ความทรงจำใต้ผืนทราย
หนึ่งรัก สองภพ คำสัญญา และการรอคอย

พระองค์-ฟาโรห์แห่งอียิปต์ และ นาง-สตรีผู้เสียความทรงจำ

สิ่งใดหนอนำทั้งสองมาพบกัน ...มันคือ โชคชะตา หรือ ความผูกพัน
Tags: อียิปต์ ฟาโรห์ ย้อนยุค ทะเลทราย ความทรงจำ

ตอน: ตอนที่ 2 (3 - จบตอน)

เสียงจากด้านล่างเงียบไปพักใหญ่แล้ว แต่ฟาโรห์เมรเรนฮอร์ซีซิสยังคงประทับนิ่งอยู่หน้ากองไฟ ทรงหลับพระเนตรแต่มิได้เข้าสู่ภวังค์หลับ พระกรรณคอยสดับเสียงอื่นนอกเหนือจากเสียงถ่านไม้ที่ปะทุอยู่เบื้องหน้า

ในที่สุด เสียงหนึ่งก็ดังแว่วแทรกขึ้นมาเพียงแผ่วเบา ไม่ใช่เสียงแมลงราตรีหรือสัตว์ร้ายที่อยู่ไกลออกไป แต่เป็นบางอย่างแหวกพงหญ้าอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง เมื่อม้าของพระองค์ส่งเสียงครางเพียงเล็กน้อย จึงทรงผินพระพักต์กลับไปดู

ท่ามกลางความมืด เงาดำของคนสองคนตะคุ่มอยู่ใกล้ม้าของพระองค์ ทรงประทับรอจนเจ้าของเงาเดินออกมาสู่แสงอันน้อยนิดของพระจันทร์เสี้ยวบนฟ้า จึงปรากฏชัดว่าเป็นคนคุ้นเคยที่ทรงรอมาเกือบทั้งวัน

องค์ฟาโรห์ค่อย ๆ ประทับยืน ด้วยไม่ต้องการรบกวนคนที่กำลังหลับสนิทอยู่เบื้องพระปฤษฏางค์ แต่ละย่างก้าวจึงเป็นไปด้วยความระวังยิ่ง

เมื่อลงมาถึงเบื้องล่าง เสียงกรนของยาตูที่ดังก้องอยู่นั้นชวนให้นึกรำคาญนัก ทรงสาวพระบาทไปยังอาชาซึ่งเจ้าของเงาทั้งสองยืนรออยู่ ครั้นแล้วคนที่ยืนรอก็คุกเข่าลงกับพื้น ถวายความเคารพสูงสุด

“เหตุใดจึงช้านัก”

ตรัสห้วน ๆ คล้ายไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง

บุรุษทั้งสองหยัดกายขึ้นยืน คนที่ตัวเล็กกว่าอีกคนเล็กน้อยเป็นฝ่ายกล่าวตอบ

“ข้าน้อยมาเจอครั้งหนึ่งแล้วตอนหัวค่ำขอรับ ทันกับที่ตาแก่ขี้เมาหอบเบียร์ขึ้นไปบนดาดฟ้าพอดี เห็นนายท่านยอมยกแก้วร่วมดื่ม ก็เลยนึกว่านายท่านกำลังสนุกสนาน จึงชวนอูเบนคอยให้ตานั่นหลับก่อน ถึงได้ออกมานี่หล่ะขอรับ แล้วเหตุใดจึงไม่กลับไปเล่าขอรับ”

ฟาโรห์ทรงมองจาฮาล หนึ่งในองครักษ์คนสนิทที่แม้จะดูร่างเล็กเมื่อยืนเทียบกับเฮอร์-อูเบน แต่ความจริงแล้วเมื่ออยู่โดด ๆ จาฮาลมีร่างกายสมส่วนสง่างาม ผมตัดสั้นเกรียนเช่นเดียวกับพระองค์และเฮอร์-อูเบน ใบหน้าของชายหนุ่มดูอ่อนเยาว์อยู่เป็นนิจ ด้วยเป็นคนร่าเริงอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญ พูดมาก จนแทบตลอดเวลาอีกด้วย ตอนนี้พระองค์กำลังอยู่ในคราบชาวบ้านทั่วไป คำที่จาฮาลพูดกับพระองค์จึงต้องปรับไปอย่างรู้งาน

