไปมองทันทีแต่ก็ว่างเปล่า

ความสงสัยทำให้กอกานต์ลุกจากเก้าอี้ เปิดประตูห้องแผนกออกแบบ เดินออกไปดูที่ทางเดิน ด้านหลังคือทางที่จะไปลิฟท์และแผนกการตลาด ส่วนด้านหน้านั้นเดินต่อไม่ได้ เพราะเป็นประตูที่ปิดสนิทแถมคล้องโซ่เอาไว้อีก

พนักงานใหม่ลองเดินไปยังส่วนหน้าแผนกการตลาด เห็นเพียงผู้ชายวัยกลางคนยืนใช้ไม้กวาดกวาดทางเดินอยู่คนเดียว

“หาอะไรหรือหนู” ลุงวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใจดี และอ่อนโยน

“หนูเหมือนเห็นคนเดินผ่านไปค่ะ” กอกานต์ตอบคล้ายคนละเมอ เพราะสงสัยว่าเธอตาฝาดไปเองหรือเปล่า ถ้าผู้หญิงหน้าขาวคนนั้นเดินก็คงเดินเร็วมาก แล้วคนที่ไหนจะเดินเหมือนหายตัวได้ … หรือจะไม่ใช่คน?

“ก็คงเดินผ่านไปแล้วล่ะ หนูอย่าไปสนใจเลย” ลุงวัยกลางคนแนะนำพร้อมรอยยิ้ม กอกานต์เพิ่งได้มองหน้าลุงชัดๆ ก็จำได้ว่าคือคนคนเดียวกับที่เธอเจอวันสัมภาษณ์งาน

“ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณลุง” กอกานต์เดินกลับไปยังห้องทำงานตัวเอง แต่เธอนึกอยากจะไปห้องน้ำจึงหันหลังกลับอีกครั้ง

แต่ลุงคนนั้นหายไปแล้ว …

กอกานต์ยืนนิ่ง และเธอก็ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนที่เดินมาจากด้านหลัง ทำให้พอใครคนนั้นเรียกชื่อเธอ กอกานต์ก็สะดุ้งโหยง หันมองเจ้าของเสียงทุ้มหน้าตาตื่น

“คะ คุณวินท์ คุณวินท์นี่เอง”

“คุณแก้ม คุณเป็นอะไร” เจ้าของเสียงทุ้มถามอย่างเป็นห่วง ใบหน้าเล็กขาวซีดเหมือนตกใจกลัวอะไรบางอย่าง “เป็นอะไรไปคุณแก้ม” ชายหนุ่มถามซ้ำด้วยท่าทางจริงจังมากขึ้น

“เปล่าค่ะ แก้มแค่ตกใจเสียงเฉยๆ” กอกานต์ยังไม่มั่นใจว่าเธอตาฝาด หรือมีอะไรลี้ลับอยู่ที่นี่จริงๆ กันแน่ แม้ในใจจะคิไปในทางว่าเห็นจริงๆ ต้องมีอะไรแปลกๆ อยู่ที่นี่แน่ๆ แล้วก็ตาม

ภาสวินท์มองพนักงานใหม่ด้วยความเห็นใจ เธอตัวเล็กจนเขาดุไม่ลง เพราะถ้าเป็นพนักงานคนอื่นเขาคงเอ็ดใส่ไปบ้างแล้ว แต่เขาก็ไม่ถามอะไรเพื่อให้คนตัวเล็กสงสัยอะไรมากไปกว่าเดิม โดยยื่นแก้วกาแฟให้แทน

“คุณง่วงหรือเปล่า ดื่มกาแฟไหมครับ ดื่มอะไรเย็นๆ จะได้สดชื่นขึ้น” ภาสวินท์พยายามเป็นเจ้านายใจดีทั้งที่เอาใจใครไม่ค่อยเป็น นี่เขาคงต้องขอบคุณคู่หมั้นที่แสนเอาแต่ใจของเขาแล้วสินะ

“ขอบคุณค่ะ แต่แก้มไม่ดื่มกาแฟค่ะ” กอกานต์ปฏิเสธ ไม่ใช่เธออยากเสียมารยาท แต่กอกานต์แพ้กาแฟจริงจังชนิดหายใจไม่ออกเลยทีเดียว “ขอเป็นน้ำส้มแทนได้ไหมคะ” เธอมองแก้วน้ำส้มในมืออีกข้างของชายหนุ่ม

ภาสวินท์มองกาแฟสลับกับแก้วน้ำส้มในมือตัวเองอย่างชั่งใจ สุดท้ายก็ยอมเสียสละความหวานให้พนักงานใหม่

“คุณลองเปิดคอมแล้วหรือยัง” ภาสวินท์เดินนำไปนั่งเก้าอี้อีกตัวข้างๆ มองจนพนักงานใหม่หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์

“วันก่อนผมเพิ่งเซ็ตให้ มันก็เปิดได้ดีนะ”

ภาสวินท์เป็นคนจัดการคอมพิวเตอร์ใหม่สำหรับพนักงานใหม่ด้วยตัวเอง เป็นคอมพิวเตอร์ยี่ห้อที่นักออกแบบนิยมใช้กัน แถมรุ่นใหม่ล่าสุด

“คอมพ์ใช้ได้ดีค่ะ” กอกานต์ขยับเมาส์ไปมา คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานอีกครั้ง หน้าจอสว่าง แต่หน้าตาหญิงสาวยังเหมือนเดิม คือ ตื่นกลัวอะไรบางอย่าง