“ตอนสายข้าช่วยหญิงคนหนึ่งไว้ นางอ่อนเพลียเกินกว่าจะเดินทางได้”

“อ้อ”

จาฮาลพยักหน้ารับ แต่น้ำเสียงยังคงแสดงความสงสัย ก่อนเสนอ

“เช่นนั้น ก็กลับตอนนี้เลยดีไหมขอรับ”

“ไม่” ทรงตรัสตอบทันที “นางหลับแล้ว”

“โอ้”

เสียงอุทานของจาฮาลนั้นน่าจะเกิดจากการเสแสร้งมากกว่าตกใจจริง ๆ

“เอ่อ ก็ ถ้าพานางกลับไปนอนพักที่ที่ประทับน่าจะ ‘สบาย’ และ ‘สะดวก’ กว่านะ ขอรับ ตรงนั้นพื้นอาจจะแข็งไปหน่อย ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”

เสียงหัวเราะของชายหนุ่มเจื่อนลงเล็กน้อย เมื่อไม่มีใครร่วมหัวเราะด้วย

ฟาโรห์ทรงถอนพระปัสสาสะ ก่อนออกคำสั่ง

“พรุ่งนี้พวกเจ้าจงไปหาที่พักที่วาเสต ที่สะอาด สะดวก และปลอดภัยให้นาง ข้าคงไปถึงช่วงบ่ายและนางควรได้ที่พักทันที”

จาฮาลหันไปสบตากับเฮอร์-อูเบนเล็กน้อย ทรงรู้ว่าองครักษ์ของพระองค์ยังไม่กระจ่างในพระประสงค์นัก แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เหมาะจะขยายความใด

“พวกเจ้าไปได้แล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่ชานเมืองวาเสต”

ในที่สุด เฮอร์-อูเบน ผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ และใบหน้างดงามคมคายจนเป็นที่ต้องตาหญิงสาวทั่วทั้งวัง หรืออาจจะทั้งเมือง ก็พูดออกมา

ด้วยนิสัยพูดน้อยสวนทางกับความหล่อเหลา นี่จึงเป็นคำพูดคำแรกและคำสุดท้ายที่ชายหนุ่มจะพูดกับพระองค์ในคืนนี้

“ขอรับ นายท่าน”

เฮอร์-อูเบนกล่าวแล้วก็ย่อตัวห่างออกไป จาฮาลจึงต้องย่อตัวเลี่ยงไปตาม องค์ฟาโรห์จึงผินพักต์กลับสู่เพิงพักซึ่งมีคนคนหนึ่งนอนอยู่เพียงเดียวดาย



เฮเทอร์ใช้ไม้เขี่ยถ่านในกองไฟกองเล็กที่เริ่มมอดให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ความเหน็บหนาวและมืดมิดของยามราตรียังไม่ทำให้รู้สึกกลัวเท่าความอ้างว้างเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคนตัวใหญ่ที่คอยเฝ้าอยู่ก่อนนอน

กระนั้น เธอยังไม่คิดจะโวยวายอันใด มิใช่หน้าที่ที่ชายหนุ่มที่เธอรู้จักเพียงนามว่า นาเมส คนนั้น จะต้องคอยเฝ้าดูแลเธออยู่ เท่าที่เขามากับเธอถึงตอนนี้ได้ก็ต้องขอบพระคุณมากแล้ว

เมื่ออยู่ลำพัง ความอ่อนล้าทั้งกายและใจทำให้นึกอยากจะซุกหน้าลงกับเข่าของตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้ทำดังใจนึก ร่างสูงของชายหนุ่มที่เดินขึ้นบันไดมาก็ทำให้เธอเผลอยิ้มอย่างยินดี ใบหน้างามได้รูปที่ดูเคร่งขรึมคล้ายจะผ่อนคลายลงเมื่อสบตากับเธอ ดวงตาสีดำสนิทใต้คิ้วเข้มช่างเข้ากันดีกับจมูกโด่งเป็นสันที่ปลายมีเนื้อเต็ม คางมนและสันกรามแกร่งนั้นก็ดูรับกันดีเหลือเกินกับริมฝีปากอิ่มที่เป็นเส้นตรงแต่มุมปากกลับหยักยกเล็กน้อย จนดูคล้ายเจ้าตัวกำลังแย้มยิ้มอยู่เป็นนิจทั้งที่ใบหน้านั้นกลับดูน่าเกรงขามอยู่ในที

“ตื่นนานแล้วรึ”

ชายหนุ่มเอ่ยถามคล้ายจะมีทั้งความแปลกใจและไม่พอใจอยู่ในน้ำเสียง

“เพิ่งจะลุกขึ้น”

ตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก เพราะใจอยากจะถามว่าเขาไปไหนมา แต่สงวนคำไว้ทัน เขาอาจจะนึกเคืองเธอก็ได้ ในเมื่อมันไม่ใช่หน้าที่อันใดที่เขาจะต้องนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคืน

“ทำไมทำหน้าเช่นนั้น”

คำถามของชายหนุ่ม ทำให้เธอเผลอเอียงคอด้วยความงุนงง คนถามจึงหัวเราะออกมาน้อย ๆ

“คงไม่คิดว่าข้าจะทิ้งเจ้าหรอกนะ”

เธอคงเก็บอาการไม่แนบเนียนกระมัง คำถามนั้นจึงเหมือนอ่านใจเธอออก หญิงสาวรีบตอบทันที

“ไม่” ...ก็เธอไม่มีสิทธิ์คิดมิใช่หรือ

“วางใจเถอะ ข้าไม่ทิ้งเจ้าหรอก”

เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ดวงตาเป็นประกายวาววับท่ามกลางความมืดของราตรี
...ตาคมคู่นั้น

หญิงสาวสะท้านวาบไปทั้งกาย เกิดความรู้สึกวูบไหวรุนแรง ทั้งอ่อนหวาน และอาวรณ์ จนต้องรีบก้มหน้าหลบตา หาจังหวะให้หัวใจที่กำลังเต้นแรงได้สงบลง เอ่ยขอบคุณเบา ๆ ก่อนขยับตัวเข้าไปลึกในเพิงพัก พร้อมกับจัดเสื่อที่ปูตรงที่ว่างอยู่ให้เข้าที่

“ที่นอนของท่าน”

เธอเอ่ยเรียบ ๆ ไม่กล้าสบตาคู่นั้นอีก จึงไม่ได้เห็นว่าแววตาของชายหนุ่มทอประกายเช่นไรยามมองมือของเธอที่รีดเสื่อให้เรียบเข้าที่ ก่อนขยับกายเข้ามาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน

เมื่อร่างของชายหนุ่มเข้าใกล้ หญิงสาวจึงรีบหันหลังและล้มตัวลงนอน ความคิดที่ว่าจะรอให้เขานอนก่อนแล้วค่อยแบ่งผ้าห่มให้จึงทำไม่ได้อย่างใจนึก

แล้วเฮเทอร์ก็รู้สึก เมื่อนาเมสผู้นั้นล้มตัวลงนอน เขามิได้สัมผัสเธอแม้แต่น้อย แต่ไอที่แผ่ออกมากลับทำให้รู้สึกอุ่นขึ้น เป็นความอบอุ่นที่ทำให้ใจเต้นแรง

รอบกายตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เฮเทอร์คิดว่าชายหนุ่มคงอยากจะหลับเต็มทีแล้ว จึงไม่เอ่ยอันใดอีก แต่อยู่ ๆ เขากลับทำลายความเงียบขึ้นมา

“พรุ่งนี้ ข้าจะไปวาเสต ...หากยังจำอะไรไม่ได้ ข้าก็อยากให้เจ้าไปด้วย”

ฟังแล้วต้องถามตัวเอง ...เขากำลังชวนเธอใช่ไหม ?

“ข้า...”

เธอจะตอบอย่างไรดีเล่า ส่วนลึกในใจนั้นยินดี แต่อีกทางหนึ่งนั้น กลับเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ

“ลังเลอันใด เจ้ามีทางไปรึ”

“หากข้าไป แล้วจะเป็นเช่นไรต่อ” ตัดสินใจถามไปเสียงตรง ๆ

“อันที่จริง บ้านของข้าใหญ่โตสามารถดูแลเจ้าได้อย่างดี แต่มีธรรมเนียมปฏิบัติมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่”

คำพูดของเขาทำให้คนฟังถึงกับขมวดคิ้วแน่น เขาหมายความเช่นไรกันหนอ เธอจะต้อง ‘เต็มใจ’ ด้วยหรือ