ภาสวินท์ลอบถอนหายใจ อดเกาหัวเบาๆ ไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก นี่เขาต้องทำใจให้ชินกับภาพแบบนี้หรือเปล่านะ

“คุณวินท์คะ แก้มขอถามอะไรได้ไหมคะ” กอกานต์หันไปมองหน้าเครียดๆ ของเจ้านาย

“ไม่ได้ครับ” เจ้านายใจดีหายไปแล้ว เขายังคว่ำปากใส่เธออีกด้วย “หมดโควต้าสำหรับวันนี้แล้ว คุณถามคำถามมากมายระหว่างมื้ออาหาร มันมากพอแล้ว”

“อ้าว” กอกานต์ทำหน้าเหวอ ขณะเขาเลื่อนเมาส์กดปิดคอมพิวเตอร์ของเธอ

“วันนี้คุณไม่ต้องทำงานแล้วล่ะ” ภาสวินท์เอ่ยเสียงขรึม พร้อมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ประกายคมกริบคล้ายไม่พอใจจากแววตาชายหนุ่มทำให้กอกานต์ ร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา

“ทำไมหรือคะ” เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจเลยจะไล่เธอออกหรือเปล่านะ? โอยไม่นะ! กอกานต์เพิ่งเริ่มเป็นพนักงานประจำได้เพียงหกชั่วโมงกว่าๆ เอง!!

“หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นตามผมมา” ภาสวินท์หมุนตัวเดินนำเธอไปพร้อมกาแฟในมือ หญิงสาวหายกลัวเรื่องผีสาง กลายเป็นกลัวอารมณ์เจ้านายแทนทันที

“คุณวินท์จะพาแก้มไปไหนหรือคะ” กอกานต์ก้าวเท้ายาวๆ เพื่อให้ตามชายหนุ่มทัน โดยเธอลืมไปแล้วว่า

“ผมบอกแล้วไงว่าโควต้าคำถามสำหรับวันนี้ของคุณหมดแล้ว ตามผมมาเงียบๆ ก็พอ” ภาสวินท์สวนกับแทนไทที่กลางทางเดิน

“คุณวินท์จะไปไหนหรือครับ อ้าว คุณวินท์แพ้ …”

“นี่สำหรับนาย” ภาสวินท์ยื่นแก้วกาแฟให้คนช่างสงสัย “ผมจะพาคุณแก้มไปเดินรอบๆ ห้างนะ”

แทนไทรับกาแฟมาถือไว้ด้วยสีหน้างุนงง ได้แต่มองเจ้านายเดินเข้าลิฟท์ไปพร้อมพนักงานใหม่ ก่อนจะมองกาแฟในมืออย่างรู้ดีว่า ภาสวินท์แพ้กาแฟ ไม่มีทางเสียเงินซื้อกาแฟมาดื่มแน่นอน หากสุดท้ายแทนไทก็มองโลกในแง่ดีว่า

“หรือซื้อมาฝากเรา … เจ้านายใจดีผิดปกตินะวันนี้”



“ภาสวัสร์กินข้าวเที่ยงได้ดีไหม” อนงค์นางถามขณะมองแม่บ้านวัยกลางคนยกอาหารว่างออกมาจากครัว เพื่อนำไปให้คนในห้องด้านหลัง

“ค่ะ ยอมกินจนหมด ก่อนจะกินยาและนอนหลับไปอีกรอบค่ะ” สิริมาตอบ และถามกลับ “ที่คุณนางให้ส้มไปถามคุณหมอว่าควรเพิ่มยากับคุณวัสร์หรือเปล่า คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณวัสร์ก็ดีขึ้นมากแล้วนะคะ ถ้าเพิ่มยา คุณวัสร์จะซึมกว่าเดิมหรือเปล่าคะ”

สิ้นเสียงตอบจากสิริมา เสียงโหยหวนโวยวายก็ดังมาจากห้องด้านหลัง อนงค์นางถลึงตาใส่สิริมา น้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“นี่น่ะหรือดีขึ้น! ไป ไปทำยังไงก็ได้ให้ภาสวัสร์เงียบ!”

“ค่ะๆ” สิริมารีบร้อนไปห้องด้านหลังตามคำสั่งอนงค์นางทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่คนงานเดินมารายงานอนงค์นาง

“คุณนายคะ คุณนิกกี้มาเยี่ยมค่ะ ตอนนี้รออยู่ในห้องนั่งเล่น”

อนงค์นางขมวดคิ้วเครียด “หวังว่าหนูนิกกี้จะไม่ได้ยินอะไรนะ” เรื่องของภาสวัสร์จะให้ ชนิณิภา หญิงสาวคู่หมั้นของภาสวินท์รู้ไม่ได้เด็ดขาด!



จบตอน


นำนิยายมาส่งค่า


คุณ แว่นใส - น่าสงสัยจริงๆ นะคะ

คุณ kaelek - เรื่องของพี่วัสร์รอหน่อยน้าา



ขอบคุณทุกคอมเมนท์ค่า



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.ค. 2560, 15:56:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.ค. 2560, 15:56:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 963





<< ตอนที่ 1   ตอนที่ 3 >>
kaelek 14 ก.ค. 2560, 20:09:55 น.
นี่ไม่ได้มีแค่คุณลุงเหรอ ที่หายตัวได้ ยัง ผญ หน้าขาวด้วย โอ้ววว แก้มเอ๊ย จะเจอดีกี่คนล่ะนี่


แว่นใส 14 ก.ค. 2560, 20:54:08 น.
ทำไมถึงป่วยนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account