เฮเทอร์เผลอพลิกตัวกลับไป แล้วก็พบว่าเขานอนเหยียดยาวในท่าตะแคงตั้งศอกใช้มือประคองศีรษะตัวเองไว้และหันหน้ามาหาเธอ ดูราวกับกำแพงใหญ่ที่กักตัวเธอไว้อย่างแน่นหนา เงาของชายหนุ่มที่เต้นระริกไปตามจังหวะแสงไฟดูจะทาบทับไปจนทั้งตัวของเธอ ไออุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างกายที่อยู่ใกล้เหลือเกินนั้นทำให้ร้อนวูบวาบแม้ในยามที่หนาวเย็น

หญิงสาวได้แต่กระชับผ้าห่มคลุมกาย ขดตัวลีบอย่างคล้ายจะประหม่า รู้สึกราวกับกำลังตกอยู่ในวงล้อมของร่างกายสูงใหญ่ โดยที่เจ้าตัวยังมิได้สัมผัสเธอเลยแม้ปลายเส้นผม

กระทั่งคำพูดที่เขาถาม ‘ความเต็มใจ’ ของเธอ มันคืออะไรกันหนอ อยากจะเอ่ยปากถาม แต่เมื่อหันมาเจอแบบนี้ กลับได้แต่นอนคลุมกาย ถามอันใดไม่ออกเสียอย่างนั้น

“แล้ว ...หาก ...ข้า ...ไม่”

ได้แต่ค่อย ๆ เอ่ยทีละคำ ไม่ว่าอย่างไร นี่มิใช่เวลามัวประหม่าเพราะความชิดใกล้

“ข้าจะหาที่ที่ปลอดภัยให้เจ้าอยู่ได้อย่างไร้กังวล อย่างน้อยก็จนกว่าเจ้าจะจำอะไรได้”

“จริงหรือ” คำถามนั้นคล้ายคำรำพึงกับตัวเองมากกว่า “ท่านช่วยข้ามากมายเหลือเกิน”

สิ่งที่เธอได้รับ กำลังทำให้ตัวเองลำบากใจ แม้จะยังไม่เห็นหนทางอื่นใดก็ตาม

“วางใจเถิด ข้าไม่ได้ลำบากอะไร เพียงแต่ถ้าเจ้าเต็ม...”

ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนกล่าวจบ เขาหลบตาเมื่อเธอมองกลับไป

“ข้าจะช่วยเจ้าจากน้ำมาวางทิ้งไว้กลางทางทำไม จริงไหม อย่างไรข้าก็ไม่ทิ้งเจ้าหรอก สบายใจเถิด”

กล่าวจบ ชายหนุ่มก็ลดแขนลงมากอดอกตัวเองไว้ และทิ้งตัวนอนกับพื้น แม้เห็นลาง ๆ เพียงปลายหางตา แต่เฮเทอร์รู้ว่าเขามองเธออยู่ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนหลับตาในที่สุด

เมื่อตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เฮเทอร์ก็ค่อย ๆ หันไปมองเขาอย่างเต็มตา ใบหน้ายามหลับของชายหนุ่มนั้นดูสงบอย่างประหลาด เธอต้องถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับเธอและเขาในวันนี้บ้าง เมื่อวานชีวิตของเธอเป็นเช่นไรหนอ เหตุใดในวันนี้เธอกลับต้องมาตกอยู่ในวงล้อมของชายใจกว้างผู้นี้ด้วย แล้วพรุ่งนี้เล่า ?

ในที่สุด หญิงสาวก็พลิกกายกลับ หันหลังให้กับเขาผู้นั้น พร้อมกระชับผ้าคลุมให้ห่มกายไว้แน่น

...หากชีวิตเมื่อวานนี้ต่างจากวันนี้ได้อย่างสิ้นเชิง แล้วจะเอาอะไรกับวันพรุ่งนี้เล่า....

คิดได้ดังนั้นจึงค่อยหลับตาและสงบใจลง ปล่อยให้พรุ่งนี้เป็นไปโดยกำหนดของโชคชะตา


--------------------------



วินตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ค. 2560, 09:43:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ค. 2560, 09:43:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 908





<< ตอนที่ 2 (2)   ตอนที่ 3 (1) >>
วินตา 25 ก.ค. 2560, 09:46:12 น.
ทางไป E-book ค่ะ ฟิ้วววว >>> https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=59566
.
.
.
คุณแว่นใส >>> รักกันแบบไม่ต้องหยุดคิดเลยทีเดียวค่ะ 55


แว่นใส 25 ก.ค. 2560, 17:43:29 น.
เต็มใจไปเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account